ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - โทนี่ วู๊ดดี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 13
1


หากว่าใครที่ต้องการคำแนะนำถึงแบรนด์เครื่องซักผ้าฝาบน เพื่อการเลือกใช้งานได้อย่างตอบโจทย์เหมาะสมทั้งคุณภาพ และราคาที่คุ้มค่า เราไม่พลาดที่จะมาบอกด้วยกัน 4 เครื่องไปเลย การันตีว่าซื้อมาใช้งานแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน แต่จะมีแบรนด์ไหน รุ่นไหน เป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปศึกษากันดีกว่า
4 เครื่องซักผ้าฝาบน คุณภาพสูง ราคาคุ้มค่าใช้งานไม่ผิดหวัง
1. SAMSUNG WA18CG6886BVST
เครื่องแรกต้อง เครื่องซักผ้าฝาบน Samsung รุ่น WA18CG6886BVST ที่ช่วยขจัดคราบฝังลึก ป้องกันลวดลายบนผ้า สี และช่วยถนอมเนื้อผ้าอย่างดี มีระบบ Hygiene Steam ที่ทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ล้ำลึกด้วยไอน้ำ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียมากกว่า 99.9% มีดิจิทัลอินเวอร์เตอร์ ประหยัดพลังงาน เสียงรบกวนต่ำมาก แถมนำเครื่องเก่าไปแลกเครื่องใหม่ส่วนลดสูงสุดมากถึง 1000 บาทเลยด้วย โดยที่มีราคาเครื่องละ 23,990 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 14,490 บาทเท่านั้น
2. TOSHIBA AW-DUM1600LT(SG)
ต่อมาเป็นแบรนด์ TOSHIBA ที่มีพลังน้ำผสานการหมุน ด้วยเทคโนโลยี Great Wave ช่วยประหยัดพลังงาน น้ำ และไฟ เลือกใช้งานได้ 4 โปรแกรมการซัก มี DD Inverter ที่เป็นแบบต่อรองเข้าถังซัก ทำงานเงียบ ทำให้พลังการซักมีสูง ทั้งยังมีเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผงซักฟอกแทรกซึม อย่าง Ultra Fine Bubble (UFB) จัดการคราบสกปรกได้ดี โดยที่มีราคาจัดจำหน่าย 10,990 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลด 18% เหลือเพียง 8,990 บาทเท่านั้น สามารถนำเก่าแลกใหม่ลดเพิ่มสูงสุดอีก 1000 บาทด้วย
3. LG TV2724SV9B
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน LG รุ่น TV2724SV9B ที่มีความน่าสนใจ ด้วยการควบคุมรูปแบบใหม่ของหน้าจอ LCD ที่ทำให้มองเห็นชัดขึ้น ใช้งานสะดวกมาก เป็นรูปแบบ Allergy Care ที่จัดการคราบสกปรกล้ำลึกได้ ลดการสะสมของสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และแบคทีเรีย มี TurboWash ที่ทำให้การซักผ้าได้รับความสะอาดมากขึ้นด้วยเวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้น ราคาขายเครื่องละ 27,990 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 22,990 บาท ประหยัดไป 17% เลยเชียว
4. HITACHI LTL H3MVW0T
สุดท้ายต้องนี่เลยยี่ห้อ HITACHI LTL H3MVW0T 13.5 กิโลกรัม ที่มีโปรแกรมซักผ้า 8 โปรแกรม มีโหมดการซักเยอะที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน และช่วยถนอมผ้าได้ดี มีระบบทำความสะอาดถังอัตโนมัติ (Auto Self Clean) ที่ช่วยยับยั้งเชื้อรา และแบคทีเรีย 99% ได้จริง มีเทคโนโลยี Dual Waterfall ระบบน้ำ 2 ชั้น ผสานใบพัดเพิ่มแรงน้ำ ทำความสะอาดผ้าได้ทั่วถึงสุด ๆ โดยที่มีราคาจำหน่าย 12,690 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 12,390 บาท ซึ่งก็จะฟรีการติดตั้งให้ด้วย
กระนั้นก็ตาม เมื่อรู้ถึงยี่ห้อเครื่องซักผ้าฝาบนที่เราแนะนำเหล่านี้แล้วก็ต้องรู้ถึงหลักการใช้งาน คำแนะนำอื่น ๆ และข้อควรระวังด้วย เพื่อให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และยืดอายุการใช้งาน ไม่ทำให้เสีย หรือชำรุดได้ง่าย ๆ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1305

2


หากว่าใครที่มีความลังเลใจเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องซักผ้าที่ปัจจุบันนี้มีให้ทั้งฝาหน้าและฝาบน ไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อชนิดไหนดี เราไม่รอช้าที่จะเรียบเรียงข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังเทียบให้เห็นชัด ๆ กับเครื่องระหว่างฝาบน VS ฝาหน้า ชนิดไหนน่าสนใจ สิ่งที่ต้องทราบก่อนสั่งซื้อ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างไปติดตามพร้อมกันได้
เทียบการใช้งานของเครื่องซักผ้าระหว่างฝาบน VS ฝาหน้า
1. เรื่องของเวลา
ในการใช้งานเครื่องเรื่องระยะเวลาการทำงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยที่เครื่องชนิดฝาหน้าก็จะใช้เวลาซักนานกว่าฝาบน 30 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง ฉะนั้น หากบ้านไหนที่ทราบว่าเป็นบ้านที่มีสมาชิกมาก ต้องซักด้วยผ้าที่ครั้งละมาก ๆ อาจจะเสียเวลาไปหน่อย เนื่องมาจากต้องซักหลายรอบ จึงจะเหมาะกับการใช้แบบฝาบนมากกว่า
2. ความสามารถในการซัก
หากเทียบเรื่องความสามารถในการซักแล้วต้องยอมรับว่าเครื่องซักผ้าฝาบนจะมีข้อจำกัดอยู่คือการซักคราบสกปรกได้ไม่เต็ม 100% เพราะการปั่นผ้าแบบหมุนจากใบพัดด้านล่าง สลับไปซ้ายขวาทำให้มีกำลังหมุนน้อยเครื่องแบบฝาหน้า ขณะที่เครื่องฝาหน้าสามารถซักได้ทั้งน้ำร้อนและเย็น ทำให้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียของผ้าได้โดยตรง ทำให้ผ้าสะอาด ประสิทธิภาพการปั่นผ้าจึงดีกว่าพอตัว
3. ระบบปั่นหมาด
ในส่วนของระบบปั่นหมาด เครื่องแบบฝาหน้า VS ฝนบน ต้องยอมรับว่าเครื่องแบบฝาบนทำออกมาได้ดี ระยะเวลาในการปั่นผ้าจะแห้งเร็วมากกว่า ส่วนฝาหน้าก็จะมีความหมาดอยู่ต้องเอาไปผึ่งลม ผึ่งแดดต่อ จึงอาจจะต้องใช้คู่กับเครื่องอบผ้า ป้องกันไม่ให้ผ้าเหม็นอับ
4. ความสามารถในการถนอมเนื้อผ้า
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนอีกประการก็ต้องการถนอมเนื้อผ้าที่เครื่องซักผ้าฝาหน้าก็จะทำได้ดีมากกว่า ด้วยการหมุนแบบแนวนอนที่จะสลับไปมา และการเสียดสีระหว่างตัวผ้าก็จะน้อย น้ำไหลผ่านเข้าออกเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี เนื้อผ้าจึงได้รับการถนอมที่ดีกว่า ผ้าไม่เป็นขุยง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อน
5. เสียงที่เกิดขึ้นระหว่างใช้งาน
สุดท้ายก็คือเรื่องของเสียงที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งานซักผ้า ต้องบอกว่าการระบบเครื่องฝาบนที่ปั่นจากล่างแล้วยิ่งใช้ถังคู่ด้วยเสียงก็จะดังรบกวนมากกว่า ขณะที่ฝาหน้าเสียงการทำงานรบกวนน้อยกว่า อาจจะด้วยความสามารถในการถนอมเนื้อผ้าด้วย
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของความแตกต่างที่เทียบกันให้เห็นแบบชัด ๆ ระหว่างเครื่องซักผ้าฝาบน VS ฝาหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อจากนี้ในการเลือกซื้อเลือกหาจะสามารถตัดสินใจกันได้อย่างดีที่สุด และได้เครื่องที่ใช้งานได้ตอบโจทย์กับทั้งการทำงาน และเงินในกระเป๋า

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP13

3


เครื่องอบผ้า” เป็นอีกอุปกรณ์ทำความสะอาดของเราที่เชื่อว่าหลายๆบ้านมีติดไว้ใช้งาน กระนั้นบางคนอาจจะเพิ่งอยากมี แต่ก็ยังไม่รู้จักมักคุ้นวิธีการใช้งานให้ถูกต้อง เหมาะสม และเพื่อให้การทำงานเครื่องตอบโจทย์สุด ช่วยให้ผ้าแห้งดี เครื่องไม่เสียหาย เราไม่รอช้ารวมมาแนะนำอย่างหมดเปลือก ว่าแล้วก็ลองไปศึกษากันเลยดีกว่า
5 วิธีการใช้งานเครื่องอบผ้าที่ถูกต้อง ได้ผลลัพธ์ตอบโจทย์
1. ต้องรู้จักศึกษาโปรแกรมใช้งาน
อย่างแรกที่ไม่อาจมองข้ามก็คือเรื่องของการศึกษาโปรแกรมที่แต่ละเครื่องมีแตกต่างกันออกไป โดยจะมีโปรแกรมหลัก ๆ อย่าง Iron dry ที่อบแล้วก็ยังชื้นอยู่นิดหน่อย เอาไปรีดต่อไปเลย หรือจะเป็นอีกโปรแกรมอย่าง Cupboard dry แห้งสนิทพร้อมที่จะใส่ได้เลย หรืออีกโปรแกรมคือ Extra dry ที่ช่วยให้การอบผ้าหนา ๆ แห้งดี ได้แก่ ผ้าห่ม ผ้านวม หมอน ฯลฯ
2. ความจุของเครื่องต้องเหมาะกับจำนวนคน
อีกสิ่งของการให้งานให้เหมาะสมสำหรับตู้อบผ้าก็คือความจุที่ต้องคำนวณดูให้เหมาะกับจำนวนคน ที่ต้องทราบว่าปกติซักผ้าบ่อยไหม แล้วมีสมาชิกในบ้านกี่คน ก็เพราะว่าถ้าซักบ่อยอบบ่อยและจำนวนมาก ต้องเลือกเครื่องที่มีความจุมากตามเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน แต่หากน้อยก็ให้เลือกความจำน้อยตาม
3. ใส่ผ้าเข้าเครื่องปริมาณเหมาะสม และกระจายให้ทั่ว
ในการใช้งานก็ต้องมีการใส่ให้เหมาะสมด้วย อย่าใส่ให้แน่นจนเกินไป ทั้งนี้เพราะผ้าก็จะไม่ค่อยแห้งเท่าที่ควร ดังนั้นใส่แค่พอดีกับที่เครื่องรับไหว ซึ่งอย่าใส่ไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งด้วย ให้ใส่ผ้าทั้งชิ้นใหญ่เล็กกระจายให้ทั่วเครื่อง การใส่ฝั่งเดียวก็จะเสียสมดุลเครื่องได้ เป็นเหตุให้เครื่องเสียหาย
4. กลับเอาด้านในออกก่อนอบ
ก่อนที่จะเอาผ้าไปอบในเครื่อง ก็ควรสะบัดผ้าออกทำให้ผ้าคลี่ออกจากกัน แล้วก็กลับเอาด้านในออกมาให้อยู่ด้านนอก เพื่อเป็นการถนอมสี และหากมีซิปก็ต้องรูดเก็บให้เรียบร้อยก่อนด้วย ไม่ทำให้ไปปั่นพันมั่วเป็นปัญหาตัวอื่น
5. ต้องไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า
สุดท้ายคือการตรวจสอบดูก่อนอบผ้าเสมอ โดยที่ต้องดูว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรหลงเหลือ ดังเช่น ดินสอ เหรียญ ปากกา ฯลฯ หากพบว่ามีก็ต้องเอาออกมาให้หมด เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจจะเข้าเนื้อผ้าและเกิดความเสียหายได้หลังอบ ซึ่งไม่ว่าจะเครื่องอบผ้า ราคาไหนก็ตาม ฟังก์ชันไหนก็ตามต้องดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย

เครื่องอบผ้านั้นมีไว้ใช้งานก็ช่วยให้เราสะดวกสบายมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะกลับบ้านช้า ฝนตก เราก็สามารถซักและอบให้ผ้าให้แห้งไปพร้อมกับใส่ได้เลย แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องรู้วิธีเหล่านี้ด้วย เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดกับการใช้งานทำความสะอาดเสื้อผ้า

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1302

4


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังหาเครื่องซักอบผ้าแต่ด้วยความที่ปัจจุบันมีให้เลือกซื้อหลากหลายมากก็ไม่รู้จะเลือกซื้อเลือกหาเครื่องไหนดี เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง TOSHIBA TWD-T25BZU115MWT(MG) 10.5/7กิโลกรัม 1400RPM อินเวอร์เตอร์ สีเทา ที่รับประกันฟังก์ชันการใช้งานดีขั้นสุด คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน และวันนี้เราก็มีรายละเอียดมาแนะนำเพิ่มเติม
เครื่องซักอบผ้า TOSHIBA TWD-T25BZU115MWT(MG)
ต้องยอมรับว่าเครื่องยี่ห้อ TOSHIBA TWD-T25BZU115MWT(MG) 10.5/7โล 1400RPM อินเวอร์เตอร์ สีเทานั้นมีคุณสมบัติที่ดีจริง ๆ ความจุของช่องใส่ผ้า 365 มม. และถังซักกว้าง 535 มิลลิเมตร ควบคุมระดับน้ำได้ด้วย AI Smart ซักสะอาดด้วยเทคโนโลยีรูปแบบ Waves 2.0 มีการผลิตอณูฟองเล็กขนาดนาโนแทรกซึมลึกถึงเส้นใย ผสานเทคโนโลยี Ultra Fine Bubble เอกสิทธิเฉพาะจาก TOSHIBA
- เครื่องซักผ้าอบผ้ามีแผงควบคุมแบบสัมผัสสีสันสดใส สวยงาม มองเห็นได้แบบชัดเจน ช่วยใช้งานและสั่งงานง่ายกว่าเดิม
- Ultra fine Bubble มีพลังฟองนาโน ช่วยทำความสะอาดได้อย่างดีและลึกซึ้ง
- THE GREATWAVES 2.0 ด้วยพลังน้ำ 5 รูปแบบ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการซักได้ดี ประหยัดไฟ ประหยัดน้ำ ประหยัดเวลา
- AROMA+ ที่กดแค่ครั้งเดียวเพื่อล็อกกลิ่นและเพิ่มความสดชื่นได้ ทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมมากกว่า และยาวนานมากกว่า
- มีระบบ AI SMART & SMART CONTROL ที่ช่วยควบคุมการซักได้เป็นอย่างดี และง่ายดาย ทุกที่ทุกเวลา
- มีเทคโนโลยีแบบ SENSEDOSE ที่ช่วยคำนวณน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ดี และเป็นแบบอัตโนมัติตามน้ำหนักของผ้า
- มีการรับประกันสินค้าให้ 2 ปี รับประกันมอเตอร์ให้อีก 10 ปีด้วย

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ในส่วนของวิธีการใช้งานเครื่องซักผ้าอบแห้งก็จะใช้เพื่อซักทำความสะอาด และอบผ้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งให้ดี แนะนำว่าให้เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ก่อนหลังเก็บผ้าที่ซักเสร็จ เพื่อขจัดความชื้น ป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา และต้องคัดแยกชนิดของผ้าก่อนลงถัง และซักด้วยปริมาณที่เหมาะสมของความจุเครื่องด้วย

ทั้งนี้มีข้อควรระวัง คือต้องมีการติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันอันตรายจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้ามนำวัสดุ อุปกรณ์ หรือสิ่งของนอกเหนือจากผ้าเอาซักในเครื่อง หมั่นตรวจสอบเครื่อง อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องก่อนและหลังการใช้งาน ห้ามจับสายไฟ หรือเคลื่อนย้ายเครื่องขณะเครื่องกำลังทำงาน หรือร่างกายเปียกชื้น ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง และใช้เครื่องซักผิดประเภท หรือผิดวิธีการใช้งาน
สำหรับ TOSHIBA TWD-T25BZU115MWT(MG) 10.5/7กก. 1400RPM อินเวอร์เตอร์ สีเทา เป็นเครื่องซักอบผ้าที่มีฟังก์ชันที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมีราคาจำหน่ายเครื่องละ 20,990 บาท และยิ่งสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 4% เหลือเพียงแค่ 19,990 บาทเท่านั้นเอง มั่นใจคุ้มค่าฟังก์ชันที่มีเลยจริง ๆ

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1301

5


เรารวบรวมยี่ห้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าเอาไว้ให้ได้ลองเลือกกัน เผื่อใครที่กำลังหาอยู่จะตกลงใจได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งมีด้วยกัน 4 แบรนด์ ที่มั่นใจได้ว่าคุณภาพดีแบบสุด ๆ และยังมีราคาโดนใจคุ้มค่าแน่นอน ว่าแต่จะมีแบรนด์ไหนบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย
แนะนำ 4 แบรนด์เครื่องซักผ้าฝาหน้า คุณภาพดี ราคาโดนใจ
1. LG FV1410S3MA
เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG รุ่น FV1410S3MA 10 กก. 1400RPM อินเวอร์เตอร์ สีดำ ตรวจจับน้ำหนักผ้า และจ่ายน้ำยาให้เหมาะ ซักผ้าสะดวกสบายขึ้น โดยที่มีระบบ AIDD เทคโนโลยีอัจฉริยะ ตรวจสอบชนิดของผ้า และเลือกการหมุนของซักได้ มี Steam ไอน้ำร้อนช่วยจัดการฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ มี Wrinkle Care ที่ลดรอยยับของเนื้อผ้า รีดได้เรียบและง่ายเพิ่มมากขึ้น ราคา 30,900 บาท แต่หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 21,300 บาทเท่านั้น
2. HAIER HW105-BP14929AS6
ต่อมาเป็น HAIER HW105-BP14929AS6 10.5 กิโลกรัม 1400RPM อินเวอร์เตอร์ ถังจุได้ 52.5 เซนติเมตร ขนาดใหญ่กว่าถังทั่วไป ช่วยให้ซักผ้าปริมาณมากขึ้นได้ โหมดการซักเป็นไอน้ำร้อนลดรอยยับที่เนื้อผ้า ละลายผงซักฟอกได้ละเอียด ป้องกันไม่ให้เกิดคราบ เพิ่มกลิ่นให้หอมสดชื่นมากกว่าเดิม ราคาจัดจำหน่ายเครื่องละ 16,690 บาท และหากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดเหลือ 14,390 บาทเท่านั้น
3. SAMSUNG WW12BB944DGBST
อีกแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้กับยี่ห้อ SAMSUNG WW12BB944DGBST 12 กิโลกรัม 1400RPM อินเวอร์เตอร์ สีดำ ที่มีระบบการซักอัจฉริยะ ที่จดจำรูปแบบการซักอย่างดี เสนอโปรแกรมต่าง ๆ และแสดงผลข้อมูลชัดเจนมาก สามารถซักด้วยโหมดน้ำเย็นแทนน้ำอุ่น ซักสะอาด ประหยัดไฟฟ้าได้ดี ดีไซน์ทันสมัยรูปแบบ BESPOKE ราคาจัดจำหน่ายเครื่องละ 39,990 บาท แต่หากสั่งซื้อตอนนี้ผ่านออนไลน์เหลือเพียง 25,990 บาทเท่านั้น
4. ELECTROLUX EWF1025DQWB
ปิดท้ายกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux ที่ทำงานได้ทนทาน เงียบ และประหยัดไฟประหยัดพลังงานสูง มีโปรแกรมการซัก 8  โปรแกรมด้วยกัน รอบปั่นหมาดสูงสุด 1200 รอบ/นาที มีเทคโนโลยี Vopour Action ที่ช่วยให้ผ้านุ่มฟู มีไอน้ำช่วยจัดการเชื้อโรคและสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้อย่างดีที่สุด มีโปรแกรมซักด่วนให้ด้วย รับประกันมอเตอร์ 10 ปี และยังรับประกันตัวเครื่องให้นานถึง 2 ปีด้วย โดยที่มีราคาเครื่องละ 21,990 บาท แต่หากหาซื้อผ่านออนไลน์ลด 27% เหลือเพียง 15,990 บาทเท่านั้น ลดไปมากถึง 6,000 บาทถือว่าคุ้มมากกับฟังก์ชันที่จะได้รับ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นทั้ง 4 แบรนด์เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เรานำมาแนะนำทุก ๆ คนที่ต้องบอกเลยว่ามีคุณภาพดี ฟังก์ชันต่าง ๆ น่าสนใจ และยังมีสนนราคาที่โดนใจคุ้มค่ามากโดยเฉพาะการซื้อผ่านออนไลน์ที่ราคายิ่งถูกลงกว่าเดิม แถมไม่ยุ่งยาก จัดส่งให้ถึงที่ไม่เหนื่อยไปอีก ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะช่วยให้การตัดสินใจของคุณในการเลือกซื้อเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1303

6


เชื่อเหลือเกินว่ามีหลาย ๆ คนที่สนใจอยากจะซื้อเครื่องซักผ้า 2 ถัง แต่ด้วยความที่ลังเล ไม่มั่นใจในการเลือก และอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติม เราไม่รอช้าที่จะมาบอกต่อกับ 3 Step การซื้อที่ถูกต้อง รู้ไว้เลือกเป็น ใช้งานตอบโจทย์ ซึ่งทุก ๆ คนสามารถนำไปปรับใช้งานกันได้เลยตามต้องการ
3 Step การซื้อเครื่องซักผ้า 2 ถัง เลือกเป็นตอบโจทย์การใช้งาน
Step 1 : รู้พื้นที่ในการวางเครื่อง
ก่อนที่เราจะเลือกซื้อเครื่องแบบ 2 ถังนั้นจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับพื้นที่ที่จะวางกันเสียหน่อย ให้คุณสำรวจเลยว่าจะวางไว้ที่ไหน ซึ่งแต่ละความจุเครื่องก็จะทำให้มีขนาดแตกต่างกัน อย่างเช่น
- เครื่อง 2 ถังฝาหน้า มีความกว้าง 60 เซนติเมตร มีความลึก 60 เซนติเมตร จะเหมาะขนาดความจุ 7 – 10 กิโลกรัม ส่วนความกว้างมากกว่า 60 เซนติเมตร ก็จะเหมาะกับขนาดความจุมากกว่า 10 กิโลกรัม ขึ้นไป
- เครื่อง 2 ถังฝาบน ที่มีความกว้าง 62 เซนติเมตร มีความลึก 68 ซม. จะเหมาะขนาดความจุ 7 – 13 กก. ส่วนความกว้างมากกว่า 62 ซม. ก็จะเหมาะกับขนาดความจุมากกว่า 13 กิโลกรัม ขึ้นไป
Step 2 : ดูเรื่องความถี่ในการใช้งาน
อยากให้ลองพิจารณาเพิ่มอีกเรื่องของความถี่ในการใช้งานเครื่องว่าอยู่ในรูปแบบไหน จะได้เลือกให้ตรงและเหมาะสมกับการใช้งาน และราคา เครื่องซักผ้า 2 ถังมากขึ้นด้วย คือ
- ความถี่ในการใช้งานที่หากน้อยกว่า 4 ครั้งต่ออาทิตย์ จะเหมาะกับขนาดความจุ 7 – 9 กก.
- ความถี่ในการใช้งานที่หาก 4 – 6 ครั้งต่ออาทิตย์ จะเหมาะกับขนาดความจุ 10 – 12 กิโลกรัม
- ความถี่ในการใช้งานที่หากมากกว่า 6 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเหมาะกับขนาดความจุมากกว่า 12 กก. ขึ้นไป Step 3 : ต้องดูจำนวนสมาชิกในครอบครัวด้วย
หลังจากที่เลือกประเภท และพื้นที่การติดตั้งแล้วก็ต้องคำนึงถึงจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ภายในบ้านด้วย เพื่อการเลือกความจุที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ได้ประสิทธิภาพการซักสูง
- เครื่อง 2 ถังฝาหน้า จำนวนสมาชิก 1 – 3 คน เหมาะกับความจุเครื่อง 7 – 10 กิโลกรัม จำนวนสมาชิก 4 – 6 คนขึ้นไป เหมาะกับความจุ 10 – 12 กิโลกรัม จำนวนสมาชิก 6 คนขึ้นไป เหมาะกับความจุ 12 กก. ขึ้นไป
- เครื่อง 2 ถังฝาบน จำนวนสมาชิก 1 – 3 คน เหมาะกับความจุเครื่อง 7 – 9 กก. จำนวนสมาชิก 4 – 6 คนขึ้นไป เหมาะกับความจุ 10 – 14 กก. จำนวนสมาชิก 6 คนขึ้นไป เหมาะกับความจุ 14 กก. ขึ้นไป

ปัจจุบันเครื่องซักผ้า 2 ถังมีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นมาก ๆ ก็อยากให้ทุก ๆ ท่านได้ลองพิจารณากับหลาย ๆ ด้านที่แต่ละเครื่องก็มีแตกต่างกัน เลือกสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดที่นอกจากวิธีเหล่านี้ ก็ยังมีด้านฟังก์ชัน คุณสมบัติ และราคาด้วย

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1306

7


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องทำน้ำอุ่นในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทุกฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวที่มีอากาศเย็น คนก็ปรารถนาอาบน้ำที่เป็นน้ำอุ่น ทว่าด้วยกลไกการทำงานที่มีน้ำและไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง หากเลือกและติดตั้งผิด ไม่เหมาะไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเราจึงมีหลักการซื้อและติดตั้งที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพสูง
หลักการเลือกซื้อเลือกหาเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะสม ได้ประสิทธิภาพสูง
อยากให้คุณเลือกซื้อเครื่องที่มีราคาเป็นไปตามท้องตลาด ไม่ควรเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น ราคาถูก หรือมือสองที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้งาน เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ส่วนประกอบของเครื่องก็ควรจะต้องมีถังเก็บน้ำในตัวพร้อมฉนวนหุ้ม และระบบตัดไฟฟ้าที่ควรเลือกสวิตช์ และส่วนประกอบของเครื่องที่กันน้ำทั้งหมด มีฝาพลาสติกด้านหน้า และฝาโลหะด้านหลัง จะช่วยลดอันตรายจากไฟฟ้ารั่วในกรณีที่อาจจะเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลผ่านนอต หรือสกรูที่ยึดฝาหลังกับผนังปูน ทั้งนี้ควรมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ มอก. และใบรับประกัน คู่มือการใช้งานเครื่องด้วย

หลักการติดตั้งเครื่องให้ถูกต้อง ไม่เป็นปัญหาตามมาภายหลัง
ในส่วนของใครที่อยากทราบเรื่องหลักการติดตั้งเครื่อง ไม่ว่าจะเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonicเครื่องทำน้ำอุ่น Stiebel หรือแบรนด์อื่นใดก็ตามเป็นสิ่งที่ต้องรู้ โดยเราก็มีมาแนะนำเป็นหลักการที่ถูกต้อง ไม่เป็นปัญหาตามมาภายหลังแน่นอน
- พื้นที่ในการติดตั้งเครื่อง โดยต้องอยู่สูงกว่าฝักบัว และตำแหน่งของสวิตช์ไฟก็ต้องไม่อยู่ใต้หม้อต้มน้ำร้อนด้วย เหตุเพราะหากหม้อต้มรั่วน้ำก็จะหยดลงที่สวิตช์ไฟ แล้วไหลเข้าเครื่องทำนน้ำอุ่น ทำให้ถูกไฟฟ้าดูได้นั่นเอง
- ควรหาช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญ และดำเนินการติดตั้งได้ดี อาจจะดูจากรีวิวก็ได้ เพื่อความปลอดภัยที่จะต้องเกิดขึ้น ควรเลือกใช้สายดิน และสายไฟที่ขนาดเหมาะสมกับตัวเครื่อง และควรติดตั้งเครื่องป้องกันไฟฟ้าดูดเพิ่มเติมไว้ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ตัวตัดไฟฟ้า หรือเบรกเกอร์ ที่หากกระแสไฟฟ้ารั่ว ก็จะไหลลงดินได้รวดเร็ว ไม่เป็นอันตราย เป็นต้น

ถึงอย่างไร ในการใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นก็ไม่ควรมีการพับ หรืองอสายฝักบัว เพราะนั่นจะทำให้สายฝักบัวชำรุด และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้ารั่ว และในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองก็ไม่เหมาะที่จะใช้เครื่อง เนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาฟ้าผ่าได้ง่าย โดยเฉพาะบ้านไหนที่ไม่มีการติดตั้งสายดิน แบบนั้นจะส่งผลต่อกระแสไฟที่ไหลตามสาย ทำให้ผู้ใช้งานถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตได้ สำคัญสุดหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ก็ควรปิดสวิตช์เครื่องทันที เชื่อเหลือเกินว่าการใช้งานเครื่องของคุณจะผ่านไปได้อย่างดี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0501

8


เมื่อท่านมีความต้องการจะติดตั้งกันสาดไม่ใช่แค่เรื่องการเลือกกันสาดให้เหมาะสมกับตัวบ้านเท่านั้น แต่เรื่องของปัญหาเพื่อนบ้านก็ควรเป็นอีกสิ่งที่ต้องใส่ใจ ไม่ว่าจะระหว่างติดตั้ง หรือช่วงที่ใช้งาน รวมไปถึงมลพิษที่อาจเกิดตอนติดตั้ง แล้วจะทำยังไงให้การติดตั้งผ่านไปได้อย่างราบรื่น ไม่เกิดปัญหากับเพื่อนบ้าน? เชื่ออย่างยิ่งว่าสิ่งนี้มีหลาย ๆ ท่านอยากรู้ และเราไม่รอช้ารวบรวมมาให้ทุก ๆ คนศึกษาอย่างละเอียด
ติดตั้งกันสาดไม่ให้เกิดปัญหากับเพื่อนบ้าน เรามีแนวทางมาแนะนำ
1. ศึกษาด้านกฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ
ประการแรกที่ต้องทราบก่อนติดตั้งหลังคากันสาดไม่ให้เกิดปัญหาเพื่อนบ้านก็คือต้องรู้จักศึกษากฎหมายข้อบังคับที่อาจจะเกิดผลกระทบได้ ซึ่งก็ต้องศึกษากฎระเบียบของหมู่บ้านด้วยในบางท่านที่ไม่ได้ติดตั้งกับบ้านเดี่ยว หรือบ้านปลูกสร้างเอง ด้วยเหตุว่าการติดตั้งก็อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณบ้านของเพื่อนบ้านได้ เมื่อเรารู้ถึงข้อบังคับก็ทำให้แน่ใจและลดความเสี่ยงเกิดผลกระทบ ไม่มีการฟ้องร้องเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาภายหลัง
2. การพูดคุย บอกกล่าวกับเพื่อนบ้าน
การพูดคุยเพื่อบอกเล่า บอกกล่าวกับเพื่อนบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก และก็ยังถูกต้องตามหลักกฎหมายด้วย เพื่อเป็นการแจ้ง และสร้างความเข้าใจให้กับเพื่อนบ้าน ควรแจ้งระยะเวลาในการติดตั้ง ต่อเติม  เพื่อให้เพื่อนบ้านได้เตรียมพร้อมรับมือ และหากใครที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรก็ควรแจ้งนิติบุคคลที่ดูแลหมู่บ้านให้ได้รับทราบด้วย ไม่ใช่ผลีผลามทำทันทีทันใด
3. ต้องติดตั้งรางน้ำควบคู่ไปด้วย
ในการติดตั้งจะประเภทกันสาดเมทัลชีท หรือประเภทใดก็ตาม จำเป็นต้องติดตั้งรางน้ำควบคู่กันไปด้วย เพื่อไม่ให้ไปกระทบต่อบริเวณบ้านของเพื่อนบ้านคนอื่น ด้วยทิศทางการไหลของน้ำฝนที่อาจจะกระเด็น หรือไปไหลร่วงในเขตของเพื่อนบ้าน จึงควรติดตั้งเพื่อให้เราควบคุมการระบายน้ำฝนที่จะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ไม่เสียหาย
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ต้องระวัง และการดูแลรักษาที่บางคนควรรู้ไว้เพิ่มเติมคือให้เลี่ยงของมีคมหรือของแข็งที่อาจจะขูดแผ่นผลิตภัณฑ์ได้ ทำให้เกิดรอยรั่ว และเมื่อรั่วก็ทำให้น้ำซึมตามรอยได้ รวมทั้งการล้างที่อย่างน้อยก็ควรล้าง 1 ครั้งต่อปีเสมอ เพื่อการยืดอายุใช้งาน เก็บเอาสิ่งกีดขวาง อย่าง ใบไม้ กิ่งไม้ หรืออื่น ๆ ที่อาจจะมากับฝนตอนตก เนื่องมาจากการหมั่นดูแลรักษา ซ่อมบำรุง หรือบางคนมีรอยถลอกใหญ่ก็ควรลงน้ำยาเพื่อซ่อมแซมก็จะช่วยให้การทำงานยาวนานกว่าเดิมได้จริง

การจะติดตั้ง ต่อเติม หรือจะทำอะไรก็ตามที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับเพื่อนบ้านได้ อยากให้มีการพูดคุย บอกกล่าวกันไม่มากก็น้อย เพื่อเป็นการทำให้เพื่อนบ้านรับทราบ และรับมือกับสิ่งที่จะเกิดได้ทันที ซึ่งหากจะติดตั้งกันสาดก็อย่าลืมนำแนวทางเหล่านี้ไปทำตามกันล่ะ..

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0802

9


เพื่อให้การใช้งานรถตัดหญ้าสำหรับงานหนักของคุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดการใช้งานของเครื่องตัดหญ้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาไว้ให้อย่างเจาะลึก ท่านใดอยากทราบเราจะบอกต่ออะไรบ้างไปติดตามพร้อม ๆ กันได้ รับรองว่าการใช้งานจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น และคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
สิ่งที่ต้องรู้เมื่อคิดจะใช้รถตัดหญ้าสำหรับงานหนัก
1. รถตัดแบบ 4 จังหวะที่ใช้น้ำมัน
เป็นประเภทรถตัดหญ้าที่เหมาะกับงานตัดหญ้าหนัก ๆ มาก อย่างเช่น สวนสาธารณะ ที่รก ฟาร์ม ด้วยจัดการกับหญ้าหนา ๆ ได้ดีด้วยแรงม้าที่มีมากพอสมควร สามารถตัดในพื้นที่กว้างได้สบาย ทนทานต่อการใช้งาน พื้นที่กว้างใหญ่ทั้งหลายเหมาะมาก ๆ โดยที่เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ที่มีแรงบิดสูง นอกจากใช้ในงานตัดหญ้าหนา พวกงานพุ่มไม้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
2. พื้นที่ที่เหมาะกับการใช้งานรถช่วยตัดหญ้างานหนัก
ในส่วนของพื้นที่ที่เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทอุปกรณ์ตัดหญ้านั้น เราจำเป็นต้องรู้ไว้เพื่อให้ตอบโจทย์ลักษณะงานมากที่สุด ทั้งนี้เพราะเมื่อเลือกใช้ถูกต้องก็จะได้ผลลัพธ์ดี ๆ เข้ามา
- พื้นที่กว้าง อย่าง สวนสาธารณะ สนามกอล์ฟ สนามกีฬา ไร่ชา เกษตรกรรม ไร้สับปะรด ฯลฯ ที่การทำงานต้องได้รับประสิทธิภาพสูง ตัดไว ประหยัดเวลา เครื่องแบบสะพาย หรือนั่งขับจะเหมาะสมที่สุด
- พื้นที่สภาพขรุขระ ที่มีตอไม้ หิน วัชพืช แนะนำว่าให้ใช้แบบสะพายหลัง หรือรถตัดหญ้าเดินตาม - พื้นที่มีหญ้าหนาทึบ ที่เป็นทุ่งหญ้ารกร้าง ป่าหญ้า เครื่องแบบสะพายหลังมีใบมีดขนาดใหญ่ก็น่าสนใจ ทำให้ตัดหญ้าได้อย่างรวดเร็ว
- พื้นที่ลาดชัน ไม่ว่าจะคันนา เนินเขา ที่สูงต่ำจะไม่สม่ำเสมอ เครื่องแบบสะพายก็จะเหมาะที่สุด เหตุเพราะสะดวกต่อการพกพาทำให้เกิดความคล่องตัวมาก ๆ

ปัจจัยในการเลือกเครื่องสำหรับงานหนักให้เหมาะสม
สิ่งที่ต้องรู้ในการเลือกจะเป็นรถเข็นตัดหญ้า เดินตาม สะพายหลัง หรือนั่งขับก็ต้องรู้ปัจจัยต่าง ๆ ไว้ด้วย ให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดเหมาะสมมากที่สุด ตั้งแต่งบประมาณที่ดูว่าราคาเครื่องไหนเหมาะ และต้องสัมพันธ์กับประสิทธิภาพ ฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วย เรื่องขนาดพื้นที่ก็สำคัญเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องเหมาะสม พื้นที่ใหญ่ก็ต้องเครื่องยนต์ 4 จังหวะก็จะเหมาะมาก รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานเครื่องที่ควรตอบสนองความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังก์ชันเก็บหญ้าที่จะลดเวลาและแรงงานในการทำความสะอาด การตัดหญ้าแบบมือถือที่ใช้งานในพื้นที่ได้ดี

เรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานรถตัดหญ้าก็สำคัญอย่างมาก เพื่อลดความยุ่งยากเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การเปลี่ยนชุดตัดหญ้ารวดเร็ว การปรับความสูงชุดตัดได้ดี การควบคุมเครื่อง ประเภทใบตัดที่รองรับ ฯลฯ หวังว่าในการใช้งานของท่านจะผ่านไปได้ราบรื่นมากที่สุด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT070501

10


วันนี้เรามานำเสนอเกี่ยวกับเครื่องทำน้ำร้อนที่บางท่านอาจจะกำลังหาอยู่ เพื่อให้การใช้งานตอบสนองความต้องการและมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็คงเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้นอกจาก MAZUMA P-STREAM PLUS2 สีดำ ที่มั่นใจในคุณภาพ ฟังก์ชัน และราคาได้เลย แอบบอกว่าหากเลือกซื้อผ่านออนไลน์นอกจากจะลดราคาแล้วก็ยังสามารถผ่อนได้ด้วย ว่าแต่จะมีความน่าสนใจอย่างไรไปติดตามพร้อมกันได้
คุณสมบัติเครื่องทำน้ำร้อนแบรนด์ MAZUMA P-STREAM PLUS2 สีดำ
สำหรับเครื่องทำน้ำร้อน Mazuma เป็นชุดที่จะมีความร้อนเป็นฮีตเตอร์ โดยที่ท่อน้ำก็จะผ่านความร้อนได้ดี ทนทานสูง ปลอดภัย มีขดลวดทองแดง ที่ฉนวนในหุ้มด้วยแมกนีเซียมออกไซด์ ไม่มีปัญหาการเกิดไฟรั่วแน่นอน ได้รับมาตรฐานสูง ทำให้การใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นมากที่สุด
- ชุดฮีตเตอร์ที่เป็นท่อน้ำผ่านร้อน มีความปลอดภัย และทนทานกับความร้อนได้สูงสุด
- สายไฟเป็นซิลิโคนหุ้มไฟเบอร์กลาส ที่ทนทานต่ออุณหภูมิ 180 องศาฯ
- มีขดลวดทองแดงแท้ที่สามารถทำความร้อนได้ดี เกิดเป็นอุณหภูมิคงที่ทำงานได้ดี
- ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก ABS ที่ปลอดภัย ติดตั้งง่าย และไม่มีการลามไฟ
- มีระบบตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่ว ELB ที่ตัดไฟภายใน 0.1 วินาทีแบบออโต้

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์
นอกจากเครื่องทำน้ำร้อน Stiebel ก็ต้องยี่ห้อนี้เลยที่กำลังเป็นม้ามืด วิธีการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยาก ก็เพราะว่าจะเหมาะกับการติดตั้งใช้ภายในบ้าน สถานที่ต่าง ๆ โรงแรม อพาร์ตเม้นท์ คอนโด ฯลฯ เพื่อทำน้ำร้อนใช้อาบน้ำ และควรใช้งานกับน้ำสะอาดเท่านั้นด้วย แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจคู่มืออย่างละเอียดก่อนใช้งานและติดตั้ง ทั้งนี้ ต้องติดตั้งในพื้นที่ที่ดูแลรักษาได้ ซ่อมบำรุงได้สะดวก เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายในอนาคต ซึ่งก็มีข้อควรระวังอยู่ คือ
- ห้ามมีการใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่าง ในการทำความสะอาด
- ควรมีการจัดเก็บในพ้นมือเด็ก และต้องอยู่ในพื้นที่แห้งเท่านั้น
- ห้ามแก้ไขสินค้า ดัดแปลง หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท
- ห้ามจัดเก็บใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน
- ต้องมีการติดตั้งสายดิน และติดตั้งไปพร้อม ๆ กันตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัย
- ห้ามใช้งานร่วมกันอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ห้ามใช้งานในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือต้องแช่น้ำอยู่ตลอดเวลา
- ต้องมีการตรวจสอบเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำก่อนใช้จริงทุกครั้ง

สำหรับเครื่องทำน้ำร้อนแบรนด์ MAZUMA P-STREAM PLUS2 สีดำ จะมีทั้งขนาด 6000 วัตต์ และ 8000 วัตต์ โดยที่ราคาจะอยู่เครื่องละ 8,390 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์ลด 11% หรือ 1,000 บาท เหลือแค่เพียง 7,390 บาทเท่านั้น โดยที่ยังสามารถรับบริการติดตั้งฟรีไม่รวมอุปกรณ์ตามมาตรฐานด้วย รวมไปถึงผ่อนชำระได้ (ดูโปรโมชั่นบัตรเครดิตเพิ่มเติมได้)

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0503

11


ในคราวนี้เราขอแนะนำหม้อต้มคุณภาพดี อย่างแบรนด์ ARISTON SL30 2.5EX 30 ลิตร ที่การันตีว่ามีคุณภาพจัดเต็ม โดยที่มีราคาตอบโจทย์ แถมยังผ่อนได้ 0% นาน 12 เดือนไปอีก ท่านใดที่กำลังมองหาหม้อเอาไว้ต้มน้ำได้ทั้งคุณภาพและราคาสบายกระเป๋า ลองเปิดใจเลือกซื้อแบรนด์นี้ดู แต่หากยังลังเลลองไปติดตามรายละเอียดเหล่านี้กัน
หม้อต้มแบรนด์ ARISTON SL30 2.5EX 30 ลิตร สีขาว คุณภาพดีเยี่ยม
นอกจากหม้อต้มน้ำร้อน Stiebel ที่ดีมีคุณภาพ ARISTON ก็เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจ มีการผลิตภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูง เป็นรูปแบบ TOTAL SYSTEM 10 ระบบ เลือกใช้บริการได้เลยตามต้องการ มาพร้อมดีไซน์การออกแบบฉบับอิตาลีที่สวยงาม เข้าถึงได้กับสไตล์การตกแต่งห้องน้ำ เหมาะสำหรับการติดตั้งในลักษณะแนวนอน เพิ่มความสะดวกต่อการวางแนวท่อ ใช้งานง่าย เลือกหมุนปรับอุณหภูมิน้ำร้อนได้ตามต้องการด้วยตัวเอง
- แร่เงิน Ag+ ป้องกันแบคทีเรียในน้ำ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแบบสุด ๆ
- ดีไซน์การออกแบบมาในรูปทรงสวยงาม กะทัดรัด ติดตั้งได้กับทุกการดีไซน์ห้องน้ำ
- มาตรฐานความปลอดภัยแบบ IP25 ป้องกันฝุ่นผงและน้ำไม่ให้เข้าเครื่อง
- คุณ ๆจะได้รับการทำความร้อน ความเสถียร และอุณหภูมิอย่างดีที่สุด
- ตัวเครื่องได้รับการประกัน 1 ปี และยังมีชุดทำความร้อนรับประกัน 5 ปี
- ตัวบอดี้มีพลาสติกที่ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี ไม่ทำให้เกิดคราบเหลือง

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวังที่มีต่อผลิตภัณฑ์
สำหรับวิธีการใช้งานหม้อต้มน้ำร้อน ARISTON SL30 2.5EX 30 ลิตร สีขาว มีการใช้งานเพื่อภายในบ้านพักอาศัย หรืออาคาร สำนักงาน โรงแรม ฯลฯ โดยที่ควรใช้งานกับน้ำสะอาดเท่านั้นด้วย โดยที่ควรเรียนรู้คู่มือที่มีอย่างละเอียดทั้งก่อนติดตั้งและระหว่างใช้งาน ควรติดตั้งในพื้นที่ที่ซ่อมบำรุง และดูแลรักษาสะดวกสบายมาก ทั้งยังมีข้อควรระวังอยู่ด้วยที่ต้องศึกษาและรู้เอาไว้ คือ
- คุณห้ามนำสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่าง มาใช้ในการทำความสะอาดเด็ดขาด
- อาจเกิดอันตรายได้หากไม่ได้มีการติดตั้งสายดิน ฉะนั้นจึงควรติดตั้งก่อน
- ห้ามจัดเก็บใกล้เปลวไฟ ความร้อน เพื่อป้องกันอันตราย
- ห้ามใช้งานผิดวัตถุประสงค์ด้วย
- ห้ามใช้งานใกล้น้ำ และหากตัวเปียกอยู่ห้ามจับสินค้าด้วย

หม้อต้มคุณภาพดี แบรนด์ ARISTON SL30 2.5EX 30 ลิตร สีขาว ราคาจัดจำหน่ายเครื่องละ 10,590 บาท และหากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 9,990 บาทเท่านั้น ซึ่งประหยัดงบประมาณไปได้มากถึง 600 บาทเลยทีเดียว ทั้งท่านไหนที่ไม่อยากเสียเงินทีเดียวก็สามารถผ่อนได้ผ่านบัตรเครดิต 0% ที่ยิ่งทำให้การใช้งานราบรื่นและปลอดภัยมากที่สุด หวังว่าจะตกลงใจเลือกซื้อเครื่องกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0502

12


ถ้าคุณ ๆมีความต้องการใช้งานรางน้ำฝนแต่ด้วยปัจจุบันมีหลากหลายมาก และก็ยังไม่รู้ว่าเลือกยี่ห้ออะไรดี เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำกัน 4 แบรนด์ไปเลย การันตีว่าน่าใช้มาก และยังมีประสิทธิภาพการทำงานสูงด้วย คุ้มกับราคาที่จ่ายไปแน่นอน ว่าแต่จะมียี่ห้อไหน รายละเอียดน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย
4 รางน้ำฝน คุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ไม่มีปัญหาภายหลัง
1. SCG SMART 3 ม. สีขาว
ยี่ห้อแรกที่อยากนำเสนอก็ต้อง SCG SMART 3 ม. สีขาว ที่ใช้ไวนิลผลิตคุณภาพดีมาก ๆ แข็งแรงทนทาน ไม่สึกกร่อนได้ง่าย ๆ จะรังสี UV จากฝนกรด แสงแดด ก็ทนทานต่อทุกสภาพอากาศทั้งหมด ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานแน่นอน ทั้งยังมีการออกแบบที่พิเศษมาก ๆ มีตะขอแขวนรางน้ำที่รับน้ำหนักได้มากกว่าตะขอทั่วไป 3 เท่า โดยราคาก็จะอยู่ที่ 1,056 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 889 บาท
2. THAPHOL 4 ม. สีขาว
รางน้ำฝนไวนิลยี่ห้อ THAPHOL 4 เมตร สีขาว สามารถใช้เพื่อรองรับน้ำฝนที่หลังคาได้ดี จัดการน้ำไหลจากหลังคา หรือกันสาดที่ตัวรางจะออกแบบเป็นทรง ป.ปลา กันลึก รองรับน้ำฝนได้ 10 กก. ป้องกันน้ำล้นได้ดี ใช้ไวนิลผลิตที่แข็งแรง ทนต่อการสึกกร่อนแบบสุด ๆ โดยที่มีราคา 649 บาทและหากเลือกซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 499 บาทเท่านั้น
3. VG FIRST R2 สีครีม
ไม่ใช่รางน้ำฝน PVC แต่ก็เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจ โดยที่ VG FIRST R2 มีให้เลือกทั้งสีครีม และสีน้ำตาล มีไว้เพื่อใช้รองรับน้ำในที่หลังคา จัดการให้น้ำไหลจากกันสาด หรือหลังคาไปยังจุดที่ต้องการได้ดี ทำจากไวนิลที่มีคุณภาพสูง แข็งแรง  ทนทานกับทั้งอากาศ สารเคมี ฝนกรด และอื่น ๆ ที่เนื้อไวนิลมีการผสมตัวเป็นเนื้อเดียว ป้องกันไม่ให้สีหลุดลอก ป้องกันสนิทขาว หรือขี้เกลือ และป้องกันสนิมทั่วไปด้วย ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 865 บาท และหากเลือกซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 859 บาทเท่านั้น
4. SCG DELUXE 3 ม. สีขาว
สุดท้ายก็ต้องเป็นยี่ห้อ SCG DELUXE 3 ม. สีขาว เลย ซึ่งก็จะใช้เป็นไวนิลในการผลิตให้มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน และไม่ทำให้ลามไฟได้ง่าย ๆ ทนทานต่อรังสี UV แสงแดด ฝนกรด สภาวะอากาศต่าง ๆ อย่างดีที่สุด โดยยังมีการออกแบบรูปแบบ Super Flow Design ที่ระบายน้ำฝนได้รวดเร็วมากกว่าเดิม ด้วยการออกแบบโดยเฉพาะ และรูปทรงที่มีคุณภาพ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 732 บาท และหากเลือกซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 597 บาทเท่านั้น

ทั้งหมดนี้เป็น 4 รางน้ำฝนที่ค่อนข้างน่าสนใจอย่างยิ่ง โดยที่ท่านสามารถเลือกใช้ซื้อมาเพื่อใช้งานได้เลย การันตีคุณภาพดี สมกับราคาที่จ่ายไป และยิ่งสั่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งถูกลงไปอีก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON080

13


สำหรับโพลียูรีเทนนั้นเป็นสีที่มีไว้เพื่อการทาบนวัสดุต่าง ๆ ที่ช่วยรักษาปกป้องพื้นผิวไม้จากสภาวะทางอากาศ สภาพแวดล้อม โดยที่ใช้งานสะดวกมากทาได้ทั้งภายในและภายนอก มีทั้งเป็นสีย้อมและสีทา ปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ด้วย ใช้งานสะดวกแบบสุด ๆ ไม่ต้องเอาไปผสมอะไรเลยก็มีในหลายรุ่น กระนั้นเผื่อบางท่านไม่แน่ใจ เพิ่งจะเคยใช้งานครั้งแรก เราก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจมาให้ศึกษาก่อน เป็นเรื่องที่ต้องทราบก่อนเสมอ
เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการใช้งานโพลียูรีเทน ให้ตอบโจทย์มากที่สุด
1. ความแตกต่างของสีย้อมและสีทา
สำหรับสีทาไม้ หรือย้อมไม้นั้นก็จะใช้ทาบนวัสดุไม้ต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องกันพื้นผิวไม้จากสภาพแวดล้อม สภาวะทางอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยจะมีความแตกต่างกันอยู่คือ
- สีทาที่เป็นสีโดยตรงบนพื้นผิวไม้ ทำให้เนื้อไม้สม่ำเสมอกัน และป้องกันไม้ด้วยการทำให้สีเปลี่ยนไปตามสีที่ต้องการ
- สีย้อมจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้สีลอกล่อน หากไม้ยืดหรือหดตัวก็เป็นไปตามอุณหภูมิ และความชื้นอากาศ จะย้อมแบบโปร่งก็ได้ทำให้ลายไม้แสดงออกมาสวยงาม
2. จุดเด่นของสีย้อมสูตรน้ำ
สำหรับจุดแข็งสีย้อมสูตรน้ำนั้นก็มีหลากหลายด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้สีประเภทนี้ก็ค่อนข้างได้รับความนิยมและมีให้เลือกเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องของการป้องกันผิวไม้จากเชื้อรา ความชื้น แมลง ตะไคร่น้ำ, ความสามารถทนทานต่อสภาพอากาศ อาทิ UV แสงแดด ฝน ที่ทาได้ทั้งภายในและภายนอก, เป็นมิตรต่อสุขภาพ ไม่มีกลิ่นเหม็นฉุนรบกวนระหว่างใช้งาน, ใช้งานง่ายมาก ทาที่ตัวไม้ได้เลยไม่ต้องทารองพื้น หรือผสมอะไรก่อน, เนื้อสีแน่นมาก จบงานทาสีภายใน 2 รอบได้เลย ประหยัดทั้งเวลาและงบ
3. ระดับการย้อมไม้มีให้เลือกหลากหลาย
ในส่วนของสีย้อมไม้นั้นก็จะมีระดับการย้อมให้เลือกอยู่หลากหลายเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็น สีย้อมแบบกึ่งทึบ ที่ปกคลุมไม่สมบูรณ์ ขณะที่ยังมีลายไม้ขึ้นมาให้เห็นบางส่วน, สีย้อมแบบกึ่งใส ก็จะเพิ่มสีสันให้กับลายไม้เดิมได้ดี, สีย้อมโปร่งใส ก็จะปกป้องพื้นผิวให้ยังคงเห็นลายไม้เดิมอยู่ เหมาะอย่างยิ่งกับพื้นผิวที่อยากเห็นลายไม้ธรรมชาติ สีย้อมไม้ชนิดทึบ ก็จะเปลี่ยนสีไม่ให้เห็นลายไม้เดิม เลือกเฉดเองได้ ตอบโจทย์ทุกการดีไซน์อย่างดี
โพลียูรีเทนหรือสีย้อม / สีทานั้นจะมีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการผุกร่อน และไม่ทำให้ไม้เกิดตะไคร่น้ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามกับวัสดุไม้ ทำให้ไม้เก่าดูใหม่ได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการซื้อมาใช้งานจะผ่านไปได้มีประสิทธิภาพที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON070504

14


กาวตะปูนับเป็นอีกไอเทมของคนสร้างบ้านที่อาจจะต้องมีติดไว้ ด้วยคุณสมบัติการยึดติดที่ดีที่สุด แต่หากท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อยี่ห้อใดดี เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำสูตรน้ำมัน BESBOND ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติโดดเด่นแล้ว ยังสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาถูกลงไปอีก ที่สำคัญมีแคมเปญโดนใจซื้อ 1 แถม 1 ให้ใช้งานเน้น ๆ
คุณสมบัติกาวตะปูสูตรน้ำมันยี่ห้อ BESBOND 320 ก. สีเบจ
กาวพลังตะปูสูตรน้ำมัน BESBOND มีคุณภาพสูง โดยที่แห้งไว ติดแน่น ยึดติดกับวัสดุต่าง ๆ ในงานก่อสร้าง และซ่อมบำรุงได้ดี ติดกับวัสดุหลากหลายประเภท ได้แก่ กระจก ไม้ เหล็ก พลาสติก กัลวาไนซ์ อะลูมิเนียม อิฐ คอนกรีต โฟม ฯลฯ โดยมีแรงยึดเกาะได้ดี ทั้งแนวราบและแนวตั้ง ทนทานต่อแสง UV สภาพอากาศ ไม่ทำหลุดลอก สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกได้เลย
- แรงยึดติดมีสูงเพื่อใช้ยึดติดวัสดุต่าง ๆ ได้ดี แทนการตอกตะปู ในงานซ่อมบำรุง หรือก่อสร้าง
- เป็นกาวที่ใช้งานอเนกประสงค์ เป็นสูตรน้ำมันที่มีคุณสมบัติแห้งเร็วมาก เป็นสูตรเฉพาะของ BESBOND
- ทนทานต่อสภาพอากาศ รังสี UV และแสงแดด ที่ไม่หลุดลอก สามารถนำไปใช้ทาได้ทั้งภายในและภายนอก
- สามารถใช้ได้กับวัสดุหลากหลายประเภท อย่างเช่น กระจก ไม้ กัลวาไนซ์ เหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก ไม้อัด อิฐ โฟม คอนกรีต ฯลฯ

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังต่อผลิตภัณฑ์
สำหรับในส่วนของวิธีการใช้งานกาวตะปู 3M หรือ BESBOND 320 กรัม สีเบจ ก็จะเหมาะกับการอุด ยึดติดวัสดุต่าง ๆ แทนการตอกตะปู โดยที่ก่อนจะใช้งานต้องทำความสะอาดพื้นที่นั้น ๆ ให้แห้งดี ไร้สิ่งสกปรกด้วย ทั้ง เศษขี้ฝุ่น ผม คราบไขมันต่าง ๆ แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจข้อมูลก่อนการใช้งานทุกครั้ง และต้องศึกษาอย่างละเอียดด้วย เลือกขนาด ประเภทสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานที่มีอาจจะแตกต่างกัน ทั้งนี้ เรื่องข้อควรระวังก็ต้องรู้เอาไว้ คือ
- ควรมีการจัดเก็บเป็นที่ พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง และต้องเป็นพื้นที่แห้งด้วย
- ไม่ควรใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ไม่ควรใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่าง มาใช้ในการทำความสะอาดเด็ดขาด
- ไม่ควรมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท
- ไม่ควรตั้งใจสูดดม หรือกินเด็ดขาด
- ไม่ควรจัดเก็บไว้ใกล้กับเปลวไฟ หรือความร้อน
- ไม่ควรนำไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ในระหว่างใช้งานควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันผิวหนังด้วย เพื่อป้องกันอาการแพ้ระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลัง
- เลี่ยงการนำผลิตภัณฑ์โดนแสงแดดเป็นเวลานาน เพราะว่าอาจจะทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย ๆ

กาวตะปูสูตรน้ำมันยี่ห้อ BESBOND 320 กรัม สีเบจนี้นั้นจะมีโปรโมชั่นในการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ ที่หากซื้อ 1 ก็จะแถมอีก 1 ทันที โดยราคาจะอยู่ที่หลอดละ 235 บาท ซึ่งลดจากราคาปกติ 34% (ราคาปกติ 359 บาท)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031003

15


เพื่อการเลือกใช้งานอะคริลิคซีลแลนด์ของท่านกลายเป็นเรื่องง่ายดายเยอะขึ้น ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องกังวล เรารวบรวมมาให้กันถึง 4 ยี่ห้อด้วยกัน ที่บอกเลยว่าเป็นราคาย่อมเยาแต่คุณภาพคับคั่งมาก เรียกว่าเป็น 4 ยี่ห้อสินค้าชายดีที่ไม่ควรมองข้ามกันไปได้เลยจริง ๆ ซึ่งจะมีแบรนด์ใด คุณสมบัติอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า เป็นไอเท็ม เป็นยี่ห้อที่ไม่ควรมองข้ามกัน
สินค้าขายดี! 4 ยี่ห้ออะคริลิคซีลแลนด์คุณภาพสูง ราคาย่อมเยา
1. SISTA F130 300 มิลลิลิตร
แบรนด์แรกที่เราอยากแนะนำก็ต้อง SISTA F130 300 มิลลิลิตร ที่มีหลากหลายมาก ทั้ง สีเชอรรี่ สีเมเปิ้ล สีขาว สีน้ำตาล สีเทา สีโอ๊ค ที่ปากหลอดจะเป็นยาแนวขนาดเล็ก ใช้ในพื้นที่จำกัด และพื้นที่แคบได้ ตัวยาแนวเมื่อแห้งก็จะทาทับสีได้ ไม่แห้งกรอบ ยืดหยุ่นได้ดี พร้อมช่วยป้องกันน้ำ เสียง ฝุ่นละออง และอากาศได้ดี มีราคาขายหลอดละ 125 บาท แต่หากหาซื้อผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 103 บาท
2. จระเข้ GATOR 450 กรัม สีขาว
ยาแนวจระเข้ GATOR สีขาว วัสดุอุดยาแนวอเนกประสงค์ ที่พร้อมใช้งาน ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะ ยืดหยุ่นได้ดี ปากหลอดยาแนวมีขนาดเล็ก ใช้งานได้ในพื้นที่แคบ จำกัด ทั้งยังป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี ทาสีทับได้เลย แห้งเร็ว เหมาะสำหรับงานภายใน ซึ่งก็จะมีราคาจัดจำหน่ายหลอดละ 75 บาท แต่หากหาซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 48 บาทท่านั้น
3. 3M HIGH ELASTIC 300 มล.
มาต่อกันอีกยี่ห้อดังที่ไม่ควรมองข้าม  3M HIGH ELASTIC 300 มิลลิลิตร ที่มีสีให้เลือกทั้งสีขาว สีน้ำตาล สีโอ๊ค ที่เป็นอะคริลิกยาแนวชนิดพิเศษ ยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะวัสดุต่าง ๆ ได้ดี ทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถใช้งานได้กับทุกพื้นที่ เนื้อเป็นอะคริลิกที่ไม่ไหลย้อยด้วย สามารถซ่อมแซมรอยต่อ หรืออุดร่องยาแนวได้ดี โดยผลิตภัณฑ์นี้มีราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 180 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 119 บาทเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
4. TOA 303 280 มล. สีขาว
ปิดท้ายยาแนวกันซึมที่น่าลองก็ต้อง TOA 303 280 มิลลิลิตร สีขาว ที่ท่านจะได้สัมผัสคุณภาพคับคั่งไม่แพ้ 3 แบรนด์ที่กล่าวมา ด้วยความสามารถในการทนทานต่อสภาพแวดล้อม สภาวะอากาศ รังสี UV ใช้งานไม่ยาก ไม่ต้องผสม ประหยัดเวลาการทำงานสุด ใช้เพื่อยาแนวไม่พอก็ลดเสียงรบกวนได้ด้วย แถมไม่ต้องผสมอะไร ช่วยประหยัดเวลาทำงานสูง ใช้งานง่ายและดีคุ้มค่าสุด โดยที่มีราคา 85 บาท หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ในราคาพิเศษลดเหลือเพียง 36 บาทเท่านั้น

ถึงกระนั้นก็ตาม ในการใช้งานอะคริลิคซีลแลนด์คุณภาพสูง ราคาย่อมเยาเหล่านี้ก็ยังต้องระวังอยู่ด้วย คือห้ามสูดดม หรือกิน รวมทั้งห้ามใช้กับสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่างมาทำความสะอาด โดยที่ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท ควรเก็บในพื้นที่แห้ง และพ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON031002

16


เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเชื่อว่ามีหลาย ๆ บ้านอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำรั่วซึม และเพื่อให้ปัญหาหมดไปแน่นอนว่าการใช้งานปืนยิงซิลิโคนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ทว่าหากรู้สาเหตุหลักของปัญหาก็มีส่วนลดปัญหาได้อย่างดี แล้วจะมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เกิด เราลองไปศึกษาพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
4 สาเหตุหลักของปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างจนต้องใช้ปืนยิงซิลิโคน
1. วัสดุที่มีอยู่ก่อนเสื่อมสภาพ
สาเหตุแรกที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมที่หน้าต่างหนีไม่พ้นวัสดุที่เสื่อมสภาพ อย่างวัสดุอุดรอยต่อต่าง ๆ ระหว่างหน้าต่าง เมื่อใช้งานไปเป็นเวลานาน ๆ วัสดุก็จะหมดอายุ และเสื่อมสภาพลงไปได้ตามเวลา และเกิดเป็นช่องว่าง เป็นรู ร่องเล็ก ๆ ที่ระหว่างผนัง ขอบหน้าต่าง น้ำฝนที่ตกลงมาก็รั่วซึมเข้ามาบ้านได้ จึงต้องรู้จักตรวจสอบวัสดุโดยเฉพาะยาแนวเสมอ ดูว่าสึกหรอ ชำรุด หรือเสื่อมสภาพตรงไหนบ้าง ป้องกันการรั่วซึม หรือไม่ให้น้ำเข้าขอบหน้าต่าง
2. ผนังที่ขอบของหน้าต่างแตกร้าว
ในส่วนของผนังหน้าต่างที่แตกร้าวก็เป็นสาเหตุหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่อยู่ตรงขอบมุม ซึ่งอาจจะแตกร้าวเป็นแนวเอียง เฉียงได้ ทำให้เกิดน้ำฝนซึมตรงเข้ามาขอบหน้าต่าง จึงจำเป็นต้องรีบแก้ไขไม่ทำให้เกิดปัญหาบานปลาย การใช้ปืนยิงกาวก็เป็นสิ่งที่จะมาช่วยจัดการสาเหตุนี้ได้ดี
3. ช่องระบายน้ำที่ขอบอุดตัน
ในส่วนของหน้าต่างบางบานก็จะมีช่องอะลูมิเนียม ซึ่งหากผ่านการใช้งานมานาน ๆ ก็มีโอกาสเกิดการอุดตันได้ อาจจะมีเศษฝุ่น สิ่งสกปรก หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปสะสมได้ และเมื่ออุดตันก็จะกลายเป็นน้ำรั่วตามขอบหน้าต่างและก็ซึมเข้ามาในบ้านได้ กลายเป็นปัญหาใหญ่ภายหลังไปอีก
4. เลือกผลิตภัณฑ์ยาแนวไม่ถูกประเภท
สุดท้ายการใช้ผลิตภัณฑ์ปืนยิงยาแนว หรือแม้แต่ตัวยาแนวเองแบบผิดประเภทก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาได้ เนื่องด้วยจะกลายเป็นน้ำซึมขอบหน้าต่าง ด้วยกาว หรือวัสดุอุดรอยรั่วต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการใช้งานแตกต่างกันออกไปตามลักษณะพื้นผิว ปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายมาก ก็อยากให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบดูสิ่งที่ดีที่สุด

สำหรับการใช้งานปืนยิงซิลิโคนเพื่ออุดรอยรั่วซึมให้กับขอบหน้าต่างก็ไม่ได้ลำบาก ก่อนอื่นก็ต้องเตรียมพื้นผิว โดยให้ขูดเอาของเก่าออกก่อนแล้วทำความสะอาดให้พื้นผิวนั้น ๆ แห้ง ไม่มีฝุ่น หรือจะเอาเทปกาวมาปิดรอยรั่วข้างหลังก็ได้ไม่ให้เนื้อล้นออกมาเลอะด้านข้าง จากนั้นก็เอาหลอดยาแนวใส่ปืน ตัดปลายปลอดออกเฉียง 45 องศา สวมจุกที่มีมาด้วยเข้าปลายหลอด แล้วใส่หลอดกาวในปืนยิง สุดท้ายก็บีบดาวลงร่องให้เต็ม ปาดเนื้อกาวด้วยอุปกรณ์ปาดให้เรียบภายใน 5 นาที ก่อนที่เนื้อจะเริ่มเซตตัว แล้วก็เช็ดด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ ก่อนกาวแห้ง 10 – 15 นาที ทิ้งไว้ 24 – 48 ชม. เป็นอันเสร็จ

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031006

17


ซิลิโคนซีลแลนด์มีหลายประเภทและแบบไร้กรดก็น่าสนใจมาก ซึ่งซิลิโคนประเภทนี้จะมีคุณสมบัติที่ตรงกับการใช้งานอาคาร สำนักงาน หรือสถานที่ที่ต้องการอุดรอยรั่ว ไร้กรด ไร้กลิ่น หรือถ้ามีก็น้อยมาก และยังใช้งานได้แทบทุกพื้นผิววัสดุด้วย หนึ่งในนั้นที่อยากให้ลองซื้อใช้ก็ต้องแบบไร้กรดกันเชื้อรา แบรนด์ SIKA SIKASIL-129 300 มิลลิลิตร การันตีว่าคุณภาพโดดเด่น คุ้มราคาแน่ๆ
ซิลิโคนซีลแลนด์แบบไร้กรดกันเชื้อรา SIKA SIKASIL-129 300 มล.
ซิลิโคนยาแนวชนิดไร้กรดกันเชื้อรา ยี่ห้อ SIKA SIKASIL-129 300 มล. มีให้เลือกทั้งสีขาว และสีใสที่สามารถเลือกเองได้เลยตามต้องการ เป็นประเภทซิลิโคนที่ไม่มีกรด พื้นผิวที่ใช้งานจึงไม่ถูกทำลาย เหมาะกับกันรั่วซึมตามรอยต่อของห้องน้ำ สุขภัณฑ์ และส่วนต่าง ๆ ภายในอาคารอย่าง ขอบประตูห้องน้ำ อ่างล้างจานวง อ่างหน้ามือล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ หรือรอยต่อต่าง ๆ ฯลฯ และตอบโจทย์กับลักษณะของพื้นผิวหลากหลายประเภทอย่างโลหะ กระจก อะลูมิเนียม คอนกรีต ไม้กระเบื้องเซรามิก PVC หรือพื้นผิวที่สามารถทาสีได้
- เป็นซิลิโคนแบบยาแนวอเนกประสงค์ ที่มีการยึดเกาะแน่นหนา ดีกับวัสดุหลายประเภท
- ใช้งานง่ายดายมาก ไม่จำเป็นต้องเอาไปผสมอะไร เป็นฝารูปแบบเข็มที่ฉีดง่าย เข้าถึงทุกซอกมุม สามารถฉีดผ่านกระบอกปืนได้เลย
- มีความสามารถในการป้องกันเชื้อราได้เป็นอย่างดี กลิ่นน้อย หรือแทบไม่มีกลิ่น ไม่มีฤทธิ์ในการกัดก่อน เหมาะอย่างยิ่งกับการนำไปใช้งานรอยต่อสุขภัณฑ์

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ซิลิโคนอุดรอยรั่วแบบไร้กรดกันเชื้อรา SIKA SIKASIL-129 300 มล. นั้นมีวิธีการใช้งานที่ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงใช้เพื่อกันรอยรั่วซึมต่อรอยต่อต่าง ๆ ทั้งงานในอาคาร และงานสุขภัณฑ์ ควรทำความสะอาดพื้นที่ พื้นผิวที่ปราศจากคราบไขมัน ฝุ่นผง ที่ต้องมีการศึกษาข้อมูลการใช้งานอย่างละเอียดด้วย และขณะที่ทำงานอยู่ก็ต้องใส่ถุงมือขณะทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ โดยมีข้อควรระวัง คือ
- จะไม่เหมาะกับการนำไปใช้เพื่อรอยต่อที่มีการขยายตัวสูง
- ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปใช้งานแบบผิด ๆ
- ควรมีการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในพื้นที่แห้ง และพ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรมีการจัดเก็บไว้ใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน
- ผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่าง ไม่ควรนำมาทำความสะอาด
- พื้นผิวที่เป็นพลาสติก ก็โปรดทำการทดสอบเข้ากันได้ก่อนทำการลงซิโคนทุกครั้ง

หากสนใจอยากใช้งานผลิตภัณฑ์ซิลิโคนซีลแลนด์แบบไร้กรดกันเชื้อรา SIKA SIKASIL-129 300 มล. สามารถเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ได้ในราคา 159 บาท จากราคาปกติ 179 บาท ซึ่งถือว่าลดราคาได้ดีพอสมควร ใครลองใช้งานแล้วได้ผลลัพธ์ดียังไงอยากมาเล่าสู่กันฟังก็ทำได้เลย รับรองว่าดีมากแน่นอน

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031001

18


ต้องยอมรับว่าเทปกาวบิวทิลนั้นมีลักษณะเด่นที่ทั้งความชื้น และก๊าซผ่านได้เล็กน้อย จึงมีคุณสมบัติในการกันกระแทกได้ดี จึงถือเป็นอีกไอเทมที่ได้รับการนำมาใช้ในหลาย ๆ ด้าน กระนั้นหากใครที่ไม่มีประสบการณ์และไม่มีทักษะที่ถูกต้องก็อาจจะสร้างความยุ่งยากเละเทะในขณะที่กำลังใช้งานอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความยุ่งยากทำให้งานผ่านไปได้สะดวกมากที่สุด เรามีสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับกาวประเภทนี้ คำแนะนำที่ปฏิบัติเหมาะสมมาบอกต่อ

ข้อควรทราบเกี่ยวกับเทปกาวบิวทิล เสนอแนะสิ่งที่ต้องทำให้เหมาะสม

1. ต้องเปิดปลายท่อเป็นมุม 45 องศา
สิ่งที่ควรทราบไว้และต้องไม่ลืมเลย คือต้องใช้มีดคัตเตอร์เพื่อตัดปลายท่อและต้องทำมุมให้ได้ 45 องศา โดยเริ่มต้นที่ขนาดเล็ก ๆ ไว้ก่อนแล้วใส่หลอดลงในปืนยิงกาว ลองใช้กับเศษวัสดุ ถ้ากาวบีบออกมาแล้วขนาดเล็กไปสำหรับช่องว่าง หรือรอยต่อที่ต้องการเติม เราแนะนำให้ตัดรูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม และต้องจำไว้ด้วยว่าบิลทิลจะหดตัวเล็กน้อยด้วย

2. อุ่นอยู่เสมอ
เพราะเทปกาวบิวทิลเมื่อเวลาผ่านไปก็จะก่อตัวแข็ง ทำให้การบีบออกมาจากท่อและทาเป็นไปได้ยากมาก ๆ ยิ่งถ้าจะให้แม่นยำยิ่งยาก ดังนั้นก่อนใช้งานเราควรแช่หลอดลงในน้ำอุ่น แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้เนื้อนิ่ม การใช้งานก็จะสะดวกขึ้น

3. ต้องทิ้งไว้ให้แห้ง
แม้ว่ายางจะดูลงตัวและก่อตัวเต็มที่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องไม่พลาดที่จะทิ้งไว้ให้แห้งอยู่เสมอ ให้ประมาณ 2 – 3 วันไปเลยเพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา จากนั้นก็ค่อยเคลือบสี เลือกสีที่โดนใจทาได้ทั้งหมด ทำให้ดูสวยขึ้น น่าดึงดูดอีกครั้งให้กับสิ่ง ๆ นั้น

4. ทำงานอย่างประณีต
ในการใช้เทปกาวกันรั่วซึมต้องจับปืนให้อยู่ในมุม 30 องศา เริ่มที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งขอช่องว่าง หรือข้อต่อที่ต้องการซ่อมแซม หรือซ่อมแซม จากนั้นก็ลงมือบีบกาวช้า ๆ ได้เลยให้กาวออกมาเท่ากันจนกว่าจะไปถึงอีกปลายด้าน หากต้องการให้การปิดสนิทในรอยต่อหรือช่องว่าง ควรทำโดยเร็วที่สุดทันที เพราะยางอาจจะแข็งตัวได้รวดเร็ว

ปัจจุบันมีเทปกาวแบบบิลทิลให้ตัดสินใจจากหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นมาก อยากให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกันดูก่อน ตัดสินใจเลือกที่มีลักษณะที่ต้องการ มีราคาสบายกระเป๋า และต้องไม่ลืมที่จะใช้งานให้ถูกวิธีตามที่เราให้คำแนะนำไป รวมถึงต้องใส่ใจข้อควรระวังต่าง ๆ ไว้ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากทั้งระหว่างการใช้งานและหลังใช้งาน หวังว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุดกันนะ

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030603

19


หากกำลังมองหาคิ้วกันแมลง อย่ารอช้าที่จะรีบใช้บริการไปกับยี่ห้อ DEXZON 14079 100 ซม. สีขาว ที่คุณสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยสะดวก โดยที่ยังมีให้เลือกสีขาว ตามต้องการ คุณภาพสุด เจ๋งโดยที่ยัง คุ้มราคาสุดๆกับราคาที่จ่ายไปด้วย แต่หากใครที่ยังไม่มั่นใจอยากรู้ ข้อมูลเพิ่มเติม เราไม่รอช้าที่จะ แนะนำ อย่างละเอียด

คุณภาพคิ้วกันแมลงยี่ห้อ DEXZON 14079 100 ซม. สีขาว
สำหรับยี่ห้อ DEXZON 14079 100 ซม. สีขาว เป็นอีกหนึ่งคิ้วกันแมลงประตูบานเลื่อนแบบยาง ที่มี วัสดุเยี่ยมยอดมาก แข็งแรง มีความ นิ่มที่จะไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนกับพื้นผิว เหมาะกับการนำไปใช้ อุดช่องว่างที่นอกจากประตูแล้วก็ยัง เหมาะกับหน้าต่างได้ด้วย ไปจนถึงช่องว่างต่าง ๆ อย่างอิสระ เพื่อป้องกัน เสียงรบกวน รวมถึงแมลง หรือสิ่ง เล็กๆน้อยๆต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาได้ง่ายๆ ทั้งยัง ติดตั้งสะดวกสุด จะถอดออกมาทำความสะอาดก็ได้ด้วย สบายสุดๆสุด

- สามารถช่วย ป้องกันแสงสว่าง เก็บเสียงแน่นหนา ไม่ทำให้มีปัญหาอะไร รบกวนภายในห้อง
- เป็นคิ้วช่วยกันแมลงที่ป้องกัน สิ่งสกปรกได้ดีมาก รวมถึงแมลงต่าง ๆ ขนาดต่างๆก็ ผ่านใต้ประตูยากลำบากแน่นอน
- ติดตั้ง สะดวกมาก ซึ่งหากมีสิ่งสกปรกก็สามารถ เอาออกมาเพื่อทำความสะอาดได้ ง่ายดาย
- ช่วย ลดการสูญเสียความเย็นจากอุณหภูมิภายในห้องนั้น ๆ ที่นอกจากจะกันไม่ให้อะไร เล็ดลอด ก็ยังกันไม่ให้ออกด้วย

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ หรือข้อควรระวังในการใช้งาน
เหมาะกับการใช้เพื่อติดที่ขอบประตู หรือหน้าต่าง ที่จะช่วยป้องกันแมลง หรือฝุ่นละออง โดยที่ควรวัดระยะให้แน่ใจก่อนที่จะติดตั้งด้วย โดยต้องศึกษาข้อมูลการใช้งานอย่าง ครบถ้วน เลือกประเภทคิ้วขอบประตู หน้าต่างให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ทั้งนี้ มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ด้วยคือ
- ห้ามมีการใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็น สารกัดกร่อน หรือด่างมาทำความสะอาด ลดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์ เสียหาย
- ห้ามมีการ แก้ไข ดัดแปลง หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท เพื่อไม่ให้เกิด อันตรายตามมาได้
- ห้ามจัดเก็บใกล้ แหล่งความร้อน หรือความร้อนเด็ดขาด
- ควรนำไปจัดเก็บไว้ในที่แห้ง และ ห่างจากเด็ก สัตว์เลี้ยง

เพราะการใช้งานคิ้วกันแมลงเราจำเป็นต้องศึกษา ข้อเท็จจริงต่างให้ดี เพราะแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่ แตกต่าง ควรเลือกให้ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด ทั้งนี้ สำหรับยี่ห้อ DEXZON 14079 100 ซม. สีขาวจะมีราคาอยู่ที่ อันละ 150 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ ลดราคาลงเหลือ 119 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่า ราคาย่อมเยา ด้วยคุณภาพ รับรองว่าคุ้มค่าอย่างที่สุด เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจ ใครลองแล้วได้ผลลัพธ์ยังไงอยากมา แนะนำก็ทำได้เลยเรายินดีมาก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/DOW0104

20


หากคุณกำลังอยากได้ซีเมนต์ไว้ใช้งานให้เกิดประสิทธิผลเต็มที่ เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำให้รู้จักกับซีเมนต์กันซึม 2 ส่วน อย่างยี่ห้อ LANKO 226 ที่มีให้เลือกทั้ง 23 กก. และ 4.5 กิโลกรัม ด้วยคุณสมบัติที่เยี่ยมที่สุด ใช้งานแล้วไม่ผิดหวัง มาพร้อมราคาที่คุ้มค่า สำคัญสุดยิ่งซื้อเยอะยิ่งลดเยอะ แต่หากใครยังไม่มั่นใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเรามีมาแนะนำเหมือนเช่นเคย

คุณสมบัติซีเมนต์ LANKO 226 23 กก. คุ้มค่าเกินราคา 100%
สำหรับซีเมนต์กันซึม LANKO 226 23 กก. เป็นประเภททาผิว ฉาบพื้นผิว เหมาะสำหรับการฉาบ ทา หรือเอาไว้เคลือบเพื่อเป็นการป้องกันความร้อน รั่วซึม การซึมผ่านของน้ำ รวมถึงช่วยสมาน และป้องกันการแตกหักได้ดี ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ความยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะพื้นผิวต่าง ๆ ได้ดี เหมาะกับงานที่สัมผัสน้ำ หรือต้องการมีความเปียกชื้น อย่าง สระว่ายน้ำ ห้องสุขา พื้นระเบียง ทางเดินใต้ดิน ชั้นใต้ดิน หรือโรงงานขนาดใหญ่ โกดังเก็บของที่อาจจะเปียกน้ำ หรือมีฝนตก เป็นต้น

- มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยในการยึดเกาะพื้นผิวต่าง ๆ ได้ดี สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
- วัสดุนี้เหมาะสำหรับการฉาบ ทา หรือเคลือบ โดยที่จะสามารถทนต่อน้ำได้ดี เหมาะกับการป้องกันน้ำรั่วซึม  - รวมตัว และช่วยปกปิดร่องรอยการแตกร้าวได้ดี ผิวงานเกิดความเรียบเนียน สวยงาม
- มีความปลอดภัยสูงต่อผู้ใช้ ผู้พักอาศัยสูง ด้วยส่วนผสมที่ไม่มีสารพิษใด ๆ ทั้งสิ้น
- สามารถใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน แต่หากต้องการใช้ภายนอกควรมีวัสดุคลุมหน้า

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์ 
ในส่วนของวิธีการใช้งานปูนกันซึมก็จะเหมาะกับการทา หรือฉาบ เพื่อเป็นการป้องกันน้ำซึมได้ดี งานก่อสร้างพื้นฐาน โดยที่ควรทำความเข้าใจขั้นตอนการใช้ เพื่อให้ผสมในอัตราส่วนเหมาะสม และทำให้การทาถูกต้องที่สุด ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งนี้ มีข้อควรระวังในการใช้งานของผลิตภัณฑ์ด้วย คือ

- ห้ามดัดแปลง แก้ไข หรือนำวัสดุไปใช้งานผิดประเภท
- ห้ามเก็บใกล้ความชื้น ความร้อน เก็บให้เก็บให้พ้นจากเด็ก ทั้งนี้ต้องเก็บไว้ในที่แห้ง และบริเวณที่อากาศถ่ายเทดี
- หากมีอาการระคายเคืองจากการสัมผัส ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ คำแนะนำ หรือการใช้งานที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าคุณจะสามารถตัดสินใจซื้อซีเมนต์ LANKO 226 นี้ได้ดี โดยที่มีราคาประมาณ 775 – 799 บาท ยิ่งจะคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ด้วยคุณภาพสูงแบบนี้ รวมถึงยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งทำกำไรได้เยอะตาม เพราะ 1 set ราคา 799 บาท มากกว่าหรือเท่ากับ 10 เซ็ตจะมีราคาต่อชุดอยู่ที่ 755 บาท

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030601

21

ปัจจุบันรองเท้าบูทนั้นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่นอยู่เหมือนกัน รวมถึงสามารถเลือกความสูงได้ หนึ่งในนั้นคือความสูง 80 เซนติเมตร ที่ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก และหากคุณกำลังมองหารองเท้าบูทสูงความสูง 80 ซม. แต่ยังหาไม่ได้ ก็ต้อง DEXZON สีน้ำเงินนี้เลย ราคาคุ้มค่า

คุณภาพรองเท้าบูท DEXZON สีน้ำเงิน ราคาคุ้มค่าตอบโจทย์
สำหรับยี่ห้อ DEXZON มีความสูง 80 ซม. เป็นสีน้ำเงินสดที่มองแล้วโดดเด่น โดยที่เป็นยางคุณภาพดี เป็นรองเท้าบูทยางที่สวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง รวมถึงของเหลวมากมาย ไม่ว่าจะกรด ด่าง สารเคมีต่าง ๆ พร้อมป้องกันการลื่นไถล สามารถใช้งานได้ทั่วไปที่พื้นมีน้ำ หรือจะเหมาะกับฤดูฝน อย่าง สวน ไร่เกษตรกรรม งานเกษตรกรรม นา อุตสาหกรรม และงานทำความสะอาดต่าง ๆ

- ป้องกันน้ำไม่ให้สัมผัสเท้าได้ดี ไม่ว่าจะของเหลวต่าง ๆ น้ำ สารเคมี หรือสารปนเปื้อน
- ทำจากยางคุณภาพดี มีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่อสภาพน้ำ
- ป้องกันวัตถุแหลมคมได้ ด้วยพื้นหนา พร้อมกันลื่นได้ดี
- ในช่วงหน้าฝน ฝนตก หรือการทำงานในอุตสาหกรรม พื้นที่น้ำขัง โรงอาหาร เรือนเพาะปลูก

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวังในของผลิตภัณฑ์
สำหรับการใช้งานรองเท้าบูทยาว 80 ซม. DEXZON สีน้ำเงินก็จะใช้เพื่อสวมใส่เพื่อป้องกันสารเคมี น้ำ ของเหลวต่าง ๆ ที่พื้น โดยที่หลังจากมีการใช้งานเสร็จสิ้นแล้วให้นำไปผึ่งแดด หรือเก็บในที่มีอากาศถ่ายเท ทำให้แห้งโดยการให้ลมโกรก ทั้งต้องเลือกขนาดให้พอดีกับเท้า รูปร่าง ดูแลรักษาความสะอาด บำรุงรักษาอย่างถูกวิธี เป็นการยืดอายุการใช้งานได้ดี

ทั้งนี้ข้อควรระวังคือห้ามใช้สารเคมีที่เป็นกรด ด่างทำความสะอาด ห้ามเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือใช้งานในทางที่ผิด ห้ามเก็บใกล้เปลวไฟ ความร้อนสูง ควรเก็บในที่แห้ง พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และระมัดระวังของมีคม เพราะอาจจะทำให้รองเท้าเกิดความเสียหายได้ง่าย ๆ แบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องดี

ต้องบอกว่รองเท้าบูทยาว DEXZON สีน้ำเงิน ยาว 80 ซม. นี้ มีราคาคุ้มค่าอย่างมาก เพราะขายคู่ละ 500 บาท แต่หากซื้อออนไลน์เหลือ 299 บาท โดยมีเบอร์ให้เลือกตั้งแต่ ไซซ์ 39 เบอร์ 40 ไซซ์ 41 ไซซ์ 42 เบอร์ 43 เบอร์ 44 (ลองเทียบไซซ์ตามตาราง) ซึ่งก็หวังว่าคนที่กำลังมองหารองเท้าเช่นนี้เชื่อว่าจะทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมีประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020113

22

วันนี้เราจะมาแนะนำตาข่ายไฟเบอร์ที่คุณภาพดีที่สุด และเต็มไปด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการใช้งานที่ตอบโจทย์ เหนียวและแข็งแรงชนิดพิเศษที่ใคร ๆ ก็ต้องยอมไม่ขาดง่าย ราคาคุ้ม ๆ ไม่เปล่าประโยชน์ ซึ่งจะมียี่ห้อไหน มีความน่าสนใจอย่างไร เราไปลองดูรายละเอียดด้วยกันเพื่อการตัดสินใจซื้อใช้งานที่ง่ายมากขึ้น

4 ตาข่ายไฟเบอร์คุณภาพจัดเต็ม ราคาคุ้ม ๆ รีบซื้อใช้ดีที่สุด
1. BESBOND 5 CMX45เมตร สีขาว
ที่เป็นเนื้อเทฟเบอร์คุณภาพสูง มีความแข็งแกร่ง แข็งแกร่ง ติดแน่นและแข็งแรงไม่ฉีกขาด ไม่ทิ้งรอย ใช้ปิดรอยต่อ รอยแตกร้าว ป้องกันการแตกหักของพื้น งานงานมุมต่าง ๆ จะเป็นงานช่องว่างขนาดเล็ก มุงหลังคา งานคอนกรีต วัสดุผ้าใบ กระเบื้อง ทาสีทับได้เลย โดยที่มีราคา 260 บาท และหากซื้อออนไลน์ลดเหลือ 189 บาท

2. JBP 8 นิ้ว X 10 ม.
เทปตาข่ายไฟเบอร์ JBP ที่ใช้ไฟเบอร์ไฟเบอร์คุณภาพสูง แข็งแรง เหนียวแน่น และมีความแข็งแกร่งพิเศษ โดยที่แผ่นตาข่ายเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น ช่วยป้องกันการขยายตัวของรอยแตกร้าวได้ดี เพิ่มแรงยึดเกาะกับวัสดุทั้งกันซึม และพื้นผิว สามารถใช้งานในหลากหลายพื้นที่ โดยที่มีราคา 210 บาท แต่หากซื้อออนไลน์เหลือ 185 บาท

3. LANKO 1.2X6 ม. สีขาว
ต่อมาเป็นอีกยี่ห้อโดยที่จะผลิตจากไฟเบอร์กลาสอีกเช่นกัน รับแรงดึงมากกว่า 180 นิวตัน เนื้อเหนียว ช่วยป้องกันการแตกร้าวของพื้นผิวได้ดี การขายตัวของรอยแตกร้าว ทนทานต่อด่าง ช่วยปกปิดรอยที่แตกร้าวได้ตั้งแต่ขนาดน้อยกว่า 2 มิลลิเมตรเป็นอย่างดี โดยที่มีราคา 712 บาท แต่หากซื้อออนไลน์เหลือ 665 บาท

4. TOA 1 ม.X10 ม. สีขาว
ปิดท้ายที่ตาข่ายไฟเบอร์ TOA โดยตาข่ายก็จะมีความเหนียว ฉีกขาดยาก จะรอยแตก รอยต่อสามารถปกปิดได้ทั้งหมด หรือจะงานเข้ามุมสามารถปกปิดได้ดี เรียบเนียน เสริมแรงการกันซึม ปกปิดรอยแตกร้าวได้ดี หรือจะป้องกันรอยแตกร้าวของพื้นผิวได้ดี โดยที่มีราคา 940 บาท แต่หากซื้อออนไลน์ลดเหลือ 769 บาท หรือขนาด 8 นิ้ว x 10 เมตรก็มี ราคาอยู่ที่ 280 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 239 บาท ประหยัดไป 14%

หวังว่าในการซื้อใช้งานตาข่ายไฟเบอร์ของคุณจะช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น ด้วยคุณภาพที่จัดเต็มทำให้งานปกปิดรอย กันซึม หรือแม้แต่งานเข้ามุมผ่านไปได้ราบรื่นมากที่สุด ยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ก็ยิ่งได้ราคาถูกลงไปอีก ไม่ลองซื้อมาใช้ไม่ได้แล้วจริง ๆ

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030602

23

ในการใช้งาน เทปกาว นั้นมีหลากหลายรูปแบบและได้รับ ความนิยมมาก นอกจาก กันซึม ก็ยังมี “อลูมิเนียม” ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทว่ากาวประเภทนี้มีให้ ใช้งาน แตกต่างด้วย เผื่อว่าใครที่เพิ่งจะใช้งานและยังไม่เคยรู้มาก่อน เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำทั้ง ประเภทและการใช้ของแต่ละชนิด ว่าแล้วก็ไปติดตาม กันได้เลย เพราะเป็น เรื่องที่ต้องรู้ก่อนใช้!

5 ประเภทและการใช้งานของเทปอลูมิเนียม
1. LAS – A แบบเสริม  เป็นรูปแบบ เทปอลูมิเนียม ที่มีการ เสริมไฟเบอร์กลาส ซึ่งจะเสริม ด้านเดียวของฟอยล์อลูมิเนียม ที่มี ความหนา 7 – 30 ไมครอน และมักจะถูกใช้เพื่อ ผู้ที่ต้องการความแข็งแรงในตะเข็บ

2. LAS แบบมีกาวในตัว
เป็นอีกสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามกับ แบบมีเทปกาวในตัว โดยที่จะมี ฟอยล์ที่มีความหนา 30 – 50 ไมครอน โดยที่ ชั้นกาวที่ใช้ด้านหนึ่ง เพื่อ การคลุมอีกด้านเพื่อป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือว่าเป็นอีกประเภทที่ค่อนข้าง น่าสนใจมาก ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง

3. LAS – T เน้นเรื่องการทนความร้อน
นอกจาก เทปกาวกันรั่วซึม ก็ต้องแบบอลูมิเนียมเลย และ LAS – T ก็เป็นเทปอีกชนิดที่ทนความร้อนโดยที่ทำมาจาก ฟอยล์เดียวกัน อย่าง 30 – 50 ไมครอน ที่มีวัสดุความแข็งแรงสูง ทนทานต่อ UV และสภาพอากาศ สารเคมีได้ดี แต่ความพิเศษก็คือทนทานต่อความร้อน ใช้ในอุณหภูมิสูงได้มากกว่าตัวอื่นพอสมควร

4. LAS – P เน้นเรื่องความทนทาน
จะเป็นเทปแบบอลูมิเนียมที่เน้นความทนทาน โดยที่ทำจากวัสดุแบบหลายชั้นประกอบด้วยกัน ทั้ง ชั้นฟอยล์ที่มีความหนา 9 – 11 ไมครอน และ ฟิล์มโพลีเมอร์สองชั้นที่มีขนาด 20 um และ 60 um สำหรับการใช้งานกับสิ่งที่ต้องการเรื่องตัวช่วย เพิ่มความทนทาน พร้อม ยึดติดได้มีคุณภาพเป็นพิเศษ

5. LAS – SP แบบเคลือบโพลีเมอร์
สุดท้ายก็จะเป็นแบบเคลือบโพลีเมอร์ ที่ใช้ในการ ปิดผนึกกระจกและแก้ว ซึ่งจะเป็นวัสดุที่แตกหักง่ายเป็นพิเศษ ซึ่งเทปแบบนี้ก็จะเคลือบโพลีเมอร์ ถูกทำจากฟอยล์อลูมิเนียมที่มีความหนาสูงอย่างน้อย 50 ไมครอน ที่เคลือบโพลีเมอร์อยู่ที่ 20 ไมครอน พร้อม ยึดติด และคลุมเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างดี

และทั้งหมดนี้ก็เป็นประเภทและการใช้งานของ เทปอลูมิเนียม ที่เราอยากให้คุณได้ศึกษาก่อนเพื่อให้เข้าใจและสามารถใช้งานได้ ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ซึ่ง ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้งาน รุ่นมากมาย ลองเปรียบเทียบดู ยี่ห้อหรือรุ่นที่คุณคิดว่าตอบโจทย์ และต้อง คุ้มค่า เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดมาใช้งาน ไร้ปัญหาภายหลัง

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0301

24

อยากให้คุณได้ใช้บริการปั๊มจุ่มที่มีคุณภาพ และหากยังไม่รู้ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน อย่างไรดีนั้น เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำให้รู้จักกับ SUPER PUMP SSP-755SA 750 วัตต์ ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจเป็นปั๊มสำหรับน้ำสะอาดที่ยังมีวิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังให้ได้ศึกษาแบบจัดเต็ม แอบบอกว่าราคาสบายกระเป๋าโดยเฉพาะซื้อผ่านออนไลน์

คุณสมบัติปั๊มจุ่มยี่ห้อ SUPER PUMP SSP-755SA 750 วัตต์
สำหรับปั๊มไดโว่ยี่ห้อ SUPER PUMP SSP-755SA 750 วัตต์ ที่ช่วยให้การสูบและจ่ายน้ำง่ายมากกว่าเดิม โดยมาจากยี่ห้อ SUPER PUMP ที่ตัวปั๊มทำจากสเตนเลสชนิด SUS304โดยยังมีพลาสติกวิศวกรรมทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี น้ำหนักเบากว่าเหล็กหล่อ ทั้งออกแบบใช้งานง่าย ขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ต่อการติดตั้งใช้งาน ใช้ในการระบายน้ำท่วมขังของพื้นที่จำกัดได้ จะจ่ายน้ำเพื่อการตกแต่ง หรือชั้นใต้ดิน โรงรถ หรือใช้ในการจ่ายน้ำเพื่อการตกแต่งสวนก็ได้ อย่างน้ำตก น้ำพุ บ่อปลา ฯลฯ ที่ต้องมีระดับน้ำสูงท่วมตัวปั๊ม
-พื้นผิวสัมผัสทำจากคาร์บอนและเซรามิกรวมถึงซิลิคอนคาร์ไบด์ที่อุปกรณ์ป้องกันขดลวดร้อนไม่ทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ง่าย ๆ แม้ใบพัดจะถูกล็อคอยู่ก็ตาม
- ใช้สเตนเลสสตีลที่ตัวปั๊ม และพลาสติกวิศวกรรมที่ไม่ทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย ๆ และน้ำหนักก็ค่อนข้างเบากว่าเหล็กหล่อไปอีก
- มีลูกลอยทำให้ปั๊มหยุดทำงานเองหากน้ำมีระดับต่ำ เป็นการป้องกันไม่ให้มอเตอร์เสียหายจากการทำงานในระดับน้ำต่ำ
- มีการรับประกันสินค้า 1 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน
วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่มี
สำหรับวิธีการใช้งานไดโว่นั้นก็จะใช้ด้วยการจุ่มลงในแหล่งน้ำเป็นการดูด หรือสูบน้ำ และควรใช้กับน้ำที่สะอาดเท่านั้น โดยแนะนำว่าให้ศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ที่มีก่อนใช้งาน เพื่อให้ใช้อย่างถูกวิธี ถูกขั้นตอน เลือกขนาด และประเภทสินค้าให้เหมาะสมมากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ทั้งนี้ มีข้อควรระวังด้วย คือ
- ห้ามมีการปรับเปลี่ยนแก้ไข หรือใช้งานสินค้าแบบผิดประเภท
- ห้ามจัดเก็บใกล้เปลวไฟหรือความร้อน
- จัดเก็บในพื้นที่แห้ง และต้องพ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง
-ถอดปลั๊กโดยผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้นอย่าจับที่สายไฟ
- ห้ามใช้งานกับอุปกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานและห้ามใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรดด่างมาทำความสะอาด
- ห้ามขยับหรือดึงสายไฟขณะหย่อนปั๊มลงน้ำ หรือเปิดการใช้งานระหว่างนั้นเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าจริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่กับปั๊มจุ่มแต่กับอุปกรณ์อื่นด้วย ควรมีการติดตั้งระบบกราวด์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งปั๊มยี่ห้อ SUPER PUMP SSP-755SA 750 วัตต์นี้แอบบอกว่าราคาสบายกระเป๋า อยู่ที่ 9,790 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 7,650 บาท

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0604

25

เพื่อให้การใช้งานแผงโซล่าเซลล์ของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด การที่พิจารณาบางสิ่งก่อนการติดตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ หากพิจารณาแล้วว่าการติดตั้งเหมาะสม ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างดีที่สุด อย่างนั้นเรามาดูรายละเอียดที่ควรพิจารณาก่อนติดตั้งกันเถอะ

จำเป็นต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เสมอ
1. ต้องรู้ถึงค่าใช้จ่ายก่อน
การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ควรเปรียบเทียบข้อมูลค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น การติดตั้งที่กำลังวัตต์ 1000 วัตต์ จะมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 25,000 ถึง 35,000 บาทซึ่งรวมทุกค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าขออนุญาตติดตั้งและค่าบริการติดตั้ง ทั้งนี้ การติดตั้ง 1 กิโลวัตต์ หรือ 1000 วัตต์ สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ระหว่าง 500 ถึง 800 บาทต่อเดือนคุณควรตรวจสอบว่า ลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ราคานี้แล้วคุ้มค่าหรือไม่

2. ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง 3 เดือน – 1 ปี
อย่าลืมคำนวณการใช้ไฟฟ้าของบ้านจากบิลค่าไฟย้อนหลัง 3 เดือน – 1 ปี เพื่อรู้ว่าบ้านของท่านใช้ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน การตรวจสอบนี้ช่วยให้คุณ ๆสามารถตัดสินใจติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยกำลังผลิตที่เหมาะสม

3. สำรวจพื้นที่ติดตั้งและการยื่นเรื่องขออนุญาต
การสำรวจพื้นที่และการขออนุญาตติดตั้งเป็นขั้นตอนสำคัญ ต้องไปที่สำนักงานเขตโยธาท้องถิ่นเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ส่งวิศวกรมาตรวจสอบว่าหลังคาพร้อมสำหรับการติดตั้งหรือไม่ หรือมีการซ่อมแซมหรือเตรียมการเพิ่มเติมหรือไม่ และต้องยื่นเรื่องขออนุญาตการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวงในเขตพื้นที่ของบ้าน นอกจากนี้ต้องติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานด้วย

4. เริ่มติดตั้งแผงได้เลย
เมื่อเริ่มการติดตั้ง ต้องเลือกทีมงานที่มีความชำนาญ เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีประวัติการติดตั้ง และอาจจะมีรีวิวให้ดู หรือเคยรับงานมามากแล้วก็จะดี ต้องเลือกใช้อินเวอร์เตอร์ที่มีคุณภาพ และเลือกโซล่าเซลล์และรุ่นของแผงที่เหมาะสมด้วย และทันทีที่ช่างมาติดตั้งก็ต้องตรวจสอบสิ่งที่ช่างแนะนำก่อนหน้านี้กับอุปกรณ์จริง แต่ไม่ต้องกังวลหากไม่แน่ใจ เหตุเพราะมีทีมวิศวกรจากเขตโยธาท้องถิ่นมาตรวจสอบอีกครั้งว่าสิ่งที่ติดตั้งได้มาตรฐาน

หลังจากที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แล้ว ต้องดูแลรักษาอย่างดีเพื่อตรวจสอบความมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด ปกติแล้วการใช้งานจะมีอายุประมาณประมาณ 25 ปีหรือหากได้รับการดูแลรักษาอย่างดีสามารถใช้งานได้นานกว่า 30 ปี เพราะฉะนั้นคุณ ๆอาจต้องพิจารณาคำนวณว่าการติดตั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ จากปัจจัยต่าง ๆ ที่มี

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/ELT0802

26


เมื่อกล่าวถึงหน้ากากอนามัยแล้วนั้นปัจจุบันมีรุ่นหลากหลายและหนึ่งในนั้นคือแบบป้องกันฝุ่นที่ถือว่าเป็นอีกเครื่องมือที่จำเป็นอย่างยิ่งมาก ๆ แต่กระนั้นบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจคิดว่าหน้ากากแบบไหนก็ไม่มีความแตกต่างจริง ๆ แล้วเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเหตุผลที่สำคัญของหน้ากากประเภทนี้ พร้อมแนะนำรุ่นที่น่าลองให้เพิ่มเติมด้วยเลย

ความสำคัญของหน้ากากกันฝุ่นแบบป้องกันฝุ่นที่ควรรู้
สำหรับหน้ากากกันฝุ่นนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อสวมใส่ครอบทั้งจมูกและปาก เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ ไปจนถึงไอระเหย สารเคมี เชื้อไวรัส แบคทีเรียที่อาจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เหมาะกับใช้ในงานงานสร้างโรงงานอุตสาหกรรม งานเกษตรกรรม สถานที่ก่อสร้าง งานซ่อมบำรุง สำนักงาน งานทำความสะอาด ที่อยู่อาศัย ต้องมีพกติดตัวไว้ในยามจำเป็น

ซึ่งมีวางจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปหาซื้อได้ง่ายและมีหลากหลายการป้องกันที่ได้มาตรฐาน เช่นแมสกันฝุ่นพร้อมชั้นกรองคาร์บอน หน้ากากพัดลมป้องกันฝุ่น หน้ากากช่วยกันฝุ่นแบบเส้นใยไฟฟ้าสถิต หน้ากากแบบเปลี่ยนไส้กรอง เป็นต้น แต่ละชนิดก็จะช่วยให้การสวมใส่ใช้งานสะดวกกระชับพอดีหน้า สวมใส่สบายกับการคล้องหู หรือคาดศีรษะ พับเก็บง่าย พกพาไปไหนง่าย และบางประเภทก็ใช้ซ้ำได้ด้วย

แนะนำผลิตภัณฑ์แมสกันฝุ่นน่าลองใช้งาน
ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีแมสปิดปากแบบกันฝุ่นหลากหลายแบรนด์มาก และเราก็จะมาแนะนำกับยี่ห้อที่น่าลองใช้งาน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีต่อตัวเอง

-หน้ากากผ้าป้องกันฝุ่นยี่ห้อ M1 รุ่น K7 สีดำ สวมใส่ใช้งานมั่นคงไม่อึดอัด ไม่อับชื้น ระบายอากาศได้ดี ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ราคาชิ้นละ 109 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 89 บาท

-หน้ากากช่วยกันฝุ่นPM 2.5 FITTY 7DAYS EX ธรรมดา ทำขึ้นรูปจากเส้นใยโดยตรง ฉีกขาดยาก มีตัวกรอง 3 ชั้น ป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือฝุ่นละอองอื่น ๆ ได้ไม่เกิน 25 ไมครอน ราคาแบบแพ็ก 7 ชิ้น ที่ 99 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 79 บาท

-หน้ากากกันฝุ่นELEGANCE EG-35SV สวมใส่ได้ไม่อึดอัด กระชับหน้าดี ระบายอากาศดี ไม่มีอับชื้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ มีวาล์วช่วยระบายอากาศได้ดี สายคล้องหูเกี่ยวแน่น นุ่ม ไม่ระคายเคือง ราคาอันละ 50 บาท แต่หากซื้อผ่านอนไลน์ลดเหลือ 27 บาท ถือว่าคุ้มค่ามาก

หน้ากากอนามัยถือว่ายังคงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันด้วยฝุ่น มลพิษทางอากาศไปจนถึงไวรัส แบคทีเรียต่าง ๆ ที่มีมากขึ้น ดังนั้นการดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หวังว่าการเลือกซื้อใช้งานของคุณจะมีคุณภาพ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020106

27

ด้วยสภาพอากาศในประเทศไทยเรามีทั้งฝุ่นละออง PM 2.5และควันพิษที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้งานเครื่องฟอกอากาศจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาทางอากาศได้ เพื่อลดมลพิษกำจัดเชื้อโรคภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม เราอยากจะให้ทุกคนเข้าใจในการใช้งานมากขึ้น จึงอยากมาแนะนำการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและการดูแลรักษาทำความสะอาดแบบง่าย ๆ กัน

เครื่องฟอกอากาศกับวิธีการทำงานที่ควรรู้
สำหรับเครื่องกรองอากาศนั้นมีหน้าที่หลัก ๆ คือช่วยกรองอากาศที่มีในบริเวณนั้น ๆ ได้อย่างดี ทำให้บ้าน หรือที่นั้น ๆสะอาดโดยที่เครื่องแต่ละรุ่นก็จะมีเทคโนโลยีการทำงานที่แตกต่างกัน แต่หลักการทำงานโดยทั่วไปก็จะมีเป็น
-ระบบกรองที่มีความสามารถในการขจัดฝุ่นและสารที่เป็นอันตรายหลากหลายชนิดออกจากอากาศ
- ระบบการทำงานของเครื่องจะขจัดกลิ่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในอากาศได้ดี
- แล้วก็จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา

ทั้งเครื่องบางประเภทเช่นเครื่องฟอกอากาศ Sharpก็ยังมีการทำฟังก์ชันเพิ่มเติมด้วย อย่างการกำจัดเชื้อไวรัสการกำจัดความชื้นในอากาศหรืออุปกรณ์ที่ทำให้อากาศสดชื่น

วิธีการบำรุงรักษาและการทำความสะอาดแบบง่าย ๆ ในส่วนของการดูแลรักษาก็ทำตามได้ง่าย ๆ เริ่มต้นจากการทำความสะอาดที่ควรทำทุกสัปดาห์ ด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดแล้วเช็ดโดยชิ้นส่วนพลาสติกควรใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ด ส่วนช่องที่ระบายอากาศเพราะฝุ่นจะเข้าไปเกาะสะสมฟุ้งกระจายได้ง่าย

ทั้งนี้ ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเมื่อถึงเวลา โดยอายุการใช้งานก็จะอยู่ที่ 6 เดือน จนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่ามีฝุ่นมากน้อยแค่ไหน การเปลี่ยนฟิลเตอร์ที่หมดอายุก็จะช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ Sharpได้อย่างดี ส่วนการทำความสะอาดแบบง่าย ๆ ก็แค่
- ก่อนที่จะทำความสะอาด ไม่ว่าจะยี่ห้อใด
เครื่องฟอกอากาศ Philips
หรืออื่น ๆ ควรถอดปลั๊กเครื่องทุกครั้งเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
- เอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อทำความสะอาดภายนอก
-ทำความสะอาดแผ่นกรองด้วยการทำความสะอาดฝุ่นคราบสกปรกต่าง ๆ ออกควรเปลี่ยนตามระยะเวลา3 – 6 เดือน
-ทำความสะอาดถาดกรองเป็นประจำ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆเช็ดและทำความสะอาดทันที

และทั้งหมดนี้ก็เป็นการทำงานวิธีการทำความสะอาดและการดูแลรักษาแบบง่าย ๆ เครื่องฟอกอากาศที่เรารวบรวมมาแนะนำ เพื่อให้เกิด

ความเข้าใจและสามารถใช้งานเครื่องมีประสิทธิภาพยืดอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่เสียเงินใหม่บ่อย ๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/SMA0301

28


เผื่อว่าใครที่กำลังมองหา"เครื่องฟอกอากาศพกพา" แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกชนิดไหนดีเรามาพร้อมที่จะแนะนำแบบเน้น ๆ ให้ให้ลองตัดสินใจหากซื้อออนไลน์ก็จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะให้ด้วยส่วนจะมียี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้างเราจะพาคุณมารู้จักอย่างละเอียดถี่ถ้วน

เครื่องฟอกอากาศพกพาประสิทธิภาพสูง ใช้งานสะดวก ราคาดีสุด
ต้องไม่อาจปฏิเสธว่าปัจจุบันเกิดมลภาวะภายในอาคารมากมาย ซึ่งเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการใช้ชีวิตในอาคารเพิ่มขึ้น การทำงานการอยู่ภายในอาคารก็อาจจะทำให้เกิดการสะสมของสารมลพิษ มลพิษ หรือกลิ่นที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทำให้ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมภายใน โดยที่ "เครื่องฟอกอากาศพกพา" ก็จะเป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบันหากคุณกำลังสับสนในการเลือกซื้อเราไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาเป็น เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ที่ใช้งานสะดวกราคาดีสุด ๆอย่างแน่นอน
1. เครื่องฟอกส่วนบุคคล ป้องกันฝุ่น PM2.5 bebekare
สำหรับ "เครื่องฟอกอากาศพกพา" ป้องกันฝุ่น PM2.5 bebekareสามารถกรองมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไปจนถึงมลพิษภายในอาการที่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้อาการคัดจมูก แบคทีเรียมลพิษทางอากาศ เชื้อรา ฝุ่นละออง ฟอร์มัลดีโฮด์ หรือฝุ่น PM 2.5ไม่มีสารเคมีอันตราย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย กลไกของเครื่องปล่อยประจุลบที่มีประสิทธิภาพสูงต่อเนื่องทุกวินาที ไม่มีเสียงง่ายต่อการใช้งานเพียงกดปุ่ม 2 วินาทีก็ได้รับอากาศบริสุทธิ์แล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 4,490 บาท แต่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ลดเหลือ 1,399 บาท

2. เครื่องฟอกแบบพกพา PURI AIR SMARTLINK
เครื่องฟอกอากาศห้อยคอ ที่มีเทคโนโลยีกรองอากาศ 3 ขั้นตอนที่ทำให้การกรองอากาศดีขึ้น และกำจัดเชื้อโรค โดยที่มีการกรองแบบ HEPA+ ที่เชื่อถือได้ มีเทคโนโลยีแผ่นกรองถ่านกัมมันต์ และมีพลังงานไอออนไนซ์ ช่วยดักจับสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ อย่างเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรียละอองเกสรกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่กรองได้ถึง 99.7% โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4,590 บาท แต่หากซื้อออนไลน์ลดราคาถึง 50% เหลือ 2,295 บาทเท่านั้น

3. เครื่องฟอกแบบพกพา AIRDOG Mini
โดยที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการกรองอากาศที่กรองอากาศให้บริสุทธิ์ และฆ่าเชื้อโรคได้ดีที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรอง มาพร้อมการทำงาน 3 ขั้นตอน คือการฟอกแบบม่านไฟฟ้า ชั้นฟรีฟิลเตอร์ชั้นกรองฝุ่นละออง ซึ่งมีพรีฟิลเตอร์ หรือชั้นกรองอนุภาคใหญ่รวมด้วยสามารถกรองฝุ่นละอองได้ดี เส้นผมใยสังเคราะห์ ขนสัตว์ได้ดีราคาอยู่ที่ 10,900 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 9,999 บาทลดไป 8% ทันที

และทั้งหมดนี้ก็เป็น "เครื่องฟอกอากาศพกพา" ที่ขนาดเล็กกะทัดรัดทำให้การใช้งานง่าย มีหลากหลายรุ่นให้เลือก และยังมีราคาประหยัดกว่าเดิมหากซื้อผ่านออนไลน์ ของดีแบบนี้พลาดแล้วจะเสียใจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/SMA0306

29


การใช้งานเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ปัจจุบันก็ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยสภาพอากาศที่ควรสดชื่น ไม่มีมลพิษทางอากาศใด ๆ มาทำร้ายสุขภาพ และหากใครที่ยังยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ยี่ห้อไหนก็ตาม เรามีมาแนะนำกับ GMAX AP-005 ดำ ซึ่งจำหน่ายในราคาพิเศษเฉพาะบนออนไลน์ ซึ่งจะมีฟังก์ชันการใช้งานเป็นยังไงบ้าง น่าสนใจขนาดไหนมาดูกันเลย

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ GMAX AP-005 ดำ คุณสมบัติโดดเด่น 
เครื่องฟอกอากาศในรถ GMAX AP-005 ดำ สามารถช่วยส่งมอบอากาศบริสุทธิ์ภายในรถยนต์ได้ดี โดยที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถจัดวางในจุดต่าง ๆ ของรถได้ตามต้องการ ไม่กินพื้นที่ใช้สอย ช่วยกรองอากาศได้รอบทิศทาง 360 องศา มีแผ่นกรองแบบ HEPA ที่จัดการฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควัน มีไอออนลบที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศให้ตกลงพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำความสะอาดง่ายสุด ๆ สามารถนำไปใช้งานที่โต๊ะทำงานได้ด้วย ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน 15 ตารางเมตร ยังปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับด้วยกัน ช่วยฟอกอากาศได้เร็วขึ้น เสียงทำงาน 45 เดซิเบล ทั้งยังมีช่องใส่สำลีหยดน้ำหอมเพิ่มความสดชื่นได้ดี

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวัง และเงื่อนไขรับประกันสินค้า
เริ่มต้นการใช้งานโดยนำที่ชาร์จไฟเสียบเข้ากับช่องที่จุดบุหรี่ในรถ จากนั้นก็เสียบสาย DC USB เข้าตัวเครื่อง โดยที่เปลี่ยนไส้กรองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศได้ดีมากขึ้น โดยที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 3 – 6 เดือน ซึ่งยังมีเงื่อนไขการรับประกันสินค้าด้วยคือ
- ระยะเวลารับประกัน 1 ปี นับจากวันที่ลูกค้ารับสินค้าไปใช้งานแล้ว
- กรณีที่สินค้าเกิดความชำรุดไม่ว่าจะจากการผลิต จากขนส่ง ผิดรุ่น หรือได้สินค้าไม่ครบถ้วน คุณจำเป็นต้องแจ้งภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับสินค้า
- ในการขอเคลมสินค้าต้องมีหลักฐานเป็นวิดีโอที่ถ่ายตอนแกะกล่องสินค้า

อย่างไรก็ดี ในการใช้งานสินค้าประเภทนี้ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือ หากสินค้ามีการชำรุด เสียหาย ไม่ควรใช้งานอยู่ แต่ต้องติดต่อ หรือปรึกษาเพื่อทำการซ่อมแซม และห้ามมีการดัดแปลงสินค้า แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภทเป็นอันขาด โดยที่มีราคาอยู่ที่เครื่องละ 2,398 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 1,699 บาทเท่านั้น

เรียกได้ว่าเป็นอีกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กับยี่ห้อ GMAX AP-005 ดำ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นมาก ๆ โดยที่มีราคาคุ้ม ๆ โดยเฉพาะราคาพิเศษผ่านออนไลน์ โดยที่นอกจากราคาก็ยังมีเงื่อนไขการรับประกันที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกซื้อ และหากใครซื้อมาใช้งานแล้วได้ผลลัพธ์ยังไงสามารถแชร์ประสบการณ์การใช้งานให้เราทราบได้ เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/SMA0305

30


ปัจจุบันแผ่นกรองอากาศมีให้เลือกหลากหลายมาก ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นฟิลเตอร์อากาศ ระบบฟิลเตอร์กรองอากาศได้ด้วย ทว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน ต้องการทราบรายละเอียดให้มากขึ้น เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมรายละเอียดของระบบฟิลเตอร์ ประเภทที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมีให้ศึกษา หลากหลายชนิดทำให้การใช้งานตอบโจทย์สุด
ระบบฟิลเตอร์ ประเภทของแผ่นกรองอากาศในปัจจุบัน
1. แผ่นกรองแบบละเอียด
ที่จะทำหน้าที่กรองฝุ่นขนาดเล็ก ๆ และสามารถติดตั้งกับเครื่องปรับอากาศได้ ที่ไม่เพียงแต่กรองฝุ่นก็ยังช่วยดักจับเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียไปอีก ทั้งนี้ สำหรับอายุการใช้งานก็จะอยู่ที่ 3 – 6 เดือน แล้วแต่สภาพการใช้งาน ไม่สามารถนำมาล้างทำความสะอาด แต่ก็ควรเปลี่ยนทันทีที่อายุการใช้งานหมดแล้ว เพื่อการทำงานที่ดีที่ดีต่อตัวคุณเอง

2. แผ่นกรองหยาบ
เป็นประเภทกรองที่จะช่วยกรองฝุ่นอนุภาคขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ โดยที่วัสดุนั้นได้พลาสติกที่มีความทนทาน เหนียวมาใช้ร่วมด้วย โดยที่ส่วนมากก็จะใช้ในส่วนของแผงคอยล์เย็น อายุการใช้งานก็ถือว่านานมาก ใช้งานได้ยาวนานอย่างมาก สามารถนำมาล้างทำความสะอาดได้เลย

3. แผ่นกรองแบบไฟฟ้าสถิต
แผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศประเภทต่อมาก็จะใช้งานแบบพรีเมียม โดยจะจับอนุภาค + และอนุภาค - ในอากาศ โดยที่จะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ดี เยี่ยมกว่าแผ่นกรองอื่น ๆ โดยที่อายุการใช้งานก็ยาวนานแบบที่ลืมไปเลยว่ามีเป็นส่วนประกอบด้วย ซึ่งประเภทแผ่นกรองนี้ก็จะไม่สามารถถอดออกมาได้

4. แผ่นกรองกลิ่น
คุณสมบัติของแผ่นกรองกลิ่นก็จะเป็นตามชื่อคือมีหน้าที่ดักจับมลภาวะต่าง ๆ ทั้งผงถ่าน คาร์บอน ที่สามารถกรองกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้มีกลิ่นเหม็น ปราศจากควัน บางยี่ห้อก็มีฟังก์ชันพิเศษมากขึ้นไปอีกโดยการเพิ่มการทำงานที่พร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดีไปอีก

อย่างไรก็ตาม เผื่อว่าใครที่ไม่มั่นใจว่าจะซื้ออะไรดี เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำแผ่นกรอง ไส้กรองอากาศให้แบบคร่าว ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอก HATARI RAP-1202, เครื่องฟอก ASTINA AP-A400W, เครื่องฟอก PHILIPS FY0194/30 AC0820, เครื่องฟอก SHARP FZ-G60DFE, เครื่องฟอก HONEYWELL HEPA PREMIUM, เครื่องฟอก HONEYWELL HEPA+HISIV I8/I9 และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ยังไงก็ลองเลือกดูเทียบความคุ้มค่ากันได้ ราคาย่อมเยา ยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งถูกกว่าเดิม

ถือเป็นความน่าสนใจอย่างมากกับแผ่นกรองอากาศของเราที่ปัจจุบันมีหลากหลายมาก เมื่อได้รู้ได้ศึกษากันไว้ก็จะช่วยให้การใช้งานตอบโจทย์คุ้มค่ามากที่สุด กระนั้นก่อนจะใช้งานก็อย่าลืมศึกษาวิธีการใช้ คำแนะนำ ไปจนถึงคำเตือนต่าง ๆ ที่ควรระวังให้ละเอียด เพื่อยืดอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/SMA0309

31


หากว่าใครที่กำลังจะใช้งานแผ่นกรองอากาศแต่ก็ยังมีความลังเลใจ ยังตกลงใจสั่งซื้อไม่ได้ อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับเคล็ดลับการใช้งาน และวิธีเก็บรักษาที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น แล้วจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ลองไปศึกษารายละเอียดพร้อม ๆ กันดีกว่า รับประกันว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
วิธีการใช้งานแผ่นกรองอากาศ ที่ต้องทำความเข้าใจ
1. การใช้งานแผ่นกรอง
ด้วยความที่แผ่นกรองนี้จะมีอายุการใช้งานจำกัด โดยที่สามารถวัดได้จากระยะการใช้งานที่ไม่เท่ากัน มีทั้ง Pre Filter ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อม Pre Filter ไม่เกิน 1 W.G. ประมาณ 3 – 6 เดือนในสภาวะปกติ, HEPA/ULPA Filter ที่ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อมไม่เกิน 2W.G. หรือประมาณ 1 ปี (12 เดือน), Medium Filter ที่ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อมไม่เกิน 1.5 W.G. หรือ 6 – 12 เดือน
2. การติดตั้งแผ่นกรอง
ในส่วนของการติดตั้งแผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศควรต้องทราบเกี่ยวกับสภาพโดยตรงตรวจสอบให้อยู่ในความสมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ปกติ อย่างโครงสร้างเฟรมแผ่นกรองที่ไม่หักงอ หรือเสียหายชำรุด เนื้อกรองต้องยึดติดเฟรมที่แน่น ไม่มีรอยฉีก ชำรุด และไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ทั้งปะเก็นต้องยึดติดกับตัวเฟรมที่แน่นไม่หลุดออก ปะเก็นก็ต้องมีคุณภาพพร้อมใช้งาน

ก่อนจะเปลี่ยนก็ต้องปิดเครื่องแผ่นกรองก่อน ถอดรื้อแผ่นกรองอากาศเดิมออก ทำความสะอาดที่ Housing ติดตั้ง นำแผ่นกรองอากาศใหม่ที่ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ติดตั้งไว้อย่าให้มือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ สัมผัสเนื้อกรองที่อาจทำให้เสียหายทำให้การกรองประสิทธิภาพลดน้อยลง ล็อคหรือยึดแผ่นกรองให้เรียบร้อย พร้อมตรวจสอบความแข็งแรง ไร้รอยรั่ว

แนวทางการเก็บรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานแผ่นกรอง
ในส่วนของการเก็บรักษาไส้กรองอากาศเพื่อยืดอายุการใช้งานนั้นก็เป็นข้อสำคัญและควรต้องมีการศึกษาแนวทางเอาไว้บ้าง โดยมีด้วยกันคือ
-    แนะนำให้เลือกบำรุงรักษา Pre Filter ให้ตรงตามคำแนะนำ เพื่อให้ส่วนอื่น อย่าง Medium, Filter และ HEPA Filter มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นกว่าเดิม
-    หากไม่ต้องการให้แผ่นกรองเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ไม่ควรเก็บแผ่นในสถานที่ที่ความชื้นสูง หรืออุณหภูมิสูง
-    ควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแผ่นกรองที่ใช้งานร่วมกัน เพื่อให้คงสภาพการใช้งาน
-    ไม่ควรย้ายแผ่นกรองโดยไม่จำเป็นเนื่องด้วยโครงสร้างเฟรม หรือเนื้อกรองจะเสียหายได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ก็มีส่วนในการเก็บรักษา หรือยืดอายุใช้งาน อย่าง ปริมาณความเข้มของฝุ่นที่มีมากอายุการใช้งานของแผ่นกรองอากาศก็จะสั้นกว่า แต่ละสถานที่ก็จะมีฝุ่นแตกต่างกัน อายุการใช้งานในแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันตามไปด้วย ฤดูกาลก็สำคัญ อย่างฤดูฝนปริมาณฝุ่นก็จะน้อยกว่าเนื่องด้วยน้ำมาชะล้างลงสู่พื้นดิน ส่วนฤดูหนาวก็จะมีอากาศแห้งแล้ง ฝุ่นก็จะมาก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/SMA0309

32


ในปัจจุบัน การเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆไม่เคยง่ายเพียงนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอกับปัญหาฉุกเฉินในกลางดึก หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยงในเวลาที่สะดวกสบาย "Pet Pob Pad" มีบริการ สัตวแพทย์ ออนไลน์ และ หมอสัตว์ ออนไลน์ ที่พร้อมให้บริการคุณ ๆได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สัตวแพทย์ ออนไลน์ ผ่าน "Pet Pob Pad" ถูกออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าถึงการรักษาและคำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย คุณสามารถเลือกสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญตามชนิดของสัตว์หรืออาการป่วยที่พบเจอได้ทันที พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบคะแนนรีวิวจากผู้ใช้งานรายอื่นเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ไม่ว่าท่านจะต้องการแชทกับ หมอสัตว์ ออนไลน์ เพื่อถามคำถามเบื้องต้น หรือเลือกใช้บริการวิดีโอคอลเพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจสอบอาการแบบสดๆ "Pet Pob Pad" ก็มีบริการที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการติดต่อที่คุณต้องการ ทั้งนี้ยังเปิดให้บริการ หมอสัตว์ 24 ช.ม. จึงไม่ต้องกังวลเมื่อต้องพบเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิด

นอกจากนี้ "Pet Pob Pad" ยังเป็นชุมชนสำหรับคนรักสัตว์ที่เต็มไปด้วยสาระความรู้และบทความที่มีประโยชน์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ร่วมกับผู้อื่นได้ผ่านฟอรั่มที่หลากหลาย พร้อมรับข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคนรักสัตว์กับเรา พร้อมรับการดูแลที่ดีที่สุดจาก หมอสัตว์ ออนไลน์ ที่คุณวางใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับ "Pet Pob Pad"!

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.petpobpad.com และเตรียมพบกับแอปพลิเคชันของเราเร็วๆ นี้ รองรับทั้ง iOS และ Android เพื่อให้การดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆเป็นเรื่องที่และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

Webstie : https://www.petpobpad.com
E-Mail : info@petpobpad.com
Mobile : 082-489-2251

33


ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเลือกหาแบรนด์ไหนรุ่นไหนดี เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาให้คุณเลือกสรรตามใจ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่การันตีความสมบูรณ์แบบ เลือกซื้อเลือกหาใช้งานได้เหมาะสม ได้เสื้อผ้าซักสะอาด แถมประหยัดพลังงานไปอีก ซึ่งหากท่านไหนอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเราก็มีมาแนะนำอย่างละเอียด
4 เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบน รุ่นใหม่ล่าสุดที่ควรซื้อใช้งาน
1. แบรนด์ SAMSUNG รุ่น WA12CG5441BYST 12 กิโลกรัม อินเวอร์เตอร์
เครื่องแรกที่อยากนำเสนอมาก ๆ ก็ต้องเครื่องซักผ้าฝาบน SAMSUNG WA12CG5441BYST 12 กก. อินเวอร์เตอร์ โดยที่มี Eco Bubble พร้อมเปลี่ยนน้ำยาซักผ้าให้กลายเป็นฟอง ทำให้การซักทำความสะอาดมีความทรงพลังและประสิทธิภาพสูง โดยที่มีระบบทำงานไร้เสียงรบกวนอย่าง Digital inverter ทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า มีระบบ Deep Softener เพิ่มประสิทธิภาพน้ำยาปรับผ้านุ่ม ผ้าหอมยาวนาน โดยที่มีราคาจำหน่ายเครื่องละ 14,990 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 7,890 บาท
2.  แบรนด์ TOSHIBA รุ่น TW-T21BU105UWT(MG) 9.5 กก. 1200RPM อินเวอร์เตอร์
ต่อมาเป็นแบรนด์ TOSHIBA รุ่น TW-T21BU105UWT(MG) 9.5 กิโลกรัม 1200RPM อินเวอร์เตอร์ ที่ทำงานเงียบมาก ประหยัดไฟมาก ๆ ประสิทธิภาพการซักผ้ามีสูง โดยที่มี Great Steam เป็นโปรแกรมฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ ที่ลดการสะสมของแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ผ้าสะอาดมากขึ้น ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของผงซักฟอกได้ดี ทำให้การขจัดคราบฝังลึกดีมากยิ่งขึ้น ราคาจัดจำหน่ายที่ 13,990 บาท เลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 13,490 บาทเท่านั้น
3. แบรนด์ LG รุ่น FV1411H2BA 11/7 กิโลกรัม 1400RPM อินเวอร์เตอร์
เครื่องซักผ้าฝาหน้าอีกรุ่น โดยที่เป็นของ LG เน้นระบบซักถนอมผ้าอัจฉริยะ ที่ทำการตรวจสอบชนิดผ้าและทำการเลือกการหมุนถังได้เหมาะสมกับผ้ามากที่สุด ซึ่งก็ยังมี Auto Dosing ระบบจ่ายน้ำยาซักและน้ำยาปรับที่เป็นรูปแบบอัตโนมัติ สะดวก ประหยัดเวลาสุด รวมทั้งมีระบบการซัก 6 Motion Hand Wash ที่ทำให้การซักสะอาดหมดจด ราคาจำหน่าย 37,900 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 24,300 บาท
4. แบรนด์ ELECTROLUX รุ่น EWF9024P5WB 9 กิโลกรัม อินเวอร์เตอร์
และยี่ห้อสุดท้ายที่อยากแนะนำก็ต้องนี่เลย ELECTROLUX EWF9024P5WB 9 กก. อินเวอร์เตอร์ ที่มีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ใหม่ที่ประสิทธิภาพการซักและพลังงานประหยัดมาก ทั้งยังมีรอบการปั่นหมาดสูงสุด 1200 รอบ/นาที (ตั้งแต่ 400, 600, 800, 1,000, 1,200) ซึ่งก็ยังมีเทคโนโลยีประหยัดเวลาการซัก ประหยัดพลังงาน ถนอมสีผ้าให้สดใส อย่าง UltraMix ที่มีราคา 25,990 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 34% เหลือเพียง 17,990 บาท

และทั้งหมดก็เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรารวบรวมมาให้คุณ ๆได้เลือกซื้อตามต้องการ ตอบโจทย์การซักผ้าที่ประหยัดพลังงาน และยังได้ผ้าสะอาดหอมยวนใจใช้งานอย่างมีความสุข ก็หวังว่าจะทำให้ท่านตัดสินใจซื้อง่ายมากยิ่งขึ้น

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP13

34


เมื่อกล่าวถึงเครื่องอบผ้าแล้วนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีให้เลือกใช้หลายแบรนด์ หลายรุ่น และหลากหลายราคามาก กระนั้นเผื่อว่าบางคนอยากจะซื้อเครื่องอบผ้าเครื่องละไม่เกิน 20,000 บาทแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อเครื่องไหน รุ่นไหนดี เราไม่รอช้าที่จะมีมาแนะนำอย่างหมดเปลือก รับรองว่าแม้จะราคาไม่เกิน 20,000 บาทแต่ประสิทธิภาพเกินคุ้มแน่นอน
4 เครื่องอบผ้าราคาไม่เกิน 20,000 บาท แต่ประสิทธิภาพเกินคุ้ม
1. PANASONIC NH-E70JA1WTH 7 กิโลกรัม
PANASONIC NH-E70JA1WTH 7 กก. สามารถทำความร้อนได้ต่อเนื่อง มีโปรแกรมลดรอยยับ Easy Iron ที่ช่วยเรื่องการรีดผ้า ประหยัดเวลาสุด ๆ โดยยังเพิ่มฟังก์ชันที่ครบครันกับการอบที่หลากหลาย มีอุณหภูมิสูงเพื่อทำลายแบคทีเรียได้มากถึง 99.9% เลยทีเดียว โดยที่แบรนด์นี้รุ่นนี้จะมีราคาขายที่ 12,990 บาท เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์ และยังติดตั้งให้ฟรีอีกด้วย
2. WHIRLPOOL AWD712S TH 7 กก.+ขาตั้ง
ตู้อบผ้า WHIRLPOOL AWD712S TH 7 กก.+ขาตั้ง มีเทคโนโลยีแบบ 6th Sense ที่ตรวจวัดความชื้นเพื่อทำให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบการแห้ง ถนอมของใยผ้าแบบอัจฉริยะ มีความสามารถในปรับตั้งรอบปั่นได้ มี 15 โปรแกรมที่รองรับความต้องการของการอบผ้าทุก ๆ ชนิด มีระบบการลดรอยยับของผ้าด้วย การหมุนสลับของถังเป็นจังหวะ ลดรอยยับที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทำการอบสำเร็จ โดยที่มีราคาลดทันทีเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เหลือ 16,900 บาท
3. BEKO DA9112RXOW 9 กก.
อีกยี่ห้อที่ไม่ควรพลาด ก็ต้อง BEKO DA9112RXOW 9 กิโลกรัม โดยที่มี 15 โปรแกรมการอบผ้า เลือกการใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยที่ถังซักเป็นแบบ AquaWave ที่ทำให้เสื้อผ้าเคลื่อนไหวในถังแบบคลื่น สัมผัสเนื้อผ้าเบาลงเป็นการถนอมเนื้อผ้าในทุก ๆ ตัวที่ซัก โดยที่ยังมีโปรแกรมอบผ้าเพื่อสุขอนามัย ป้องกัน กำจัดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนังเด็กที่บอบบาง อย่าง Hygiene (BabyProtect+) เครื่องอบผ้า ราคาอยู่ที่ 13,490 บาท เป็นราคาลดทันที 25% เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
4. TOSHIBA TD-H80SET 7 กก.
ปิดท้ายยี่ห้อและรุ่นที่เราอยากนำเสนอกับ TOSHIBA TD-H80SET 7 กก. มีระบบเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น ที่เหมาะกับการอบผ้า โดยที่คงสภาพให้เนื้อผ้าสวยงาม มี Anti – Crease ที่ตัวถังสามารถหมุนแบบวนเข็ม และตามเข็มนาฬิกาได้หมด ช่วยให้เนื้อผ้าไม่เกิดรอยยับ หรือยับน้อยที่สุด ลดปัญหาผ้าพันกันเมื่อใช้งานอบผ้า โดยที่มีราคาเครื่อง 12,990 บาท แต่หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลด 15% เหลือเพียงแค่ 10,990 บาทเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่าเครื่องอบผ้ากลายเป็นอีกไอเท็มที่หลายบ้านเลือกมีไว้ใช้งาน แต่กระนั้นในแง่ของราคาก็มีหลากหลาย และหากท่านใดอยากได้ไม่เกิน 20,000 บาทเราก็หวังว่าทั้ง 4 ยี่ห้อ 4 รุ่นนี้จะมาทำให้การตัดสินใจสั่งซื้อใช้งานของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น แน่ใจได้ว่าคุณภาพ ประสิทธิภาพเกินราคาแน่นอน

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1302

35


หากว่าใครที่มีความต้องการอยากจะเปลี่ยนเครื่องซักอบผ้าแต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่อาจจะยังไม่เพียงพอในการซื้อทันที ยังขาดอยู่ ห้ามพลาดที่จะศึกษารายละเอียดต่อไปนี้ เหตุเพราะเรารวบรวมมาให้คุณ ๆได้ลองเลือกเอาเครื่องเก่าไปแลกเครื่องใหม่ เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านเว็บออนไลน์โฮมโปร ลองมาดูว่าจะมีแบรนด์ไหนที่แลกเครื่องเก่าใหม่ได้
เครื่องซักอบผ้าเก่าแลกใหม่ สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์โฮมโปร
1. TCL WT11EPWDG
เป็นรุ่นมอเตอร์อัจฉริยะที่ทำงานเงียบมาก สม่ำเสมอ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ดี โดยที่มี Air Fresh เป่าผ้าแห้งได้ด้วยลมร้อน ช่วยลดรอยยับและกลิ่นอับต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างดีที่สุด มีฟังก์ชันการซักด้วยไอน้ำ ที่ไม่ทำให้เชื้อโรค แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้สะสมได้ ซึ่งปกติก็จะมีราคาจำหน่าย 17,990 บาท และสั่งซื้อผ่านออนไลน์ที่โฮมโปรก็ลด 16% เหลือเพียงแค่ 14,990 บาทถือว่าคุ้มค่ามาก
2. SAMSUNG WD10T734DBX/ST
ต่อมาก็คือเครื่องซักผ้าอบผ้ายี่ห้อนี้ ที่มีการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพคราบเกาะติดฝังลึกแบบฟังก์ชัน Bubble Soak โดยที่ระบบซักผ้าอัจฉริยะ AI Control ที่จดจำการซัก และยังมีแนะนำแต่ละโปรแกรมการซักให้ด้วย มาพร้อมเทคโนโลยี Eco Bubble ที่เปลี่ยนน้ำยาซักเป็นฟอง ทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพ ขจัดสิ่งสกปรกได้ดี โดยมีราคาลดลงเมื่อสั่งซื้อผ่านเว็บที่ 23,990 บาท (จาก 38,990 บาท)
3. HAIER HWD100-BP14959S8
เป็นเครื่องซักถังขนาดใหญ่ที่จุได้เยอะมาก ๆ แต่ก็ช่วยลดรอยยับได้เป็นอย่างดี เพิ่มประสิทธิภาพการซักได้มากกว่า 50% โดยที่มีมอเตอร์ BLDC Inverter Motor ทำงานได้เงียบพร้อมประหยัดพลังงานได้ดี ทำให้การใช้งานยาวนาน  ตัวถังเชื่อมด้วยเลเซอร์ ที่ความแข็งแรงมีสูงมากกว่าถังซักแบบปั๊มกว่า 3 เท่า ไม่มีตะเข็บรอย ทำให้การถนอมผ้าเป็นไปในทิศทางที่ดี และแน่นอนสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 4% จาก 22,690 บาท เหลือเพียงแค่ 21,690 บาท
4. SHARP ES-DK1054PT-S
สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงเป็นเครื่องซักผ้าอบแห้งแบรนด์นี้ ที่เป็นถังฝาหน้า ความจุ 10.5 กิโลกรัม ซึ่งก็ถือว่าสูงมาก ความเร็วรอบปั่นหมาด ๆ สูงสุดต่อนาทีได้ 1400 รอบ มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการขจัดกลิ่นได้ดี เชื่อแบคทีเรีย สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ ความสามารถอบแห้งมีความจุมากถึง 7 กิโลกรัม เลยด้วย โดยที่มีราคาขายเครื่องละ 37,990 บาท และหากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 33,990 บาท

ทันทีที่ท่านสั่งซื้อเครื่องซักอบผ้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์โฮมโปรทุกเครื่องที่เราแนะนำจะมีโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่โดยสามารถนำเครื่องเก่ามาแลกได้และรับส่วนลดพิเศษ 1,000 บาท โดยที่ต้องเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน และต้องพร้อมยก ไม่มีมารื้อ ถอด ถอน หรือเก็บหน้างานใด ๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1301

36


เพียงคุณเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ที่มีความน่าสนใจด้วยฟังก์ชันที่มีให้คุณตอบสนองทุกสไตล์การซัก ที่สำคัญเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ก็ยังได้ในราคาที่ถูกกว่าไปอีก แต่กระนั้นหากท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการตัดสินใจสั่งซื้อเราไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลย
เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ฟีเจอร์ยอดเยี่ยม
นอกจากเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux ก็มี LG F2515STGV.AESPETH 15 กิโลกรัม นี่แหละที่ค่อนข้างน่าสนใจอย่างมาก ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีให้ท่านได้สัมผัสความคุ้มค่าการใช้งานอย่างยอดเยี่ยม ยกระดับให้การซักผ้ากลายเป็นเรื่องง่าย พร้อมถนอมเนื้อผ้าให้ได้ใช้งานอย่างดี ซึ่งคุณก็จะได้รับการซักที่ทำให้ผ้าสะอาดมากยิ่งขึ้น รวดเร็ว ทันใจ มาพร้อมโปรแกรมทำงานที่มีให้เลือก 14 โปรแกรม ทำงานได้ชาญฉลาด และเต็มไปด้วยความปลอดภัยที่มีต่อผู้ใช้งาน คราบสกปรกต่าง ๆ ขจัดได้จริง ทำงานเงียบ ทนทาน ผ้าสะอาดเหมือนใหม่
-    ระบบ AI DDTM ที่ช่วยถนอมผ้าให้อัจฉริยะ เครื่องทำการเลือกรูปแบบการหมุนของถังที่เหมาะกับการซักได้ดี
-    ระบบการซักเป็นแบบ 6 Motion Hand Wash ที่ถังเคลื่อนที่เป็นรูปแบบ 6 ทิศทาง สะอาดเหมือนใหม่ราวกับซักมือ
-    Steam มีส่วนช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ 99.9% อย่างฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ไรฝุ่น เป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้นั่นเอง
-    Inverter Direct Drive มีแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก ทนทาน และก็เงียบด้วย ไม่เกิดการรบกวนในขณะใช้งาน
-    มีประตูกระจกนิรภัยที่เพิ่มความทนทาน พร้อมทำให้ถังมีความสะอาดซักทำงานได้ดีด้วยตัวถังสเตนเลส
-    มีแอปพลิเคชัน ThinQ ที่ช่วยให้การสั่งงานเป็นเรื่องง่ายดาย อยากสั่งครั้งไหนก็สั่งได้ทุกเวลา ตรวจสอบอัตราการใช้พลังงานได้ด้วย
-    มีการรับประกันสินค้ามอเตอร์ 10 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังกับเครื่องซัก LG
สำหรับการใช้งานเครื่องซักผ้าฝาหน้า LG แบรนด์นี้ก็จะใช้เพื่อซักทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โดยที่ควรมีการทำความเข้าใจข้อมูล และวิธีการใช้งานให้ละเอียด โดยที่ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปใช้งานผิดประเภท ห้ามดึงปลั๊กออกในขณะที่มือของคุณกำลังเปียกด้วยเหตุว่าอาจถูกไฟฟ้าดูดได้ ห้ามสัมผัสสารเคมีที่ออกฤทธิ์กรด ด่าง ติดตั้งสายดินเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเสมอ โดยเครื่องนี้ก็จะมีราคา 41,900 บาท แต่หากสั่งผ่านออนไลน์อย่างที่บอกก็จะลดราคาถูกลงเยอะมาก คือ 30% พิเศษลดเหลือเพียง 29,200 บาทเท่านั้น และเป็นราคาที่มีแค่ในออนไลน์เท่านั้นด้วย

เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างยิ่ง และยิ่งหาซื้อผ่านออนไลน์ก็จะยิ่งลดราคาลงไปถูกกว่าเดิมไปอีก รับรองว่าซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน หวังว่าจะตัดสินใจซื้อกันได้แล้วนะ..

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1303

37


เครื่องซักผ้าฝาบนนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายท่านเริ่มเลือกใช้งานมากยิ่งขึ้น ทว่าอาจจะมีบางท่านที่ยังไม่แน่ใจอยากรู้ถึงจุดเด่นที่มี รวมถึง Tips ในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้าน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาเล่าสู่กันฟัง ลองไปศึกษาดูได้เชื่อว่าจะทำให้การตัดสินใจซื้อง่ายมากยิ่งขึ้นแน่นอน
เปิดจุดเด่นของเครื่องซักผ้าฝาบน ที่ก่อนผู้ใช้งานจะเลือกซื้อต้องทราบ
ที่จริง ต้องบอกก่อนว่าเครื่องซักผ้านั้นมีทั้งฝาบนด้วย และฝาหน้าด้วย ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ หลายรุ่นมาก เช่น เครื่องซักผ้าฝาบน LG, Panasonic, TOSHIBA, SAMSUNG ฯลฯ แต่กระนั้นปัจจุบันเชื่อว่าแบบฝาบนกำลังเป็นที่นิยมเลยทีเดียว แน่นอนว่ามีจุดเด่นให้เราได้สัมผัสมากมาย เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องทราบก่อนที่จะเลือกซื้อเลือกหา
-    เครื่องแบบฝาบนมีราคาที่ไม่แพง และเหมาะมาก ๆกับผู้ซื้อที่มีงบน้อย
-    มีความจุในการซักได้เยอะมาก ตอบโจทย์กับบ้านใหญ่ สมาชิกเยอะ มีปริมาณผ้าซักมาก
-    เวลาในการทำงานค่อนข้างสั้น ไม่นานก็สามารถซักได้เสร็จสมบูรณ์
-    มีฟีเจอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกในเครื่องเดียว มีการปั่นหมาดแห้งเร็วด้วย
-    การใช้งานกินพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าแบบฝาหน้า เพราะเราสามารถเปิดได้เลยด้านบน ไม่ต้องเหลือที่ด้านข้างไว้

Tips การเลือกใช้งานเครื่องซักฝาบนให้เหมาะกับสมาชิกในบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้าฝาบน Samsung, LG, Panasonic, TOSHIBA ฯลฯ ใด ๆ แล้วก็สามารถใช้ Tips การเลือกใช้งานเครื่องซักฝาบนเหล่านี้ให้เหมาะกับสมาชิกในบ้านได้ทั้งสิ้น เพื่อให้ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งการเลือกอยากให้เลือกซื้อวัดจากจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ภายในบ้าน ปริมาณของผ้าที่ต้องการซัก ไปจนถึงการใช้งานว่าใช้มากน้อยแค่ไหนใน 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าเป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่สิ้นเปลืองไฟไม่เปลืองน้ำมากเกินโดยใช่เหตุ ซึ่งจะเน้นที่ความจุเครื่องกับจำนวนสมาชิกได้ แบ่งออกเป็น จำนวนสมาชิก 2 – 3 คน แนะนำใช้ถังซักความจุ 6 – 8 กิโลกรัม จำนวนสมาชิก 4 – 5 คน แนะนำใช้ถังความจุ 8 – 11 กิโลกรัม และจำนวนสมาชิกมากกว่า 6 คน แนะนำใช้ความจุที่มากกว่า 11 กก.

ซึ่งการใช้งานเครื่องซักผ้าฝาบนก็จะต่างจากเครื่องฝาหน้าอยู่พอสมควร โดยที่เครื่องแบบฝาหน้าก็จะเปลืองพื้นที่มากกว่า ซึ่งต้องมีการติดตั้งโดยใช้พื้นที่ ทั้งเครื่องฝาหน้าก็ยังมีความจุน้อยกว่า ไม่เหมาะในปริมาณที่มีมาก ๆ ฟังก์ชันปั่นหมาดก็จะเสียงดังมากกว่าปกติ ทั้งยังใช้บริการในการซักตั้งแต่ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เลยด้วย หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณ ๆเลือกซื้อเลือกหาได้อย่างสบายใจ

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1305

38


ปัจจุบันเครื่องซักผ้ามีทั้งถังเดียว และ 2 ถัง แน่นอนว่าเครื่องซักผ้านี้อาจจะทำให้พ่อบ้านแม่บ้านเกิดความสงสัยว่าจะเลือกซื้ออย่างไร ชนิดไหนดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องซักผ้า 2 ถังแบบฝาบนที่ดูจะได้รับความนิยมมากกว่า แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะรวบรวมมาแนะนำกับ 4 เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะเมื่อเข้าใจก็ทำให้การเลือกซื้อเลือกหาง่ายมากยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็ตามเรามาทางนี้โดยด่วน
4 เรื่องของเครื่องซักผ้า 2 ถังแบบฝาบน ที่ต้องทำความเข้าใจ
1. ขนาดของเครื่องใหญ่ ต้องใช้พื้นที่วาง
เรื่องของเครื่องมีความใหญ่อยู่ไม่น้อยสำหรับเครื่องซักแบบ 2 ถังนี้ เนื่องด้วยเป็นเครื่องที่มีทั้งระบบปฏิบัติการกึ่งอัตโนมัติ และแยกส่วนระหว่างถังซักกับถังปั่นหมาด ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการวางอยู่พอสมควรด้วยขนาดของเครื่องนั่นเอง กระนั้นก็จะไม่ได้กว้างมากเพราะว่าเวลาเปิด – ปิดใช้งานจะทำจากทางด้านบนก็ไม่ต้องเว้นที่เผื่อเวลาเปิด – ปิดฝาเครื่องเหมือนฝาหน้านั่นเอง
2. เหมาะกับคนที่มีเวลาการซัก
สำหรับหลักการใช้งานของเครื่องซักแบบฝาบนนั้นหลัก ๆ ก็จะต้องเปิดน้ำใส่ถังเอง ใส่ผงซักฟอกเอง รวมถึงน้ำยาปรับผ้าก็ต้องใส่เองด้วย พร้อมกับตั้งเวลาในการซักเองไปอีก ดังนั้นจึงค่อนข้างใช้เวลาที่จะรอปั่น รอเปิดน้ำ รอใส่ผงซักฟอก รวมถึงตั้งเวลาในการซัก จึงจะเหมาะกับคนที่สามารถเฝ้าเครื่องได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการซักจนกว่าจะเสร็จพอสมควร
3. ความเหมาะสมในการใช้งานของเครื่องซัก 2 ถัง
สำหรับเครื่องซักแบบ 2 ถังนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีจำนวนผ้าซักเยอะ ๆ อยากได้ความรวดเร็วในการซัก แม้ว่าจะเป็นเครื่องแบบกึ่งอัตโนมัติก็ตาม แต่รอบการหมุนมีความเร็ว แรง ซักผ้าได้ความสะอาดแบบหมดจด แต่อย่างที่บอกก็ต้องรู้ข้อจำกัดในการซักที่ต้องรอใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือย้ายมาถังปั่นหมาดด้วยตัวเอง
4. ราคาย่อมเยาแม้จะมี 2 ถัง
สุดท้ายก็คือเรื่องของสนนราคา แน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นก็จะต่างกันออกไป โดยที่ท่านสามารถลองเปรียบเทียบหลาย ๆ แบรนด์ หลาย ๆ รุ่นก่อนได้ โดยราคา เครื่องซักผ้า 2 ถังก็จะมีตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นต้น ๆ ซึ่งนับว่าก็ไม่ได้แพงมากเท่าไหร่ เข้าถึงผู้ใช้งานทุกระดับแน่นอน ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้า 2 ถังก็จะเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกสุด ๆ โดยที่ทำให้การทำงานยืดหยุ่นสูง มีการตัดหรือหยุดทำงานเองแต่ก็ต้องมีเวลาในการซักเนื่องมาจากต้องใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับ หรือเปลี่ยนย้ายเสื้อผ้าไปถังปั่นหมาดเอง แต่ทว่าราคาก็ค่อนข้างถูกจับต้องได้ ประสิทธิภาพสูงด้วยเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1306

39


เชื่อเหลือเกินว่ามีหลายท่านที่ต้องการติดตั้งกันสาดแต่ก็ยังมีความลังเลทั้งนี้เพราะมีให้เลือกหลายชนิดมาก หนึ่งในนั้นคือแบบเมทัลขีทที่ยอมรับว่าได้รับความนิยมไม่น้อย ดังนั้นเพื่อให้ท่านมีความมั่นใจมากขึ้นเรามีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้มาแนะนำ พร้อมบอกจุดที่เหมาะสมกับการติดตั้งใช้งานมากที่สุดให้ด้วย ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย
กันสาดแบบเมทัลชีท จุดเด่น - จุดด้อยที่ควรทำความเข้าใจ
กันสาดเมทัลชีท หรือ Metal Sheet เป็นหลังคาที่ใช้แผ่นเหล็กอะลูมิเนียมและสังกะสีผลิตออกมา ซึ่งก็จะนำมารีดลอนเป็นแผ่นให้กับเราได้นำไปติดตั้งต่อไป จะเหมาะสมกับการใช้งานที่อยู่ได้ทั้งภายในและภายในนอกอาคารบ้านเรือน มักได้รับความนิยมนำมาใช้เป็นแผ่นหลังคา ติดตั้งได้ง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว มีเกรดของหลังคาให้เลือกหลากหลาย งบมากงบน้อยมีตอบสนองท่านด้วยแบรนด์ รุ่นที่มีให้เลือกตามต้องการ
จุดเด่นคือมีความทนทาน แข็งแรง รั่วซึมยาก หาซื้อได้ง่ายๆ น้ำหนักเบา ติดตั้งได้สะดวกสบายสุด ไม่เสียเวลามาก แต่ก็มีข้อด้อยอยู่ด้วยคือเมื่อเกิดฝนตก หรือต้องรดน้ำบนหลังคาก็จะเกิดเสียงกระทบตัวแผ่นเมทัลชีท อาจรบกวนหรือสร้างความรำคาญให้ได้เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพของหลังคาก็ถือได้ว่าไม่ได้แย่อะไร

จุดที่เหมาะสมกับการติดตั้งใช้งานหลังคา Metal Sheet
1. เหนือประตูหน้าต่าง
ถือเป็นจุดที่เหมาะสมมาก ๆ คือบริเวณเหนือประตูหน้าบ้าน หน้าต่าง ที่เป็นพื้นที่รอรับแสงสว่าง ความร้อน  รวมทั้งเรื่องของอาจสาดเข้ามาได้ จึงเป็นทางเลือกในการติดตั้ง เพื่อลดความชื้นที่จะสะสมอยู่ที่วงกบขอบหน้าต่าง ประตู ที่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีโอกาสทำให้เกิดปัญหารั่วซึม รวมไปถึงยังช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านด้วย ซึ่งนอกจากหลังคากันสาด Metal Sheet จริง ๆ ก็ยังมีประเภทอื่นที่ใช้งานได้ อย่างเช่น อะคริลิก, ไวนิล, โพลีคาร์บอเนต, ไฟเบอร์กลาส เป็นต้น
2. โรงจอดรถ
เป็นอีกพื้นที่ที่นิยมติดตั้งหลังคาประเภทนี้ต่อเติมได้ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์เฮ้าส์ นิยมใช้เพื่อยื่นออกมาจากตัวบ้าน สร้างเสารับน้ำหนัก โดยที่จะช่วยปกป้องรถให้ถูกแสงแดดน้อยลง พร้อมช่วยไม่ให้มีฝนสาดเข้ามาด้วย หรือจะเลือกสร้างเป็นแบบ 4 เสาก็ช่วยรับน้ำหนักได้ดี ให้แยกออกจากตัวบ้าน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มีความสวยงามลงตัว ซึ่งนอกจากเมทัลชีทก็ยังใช้ประเภทอื่นด้วยได้ อาทิเช่น กระเบื้องลอนคู่, ไวนิล, อะคริลิก, โพลีคาร์บอเนต, ไฟเบอร์กลาส

เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆที่กำลังมองหากันสาดชนิดเมทัลชีทจะเข้าใจถึงความสามารถในการใช้งาน จุดเด่น – จุดด้อย ไปจนถึงความเหมาะสมในการติดตั้งที่แต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกัน ทำให้การใช้งานราบรื่น ยืนยาวมากขึ้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0802

40


รถตัดหญ้ายี่ห้อไหนดี? เชื่ออย่างยิ่งว่านี่คงเป็นอีกคำถามที่ต้องการคำตอบของใครหลาย ๆ คนที่กำลังมองหารถตัดหญ้ามาใช้งาน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ ทั้งเดินตาม ทั้งรถเข็น ฯลฯ วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาให้ 4 ยี่ห้อด้วยกัน เพื่อให้ท่านได้เลือกสรรตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
4 แบรนด์รถตัดหญ้า ที่รับรองว่าดีจริง ตอบโจทย์การใช้งาน
1. MATALL 1300 วัตต์
เป็นแบรนด์แรกที่อยากแนะนำโดยที่จะมีด้ามจับยาวช่วยให้ถนัดมือ ควบคุมง่ายดาย มีแรงหมุนตัด 3400 รอบต่อนาที มอเตอร์มีกำลังไฟถึง 1300 วัตต์ เลือกปรับระดับการตัดหญ้าได้ 3 ระดับ ทำให้เกิดความสะดวกมากกว่าเดิม โดยที่ยังรับประกันมอเตอร์ให้ 1 ปีด้วย ซึ่งมีราคา 3,990 บาทเท่านั้น สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 2,990 บาทเท่านั้น
2. CARINA CG-1200 1200 วัตต์
ต่อมาเป็นรถตัดหญ้าเดินตามตัวเครื่องกะทัดรัดมาก ๆ น้ำหนักเบาไม่เมื่อยมือ มาตรฐานการผลิตประเทศอิตาลี ที่เลือกปรับระดับความสูงเมื่อต้องการตัดหญ้าได้ 3 ระดับด้วยกัน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังมีแรงหมุนใบตัดได้ 3450 รอบต่อนาที มอเตอร์มีกำลังไฟที่ 1200 วัตต์ ซึ่งราคาขายจะอยู่ที่ 5,290 บาท แต่หากเลือกซื้อผ่านออนไลน์ก็ลดอีกเหลือ 4,490 บาท
3. JP JP8-GA1 1000 วัตต์
อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นรูปแบบไฟฟ้าที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ตัดเกี่ยวกับวัชพืชที่มีในงานเกษตร หรืองานภายในสวน ที่สามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่ 24 – 45 – 65 มม. ถือว่าดีมาก ๆ ตัดได้หลากหลาย โดยที่มอเตอร์เป็นขดลวดทองแดงแท้ 100% ทำงานได้เต็มที่ 1000 วัตต์ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 5,590 บาท แต่หากซื้อตอนนี้ทางออนไลน์ก็ลดด้วยเหลือเพียง 3,990 บาทเท่านั้น
4. HYUNDAI HLM-1000 1,000 วัตต์
รถเข็นตัดหญ้ายี่ห้อนี้มีการรับประกันมอเตอร์ให้ 1 ปีด้วย ซึ่งมอเตอร์มีความสามารถในการระบายความร้อนได้ดี โดยที่มีระบบการป้องกันมอเตอร์ไหม้ได้ ล้อขนาดใหญ่มีให้ 4 ล้อเข็นง่าย เคลื่อนที่ได้ในพื้นที่ทั้งขรุขระ และเรียบ คันโยกก็ใช้ปรับระดับที่บริเวณด้านจับได้ด้วยเช่นกัน ทำให้การใช้งานสะดวกกว่าเดิม ราคาลดแล้วเหลือแค่เพียง 5,490 บาท จากปกติ 5,920 บาท เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถตัดหญ้านั้นมีหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น รวมถึงราคา และความสามารถ ฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อยากให้ท่านลองเปรียบเทียบดูสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์เหล่านี้เราการันตีเลยว่าดีจริง และตอบโจทย์การใช้งาน ก็อยู่ที่ว่าคุณจะมีงบเหมาะสมเท่าไหร่เท่านั้นเอง ทั้งนี้ วิธีการใช้งานของแต่ละยี่ห้อก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ก็ขอให้ศึกษาตามคู่มือการใช้งานดีที่สุด ไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT070501

41


ยุคปัจจุบันมีเครื่องทำน้ำอุ่นหลากหลายรุ่นหลากหลายแบรนด์มาก และเชื่ออย่างยิ่งว่ามีบางท่านที่อาจจะยังตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหาไม่ได้ เราจึงไม่รอช้าที่จะมาแนะนำกับรุ่นยอดนิยมดีไซน์สวย ประหยัดพลังงาน และมีราคาย่อมเยาเหล่านี้ เชื่อเหลือเกินว่าจะตอบโจทย์ตรงใจเพื่อนๆอย่างแน่นอน แล้วจะมีรุ่นอะไรแบรนด์ไหนบ้างล่ะ? เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปติดตามรายละเอียดกันดีกว่า
เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นยอดนิยม จุดเด่นตอบโจทย์ตรงใจทุกคน
1. ELECTROLUX EWE351PX-DWX5 3500 วัตต์
รุ่นแรกที่เราอยากแนะนำก็ต้อง EWE351PX-DWX5 3500 วัตต์ จาก ELECTROLUX ที่มีระบบเปิดการทำงานเมื่อน้ำไหลผ่านได้ด้วย พร้อมระบบนิรภัย ELCB ที่ตัดกระแสไฟฟ้า 0.1 วินาที ในกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว ทั้งวัสดุหม้อต้มก็เป็นแกลลอนที่ทำความร้อนได้เร็วไว กำลังไฟ 3500 วัตต์ ดีไซน์สวยสีขาวมินิมอล ราคาจำหน่าย 3,440 บาท แต่หากเลือกซื้อผ่านออนไลน์ในราคาพิเศษลดเหลือเพียง 2,490 บาท
2. STIEBEL WS 35 E-2 3500 วัตต์
เครื่องทำน้ำอุ่น Stiebel รุ่น WS 35 E-2 3500 วัตต์ เป็นหม้อต้มทองแดงที่ทำงานได้แม้แรงดันน้ำต่ำ เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไปเครื่องก็จะตัดการทำงานเครื่องอัตโนมัติได้ 2 ขั้นตอน ปรับอุณหภูมิน้ำได้แม่นยำด้วยปุ่มควบคุมที่มีเพียงปุ่มเดียว การดีไซน์เรียบหรู ดูแพง มีทั้ง 3500 วัตต์ ราคา 3,690 บาท และ 4500 วัตต์ ราคาขาย 3,890 บาท ซึ่งลดจากราคาปกติเมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
3. TOSHIBA TWH-38WTH 3800 วัตต์
อีกแบรนด์ที่น่าสนใจ TOSHIBA TWH-38WTH 3800 วัตต์ ที่เป็นหม้อทำความร้อนแบบแกลลอน ทนทานต่ออุณหภูมิความร้อนได้ดีมาก ปลอดภัยด้วยระบบ ELCB ที่ตัดไฟได้เมื่อเกิดปัญหาไฟรั่ว อุ่นใจกับระบบตรวจสอบการเชื่อมต่อสายดินแบบอัตโนมัติด้วย อุปกรณ์ป้องกันอุณหภูมิน้ำสูงเกิน 2 ชั้น ราคาย่อมเยามาก ๆ กำลังไฟ 3800 วัตต์ แต่เครื่องทำน้ำอุ่น ราคาเมื่อซื้อผ่านออนไลน์แค่ 1,890 บาท
4. HITACHI HES 38GS 3800 วัตต์
เป็นเครื่องที่มีหม้อทำความร้อนผสมด้วยทองแดงที่คุณภาพสูง ทนทาน โครงสร้างป้องกันน้ำเข้า มาตรฐาน IP25 ที่ปลอดภัยทุกครั้งที่ได้ใช้งาน ระบบตัดไฟแบบอัตโนมัติด้วย ทันทีที่ไฟฟ้าลัดวงจร หรือรั่วก็พร้อมตัดไฟทันที ระบบนิรภัยแบบ 12 จุด หาซื้อผ่านออนไลน์ราคาเพียง 4,190 บาทเท่านั้น
5. PANASONIC DH-4US1TW 4800 วัตต์
ปิดท้ายที่เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic รุ่น DH-4US1TW 4800 วัตต์ ที่ได้พลาสติกคุณภาพสูง ABS เกรดไม่ลามไฟมาผลิต โดยที่มีกำลังไฟถึง 4800 วัตต์ มีการออกแบบติดฝักบัวผสมสารยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียได้ด้วย ทั้งนี้เพราะเคลือบ Ag+ Crystal เพื่อสุขภาพที่ดี มีฮีตเตอร์ขดลวดทองแดง ทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ราคาขาย 5410 บาท เมื่อหาซื้อผ่านออนไลน์ ลดจากเดิม 5,750 บาท

เป็นยังไงกันบ้างกับเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นยอดนิยมที่เรานำมาฝากทั้ง 5 นี้ มีความน่าสนใจมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? เพราะว่าแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน แต่ก็เชื่ออย่างยิ่งว่าตอบโจทย์ตรงใจเพื่อนๆที่กำลังมองหาซื้อมาติดตั้งใช้งานแน่นอน ยิ่งเลือกซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาคุ้มค่าย่อมเยากว่าเดิมไปอีก

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0501

42


ครั้งนี้เรามีแบรนด์ต่าง ๆ ของเครื่องทำน้ำร้อนมานำเสนอให้กับหลาย ๆ คนที่อาจจะกำลังมองหาอยู่ รับรองว่าเป็นแบรนด์ที่มีฟีเจอร์โดดเด่นสุด ๆ โดยเฉพาะระบบเซฟตี้ที่ทำงานได้ดีสุด ไร้ปัญหา ปลอดภัยขณะใช้งาน ซึ่งจะมีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูรายละเอียดพร้อมกันเลยดีกว่า ของดีแบบนี้ต้องบอกต่อกันอยู่แล้ว!
เครื่องทำน้ำร้อนฟีเจอร์โดดเด่น ระบบเซฟตี้ทำงานดีปลอดภัยสุด
1. MAZUMA P-STREAM PLUS2 8000 วัตต์
เริ่มต้นเครื่องทำน้ำร้อน Mazuma ที่มีชุดฮีตเตอร์แบบท่อน้ำผ่านความร้อนได้ดี ปลอดภัย และมีความทนความร้อนสูง ใช้เป็นขดลวดทองแดงที่ทำความร้อนได้รวดเร็วมาก และยังให้อุณหภูมิที่คงที่ขั้นสุด ที่สำคัญเรื่องระบบเซฟตี้ก็จะใช้เป็นสายไฟซิลิโคนหุ้มไฟเบอร์กลาส ที่ทนทานต่ออุณหภูมิ 180 องศาฯ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 7,890 บาท เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
2. PANASONIC DH-6GM4TW 6000 วัตต์
เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ โดยที่มีระบบความร้อนหม้อต้มผลิตด้วยทองแดง ปรับระดับได้ 2 ระดับ เลือกปรับแบบไฟฟ้าได้ 2 ระดับ สูงสุดความปลอดภัยที่มีถึง 7 ระบบนิรภัย ทั้งภายในเครื่องยังมี ELB ที่เมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วก็จะตัดให้แบบอัตโนมัติ กำลังไฟ 6000 วัตต์ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 7,190 บาทเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์
3. STIEBEL DEM 6 6000 วัตต์
ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยจริง ๆ กับเครื่องทำน้ำร้อน Stiebel DEM 6 6000 วัตต์ ที่ใช้ขดลวดทำความร้อนได้รวดเร็วมาก ปลอดภัยสุด ๆ ด้วย ออกแบบกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งเลือกเองได้หลากหลายทิศทาง สามารถปรับอุณหภูมิได้หลากหลายระดับตามความต้องการ 30 – 50 องศาฯ โดยที่ราคาจะอยู่เครื่องละ 12,290 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 9,790 บาทเท่านั้น ทั้งนี้สามารถแลกเครื่องเก่าได้ส่วนลดสูงสุด 500 บาทด้วย
4. RINNAI DENKI 600MP 6000 วัตต์
ต่อมาก็คือ RINNAI DENKI 600MP 6000 วัตต์ ที่เป็นหม้อต้มทองแดงแท้ เก็บอุณหภูมิ ทำความร้อนได้ดี ปลอดภัยด้วยระบบนิรภัยแบบ ELCB ที่ตัดกระแสไฟฟ้าได้เลยทันทีหากเกิดไฟรั่ว ทำให้การใช้งานมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย ซึ่งยังมีระบบแบบ ELECTRONIC TEMPERATURE SELECTION ที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำที่ใช้อยู่มีความสม่ำเสมอ โดยราคาจัดจำหน่ายจะอยู่ที่ 7,190 บาท แต่หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 6,690 บาท
5. SAFE THERMO PRO 6000
เป็นเครื่องขนาด 6000 วัตต์ ระบบทำความร้อนไม่ได้ผ่านหม้อต้ม แต่ผ่านโลหะผสมอะลูมิเนียม โดยที่แยกท่อลำเลียง ท่อทำความร้อนออกจากกัน ไม่เกิดเรื่องตะกรัน สนิม หรือหม้อต้มละลายแต่อย่างใด ซึ่งมีความปลอดภัยสูงระหว่างใช้งานด้วย โดยมีราคาลดแล้วเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 6,490 บาทเท่านั้นเอง

ต่อไปนี้ก็หวังว่าใครที่ต้องการซื้อเครื่องทำน้ำร้อนจะสามารถตกลงใจได้ทันที ด้วยทั้ง 5 ยี่ห้อเหล่านี้มีฟีเจอร์โดดเด่นซึ่งก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ที่ไม่ควรมองข้ามคือระบบเซฟตี้ทำงานดีจึงทำให้ระหว่างการใช้งานปลอดภัยสุด ๆ

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/PLU0503

43


Stiebel เป็นหนึ่งในหม้อต้มที่น่าสนใจใช้งานอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่มีให้ในหลายรุ่น และเผื่อว่าท่านใดอยากจะซื้อแต่ก็ยังไม่มั่นใจจะเลือกใช้รุ่นไหนดี เราไม่พลาดที่จะมาแนะนำรับประกันว่าซื้อแล้วคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นแน่ แต่จะมีรุ่นไหนบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลย
หม้อต้มของยี่ห้อ Stiebel ที่น่าใช้ ซื้อแล้วคุ้มราคาแน่นอน
1. รุ่น ESH 80H PLUS T 80 ลิตร สีขาว/เทา
เริ่มต้นกับรุ่นที่มีโครงสร้างภายนอกผลิตจากพอลิเมอร์โพลีลีน ที่ทนทานต่อการกัดกร่อน โดยที่แข็งแกร่งมาก ๆ ควบคุมอุณหภูมิน้ำได้เป็นอย่างดี แม่นยำด้วยท่อแคปปิลารี่ของเทอร์โมสตัท ทั้งยังปรับอุณหภูมิได้มาก 75 องศาเซลเซียส หน้าปัดมีไฟ LED แสดงอุณหภูมิน้ำด้านหน้าเครื่อง โดยราคาจำหน่ายก็จะอยู่เครื่องละ 17,190 บาท แต่เลือกซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 13,990 บาทเท่านั้น โดยมีให้เลือกทั้งสีขาวและสีเทา
2. รุ่น EVS30 30 ลิตร สีขาว
หม้อต้มน้ำร้อนรุ่นต่อมาที่อยากแนะนำก็ต้อง EVS30 30 ลิตร สีขาว ทำความร้อนได้เร็ว โดยที่แรงดันเสถียรมากใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยที่เครื่องก็จะเป็นแบบแนวตั้ง 2000 วัตต์ ที่มีขนาด 30 ลิตร โดยที่หม้อมีความหนา ทั้งยังเก็บความร้อนและไม่เกิดตะกรัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ราคาขายก็จะอยู่ที่ 11,890 บาท และเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 9,890 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีความจุอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น 15 ลิตร ราคา 8,290 บาท 50 ลิตร ราคา 11,990 ไปจนถึง 150 ลิตร ราคา 17,390 ที่ราคาก็จะลดแล้วเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ แตกต่างกันตามความจุที่เหมาะสม
สำหรับหม้อต้มน้ำร้อน Stiebel นั้นก็จะมีกำลังไฟที่แตกต่างกัน แต่ทุกสิ่งที่เหมือนกันคือความปลอดภัยในการใช้งาน อุปกรณ์มีตัวช่วย ELCB ที่ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว รวมทั้ง Thermostat กำหนดน้ำร้อนเกิน และ Safety Valve วาล์วนิรภัย ทั้งยังรับประกัน 1 ปี ทั้งนี้ก็จะใช้งานเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับบ้าน หรืออาคารสำนักงาน ควรใช้งานกับน้ำสะอาดเท่านั้น และควรศึกษาคู่มือให้ละเอียดก่อนติดตั้งและใช้งาน รวมทั้งควรติดตั้งในพื้นที่ซ่อมบำรุง และดูแลรักษาความสะดวก ซึ่งยังมีข้อควรระวังที่ต้องรู้อีก เช่น
-    จัดเก็บในพื้นที่แห้ง และให้พ้นมือของเด็ก
-    ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท
-    ห้ามใช้งานเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นด่าง กรดมาทำความสะอาด
-    ห้ามจัดเก็บเครื่องใกล้เปลวไฟ หรือใกล้ความร้อนเด็ดขาด
-    ห้ามใช้งานที่มีพื้นที่น้ำท่วม หรือต้องเอาเครื่องแช่น้ำตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ในการงานหม้อต้มควรติดตั้งช่างผู้เชี่ยวชาญ และติดตั้งสายดินพร้อมติดตั้งเครื่อง พร้อมตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำในการใช้งานให้เหมาะสมทุกครั้งด้วย เชื่อเหลือเกินว่ารุ่นเหล่านี้จะช่วยให้การต้มน้ำร้อนของคุณมีประสิทธิภาพ

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/PLU0502

44


ประเภทของรางน้ำฝนนั้นมีหลากหลาย และเชื่ออย่างยิ่งว่าไอเท็มนี้ก็หลาย ๆ บ้านควรติดตั้งไว้ใช้งานเพื่อประโยชน์ทั้งช่วยป้องกันสวน ป้องกันผนัง เฟอร์นิเจอร์เปรอะเปื้อน ไปจนถึงการป้องกันปัญหาของเพื่อนบ้าน ทว่าจะเลือกชนิดรางยังไงให้พอเหมาะกับบ้าน เราได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ มาเสนอแนะ นอกจากเหมาะกับบ้านก็ยังเหมาะกับสไตล์เจ้าของบ้านด้วย
การเลือกประเภทรางน้ำฝนให้เหมาะกับบ้านและสไตล์เจ้าของบ้าน
1. ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เสนอแนะว่าให้เลือกวัสดุของรางที่มีอันดับแรกโดยที่มีให้เลือกหลายลักษณะ หลายขนาด อย่างเช่น รางน้ำฝน PVC หรืออื่น ๆ หากจะมองหาความคุ้มค่านอกจาก PVC ก็จะมีเป็นอะลูมิเนียม ที่อายุการใช้งานก็จะยาวนานมากกว่าประเภทอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
2. งบประมาณการติดตั้งที่เหมาะสม
สิ่งต่อมาที่ต้องทราบก็คือค่าของราง ไปจนถึงจ้างช่าง หรือค่าติดตั้ง เสนอแนะให้ลองสำรวจและเปรียบเทียบกับร้านที่รับติดตั้งก่อน ทั้งนี้เพราะจะมีทั้งวัสดุ มีค่าติดตั้งรูปแบบที่ต่างก็จะมีงบประมาณที่ต่างด้วยเช่นกัน มีตั้งแต่ไม่สูงไปจนถึงสูงมาก ลองดูเงินในกระเป๋าก่อนค่อยเลือกติดตั้งได้ไม่ใช่เรื่องยาก
3. การติดตั้งราง
การติดตั้งรางจะติดตั้งด้วยตะปูกับเชิงชาย หรือไม้ปีกนก หรือ อย่าง รางสังกะสี ก็จะจับแขวนกับจันทัน ซึ่งการติดตั้งก็จะมีได้หลายที่ มีตั้งแต่บริเวณหลังคาโรงจอดรถ หลังคาครัวไทยหลังคาบ้าน หากมีอุปกรณ์ครบก็ติดตั้งเองได้ แต่หากเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หรือบ้านเดี่ยวแนะนำว่าให้ช่างติดตั้งดีกว่า เพราะว่าบางวัสดุจำเป็นต้องมีช่างที่เชี่ยวชาญงานมารับผิดชอบ ทำให้ยืดอายุการใช้งานมากขึ้น อาทิ รางน้ำฝนไวนิล
4. ขนาดพื้นที่ที่มีของหลังคา
ในกรณีที่มีหลังคาขนาดใหญ่ก็ควรเลือกขนาดให้เหมาะสม ปัจจุบันก็มีหลากหลายขนาดให้เลือก ทั้ง 4 นิ้ว 5 นิ้ว และ 6 นิ้ว หากหลังคามีขนาดใหญ่มากกว่า 5 นิ้วขึ้นไป กรณีที่หลังคามีความยาวมาก ๆ ก็ควรเพิ่มรูระบายน้ำในหลายจุดเพื่อให้ระบายน้ำฝนออกได้ทันเวลาที่ฝนตกลงมาหนักมาก แรงมาก
5. ความสวยงามของราง
เพื่อให้เกิดความสวยงามในตัวบ้านเพิ่มขึ้นไม่ทำให้เป็นไอเท็มสะดุดตา หรือขัดตา ด้วยความที่มีหลายรางจะให้สีสันที่สวยงามเยอะ อย่าง ไฟเบอร์กลาส อะลูมิเนียม ไวนิล จะมีดีกว่าสังกะสี

สำหรับการติดตั้งรางน้ำฝนจริง ๆ แต่ละประเภทจะมีต่างกันออกไป ซึ่งคุณสามารถติดตั้งเองได้ แต่เชื่อว่าการจ้างให้ช่างมาติดตั้งก็จะได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า ได้ประสิทธิภาพมากกว่า และเกิดปัญหาตามมาภายหลังน้อย ปัจจุบันก็มีหลายร้านรับติดตั้ง แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบพิจารณาหลายร้านก่อนเอาร้านที่เหมาะสม รับประกันว่าได้งานดี ใช้งานรางตอบโจทย์สุด ๆ

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0805

45


โพลียูรีเทนเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ไม้คงสภาพ ทนทานต่อแสงแดดและฝน ซึ่งแบรนด์ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR นี้คุณสมบัติโดดเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไม้สักที่เหมาะมาก ใช้ง่าย ข้อสำคัญคือมีราคาจับต้องได้ไม่แพงมากยิ่งเลือกซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคา กระนั้นบางคนอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เรารวบรวมมาให้ศึกษาเพื่อพิจารณาตัดสินใจใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติโพลียูรีเทน ยี่ห้อ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR
สำหรับผลิตภัณฑ์นี้เป็นสูตรทาไม้ 2 in 1 ที่เป็นสีทับหน้า และรองพื้นในตัว โดยที่ยังสามารถทากลางแจ้งได้ คิดค้นมาคุณสมบัติทนทานสภาวะได้มากกว่าเดิม ทนทานต่อแดดและฝนที่ทนต่อรอยขีดข่วน แรงกระแทก รวมไปถึงทนไอทะเล ทนต่อคลอรีนจากสระน้ำได้ ทั้งทนสารเคมีที่มีในชีวิตประจำวัน จะใช้เพื่อทาเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ หรือผนังไม้ ทาทับสีงานไม้เก่าได้เลยโดยเฉพาะไม้สัก โดยที่ยังเป็นสูตรที่พร้อมใช้เลย ไม่ต้องเอาไปผสมทินเนอร์ต่อ ทำให้ปลอดภัยต่อตะกั่ว สารปรอท โลหะหนัก จบงานง่ายใน 1 วัน กลิ่นจางไวสุดไม่เหม็นพาปวดหัว
-    เป็นเจ้าแรกที่สามารถใช้สีย้อมไม้แบบทากลางแจ้งได้ เพราะว่าเป็นสูตร 2 in 1 ที่ทาทับหน้าได้ รองพื้นไปในตัวด้วย
-    ทาได้ทั้งผนังไม้ พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ได้เลยทั้งภายใน ภายนอก หรือก็ทาได้ทั้งไม้แท้ไม้เทียมด้วย
-    เป็นสูตรที่พร้อมใช้งาน Ready to use ที่ไม่จำเป็นต้องผสมทินเนอร์เพิ่มให้กลิ่นเวียนหัว
-    ไร้สารปรอท โลหะหนัก สารตะกั่ว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน EN71 ยุโรป
-    สามารถทาสีทับไม้ได้ทุกชนิด อย่าง แลคเกอร์เก่า สีย้อมของไม้เก่า สีน้ำมันเก่า หรือวานิชเก่า
-    กลิ่นจางไวมาก แห้งเร็ว สามารถจบงานได้เลยภายใน 1 วัน ไม่ต้องเสียเวลารอกลิ่นหมด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
จะเหมาะกับการเป็นสีทาไม้เพื่อเคลือบผิวไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ทุกแบบ ช่วยขัดผิวไม้ให้เรียบด้วยกระดาษทรายเบอร์หยาบ รวมถึงเบอร์ละเอียดตามลำดับ ซึ่งควรมีการศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานอย่างละเอียด ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ไม่มีคราบไข ฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ

นอกจากนี้ ก็ยังมีข้อควรระวังด้วย คือห้ามจัดเก็บใกล้ความร้อน เปลวไฟ ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ห้ามสูดดม หรือกิน ห้ามใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังใช้งานต้องผิดฝาให้สนิททุกครั้ง ใครที่สัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงจะต้องล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที กรณีที่เข้าตาก็ให้ล้างน้ำสะอาดแล้วรีบไปพบแพทย์ในทันที ควรสวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันผิวหนังเพื่อกันการระคายเคืองที่มีต่อผิว

โดยโพลียูรีเทน ยี่ห้อ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR นี้มีราคาจับต้องได้กระป๋องละ 872 บาท แต่หากสั่งผ่านออนไลน์ลด 10% เหลือเพียงแค่ 820 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มค่าด้านคุณสมบัติ 2 in 1 และราคาอย่างที่สุด หากกำลังมองหาอยู่รีบซื้อใช้เลย!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON070504

46


ต้องบอกก่อนว่ากาวตะปูคือกาวอเนกประสงค์ที่ใช้เพื่อยึดติดสิ่งต่าง ๆ แทนการตอกตะปูแบบปกติได้ดีหรือจะเรียกว่ามีคุณสมบัติที่เหนือกว่าการตอกตะปูปกติด้วยซ้ำ จะตกแต่ง หรือซ่อมแซมบ้านช่วยได้หมด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กับงานที่มีพื้นที่แคบอย่างคอนโด และพื้นที่กว้างอย่างบ้านได้หมดเลย พร้อมช่วยให้การยึดติดวัตถุพื้นผิวต่าง ๆ ดีมาก สะดวก ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ หรือสว่านเจาะให้ยุ่งยาก คุณสมบัติที่มีของกาวตะปูที่เหนือกว่าตอกตะปูทั่วไป
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักคุณสมบัติอยากให้ลองศึกษาประเภทที่มีให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน โดยที่จะมีด้วยกัน 2 สูตร คือสูตรน้ำที่จะมีน้ำผสมอยู่ เนื้อกาวไม่ฉุน ไม่มีกลิ่น ไม่แสบตา ไม่แสบจมูก โดยที่จะเหมาะกับงานตกแต่งภายใน พื้นผิวที่รูพรุน ไม่เรียบมาก เช่น ปูน อิฐ คอนกรีต หินธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งจะต้องไม่มีความชื้น หรืออุณหภูมิไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส อีกสูตรคือสูตรน้ำมัน หรือโซลเวนท์ ที่ใช้กับพื้นผิวได้หลากหลาย ทั้งโลหะ กระเบื้อง ไม้ ทนทานต่อ UV ยึดติดได้แน่น ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ทนทานต่อความร้อนสูงถึง 50 องศาฯ ปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ ดังเช่น กาวตะปู 3M, TOA, PATTEX ฯลฯ และหากถามว่ามีคุณสมบัติอะไรที่ว่าเหนือกว่าการตอกตะปูทั่วไป?
-    มีความสามารถในการยึดติดได้ดี : โดยที่ทั้งสูตรน้ำและน้ำมันนั้นใช้ได้ทุกพื้นผิว แต่หากจะให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม ก็จะแบ่งเป็นพื้นผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน อย่าง โลหะ อะลูมิเนียม กระจก กระเบื้อง เหล็ก ฯลฯ และพื้นที่ผิวขรุขระ มีรูพรุน อย่าง คอนกรีต ซีเมนต์ แผ่นไม้ อิฐ หินธรรมชาติ ฯลฯ
-    ความสามารถยึดเกาะสูง : ที่จัดว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญ หรือจะเรียกว่าเป็นกาวพลังตะปูก็ว่าได้ ซึ่งจะมีแรงยึดเกาะสูง ทนทาน แข็งแรง ติดแน่นเหมือนกับเราตอกตะปูจริง โดยที่สูตรน้ำจะรองรับน้ำหนักได้ 100 กก. / ตารางเมตร และถ้ายิ่งเป็นสูตรน้ำมันก็จะรองรับน้ำหนักสูงไปได้ถึง 200 กิโลกรัม / ตารางเมตรเลยทีเดียว
-    สามารถใช้กับงานแนวเหนือหัวได้ : เพราะกาวลักษณะนี้จะเหมาะกับการซ่อมแซม ตกแต่ง หรือติดวัสดุที่อยู่ในแนวระนาบได้ ใช้กับงานเหนือหัวที่ไม่สามารถตอกตะปูได้ อาทิเช่น งานคิ้ว งานติดบัว งานฝ้าเพดาน เหตุเพราะจะยิงด้วยปืนกาว แค่ใส่หลอดกาวก็ยิ่งได้เลยทันทีไม่ยุ่งยาก

ในการใช้งานกาวตะปูจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยความเหมาะสมที่มีด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริเวณที่ใช้งาน ที่ต้องรู้ว่าจะใช้ที่ไหน ภายในภายนอกอาคาร บ้านเรือน ผิวที่เราจะติด เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงมากขึ้น รวมถึงน้ำหนักของชิ้นงาน หรือวัสดุที่จะติดด้วย ว่ามีมากน้อยแค่ไหน เหตุเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะยึดติดวัสดุกับพื้นผิวไม่ได้นั่นเอง

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031003

47


เมื่อเอ่ยถึงผลิตภัณฑ์ยาแนวแล้วนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอะคริลิคซีลแลนด์ก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม และปัจจุบันก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์มาก และหากท่านยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแบรนด์ไหนดี เรามีมาแนะนำให้รู้จัก 4 แบรนด์ด้วยกัน ยืนยันจากผู้เคยใช้งานหลาย ๆ คนแล้วว่าคุณภาพสูสีมาก เลือกอันไหนก็มีประสิทธิภาพคุ้มราคาแน่นอน
4 ยี่ห้ออะคริลิคซีลแลนด์ คุณภาพสูสีคุ้มราคาที่จ่าย
1. TOA 303 280 มล. สีขาว
เป็นผลิตภัณฑ์ยาแนวรอยต่อ ที่ลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ไม่มีตะกั่ว หรือสารปรอท ทั้งยังทนทานต่อรังสียูวี และสภาวะอากาศที่มีในประเทศไทย ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ทาสีทับหน้าเหลืองได้สามารถทาสีทับ หรือขัดตกแต่งได้ ใช้งานกับภายในภายนอกได้หมด โดยที่มีราคาขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อ คือ 1 ea ราคา 43 บาท 6 – 11 ea ราคา 42 บาท และมากกว่า หรือเท่ากับ 12 ea ราคา 41 บาท
2. จระเข้ 450 กรัม
นับว่าเป็นสินค้าขายดีที่สุดก็ว่าได้กับยาแนวจระเข้ 450 กรัม ที่มีให้เลือกทั้งสีขาว สีโอ๊ค สีเชอร์รี่ สีน้ำตาล ที่เป็นยาแนวเพื่ออุดรอยต่อ กันความชื้น รั่วซึม และฝุ่นละอองได้ดี ทนทานกับทุกสภาพผิวที่จะใช้งาน รวมถึงทุกสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ แห้งเร็ว ทาทับสีเพื่อการตกแต่งที่เหมาะสมได้ด้วย โดยที่มีราคาหลอดละ 125 บาท เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 88 บาทเท่านั้น
3. SISTA F130 300 มล. สีเมเปิ้ล
ในส่วนของปากหลอดยาแนว SISTA F130 300 มล. สีเมเปิ้ล ก็จะใช้งานได้ในพื้นที่แคบหรือไม่มาก จำกัดได้ ช่วยป้องกันย้ำ เสียง อากาศ หรือฝุ่นละอองได้ดี ซึ่งถือเป็นยาแนวกันซึมที่แห้งแล้วก็ทาสีอื่นทับไปได้ทันที มีความยืดหยุ่นสูงไม่แห้งกรอบ เป็นสูตรน้ำที่ปลอดภัยไร้กลิ่น ทนทานต่ออุณหภูมิได้สูงสุดถึง 80 องศาฯ ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนที่สั่งซื้อ 1 ea 99 บาท 6 – 11 ea 97 บาท หรือมากกว่า / เท่ากับ 12 ea ราคา 95 บาท
4. BOSNY B212 300 มิลลิลิตร
ปิดท้ายแบรนด์นี้เลย BOSNY B212 300 มล. มีให้เลือกทั้งสีเทา สีดำ สีขาว สีน้ำตาล ซึ่งจะเหมาะกับการใช้เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การรั่วซึม ความชื้น อุดรอยต่อต่าง ๆ จะเพื่อซ่อมแซม อุดร่อง หรือปิดรอยได้หมดเลยตามต้องการ โดยที่ทนทานต่องานทุกสภาพผิว สภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ราคาอยู่ที่หลอดละ 45 บาทจากราคาปกติ 65 บาท เมื่อสั่งผ่านออนไลน์
อย่างไรก็ตาม การใช้งานอะคริลิคซีลแลนด์ก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วยไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม คือ ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้สินค้าแบบผิด ๆ ควรจัดเก็บในพื้นที่แห้งและพ้นมือเด็ก ห้ามวางใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน เลี่ยงการวางโดนแสงแดดนาน ๆ ก็เพราะว่าสินค้าอาจเสียหายได้ และเมื่อเข้าตาให้เอาน้ำสะอาดล้างออกและพบแพทย์ทันที

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON031002

48


ต้องยอมรับว่าซีเมนต์เป็นวัสดุก่อสร้างที่นิยมใช้งานกันมากที่สุด และบางคนก็อาจจะมองข้ามถึงอันตรายที่มี ซึ่งจริง ๆ แล้วจัดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากควรมีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และเราไม่รอช้าที่จะมาไปตรวจสอบข้อควรระวังในการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยไร้ปัญหาสุขภาพมากที่สุด
4 ข้อควรระวังในการใช้งานซีเมนต์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
1. ควรมีการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด
สุดท้ายก็คืออันตรายจากการสัมผัสตัวปูน ทั้งปูนกันซึม และอื่น ๆ ควรมีการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดมากที่สุด เพื่อไม่ให้มีปูนกระเด็นมาโดน หรือป้องกันไม่ให้เนื้อปูนแทรกซึมเข้ามาทางผิวหนัง เลือกสวมได้ทั้งกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว รองเท้าบูต ถุงมือกันน้ำ หรือแว่นตานิรภัย ช่วยป้องกันได้อย่างดี
2. ระวังไม่ให้เข้าตา หรือเข้าปาก
ให้เลี่ยงการสัมผัสแบบตรง ๆ และต้องระวังไม่ให้เข้าตา เข้าปาก จะเป็นผง หรือส่วนที่เปียกชื้นก็ตาม กรณีที่สัมผัสผิวหนังก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่รุนแรง เพราะทำลายผิวชั้นในและชั้นนอกได้ ทำให้เกิดแผลไหม้พุพอง แนะนำให้รีบล้างออกไวที่สุด ถ้าเข้าตาแม้จะเล็กน้อยก็อาจบาดกระจกตาได้ ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที และล้างให้นาน 15 นาที และรีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน หากเข้าปากแล้วเกิดอาเจียน คลื่นไส้ก็ให้ดื่มน้ำมาก ๆ ห้ามอาเจียนออกมา และพบแพทย์โดยด่วนด้วยเช่นกัน
3. รู้จักเก็บให้เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นซีเมนต์กันซึม หรืออื่นใดก็ตามสามารถดูดความชื้นได้ดีมาก หากนำไปวางไว้ในบริเวณที่ชื้นสูงก็จะทำให้จับตัวเป็นก้อน หรือเป็นเม็ด ๆ ได้ และเมื่อเป็นแบบนั้นก็จะใช้งานไม่ได้สุดท้ายต้องทิ้งไปเปล่าประโยชน์ แถมเปลืองเงินซื้อใหม่ไปอีก ต้องเก็บให้สูงจากพื้นมากกว่า 1 ฟุต ควรเก็บในที่มิดชิด และไม่ควรไว้นานกว่า 1 เดือนในหน้าฝน หรือ 2 เดือนในหน้าร้อน
4. อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้จะมีผงปูนที่อาจจะโดนลมพัดปลิวเข้าไปในระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้งาน ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ต่อเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรค อาทิเช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง, ภูมิแพ้ ฯลฯ แม้จะเป็นการสูดดมแบบเล็กน้อย หรือแค่ละอองก็ตาม กรณีที่รู้ตัวว่าสูดผงเข้าไปแนะนำให้ไปหาพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวกแล้วสูดอากาศเข้าไปเยอะ ๆ แต่หากพบว่าอาการไม่ดี มีอาการอื่นร่วมด้วย อาทิเช่น แสบจมูก หายใจติดขัด จมูกอักเสบ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน อาจจะใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นขณะใช้งานก็ช่วยได้มาก

การทราบถึงข้อควรระวังด้านการใช้งานซีเมนต์เหล่านี้ช่วยให้ท่านรู้จักใช้งานอย่างดี เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพสูงสุด แต่หากเกิดอันตรายต่อสุขภาพจริง ๆ อย่างที่บอกหนทางที่ดีที่สุดให้รีบพบแพทย์เลย ขืนปล่อยไว้หรือชะล่าใจอาจจะเกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมาได้

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON030601

49


ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียมนับว่าเป็นอีกรูปแบบที่เริ่มจะเป็นที่สนใจในงานช่าง อย่างยี่ห้อ SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงินก็เป็นอีกไอเท็มที่ค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยคุณสมบัติที่มีให้สัมผัสคุ้มค่า แถมมีวิธีการใช้งาน คำแนะนำ รวมทั้งข้อควรระวังที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร และหากท่านใดต้องการเลือกซื้อเลือกหาแต่ก็ยังลังเล ลองมาทำความเข้าใจกับข้อมูลเหล่านี้ดูเพื่อการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อง่ายมากขึ้น
ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียม SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงิน
ในส่วนของปืนยิงกาว SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงินเป็นปืนยิงที่เหมาะกับการติดตั้งควบคู่กับหลอดซิลิโคน ของกาว หรือยาแนว ที่จะต้องใช้การบีบอัดจากปลายกระบอก เพื่อดันเอาน้ำยาภายในออกมา โดยที่จะไหลไปตามหัวยิงที่มีบริเวณปลายหลอด โดยที่ประยุกต์ใช้งานได้เยอะ ทั้งการเชื่อมตรงกระจก ติดตั้งอุปกรณ์ประปา อุดรอยรั่ว เช่น อ่างล้างหน้า อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ อ่างอาบน้ำ ฯลฯ เป็นการอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ตรงตามการใช้งานที่ลงตัว
-    เหมาะกับการใช้งานร่วมกับยาแนว หลอดกาว หรือซิลิโคน
-    วัสดุผลิตจากอะลูมิเนียมที่เน้นความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานสุด
-    ถูกออกแบบมาให้สามารถถอดหรือสวมหลอดของซิลิโคนเข้า / ออกได้สะดวก
-    ด้ามจับกระชับมือ จะกด บีบ หรือใช้งานอะไรก็ผ่อนแรงได้ดี

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์
สำหรับการใช้งานปืนยิงยาแนวก็จะใช้เพื่อบีบอัดเพื่อการยิงซิลิโคนที่เหมาะสม โดยให้เตรียมกาวและปืนยิงโดยที่เปิดจุกตัวกาว จัดส่วนจุกตามต้องการ นำจุกมาสวมใส่ กดที่ตัวล็อคเพื่อดึงตัวแกนกลาง จากนั้นก็ใส่กาวกดที่ยิงให้แน่นมากยิ่งขึ้น เท่านี้ก็นำไปใช้งานได้เลยยิงไปที่จุดนั้น ๆ ที่ต้องการ แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลการใช้งานอย่างละเอียดที่คู่มือก่อน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมถูกประเภทงานด้วย

ทั้งนี้ การใช้งานก็มีข้อควรระวังด้วย โดยที่ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง และใช้งานสินค้าแบบผิดประเภท หรือผิดวิธีใช้งานเด็ดขาด ซึ่งยังต้องห้ามวางใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน รวมไปถึงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และต้องให้พ้นมือเด็กด้วยเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีราคาอยู่ที่ 399 บาท และยิ่งหาซื้อผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 299 บาทเท่านั้น

ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียมยี่ห้อ SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงิน มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ด้วยความแข็งแรง ทนทาน กระชับมือ กดบีบ หรือใช้งานได้ดี ทั้งยังมีสนนราคาที่เหมาะสม สั่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาถูกลงกว่าเดิมไปอีก ท่านใดต้องการผลิตภัณฑ์แนวแบบนี้ไปใช้งานอุด ซ่อมแซม ปิดรอยรั่ว รอยร้าวต่าง ๆ ให้กับตัวบ้าน อาคาร สิ่งนี้ตอบโจทย์การใช้งานคุณอย่างแน่นอน ลองเลย!

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031006

50


ในคราวนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ “ซิลิโคนซีลเลอร์” ที่ถือว่าเป็น Best Seller สินค้าขายดีสุดที่รับประกันว่ามีคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ราคาคุ้มกับที่จ่ายไปแน่นอน แต่จะมีแบรนด์ไหน รุ่นไหนบ้างนั้น เราไปติดตามรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กันดีกว่า เพื่อการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพตอบโจทย์มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์ Best Seller ซิลิโคนซีลเลอร์ คุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน
1. ซิลิโคนชนิดไร้กรด ยี่ห้อ 3M
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซิลิโคน 100% มีคุณภาพสูงมาก ทนทาน แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และรังสี UV ที่ทนได้ดี เนื้อซิลิโคนไม่มีไหลย้อย เหมาะกับการซ่อมแซม หรืออุดรอยต่อได้ดี โดยที่ราคาก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณ มีทั้ง 60 ML ราคา 90 บาท และ 300 ML ราคา 299 บาท เป็นราคาเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เท่านั้น
2. ซิลิโคนชนิดมีกรด แบรนด์ TOA 280 มิลลิลิตร
ต่อมาเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ โดยที่ออกฤทธิ์เป็นกรด มีแรงยึดเกาะได้สูง แข็งแรงทนทาน เนื้อแห้งเร็วมากทำให้ประหยัดเวลา เหมาะกับการใช้งานด่วน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งมีสีให้เลือก 2 สี คือสีขาว และสีใส ราคา 125 บาท แต่เมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเพิ่มเหลือ 107 บาทเท่านั้น
3. ซิลิโคนชนิดไร้กรดกันเชื้อรา แบรนด์ NEOBOND 300 มล.
อีกหนึ่งซิลิโคนยาแนวที่คุณภาพสูง โดยที่ออกฤทธิ์เป็นกลาง มีแรงยึดเกาะได้ดี ยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการใช้งานทุกสภาพอากาศ ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร บ้านเรือน ไม่กัดกร่อนทำลายพื้นผิวของวัสดุ รวมถึงมีกลิ่นรบกวนเมื่อใช้งานด้วย โดยที่มีสีให้เลือกทั้ง สีดำ สีขาว สีใส สีเทา ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนการซื้อ ตั้งแต่ 1 ea ราคา 219 บาท, 6 – 11 ea ราคา 216 บาท และมากกว่า / เท่ากับ 12 ea ราคา 213 บาท
ทั้ง 3 ยี่ห้อซิลิโคนอุดรอยรั่ว ยาแนวเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ Best Seller ขายดีที่สุดเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ คิดเห็นจากจำนวนยอดซื้อที่มีสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งจริง ๆ ก็ยังมีอีกหลายยี่ห้อ อาทิเช่น DEXZON, SISTA หรืออื่น ๆ อีกเพียบ แน่นอนว่าคุณภาพ ความทนทานแข็งแรงก็ไม่แพ้กัน ซึ่งก่อนที่จะใช้งานก็ต้องมีการทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น และคราบไขมันด้วย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับวัสดุเพิ่มมากขึ้น โดยที่ต้องมีการศึกษาข้อมูลการใช้งานให้ละเอียด และเลือกให้เหมาะสมกับประเภทงานด้วย

และเหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาเกี่ยวกับข้อควรระวังในการใช้งานซิลิโคนซีลเลอร์ ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็ตาม โดยที่ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภท ซึ่งต้องวางไว้ในพื้นที่แห้ง และเก็บให้พ้นมือเด็ก ห้ามใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่างมาทำความสะอาดเด็ดขาด ทั้งนี้ ห้ามสูดดม หรือรับประทานด้วย

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031001

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 13