ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - โรส ศิรินทิพย์

หน้า: [1]
1
ทำไมคนที่มองหาโรงพิมพ์กล่องราคาถูก ต้องเลือก Tumtook? บทความนี้จะอธิบายว่าเราเป็นใครและให้บริการอะไรบ้าง รวมถึงเหตุผลที่ทำให้เจ้าของธุรกิจไว้วางใจเราในการดูแลเรื่องกล่องแพคเกจจิ้ง

Tumtook ให้บริการอะไรบ้าง?
โรงพิมพ์กล่องราคาถูก Tumtook เป็นหนึ่งในโรงงานอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่สนับสนุนความสำเร็จของแบรนด์ดังมากกว่า 50,000 แบรนด์ บริการของเราครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์แพคเกจจิ้ง กล่องบรรจุภัณฑ์ราคาถูก และการผลิตอุปกรณ์ออกบูธ มาดูกันว่ามีบริการอะไรบ้าง:

รับผลิตอุปกรณ์ออกบูธ เราไม่เพียงแค่รับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ราคาถูก แต่ยังมีบริการผลิตอุปกรณ์ออกบูธ เช่น Backdrop และป้ายต่าง ๆ อย่างครบวงจร
รับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง เรารับผลิตกล่องแพคเกจจิ้งหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกล่องอาร์ตการ์ดหรือกล่องพิมพ์ลาย บริการออกแบบฟรีเมื่อสั่งซื้อเกิน 5,000 บาท
รับผลิตถุงกระดาษหูหิ้ว ถุงกระดาษตราโลโก้แบรนด์ที่พิมพ์ลวดลายสวยงาม ช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณให้ดูพรีเมียม
รับผลิตฉลากสินค้า ฉลากสินค้าจำเป็นสำหรับอาหาร ขนม เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โรงงานเราผลิตฉลากสินค้าครบวงจร
รับผลิตกล่องป้ายไฟหน้าร้าน เรายังมีบริการผลิตกล่องป้ายไฟหน้าร้าน สวยงาม ตอบโจทย์ผู้ประกอบการทุกประเภท

ทำไมเราถึงยืน 1 เป็นโรงพิมพ์กล่องราคาถูก
1.   ประสบการณ์แน่นกว่า 50,000 แบรนด์
ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ราคาถูกและกล่องพิมพ์ลายสำหรับแบรนด์ชื่อดังในประเทศไทย

2.   บริการครบวงจร
ผลิตแพคเกจจิ้ง กล่องบรรจุภัณฑ์ราคาถูก และกล่องพิมพ์ลายอย่างครบวงจร

3.   มีตัวอย่างผลงานมากมาย
ช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายและมั่นใจในการร่วมงานกับเรา

4.   ทีมงานมืออาชีพกว่า 100 คน
มีประสบการณ์หลายปีและเชี่ยวชาญสูง มั่นใจได้ในคุณภาพผลงาน

5.   ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูง
งานพิมพ์กล่องพิมพ์ลายและกล่องอาร์ตการ์ดมีสีสันสดใส ลวดลายชัดเจน

สนใจทำกล่องเครื่องสำอาง กล่องครีม กล่องสบู่ กับ Tumtook สามารถสอบถามราคาหรือขอใบเสนอราคาได้ที่:
ติดต่อฝ่ายขาย Call Center: 089-900-8888
Line ID: @Tumtook
E-mail: info@Tumtook.com

2
ความสูงของป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคน ของ TUMTOOK

ป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคนเป็นที่นิยมมากเนื่องจากมีขนาดใหญ่และโดดเด่น สามารถดึงดูดความสนใจได้ดี หลายคนที่วางแผนสั่งผลิตสแตนดี้ขนาดเท่าคนอาจสงสัยว่าสามารถสั่งผลิตได้กี่ขนาด เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความสูงของป้ายสแตนดี้ว่าสามารถสั่งผลิตได้กี่ขนาด และควรเลือกขนาดอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานในบทความนี้

ขนาดของป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคน

ป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคนมีขนาดความสูงตั้งแต่ 150 เซนติเมตรถึง 250 เซนติเมตร โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และพื้นที่ในการจัดวาง สำหรับงานทั่วไปเช่น งานอีเว้นท์ งานเปิดตัวสินค้า หรืองานประชาสัมพันธ์ ความสูงที่เหมาะสมคือ 150-200 เซนติเมตร เพราะสามารถมองเห็นได้ง่ายและไม่เกะกะทางเดิน
สำหรับงานที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น งานเปิดตัวสินค้าระดับพรีเมียม หรืองานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ควรใช้ความสูงประมาณ 200-250 เซนติเมตร เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นได้ดี

การเลือกขนาดของป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคนให้เหมาะสม

การเลือกขนาดสแตนดี้ขนาดเท่าคนให้เหมาะสมกับการใช้งานควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้:
•   วัตถุประสงค์การใช้งาน: ใช้สำหรับงานอีเว้นท์ งานเปิดตัวสินค้า หรืองานประชาสัมพันธ์
•   พื้นที่ในการจัดวาง: ควรมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายและไม่เกะกะทางเดิน
•   จำนวนผู้ชม: ควรมีขนาดใหญ่เพียงพอให้ผู้คนมองเห็นได้ชัดเจน

สั่งทำป้าย Standee ขนาดเท่าคนกับโรงพิมพ์ Tumtook
โรงพิมพ์ Tumtook ให้บริการทำป้ายสแตนดี้พร้อมขาตั้งขนาดเท่าคนจริง เริ่มต้นเพียง 990 บาทต่อชุด รวมค่าตัด Dicut และค่าทำไฟล์ Crop งาน Standee ขนาดเท่าคนจริง ความกว้างไม่เกิน 100 เซนติเมตร และความสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งาน พิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลความละเอียดสูง คมชัดทุกรายละเอียด เหมาะสำหรับงานอีเว้นท์ งานเปิดตัวสินค้า งานประชาสัมพันธ์ หรืองานที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ

สรุป
ป้ายสแตนดี้ขนาดเท่าคนจริงสามารถสั่งผลิตได้ตั้งแต่ 150 เซนติเมตรถึง 250 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และพื้นที่ในการจัดวาง การเลือกขนาดให้เหมาะสมควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งาน พื้นที่ในการจัดวาง และจำนวนผู้ชม

หากสนใจผลิตสแตนดี้ขนาดเท่าคน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊กดูราคาผลิตสแตนดี้

3
สินค้าและบริการของ Tumtook

•   อุปกรณ์ออกบูธ: Backdrop, ป้าย Roll up, ป้าย X stand, โต๊ะออกบูธ, เต็นท์ออกบูธ
•   กล่องแพคเกจจิ้ง: กล่องกระดาษอาร์ตการ์ด, กล่องลูกฟูก, กระดาษห่อสินค้า
•   แพคเกจจิ้งอาหาร: ถ้วยกระดาษ, กล่องข้าว, กล่องเบเกอรี่, กระดาษรองอาหาร
•   โบว์ชัวร์และงานพิมพ์ Digital: ใบปลิว, ป้ายแท็ก, แฟ้มกระดาษ
•   ถุงชอปปิ้งและสติ๊กเกอร์: ถุงกระดาษหูหิ้ว, สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า

โรงพิมพ์ Tumtook บริการงานด่วน ตอบไว

ทำถูกมีประสบการณ์ในการผลิตสิ่งพิมพ์ให้แบรนด์มากกว่า 50,000 แบรนด์
ติดต่อเราได้ทาง

Line @Tumtook
โทรศัพท์ 0899008888
Line ID : @Tumtook
Email : info@Tumtook.com
Facebook : facebook.com/Tumtookcom
Instagram : Tumtookcom
Tiktok : Tumtook
Youtube : youtube.com/@Tumtook

เยี่ยมชมเว็บไซต์ Tumtook สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้า

4
การตรวจแมมโมแกรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่ม การรู้และเข้าใจผลตรวจแมมโมแกรมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อที่คุณจะได้ดูแลสุขภาพเต้านมของตนเองอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจผลตรวจแมมโมแกรมในแต่ละค่า ว่าหมายความว่าอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อสุขภาพเต้านมของคุณ

ระบบการรายงาน BIRADS
BIRADS (Breast Imaging Reporting and Data System) เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย American College of Radiology เพื่อช่วยในการ
ประเมินผลการตรวจแมมโมแกรม โดยแบ่งระดับผลการตรวจออกเป็น 7 ระดับ ดังนี้:
BIRADS 0: ผลการตรวจไม่ชัดเจน ต้องการการตรวจเพิ่มเติม เช่น การถ่ายแมมโมแกรมเพิ่มหรืออัลตราซาวด์
BIRADS 1: ผลการตรวจปกติ ไม่มีสิ่งผิดปกติในเต้านม
BIRADS 2: พบลักษณะที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ถุงน้ำหรือเนื้องอกที่ไม่มีความเสี่ยง
BIRADS 3: พบลักษณะที่มีความเสี่ยงต่ำ ควรติดตามผลในระยะเวลา 6 เดือน
BIRADS 4: พบลักษณะที่มีความเสี่ยงสูง ต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตัดชิ้นเนื้อ
BIRADS 5: พบลักษณะที่มีความเสี่ยงสูงมาก ต้องทำการตรวจเพิ่มเติมทันที
BIRADS 6: ยืนยันว่ามีมะเร็งเต้านมหลังจากการตรวจชิ้นเนื้อ

ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อเต้านม
ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อเต้านมมีผลต่อการตรวจพบมะเร็ง เนื้อเยื่อเต้านมสามารถแบ่งเป็น 4 ประเภทตามความหนาแน่น ได้แก่:
A: เต้านมที่มีเนื้อเยื่อไขมันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สามารถตรวจพบมะเร็งได้ง่าย
B: เต้านมที่มีเนื้อเยื่อเต้านมปานกลาง ตรวจพบมะเร็งได้พอสมควร
C: เต้านมที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ยากขึ้น
D: เต้านมที่มีความหนาแน่นมากที่สุด ทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ยากที่สุด

ลักษณะของก้อนเนื้อ
เมื่อพบก้อนเนื้อในผลตรวจแมมโมแกรม แพทย์จะประเมินลักษณะของก้อนเนื้อ โดยดูจาก:
ขนาด: ขนาดของก้อนเนื้อจะระบุเป็นมิลลิเมตร
รูปร่าง: รูปร่างของก้อนเนื้อ เช่น กลมหรือรี
ขอบ: ขอบของก้อนเนื้อที่ชัดเจนหรือไม่ชัดเจน
ลักษณะภายใน: ลักษณะภายในของก้อนเนื้อ เช่น เป็นของแข็งหรือเป็นถุงน้ำ

การสะสมของแคลเซียม
การสะสมของแคลเซียมในเนื้อเยื่อเต้านมสามารถบ่งบอกถึงการเจริญเติบโตผิดปกติ ดังนี้:
1.Microcalcifications: แคลเซียมที่สะสมเป็นจุดเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งในระยะแรก
2.Macrocalcifications: แคลเซียมที่สะสมเป็นขนาดใหญ่ มักไม่เป็นอันตราย

การดูแลสุขภาพเต้านม
การตรวจแมมโมแกรมเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่ม การรู้และเข้าใจผลตรวจแมมโมแกรมจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพเต้านมของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีข้อสงสัยหรือความกังวล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการตรวจเพิ่มเติมที่เหมาะสม

การตรวจสุขภาพเต้านมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากโรคมะเร็งเต้านม

ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/

5
หินปูนในเต้านมเป็นสภาวะผิดปกติที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยมักไม่มีอาการและตรวจพบจากการถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านม (แมมโมแกรม) อย่างไรก็ตาม หินปูนบางชนิดอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมที่สูงขึ้น ดังนั้นการจำแนกหินปูนเต้านมชนิดอันตรายจึงมีความสำคัญ

การจำแนกหินปูนเต้านมที่เป็นอันตราย
การจำแนกหินปูนเต้านมที่เป็นอันตรายจะพิจารณาจากรูปร่าง ขนาด การกระจายตัว และการเปลี่ยนแปลงของหินปูนเมื่อมีการตรวจติดตาม โดยหินปูนบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมที่สูงขึ้น

ความสำคัญของการตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรม
หินปูนในเต้านมสามารถตรวจพบได้เฉพาะจากการถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านม (แมมโมแกรม) เท่านั้น ไม่สามารถตรวจพบได้จากการคลำเต้านมหรือการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ ดังนั้นการตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปีในสตรีที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จึงมีความสำคัญในการตรวจพบและติดตามการเปลี่ยนแปลงของหินปูนเต้านม

เทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยที่ทันสมัย
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านมแบบดิจิทัล 3 มิติ (Digital breast tomosynthesis) ซึ่งใช้เวลาถ่ายภาพเพียง 3.7 วินาทีต่อท่า และให้ภาพที่ละเอียดคมชัดถึงระดับมิลลิเมตร หากพบความผิดปกติ สามารถทำการเจาะชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัยได้ทันที โดยไม่ต้องดมยาสลบ และมีแผลขนาดเล็กเท่ารูเข็ม ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติในเต้านมจากการตรวจคัดกรอง สามารถรับบริการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมและรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/ - https://www.thaifranchisecenter.com/forumboard/index.php?topic=155460.0

6
1. การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง
•   สำรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำทุกเดือน
•   ควรทำการตรวจในขณะที่อยู่ในห้องน้ำหรือหน้ากระจก
•   ตรวจหาก้อนเนื้อหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

2. การตรวจโดยแพทย์
•   พบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมอย่างน้อยปีละครั้ง
•   แพทย์จะใช้เทคนิคการตรวจที่ละเอียดและแม่นยำ
•   การตรวจนี้ช่วยให้การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมในระยะแรกเป็นไปได้

3. การตรวจแมมโมแกรม
•   การทำแมมโมแกรมช่วยตรวจหาก้อนเนื้อที่ไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้
•   ควรทำแมมโมแกรมตามคำแนะนำของแพทย์
•   แมมโมแกรมเป็นวิธีการตรวจที่มีความแม่นยำสูง

4. การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวด์)
•   ใช้คลื่นเสียงในการสร้างภาพของเนื้อเยื่อเต้านม
•   ช่วยให้เห็นความผิดปกติที่แมมโมแกรมอาจไม่สามารถตรวจพบได้
•   แพทย์มักใช้การตรวจอัลตราซาวด์ร่วมกับการตรวจแมมโมแกรม

5. การตรวจด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
•   การตรวจด้วย MRI ใช้แม่เหล็กและคลื่นวิทยุในการสร้างภาพรายละเอียดของเต้านม
•   มักใช้ในการตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งเต้านม
•   การตรวจนี้มีความแม่นยำและช่วยในการวินิจฉัยที่ซับซ้อน

การตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาและลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของมะเร็ง ดังนั้นการตรวจเต้านมอย่างสม่ำเสมอและการทำตามคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ

ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/

7
มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงและยังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย ได้แก่:

1.   ขนาดหน้าอกใหญ่เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม: ไม่จริง ขนาดของหน้าอกไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
2.   การใส่ชุดชั้นในเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม: ไม่จริง ชุดชั้นในไม่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
3.   ถุงน้ำหรือซีสต์ในเต้านมพัฒนาเป็นมะเร็งเต้านมได้: ไม่จริง ซีสต์ในเต้านมไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม
4.   การตรวจแมมโมแกรมบ่อยๆ จะทำให้เป็นมะเร็งเต้านม: ไม่จริง การตรวจแมมโมแกรมใช้รังสีน้อยมาก ไม่เพิ่มความเสี่ยง
5.   การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทำให้เป็นมะเร็งเต้านม: ไม่จริง ซิลิโคนไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
6.   ผู้ชายไม่เป็นมะเร็งเต้านม: ไม่จริง ผู้ชายก็มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้แต่โอกาสน้อยกว่า
7.   การกินน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำมันมะพร้าวเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม: ไม่จริง ไม่มีหลักฐานสนับสนุน

ผู้หญิงควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไปด้วยการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ เพื่อการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/ - https://www.thaifranchisecenter.com/forumboard/index.php?topic=155156.0

8
มะเร็งเต้านม สามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย แต่ในเพศชายนั้นมีอัตราการพบที่น้อยมาก ผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 40 ปี หรือมีกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในระยะแรกอาจไม่มีอาการชัดเจน มักมาพบแพทย์เมื่อพบก้อนเนื้อในเต้านมหรือบริเวณรักแร้ อาการอื่นๆ ที่อาจสังเกตได้ เช่น ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมที่เปลี่ยนแปลง เกิดแผลและอาจมีน้ำเหลืองหรือของเหลวสีคล้ายเลือดไหลออกมา หรือมีผื่นบริเวณหัวนม

เต้านมประกอบด้วยต่อมน้ำนมประมาณ 15–20 ต่อม รูปร่างคล้ายติ่งหูรวมตัวอยู่ที่กลางเต้านมแต่ละข้าง มีไขมันล้อมรอบในต่อมน้ำนมแต่ละต่อม เซลล์มะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม และสามารถลุกลามต่อไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้

มะเร็งทุกชนิดมักไม่มีอาการเจ็บปวดจนกว่าอาการจะพัฒนาไปถึงขั้นแพร่กระจาย ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้หญิงที่มีอาการดังกล่าวจะตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม อาการอื่น ๆ ที่สังเกตได้ เช่น ผิวหนังของเต้านมไม่เรียบ มีรอยบุ๋ม รั้งตัว หดตัว หรือมีลักษณะเป็นผิวส้ม ผิวหนังเต้านมจะถูกรั้งหรือดึงให้บุ๋มเข้าไป

อาการที่อาจบ่งบอกถึงมะเร็งเต้านม ได้แก่:
•   ระบบขับถ่ายผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
•   แผลเรื้อรังที่ไม่หายบริเวณเต้านม
•   เลือดไหลผิดปกติตามทวารของร่างกาย
•   คลำพบก้อนที่เต้านมหรือส่วนอื่นของร่างกาย
•   กลืนอาหารลำบากหรือระบบย่อยอาหารผิดปกติ
•   ไฝหรือหูดเปลี่ยนแปลงผิดปกติหรือมีเลือดออก
•   มีน้ำเหลืองหรือของเหลวออกมาจากหัวนม
•   อาการเจ็บเต้านมหรือผิวหนังเต้านมอักเสบ มีผื่นคันบริเวณเต้านม
•   การเปลี่ยนแปลงของขนาดเต้านม โดยปกติแล้วเต้านมของผู้หญิงมักมีขนาดไม่เท่ากัน แต่หากข้างใดข้างหนึ่งมีขนาดผิดปกติ

ทำอย่างไรเมื่อพบอาการผิดปกติ?
หากพบความเปลี่ยนแปลงของเต้านม ไม่ต้องตกใจ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น อายุ ระดับฮอร์โมน ประจำเดือน อุบัติเหตุ รวมถึงพฤติกรรมและลักษณะการใช้ชีวิต เพื่อความแน่ใจ ควรให้แพทย์ตรวจและประเมินอาการ ตรวจเต้านม พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป


ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/

9
ความสำคัญของการตรวจคัดกรอง
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์เต้านม สามารถตรวจพบความผิดปกติที่มีขนาดเล็กได้ การตรวจนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
•   พันธุกรรม
•   เชื้อชาติ
•   ยีน BRCA1 และ BRCA2
•   ลักษณะเนื้อเต้านม
•   การมีประจำเดือนเร็วและหมดช้า

ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้
•   อายุที่มีบุตรคนแรก
•   การใช้ยาฮอร์โมน
•   ดัชนีมวลกาย (BMI)
•   การกินอาหารไขมันสูง
•   การใช้ยาคุมกำเนิด

ปัจจัยลดความเสี่ยง
•   ออกกำลังกายเป็นประจำ
•   จำนวนบุตร
•   การให้นมบุตร
•   กินอาหารประเภทถั่วเหลือง

อาการที่ควรระวัง
•   คลำพบก้อนแข็งที่เต้านม
•   น้ำออกจากหัวนม
•   หัวนมบอด
•   การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเต้านม
•   ก้อนที่ลามมาที่ผิวหนัง

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยดิจิตอลแมมโมแกรม
เป็นวิธีตรวจที่ใช้ปริมาณรังสีต่ำ ไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม การตรวจนี้สามารถตรวจพบความผิดปกติที่มีขนาดเล็กได้

วิธีรักษามะเร็งเต้านม
การวินิจฉัยด้วยการตรวจแมมโมแกรมและการรักษาตามวิธีทางการแพทย์จะช่วยเพิ่มโอกาสการหายขาดจากมะเร็งเต้านม


10
สุขภาพ | Health / ทำไมต้องตรวจแมมโมแกรม?
« เมื่อ: มิถุนายน 07, 2024, 04:30:36 AM »
การตรวจแมมโมแกรมเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งเต้านม
การตรวจแมมโมแกรมถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ การตรวจแมมโมแกรมสามารถช่วยตรวจพบก้อนเนื้อที่ยังไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยมือ และทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที

การตรวจแมมโมแกรมมีความสำคัญอย่างไร
•   ตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก: แมมโมแกรมสามารถตรวจพบก้อนเนื้อหรือการเปลี่ยนแปลงในเต้านมที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งในระยะที่ยังไม่มีอาการ ทำให้สามารถรักษาได้ทันทีและมีโอกาสหายขาดสูงขึ้น
•   ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม: การตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ เนื่องจากสามารถทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
•   ประเมินสุขภาพเต้านม: การตรวจแมมโมแกรมช่วยในการประเมินสุขภาพทั่วไปของเต้านม และตรวจสอบว่ามีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจต้องการการรักษาหรือไม่
•   การตรวจตามปกติ: ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปีเพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพเต้านมยังคงอยู่ในสภาพที่ดี
การเตรียมตัวและกระบวนการตรวจแมมโมแกรม:
•   การเตรียมตัวก่อนตรวจ: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโลหะในบริเวณเต้านม เช่น โลชั่น หรือโรลออน เพราะอาจมีผลต่อผลการตรวจ
•   กระบวนการตรวจ: ผู้ป่วยจะต้องยืนหน้ากล้อง X-ray และให้เจ้าหน้าที่ปรับตำแหน่งของเต้านมเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน

ขั้นตอนการตรวจแมมโมแกรม
1.   การเตรียมตัวก่อนการตรวจ: หลีกเลี่ยงการใช้สารระงับกลิ่นกายหรือแป้งทาตัวในวันตรวจ เนื่องจากอาจทำให้ภาพถ่ายไม่ชัดเจน
2.   การตรวจโดยเครื่องแมมโมแกรม: ผู้ตรวจจะต้องยืนหรือหันหน้าเข้าหาเครื่องแมมโมแกรม จากนั้นจะมีการกดเต้านมเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน
3.   การรอผลตรวจ: ผลตรวจแมมโมแกรมจะถูกอ่านโดยรังสีแพทย์และแจ้งผลให้ทราบในภายหลัง

ประโยชน์ของการตรวจแมมโมแกรม
•   การตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้น: การตรวจแมมโมแกรมสามารถตรวจพบมะเร็งที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
•   เพิ่มโอกาสในการรักษา: การตรวจพบมะเร็งในระยะแรกจะทำให้มีโอกาสในการรักษาหายขาดสูงขึ้น
•   การวางแผนการรักษาที่เหมาะสม: ข้อมูลจากการตรวจแมมโมแกรมช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว

การตรวจแมมโมแกรมเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน แต่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการป้องกันและรักษามะเร็งเต้านม การตรวจเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

11
มะเร็งเต้านมเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งของผู้หญิง แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ หากตรวจพบและรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยสามารถหายขาดได้ ทั้งนี้ ผู้หญิงยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจเช็คโรคร้ายแรงเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาด


มะเร็งเต้านมภัยร้ายที่ต้องเฝ้าระวัง

แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะเป็นโรคที่ผู้หญิงกังวลเป็นอย่างมาก แต่ข้อมูลกลับบอกว่า 80-90% ของอาการผิดปกติที่เต้านมไม่ใช่มะเร็ง แต่เป็นเพียงก้อนเนื้อธรรมดาหรือถุงน้ำที่ไม่เป็นอันตราย ในขณะที่อีก 10-20% เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อย โดยในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมถึง 18,000 คน และเสียชีวิตกว่า 4,800 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ป่วย

อาการของมะเร็งเต้านมที่ต้องเฝ้าระวัง

มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม ซึ่งแบ่งตัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ก่อเป็นก้อนเนื้อร้ายที่อาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ดังนั้น หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยด่วน:
- คลำพบก้อนแข็งที่เต้านมหรือรักแร้ แต่ไม่เจ็บ
- เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป โดยข้างใดข้างหนึ่งจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่าอีกข้าง
- ผิวเต้านมเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวหนังแข็งหรือหนาขึ้น มีก้อนนูนหรือขรุขระ สีผิวเปลี่ยน
- มีอาการเจ็บ หรือปวดเต้านมข้างใดข้างหนึ่ง
- เต้านมบวมแดง หัวนมบุ๋มลงไปในเต้านม หรือผิดรูป

การตรวจคัดกรองและรักษามะเร็งเต้านม

สำหรับกลุ่มสาวๆ ในเอเชีย ควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป โดยใช้วิธีการทำแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ เพื่อให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำ และควรตรวจเป็นประจำทุกปี ในกระบวนการรักษา แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทั้งการรักษาเฉพาะที่ผ่านการผ่าตัดและฉายแสง และการรักษาแบบทั่วร่างกายด้วยยาเคมีบำบัด ยาต้านฮอร์โมน หรือยาพุ่งเป้า โดยมีเป้าหมายคือการควบคุมเซลล์มะเร็งและป้องกันการลุกลาม

12
เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ด้วยเคล็ดลับสำคัญ
หากคุณคือผู้ที่สนใจเปิดร้านค้าออนไลน์หรือต้องการขยายธุรกิจไปสู่โลกออนไลน์ บทความนี้จะพาคุณค้นพบเคล็ดลับสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีอาชีพหลักอยู่แล้วหรือต้องการทำเป็นอาชีพเสริม ก็ต่างมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจขายของออนไลน์ได้
 
1. ชื่อร้านต้องมีความโดดเด่น
หากคุณกำลังจะเปิดร้านค้าออนไลน์ คุณควรตั้งชื่อร้านที่สื่อถึงสินค้าที่คุณต้องการขายอย่างชัดเจน ชื่อร้านที่ดีควรอ่านง่าย สั้นกระชับ และติดหูผู้บริโภค โดยมีความเกี่ยวโยงกับสินค้าที่ขาย เช่น ร้านขายกระเป๋าผ้าอาจใช้ชื่อว่า "Bag Boutique"
2. ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น โอนเงินผ่านบัญชี, ชำระด้วยบัตรเครดิต, ชำระผ่าน e-Money หรือ Paypal จะช่วยให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อสินค้า และเพิ่มโอกาสในการทำยอดขาย
3. เตรียมเงินทุนหมุนเวียนให้พร้อม
ธุรกิจขายของออนไลน์ต้องการเงินทุนเพื่อสต็อกสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น คุณต้องมีแผนในการหาเงินทุนที่เพียงพอ ทั้งในช่วงเริ่มต้นและเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ
4. วางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ
การขายของออนไลน์ไม่ใช่เพียงแค่เปิดร้านค้าและรอลูกค้ามาซื้อ คุณต้องมีแผนการตลาดที่ชัดเจน ทั้งการกำหนดเป้าหมาย งบประมาณ และช่องทางการขายที่หลากหลาย เพื่อให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและสามารถขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรณีศึกษาธุรกิจขายของออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ร้านอาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล ของ "บังฮาซัน" ซึ่งประสบความสำเร็จจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะการไลฟ์สด (Live) ขายสินค้าบนเฟซบุ๊ก ด้วยการสร้างตัวตนและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้ธุรกิจของเขามียอดขายที่ทะลุปรุโปร่ง

สรุป
การทำธุรกิจขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้น คุณต้องมีความพร้อมในหลายด้าน ตั้งแต่การตั้งชื่อร้านที่มีเอกลักษณ์ การเตรียมเงินทุนที่เพียงพอ การสร้างช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ คุณยังต้องมีใจรักในการบริการลูกค้าและความอดทนในการทำธุรกิจ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจขายของออนไลน์ของคุณได้อย่างแน่นอน


ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงศรี เพลิน เพลิน
https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/online-selling-tips

13
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่ต้องการเริ่มต้นจากศูนย์ ธุรกิจแฟรนไชส์อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 5 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์

1. ตรวจสอบความต้องการของตลาด
จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาความต้องการของตลาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจแฟรนไชส์ที่คุณสนใจมีความยั่งยืนและสามารถขายได้จริง ดูว่าธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตและยอดขายที่ดีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเจ้าของแฟรนไชส์ด้วย

2. ตรวจสอบงบประมาณ
การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องเตรียมเงินทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมในการฝึกอบรม ค่าอุปกรณ์ และค่าสิทธิ์ในการใช้ตราสินค้า คุณจะต้องมีแผนการเงินที่ดี เพื่อให้สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจและค่าครองชีพส่วนตัวได้ในระยะแรก

3. ทำความเข้าใจกับตัวตนของคุณ
การเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและแนวทางที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนด หากคุณเป็นคนชอบทำตามใจตัวเอง อาจไม่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์

4. คำนวณระยะเวลาคืนทุน
ก่อนตัดสินใจลงทุน คุณควรสอบถามข้อมูลทางการเงินจากเจ้าของแฟรนไชส์ เพื่อประเมินระยะเวลาคืนทุนและความคุ้มค่าของการลงทุน ถึงแม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์จะมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน แต่ก็อาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่ต้องคำนึงถึง

5. ตรวจสอบข้อจำกัดในสัญญาและค่าธรรมเนียม
การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์มักมีข้อกำหนดและค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อน คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายก่อนลงนามในสัญญา เพื่อให้มั่นใจว่าเข้าใจข้อตกลงทั้งหมดอย่างชัดเจน

การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์อาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องใช้ความรอบคอบและการเตรียมความพร้อมที่ดี หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์


ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงศรี เพลิน เพลิน
https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/5-things-before-invest-franchise-business

หน้า: [1]