ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - สิริ พร

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 11
1
บริหารจัดการอาคาร: ข้อดีของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์

ในปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ มีความจำเป็นอย่างมากในอากาศที่ร้อนอบอ้าว เชื่อว่า มีแทบทุกบ้าน เพราะมีความจำเป็นสำหรับใครหลายๆคน เนื่องจากอากาศในบ้านเราต้องบอกว่า มีอากาศที่ร้อนแทบจะตลอดทั้งปี ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้ในการคลายร้อน ทำให้ความรู้สึกเย็นสบาย แต่เราก็ต้องแลกกับค่าไฟที่ต้องเพิ่มมากขึ้น แต่หากเราติดเครื่องปรับอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศของเรานั้น จะมีอายุการใช้งานที่นานและมีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ

แต่ก็มีหลายบ้านที่มักจะเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่ได้พักแอร์เลย ก็ทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก และสกปรกได้ง่าย เพราะยิ่งเราเปิดแอร์ ก็ยิ่งทำให้แอร์มีการสะสมของฝุ่นเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งการใช้งานแอร์ที่หนักเกินไปนั้น ทำให้เราต้องทำความสะอาดแอร์บ่อยๆ แต่ยิ่งเราเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ค่าไฟก็จะยิ่งพุ่งสูงเป็นธรรมดา เพราะแอร์ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ค่อนข้างเปลืองไฟ แต่ก็มีเทคนิคที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้เยอะ

เพียงแค่เราใช้งานแอร์อย่างถูกต้อง ซึ่งในสมัยนี้ก็มีเครื่องปรับอากาศรุ่นต่างๆเกิดข้นมากมาย หนึ่งในนั้น คือแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ที่เป็นแอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่สนใจจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้พิจารณาในการเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม
 
แอร์อินเวอร์เตอร์ คือแอร์ที่ทำงานโดยกระบวนการแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง ไปเป็นกระแสสลับ  เพื่อควบคุมรอบมอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์ได้อย่างละเอียดกว่าการปรับกระแสไฟฟ้าสลับโดยตรงที่ทำได้เพียงแค่ ตัด/ต่อ เหมือนแอร์บ้านทั่วไป และสามารถชะลอการทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องตัดไฟ หรือ จ่ายไฟเปิดคอมเพรสเซอร์ เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องเลย

ดังนั้นข้อได้เปรียบของแอร์ชนิดนี้อย่างแรกก็คือ การประหยัดไฟที่มากกว่า โดยลักษณะพิเศษของ แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ คือ ทำงานเงียบ ด้วยความที่มันสามารถควบคุมกำลังไฟที่ตัว คอมเพรสเซอร์ได้ ดังนั้น การทำงานจึงแตกต่างจากอีกประเภท คือมันสามารถเร่งระดับการทำความเย็นได้สูงสุดเพื่อให้ อุณหภูมิไปแตะถึงจุดที่กำหนด

จากนั้นก็ปรับกำลังไฟที่ตัวคอมเพรสเซอร์ เพื่อ ปรับระดับการทำงานให้เบาลงและรักษาระดับอุณหภูมิไว้ การทำงานจึงค่อนข้างมีเสียงเบากว่า และยังทำความเย็น ได้รวดเร็วกว่า เพราะเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นได้เร็วกว่าเครื่องระบบธรรมดา ที่มีค่า BTU หรือ หน่วยทำความเย็นเท่ากัน

นอกจากนี้ การทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ก็ยังขึ้นอยู่กับองศาที่เราเปิดด้วยเช่นกัน สมมติว่าเราเปิดแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ที่ 18 องศาเท่ากับแอร์ธรรมดา ห้องที่จะเย็นเร็วกว่า คือห้องที่ใช้ ระบบอินเวอร์เตอร์เพราะคอมเพรสเซอร์จะปรับระดับการทำงานสูงสุดเพื่อให้อุณหภูมิไปแตะองศาที่กำหนดได้เร็วขึ้น แถมยังให้อุณหภูมิใกล้เคียงกับค่าที่กำหนดมากกว่า เพราะความสามารถในการควบคุมระดับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ได้นั่นเอง ทำให้ เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่กำหนดมากกว่า

ซึ่งอาจจะต่ำหรือสูงกว่า 1 องศา เท่านั้น และยังมีคอมเพรสเซอร์ ที่มีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น เนื่องจากเมื่อแอร์ไม่ต้องตัดไฟบ่อย ๆ คอมเพรสเซอร์ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป คอมเพรสเซอร์แอร์ ระบบอินเวอร์เตอร์จะมีระยะเวลารับประกันถึง 10 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามค่าซ่อมบำรุงก็จะสูงกว่าแอร์ธรรมดา อย่างไรก็ตาม แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ จะมีราคาที่แพงกว่าแอร์ธรรมดาอย่างชัดเจน เพราะด้วยเรื่องของฟังก์ชันต่าง ๆ ที่กล่าวมาแต่ถ้าเทียบความคุ้มค่า หากใช้งานบ่อย ๆ แล้ว ก็คุ้มที่จะเลือกใช้งานอย่างแน่นอน

 
 
อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ หรืองานซ่อมบำรุง สามารถขอรายละเอียดได้จากทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้ว อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย เพราะฉะนั้น ให้ทางเราได้ดูแลในเรื่องของระบบปรับอากาศของคุณให้มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

2
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ข้อเข่าเสื่อม

สาเหตุ

มีการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนที่บุอยู่บนผิวข้อกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ลดแรงกระแทก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและสารเคมีภายในข้อ ในที่สุดทำให้ผิวข้อกระดูก 2 ด้านที่สึกกร่อนและขรุขระ มีการเบียดหรือเสียดสีกันโดยตรง และเกิดการอักเสบเรื้อรังภายในข้อกระดูก

ขณะเดียวกันก็เกิดกระบวนการซ่อมแซมของข้อ ทำให้มีหินปูนหรือปุ่มงอก (osteophytes) เกาะรอบ ๆ ผิวข้อ ซึ่งมีบางส่วนแตกหักหลุดเข้าไปในข้อ ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดดังกล่าวทำให้มีอาการปวดข้อ ข้อติด ข้อแข็ง และเคลื่อนไหวลำบาก

พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น

    อายุและเพศ ภาวะข้อเสื่อมมักเกิดในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือหลังวัยหมดประจำเดือน (เกี่ยวกับการพร่องฮอร์โมนเอสโทรเจน) แต่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีจะพบในผู้ชายมากกว่า
    กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อเสื่อมชนิดหลายข้อ หรือข้อเสื่อมตั้งแต่อายุน้อย มีโอกาสที่จะเกิดข้อเสื่อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีข้อนิ้วมือเสื่อม จะพบว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้มากกว่ากลุ่มที่มีข้อเข่าเสื่อม
    ความอ้วน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อเข่าและสะโพก เกิดการเสื่อมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้เนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินยังสร้างสารเคมี (กลุ่ม cytokines) ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบภายในและรอบ ๆ ข้อ ทำให้ข้อถูกทำลาย
    การได้รับบาดเจ็บ (เช่น การวิ่ง การเล่นกีฬา) ที่มีการกระแทกต่อข้อเข่า
    การใช้ข้อมากหรือซ้ำ ๆ อยู่นาน ๆ เช่น การก้ม การนั่งงอเข่า การเดินขึ้นลงบันได การยืนนาน ๆ การยกของหนัก จะทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อต่อ เป็นเหตุให้ข้อเสื่อมได้
    กล้ามเนื้ออ่อนแอ เช่น กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps) อ่อนแอ อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็ว
    เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เกาต์
    การติดเชื้อ เช่น ข้ออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
    ข้อมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด


อาการ

ลักษณะที่พบได้ทั่วไปสำหรับโรคข้อเสื่อมไม่ว่าจะเกิดตรงตำแหน่งใดก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อ ข้อติด (ข้อแข็ง) หรือขยับได้ไม่สุด อาการปวดข้อมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยมักไม่พบลักษณะอักเสบ (บวมแดงร้อน) ของข้อชัดเจน และไม่มีไข้ อาการปวดข้อมักจะไม่รุนแรง จะปวดเวลามีการใช้ข้อและทุเลาเมื่อพัก

อาการข้อแข็งหรือข้อติด ขยับลำบาก มักเกิดขึ้นเวลาตื่นนอนตอนเช้า หรือเมื่อหยุดพัก ไม่ได้ใช้ข้ออยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งจะเป็นอยู่ไม่เกิน 30 นาที หลังจากมีการเคลื่อนไหวข้อก็จะทุเลาไปเอง

อาการปวดข้อและข้อติดมักจะเป็นเวลาอากาศเย็นชื้น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากแรงดันในข้อมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ข้อที่เสื่อมแต่ละตำแหน่งยังมีลักษณะอาการเฉพาะดังนี้

    ข้อนิ้วมือเสื่อม ในระยะแรกจะมีอาการปวดและชาตามข้อ อาการปวดจะทุเลาไปได้เองภายใน 1 ปีหลังเริ่มมีอาการ และอาจกำเริบซ้ำหากมีการใช้ข้อมากเกิน นอกจากนี้มักเกิดปุ่มกระดูกที่ข้อต่อ เรียกว่า ปุ่มเฮเบอร์เดน (Heberden node) ซึ่งไม่มีอาการเจ็บปวด แต่อาจทำให้จำกัดการเคลื่อนไหวของข้อ และทำให้ดูไม่สวยงาม
    ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม จะมีอาการปวดที่ต้นคอหรือปวดหลังตรงกระเบนเหน็บ และอาจมีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือขา (ดู "โพรงกระดูกสันหลังแคบ" และ "กระดูกคอเสื่อม")
    ข้อสะโพกเสื่อม มักมีอาการปวดสะโพก อาจปวดร้าวไปที่ขาหนีบ ก้น หรือเข่า เวลายืนหรือเดินนาน ๆ ขึ้นลงบันได และทุเลาเมื่อพัก ข้อสะโพกมีอาการติดขัดขยับได้ไม่เต็มที่
    ข้อเข่าเสื่อม (ซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือคนอ้วน) อาจมีอาการที่เข่าเพียงข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ จะมีอาการปวดเข่าเวลาเคลื่อนไหว และทุเลาเมื่อพัก จะปวดมากเวลายืนหรือเดินนาน ๆ เดินขึ้นลงบันได หรือเวลางอเข่า (เช่น นั่งยอง ๆ คุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ซึ่งทำให้ผิวข้อที่ขรุขระเบียดกันมาก เกิดอาการปวดจนบางครั้งไม่สามารถงอเข่าได้) บางครั้งอาจมีอาการปวดที่บริเวณต้นขาและน่อง เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว เวลาเคลื่อนไหวข้อเข่าจะมีเสียงดังกรอบแกรบ

เนื่องจากมีการเสียดสีของผิวข้อที่ขรุขระ หรือมีอาการติดขัดเนื่องจากปุ่มงอกที่หักหลุดเข้าไปขัดอยู่ในข้อ

ผู้ป่วยมักมีอาการข้อติดข้อแข็งหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งหรือยืนอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ และหลังจากขยับข้อหรือลุกเดินอาการจะทุเลาไปภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที

ระยะแรกจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ แล้วค่อย ๆ เป็นมากขึ้น จนในที่สุดจะปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา

เมื่อข้อเข่าเสื่อมรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการขาโก่ง เดินไม่ถนัด เดินคล้ายขาสั้นข้างยาวข้าง เนื่องจากลงน้ำหนักไม่เต็มที่ หรือเอนตัวเพราะเจ็บเข่าข้างหนึ่ง บางรายเดินกะเผลกหรือโยนตัวเอนไปมา หรืออาจงอและเหยียดเข่าลำบาก บางรายอาจมีกล้ามเนื้อขาลีบลง

ในรายที่มีกล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ก็จะมีอาการเข่าอ่อนเข่าทรุด อาจทำให้พลัดตกหกล้มได้


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่ข้อกระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เกิดโพรงกระดูกสันหลังแคบ หรือกระดูกคองอกกดรากประสาท

ในรายที่ข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เดินไม่ถนัด หรือเข่าอ่อน เข่าทรุด หกล้มได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่เริ่มมีข้อเสื่อมระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

เมื่อเป็นเรื้อรังมานาน อาจตรวจพบข้อขยับได้ไม่สุดหรือข้อติดขัด เวลาจับข้อ (เข่าหรือสะโพก) โยกไปมาจะได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ

อาจพบปุ่มกระดูก (ปุ่มเฮเบอร์เดน) ที่ข้อนิ้วมือหลายนิ้ว หรืออาจคลำได้ปุ่มงอกที่ข้อเข่า

สำหรับข้อเข่าที่เสื่อมรุนแรง อาจพบขาโก่ง 2 ข้าง เดินกะเผลก บางครั้งอาจพบข้อบวมเนื่องจากมีน้ำอยู่ในข้อโดยไม่มีอาการอักเสบแดงร้อนร่วมด้วย (ถ้าข้อมีอาการบวม แดง ร้อน มักเกิดจากสาเหตุอื่น)

สำหรับข้อสะโพกเสื่อม อาจตรวจพบขา 2 ข้างยาวไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อข้างที่เสื่อมเคลื่อนหลุดจากเบ้าสะโพก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้ามีอาการปวด ให้พักข้อที่ปวด (เช่น อย่าเดินมาก ยืนมาก หรือเดินขึ้นลงบันได นั่งเหยียดเข่าข้างที่ปวด อย่านั่งงอเข่า) และใช้น้ำแข็งหรือน้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ ทานวดด้วยยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ายังปวดให้กินพาราเซตามอลบรรเทาเป็นครั้งคราว

ถ้ามีอาการปวดมาก จะให้กินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ในขนาดต่ำสุด นาน 3-5 วัน ไม่ควรกินติดต่อกันนาน ๆ และควรระมัดระวังในการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นโรคแผลเพ็ปติก ถ้าจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มนี้ติดต่อกันหลายวัน จะให้ยาป้องกันโรคแผลเพ็ปติก เช่น โอเมพราโซล ครั้งละ 20 มก. วันละ 2 ครั้ง

2. พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้อาการปวดข้อกำเริบ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเข่า) เช่น ห้ามยกของหนัก หรือหาบน้ำ หิ้วน้ำ อย่ายืนนาน อย่านั่งคุกเข่า (นั่งถูพื้นหรือซักผ้า) นั่งพับเพียบ หรือขัดสมาธิ พยายามนั่งบนเก้าอี้หรือนั่งในท่าเหยียดเข่าตรง

เวลาสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังเทศน์ หรือประกอบกิจทางศาสนา ควรหลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่า ควรนั่งเก้าอี้หรือยืน

ควรหลีกเลี่ยงการนั่งซักผ้าในท่างอเข่า และการนั่งส้วมซึมแบบยอง ๆ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ส้วมชักโครก หรือใช้เก้าอี้เจาะช่องตรงกลางนั่งคร่อมบนส้วมซึม

หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได* ถ้าเป็นไปได้ควรย้ายห้องนอนลงมาชั้นล่าง

ถ้าพื้นบ้านมีการยกสูงต่างระดับกัน ทำให้เวลาเดินต้องงอเข่ามาก ก็ควรปรับให้เป็นระดับเดียว

ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เช่น หลังจากนั่งทำงานนาน 1 ชั่วโมงควรพัก และลุกขึ้นเดินสัก 2-3 นาที หรือหลังจากยืนนาน ๆ ก็ควรนั่งพักสักครู่สลับกัน

ถ้าน้ำหนักมาก ควรลดน้ำหนักซึ่งจะช่วยให้อาการปวดทุเลาได้มาก

ในรายที่มีข้อเข่าหรือข้อสะโพกเสื่อม เวลาเดินควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทกเพื่อลดการบาดเจ็บต่อข้อ

3. พยายามบริหารกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวข้อให้แข็งแรง เช่น ถ้าปวดหลังก็ให้บริหารกล้ามเนื้อหลัง (ดู "โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง") ถ้าปวดเข่าก็บริหารกล้ามเนื้อต้นขาส่วนหน้า

การฝึกกล้ามเนื้อควรเริ่มทำเมื่ออาการปวดทุเลาลงแล้ว ระยะแรกฝึกวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที จนรู้สึกกล้ามเนื้อแข็งแรงไม่เมื่อยง่าย จึงเพิ่มเป็นวันละ 3-5 ครั้ง

การบริหารกล้ามเนื้อเข่า เริ่มแรกไม่ต้องถ่วงด้วยน้ำหนัก ต่อไปค่อย ๆ ถ่วงน้ำหนัก (เช่น ถุงทรายหรือขวดน้ำใส่ถุงพลาสติกที่มีหูหิ้ว) ที่ข้อเท้าทีละน้อย จาก 0.3 กก. เป็น 0.5 กก. 0.7 กก. และ 1 กก. โดยเพิ่มไปเรื่อย ๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ จนยกได้ 2-3 กก. ข้อเข่าก็จะแข็งแรงและลดอาการปวด ควรทำเป็นประจำทุกวัน

4. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่ามากหรือบ่อย หรือมีอาการเข่าอ่อน เข่าทรุด ควรใช้ไม้เท้า เครื่องพยุงหรือกายอุปกรณ์ช่วยเดิน และสร้างราวเกาะในบ้านและในห้องน้ำ เพื่อใช้เกาะเดินและพยุงตัวป้องกันการหกล้ม

5. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3-4 สัปดาห์ หรือบวมตามข้อ หรือมีอาการปวดร้าวหรือชาตามแขน (ร่วมกับปวดคอ) หรือขา (ร่วมกับปวดหลัง) จะทำการตรวจโดยการเอกซเรย์ดูการเปลี่ยนแปลงของข้อ หากสงสัยว่าเกิดจากโรคอื่น อาจต้องทำการตรวจเลือด และตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม

ในรายที่ปวดรุนแรง แพทย์อาจให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ามีข้อห้ามใช้ยากลุ่มนี้แพทย์อาจให้ยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เพื่อบรรเทาปวด

ในรายที่มีอาการข้อบวม แพทย์จะทำการดูดน้ำในข้อออก และอาจพิจารณาฉีดสเตียรอยด์เข้าในข้อเป็นครั้งคราว สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 4-6 เดือน (ไม่ควรเกินปีละ 2-3 ครั้ง อาจทำให้กระดูกเสื่อมหรือสลายตัวเร็วขึ้น)

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้การรักษาอื่น ๆ เช่น การทำกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม, การให้กินยากลูโคซามีน (glucosamine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ, การฉีดสารไฮยาลูโรเนต (hyaluronate ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในน้ำในข้อ) เข้าในข้อ 1 ครั้ง/สัปดาห์ จำนวน 3-5 ครั้ง

วิธีเหล่านี้มีส่วนในการบรรเทาอาการปวดข้อ แต่มักจะกำเริบอีก และอาจต้องให้การรักษาเป็นระยะ ๆ ตามความรุนแรงของโรค

ในรายที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรง จนไม่สามารถทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นปกติ หรือข้อเข่าผิดรูป เช่น ขาโก่ง โค้งงอ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีใช้ยาต่าง ๆ ไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาทำการผ่าตัดซึ่งมีอยู่หลายวิธี ซึ่งแพทย์จะเลือกให้เหมาะกับอายุ ความรุนแรง และลักษณะการใช้งานข้อเข่า เช่น การผ่าตัดโดยการใช้กล่องส่องเพื่อล้างข้อและซ่อมแซมผิวข้อ (arthroscopic larvage and debridement) ในผู้ป่วยที่เข่าเสื่อมไม่มาก, การผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักของข้อเข่าใหม่ (osteotomy) ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 60 ปีที่ข้อเข่าผิดรูป, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (joint replacement) ซึ่งนิยมทำในผู้ป่วยที่ข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือผิดรูปมาก

สำหรับข้อสะโพกเสื่อมก็มีการผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักใหม่ และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมช่วยให้ผู้ป่วยหายปวด สามารถเคลื่อนไหวข้อและเดินได้เป็นปกติ ในปัจจุบันมีการพัฒนาข้อเข่าเทียมที่สามารถงอเหยียด และเคลื่อนไหวข้อเข่าได้ใกล้เคียงกับข้อเข่าจริง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนที่แข็งแรงทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระวังดูแลข้อเข่าเทียม โดยไม่ใช้งานหนักเกิน หลีกเลี่ยงการยกของหนักเป็นเวลานาน ๆ การแบกหาม การเดินไกล ๆ และการงอเข่ามาก ๆ และควรควบคุมน้ำหนัก มิเช่นนั้นข้อเข่าเทียมก็อาจชำรุดและใช้งานไม่ได้ในเวลาที่สั้นกว่าควรจะเป็น (ปกติข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานประมาณ 8-15 ปี)

*หากจำเป็นต้องขึ้นลงบันได สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่าข้างเดียว เวลาเดินขึ้นบันได ให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างที่ปกติขึ้นก่อน แล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้นที่ขาปกติวางอยู่ อย่าก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง ส่วนขาลง ก็ก้าวขาข้างที่ปวดลงก่อน แล้วก้าวขาข้างที่ปกติตาม การก้าวขึ้นลงบันไดทีละขั้นแบบนี้ ขาข้างที่ปวดจะไม่มีการงอเข่า จึงลดอาการปวดลงได้

การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจ หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม ควรดูแลตนเอง ดังนี้   

    กินยาบรรเทาปวดตามคำแนะนำของแพทย์
    ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ หรือน้ำแข็งประคบ
    หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ทำให้ปวดข้อ (เช่น นั่งงอเข่า เดินขึ้นลงบันได หรือบนพื้นต่างระดับ)
    บริหารกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อให้แข็งแรง
    ลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาชุดหรือยาลูกกลอนมาใช้เอง เนื่องจากมักมียาสเตียรอยด์ผสม เมื่อกินแล้วจะรู้สึกดี ทำให้ต้องกินติดต่อกันนาน ๆ จนอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงจากสเตียรอยด์

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีอาการไข้สูง ปวดข้อมาก หรือข้อมีลักษณะบวมหรืออักเสบ (บวมแดงร้อน)
    มีอาการเดินไม่ถนัด
    ดูแลตนเอง 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    หลังกินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

การป้องกัน

สำหรับข้อเข่าเสื่อม อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้โดย

1. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าปล่อยให้มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคนี้

2. หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่านาน ๆ และการยกหรือหาบของหนักเป็นประจำ

3. บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าให้แข็งแรง

4. ออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เป็นต้น และรู้จักป้องกันไม่ให้ข้อบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย เช่น มีการอุ่นเครื่อง (วอร์มอัป) และผ่อนคลายร่างกาย (คูลดาวน์) ก่อนและหลังออกกำลังกาย ใส่รองเท้าที่ลดแรงกระแทก หลีกเลี่ยงการวิ่งบนพื้นที่แข็ง เป็นต้น


ข้อแนะนำ

1. โรคข้อเสื่อมแม้ว่าจะพบบ่อยในผู้สูงอายุ ปัจจุบันเชื่อว่ามีปัจจัยที่ทำให้ข้อเสื่อมร่วมกันหลายประการ ไม่ใช่เกิดจากการใช้งานมากหรือเสื่อมตามอายุเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจำนวนไม่น้อย (ซึ่งตรวจพบจากภาพถ่ายรังสี) จะไม่มีอาการแสดง ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้การรักษาใด ๆ

2. โรคนี้จะเป็นเรื้อรังตลอดไป ซึ่งจะมีอาการค่อยเป็นค่อยไปเป็นเวลาหลายปี และถ้าขาดการดูแลรักษาก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมีอาการปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา หรือข้อผิดรูป

3. ยาที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นยาบรรเทาอาการปวด ไม่ใช่ยารักษาเฉพาะ (ไม่ได้ช่วยให้ข้อที่เสื่อมฟื้นคืนปกติ) ควรเริ่มใช้ยาทาแก้ปวดข้อดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลใช้พาราเซตามอลเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลามีอาการปวด ถ้าไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เป็นต้น

4. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ แพทย์จะใช้ยากลุ่มนี้ในรายที่อาการปวดรุนแรงหรือใช้ยาอื่นไม่ได้ผล และไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน อาจมีผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น แผลเพ็ปติก เลือดออกในกระเพาะ ไตวาย

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดฉีดโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อกจากปฏิกิริยาอะไฟแล็กตอยด์ (anaphylactoid reaction) หรือการติดเชื้อที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (myofasciitis) ได้

5. ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน รำมวยจีน ฝึกโยคะเป็นต้น แต่ควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทก

3
รู้จัก AVATR 11 จาก Changan เอสยูวีคูเป้รถยนต์ไฟฟ้า 100% เตรียมเปิดตัวในไทย

AVATR 11 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า 100% จาก Changan เตรียมเปิดตัวในไทยภายในเดือน กันยายน นี้ พร้อมให้ไปสัมผัสตัวจริงกันใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้
 
เมื่อไม่นานมานี้ Changan กางแผนธุรกิจในไทยสำหรับปี 2024 โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ Avatr ภายในเดือน กันยายน นี้ รวมถึงรถรุ่นอื่น ๆ พร้อมขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งไฟฟ้าล้วน BEV ไปจนถึง REEV
 
Avatr ถือเป็นแบรนด์ที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวล้ำยุคแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยที่ได้รับการสนับสนุนโดย Huawei นอกจากนี้ Avatr ยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นพรีเมียมแบรนด์ ซึ่งหากรวมกับราคาที่รถจีนมักจะทำให้เข้าถึงได้ง่ายแล้ว คงส่งผลต่อตลาดรถญี่ปุ่นระดับบนจนถึงรถยุโรประดับเริ่มต้นอย่างแน่นอน

คาดว่า รถรุ่นแรกจากแบรนด์ที่นำมาจำหน่ายในไทยคงหนีไม่พ้น Avatr 11 ซึ่งเป็นเอสยูวีไฟฟ้า 100% มาดูกันว่าสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับรถคันนี้จะมีอะไรบ้าง
 
Avatr คือแบรนด์ของใคร
Avatr 11 มีมิติตัวถังเท่าไหร่ คันประมาณไหน?
ภายนอก-ใน มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ขุมกำลังมีแบบไหน ชาร์จเร็วได้เท่าไหร่?
ราคาน่าจะเกิน 2 ล้านแน่นอน
 

Avatr คือแบรนด์ของใคร
 
Avatr ตั้งชื่อมาจากคำว่า Avatar ซึ่งแปลว่า กลับชาติมาเกิด เป็นแบรนด์ย่อยภายใต้ค่ายรถจากจีนอย่าง Changan โดยถือว่าเป็นแบรนด์หรู ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 จากความร่วมมือกันระหว่าง Changan New Energy และ NIO แต่แล้ว NIO ก็ถอนความร่วมมือไปเนื่องด้วยปัญหาการเงิน ต่อมา CATL บริษัทแบตเตอรี่จึงเข้าร่วมทุนแทนด้วยหุ้น 17% ส่วน Changan ถือหุ้นที่ 40% ส่วนที่เหลือจะเป็นกองทุนต่าง ๆ
 
นอกจากนี้ยังมี Huawei เป็นซัพพลายเออร์หลัก ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Avatr จะมีเอสยูวี Avatr 11 และซีดานท้ายลาด Avatr 12
 

Avatr 11 มีมิติตัวถังเท่าไหร่ คันประมาณไหน?
 
มิติตัวถัง Avatr 11
ความยาว 4,880 มม.
ความกว้าง 1,970 มม.
ความสูง 1,601 มม.
ระยะฐานล้อ 2,975 มม.
 
รถคันนี้อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มอีวี EP1 Platform โดย Avatr 11 ต้องการตีตลาด SUV ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หากพิจารณาจากขนาดของรถแล้วจะใกล้เคียงกับ HYPTEC HT และถือว่าใหญ่กว่า Xpeng G6 ที่เพิ่งเปิดตัวไปพอสมควร รวมถึงใหญ่กว่า Honda CR-V และ BYD Sealion 6 DM-i อีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว
 
ภายนอก-ภายใน มีอะไรน่าสนใจบ้าง
 
สำหรับภายนอกของ Avatr 11 มาพร้อมดีไซน์มินิมอลที่ดูสะอาดตา ในโมเดลปี 2024 จะมาพร้อมสีทองใหม่ที่เหลือบตามแสงที่ตกกระทบ ให้ความสวยงามที่ต่างกันไปในแต่ละมุม
 

ภายในของ Avatr 11 โมเดลปี 2024 มาพร้อมโทนสีขาว-ม่วง ตกแต่งด้วยขอบสีทอง เพื่อให้เข้ากับตัวถังสีทองใหม่ ให้ความหรูหรา ฝั่งคนขับมาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลจอ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาด 15.6 นิ้ว สามารถใช้ฟังก์ชันแบ่งหน้าจอ เพื่อแสดงระบบนำทาง เล่นเกม และรับชมวิดีโอ อีกทั้งยังแบ่งฟังก์ชั่นไปยังจอฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย
 

ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมระบบเสียง Meridian ลำโพง 25 ตำแหน่งทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ 7.1.4 และเป็นรถที่มีแพลตฟอร์มขยายเสียง PA3 DSP ซึ่งมีกำลังขับ 2016W เป็นครั้งแรกของจีนด้วย
 
สำหรับเบาะนั่งของ Avatr 11 ใหม่ ปรับมาใช้หนัง full-grain semi-aniline ให้ความนุ่มกว่าเดิมและระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทุกรุ่นยังมาพร้อมเบาะนั่งด้านหน้าแบบ Zero-Gravity และเบาะด้านหลังมีระบบระบายอากาศและฟังก์ชันอุ่นเบาะอีกด้วย

 
ส่วนด้านเทคโนโลยีการขับขี่ Avatr 11 โมเดลล่าสุด มีระบบป้องกันการชนรอบด้าน ผ่านเซนเซอร์ทั้งหมด 34 จุด ประกอบด้วย ระบบ AEB/GAEB ด้านหน้า, ระบบ ELKA/LOCP ด้านข้าง และ ระบบ RAEB ด้านหลัง
 
รวมถึงมีการป้องกันการชนกันของสิ่งกีดขวางด้านข้าง (LOCP) ใหม่ที่ทำงานโดย เครือข่าย GOD 2.0 Neutral Network เพื่อเพิ่มความครอบคลุมของระบบและความสามารถในการป้องกันได้มากขึ้น ส่งผลให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
 

ขุมกำลังมีแบบไหน ชาร์จเร็วได้เท่าไหร่?
 
สำหรับขุมพลังของ Avatr 11 หากอ้างอิงสเปคจีนจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน DriveONE จาก Huawei ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย
 
630 RWD มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งไกล 630 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที
580 AWD มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งไกล 580 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
730 RWD มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 116 kWh วิ่งไกล 730 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
700 AWD มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 116 kWh วิ่งไกล 700 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที
 
ทุกรุ่นย่อยสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม.
 
สำหรับการชาร์จ มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 750V รองรับหัวชาร์จ CCS Combo Type 2 สามารถชาร์จ AC ความเร็วสูงสุด 11 kW และ DC รองรับสูงสุด 240 kW จากแบตเตอรี่ 0-80% เร็วสุดภายใน 25 นาที พร้อมรองรับระบบ V2L จ่ายไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW
 

ราคาเกิน 2 ล้านแน่นอน
 
Avatr 11 โมเดลปี 2024 จำหน่ายในจีนด้วยราคาตั้งแต่ 300,800 – 390,800 หยวน หรือตั้งแต่ 1.4 – 1.8 ล้านบาท ซึ่งหากจำหน่ายในไทยจะต้องมีต้นทุนเพิ่มเติม ราคาจึงน่าจะพุ่งไปแตะ 2 ล้านบาทแน่นอน แต่อย่าลืมว่ารถคันนี้คือ SUV ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และเป็นรถระดับพรีเมียมตาม position ของแบรนด์
 
ดังนั้น ด้วยขนาด เทคโนโลยี และความพรีเมียมที่ให้มาก็นับว่าคุ้มค่าอยู่พอสมควร เรามารอดูกันว่าในเดือน กันยายน นี้ Avatr 11 สเปคไทยจะเป็นอย่างไร หรือไม่ก็รอไปสัมผัสตัวจริงพร้อมโปรโมชันกันที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024

4
ภาวะแทรกซ้อนของ โรคไต

ไตวาย
ไตวายเฉียบพลันอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะน้ำท่วมปอด อาการเจ็บหน้าอกจากของเสียที่คั่งอยู่ในกระแสเลือด กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการขาดสมดุลของสารต่าง ๆ ในร่างกาย ไตถูกทำลายอย่างถาวร หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า และอาจกลายเป็นไตวายเรื้อรังได้

ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากไตวายเรื้อรัง ได้แก่ ภาวะกระดูกพรุน โรคโลหิตจาง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

ไตอักเสบ
การอักเสบของไตอาจสร้างความเสียหายและส่งผลให้เกิดของเหลวส่วนเกินสะสมอยู่ตามอวัยวะส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โปรตีนรั่วในปัสสาวะ กลายเป็นโรคไตเรื้อรัง หรือไตวายเฉียบพลัน เป็นต้น

กรวยไตอักเสบ
กรวยไตอักเสบหากไม้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เกิดแผลเป็นหรือฝีในไต และเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ โดยกรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลันอาจนำไปสู่การเกิดกรวยไตอักเสบชนิดเรื้อรังได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ไตเสียหายอย่างถาวร หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที

นิ่วในไต
หากนิ่วในไตที่มีขนาดใหญ่เคลื่อนจากไตไปสู่ท่อไตหรือไปปิดกั้นการไหลของปัสสาวะ อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ท่อปัสสาวะอุดกั้นจนนำไปสู่การติดเชื้อ และอาจเกิดการบาดเจ็บที่ไตจนมีภาวะไตวาย


การวินิจฉัย โรคไต

นอกจากอาการที่ปรากฏ แพทย์อาจตรวจการทำงานของไตเพื่อหาความผิดปกติต่าง ๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    ตรวจเลือด เพื่อตรวจระดับของเสียในเลือดอย่างสารครีอะตินิน ตรวจอัตราการกรองของเสียออกจากเลือดของไต ตรวจหาการติดเชื้อ และตรวจหาแคลเซียมหรือกรดยูริคในกรณีที่สงสัยว่าเป็นสาเหตุของนิ่วในไต
    ตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจระดับสารอัลบูมินและครีอะตินิน โปรตีน เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว หรือเชื้อแบคทีเรียที่ปนอยู่ในปัสสาวะ
    ตรวจจากภาพถ่าย ตรวจลักษณะ การอุดตัน และการทำงานของไตด้วยการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ CT Scan หรือ MRI Scan
    ตรวจชิ้นเนื้อ ในบางกรณีแพทย์อาจใช้เข็มเจาะนำตัวอย่างเซลล์เนื้อเยื่อไตไปส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์

5
จัดฟันบางนา: วิธีการดูแล หลังจากการปลูกกระดูกฟัน !

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ถือเป็นการรักษาที่ได้รบความนิยมมากที่สุด สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการทดแทนฟันธรรมชาติ ซึ่งวิธีการรักษานั้น ถือว่าเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ได้ผลดีและมีการใช้งานมีเสมือนฟันธรรมชาติมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการรักษาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ารับการรักษาได้ ก่อนที่ผู้เข้ารับการรักษาจะเข้ารับการฝังรากฟันเทียมนั้นจะต้องเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน เพื่อตรวจสภาพช่องปากและให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนเข้ารับการรักษา


เพื่อที่ทันตแพทย์จะได้ประเมินว่า ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทยมได้หรือไม่ หรือควรที่จะเข้ารับการฝังรากฟันเทียมในจุดใดบ้าง และจุดบริเวณที่จะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีกระดูกขากรรไกรที่สามารถรองรับรากฟันเทียมได้หรือไม่ เพราะจุดที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปนั้น โดยปกติแล้ว ฟันเราจะฝังอยู่ในกระดูกเบ้าฟัน ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการถอนฟันหรือเกิดการสูญเสียฟันธรรมชาติไปเนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม กระดูกจะมีการสลายเกิดขึ้น และหากปล่อยไว้นานๆ กระดูกบริเวณที่ถอนฟันไปแล้วนั้น จะฝ่อตัวหรือยุบตัวลงไปเรื่อยๆ และจะต้องทำการปลูกกระดูกฟันก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพื่อให้ผลการรักษามีอัตราความสำเร็จมากขึ้น รวมไปถึงป้องกันการเกิดปัญหาเกี่ยวกับรากฟันเทียมและปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว


การปลูกกระดูกฟันนั้นมีการนำกระดูกหลายชนิดเพื่อนำมาใช้ปลูกถ่ายในกระดูกขากรรไกร ขึ้นอยู่ทันตแพทย์ว่าจะใช้กระดูกชนิดใดให้กับผู้เข้ารับการรักษา แต่กระดูกของผู้เข้ารับการรักษาเอง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นกระดูกจากผู้เข้ารับการรักษาเอง ซึ่งสามารถเข้ากับเนื้อเยื่อของผู้เข้ารับการรักษาได้ดีอยู่แล้ว และยังป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งปลอดภัยมากสำหรับผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งการปลูกกระดูกฟันนั้น สามารถทำการฝังรากฟันเทียมพร้อมกันได้เลยทันที แต่ในกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษามีการปลูกกระดูกฟันที่จำนวนไม่มากนัก

แต่ในกรณีอื่นๆนั้น ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีการพักฟื้น เพื่อทำให้กระดูกมีความแข็งแรง มีความพร้อมที่จะเข้ารับการฝังรากฟันเทียม ซึ่งวิธีการดูแลรักษาและการปฏิบัติตัว ภายหลังจากการปลูกกระดูกฟัน ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดเช่นกัน เพื่อป้องกันการเกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบบริเวณบาดแผลภายในช่องปาก ภายหลังจากการผ่าตัดปลูกกระดูกฟัน ผู้เข้ารับการรักษาควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ไม่ดูดหลอดจนแผลที่ได้จากการผ่าตัดจะหายดี ภายใน 24 ชั่วโมงแรกภายหลังการผ่าตัด ในขณะที่ผู้เข้ารับการรักษายังพักฟื้นอยู่ ผู้เข้ารับการรักษาสามารถดื่มน้ำและอาหารเหลวได้ตามปกติ และลุกปัสสาวะได้ปกติ แต่ควรระมัดระวังการกระทบกระเทือนถึงบาดแผลจากการผ่าตัดด้วย

ในบางกรณีผู้เข้ารับการรักษาบางรายอาจจำเป็นต้องพักในโรงพยาบาลมากกว่า 1 วัน เพราะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และผู้ป่วยต้องดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากอย่างดีด้วย

ผู้เข้ารับการรักษาจะได้รับยาระงับปวดเพื่อลดอาการปวดแผลผ่าตัด โดยมากมักเป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งการดูแลตัวเองภายหลังจากการผ่าตัดปลูกกระดูกฟันนั้น ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษ ระมัดระวังเรื่องของรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในขณะที่บาดแผลยังไม่สมานตัว รวมไปถึงในระยะเวลาช่วยของการพักฟื้นภายหลังจากการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมด้วย

รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็ควรที่หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้แผลหายช้า และทำให้เลือดไหลไม่หยุด ทั้งยังส่งผลต่อรากฟันเทียมและบาดแผลภายหลังจากการผ่าตัดมาก เพราะฉะนั้นผู้เข้ารับการรักษาควรจะงดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการติดเชื้อภายหลังจากการผ่าตัดทั้งการปลูกกระดูกและการฝังรากฟันเทียมด้วย

6
รถยนต์ใหม่ 2024 โตโยต้า Toyota Revo Standard 4X2 2.4 Entry ปี 2024
624,000 บาท 

โตโยต้า Toyota Revo Standard 4X2 2.4 Entry ปี 2024
Toyota Hilux Revo Standard 4X2 2.4 Entry เหมาะสำหรับใช้งานบรรทุกหนักเป็นหลัก เช่น กลุ่มธุรกิจที่เพื่อการขนส่ง (Logistics) และเกษตรกร ได้รับการออกแบบมาเพื่อการบรรทุกอย่างแท้จริง ประหยัดน้ำมัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจได้ในทุกมิติจากผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์           Toyota
   รุ่น               โตโยต้า Toyota Revo Standard 4X2 2.4 Entry ปี 2024
   ประเภทรถ      รถกระบะ 2 ประตู (ตอนเดียว)
   ปีที่เปิดตัว      2024
   ราคา           624,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (กระจังหน้าสีดำ)
ไฟหน้ามัลติรีแฟลกเตอร์ (ฮาโลเจน)
ล้อกระทะ (15นิ้ว พร้อมฝาครอบดุมล้อ)
เสาอากาศ (แบบสั้น)
ขนาดยางหน้า-หลัง (205/70 R15C)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (คอนฌซลหน้า สีดำเมทัลลิก แผงประตูข้างบุผ้าสีดำ)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ (1 จุด)
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ

สเปค
   เครื่องยนต์                 2GD-FTV, 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์

   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)     2,393 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)  150 แรงม้า
   ระบบเกียร์                   เกียร์ธรรมดา 6MT
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS           มี (พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD)
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง    ดีเซล
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)     80 ลิตร
   ระบบจ่ายน้ำมัน            หัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น คอมมอนเรล (แบบ i-ART)
   น้ำหนักตัวรถ                  -
   ประเภทยางรถยนต์          -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน             ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ตัวถังนิรภัย (GOA)
เซ็นทรัลล็อค (แบบ Speed Auto Lock)
กุญแจรีโมท (Jack Knife Key)
กุญแจนิรภัย (ระบบ Immobilizer)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (แบบ LED)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ)
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย

7

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







8
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม

โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


9
มอเตอร์โชว์: Tesla เรียกคืนรถกว่า 2 ล้านคันในสหรัฐฯ เพราะฝากระโปรงหน้าอาจเด้งขึ้นมาเองระหว่างขับขี่!

เราอาจจะขบขันกับซีนขับรถไล่ล่ากันในภาพยนตร์แล้วฝากระโปรงหน้าของรถคันใดคันหนึ่งเด้งขึ้นมาทำให้รถชน แต่ในชีวิตจริงไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของรถ Tesla กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นระหว่างขับรถ
 
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งสหรัฐ หรือ NHTSA ประกาศเรียกคืนรถยนต์ Tesla จำนวน 1,849,638 คัน เพราะซอฟท์แวร์ทำงานผิดพลาด
 

รถไม่เตือนว่าฝากระโปรงหน้าเปิดอยู่
 
รายงานของการเรียกคืนครั้งนี้ระบุว่า “หลังจากที่ลูกค้าเปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้ว ชุดสลักอาจไม่สามารถตรวจได้ว่าฝากระโปรงเปิดอยู่ ตัวรถจึงไม่สามารถเตือนผู้ขับขี่ได้จนมีการขับรถออกไป”
 
จากนั้นรายงานก็ได้เตือนว่า “การขับรถออกไปโดยที่รถไม่ได้เตือนอาจส่งผลให้ฝากระโปรงเปิดขึ้นมาและบดบังการมองเห็นของผู้ขับขี่ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ”

 
อัพเดทซอฟท์แวร์ก็หาย
 
รายงานดังกล่าวระบุว่า ปัญหานี้จะแก้ได้ด้วยการอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA ดังนั้น และประเมินว่ามีเพียง 1% ของรถที่เรียกคืนเท่านั้นที่จะเกิดปัญหาที่ตัวสลักโดยตรง เจ้าของรถควรอัพเดทเฟิร์มแวร์ของรถให้อยู่ที่ 2024.20.3 หรือใหม่กว่านั้น
 
 
อาจเกิดจาก “สลักฝากระโปรงผิดรูป” ทำให้ระบบเตือนไม่ได้
 
Tesla พบปัญหาดังกล่าวจากการร้องเรียนของลูกค้าชาวจีนหลายรายจาก “เหตุการณ์ฝากระโปรงเปิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ” โดยเทสล่าค้นพบสาเหตุว่าเกิดจากความผิดรูปของสลักฝากระโปรงหน้าของรถ ซึ่งทำให้ลูกค้าไม่ได้รับแจ้งเตือนว่าฝากระโปรงหน้ารถกำลังเปิดอยู่

รถ Tesla ที่ถูกเรียกคืน
 
การเรียกคืนครั้งนี้ส่งผลครอบคลุมรถ Tesla ในสหรัฐฯ หลายรุ่นดังนี้
Tesla Model S ที่ผลิตตั้งแต่ 26 ม.ค. 2021 - 15 ก.ค. 2024
Tesla Model X ที่ผลิตตั้งแต่ 18 ส.ค. 2021 - 15 ก.ค. 2024
Tesla Model 3 ที่ผลิตตั้งแต่ 21 ก.ย. 2020 - 2 มิ.ย. 2024
Tesla Model Y ที่ผลิตตั้งแต่ 9 ม.ค. 2020 - 15 ก.ค. 2024

10
ขนส่งเน้นบริการ รถกระบะรับจ้าง แถวรัชดา เรียกใช้ง่ายถึงหน้างานไว

ขนส่งเน้นบริการ รถรับจ้างแถวรัชดา เรียกใช้บริการ รถกระบะรับจ้างรัชดา ของผมได้นะครับ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเพียงเฉพาะรถกระบะอย่างเดียวเท่านั้น ทางทีมงานของเขายังมี รถ6ล้อรับจ้างรัชดา รถสิบล้อรับจ้างแถวรัชดา รถเฮี๊ยบรับจ้างแถวรัชดา รถรับจ้าง 4 ล้อใหญ่แถวรัชดา และ รถรับจ้างขนย้ายบ้านแถวรัชดา และอื่นๆอีกมากมาย

ดูเพื่อนเคยใช้มาแล้วบริการดีมากๆพูดจาสุภาพมาก ตอนแรกที่ใช้บริการเจ้านี้ก็ได้จากเพื่อนต่อเพื่อนแนะนำมาเช่นเดียวกัน จึงได้กล้าที่จะลองใช้บริการ หลังจากนั้นฉันก็เลยโทรกลับไปสอบถามเพื่อจะใช้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของ รายนี้ดู เป็นไปอย่างที่เพื่อนพูดมากเลยเขาพูดจาสุภาพมาก มีความเป็นมืออาชีพ รู้ว่าสินค้าควรจะจัดเรียงอย่างไรให้คำแนะนำดีมากต้องขึ้นของยังไงเราต้องมีการเตรียมจัดแจ้งเข้าของก่อนที่ผู้ให้บริการจะเข้าไปถึงอย่างไรบ้าง

ขอแนะนำและสอนเราเป็นอย่างดีและราคาก็ถือว่าไม่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งเราไม่รู้จัก จึงได้ตัดสินใจที่จะเลือกใช้บริการรถกระบะรับจ้างรายนี้

เพื่อนๆคนไหนที่ใช้บริการ รถรับจ้างขนของแถวรัชดา แล้วรู้สึกไม่ประทับใจบ้างค่ะ เช่น รถขนของ อาจจะมาล่าช้ากว่ากำหนดรถรับจ้างมีขนาดที่เล็กเกินไปหรือ รถรับจ้าง เก่าเกินไป ซึ่งเพราะอ่านในกระทู้ของ Pantip ก็รู้สึก กลัวเหมือนกันว่าจะโดนแบบนั้น

เพราะที่ผ่านมาก็เคยเจอประสบการณ์เช่นนี้มาเหมือนกัน จนมาวันหนึ่งตอนนั้นต้องการที่จะ ขนย้ายคอนโดแถวรัชดา ย้ายไปที่คอนโด แถวสุขุมวิท เนื่องจากต้องย้ายงาน ก็เริ่มที่จะหนักใจอีกครั้งในการที่ขนย้ายของและเรียกใช้บริการ รถขนของแถวรัชดา

ตอนนั้นคิดไม่ออกไม่รู้จะถามใครก็เลยโทรมาสอบถามเพื่อนที่พึ่งย้ายของเช่นเดียวกันเพื่อนจึงได้แนะนำผู้ให้บริการ รถกระบะรับจ้างแถวรัชดา รายหนึ่งให้ ซึ่งเพื่อนบอกว่า เขาให้บริการที่ดีมากมีคนช่วยยกของและราคาไม่แพงด้วย สินค้าของไม่มีเสียหาย และเพื่อนก็เลยบอกว่า ถ้าจะย้ายของไม่ต้องกังวลเรื่องราคา และกังวลว่าเค้าบริการจัดการสินค้าเราไม่ดี เพราะหากเลือกราคาถูกมากเกินไป เกิดสินค้าเราเสียหายหรือชำรุดก็ไม่คุ้มอยู่ดี ดังนั้นเรียกใช้บริการดีๆไปเลย แต่เพื่อนบอกว่าลองมาใช้บริการของทีมงาน

พอถึงวันที่จะทำการ ขนย้ายของ ด้วย รถรับจ้างขนของรัชดา รถขนของทั่วไป รายนี้ ก็มารอขึ้นของที่หน้าคอนโด ของเราตั้งแต่ 17.00 เขามาก่อนเวลาด้วยซ้ำมารอเราเขาบอกว่าเขาต้องมาเตรียมความพร้อม ไม่อยากให้ลูกค้าต้องมารอเขา ขอเป็นคนรอลูกค้าจะดีกว่า ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากหลังจากนั้นก็ทำการขนย้ายของขนย้ายหอ โดยเราอยู่คอนโดชั้น 5

ลูกค้าก็จัดการขึ้นไปยกสินค้าให้กับเราได้เป็นอย่างดีโชคดีที่มีลิฟไม่งั้นคงเหนื่อยแน่ แต่ก็ไม่บ่นสักคำเขาก็ทำงานของเขาอย่างแข็งขัน เขามีคนมาช่วยยกเป็นอย่างดีโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยเลย ทั้งพนักงานยกของและพนักงานขับรถพูดจาสุภาพมากๆแล้วการจัดเรียงของก็มีการจัดเรียงเป็นอย่างดีมีใส่วัตถุกันกระแทกสำหรับสินค้าที่มีความเปราะหรือมีความเสี่ยงที่แตกให้กับเราด้วย ทำให้เรารู้สึกดีใจและประทับใจที่ได้ใช้ บริการรถนี่เป็นประสบการณ์ในการขนย้ายของกับผู้ให้บริการ รถรับจ้างแถวรัชดา รายนี้และต้องขอบคุณเพื่อนที่ช่วยแนะนำ

บริการรถกระบะรับจ้างไป ตจว
รถรับจ้างขนส่ง ให้กับทางเราซึ่งตอนแรกก็ยังมองไม่ออกว่า จะใช้บริการรถรับจ้างเจ้าไหนดี แต่พอได้มาใช้และเพื่อนแนะนำมาจึงเกิดความรู้สึกประทับใจและอยากจะแชร์บอกต่อสำหรับเพื่อนๆท่านใดที่ต้องการที่จะขน ย้ายบ้าน ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายคอนโด ย้ายหอพัก หรือขนย้ายสินค้าอื่น ลองโทรไปสอบถามราคาโปรโมนรชั่น หรือราคาเที่ยวกลับ เที่ยวเปล่า ลองดูนะคะ รับรองว่าถูกจริงๆคะ ที่เบอร์

 รับจ้างขนส่ง เป็นอย่างมาก พอขึ้นของเสร็จซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้ขนย้ายไปที่คอนโดแถวสุขุมวิท ซึ่งอยู่ชั้น 8 โชคดีที่สินค้าทุกรายการของเราสามารถเข้าลิฟได้ ถ้าเกิดเค้าไม่ได้คงต้องหนักพอสมควรที่จะต้องใช้เส้นทางประตูหนีไฟในการขนย้ายของ ลูกค้าก็ยกขึ้นมาให้และจัดเรียงสินค้าจนเสร็จเรียบร้อยดี

หลังจากนั้นเราก็ทำการจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ลบจากค่ามัดจำให้กับ พนักงานขับรถเรียบร้อย เขายังบอกอีกว่าหากมีโอกาสคราวหน้า เขามีให้บริการรถรับจ้างทุกประเภทเลยก็ว่าได้ เราจึงบอกต่อไปว่าเรียกใช้แน่นอนค่ะบริการประทับใจจริงๆและราคาก็ไม่แพงด้วย หากมีโอกาสคราวหน้าได้ใช้รถที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะโทรหาทันทีนะคะ


11
สุขภาพดี: ระบบการเจริญพันธุ์แบบอัตโนมัติเทคโนโลยีสุขภาพที่น่าจับตามองในยุคนี้

ระบบการเจริญพันธุ์แบบอัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้คู่รักที่มีปัญหาในการมีบุตร สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จ เทคโนโลยีนี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาระบบเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อปรับปรุงสุขภาพสืบพันธุ์ โดยนำเสนอโซลูชันที่สร้างสรรค์สำหรับภาวะมีบุตรยาก การติดตามการตั้งครรภ์และความสมบูรณ์แข็งแรงของระบบสืบพันธุ์โดยรวม

บทความนี้จะเจาะลึกถึงความซับซ้อนของระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติ ประโยชน์ของระบบเหล่านี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการดูแลสุขภาพ

ระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติคืออะไร?

ระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติประกอบด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือและปรับกระบวนการสืบพันธุ์ให้เหมาะสมที่สุด ระบบเหล่านี้ได้แก่ แพลตฟอร์มการปฏิสนธิในหลอดแก้วอัตโนมัติ (IVF) อุปกรณ์ติดตามการเจริญพันธุ์ และเครื่องมือติดตามการตั้งครรภ์ ระบบเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงอัตราความสำเร็จของการรักษาการสืบพันธุ์และมอบการดูแลแบบเฉพาะบุคคลให้กับบุคคลและคู่รัก โดยผสานรวมหุ่นยนต์ขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร

วิธีการที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น
การปฏิสนธิในหลอดทดลอง (In Vitro Fertilization หรือ IVF): เป็นวิธีที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุด โดยแพทย์จะนำไข่ออกมาจากรังไข่ของผู้หญิง และนำไปปฏิสนธิกับสเปิร์มของผู้ชายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้ไปฝังกลับเข้าไปในมดลูกของผู้หญิง

การฉีดสเปิร์มเข้าไปในไซโทพลาสซึมของไข่ (Intracytoplasmic Sperm Injection หรือ ICSI): เป็นวิธีการที่ใช้เมื่อสเปิร์มของผู้ชายมีคุณภาพต่ำ โดยแพทย์จะนำสเปิร์มเพียงตัวเดียวมาฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง

การเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์: ทั้งไข่และสเปิร์มสามารถเก็บรักษาได้ด้วยวิธีแช่แข็ง เพื่อนำมาใช้ในภายหลัง หรือสำหรับคู่รักที่ต้องการเลื่อนการมีบุตรออกไป
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและแนวโน้มในอนาคต

ปัญญาประดิษฐ์ (AI): AI สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์ของการรักษา และปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้มากขึ้น

โรบอท: โรบอทสามารถทำหน้าที่ในการผ่าตัดที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
เทคโนโลยีชีวภาพ: มีการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์จากเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งอาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการผลิตเซลล์สืบพันธุ์เองตามธรรมชาติ

ส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่สำคัญ

แพลตฟอร์ม IVF อัตโนมัติ :
ความช่วยเหลือจากหุ่นยนต์ : แพลตฟอร์ม IVF อัตโนมัติใช้ระบบหุ่นยนต์เพื่อจัดการงานที่ละเอียดอ่อน เช่น การเก็บไข่ การฉีดอสุจิ และการถ่ายโอนตัวอ่อนด้วยความแม่นยำและชัดเจน

AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักร : เทคโนโลยีเหล่านี้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อคาดการณ์เงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปฏิสนธิและการพัฒนาตัวอ่อน ส่งผลให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำเร็จ


อุปกรณ์ติดตามการเจริญพันธุ์ :

เทคโนโลยีสวมใส่ได้ : อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สร้อยข้อมือและแหวนอัจฉริยะจะตรวจสอบพารามิเตอร์ทางสรีรวิทยา เช่น อุณหภูมิร่างกายพื้นฐาน ระดับฮอร์โมน และรอบเดือน เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับช่วงเวลาการเจริญพันธุ์
แอปพลิเคชันมือถือ : แอปพลิเคชันมือถือที่บูรณาการเข้ากับอุปกรณ์สวมใส่จะเสนอคำแนะนำและการแจ้งเตือนส่วนบุคคล ช่วยให้ผู้คนติดตามสุขภาพสืบพันธุ์ของตนได้ง่ายขึ้น

เครื่องมือติดตามการตั้งครรภ์ :

เครื่องอัลตราซาวนด์อัจฉริยะ : อุปกรณ์เหล่านี้ให้ภาพความละเอียดสูงและการวิเคราะห์อัตโนมัติ ช่วยให้ตรวจพบภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ได้ในระยะเริ่มแรก

ระบบการตรวจสอบระยะไกล : เซ็นเซอร์ที่สวมใส่ได้และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพสามารถตรวจสอบสุขภาพของทั้งแม่และทารกในครรภ์ได้จากระยะไกล ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการแทรกแซงอย่างทันท่วงทีเมื่อจำเป็น


ประโยชน์ของระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติ

อัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น :

ระบบอัตโนมัติช่วยลดข้อผิดพลาดของมนุษย์และเพิ่มความแม่นยำของขั้นตอนการสืบพันธุ์ ส่งผลให้มีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้นในการรักษา เช่น IVF
การดูแลเฉพาะบุคคล :

ระบบเหล่านี้จะเสนอคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพแต่ละบุคคล ช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพสืบพันธุ์โดยรวมให้ดีขึ้น


ความสะดวกสบายและการเข้าถึง :

อุปกรณ์สวมใส่และแอปพลิเคชันมือถือทำให้ผู้คนสามารถติดตามสุขภาพสืบพันธุ์ของตนได้ง่ายขึ้นจากบ้านของตนเอง ช่วยลดความจำเป็นในการไปคลินิกบ่อยครั้ง


การตรวจจับและการแทรกแซงในระยะเริ่มต้น :

เครื่องมือตรวจติดตามขั้นสูงช่วยให้ตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ได้แต่เนิ่นๆ ทำให้สามารถดำเนินการแทรกแซงได้ทันท่วงทีและปรับปรุงผลลัพธ์ระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ให้ดีขึ้น

ความท้าทายและข้อควรพิจารณา
แม้ว่าระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีความท้าทายและข้อควรพิจารณาที่ต้องแก้ไขดังต่อไปนี้:

ค่าใช้จ่ายและการเข้าถึง :

ต้นทุนที่สูงของเทคโนโลยีขั้นสูงอาจจำกัดการเข้าถึงสำหรับบุคคลและคู่รักบางคู่ จำเป็นต้องพยายามทำให้ระบบเหล่านี้มีราคาถูกลงและเข้าถึงได้ทั่วไป
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล :

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยและป้องกันการละเมิดข้อมูล
ข้อกังวลด้านจริยธรรม :

การใช้ AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักรในด้านสุขภาพสืบพันธุ์ทำให้เกิดคำถามทางจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้ข้อมูล กระบวนการตัดสินใจ และความเสี่ยงต่อการเกิดอคติในการแนะนำการรักษา
แนวโน้มในอนาคต
อนาคตของระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติมีความหวัง โดยมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านเทคโนโลยีและการวิจัย แนวโน้มใหม่ที่เกิดขึ้น ได้แก่ การพัฒนาอัลกอริทึม AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น อุปกรณ์สวมใส่ที่ได้รับการปรับปรุง และการบูรณาการบริการเทเลเฮลธ์มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงพัฒนาต่อไป เทคโนโลยีเหล่านี้จึงมีศักยภาพที่จะปฏิวัติการดูแลสุขภาพสืบพันธุ์ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นส่วนตัวมากขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น

ระบบสืบพันธุ์อัตโนมัติถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในเทคโนโลยีด้านสุขภาพ โดยนำเสนอโซลูชันที่สร้างสรรค์สำหรับความท้าทายด้านสุขภาพสืบพันธุ์ ระบบเหล่านี้มีศักยภาพในการปรับปรุงอัตราความสำเร็จ ให้การดูแลเฉพาะบุคคล และปรับปรุงสุขภาพสืบพันธุ์โดยรวม โดยอาศัยพลังของหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของเครื่องจักร ในขณะที่เรายังคงสำรวจและปรับปรุงเทคโนโลยีเหล่านี้ต่อไป อนาคตของการดูแลสุขภาพสืบพันธุ์ดูสดใสกว่าที่เคย

12
จัดฟันบางนา: เคล็ดลับ “ระงับกลิ่นปาก” สัญญาณเตือนสุขภาพช่องปาก

เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีว่า “กลิ่นปาก” นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังถือว่ามีผลอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตในการทำงาน เพราะ เมื่อต้องพูดคุยกับใครแล้วล่ะก็คู่สนทนาอาจจะไม่ค่อยอยากพูดคุยด้วยได้ ทำให้ผู้ที่มีกลิ่นปากถึงกับขาดความมั่นใจ และอาจจะส่งผลถึงโรคเครียดได้ก็มี ส่งผลกระทบต่อความสำพันธ์กับคนรอบข้างได้ด้วย นอกจากจะสร้างปัญหาเรื่องบุคลิกภาพแล้ว กลิ่นปาก ยังถือได้ว่าเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆในช่องปาก ที่คุณควรรีบแก้ไขอีกด้วย

ซึ่งในวันนี้จะขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านมาทำความรู้จักกับต้นเหตุของกลิ่นปาก และวิธีแก้ไขเบื้องต้นเพื่อนำไปปรับใช้หากว่าคุณกำลังมีกลิ่นปาก ดังต่อไปนี้


ทดสอบว่ามีกลิ่นปากหรือไม่ ทำอย่างไร ?

– ใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้ แล้วพ่นลมหายใจออกจากปากพร้อมสูดลมหายใจเข้าจมูกโดยเร็ว เพื่อเช็คว่ามีกลิ่นปากหรือไม่

– เลียข้อมือแล้วดม หรือใช้นิ้วถูที่เหงือกแล้วลองเอามาดมก็สามารถเช็คกลิ่นปากได้

– บ้วนน้ำลายแล้วดม ต้องบอกก่อนว่าหลายคนคิดว่าน้ำลายมีกลิ่นซึ่งโดยปกติแล้วน้ำลายจะไม่มีกลิ่น นอกจากว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อโรค หรือน้ำลายเดินทางผ่านนิ่วต่อมทอนซิล จึงทำให้มีกลิ่นเหม็นติดมาด้วย


กลิ่นปากเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ต้องขอบอกก่อนว่ากลิ่นปากนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยจะของแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ นั่นก็คือ สาเหตุภายในช่องปาก และ สาเหตุนอกช่องปาก ดังต่อไปนี้

– สาเหตุจากภายในช่องปาก

อย่างที่ทราบกันดีว่ากลิ่นปากนั้น บ่งบอกว่าคุณกำลังมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติภายในช่องปาก โดยสาเหตุหลักๆภายในช่องปากที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก คือ ฟันผุ มีแผลในช่องปาก เป็นโรคเหงือกอักเสบ หรือมีอาการโรคภูมิแพ้ ซึ่งนอกจากโรคต่างๆที่กล่าวมานั้น ผู้ที่จัดฟัน หรือใส่ฟันปลอม หากดูแลไม่ดีก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นปากจากเศษอาหารที่ติดตามอุปกรณ์ได้ด้วยเช่นกัน

– สาเหตุจากภายนอกช่องปาก

อีกสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากและมักพบได้บ่อยนั่นก็คือ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การรับประทานอาหารต่างๆที่มีกลิ่นแรง นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณของโรคอีกหลายโรคเช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคทอนซิลอักเสบ โรคมะเร็งโพรงจมูก กรดไหลย้อน โรคเกี่ยวกับปอด รวมถึงโรคเบาหวาน โรคต่างๆเหล่านี้ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน


วิธีระงับกลิ่นปากให้หมดไป !

ต้องของบอกก่อนว่าการระงับกลิ่นปากนั้นมีหลายวิธี ซึ่งมีทั้งดับที่ต้นเหตุเพื่อให้กลิ่นปากนั้นหายขาด หรือดับที่ปลายเหตุเพื่อให้กลิ่นปากหายไปชั่วคราวได้มีความมั่นใจในการดำเนินชีวิต โดยมีวิธีมากมายลองเลือกใช้ตามความเหมาะสมได้ ดังต่อไปนี้

– แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ คือการกำจัดกลิ่นปากที่ได้ผลเป็นอย่างมาก

– ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อกำจัดเชื้อโรคต่างๆในช่องปาก เพราะ เชื้อโรคแบคทีเรียคือตัวร้ายทำให้เกิดกลิ่นปากเช่นกัน

– บ้วนน้ำเกลือหลังแปรงฟันเสร็จทุกครั้ง ก็สามารถช่วยลดกลิ่นปาก เพราะ เกลือจะทำให้เหงือกแข็งแรง

– ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หลังแปรงฟัน เพื่อกำจัดเศษอาหารที่อยู่ตามซอกที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าไปถึง

– ทำความสะอาดลิ้นทุกวัน เพราะ ลิ้นถือว่ามีแบคทีเรียสะสมอยู่มาก และแบคทีเรียก็ช่วยทำให้เกิดกลิ่นปากได้นั่นเอง

– ขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพราะหินปูนเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดี และหินปูนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

– รักษาแผลในช่องปาก เพราะแผลในช่องปากมักจะมีเชื้อโรคอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อรับประทานอาหารเสร็จให้ทำการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุกครั้ง

– ดื่มน้ำเยอะๆ ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการกลิ่นปากได้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ปากแห้งความเข้มข้นของแบคทีเรียในช่องปากเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดกลิ่นปากนั่นเอง

– ดื่มน้ำมะนาว เนื่องจากว่า กรดซิตริกในมะนาวมีลักษณะคล้ายกับกรดในน้ำลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ และเมื่อรับประทานน้ำมะนาวแล้วควรดื่มน้ำเปล่าตาม หรือบ้วนปากทุกครั้ง เพราะ กรดชนิดนี้หากปล่อยไว้ในปากนานๆก็สามารถกัดกร่อนเนื้อฟันได้ด้วย

– เลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่นอกจากจะทำให้เสียสุขภาพแล้ว ควันบุหรี่ยังสามารถตกค้างในช่องปาก ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะตัวได้อีกด้วย

13
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024: มิตซูบิชิ Mitsubishi Pajero Sport Prime 2WD ปี 2024
1,389,000 บาท 

มิตซูบิชิ Mitsubishi Pajero Sport Prime 2WD ปี 2024
Mitsubishi Pajero Sport Prime 2WD ไปสู่ทุกจุดหมายด้วยพลังการควบคุมที่เหนือระดับ มาพร้อมขุมกำลังใหม่ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) สร้างพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ประสานการทำงานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว

รถทดลองขับ รถผู้บริหาร ไมล์น้อย ราคาพิเศษ
1,429,000.-
ปกติ 1,699,000 บาท
รถป้ายแดง
Mitsubishi Pajero 4WD Elite Edition MY23
รถผู้บริหารไมล์น้อย ราคาพิเศษ
40 km
รถผู้บริหาร

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             Mitsubishi
   รุ่น                  มิตซูบิชิ Mitsubishi Pajero Sport Prime 2WD ปี 2024
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ SUV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา              1,389,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (บันไดข้างสีเงิน,กระจังหน้าสีดำและเงิน,แผงตกแต่งใต้กันชนหน้า-หลังสีเงิน)
สปอยเลอร์หลัง
ไฟตัดหมอก (หน้า LED และไฟส่องสว่างขณะเลี้ยวแบบ LED)
ระบบควบคุมระยะการจอด (สัญญาณด้านหลัง)
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED
ขนาดยางหน้า-หลัง (265/60 R18)
ไฟ Daytime Running Lights
ราวหลังคา (สีเงิน)
ยางอะไหล่สำรอง (จะให้เป็น ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน)
ไฟหน้า LED (โปรเจคเตอรแบบ Bi-LED)
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (สีเงินและเปียโนแบล็ค)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ (2 ตำแหน่ง (กระแสตรง) 1 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลางด้านหลัง (กระแสสลับ))
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (,เข้า-ออกได้)
กระจกมองหลังตัดแสง
พรมปูพื้น

สเปค
   เครื่องยนต์
4N16 (Hyper Power) แบบ 4 สูบแถวเรียง ดีเซล คอมมอนเรล เทอรโบแปรผัน อินเตอรคูลเลอร์ ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที

   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)         2,442 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)      187 แรงม้า
   ระบบเกียร์                       เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                     6 จังหวะ พร้อม Sport Mode และ Paddle Shift
   ระบบเบรค ABS                มี
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง         ดีเซล
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)         68 ลิตร
   ระบบจ่ายน้ำมัน                  คอมมอนเรล
   น้ำหนักตัวรถ                     -
   ประเภทยางรถยนต์              -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                 ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค (พร้อมสวิตช์ล็อคและปลดล็อค)
กุญแจรีโมท (KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์)
ล็อคประตูอัตโนมัติ (เมื่อรถมีความเร็ว)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
ระบบป้องกันการโจรกรรม (พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (,ระบบเสริมแรงเบรก BA)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบล็อกป้องกันการเปิดประตูหลังจากภายใน,ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว)
เข็มขัดนิรภัย
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน
กล้อง (มองภาพรอบคัน พร้อมเส้นกะระยะและเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ)
ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System)
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อมระบบ Brake Auto Hold)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX ที่เบาะนั่งแถวที่ 2)

14
Mitsubishi Triton 2024: เตรียมพบกับ ALL-NEW TRITON ด้วยแชสซีส์ใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลัง

พลิกโฉมทุกมิติ เฟรมใหม่ แชสซีส์ใหม่ เครื่องยนต์คลีนดีเซลสุดล้ำมลภาวะต่ำ จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย อุ่นใจ เกาะถนนเยี่ยม พร้อมตะลุยทุกสภาวะ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า รถกระบะ 1 ตัน รุ่นใหม่ “ออล-นิว ไทรทัน” ซึ่งจะเปิดตัวรอบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทยวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งคัน ปฏิวัติทุกอณู โดยใช้เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับ “ออล-นิว ไทรทัน” โดยเฉพาะ ทั้งยังประกอบด้วยแชสซีส์ใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลังด้วยเทคโนโลยีคลีนดีเซล ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะโดยมีมลภาวะต่ำ พร้อมจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจ เกาะถนนเป็นเลิศ พร้อมความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง ให้คุณสามารถตะลุยทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน โดยเปิดตัวคลิปพิเศษ! บอกเล่าแรงบันดาลใจในการออกแบบพัฒนา และการทดสอบสมรรถนะของรถปิกอัพ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” ในสภาวะต่างๆ ทั่วโลก

และเพื่อต้อนรับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ระดับปฏิวัติวงการของ “ออล-นิว ไทรทัน” มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟรี! เฉพาะลูกค้าในไทยที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายใน 25 กรกฎาคม 2566 จะได้รับ 3 ข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจ ทั้งชุดแต่งแท้รอบคัน เสริมพลังหล่อเข้มเต็มพิกัด และชุดของขวัญรุ่นลิมิเต็ด “ออล-นิว ไทรทัน ลิมิเต็ด บ็อกซ์เซ็ต” พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ ทริปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างจุใจ รวมมูลค่ากว่า 240,000 บาท

“ออล-นิว ไทรทัน” เป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เปี่ยมความปลอดภัย อุ่นใจได้ในสมรรถนะการขับขี่บนสภาพถนนและสภาพอากาศทุกรูปแบบ ซึ่งมาพร้อมกับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกที่นั่งด้วยแพลตฟอร์มใหม่! ที่ พัฒนาขึ้นเพื่อ “ออล-นิว ไทรทัน” โดยเฉพาะ ประกอบด้วยเฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ สุดแกร่ง และช่วงล่างที่ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ยกชุด จากด้านหน้าจรดท้าย โดยด้านหน้าเป็นช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนนวัตกรรมใหม่ เติมความนุ่มนวลขณะขับขี่ให้ “ออล-นิว ไทรทัน” เกาะถนนและทรงตัวมั่นคงสูงสุด พร้อมขุมพลังใหม่! เครื่องยนต์คลีนดีเซลเทอร์โบ ให้กำลังแรงสมรรถนะสูงกว่าเดิม แต่มีมลภาวะต่ำ ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ

มร. โยชิกิ มาสุดะ หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยว่า “การออกแบบออล-นิว ไทรทัน รุ่นใหม่นี้ เป็นการพลิกโฉมทุกมิติ ปฏิวัติทุกอณูในรอบ 9 ปี เริ่มตั้งแต่เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ช่วงล่างใหม่ ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแข็งแกร่งทรงพลังนำสมัย ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบาย และจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยสู่ขั้นสุด”

“เราได้พูดคุยเจาะลึกกับลูกค้ามากมายเพื่อวิเคราะห์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยังได้ตะลุยทดสอบสมรรถนะของ ออล-นิว ไทรทัน ในสนามจริงท่ามกลางสภาพอากาศและสภาพถนนที่สมบุกสมบันทั่วโลก เราจึงมั่นใจว่ารถกระบะ ออล-นิว ไทรทัน รุ่นใหม่นี้จะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทั่วโลกทุกคน ทั้งการใช้งานส่วนตัว และเพื่อการพาณิชย์

15
bigbike บีเอ็มดับเบิลยู BMW R 1250 GS Adventure (Ultimate Edition) ปี 2024
1,399,000 บาท 

บีเอ็มดับเบิลยู BMW R 1250 GS Adventure (Ultimate Edition) ปี 2024
BMW R 1250 GS Adventure (Ultimate Edition) สืบทอดเอกลักษณ์ของ GS ที่เป็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจพร้อมลุยทั้งทางออฟโร้ดและบนถนน ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์สองลูกสูบสี่จังหวะที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ/ของเหลวขนาด 1,254 ซีซี เติมเต็มด้วยระบบควบคุมแกนลูกเบี้ยวแบบแปรผันด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ส่งกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ปลดล็อคอีกขั้นของขุมพลังแห่งการเดินทาง ส่วนระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 5 ที่เน้นการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ก้าวล้ำยิ่งขึ้นกับระบบการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว และระบบ BMW Motorrad Multi-Controller ให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงทุกฟังก์ชันของรถ ตลอดจนการเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และยังมีช่องเสียบ USB 2 แบบสำหรับใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             BMW
   รุ่น                   บีเอ็มดับเบิลยู BMW R 1250 GS Adventure (Ultimate Edition) ปี 2024
   ประเภทรถ          รถวิบาก, Adventure Bigbike
   ปีที่เปิดตัว           2024
   ราคา                1,399,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์            เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์             6 สปีด พร้อม Helical gear teeth
   รายละเอียดเครื่องยนต์   Boxer 2 สูบ, DOHC พร้อมCentral Balance shaft
   ระบบระบายความร้อน    อากาศ (และของเหลวกับความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและระบบวาล์วแปรผันในเทคโนโลยี BMW ShiftCam)
   ระบบสตาร์ท              สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)  1254 CC
   แบบเครื่องยนต์           4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด           Electronic intake pipe injection
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง  เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน           หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)   30 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน         ล้อหน้า โช้ค Telever ขนาด 37มม. พร้อม Central spring strut, ล้อหลัง BMW Motorrad Paralever สวิงอาร์มอะลูมิเนียมเดี่ยวพร้อม WAD
   ระบบเบรค                 ล้อหน้า ดิสก์เบรก (ดิสก์เบรคคู่ ขนาด 305มม. คาลิปเปอร์สี่สูบ), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (ดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด 276มม. คาลิปเปอร์สูบคู่)
   แบบวงล้อ                 ซี่ลวด
   ขนาดยาง                 ล้อหน้า 120/70 R 19, ล้อหลัง 170/60 R 17
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)  2,270 x 980 x 1,460 มม., ความสูงเบาะ 880 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                    268.00 กก.

16
หมอประจำบ้าน: บรูเซลโลซิส (Brucellosis)

บรูเซลโลซิส (brucellosis/undulant fever/Mediterranean fever)* เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดในสัตว์เลี้ยง (เช่น โค กระบือ แพะ แกะ อูฐ หมู) สุนัข สัตว์แทะ สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (วาฬ โลมา) สัตว์ป่า (กระบือป่า กระต่ายป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัขป่า) ซึ่งสามารถติดต่อมาสู่คนได้

โรคนี้พบได้ประปราย ซึ่งมักพบในกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (เช่น คนงานในโรงเลี้ยงสัตว์หรือโรงฆ่าสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล) หรือบริโภคเนื้อสัตว์และนมที่ติดเชื้อ

ในบ้านเรามีผู้รายงานผู้ป่วยโรคนี้จากการดื่มนมแพะ และการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงแพะ) ในจังหวัดราชบุรี (ปี พ.ศ.2546) สตูล (ปี พ.ศ.2546-2547) และกาญจนบุรี (ปี พ.ศ.2548 และ 2549)

* โรคนี้มีความร้ายแรง มีการนำเชื้อบลูเซลลาไปผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ เช่นเดียวกับแอนแทรกซ์


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บรูเซลลา (Brucella) ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ย่อย คนเราสามารถติดโรคจากสัตว์ได้หลายทาง ได้แก่

    สัมผัสสิ่งปนเปื้อน น้ำนม เลือด รก น้ำเมือกในอวัยวะเพศของสัตว์เพศเมีย น้ำเมือกตามตัวลูกสัตว์ที่คลอดออกมาใหม่ ๆ มูลหรือปัสสาวะสัตว์ เชื้อโรคจะเข้าทางบาดแผลหรือรอยถลอก
    กินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ หรือนมสัตว์ (รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ไอศกรีม เนยแข็ง) ที่ติดเชื้อ โดยไม่ได้ปรุงให้สุก หรือผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ
    หายใจสูดเอาฝุ่นหรือละอองของสิ่งคัดหลั่ง น้ำนมที่ปนเปื้อนเชื้อโรคในขณะรีดนมในคอกสัตว์
    ถูกเข็มฉีดวัคซีนป้องกันโรคแก่สัตว์ทิ่มแทง

ระยะฟักตัว ระบุได้ไม่ค่อยแน่นอน อาจเป็นตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึงนานกว่า 2 เดือน (ทั่วไปประมาณ 1-2 เดือน)

อาการ

มักมีอาการค่อยเป็นค่อยไปแบบเรื้อรังมากกว่าเฉียบพลัน อาการที่พบบ่อย คือ มีไข้สูง ๆ ต่ำ ๆ แบบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ ไม่แน่นอน (อาจมีไข้ 1-3 สัปดาห์ สลับกับไม่มีไข้ 1-3 วัน) ร่วมกับอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วไป มึนซึม หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ไอ เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด

ระยะการเจ็บป่วยอาจนานหลายวันหลายเดือน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนานเป็นปี หรือนานกว่า

ในรายที่ติดเชื้อทางอาหารการกิน อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูก ปวดหลัง ปวดข้อ

บางรายอาจติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการชัดเจนก็ได้

บรูเซลโลซิส
 

ภาวะแทรกซ้อน

เชื้อบรูเซลลาสามารถเข้ากระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะแทบทุกส่วน ก่อให้เกิดการอักเสบต่าง ๆ ขึ้น

ที่พบบ่อย คือ การอักเสบของกระดูกและข้อ อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ข้ออักเสบ (ซึ่งมีลักษณะปวดและบวม ที่บริเวณข้อเข่า สะโพก ข้อเท้า ข้อมือ เพียง 1 ข้อ หรือพร้อมกันหลายข้อ) การอักเสบที่กระดูกบริเวณเชิงกราน (sacroileitis) และข้อสันหลังอักเสบ (spondylitis)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น เช่น อัณฑะและท่อนำเชื้ออักเสบ (epididymo-orchitis) สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปลายประสาทเสื่อม (peripheral neuropathy) ตับอักเสบ ฝีตับ ถุงน้ำดีอักเสบ ปอดอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion) เยื่อตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis) ผื่นที่ผิวหนัง (erythema nodosum) เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ ได้แก่ เยี่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย มักเกิดกับลิ้นหัวใจเอออร์ติก (aortic valve) และต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจอย่างเร่งด่วน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ส่วนใหญ่จะพบมีไข้ ตับโต ม้ามโต บางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึง ต่อมน้ำเหลืองโต ข้ออักเสบ (ข้อบวมและปวด) อัณฑะอักเสบ

ถ้าป่วยนานกว่า 3-6 เดือน จะพบอาการซูบผอมจากการขาดอาหาร

ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ หรือมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางจิตประสาท

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการทดสอบทางน้ำเหลือง (agglutination test, ELISA) การตรวจด้วยวิธี polymerase chain reaction (PCR) การเพาะเชื้อจากเลือด ไขกระดูก น้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural fluid) หรือน้ำในข้อ (synovial fluid) การตรวจเลือดมักพบเม็ดเลือดขาวต่ำ (โดยมีสัดส่วนของลิมโฟไซต์สูง) เกล็ดเลือดต่ำ เอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูงเล็กน้อย บางรายอาจต้องตรวจชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) เอกซเรย์ปอดและกระดูกสันหลัง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

การรักษา ที่สำคัญคือให้ยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 2 ชนิดร่วมกัน เช่น ดอกซีไซคลีน ร่วมกับไรแฟมพิซิน นาน 6 สัปดาห์ ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ให้โคไตรม็อกซาโซลร่วมกับไรแฟมพิซิน หรืออะมิโนโกลโคไซด์ (เช่น เจนตาไมซิน)

ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาลให้ยาปฏิชีวนะร่วมกัน 3-4 ชนิด และให้นานกว่า 6 สัปดาห์

ในรายที่เป็นฝีตับ อาจต้องทำการระบายหนองออก

ในรายที่มีภาวะผิดปกติของลิ้นหัวใจอาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ

ผลการรักษา นับว่าได้ผลดี อาการไข้และอาการอื่น ๆ มักจะทุเลาหลังกินยาได้ 4-14 วัน แต่ถ้ากินยาไม่สม่ำเสมอ หรือหยุดยาก่อนกำหนดเวลา ก็อาจมีอาการกำเริบซ้ำได้อีกประมาณร้อยละ 30 โดยทั่วไปแพทย์จะติดตามผลการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี

ในรายที่มีเยื่อบุหัวใจอักเสบร่วมด้วยมักมีอัตราตายค่อนข้างสูง

ในรายที่ไม่ได้รับการรักษา มีอัตราตายโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้เรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ นานเป็นสัปดาห์ ๆ ร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือมีไข้ร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน (หลังกินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์หรือนมสัตว์ที่ไม่ได้ทำให้สุกหรือทำให้ปลอดเชื้อ) ซึ่งพบในผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนหรือสัตว์ป่วยด้วยโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคบรูเซลโลซิส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    กินยาปฏิชีวนะให้ครบตามระยะที่แพทย์กำหนด (อาจนานถึง 6 สัปดาห์) ถึงแม้อาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 4-14 วัน หรือหลังจากทุเลาแล้วกลับมีไข้กำเริบใหม่
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ หรือเจ็บหน้าอกมาก
    ข้ออักเสบ หรืออัณฑะอักเสบ
    มีอาการปวดตา ตามัว ตาแดง
    มีไข้ร่วมกับปวดท้อง ตาเหลืองตัวเหลือง
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบรูเซลโลซิสในสัตว์เลี้ยง (โค กระบือ แพะ แกะ หมู)

2. ถ้าสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงเป็นโรคนี้ เช่น สัตว์ในคอกมีไข้ ซึม เต้านมอักเสบ ข้อขาอักเสบ เยื่อหุ้มข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ ขาหลังเป็นอัมพาต สัตว์แท้งลูกบ่อย ๆ (โรคนี้มีชื่อเรียกว่า โรคแท้งติดต่อในสัตว์) เป็นหมัน ให้น้ำนมน้อยลง เป็นฝีตามที่ต่าง ๆ ลูกที่คลอดออกมาไม่แข็งแรง เป็นต้น ก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ ถ้าเป็นโรคนี้ก็ควรกำจัดทิ้ง

กรณีสัตว์แท้งลูก ควรเก็บลูกสัตว์ที่แท้งและรกส่งตรวจหาสาเหตุของโรค

3. หมั่นตรวจสอบการติดเชื้อในฝูงสัตว์เลี้ยงด้วยการตรวจเลือดและน้ำนม ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อ ควรทำการคัดแยกและทำลาย

4. ผู้ที่ทำงานในฟาร์ม (โดยเฉพาะฟาร์มแพะ) ควรป้องกันไม่ให้สัมผัสถูกเชื้อโรคโดยตรง เช่น

    ขณะทำงานควรสวมถุงมือยางชนิดหนาและทนทาน สวมหน้ากากปิดปากและจมูก ใส่ชุดกันเปื้อน
    ระวังอย่าให้เข็มฉีดยาหรือเจาะเลือดทิ่มตำ
    ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ภายหลังการสัมผัสถูกน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ สารคัดหลั่งจากอวัยวะสืบพันธุ์  เลือด น้ำเหลือง มูลสัตว์ รกและลูกสัตว์ที่แท้ง

5. ถ้าถูกเข็มฉีดวัคซีนโรคนี้ทิ่มต่ำเข้าโดยบังเอิญ ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทันที และควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ยาป้องกัน แพทย์จะให้กินดอกซีไซคลีน 100 มก. วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับไรแฟมพิซิน 600-900 มก. วันละ 1 ครั้ง นาน 21 วัน

ถ้าวัคซีนบังเอิญเข้าตาควรรีบล้างออก และควรกินยาป้องกันนาน 4-6 สัปดาห์

6. หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก และนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อ (พาสเจอร์ไรซ์) การต้ม หรือการทำให้สุกด้วยความร้อนวิธีอื่น ๆ

7. เมื่อมีผู้ป่วยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วย แต่ต้องระวังอย่าสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วย หนองและเลือดของผู้ป่วยที่ติดตามเสื้อผ้าหรือบริเวณต่าง ๆ ต้องผ่านการทำลายเชื้อ


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถึงแม้พบได้ไม่บ่อย แต่ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการไข้เรื้อรังร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือการอักเสบของอวัยวะหลายส่วน ก็ควรสงสัยว่าอาจเป็นโรคบรูเซลโลซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้

นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไม่ชัดเจน คือมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยไม่มีอาการอย่างอื่นชัดเจน อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคจิตประสาท (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือนอนไม่หลับร่วมด้วย)

ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว อย่าลืมถามประวัติการทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ หมู) หรือการบริโภคนมวัวหรือนมแพะที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก

2. โรคนี้ติดต่อจากสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ การติดจากคนสู่คนเกิดขึ้นได้น้อยมาก จะติดได้ก็โดยการสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วยเท่านั้น

17
บริการด้านอาหาร: ทานวิตามินซีอย่างไรให้ได้คุณค่าสูงสุด

ถ้าหากนึกถึงวิตามินซี เชื่อแน่ว่าหลายคนรู้จักและทราบถึงประโยชน์ที่มีอยู่มากมายดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ในการช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและป้องกันโรคหวัด ที่สำคัญคือช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าและผิวพรรณ แต่ใช่ว่าทุกปัญหาสุขภาพจะรับประทานวิตามินซีในปริมาณเดียวกันหรือรูปแบบเดียวกัน การรับประทานวิตามินซีมีวิธีการทานที่ถูกต้องและเหมาะกับร่างกายแต่ละคนด้วย บางคนเลือกรับประทานวิตามินซี ในรูปแบบอาหารเสริม เพราะเชื่อว่าสามารถช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายและดีต่อสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกัน การรับประทานวิตามินซี ก็ต้องรับประทานอย่างถูกต้องด้วยเพื่อให้คุณค่าสูงสุด เพราะถ้าหากเรารับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เกินความจำเป็นต่อคามเพียงพอต่อร่างกายที่ร่างกายของเราควรได้รับในแต่ละวัน ก็จะทำให้ร่างกายขับออกมา สาวๆหลายคน มักจะใช้วิตามินซี


สำหรับการดูแลสุขภาพเพื่อให้มีผิวพรรณที่สมบูรณ์ การรับประทานผักสดและผลไม้สด ทำให้ผิวสวย เหงือกและฟันแข็งแรง นั่นเพราะ วิตามินซีในผักและผลไม้ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารมากก็จะทำงานดีขึ้น ผิวจะดูมีสุขภาพดีและเรียบเนียน วิตามินซียังช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ผิวแน่นและยืดหยุ่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากไปช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและต้านการอักเสบ จึงทำให้แผลหายได้เร็วขึ้นได้อีกด้วย วันนี้ทางเราจะมาแนะนำการรับประทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์และได้คุณค่าสูงสุด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีนอย่างเต็มที่ตามความเหมาะสมของร่างกายที่ควรได้รับในแต่ละวัน


ก่อนที่เราจะมาพูดถึงการรับประทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์มากที่สุด เราจะต้องรู้ก่อนว่า วิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย รักษาและป้องกันโรคหวัด ทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้หลายชนิด ช่วยต้านอาการอักเสบ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำ และช่วยให้ผิวใสขึ้น และยังสามารถช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย


สำหรับวิธีการรับประทานวิตามินซีนั้น เราจะต้องดูวัตถุประสงค์ในการรับประทาน โดยปริมาณวิตามินซีที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน สำหรับวิตามินซีเสริมอาหารคือ 500-4,000 มิลลิกรัม สำหรับการรับประทานวิตามินซี เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้แข็งแรง และเพื่อให้ผิวขาวใส โดยทั่วไปควรรับประทานวิตามินซีในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไป หรือหากอยากเสริมสร้างภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ควรรับประทานวิตามินซีในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ คนที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือเป็นภูมิแพ้บ่อยๆ ควรรับประทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัมต่อวันหรือมากกว่านั้น วิตามินซีมีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม


ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณในการรับประทานเข้าไป หากเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมไปใช้เพิ่มได้ จึงควรรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่ต่ำกว่า 1 กรัม และการรับประทานหลายครั้งจะดูดซึมได้ดีกว่ารับประทานปริมาณมากในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารับประทานวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังจากรับประทาน เพราะฉะนั้น เราจึงควรรับประทานวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าและเย็น โดยต้องรับประทานหลังอาหารทันที สำหรับ ใครที่รับประทานวิตามินซีในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรรับประทานควบคู่ไปกับผักและผลไม้ตามปกติ ซึ่งให้วิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์ ที่ร่างกายต้องการ ทั้งนี้ ก็เพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดี เพื่อให้เราได้รับคุณค่าจากวิตามินมากที่สุดนั่นเอง


สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาสุขภาพคือ เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญเราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ และหมั่นออกกำลังกายเป้นประจำ เราก็จะไม่เสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนหรือโรคอื่นๆที่อาจจะตามมาได้ในอนาคต


ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณในการรับประทานเข้าไป หากเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมไปใช้เพิ่มได้ จึงควรรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่ต่ำกว่า 1 กรัม และการรับประทานหลายครั้งจะดูดซึมได้ดีกว่ารับประทานปริมาณมากในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารับประทานวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังจากรับประทาน เพราะฉะนั้น เราจึงควรรับประทานวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าและเย็น โดยต้องรับประทานหลังอาหารทันที สำหรับ ใครที่รับประทานวิตามินซีในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรรับประทานควบคู่ไปกับผักและผลไม้ตามปกติ ซึ่งให้วิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์ ที่ร่างกายต้องการ ทั้งนี้ ก็เพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดี เพื่อให้เราได้รับคุณค่าจากวิตามินมากที่สุดนั่นเอง


สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาสุขภาพคือ เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะทางเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญเราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ และหมั่นออกกำลังกายเป้นประจำ เราก็จะไม่เสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนหรือโรคอื่นๆที่อาจจะตามมาได้ในอนาคต

18
จัดฟันบางนา: อันตรายจากคราบหินปูน

การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่คนเราจะต้องทำทุกวันในชีวิตประจำวัน เพราะการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันจะช่วยทำให้คุณมีสุขภาพฟันที่ดี รวมไปถึงยังช่วยให้คุณได้ใช้ชีวิตประจำวันอยากมีประสิทธิภาพ เพราะการที่เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ดี ส่งผลให้เราใช้ชีวิตได้ลำบากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร หากเรามีสุขภาพฟันที่ไม่แข็งแรง อาจจะทำให้เรารับประทานอาหารได้ไม่สะดวก บดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด จึงอาจจะทำให้มีผลกระทบไปถึงสุขภาพกาย อาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรืออาหารย่อยได้ยาก


นอกจากนี้ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันอาจจะส่งผลต่อบุคลิกภาพของคุณได้ด้วย อาจจะทำให้มีปัญหาในเรื่องของการพูดคุย พบปะผู้คน ทำให้ขาดความมั่นใจได้ และต้นเหตุของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน คงไม่พูดถึงคราบหินปูนคงไม่ได้ เพราะคราบหินปูนถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุได้ คราบหินปูนเกิดจากคราบจุลินทรีย์ที่ถูกแร่ธาตุในน้ำลายจับตัวตกตะกอน แข็งตัวเป็นหินน้ำลาย เกาะอยู่บนคอฟันบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน โดยปกติในระยะแรก คราบจุลินทรีย์ที่เกาะอยู่บนผิวฟันจะมีลักษณะนิ่มและสามารถแปรงออกได้ แต่เมื่อใดที่มีแร่ธาตุจากน้ำลายมาผสมด้วยจะกลายเป็นคราบหินปูน ที่มีลักษณะเป็นของแข็งไม่สามารถถูกกำจัดออกได้ด้วยการแปรงฟัน ต้องให้ทันตแพทย์ทำการรักษาขูดหินปูนออกไปเท่านั้น และวันนี้คลินิกเราจะพูดถึงอันตรายจากคราบหินปูน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและปัญหาสุขภาพฟันอื่น ๆ


คราบหินปูน เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ฟันเหลือง มีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ ฟันผุ ฟันโยก ฟันห่าง หรือร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้เราสูญเสียฟันได้ ดังนั้นทันตแพทย์จึงแนะนำให้เราขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพปากและฟันที่แข็งแรง ซึ่งการขูดหินปูนสามารถขูดหินปูนได้ทุกวัย แม้กระทั่งในวัยเด็กที่มีฟันน้ำนมขึ้นแล้วไปจนกระทั่งผู้สูงอายุ ซึ่งการขูดหินปูนหลายคนเข้าใจผิดว่า การขูดหินปูนทำให้เกิดปัญหาฟันห่าง แต่จริง ๆแล้วการขูดหินปูนไม่ส่งผลกระทบใดต่อตัวฟัน แต่ในบางครั้งอาจจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้บ้าง ภายหลังการขูดหินปูนและอาจมีการเจ็บเหงือกบ้างบางครั้ง


แต่การดูแลรักษาความสะอาดที่ถูกต้อง จะทำให้อาการดังกล่าวหายไปเอง สำหรับการป้องกันการเกิดของคราบหินปูน สามารถป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดฟัน นั้นคือ การแปรงฟันให้ถูกวิธีการทำความสะอาดซอกฟัน รวมทั้งการนวดเหงือก ซึ่งมีหลายวิธี เช่นการใช้เส้นใยขัดฟัน ปุ่มนวดเหงือกแปรงระหว่างซอกฟัน นอกจากนี้การรับประทานอาหารก็เป็นเรื่องที่ต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ ไม่ควรทานอาหารบ่อย หลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมหวาน หากจะรับประทานของว่างควรเป็นผักและผลไม้

สำหรับวิธีการขจัดคราบหินปูนนั้น มีขั้นตอนการขูดหินปูนโดยทันตแพทย์ที่ไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บและไม่ทำให้ฟันสึกกร่อน โดยทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขจัดหินปูนแบบที่มีแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง ทำให้หินปูนหลุดออก จากนั้นจะใช้เครื่องมือชิ้นเล็ก ขูดหินปูนโดยละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะทำความสะอาดช่องปากด้วยไหมขัดฟันและเคลือบฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุปิดท้ายในการขูดหินปูนใช้เวลาเพียง 30 นาที -1 ชั่วโมงเท่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูนในช่องปาก และราคาค่าขูดหินปูนก็ไม่สูงนัก ประมาณ 700 – 1200 บาท อย่างไรก็ตาม คุณควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน การแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อเป็นสิ่งที่ดีมากแต่ถ้าไม่สามารถกระทำได้ให้บ้วนน้ำแรง ๆ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร และควรเข้าพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสภาพเหงือกและฟัน เพื่อทำความสะอาดฟันบริเวณที่เหลือจากการทำความสะอาดและรับการรักษาระยะเริ่มแรก เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ

ทั้งนี้ทางคลินิกเรามีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการถอนฟัน การรักษารากฟัน การทำรากฟันเทียม การจัดฟัน โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้คุณมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

19
โรคมะเร็งปากมดลูกระยะแรกรู้เร็วรักษาได้

จากรายงานปี 2560 สถาบันมะเร็งแห่งชาติพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่มากเป็นอันดับสองของโรคมะเร็งในเพศหญิง ดังนั้น การตระหนักถึงผลร้ายของโรคและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งของผู้หญิง รวมถึงผู้หญิงที่เข้ารับการตรวจกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำมักมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก โดยบทความนี้ได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกระยะแรก วิธีสังเกตอาการของโรค วิธีวินิจฉัย รวมถึงวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงมาให้ได้ศึกษากัน

โรคมะเร็งปากมดลูกระยะแรกมักไม่ปรากฏอาการผิดปกติให้ผู้ป่วยสังเกตเห็น ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้หลายคนไม่ทราบตัวว่าตนเองเป็นโรคนี้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เข้ารับการรักษาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และแม้ว่ามะเร็งปากมดลูกมีแนวโน้มพบมากในผู้หญิงช่วงวัยกลางคนขึ้นไป แต่ก็ยังมีรายงานการพบมะเร็งปากมดลูกในผู้ที่อายุน้อยอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่มีโอกาสรักษาให้หายสูงเมื่อเทียบกับโรคมะเร็งชนิดอื่น


การวินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูกระยะแรก

วิธีที่จะช่วยให้รู้ตัวเมื่อเกิดมะเร็งปากมดลูกระยะแรกขึ้นมี ดังนี้

    สังเกตอาการมะเร็งปากมดลูกระยะแรก
    อย่างที่ได้กล่าวไปว่ามะเร็งปากมดลูกระยะแรกมักไม่ปรากฏอาการให้เห็น แต่หากสังเกตเห็นสัญญาณหรืออาการต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที

        มีประจำเดือนนานและปริมาณมากกว่าปกติ
        มีเลือดออกทางช่องคลอดกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน
        รู้สึกเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
        มีตกขาวมากกว่าปกติ
        มีเลือดออกทางช่องคลอด หลังจากหมดประจำเดือน
        ปวดท้องน้อยหรือปวดหลังติดต่อกันโดยหาสาเหตุไม่ได้
        มีเลือดออกทางช่องคลอดบ่อยครั้ง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ทำความสะอาดอวัยวะเพศ หรือตรวจภายใน

    การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
    การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรให้ความสำคัญ เนื่องจากหากตรวจพบได้เร็วก็อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหาย โดยปกติควรเริ่มตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้น โดยการตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน วิธีแรกแปปสเมียร์ (Pap smear) เป็นตรวจเพื่อหาเซลล์มะเร็งในช่วงที่ยังไม่พัฒนาเป็นโรคมะเร็ง วิธีที่ 2 การตรวจหาเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคนี้
    นอกจากนี้ ผู้ที่มีความเสี่ยง อย่างผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี มีภูมิคุ้มกันต่ำ สูบบุหรี่ และผู้ที่พบเซลล์มะเร็งจากการตรวจครั้งก่อนหน้า แพทย์อาจนัดมาติดตามอาการและตรวจคัดกรองบ่อยขึ้น


มะเร็งปากมดลูกระยะแรก สามารถรักษาได้ไหม ?

โรคมะเร็งปากมดลูกนั้นถูกจัดเป็นโรคมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายได้ และยังมีโอกาสที่จะรักษาให้หายสูงกว่าโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ซึ่งการรักษาอาจเป็นการผ่าตัดหรือเข้ารับรังสีรักษา ขึ้นอยู่กับระยะของโรค สภาพร่างกาย และดุลยพินิจของแพทย์ ทั้งนี้อาจสรุปได้ว่าโรคมะเร็งปากมดลูกนั้นสามารถรักษาให้หายได้ แต่เปอร์เซ็นต์ในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

นอกเหนือจากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำแล้ว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่โรคมะเร็งปากมดลูกก็เป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น รับวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และงดการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชพีวี เป็นต้น

นอกจากนี้ หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการมะเร็งปากมดลูก มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ หรือมีอาการผิดปกติอื่นใด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการตรวจภายในโดยเร็ว

20
มือถือ Huawei หัวเหว่ย Huawei P60 (8GB/256GB)
N/A 

หัวเหว่ย Huawei P60 (8GB/256GB)
Huawei P60 หน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.67 นิ้ว กล้องหลัง 3 เลนส์ ความจุแบตเตอรี่ 4,815 mAh รองรับชาร์จไว 66W รองรับชาร์จไร้สาย 50W

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น               หัวเหว่ย Huawei P60 (8GB/256GB)
   ราคากลาง              -
   จำนวนซิม            2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์             จอสัมผัส
   สี                      White, Black, Purple, Green

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 34, 38, 39, 40, 41)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 161 x กว้าง 74.5 x หนา 8.3 มม., น้ำหนัก 197 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด    Nano Memory
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 4,815 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ              จอสัมผัส (LTPO OLED)
   ความละเอียด       6.67 นิ้ว, 444 ppi, 1,220 x 2,700 px

   รายละเอียดอื่น
ประมวลผลชิปเซ็ต Qualcomm SM8475 Snapdragon 8+ Gen 1 4G
กล้องหลัง 3 เลนส์ เลนส์หลัก 48 MP, f/1.4-f/4.0 + เลนส์ periscope telephoto 12 MP, f/3.4 + เลนส์ ultrawide 13 MP, f/2.2
มีระบบเซนเซอร์ Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
รองรับชาร์จไว 66W
รองรับชาร์จไร้สาย 50W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (48 Mpx), กล้องหน้า (13 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            Auto Focus, Flash

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           Octa-core
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Adreno 730
   หน่วยความจำ (RAM)               8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              Infrared, USB(Type-C 3.1), Bluetooth(5.2), NFC, Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct)
   ระบบรับส่งข้อความ                   SMS, MMS, EMAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                      GPS (L1+L5), GLONASS (B1I+B1c+B2a), BDS (B1I+B1c+B2a), GALILEO (E1+E5a), QZSS (L1+L5), NavIC

21
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ตาอักเสบจากเชื้อหนองใน (Gonococcal ophthalmia neonatorum)

ตาอักเสบจากหนองใน พบในทารกแรกเกิดที่มารดามีเชื้อหนองในอยู่ในช่องคลอด ปัจจุบันพบได้น้อย

สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อหนองใน (gonococcus) จากช่องคลอดของมารดาขณะที่คลอด

อาการ
ทารกจะมีอาการตาอักเสบ หนังตาบวมแดง ลืมตาไม่ได้ และมีขี้ตาแฉะ ลักษณะเป็นหนองสีเหลืองหรือสีเขียว ซึ่งมักจะปรากฏอาการในวันที่ 2-5 หลังคลอด

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจลุกลามจนทำให้เป็นแผลกระจกตา สายตาพิการหรือตาบอดได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

มักตรวจพบขี้ตาลักษณะเป็นหนองสีเหลืองหรือสีเขียว คลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการนำหนองที่ตาไปตรวจหาเชื้อหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การย้อมสีแกรม (Gram stain) และตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์, การเพาะเชื้อ, การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี Polymerase chain reaction (PCR) เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้การรักษาด้วยการฉีดเซฟทริอะโซน (ceftriaxone) ขนาด 25-50 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. เข้ากล้ามหรือเข้าหลอดเลือดดำครั้งเดียว และล้างตาด้วยน้ำเกลือทุกชั่วโมงจนกว่าหนองจะแห้ง (แพทย์จะใช้ยาเซฟทริอะโซนด้วยความระมัดระวังในทารกคลอดก่อนกำหนดหรือมีอาการตัวเหลือง)

ผลการรักษา ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม ก็จะหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงขั้นตาบอด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ทารกแรกเกิดมีอาการหนังตาบวมแดง มีขี้ตาแฉะ ลืมตาไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตาอักเสบจากเชื้อหนองใน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้าสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรได้รับการตรวจกรองโรคหนองใน และให้การรักษาถ้าพบว่าเป็นโรคนี้ และควรตรวจกรองซ้ำในไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์หรือในระยะใกล้คลอด

2. กรณีที่ไม่ได้รับการตรวจกรองมาก่อน หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรได้รับการตรวจกรองโรคหนองในขณะคลอด ถ้าพบว่าเป็นหนองในควรให้ยารักษาโรคนี้ทันที

3. ทารกหลังคลอดทุกราย ไม่ว่าจะคลอดโดยวิธีใด ควรใช้ยาป้ายตาอีริโทรไมซินชนิด 0.5% หรือยาป้ายตาเตตราไซคลีนชนิด 1% ป้ายตา 2 ข้างทันทีหลังคลอด เพียงครั้งเดียว (ถ้าพบว่าไม่ได้ป้ายยานี้หลังคลอดทันที ก็ควรทำการป้ายตาภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด)

4. ทารกที่เกิดจากมารดาที่เป็นหนองในขณะคลอด ควรป้องกันโดยการฉีดเซฟทริอะโซนในขนาดเดียวกับที่ใช้รักษา


ข้อแนะนำ

ถ้าพบทารกแรกเกิดมีอาการตาบวมตาแฉะ ซึ่งเกิดขึ้นใน 2-5 วันหลังคลอด ควรนึกถึงการติดเชื้อหนองใน และควรพาไปพบแพทย์โดยเร็ว

22
งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์: ไทรอัมพ์ Triumph Trident Triple Tribute Special Edition ปี 2024
319,000 บาท 

ไทรอัมพ์ Triumph Trident Triple Tribute Special Edition ปี 2024
Triumph Trident Triple Tribute Special Edition ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเครื่องยนต์สามสูบระดับตำนานของไทรอัมพ์ และจะวางจำหน่ายเพียง 1 ปีเท่านั้น รถจักรยานยนต์สไตล์โรสเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามคันนี้ พร้อมวางจำหน่าย โดยมาในรูปแบบลายกราฟิกอันโดดเด่น ซึ่งเป็นกราฟิกร่วมสมัยของรูปแบบสไตล์การแข่งขันที่เน้นการใช้สีขาว น้ำเงิน และแดง อันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ และสะดุดตาด้วยกราฟิกตัวเลข '67' อันโดดเด่น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยประดับอยู่บนรถจักรยานยนต์ไทรเดนท์ 'Slippery Sam' อันโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ วางจำหน่ายในราคา 319,000 บาท พิเศษ! รับข้อเสนอทางการเงิน 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 - 31 กรกฎาคม 2567 โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ 12 แห่งทั่วประเทศ

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Triumph
   รุ่น                       ไทรอัมพ์ Triumph Trident Triple Tribute Special Edition ปี 2024
   ประเภทรถ           Naked bike
   ปีที่เปิดตัว           2024
   ราคา                  319,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์        เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์          6 เกียร์
   รายละเอียดเครื่องยนต์        เครื่องยนต์สามสูบ 660 ซีซี
   ระบบระบายความร้อน         น้ำ
   ระบบสตาร์ท                      สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)      660 CC
   แบบเครื่องยนต์                 4 จังหวะ (ระบายความร้อนด้วยน้ำ 12 วาล์ว DOHC สามสูบเรียง)
   ระบบจุดระเบิด
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง      เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน                  หัวฉีด (อิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องหลายจุด มาพร้อมการควบคุมคันเร่งแบบอิเล็กทรอนิกส์)
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)       14 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน              ล้อหน้า ระบบกันสะเทือนหน้า โช้คหน้าหัวกลับ Showa ขนาด 41 มม.separate function forks (SFF), ล้อหลัง โช้คหลัง Showa monoshock RSU พร้อมระบบปรับพรีโหลด
   ระบบเบรค                       ล้อหน้า ดิสก์เบรก (จานเบรกคู่ Nissin ขนาด 310มม. พร้อมคาลิปเปอร์ และระบบ ABS), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (จานเบรกเดี่ยว ์Nissin ขนาด 255 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ และระบบ ABS)

   แบบวงล้อ                        อัลลอย
   ขนาดยาง                       ล้อหน้า 120/70 R17, ล้อหลัง 180/55 R17
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)    2,020x795x1,089 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                         189.00 กก.

23
รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้างขนของตาก บริการดีหรือไม่   

รถ 6 ล้อรับจ้างภาคเหนือ จังหวัดตากที่รับขนย้ายบ้าน รับจ้างขนของ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนย้ายเครื่องจักร ย้ายบ้าน ย้ายหอ ขนเครื่องจักร และขนสินค้าทั่วไป ปัจจุบันมีหลายบริษัท ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าจะเลือกใช้บริการ แบบไหน ทำอะไร  ตัวอย่างเช่น ต้องการยกของที่ไม่สามารถใช้คนได้ เราก็สามารถเลือกใช้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้างจังหวัดตาก มาช่วยในการขนย้าย  ในเมื่อหลาย ๆอย่าง จำเป็นที่ต้องได้ใช้

การขนย้ายจึงมีความจำเป็นอย่างมาก งานบริการที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในการช่วยเหลือสิ่งต่าง ๆ เช่น ธุรกิจขนส่ง ที่จะต้องมีรถรับจ้างขนย้ายของที่หลากหลายชนิดในแต่ละจังหวัด รถ 6 ล้อรับจ้างก็ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี เพราะการขนย้ายในแต่ละครั้งที่มีสินค้าจำนวนมาก ก็ต้องอาศัยรถ 6 ล้อ ในการเคลื่อนย้าย ถึงจะสามารถขนไปได้หมด

การขนย้ายสิ่งของที่ต้องขนมากโดยใช้รถบรรทุกรับจ้างตาก หรือขนไปต่างจังหวัด เช่น ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน รถจักรยานยนต์ อันนี้ต้องใช้รถ 6 ล้อรับจ้า แทน จะสะดวกกว่า เพราะสามารถที่จะขนย้ายได้ง่าย ภายในครั้งเดียว การใช้บริการรถรับจ้างนั้น ต้องดูว่างานแต่ละอย่างของเรานั้นคืออะไร  เพราะรถนั้นจะมีให้เลือกในรูปแบบที่หลากหลาย  เช่น หากต้องการขนย้ายสินค้าที่มีปริมาณมาก ๆ จำนวนข้าวสาร การขนดิน ขนหิน แบบนี้พวกรถเล็ก ๆ อาจจะขนได้ปริมาณน้อย

แต่หากเราใช้รถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น รถพ่วง รถเทเลอร์ ก็จะเป็นการเพิ่มสินค้าได้มากขึ้น ที่สำคัญราคาขนส่งครั้งละมาก ๆ ก็จะถูกกว่าการขนส่งครั้งละนิด ๆ และต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ามากกว่า ในการขนส่งนั้นนอกจากการนำสินค้า ของต่าง ๆ จากผู้ส่งไปยังผู้รับแล้ว บริการ รถหกล้อรับจ้างขนของย้ายบ้านจังหวัดตาก

ขนส่งให้บริการรถรับจ้างภาคเหนือ บริการถึงสุดปลายทางแม่สาย บริการขนย้ายภายในจังหวัดตาก และต่างจังหวัด การยกของนั้นทางผู้ให้บริการรถขนส่งอาจจะมีพนักงานรับจ้างขน แต่หากเป็นสินค้าที่หนักมาก ๆ เช่นการนำวัสดุก่อสร้างไปส่งตามไซด์งาน การที่จะใช้กำลังคนในการขนส่งนั้นก็เห็นทีจะยาก จึงทำให้ร้านค้ามีวัสดุก่อสร้างนั้นต้องใช้บริการรถเครนรับจ้าง เพื่อมาช่วยยกแทน ซึ่งถือว่าเป็นการทุ่นแรงได้ดีพอสมควร

การที่เราจะใช้บริการรถบรรทุกรับจ้าง ขนส่งยกของเหล่านี้นั้น เรามักจะเห็นเป็นการโฆษณาบ่อย ๆ ทั่ว ๆ ไป สามารถเรียกใช้บริการได้ และก่อนการเคลื่อนย้ายนั้น จัดของสินค้าควรมีการแพ็คจัดเก็บของ ๆ ตัวเอง ให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกในการขนส่ง ยกเว้น พวกหิน ดิน ทราย อันนี้สามรถที่จะถ่ายขึ้นรถได้เลย และเจ้าของรถจะมีผ้ายางคลุมอีกที เพื่อป้องกันการหล่น กันฝน และฝุ่น การฟุ้งกระจายของของ และที่สำคัญคนขับรถรับจ้าง ต้องรู้จักเส้นทางที่จะเดินทางไปด้วย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง การบริการที่ดีที่สุดของ รถ 6 ล้อจังหวัดตากรับจ้าง

จุดพื้นที่ให้บริการที่ใกล้เคียงทุกท่านดังนี้

อำเภอเมืองตาก

อำเภอท่าสองยาง

อำเภอบ้านตาก

อำเภอพบพระ

อำเภอแม่ระมาด

อำเภอแม่สอด

อำเภอสามเงา

อำเภออุ้มผาง

อำเภอวังเจ้า

ในการขนย้ายบ้าน สำหรับรถ 6 ล้อรับจ้าง ใช้คนยก 3-4 คน แต่หากอยู่ชั้นสูง ๆ มากกว่าชั้น 2 อาจจะต้องเพิ่มคน ส่วนถ้าเป็นการขนย้ายหอพัก รถขนของ ย้ายหอ ส่วนใหญ่จะใช้คนยก 1-2 คนเท่านั้น  การขนย้ายไซด์งานก่อสร้าง สำหรับรถ 6 ล้อรับจ้าง จะใช้คนยกมากกว่า 5 คนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของสินค้า  ส่วนการขนย้ายสินค้าทั่วไป ไม่ระบุเจาะจง รถ 6 ล้อรับจ้างต้องใช้คนยกตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

การคิดค่าบริการสำหรับคนยกสินค้านั้น ส่วนมากราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท/คน  เช่นการย้ายห้องพัก ย้ายหอ และราคาจะปรับสูงขึ้นตามปริมาณของสินค้า และความยากง่ายในการขนย้ายในแต่ละครั้งด้วย มีการตรวจเช็คผ้าใบคลุมรถเป็นอย่างดี ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพื่อไม่ให้ผู้ว่าจ้างเกิดความกังวลในการขนส่งสินค้าในแต่ละครั้งด้วย

การท่องเที่ยวในประเทศไทยถือได้ว่า มีส่วนสำคัญต่อการให้บริการ รับรับจ้างขนส่ง ต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจด้านการขนส่งย้ายของ ย้ายหอพัก ย้ายบ้านตาก ย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นใช้รถรับจ้างกันทั้งนั้น ดังนั้นปัจจุบันบริษัทขนส่งจึงได้เปรียบเป็นอย่างมากที่จะช่วยบริการ หรือสนับสนุนงานย้ายให้กับลูกค้าได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ และลุกค้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวจะมีรถไม่พอที่จะให้บริการ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้บริการว่าจะเลือกใช้บริการกับขนส่งไหน เจ้าไหน เพราะว่าผู้ว่าจ้างก็มีสิทธิที่จะประเมินการใช้บริการว่างานที่ตัวเองจะว่าจ้างให้ไปขนย้ายนั้น มีความเหมะสมกับรถในลักษณะใดมากกว่ากัน ทีมงานขนส่งบริการรถบรรทุกขนย้ายจังหวัดตาก และพื้นที่จังหวัดอื่นๆ





24
ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย ทำบุญ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคล

หนองคาย เมืองของสายบุญใน ภาคอีสาน ที่น่าไปเยือนและไปทัวร์ทำบุญไหว้พระกันอย่างมากค่ะ จัดเต็มครบทั้ง วัดดัง วัดสวย ซึ่งหลายๆ คนต้องคุ้นหูคุ้นตาอย่างแน่นอนค่า เราก็รวมพิกัดมาเพื่อให้สายบุญตามเราไป ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย นั่นเองค่า

รวมพิกัด ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย เสริมดวง เสริมบุญ

1. ศาลาแก้วกู่ (วัดแขก)

     ศาลาแก้วกู่ หรือที่เรียกว่า วัดแขก นั้นเป็นที่ตั้งของความสวยงดงามของประติมากรรมปูนปั้น ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางศาสนานั่นเอง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาด้วยความศรัทธาและความเชื่อของ ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ หรือ ปู่เหลือ ที่ว่า ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้ โดยต้องการให้ศาลาแก้วกู่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่หมายถึง ดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงค่ะ ใครชอบงานประติมากรรรมสวยๆ แล้วยังเหมือนได้เที่ยวศาสนาแบบนี้ ห้ามพลาดเลยค่า

    ที่อยู่ : ถนนหนองคาย-โพนพิสัย ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10 , ต่างชาติ 40
    โทร : 08-1369-5744
    เว็บไซต์ : -



2. วัดผาตากเสื้อ

     อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดฮิตของหนองคาย ซึ่งนอกจากจะเป็นวัดสวยแล้ว ก็ยังเป็นจุดชมวิวสวยๆ ด้วย นั่นก็คือ วัดผาตากเสื้อ แห่งนี้ ซึ่งที่นี่นั้นมีจุดชมวิวสกายวอร์คแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่นั่นเองค่ะ โดยเราสามารถชมวิวมุมสูงได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว สามารถเห็นแม่น้ำโขงได้ไกลสุดสายตาเลยค่ะ ส่วนตัววัดเองก็จะมีโบสถ์สวยๆ และบันไดพญานาคที่เป็นไฮไลท์อีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -


3. พระธาตุบังพวน

     มากันที่ พระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญต่อชาวหนองคาย และชาวอีสานอย่างมากค่ะ ซึ่งภายในจะประดิษฐาน วิหาร 3 หลัง พระอุโบสถ 1 หลัง สระน้ำ และบ่อน้ำแบบโบราณ อีกทั้งบรรยากาศภายในวัดก็ยังร่มรื่นมากอีกค่ะ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ต้องห้ามพลาดที่จะไปสักการะกันเลยค่า

    ที่อยู่ : ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


4. วัดโพธิ์ชัย

     วัดโพธิ์ชัย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญของจังหวัดหนองคาย และยังประดิษฐานของ หลวงพ่อพระใส อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวหนองคายและชาวจังหวัดใกล้เคียงนั้น นับถือและเดินทางมาสักการะกันอย่างมากค่ะ เพราะถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวข้องกับทั้งชาวไทยและชาวลาวนั่นเองค่ะ รวมถึงวัดโพธิ์ชัยเองก็ยังเป็นวัดที่มีโบสถ์สวยงามอีกด้วย สายบุญห้ามพลาดเลยนะคะ

    ที่อยู่ : หนองคาย-โพนพิสัย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
    โทร : -


5. พระธาตุหล้าหนอง

     พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุหนองคาย ที่อยู่กลางน้ำแห่งนี้ เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุโบราณเอาไว้ อายุหลายร้อยปีด้วยกัน โดยเมื่อก่อนนั้นเจดีย์จะอยู่บนฝั่งริมน้ำ อยู่ในเขตของ วัดพระธาตุหนองคาย แต่ในปี พ.ศ. 2390 นั้น ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเลยทำให้ไปอยู่กลางลำน้ำโขงแทนค่ะ ซี่งก็ได้มีการสร้าง พระธาตุหล้าหนอง รูปแบบจำลองเอาไว้บนฝั่งให้ได้ชมกันอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


6. วัดมณีโคตร

     วัดมณีโคตร เป็นวัดดังที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่ของเมืองโพนพิสัย นั่นก็คือ หลวงพ่อพระเสี่ยง เอาไว้ค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่หล่อขึ้นมาจากทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก 8 นิ้ว สูง 24 นิ้ว หนักมากถึง 100 กิโลกรัมด้วยกันค่ะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และสวยงามอย่างมาก อีกทั้งหลวงพ่อเองก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับงานบุญบั้งไฟที่สำคัญของชาวอีสานด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-17.00 น.
    โทร : -


7. วัดศรีชมภูองค์ตื้อ

     วัดศรีชมภูองค์ตื้อ เป็นอีกวัดที่สำคัญอย่างมาก เพราะประดิษฐาน หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหนองคายเอาไว้นั่นเองค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน ซึ่งสร้างขึ้นมาจากฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4 เมตร ถ้าไปวัดนี้ก็ต้องไปสักการะ ไหว้ขอพรเพิ่มความสิริมงคลกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


8. วัดหินหมากเป้ง

     วัดหินหมากเป้ง เป็นอีกวัดที่มีวิวสวยๆ งามๆ ให้เราไปชมกัน เหมาะกับการไปนั่งปฏิบัติธรรม หรือมานั่งพักผ่อนจิตใจอย่างมากค่ะ และภายในวัดนั้นก็จะมีเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่เอาไว้ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร และชีวประวัติของท่านอีกด้วยเช่นกันค่ะ อึกทั้งยังมีวิวสวยๆ ริมแม่น้ำโขงให้เราได้ชมกันเพลินๆ ไปอีกด้วย

    ที่อยู่ : ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


9. วัดอรัญบรรพต

     วัดอรัญบรรพต เป็นวัดอีกแห่งที่มีทั้งวัดสวย และพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วยกัน รวมถึงยังมีเจดีย์ที่มีชื่อว่า พระสุธรรมเจดีย์ ภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้อีกด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่ก่อสร้างโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อถวายแก่หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เกจิอาจารย์ ที่มีศิษย์มากมายนั่นเองค่ะ อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนาเช่นเดียวกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -

25
คอนโดติดรถไฟฟ้า ไอ คอนโด กรีนสเปซ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ (iCondo Green Space Phatthanakan-Srinakarin)
เริ่มต้น 1.79 ลบ.

ไอ คอนโด กรีนสเปซ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ (iCondo Green Space Phatthanakan-Srinakarin)
คอนโดภายใต้แนวคิด "GREEN SPACE 4.0" มิติใหม่ของชีวิตเมืองสู่ความสมาร์ท พร้อมผสานนวัตกรรม iOT 4.0 อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยพื้นที่สีเขียวให้ชีวิตทุกวันได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก บนทำเลถนนพัฒนาการ ติด ม.เกษมบัณฑิต และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย Airport Link สถานีหัวหมาก และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการ

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             ไอ คอนโด กรีนสเปซ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ (iCondo Green Space Phatthanakan-Srinakarin)
 เจ้าของโครงการ       พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค
 แบรนด์ย่อย            ไอ คอนโด
 ราคา                   เริ่มต้น 1.79 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล          คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด        Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์     โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี       1 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี         ตั้งแต่ 24.10 ถึง 30.60 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด        5 ไร่ 5 ตร.ว.
 จำนวนตึก            2 อาคาร
 จำนวนชั้น           8 ชั้น
 จำนวนห้อง         445 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค        สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (Green Working Space, Green Lobby, Outdoor Green Space), สวนหย่อม, สนามเด็กเล่น

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน      ประเวศ, พระโขนง, สวนหลวง
 ที่ตั้ง     ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:    ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าAirport Rail Link, สถานี(สถานีปัจจุบัน)(หัวหมาก), ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สถานี(ลาดพร้าว - สำโรง)(พัฒนาการ)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
เทสโก้ โลตัส พัฒนาการ
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
โรงพยาบาลวิภาราม

26

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







27
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



28
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2024: เรียลมี realme GT6 (16GB/512GB)
24,999 บาท 

เรียลมี realme GT6 (16GB/512GB)
ชิปเซ็ต Snapdragon® 8s Gen 3 กระบวนการผลิต TSMC 4nm พร้อมความจุ 16GB+ 512GB
จอแสดงผลสว่างที่สุดในโลก¹ 6000 นิต 2160Hz PWM Dimming และ 8T LTPO 1-120Hz
กล้อง OIS Sony LYT-808 กล้อง 3 ตัว 50MP และกล้องหน้า 32MP
realme Next AI มอบประสบการณ์การใช้งานสุดทึ่ง
ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 120W แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5500mAh

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น          เรียลมี realme GT6 (16GB/512GB)
   ราคากลาง      24,999 บาท
   จำนวนซิม      2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์     จอสัมผัส
   สี               Silver(Fluid Silver), Green(Razor Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: 850/900/1800/1900)
3G(WCDMA: B1/B2/B4/B5/B6/B8/B19)
4G(LTE FDD: B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B13/B17/B18/B19/B20/B26/B28/B66)
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 162 x กว้าง 75.1 x หนา 8.6 มม., น้ำหนัก 199 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด     -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 5,500 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ          จอสัมผัส ()
   ความละเอียด   6.78 นิ้ว, 1,264 x 2,780 px

   รายละเอียดอื่น
จอแสดงผลสว่าง 6000 นิต
ขนาด: 6.78 นิ้ว (17.22 ซม.)
ความสว่าง: 1000 นิต (ปกติ) / 1600 นิต (โหมดสว่าง) / 6000 นิต (สูงสุด)
อัตราการรีเฟรชหน้าจอ: สูงสุด 120Hz
Touch Sampling Rate: สูงสุดถึง 2500Hz
อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง: 94.2%
อัตราส่วนคอนทราสต์: 5,000,000 : 1
ขอบเขตการแสดงสี: 100% DCI-P3
ความลึกของสี: 1.07 พันล้านสี
เทคโนโลยีปกป้องจอภาพ: GGV2

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                             -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)               Snapdragon? 8s Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)       ผลิตในระดับ 4 นาโนเมตร
   หน่วยความจำ (RAM)                16.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                 USB(Type-C), Bluetooth, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                      -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต              3G, WiFi, 4G, 5G

29
ผู้ปกครองอย่าถอดใจกาารจัดฟันเด็ก EF Line ใส่ยาก แต่ดีมากสำหรับเด็กเล็ก   

อย่างที่หลายๆท่านทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า ในยุคสมัยนี้มีนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ล้ำสมัย โดยมีชื่อว่า “EF Line” อุปกรณ์สำคัญในการจัดฟันในเด็กเล็ก ซึ่งได้ผลดีเกินคาด และได้รับการรองรับจากทันตแพทย์ทั่วโลกว่า เหมาะสมสำหรับเด็ก ลบความเชื่อผิดๆที่ว่าเด็กเล็กไม่ควรจัดฟันได้อย่างสิ้นเชิง

ซึ่งทางด้าน Clinic ก็ได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยนี้มาใช้ กับเด็กเล็กที่มีอาการผิดปกติทางด้านโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่เป็นต้นเหตุหลักทำให้ใบหน้าผิดรูป รวมถึงการสบฟันผิดปกติในเด็กเล็ก ไม่เว้นแม้แต่พฤติกรรมที่ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากในอนาคตอีกด้วย

แต่ก็ต้องขอบอกก่อนว่าเด็กเล็กๆ มักจะมีการต่อต้าน อุปกรณ์ทางทันตกรรม EF Line มากพอสมควร ซึ่งอยากให้ผู้ปกครองอย่าถอดใจและทำความเข้าใจในพฤติกรรม และแข็งใจให้บุตรหลานของท่านใส่ให้ได้ โดยรายละเอียดวิธีการใช้และแก้ปัญหามีดังต่อไปนี้


กฎสำคัญในการใส่ EF Line ในเด็กเล็ก

– สิ่งสำคัญที่สุดในการให้บุตรหลานของท่านใส่ EF Line คือ บุตรหลานของท่านต้องมีอายุ 4 ปี ขึ้นไป แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในอุปกรณืชิ้นนี้คือใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี

– ก่อนที่จะทำการใช้ อุปกรณ์ทันตกรรม EF Line ควรได้รับการวินิจฉัยจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อมาใส่เอง เพราะ อุปกรณ์ EF Line จะถูกผลิตขึ้นมาใหม่ทุกครั้งเพื่อรับกับช่องปากและฟันของคนนั้นเท่านั้น และจะมีการวางรูปแบบในระยะยาว จึงไม่สามารถหาซื้อมาใส่เองหรือทำกับผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษาในด้านนี้เฉพาะได้

– ในขณะที่ใช้อุปกรณ์ EF Line จะต้องอยู่ในการดูแลของทันตแพทย์อย่างใกล้ชิดโดยตลอด มาตามนัดทันตแพทย์ผู้รักษาอย่าให้ขาด เพื่อจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดนั่นเอง


คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ EF Line

ต้องขอบอกเลยว่า เด็กเล็กๆหลายๆคนมีปัญหาในการใส่ EF Line เนื่องจากว่าในขณะที่ทำการใส่แรกๆนั้น จะเกิดความไม่เคยชินเนื่องจากว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอยู่ในช่องปาก อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในบางตำแหน่ง และอาจจะเกิดบาดแผลเล็กๆได้ ซึ่งหากว่ามีบาดแผลในช่องปากให้ทำการทายาสำหรับช่องปาก ซึ่งอาจจะมีอาการเจ็บบ้างในระยะแรกๆ แต่ไม่นานแผลเหล่านั้น และอาการระคายเคืองจะหมดไปเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวตามธรรมชาติ หรือพยายามให้เด็กเล็กที่ใส่อุปกรณ์ EF Line ดื่มน้ำเยอะๆในขณะใส่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นภายในช่องปากก็สามารถลดการระคายเคืองได้ดีเช่นกัน

อีกสิ่งสำคัญที่มักจะทำให้ผู้ปกครองตกใจและให้บุตรหลานเลิกใส่นั่นก็คือ เมื่อทำการใส่ EF Line เด็กเล็กๆจะเริ่มมีอาการอยากอาเจียน บางคนถึงขั้นอาเจียนทุกครั้งเมื่อทำการใส่ ซึ่งถึงจะเป็นเช่นนั้นผู้ปกครองพยายามแข็งใจบังคับตนเองให้ใส่ EF Line ให้บุตรหลานให้ได้ เพราะ เมื่อใส่ไประยะหนึ่งจะเกิดความเคยชินและก็จะไม่เกิดอาการอยากอาเจียนอีก

หากต้องทำการใส่อุปกรณ์ทางทันตกรรม EF Line ให้เด็กเล็กๆ ผู้ปกครองควรเชื่อฟันคำแนะนำจากทันตแพทย์ ใจแข็ง ให้นึกไว้เสมอว่าหากไม่ให้บุตรหลานใส่อนาคตอาจจะต้องเสียใจเพราะบุตรหลานของท่านอาจมีฟันและโครงหน้าที่ผิดปกติและจะทำให้เกิดการรักษายากขึ้นมากตามอายุนั่นเอง


วิธีใส่ EF Line ที่ถูกต้อง

– กลางวัน

การใส่อุปกรณ์ทางทันตกรรม EF Line ในช่วงเวลากลางวัน หรือตอนตื่นนอน ควรเลือกเวลาให้ใส่ติดปากห้ามถอดออกเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งในขณะที่ใส่นี้ผู้ปกครองควรสังเกตพยายามให้บุตรหลานอยู่นิ่งๆ ไม่เอานิ้วเข้าปาก ไม่เคี้ยวอุปกรณ์เล่น ปิดปากให้สนิทไม่พูดคุยในขณะที่ทำการใส่อยู่เพื่อเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อรอบปาก


– กลางคืน

ในเวลากลางคืนนี้ถือได้ว่าไม่ยุ่งยาก เนื่องจากว่าให้ใส่ก่อนจะเข้านอน โดยต้องทำการใส่ติดปากห้ามถอดในขณะนอนหลับ เป็นระยะเวลา 10 ชั่วโมง

ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องที่ควรรู้ในการให้บุตรหลานหรือเด็กเล็กๆใส่อุปกรณ์ทางทันตกรรม EF Line โดยผู้ปกครองจะต้องใจแข็งและตั้งใจไปกับบุตรหลานของท่านด้วย เพียงเท่านี้อาการผิดปกติในช่องปากต่างๆก็จะกลับมาเป็นปกติอันรวดเร็วตามระเบียบของเด็กและผู้ปกครองด้วย



30
บริการทำความสะอาด: ทริคทำความสะอาดบ้านแบบฉับไว เอี่ยมทันใจทุกห้อง 

สำหรับแม่บ้านทุกคนคงต้องเจอปัญหาในการทำความสะอาดห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น ซึ่งแต่ละห้องก็ต้องการการดูแลที่ไม่เหมือนกัน และการที่จะทำความสะอาดให้หมดภายในวันเดียวกันก็เป็นไปได้ยากเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้จึงมีวิธีทำความสะอาดห้องต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างรวดเร็วทันใจมาฝาก ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาเป็นวัน ๆ กับการปัดกวาดเช็ดถูห้องเหล่านี้แล้วค่ะ


1. ห้องครัว

          ภายในครัวถ้าสกปรกก็คงจะทำให้การรับประทานอาหารไม่อร่อยสักเท่าไร เราจึงควรดูแลทำความสะอาดภายในครัวให้ดี ซึ่งภายในครัวก็จะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่ต้องการทำความสะอาดมากมาย ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยว่าแต่ละจุดควรทำความสะอาดแบบไหน

อ่างล้างจาน

          ทำความสะอาดอ่างล้างจานด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพราะอ่างล้างจานมีแบคทีเรียและเชื้อโรคมากมายจากคราบอาหาร ดังนั้นควรทำความสะอาดโดยนำน้ำยาฆ่าเชื้อมาเทลงในอ่าง จากนั้นนำฟองน้ำมาถูให้ทั่วอ่าง ล้างน้ำให้สะอาด ตามด้วยนำผ้ามาเช็ดให้แห้งทั่วอ่าง เท่านี้ก็สามารถกำจัดแบคทีเรียต่าง ๆ ออกไปได้

พื้นห้องครัว

          ทำความสะอาดโดยเริ่มจากการเก็บกวาดเศษสิ่งของที่อยู่ตามพื้นด้วยไม้กวาดก่อน เมื่อเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วให้เช็ดถูพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดรอบ ๆ ห้อง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกหลงเหลือ

ตู้เย็น

          สำหรับตู้เย็นที่ไม่ได้ทำความสะอาดมานานและมีคราบเกาะแน่น ให้ใช้เบกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย แล้วนำฟองน้ำมาชุบทำความสะอาดรับรองว่าคราบสกปรกภายในตู้เย็นจะหายไปอย่างแน่นอน


2. ห้องนั่งเล่น

          ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกเป็นส่วนสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมเยียน คุณคงไม่อยากให้แขกรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ทั้งรกและสกปรก ดังนั้นมาดูวิธีทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ภายในห้องนั่งเล่นกันเลยค่ะ

พื้นห้องนั่งเล่น

          เริ่มจากการเก็บของที่ตกอยู่บนพื้นให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นของเล่นของลูก ๆ หรือจะเป็นของที่คุณทำตกไว้ จากนั้นปัดฝุ่นทำความสะอาดให้ทั่วห้อง ด้วยเครื่องดูดฝุ่น เช่น บนโซฟา บนโต๊ะต่าง ๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ทำความสะอาดพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีฝุ่นผงหลงเหลืออยู่อีก

หน้าต่างห้องนั่งเล่น

          เริ่มจากการทำความสะอาดผ้าม่านด้วยเครื่องดูดฝุ่น เมื่อเสร็จแล้วให้ทำความสะอาดตามกระจกหน้าต่างด้วยน้ำยาเช็ดกระจก โดยการใช้ผ้าเช็ดให้สะอาดหรืออาจจะเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วแต่สะดวก



3. ห้องนอน

          นอกจากห้องอื่น ๆ ภายในบ้านแล้วห้องนอนคือห้องที่เราใช้เวลาอยู่ในห้องมากที่สุด ถ้าภายในห้องนอนเต็มไปด้วยฝุ่นผงต่าง ๆ ก็จะทำให้เราไม่สบาย หรือเจ็บป่วยได้ ดังนั้นควรดูแลทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมให้เรียบร้อย
 
เตียงนอน

          เริ่มด้วยการทำความสะอาดผ้าปูที่นอนด้วยการสลัดเอาฝุ่นผงต่าง ๆ บนผ้าปูที่นอนออกไป จากนั้นนำไม้กวาดมาปัดกวาดฝุ่นผงออกจากเตียงให้เรียบร้อย

 ผนังและหน้าต่างห้องนอน

          จัดการกับหยากไย่ตามผนังให้เรียบร้อยด้วยไม้กวาด จากนั้นทำความสะอาดเช็ดถูกระจกหน้าต่างด้วยน้ำยาเช็ดกระจก เช็ดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือผ้าที่ไม่ใช้แล้ว

พื้นห้องนอน

          เมื่อปัดความเช็ดถูบนเตียงและตามผนังเรียบร้อยแล้วให้ทำความสะอาดฝุ่นผงต่าง ๆ บนพื้นห้อง เช็กทำความสะอาดใต้เตียงให้แน่ใจว่า ไม่มีขยะหรือฝุ่นผงหลงเหลืออยู่ โดยการใช้ไม่กวาดมากวาดทำความสะอาดให้รอบ ๆ ห้อง หรืออาจจะใช้เครื่องดูดฝุ่น จากนั้นทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดโดยการเช็ดถูให้ทั่วห้องเท่านี้ฝุ่นต่าง ๆ ภายในห้องก็จะหมดไป และควรทำความสะอาดอย่างน้อยวันละครั้ง



4. ห้องน้ำ

          บางบ้านอาจจะไม่ให้ความสำคัญกับห้องน้ำ แต่ถ้าไม่ดูแลรักษาความสะอาดเลยห้องน้ำก็จะสกปรกและส่งกลิ่นเหม็นออกมาได้ แล้วคุณเองก็คงไม่อยากอาบน้ำทั้งที่ห้องน้ำสกปรก ดังนั้นมาดูวิธีการทำความสะอาดห้องน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้


อ่างอาบน้ำ

          เริ่มจากทำความสะอาดอ่างอาบน้ำก่อนเป็นอันดับแรก โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดขัดให้ทั่วบริเวณที่มีคราบหลงเหลืออยู่ จากนั้นค่อย ๆ ขจัดคราบตามขอบอ่างโดยใช้ฟองน้ำค่อย ๆ ขัดบริเวณที่มีคราบ ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง


พื้นห้องน้ำ

          ถ้าพื้นห้องน้ำของคุณมีคราบสกปรกที่ติดหนาแน่น ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้น โดยการใช้แปรงขัดพื้นค่อย ๆ ขัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะหมดไป ทำอย่างนี้ ซ้ำไปซ้ำมาสัก 2-3 ครั้งรับรองว่า คราบสกปรกเหล่านี้จะหมดไป จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดให้ทั่วพื้น แล้วเช็ดพื้นให้แห้ง เพื่อที่พื้นจะได้ไม่ลื่น จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้

31
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: อาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค/อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)

อาหารเป็นพิษ หมายถึง อาการท้องเดินเนื่องจากการกินอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน*

ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะอาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค ซึ่งมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรค

เชื้อโรคหลายชนิดสามารถปล่อยพิษ (toxin) ออกมาปนเปื้อนอยู่ในอาหาร เมื่อผู้ป่วยกินพิษเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการได้ บางชนิดจะปล่อยพิษหลังจากเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอาหารเข้าไปแบ่งตัวเจริญเติบโตในทางเดินอาหารแล้วผลิตพิษออกมาทำให้เกิดอาการ

มักพบว่าในหมู่คนที่กินอาหารร่วมกัน จะมีอาการพร้อมกันหลายคน ซึ่งมักมีอาการปวดบิดในท้อง อาเจียน และท้องเดิน มีอาการมากน้อยแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคลและปริมาณที่กิน


สาเหตุ

เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษ นอกจากไวรัส พยาธิไกอาร์เดีย อหิวาต์ ชิเกลลา และอะมีบาแล้ว ยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอีกหลายชนิด เช่น

1. สแตฟีโลค็อกคัสออเรียส (Staphylococcus aureus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองฝีตามผิวหนัง อาจพบปนเปื้อนอยู่ในอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม ขนมปัง เชื้อจะปล่อยพิษ (ซึ่งทนต่อความร้อน) ออกมาปนเปื้อนในอาหาร ผู้ที่กินอาหารเหล่านี้ไม่ว่าจะปรุงให้สุกหรือไม่ก็ตาม ก็จะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ โดยมีอาการอาเจียนเป็นอาการเด่น ร่วมกับปวดท้อง ท้องเดิน ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังมีอาการ

2. บาซิลลัสซีเรียส (Bacillus cereus) เชื้อนี้ปล่อยพิษในอาหาร และผลิตพิษหลังจากเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ชนิดหนึ่งปล่อยพิษ (ที่ทนต่อความร้อน) ทำให้เกิดอาการอาเจียนเป็นอาการเด่น พบปนเปื้อนในข้าว (ผู้ป่วยมีประวัติกินข้าวผัดเก่าที่นำมาอุ่นใหม่) ระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง

อีกชนิดหนึ่งปล่อยพิษทำให้เกิดอาการท้องเดินเป็นอาการเด่น พบปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ ระยะฟักตัว 8-16 ชั่วโมง

ผู้ป่วยจะไม่มีไข้และมักจะหายได้เองภายใน 12 ชั่วโมงหลังมีอาการ

3. คลอสตริเดียมเพอร์ฟรินเจนส์ (Clostridium perfringens) เชื้อนี้ปล่อยพิษในอาหาร และผลิตพิษหลังจากเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้ พบปนเปื้อนในเนื้อสัตว์และเป็ดไก่ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ (ไม่ค่อยมีอาการอาเจียน) ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 8-16 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง

4. อีโคไล (enterotoxic E.coli) พบปนเปื้อนในน้ำ เนื้อสัตว์ นม เนยแข็ง สลัด เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้แล้วผลิตพิษออกมา ทำให้เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำเป็นอาการเด่น ร่วมกับปวดท้อง อาเจียน ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 8-18 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน

5. ซัลโมเนลลา (Salmonella) เป็นแบคทีเรียสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อไทฟอยด์ แต่มักไม่ทำให้เกิดอาการทั่วร่างกายแบบไทฟอยด์ พบปนเปื้อนในเนื้อวัว เป็ด ไก่ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้แล้วผลิตพิษออกมา ทำให้มีอาการท้องเดิน มีไข้ต่ำ ๆ บางครั้งมีมูกเลือดปน ระยะฟักตัว 8-48 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 2-5 วัน บางรายอาจเรื้อรังถึง 10-14 วัน

6. วิบริโอพาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahemolyticus) เป็นเชื้อสายพันธุ์หนึ่งในตระกูลเดียวกับอหิวาต์ อาศัยอยู่ในแพลงตอนและปนเปื้อนมากับอาหารทะเล (หอยนางรม หอยแมลงภู่ กุ้ง ปู) ซึ่งเมื่อผู้ป่วยกินอาหารทะเลแบบดิบ ๆ เชื้อก็จะแบ่งตัวในลำไส้และผลิตพิษออกมา ทำให้เกิดอาการท้องเดิน อาเจียน อาจมีไข้ร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือดในเวลาต่อมา ระยะฟักตัว 8-24 ชั่วโมง (อาจนานถึง 96 ชั่วโมง) มักจะหายได้เองภายใน 3-5 วัน

นอกจากนี้ เชื้อนี้อาจเข้าทางบาดแผลที่ผิวหนังของผู้ที่ลงเล่นน้ำทะเล ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ และอาจมีโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อนในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้

7. แคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน (Campylobacter jejuni) พบปนเปื้อนในน้ำ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้เล็กและรุกล้ำเข้าไปในเยื่อบุลำไส้แล้วปล่อยพิษ ทำให้ลำไส้เล็กอักเสบ มีอาการไข้ ถ่ายเป็นน้ำ มีกลิ่นเหม็น และอาจถ่ายเป็นเลือดในเวลาต่อมา ระยะฟักตัว 3-5 วัน มักหายได้เองภายใน 5-8 วัน


อาการ

อาหารเป็นพิษจากเชื้อโรคต่าง ๆ จะมีอาการคล้าย ๆ กัน คือ ปวดท้อง ลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นฉับพลันทันทีหลังกินอาหาร หรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อหรือพิษที่เชื้อปล่อยทิ้งไว้ โดยมีระยะฟักตัวของโรค และอาการที่มีลักษณะเฉพาะ (โดดเด่น) ขึ้นกับเชื้อแต่ละชนิด (ดู "หัวข้อสาเหตุ" ด้านบนประกอบ) เช่น ถ้ามีอาการอาเจียนมาก ไม่มีไข้ และระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง ก็อาจเกิดจากสแตฟีโลค็อกคัส หรือบาซิลลัสซีเรียส

ถ้ามีไข้ร่วมด้วย และเป็นหลังจากกินอาหารทะเลดิบ ๆ ก็อาจเกิดจากวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส แต่ถ้าเป็นหลังจากกินเนื้อสัตว์หรือเป็ดไก่ ก็อาจเกิดจากซัลโมเนลลา (ระยะฟักตัว 8-48 ชั่วโมง) หรือแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน (ระยะฟักตัว 3-5 วัน)

ถ้ามีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด หรือถ่ายเป็นเลือดตามมา ก็อาจเกิดจากวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส (ระยะฟักตัว 8-24 ชั่วโมง เป็นหลังกินอาหารทะเล) หรือแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน เป็นต้น

โดยทั่วไปถ้าเป็นไม่รุนแรง อาการต่าง ๆ มักจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง บางชนิดก็อาจนานถึงสัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบได้บ่อยก็คือ ภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจรุนแรงถึงเกิดภาวะช็อกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

ในรายที่ติดเชื้อซัลโมเนลลา หากมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีอายุมากกว่า 65 ปี อาจเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้

ในรายที่ติดเชื้อวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส หากมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นโรคตับแข็ง อาจมีการติดเชื้อรุนแรง กลายโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อนได้

ในรายที่ติดเชื้อแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน อาจเกิดปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง กลายเป็นกลุ่มอาการกิลแลงบาร์เรได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรงมักตรวจพบภาวะขาดน้ำ (ดูเพิ่มเติมในหัวข้อ "ภาวะแทรกซ้อน" ด้านบน) ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาจมีภาวะช็อก ในรายที่มีอาการเล็กน้อยมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน นอกจากบางรายอาจพบว่ามีไข้

ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องนำอุจจาระ สิ่งอาเจียน อาหารและน้ำที่บริโภคไปตรวจหาเชื้อหรือสารพิษ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ผู้ป่วยงดอาหารแข็ง อาหารรสจัด และอาหารที่มีกากใย (เช่น ผัก ผลไม้) ให้กินอาหารอ่อน หรืออาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำข้าว น้ำหวานแทน

2. ให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้-พาราเซตามอล และให้สารละลายน้ำตาลเกลือแร่

3. ถ้ามีอาการถ่ายท้องหรืออาเจียนรุนแรง หรือมีภาวะขาดน้ำรุนแรง จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ และส่งอุจจาระตรวจหาเชื้อ

4. โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ ยกเว้นในรายที่เป็นรุนแรง หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ หากตรวจพบว่าเกิดจากเชื้ออีโคไล, ซัลโมเนลลา, วิบริโอพาราฮีโมไลติคัส, แคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน, อหิวาต์ หรือบิดชิเกลลา แพทย์จะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น นอร์ฟล็อกซาซิน, โอฟล็อกซาซิน, โคไตรม็อกซาโซล, อีริโทรไมซิน, กลุ่มเซฟาโลสปอริน เป็นต้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักหายเป็นปกติภายใน 24-72 ชั่วโมง บางรายอาจนาน 5-7 วัน น้อยรายที่จะมีอาการรุนแรง ซึ่งหากรักษาได้ทันการก็จะหายได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาล่าช้าไปก็จะมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจถึงขั้นเป็นอันตรายได้


การดูแลตนเอง

1. ถ้ามีอาการปวดท้องและถ่ายเป็นน้ำไม่รุนแรง ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ครั้งละ 1/2-1 ถ้วย (250 มล.) บ่อย ๆ ถ้ามีไข้ให้พาราเซตามอล*

2. ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด หรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นจัด
    ถ่ายรุนแรง อาเจียนมาก ปวดท้องรุนแรง หรือดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ได้น้อย (สังเกตพบปัสสาวะออกน้อย และมีสีเข้มอยู่เรื่อย ๆ)
    มีภาวะขาดน้ำค่อนข้างรุนแรง สังเกตพบมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ลิ้นเป็นฝ้าหนา ตาโบ๋ ปัสสาวะออกน้อย
    มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ ใจหวิวใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว

สำหรับทารก มีท่าทางซึม ไม่ร่าเริง กระหม่อมบุ๋ม

    มีไข้เกิน 3-4 วัน หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก หนังตาตก หรือพูดอ้อแอ้
    มีประวัติกินปลาปักเป้า แมงดาถ้วย คางคก เห็ด (ที่สงสัยว่าเป็นเห็ดพิษ) หรือสงสัยว่าเกิดจากการกินสารพิษ
    มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยอหิวาต์
    ดูแลตนเอง 24 ชั่วโมงแล้วไม่ทุเลา 
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ


การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารที่ไม่สด และอาหารที่ไม่สะอาด (เช่น มีแมลงวันตอม คนเตรียมอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลและเนื้อสัตว์

2. กินอาหารสุก ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด

3. หลีกเลี่ยงการกินน้ำแข็งที่ไม่สะอาด ซอส น้ำจิ้มที่ทำทิ้งไว้นาน

4. ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กทุกครั้ง

5. ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่มิดชิด

6. ผู้ที่มีบาดแผลที่ผิวหนังควรหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษที่เชื้อโรคปล่อยออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ที่ไม่สด ไม่สะอาด หรือปนเปื้อนจากมือของผู้เตรียมอาหาร ดังนั้นการบริโภคอาหารนอกบ้านต้องเลือกร้านที่มีลักษณะสะอาดและถูกสุขลักษณะ

2. โรคนี้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการไม่รุนแรง มักจะหายได้เองใน 24-72 ชั่วโมง การรักษาที่สำคัญ คือ การดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ทดแทนให้มากพอกับน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการถ่ายท้อง

ส่วนน้อยที่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง เป็นนานหลายวัน มีไข้ หรือถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือดร่วมด้วย

3. สำหรับผู้ที่มีอาการอาหารเป็นพิษ (ซึ่งอาจเป็นพร้อมกันหลายคนที่รับพิษพร้อมกัน) หากสงสัยเกิดจากสารพิษร้ายแรง (เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย พิษคางคก พิษเห็ด) หรือโบทูลิซึม หรือมีอาการทางระบบประสาท (เช่น หนังตาตก กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ชัก หมดสติ) ควรนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที


32
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างจังหวัดนครพนม บริการดีราคายุติธรรม ที่นี้ที่เดียวคะ

การที่เราจะพูดถึง รถรับจ้างจังหวัดนครพนม ดีๆสักคัน เราจะให้คำนิยามยังไง หรือต้องค้นหาผู้ให้บริการ รับจ้างขนของ ในลักษณะไหน เพื่อที่จะให้ตรงกับใจเรามากที่สุด เรารู้หรือไม่ว่า รถกระบะรับจ้าง ต่าง หรือ รถ6ล้อรับจ้าง และ รถขนของ ขนาดใหญ่ อย่าง รถ10ล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง และ รถเทรลเลอร์รับจ้าง นั้น ก็ถือว่าเป็น รถรับจ้างขนของ ทั้งสิ้นแต่ต่างกันตรงทีลักษณะของงานรับจ้างขนย้ายและขนาดที่มีความแตกต่างกัน บางครั้งเราจะเคยเห็น รถรับจ้าง หลายคันที่จอดให้บริการตามข้างถนน เรารู้สึกอย่างไร ความคิดแรกเลยก็คือ ต้องเป็นรถที่ให้บริการ รับจ้างขนของทั่วไป แน่นอนหมายถึงไม่ว่าผู้ใช้บริการจะขนย้ายอะไร เช่น ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายไซต์งานก่อสร้าง ขนย้ายเครื่องจักร สินค้าอุปโภค และ บริโภค อื่นๆ ผู้ให้บริการรายนี้ก็ยินดีให้บริการทั้งหมด ดังนั้น เป็นไปได้ไหมว่า หากเราต้องการ รถรับจ้างขนของ ที่ดีๆสักคันนั้น เราอยากให้ผู้ให้บริการ กำหนดให้เราว่า รถขนของ คันนี้สำหรับงานย้ายบ้าน รถรับจ้าง หมายเลขนี้สำหรับ รับจ้างขนย้ายทั่วไป ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง คงเป็น รถรับจ้าง ที่น่าใช้บริการเป็นอย่างมากแน่นอน

การบริการรถรับจ้างที่ครอบคลุมในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้แก่

รถรับจ้างอำเภอเมืองนครพนม

รถรับจ้างอำเภอท่าอุเทน

รถรับจ้างอำเภอธาตุพนม

รถรับจ้างอำเภอ นาแก

รถรับจ้างอำเภอ นาทม

รถรับจ้างอำเภอนาหว้า

รับจ้างขนของอำเภอบ้านแพง

รับจ้างขนของอำเภอปลาปาก

รับจ้างขนของอำเภอโพนสวรรค์

รับจ้างขนของอำเภอเรณูนคร

รับจ้างขนของอำเภอวังยาง

รับจ้างขนของอำเภอศรีสงคราม

ถ้าหากเราจะพูดถึงงาน บริการรถรับจ้าง ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเรากำลังหมายถึง รถรับจ้างจังหวัดนครพนม นั่นเอง ซึ่งเป็นรถรับจ้างขนของที่วิ่งให้บริการในเขตพื้นที่ต่างๆทั่วทั้งจังหวัด สิ่งแรกที่ผู้ใช้บริการในจังหวัดนี้นึกถึงนั่นคือ รถรับจ้างที่อำนวยความสะดวกในการ รับจ้างขนของ มีความรวดเร็วในการบริการ ติดต่อประสานงานได้ง่าย และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย และต้องตอบโจทย์ด้านงานบริการนั่นหมายถึง ต้องมีรถรับจ้างขนของและคนยกของให้บริการในทุกประเภทของรถ เช่น รถกระบะรับจ้างจังหวัดนครพนม จะต้องมีพนักงานยกสินค้าบริการลูกค้าฟรี หรือ รถหกล้อรับจ้างจังหวัดนครพนม จะต้องมีทีมงานคนยกของบริการงานต่างๆให้กับลูกค้าด้วยเช่นเดียวกัน หรืองาน รับจ้างขนย้ายของ อื่นๆที่เรายังไม่ได้กล่าวถึง ทุกการบริการของ รถรับจ้างขนของนครพนม จะต้องมีความพร้อมที่จะให้บริการที่ดีตลอด 24 ชั่วโมง

สถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากให้คุณได้ทำความรู้จักจังหวัดนครพนมมากขึ้น นั่นคือแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายซึ่งเราจะขอแนะนำสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาที่ท่องเที่ยวหรือต้องการย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ เราแนะนำว่าลองมาเที่ยวดูนะคะที่

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
อุทยานแห่งชาติภูลังกา
สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน
อุโมงค์นาคราช
วัดพระธาตุท่าอุเทน
ทำไมถึงต้องรักในงานบริการ งานรับจ้างขนของมากขนดนั้น?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า เราเติบโตและเรียนรู้จากการที่เราเป็นผู้ใช้บริการมาก่อน แต่ด้วยความที่มีใจรักในงานบริการอยู่แล้ว จึงเกิดความคิดในวันที่เราเรียกใช้บริการ รถรับจ้างนครพนม ในวันนั้น ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้เราคิดว่า เราอยากได้ รถรับจ้างขนของ ที่ติดต่อง่าย พูดจาดี บริการดี มีความเป็นกันเอง และที่สำคัญคือ ต้องดูแลสินค้าของเราเปรียบเสมือนสินค้าของตัวเอง นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญมากๆ บางครั้งเคยได้ยินลูกค้าหลายท่านได้บ่นถึงงานบริการรถรับจ้างมากมายทั้งในด้านดีและในด้านลบ ด้วยในหัวใจที่รักงานบริการรถรับจ้าง อย่างเรารู้สึกว่า ทำไมลูกค้าต้องไปเจอแบบนั้น ดังนั้นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้เราตั้งนโยบายในการให้บริการ รถรับจ้างขนของนครพนม ให้แก่ลูกค้าว่า งานบริการของขนส่ง จะต้องดีและดีจริง และพัฒนางานบริการให้มาตอบโจทย์ลูกค้าอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

ตลอดระยะเวลาในการให้ บริการรับจ้าง จากทีมงานขนส่ง ทุกคนและคนในพื้นที่จะรู้ดีว่า งานบริการรับจ้างขนของ ของที่นี่บริการได้ดีและประทับใจจริงๆ ไม่มีเอาเปรียบลูกค้า มีความซื่อสัตย์ มีความปลอดภัยในทรัพย์สินที่ทำการขนย้ายกับเรา มายาวนานกว่า 15 ปี และเป็นที่รู้จักของคนในจังหวด ไม่ว่าจะเป็น รถรับจ้างขนของ ชนิดต่างๆ รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนย้ายบ้านนครพนม รถสิบล้อรับจ้าง และ รถรับจ้างทั่วไป ในขนาดต่างๆอีกมากมาย ทำให้ลูกค้าให้ความเชื่อใจและไว้วางใจเราเป็นอย่างดีเรื่อยมา และ งานบริการรถรับจ้างขนของจังหวัดนครพนม ของที่นี่ไม่ได้ให้บริการเพียงแค่ภายในจังหวัดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังให้บริการ รับจ้างขนย้ายของ ไปยังจังหวัดต่างอื่นๆอีกมากมายทั่วประเทศ


เพียงเท่านี้ท่านก็จะได้รถรับจ้างที่ให้บริการดีๆมาคอยให้บริการ รับจ้างขนของแก่ท่านอย่างแน่นอน หรือหากท่านใดที่ต้องการติดต่อประสานงาน พูดคุยรายละเอียด ขอราคาพิเศษ ที่ไม่เกินงบประมาณในการจ่ายขนของในรอบนี้ ท่านก็สามารถที่จะโทรหาเข้ามาที่ เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการได้ทันทีที่เบอร์


ขอขอบคุณลูกค้าทุท่านที่ให้เราได้มีโอกาสได้รับใช้ท่าน กว่าระยะเวลามา 15 ปี เรายินดีเป็นอย่างมาก และ รถรับจ้างจังหวัดนครพนม ของเรามีความตั้งใจจริงที่จะบริหารงาน รับจ้างขนของ ให้กับลูกค้าให้ดีเลิศที่สุด เรากล้าการันตี ในงานบริการของเรา เพราะเราคือตัวจริงด้านรถรับจ้าง ขอบคุณทุกท่านเป้นอย่างสูง ขอให้ลูกค้าทุกท่านประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆเงินทองและลาภยศตลอดปีและตลอด

33
หมอประจำบ้าน: กินสารพิษหรือยาพิษ (Ingestion of poisons)

สารพิษหรือยาพิษ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการกินที่พบบ่อย ๆ ได้แก่

1. ยา เช่น ยาที่ใช้ภายนอก (ทิงเจอร์ไอโอดีน ด่างทับทิม) ยาแก้ปวด (แอสไพริน พาราเซตามอล) ยานอนหลับ ยาถ่าย ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น

ยาพวกนี้ถ้ากินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นพิษได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก

2. วัตถุเคมีที่ใช้ในบ้าน เช่น ผงซักฟอก น้ำยาขัดพื้น แลกเกอร์ ทินเนอร์ น้ำมันก๊าด ดีดีที เป็นต้น

3. สารเคมีที่ใช้ในทางเกษตรกรรม เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช เป็นต้น

4. ยาพิษที่ใช้เบื่อสัตว์ เช่น ยาเบื่อหนูหรือสุนัข

5. สัตว์หรือพืชพิษ อ่านเพิ่มเติมใน พิษปลาปักเป้า พิษแมงดาถ้วย, พิษปลาทะเล, พิษหอยทะเล, พิษคางคก และพิษเห็ด

สาเหตุ

เด็กบางคนอาจกินสารพิษเพราะความไม่รู้ภาษาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ดื่มน้ำมันก๊าด หรือกินยาเม็ดที่มีสีสันสวย ๆ หรือกินยาน้ำที่ออกรสหวาน เป็นต้น

ผู้ใหญ่อาจกินสารพิษเพราะความเผอเรอ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจที่จะฆ่าตัวตายได้


อาการ

อาการขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษ และระยะเวลาที่กิน

ในที่นี้จะกล่าวถึงสารเคมีที่อาจพบได้บ่อยเพียงบางชนิดเท่านั้น เช่น

ยานอนหลับกลุ่มบาร์บิทูเรต ถ้ากินเกินขนาดมาก ๆ จะทำให้ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว หายใจตื้นและช้า เหงื่อออก ตัวเย็น ตัวเขียว รูม่านตาโตและไม่หดเมื่อถูกแสง หมดสติ และตายในที่สุด

แอสไพริน ถ้ากินขนาดมาก ๆ ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด (acidosis) จะมีอาการหายใจหอบลึก หน้าแดง ไข้สูง ปวดท้อง อาเจียน มีภาวะขาดน้ำ มีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ ชัก และหมดสติถึงตายได้

พาราเซตามอล ถ้ากินในขนาดมากกว่า 140 มก./กก. จะทำให้ตับถูกทำลายภายใน 24-48 ชั่วโมง เกิดภาวะตับแข็งหรือตับวายเฉียบพลันได้

ไอโอดีน (เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีนที่ใช้ใส่แผล) ทำให้ปากคอและหลอดอาหารไหม้และเจ็บ อาเจียนออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำเงิน กระหายน้ำ ท้องเดิน (อาจถ่ายเป็นเลือด) อ่อนเพลีย วิงเวียน เป็นลม และชัก

ด่างทับทิม ถ้ากินเกล็ดหรือน้ำด่างทับทิมเข้มข้นจะทำให้กัดเนื้อเยื่อในปาก กล่องเสียงบวม ชีพจรเต้นช้าและช็อก

เมนทอลหรือยูคาลิปตัส ทำให้อาเจียน ท้องเดิน หายใจตื้น ปัสสาวะเป็นเลือด ชัก และหมดสติ

กรดบอริก (boric acid) ทำให้มีไข้ขึ้น อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นมูกเลือด หน้าแดง ซึม ชัก ตัวเหลือง ตัวเขียว ไตถูกทำลาย ความดันโลหิตต่ำ หมดสติ ถึงตายได้

ผงซักฟอก อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ถ้ามีส่วนผสมของด่าง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

น้ำมันก๊าด เบนซิน ทินเนอร์ ทำให้อาเจียน ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) วิงเวียน ชีพจรเบาและเต้นไม่สม่ำเสมอ ชัก ถ้าสำลักเข้าไปในปอดอาจทำให้ปอดอักเสบ

อาการเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการปวดศีรษะ ซึม ตามัว มือเย็นและชา อ่อนเพลีย ความจำเสื่อมใจสั่น ความคิดสับสน ซีด เจ็บในปาก

สารพวกฟีนอล (phenol) เช่น กรดคาร์บอลิก (carbolic acid) เครซอล (cresol มีชื่อการค้า เช่น Lysol) เฮกซาคลอโรฟีน (hexachlorophene) เป็นต้น พวกนี้เป็นกรดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะออกน้อย กล้ามเนื้อชักเกร็ง ช็อก และการหายใจล้มเหลว

ฟอสฟอรัส (inorganic phosphorus) ซึ่งมีอยู่ในหัวไม้ขีดไฟ ทำให้เจ็บในปากและลำคอ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง ดีซ่าน ปัสสาวะออกน้อย มีจุดแดงขึ้นตามผิวหนังและช็อก

ดีดีที จะทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดตามแขนขา กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อกระตุก ชัก และหมดสติ

ยาฆ่าแมลงประเภทออร์แกโนฟอสเฟต (organophosphate) เช่น พาราไทออน (parathion) มาลาไทออน (malathion) คาร์บาเมต (carbamate) เป็นต้น

มักมีอาการภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังกิน ด้วยอาการปวดศีรษะ เหงื่อออก น้ำลายฟูมปาก น้ำตาไหล อาเจียน ท้องเดิน กล้ามเนื้อเต้นกระตุก ชัก หอบ ตาลาย รูม่านตาหดเล็ก และอาจตายภายในเวลารวดเร็ว

พาราควอต (paraquat) ซึ่งมียาปราบวัชพืช ทำให้เกิดอาการชัก ปอดบวมน้ำ ตับวาย ไตวาย หัวใจวาย ภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงหลายวัน ในที่สุดจะมีอาการระบบหายใจล้มเหลว เนื่องจากเกิดเยื่อพังผืดในปอด

ถ้าขนาดเข้มข้น อาจกัดเยื่อบุหลอดอาหาร ทำให้ริมฝีปากและลำคอไหม้พองและเป็นแผล อาจทำให้หลอดอาหารเป็นแผลทะลุ

ผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากภาวะช็อกจากหัวใจ (cardiogenic shock) และอวัยวะหลายระบบล้มเหลวภายใน 1-4 วัน

สตริกนิน (strychnine) ซึ่งมักทำเป็นยาเบื่อสุนัข ทำให้เกิดอาการชัก หลังแอ่น หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก และขาดออกซิเจน

ไซยาไนด์ (cyanides) ซึ่งอาจมีอยู่ในยาเบื่อหนู จะทำให้ตัวเขียว หายใจลำบาก ความดันเลือดตก ถึงตายได้รวดเร็ว

สารปรอท ทำให้มีอาการน้ำลายฟูมปาก กระหายน้ำ ปวดแสบปวดร้อนในปากและลำคอ เยื่อบุในช่องปากบวมและเปลี่ยนสี ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นเลือด ไม่มีปัสสาวะออก เเละช็อก

ถ้าเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการอ่อนเพลีย เดินเซ มือสั่น ซึมเศร้า เป็นตะคริว

สารหนู (arsenic) อาการมักเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังกิน (บางรายอาจนานถึง 12 ชั่วโมง) มีอาการปวดท้อง กลืนลำบาก อาเจียนติด ๆ กัน ท้องเดิน เป็นตะคริว ต่อมาจะรู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรง และช็อก

เมทิลแอลกอฮอล์ (methyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้จุดไฟ (เป็นคนละชนิดกับเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งทำเป็นเหล้า เบียร์) เมื่อกินเข้าไปอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง จุกแน่น คลื่นไส้ อาเจียน และตาบอด (เพราะประสาทตาถูกทำลาย) ผู้ป่วยอาจมีอาการตัวเขียว ชัก และหมดสติ

กรดหรือด่างอย่างแรง ทำให้ผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหารถูกกัดไหม้และอักเสบ มีอาการเจ็บในปากและลำคอ กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด กลืนลำบาก หายใจลำบาก ช็อก

บางรายอาจมีการแตกทะลุของหลอดอาหารและกระเพาะ ทำให้กลายเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือหลอดอาหารเกิดการตีบตันจากการอักเสบได้


ภาวะแทรกซ้อน

ขึ้นกับชนิดของสารพิษ สารพิษร้ายแรงอาจมีผลต่อระบบประสาทและสมอง (ทำให้ชัก หมดสติ อัมพาต) ระบบเลือด (เลือดออก โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดเลือดขาว) ทางเดินหายใจ (ปอดอักเสบ) ตับ (ตับอักเสบ ตับแข็ง) ทางเดินอาหาร (ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน) หรืออื่น ๆ บางชนิดอาจระคายเคือง (กัด) ต่อผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหาร เช่น สารที่เป็นกรดหรือด่างอย่างแรง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ สิ่งตรวจพบ และประวัติการสัมผัสสารพิษ


การรักษาโดยแพทย์

เมื่อผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน และให้กินผงถ่านกัมมันต์เช่นเดียวกับที่แนะนำไว้ในเรื่องการปฐมพยาบาล (อ่านเพิ่มเติมที่ "การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ" ในหัวข้อ การดูแลตนเอง ด้านล่าง)

2. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ ห้ามทำในรายที่หมดสติ ชัก หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด เบนซิน หรือทินเนอร์

3. ให้การรักษาตามอาการ เช่น

    ถ้ามีภาวะขาดน้ำ ช็อกหรือหมดสติ ให้น้ำเกลือ
    ถ้าหายใจลำบากหรือตัวเขียว ให้ออกซิเจนและอาจต้องเจาะคอช่วยหายใจ ในรายที่กินพาราควอต ไม่ควรให้ออกซิเจน นอกเสียจากผู้ป่วยมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง เพราะออกซิเจนส่งเสริมให้เกิดภาวะเป็นพิษจากพาราควอต
    ถ้ามีภาวะปอดบวมน้ำ (ผู้ป่วยมีอาการหอบและฟังปอดมีเสียงกรอบแกรบ) ให้ฉีดฟูโรซีไมด์ 1-2 หลอด เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้าชัก ฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก. เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้ามีภาวะเลือดเป็นกรด ฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนต
    ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)
    ถ้ามีการติดเชื้อ เช่น ปอดอักเสบ ให้ยาปฏิชีวนะ


4. ให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น

    ถ้าเกิดจากยาฆ่าแมลงประเภทออร์เเกโนฟอสเฟต (ผู้ป่วยจะมีรูม่านตาหดเล็กทั้ง 2 ข้าง) แพทย์จะฉีดอะโทรพีนเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าหลอดเลือดดำทุก 5-10 นาที จนกระทั่งรูม่านตาขยาย และมีอาการคอแห้ง หลังจากนั้นให้ยาต้านพิษ ได้แก่ พราลิดอกไซม์ (pralidoxime) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ ถ้าอาการหายใจยังไม่ดีขึ้นให้ฉีดซ้ำได้ในอีก 30 นาทีต่อมา (สำหรับผู้ป่วยที่กินคาร์บาเมตไม่จำเป็นต้องให้พราลิดอกไซม์)
    ถ้าเกิดจากสารหนู ให้ยาต้านพิษได้แก่ ไดเมอร์เเคปรอล (dimercaprol) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    ถ้าเกิดจากดีดีที นอกจากสวนล้างกระเพาะด้วยน้ำอุ่นแล้ว ควรให้กินยาระบาย ได้แก่ โซเดียมซัลเฟต (sodium sulfate) ขนาด 30 กรัมในน้ำ 200 มล. และให้กินฟีโนบาร์บิทาลเพื่อสงบประสาท
    ถ้าเกิดจากการกินพาราเซตามอลเกินขนาด ให้อะเซทิลซิสเตอีนกินหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ


การรักษาขั้นพื้นฐาน (ที่สถานพยาบาล) สำหรับผู้ป่วยที่กินสัตว์หรือพืชพิษ

1. ถ้าผู้ป่วยกินสัตว์หรือพืชพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และยังไม่อาเจียน รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนด้วยการให้ไอพีเเคกน้ำเชื่อมหรือใช้นิ้วล้วงคอ

2. ให้ผู้ป่วยกินผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1 แก้ว โดยให้ผู้ป่วยดื่มเอง ถ้าอาเจียนหรือดื่มเองไม่ได้ ให้ป้อนผ่านท่อสวนกระเพาะ (stomach tube) ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ควรใส่ท่อช่วยหายใจก่อนเพื่อป้องกันการสำลัก

ควรให้เร็วที่สุดเมื่อพบผู้ป่วย (วิธีนี้จะได้ผลมากที่สุดเมื่อให้กินภายใน 30 นาทีหลังกินสัตว์หรือพืชพิษ) ไม่ควรให้ก่อนหรือหลังให้ยาที่ทำให้อาเจียน

ในรายที่รับพิษร้ายเเรง เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย เห็ดพิษร้ายแรง หรือสงสัยรับพิษปริมาณมาก ควรให้ซ้ำทุก 4 ชั่วโมง

3. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ

วิธีนี้จะได้ผลดีเมื่อผู้ป่วยกินสารพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และไม่มีอาการอาเจียน ถ้าทำหลังกินสารพิษมากกว่า 4 ชั่วโมง อาจไม่ได้ประโยชน์และไม่คุ้มกับผลข้างเคียง (ที่สำคัญคือการสำลักเข้าปอดทำให้ปอดอักเสบ)

ควรกระทำโดยบุคลากรที่ชำนาญ และในที่ที่มีความพร้อม

ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนมาก และห้ามทำในผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัว หมดสติ

อาจให้ผงถ่านกัมมันต์กินก่อนล้างกระเพาะ หรือผสมผงถ่านกัมมันต์ในน้ำล้างกระเพาะก็ได้

4. ให้ผู้ป่วยดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนต ขนาด 2-5% จำนวน 50 มล.

5. ให้กินยาระบาย ซอร์บิทอล (sorbitol) ขนาด 70% อาจกินเดี่ยว ๆ หรือผสมกับผงถ่านกัมมันต์แทนน้ำก็ได้ ถ้าไม่มีอาจให้ยาระบายอื่น ๆ เช่น ยาระบายแมกนีเซีย (Milk of Magnesia) แทน ให้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง

ห้ามทำ ในรายที่มีอาการถ่ายท้องมากอยู่แล้ว หรือมีภาวะขาดน้ำที่ยังไม่ได้รับการทดแทน

6. ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

7. ถ้าชักฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก.เข้าหลอดเลือดดำ

8. ถ้าหยุดหายใจหรือหายใจไม่ได้ ให้ทำการช่วยเหลือด้วยการเป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ

9. ถ้าหมดสติ ให้การรักษาแบบหมดสติ


การดูแลตนเอง

หากสงสัยว่าผู้ป่วยกินสารพิษหรือยาพิษ ควรทำการปฐมพยาบาล แล้วรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เพื่อขับพิษออก

    ถ้ามียากระตุ้นอาเจียน ได้แก่ ไอพีแคกน้ำเชื่อม (syrup ipecac) ให้กินครั้งละ 15-30 มล. (เด็กโต 15 มล.) และดื่มน้ำตามไป 1 แก้ว ถ้ายังไม่อาเจียนใน 20 นาที กินซ้ำได้อีก 1 ครั้ง
    ถ้าไม่มียา ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วใช้นิ้วล้วงเข้าไปเขี่ยที่ผนังลำคอกระตุ้นให้อาเจียน ถ้าไม่ได้ผลทำซ้ำอีกครั้ง

ควรเก็บเศษอาหารที่อาเจียน ไว้ส่งตรวจวิเคราะห์

วิธีนี้จะได้ผลดี ต้องรีบทำภายใน 1 ชั่วโมงหลังกินสารพิษ และไม่ต้องทำหากผู้ป่วยมีอาการอาเจียนเองอยู่แล้ว

ห้ามทำ ในผู้ป่วยที่ชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์ หรือสารพิษไม่ทราบชนิด

2. ถ้ามีผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ให้กินขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1/2-1 แก้ว เพื่อลดการดูดซึมสารพิษเข้าร่างกาย (ไม่ต้องทำถ้าผู้ป่วยกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์)

ถ้าไม่มีผงถ่านกัมมันต์ ให้กินไข่ดิบ 5-10 ฟอง หรือดื่มนมหรือน้ำ 4-5 แก้ว

3. สำหรับผู้ป่วยที่กินพาราควอต ให้กินสารละลายดินเหนียว (Fuller’s earth) โดยผสมผงดินเหนียว 150 กรัม หรือ 2 1/2 กระป๋อง ในน้ำ 1 ลิตร ถ้าไม่มีให้ดื่มน้ำโคลนดินเหนียวจากท้องร่องในสวน (ที่ไม่มีตะปูหรือเศษแก้ว หรือสารพิษตกค้าง) ซึ่งจะลดพิษของยานี้ได้

4. สำหรับผู้ที่กินปลาปักเป้า แมงดาถ้วย ปลาทะเลพิษ หอยทะเลพิษ เห็ดพิษ ให้ดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนตขนาด 2-5% จำนวน 50 มล. (อาจเตรียมโดยผสมผงฟู 1-2.5 กรัม ในน้ำ 50 มล.) ซึ่งจะช่วยลดพิษของอาหารพิษได้

ห้ามทำ ข้อ 2-4 ถ้าผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ

5. ถ้าผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำ ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

6. ถ้าผู้ป่วยชักหรือหมดสติ ให้ทำการปฐมพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยชัก (อ่านใน "โรคลมชัก" เพิ่มเติม) หรือหมดสติ (อ่านใน "อาการหมดสติ" เพิ่มเติม)

7. รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ควรนำสารพิษที่ผู้ป่วยกินหรืออาเจียนออกมาไปให้แพทย์ตรวจวิเคราะห์ด้วย


การป้องกัน

1. ควรป้องกันมิให้เด็กหยิบยาหรือสารเคมีกินเอง โดยเก็บยาและสารเคมีให้มิดชิด หรือไว้ในที่สูงเกินกว่าเด็กจะหยิบถึง

2. ควรป้องกันการหยิบยาผิด หรือกินถูกสารพิษด้วยความเผอเรอ โดย

    เก็บยาไว้ในที่มิดชิด หรือไว้ในตู้ยาที่เด็กหยิบเองไม่ได้
    เขียนฉลากยาให้ชัดเจน
    สารเคมีที่มีพิษควรเก็บไว้เป็นที่เฉพาะ และปิดให้มิดชิด อย่าปะปนกับอาหารที่กิน หรือวางอยู่ในตู้กับข้าว

ข้อแนะนำ

1. ผลการรักษาขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ สภาพของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค

ถ้าหากได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็มีโอกาสรอดได้

2. ผู้ที่ได้รับสารพิษมักมีอาการแสดงภายใน 36 ชั่วโมง ถ้าหลัง 36 ชั่วโมงไปแล้วยังไม่มีปรากฏอาการก็ถือว่าปลอดภัย

34
รถไฟฟ้า ev ปอร์เช่ Porsche Macan 4 ปี 2024
5,390,000 บาท 

ปอร์เช่ Porsche Macan 4 ปี 2024
Porsche Macan 4 ยนตรกรรมสปอร์ต SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 จะผลิตกำลังโอเวอร์บูสต์ได้สูงถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 5.2 วินาที และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ใต้ท้องรถ โดยมีความจุรวม 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถรองรับการชาร์จไฟกระแสตรง (DC) สูงถึง 270 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณ 21 นาที


สนใจรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่โชว์รูม และศูนย์บริการของ ปอร์เช่ประเทศไทย โดย เอเอเอสกรุ๊ป ได้ทั้ง 4 สาขา Porsche Centre Bangkok โทร 02-522-6655, Porsche Centre Pattanakarn โทร 02-369-1111, Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 โทร 02-610-9911 และ Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร 02-288-0911

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             Porsche
   รุ่น                  ปอร์เช่ Porsche Macan 4 ปี 2024
   ประเภทรถ          รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว           2024
   ราคา                5,390,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (เสกิร์ตข้าง,ดิฟฟิวเซอร์หลัง)
สปอยเลอร์หลัง (ปรับได้)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
กระจกกรองแสง
ไฟตัดหมอก
ระบบไล่ฝ้ากระจกหน้าต่าง
ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
ราวหลังคา (ดำ)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (LED Matrix)
ไฟ Daytime Running Lights (four-point daytime running lights)
ล้ออัลลอย (22)

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ
ระบบนำทาง (Navigator)
ตกแต่งภายใน (หนังแท้สลับโครมเมี่ยม)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีเทา
กระจกมองหลังตัดแสง
หัวเกียร์หุ้มหนัง

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีความเร็วสูงสุดที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   แรงม้า
   ระบบเกียร์                     เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                 Single-Speed transmission
   ระบบเบรค ABS            มี
   ชนิดแบตเตอรี่              ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่             100 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง        613 กม. (WLTP)
   น้ำหนักตัวรถ                          -
   ประเภทยางรถยนต์                   -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                      ล้ออัลลอย (22)
   ระบบขับเคลื่อน                     ขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ระบบรักษาเสถียรภาพของรถ Porsche Stability Management (PSM))
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ (พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีดำ)
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
กุญแจรีโมท
กุญแจนิรภัย
ล็อคประตูอัตโนมัติ
ไฟเบรกดวงที่ 3
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ
ระบบแจ้งอุปกรณ์ทำงานขัดข้อง
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
หลอดไฟพิเศษระบบ Daytime Running Lights(DRL)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPM),ระบบช่วยจอด (หน้าและหลัง) พร้อมกล้องถอยหลัง, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยทางแยก)
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก

35
จัดฟันบางนา: ข้อควรระวังสำหรับเด็ก ในการใช้น้ำยาบ้วนปาก

การใช้น้ำยาบ้วนปาก เป็นการทำความสะอาดฟันอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้คุณทำความสะอาดช่องปากและฟันได้สะอาดมากยิ่งขึ้น แต่การใช้น้ำยาบ้วนปากไม่สามารถทดแทนการทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ เพราะการบ้วนปากเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างตามซอกเหงือกซอกฟันทั้งหมดได้นั่นเอง ดังนั้น  น้ำยาบ้วนปากจึงมีหน้าที่ช่วยลดเชื้อโรคภายในปากบางส่วน ระงับกลิ่นปากชั่วคราว และทำให้ปากสดชื่นจากกลิ่นของน้ำยาบ้วนปากเท่านั้น


หากมั่นใจว่าทำความสะอาดช่องปากและฟันได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปาก การใช้น้ำยาบ้วนปาก เด็กก็สามารถใช้ได้ บางครั้งบุตรหลานของท่านอาจจะชอบรับประทานของหวาน ซึ่งการใช้น้ำยาบ้วนปากก็จะช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาบ้วนปากแบบทั่วไป สำหรับผู้ใหญ่อาจจะแรงเกินไป เด็กจึงไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้น หากจะให้บุตรหลานของท่านใช้น้ำยาบ้วนปาก ควรหาซื้อน้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็กโดยเฉพาะ แต่การใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็กก็ต้องระมัดระวังเช่นเดียวกัน วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงข้อควรระวังสำหรับเด็กในการใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อเป็นแนวทางในการระมัดระวังในการใช้น้ำยาบ้วนปากในบุตรหลานของท่าน


หลายคนคงสงสัยว่า ลูกน้อยหรือบุตรหลานของท่านควรใช้น้ำยาบ้วนปากในอายุเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่าน มีความสำคัญตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่การใช้น้ำยาบ้วนปากร่วมกันการทำความสะอาดช่องปากและฟันก็มีประโยชน์ต่อช่องปาก แต่สำหรับเด็กต่ำกว่า 6 ปี อาจจะยังไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะอาจจะมีความเสี่ยงต่อการกลืนน้ำยาบ้วนปากได้ อีกทั้งบางยี่ห้อมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หากบุตรหลานเผลอกลืนลงไปจะเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ได้ เพราะฉะนั้น จะต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ


แต่สำหรับเด็กที่มีอายุตั้ง 6 ปีขึ้นไปสามารถบ้วนน้ำทิ้งได้แล้วและทันตแพทย์ลงความเห็นว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุจึงควรใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันพุในอนาคต ก็สามารถช่วยน้ำยาบ้วนปากได้แล้ว เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนของผสมฟลูออไรด์ ควรใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และควรอ่านส่วนผสมให้แน่ใจว่าเป็นชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน และการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ถูกต้อง จะต้องกลั้วให้ทั่วปาก 1 นาที แล้วจึงบ้วนทิ้งเพื่อประสิทธิภาพที่ได้ผลไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารหลังจากบ้วนปากแล้วอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง


สำหรับข้อควรระวังในการใช้น้ำยาบ้วนปาก สำหรับเด็กอย่างที่กล่าวไปข้างต้น คือน้ำยาบ้วนปากไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เพราะเด็กอาจจะกลืนเข้าไปและเกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน หรือเกิดการเป็นพิษขึ้นได้ โดยเฉพาะหากเด็กกลืนน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงมาก ๆ เด็กอาจมีอาการล้มฟุบลงไปและไม่ตอบสนองได้ และเพื่อป้องกันเด็กเล็กกินน้ำยาบ้วนปากจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ผู้ปกครองควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาป้องกันไว้ ในเด็กเล็กสามารถหัดให้ใช้น้ำยาบ้วนปากได้ก็ต่อเมื่อเด็กรู้จักการบ้วนออกมา ทางที่ดีควรรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ รวมไปถึงอ่านข้อควรระวังและคำแนะนำของน้ำยาบ้วนปากให้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในการใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือทางที่ดีระหว่างการใช้น้ำยาบ้วนปาก ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำและสังเกตวิธีการใช้น้ำยาบ้วนปากให้บุตรหลานของท่านด้วย ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนรวมไปถึงบุตรหลานของท่านได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้รู้จักการทำความสะอาดอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช่องปากในอนาคตได้

36
townhouse พฤกษาวิลล์ เลียบคลองทวีวัฒนา (Pruksa Ville Leabklong Taweewattana)
เริ่มต้น 2.69 ลบ. 

พฤกษาวิลล์ เลียบคลองทวีวัฒนา (Pruksa Ville Leabklong Taweewattana)
ทาวน์โฮมรองรับชีวิตเมืองที่ผสมผสานวันทำงานและวันพักผ่อนให้ลงตัว ออกแบบตามแนวคิด Zen บรรจงรังสรรค์ด้วยความประณีต พร้อมผ่านการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียดแต่เรียบง่ายท่ามกลางบรรยากาศส่วนตัว ด้วยทำเลที่สะดวกใกล้ใจกลางเมืองไปไหนก็สะดวก

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ            พฤกษาวิลล์ เลียบคลองทวีวัฒนา (Pruksa Ville Leabklong Taweewattana)
 เจ้าของโครงการ      พฤกษา เรียลเอสเตท
 แบรนด์ย่อย           พฤกษาวิลล์
 ราคา                  เริ่มต้น 2.69 ลบ.

 ประเภทบ้าน          ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล         บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ        43 ไร่ 3 งาน 87 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน           493 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด      2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          ตั้งแต่ 18.7 ถึง 22.5 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 120 ถึง 140 ตร.ม.
 จำนวนชั้น          2 ชั้น
 หน้ากว้าง         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน   4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ   ตั้งแแต่ 1 ถึง 2 คัน
 สาธารณูปโภค    สวนสาธารณะ, CCTV, อื่นๆ (ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., Auto Access Card, ระบบประตูล็อก 2 ชั้น)

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน          บางแค, ตลิ่งชัน, ทวีวัฒนา, ภาษีเจริญ
 ที่ตั้ง         ถ.ทวีวัฒนา แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สถานี(บางแค - พุทธมณฑล)(พุทธมณฑลสาย 4)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถ.เพชรเกษม, ถ.บรมราชชนนี, ถ.กาญจนาภิเษก)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
บิ๊กซี เพชรเกษม
โฮมโปร เพชรเกษม
เดอะมอลลล์บางแค
รพ.ศรีวิชัย 2
ม.ธนบุรี
รพ.มหาชัย 2
สนามหลวง 2

37
ทำบุญ วัดดัง กรุงเทพ เสริมดวง แก้ชง    

ไหว้พระทำบุญเสริมดวงกันหน่อย ใครอยู่กรุงเทพอยากทำบุญ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน สุขภาพ ความรัก เป็นมงคลต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่ ไปด้วยกันรวบรวมวัดสวยในกรุงเทพมาให้เดินสายทำบุญ พร้อมไปกับการได้เที่ยวถ่ายรูปเก๋ๆ กลับบ้านด้วย มีวัดไหนน่าสนใจบ้างมาชมกัน

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว วัดสำคัญที่งดงามของกรุงเทพมหานคร ประดิษฐานพระแก้วมรกต ที่รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระบรมมหาราชวังและกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็น การสร้างวัดในพระราชวังตามอย่างวัด พระศรีสรรเพชญ์องกรุงศรีอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระแก้ว มีทั้ง พระอุโบสถ ปราสาทพระเทพบิดร พระศรีรัตนเจดีย์ พระอัษฏามหาเจดีย์ พระอัษฏามหาเจดีย์ ยักษ์ทวารบาล ที่แต่ละจุดมีสถาปัตยกรรมที่อ่อนช้อยงดงามกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมทั้งคนไทยรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

วัดพระเชตุพน ฯ

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ รัชกาลที่ 1 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 เมื่อก่อนเราอาจรู้จักวัดโพธิ์ในเรื่องของชื่อเสียงในเรื่องนวดแผนไทย หรือว่ายักษ์วัดโพธิ์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การถ่ายภาพชิคๆ แนวๆ เริ่มเข้ามาในโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้การเที่ยววัดเริ่มต่างไปจากเดิม จากที่มีวัตถุประสงค์แค่ไปไหว้พระ ทำบุญ ก็เพิ่มการถ่ายภาพพอร์ตเทรต แต่งตัวเลิศๆถ่ายภาพกับวัดในมุมสวยๆเข้ามาด้วย เรียกว่าช่วยเพิ่มมีสีสันให้การเที่ยววัดเป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น โดยเฉพาะวัดโพธิ์ นั้น มีมุมถ่ายภาพสวยเยอะมากเลยทีเดียว

วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมน้ำเจ้าพระยา ถือเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หลังจากที่มีการปฎิสังขรณ์ วัดอรุณราชวราราม ในรูปโฉมใหม่ ที่ได้ดำเนินการบูรณะพระปรางค์ครั้งใหญ่ ขณะนี้ได้ทำการบูรณะเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นวัดอรุณสีขาวประดับด้วยลวดลายกระเบื้องสีสันสวยงาม จนกลายเป็นที่ฮือฮาจนหลายคนต่างมาเก็บภาพความงามของวัดอรุณกันอย่างไม่ขาดสาย

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หรือนิยมเรียกสั้นว่า วัดราชบพิธ วัดประจำรัชกาลที่ 5 และ 7 ตั้งอยู่บนถนนเฟื่องนคร เป็นวัดที่มีผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในโบสถ์ออกแบบตกแต่งแบบตะวันตก ความโดดเด่นของวัดราชบพิธ คือ พระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และระเบียงแก้ว มีลายไทยลงรักประดับมุกที่วิจิตรสวยงาม บางส่วนตกแต่งด้วยลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ พระเจดีย์ประดับกระเบื้องเคลือบทรงระฆัง เป็นเจดีย์ประธานองค์สุดท้าย ที่สร้างขึ้นตามแบบแผนประเพณีนิยมที่ทำกันมาแต่โบราณ

วัดเบญจมบพิตรฯ

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต ไม่ไกลจาก พระบรมรูปทรงม้า เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้น โดยมีสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้างด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณมีความวิจิตรงดงามและเป็นระเบียบ ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการวางแปลนแผนผังที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง ทั้งยังประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในชื่อ “Marble temple”

วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

วัดบวรนิเวศราชวรวิหารวัดชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ต้นถนนตะนาวและถนนเฟื่องนคร บางลำภู กรุงเทพ เป็นพระอารามหลวงแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามด้านสถาปัตยกรรมและจิตกรรมฝาผนังเป็นอย่างมาก เป็นการผสมผสานระหว่างชาติตะวันตก จีน และไทย ได้อย่างสวยงาม เป็นวัดที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เมื่อทรงผนวชหลายพระองค์ จึงทำให้วัดนี้ได้รับการทะนุบำรุงให้คงสภาพดีอยู่เสมอ มีศิลปกรรมโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุหลายสิ่ง ที่ยังอยู่ในสภาพดีควรค่าแห่งการเข้าชมและ ศึกษาได้เป็นจำนวนไม่น้อยกไปว่าลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญวัดบวรนิเวศวิหาร

วัดราชนัดดา

วัดอารามหลวง ตั้งอยู่ถนนราชดำเนินอยู่ด้านหลังของลานพลับพลาเจษฏาบดินทร์ตรงข้ามกับวัดภูเขาทอง(วัดสระเกศ) ภาพในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่น คือ โลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของไทย มีลักษณะศิลปะสถาปัตยกรรมไทยเป็นปราสาท 3 ชั้น มียอด 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ บนยอดปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนมัสการพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่บนชั้นที่7 ของโลหะปราสาท สามารถชมวิวฝั่งพระนครได้ 360 องศา ถือเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่ใด

วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)

ภูเขาทอง ตั้งอยู่ภายในวัดสระเกศ มีพระมหาเจดีย์ใหญ่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า องค์พระธาตุสีทองอร่ามมองเห็นแต่ไกลใจกลางพระนคร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยและต่างประเทศให้ความนิยมให้ความสนใจมาท่องเที่ยวถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีพระประธานสวยงามมากศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นิยมมากราบไหว้บูชากันตลอดปีได้ทำบุญ พร้อมชมวิวกรุงเทพแบบฟินๆ แบบ 360 องศา

วัดพิชัยญาติการาม

วัดพิชัยญาติการาม ตั้งอยู่ในเขตคลองสาน เชิงสะพานพุทธ วัดแห่งนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น ภายในวัดมีปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุที่สำคัญ ทั้ง พระปรางค์ 3 ยอด องค์ใหญ่สีขาวโดดเด่น พระอุโบสถ สร้างเป็นศิลปะแบบจีน ประดิษฐานพระสิทธารถ” หรือ “หลวงพ่อสมปรารถนา” ซึ่งเป็นพระประธานภายในโบสถ์ ที่มีพุทธลักษณ์ที่งดงามมาก

วัดประยงค์กิตติวนาราม

วัดประยงค์กิตติวนาราม ตั้งอยู่ใน แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นวัดที่เงียบสงบร่มรื่น เหมาะสำหรับพุทธศาสกนิชกที่มุ่งมาปฏิบัติธรรม มีงานสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศานาที่งดงามและน่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ทั้ง พญาครุฑองค์ใหญ่ รูปหล่อหลวงปู่ทวด พระพุทธศรีอริยเมตตไตยทรงเครื่องใหญ่ พระพุทธรูปปางประทาน พระพิฆเนศวร พระปางนาคปรก เป็นต้น

วัดโฝวกวงซัน

สถาบันพุทธศาสนา เถรวาท-มหายาน วัดโฝวกวงซัน เป็นวัดสไตล์จีน ตั้งอยู่ที่ถนนคู้บอน เขตคลองสามวา กรุงเทพ ภายในศาสนสถานกว้างขวาง ตัวอาคารงดงามอลังการด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับวัดทางไต้หวัน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพหลายองค์ให้กราบไหว้ขอพร ทั้งรูปหล่อพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระประธานทั้ง 3 พระองค์ สักการะพระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ขอพรเหล่าเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมและพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยงที่สวยงามน่าสนใจ ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพอีกแห่งหนึ่งด้วย

วัดลาดพร้าว

วัดลาดพร้าว ตั้งอยู่ใน ถนนลาดพร้าว-วังหิน ซอยโชคชัยสี่ เป็นวัดที่มีความเงียบสงบและมีความสวยงาม เมื่อเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระวิหารที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับยืน 3 องค์ บนชั้น 2 ของอาคาร สิ่งสำคัญที่สุดของวัดคือ ปราสาทซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า ที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์ดาวดึงส์เหนือเศียรพระเจ้าเปิดโลก

38
อาหารสุขภาพ ช่วยกระตุ้นการย่อย ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ

การย่อยอาหารที่ดีเป็นรากฐานของสุขภาพที่ดี เพราะระบบย่อยอาหารที่ดีจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกำจัดของเสีย และช่วยรักษาระดับพลังงานที่เหมาะสมให้กับร่างกาย การย่อยอาหารที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว ท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาจเกิดปัญหากับระบบทางเดินอาหารต่างๆ

     เราสามารถบำรุงระบบทางเดินอาหารได้ด้วยการรับประทานอาหารที่หลากหลาย ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารและบำรุงสุขภาพของลำไส้ให้ดีขึ้นได้ด้วย

 
6 อาหารช่วยกระตุ้นการย่อย

 
1. อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์

ไฟเบอร์เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้เกิดย่อยอาหารที่ดี ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และรักษาจุลินทรีย์ในลำไส้ให้แข็งแรง ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำต่างก็สำคัญต่อระบบย่อยอาหาร โดยอาหารที่มีเส้นใยละลายน้ำ เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว และผลไม้รสเปรี้ยว ในขณะที่เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำนั้นมีมากในผัก เมล็ดธัญพืช และรำข้าว

 
2. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตและอาหารที่มีโปรไบโอติกสูงอื่นๆ จำเป็นต่อการช่วยรักษาลำไส้ให้แข็งแรง โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ซึ่งช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหารโดยการปรับสมดุลของไมโครไบโอมในลำไส้และช่วยในการสลายอาหาร ทั้งโยเกิร์ต คีเฟอร์ กะหล่ำปลีดอง กิมจิ และอาหารหมักอื่นๆ ก็ล้วนเป็นแหล่งโปรไบโอติกที่ดี สามารถช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ลดการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

 
3. ขิง

ขิงมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทางเดินอาหาร ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการคลื่นไส้ ขิงสามารถบริโภคได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ชาขิง อาหารที่มีส่วนผสมของขิง หรือแม้แต่อาหารเสริม

 
4. สะระแหน่

สะระแหน่และเปปเปอร์มินท์เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาอาการไม่สบายท้องและทางเดินอาหารด้วยวิธีธรรมชาติ พืชชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และท้องเฟ้อ ชาเปปเปอร์มินต์หรือการรับประทานใบสดสามารถบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
5. มะละกอ

มะละกอขึ้นชื่อในเรื่องเอนไซม์ย่อยอาหาร เช่น ปาเปน ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้สามารถช่วยสลายโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น การบริโภคมะละกอสดหรือการดื่มน้ำมะละกอสามารถช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและลดอาการอาหารไม่ย่อยได้

 
6. น้ำ

การให้ความชุ่มชื้นกับร่างกายอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยย่อยอาหารได้ดี ซึ่งน้ำสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้ท้องผูกและเกิดปัญหาต่อกระบวนการย่อยอาหารได้ ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน

39
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: update ล่าสุด! ทำอย่างไรดีหากติดโควิดรอบนี้?!

ติดโควิด ⚠️ รอบนี้เอาไงดี? หากพบว่าติดเชื้อ Covid-19 ปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

    แยกตัวจากบุคคลอื่นเป็นเวลา 5 วัน และรับประทานยารักษาตามอาการ
    เมื่อครบ 5 วันแล้ว ไม่มีไข้ อาการโดยรวมดีขึ้น พบปะบุคคลอื่น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ให้สวมหน้ากากอนามัย
    หากยังมีไข้ อาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้แยกตัวเพิ่มเป็น 10 วัน
    ตรวจ ATK แล้วผลเป็น Negative (-) ทั้ง 2 ครั้ง สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้
    ถอดหน้ากากอนามัยได้ เมื่อครบเวลา 10 วันแล้วนับตั้งแต่มีอาการ

โควิดยังคงอยู่กับเรา ผู้ที่มีอาการควรตรวจด้วย ATK ถ้าพบผลบวก (+) และพบว่าตัวเอง เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น อยู่ในกลุ่ม 608 หรือมีภูมิต้านทานต่ำ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลพบแพทย์เพื่อรับยา และแนะนำควรรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หากฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือน


ระวัง! ติดโควิดพร้อมไข้หวัดใหญ่เสี่ยงป่วยรุนแรงมากขึ้น

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 มีความคล้ายคลึงกัน และมีโอกาสติดเชื้อร่วมกัน หากติดโควิดร่วมกับไข้หวัดใหญ่ จะทำให้มีความเสี่ยงป่วยรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วย

รู้หรือไม่ ปัจจุบันวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดพร้อมวัคซีนโควิดได้ โดยฉีดได้ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องเว้นระยะห่าง

สังเกตอาการป่วยของตนเองและคนที่คุณรักอยู่เสมอ ตรวจ ATK ด้วยตนเองก่อนในเบื้องต้น หากมีไข้สูง อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน


40
อาหารสุขภาพ ที่มีโพรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน กินอะไรดี 

เชื่อว่าโพรไบโอติก (Probiotic) หรือจุลินทรีย์ชนิดดี เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องอยู่กับโรคอุบัติใหม่ ซึ่งทำให้ทุกคนอยากเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายตัวเองแข็งแรงกว่าเดิม เพราะประโยชน์ของโพรไบโอติก จัดว่าไม่ธรรมดา แถมยังมีข้อมูลที่บอกว่า มีส่วนช่วยลดอาการลองโควิดได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครต้องการเติมจุลินทรีย์ชนิดดีให้ลำไส้ ก็อย่ารอช้า มาดูลิสต์อาหารที่มีโพรไบโอติกสูง พร้อมทวนประโยชน์กันอีกที


โพรไบโอติกคืออะไร
       
โพรไบโอติก หรือสามารถอ่านออกเสียงว่า
โปรไบโอติก ก็ได้ เพราะภาษาอังกฤษสะกด Probiotic หรือบางครั้งจะเห็น Probiotics ที่เติมตัว S ด้วย เนื่องจากมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ โดยโพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีชีวิต มีทั้งชนิดแบคทีเรียดี ชนิดยีสต์ที่ดี และชนิดเชื้อราที่ดี ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีประโยชน์แตกต่างกันออกไป


โพรไบโอติก ประโยชน์ดีอย่างไร

ประโยชน์หลัก ๆ ของโพรไบโอติก คือ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ด้วยการเข้าไปลดปริมาณจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีที่อาจก่อโรคในร่างกาย ช่วยกำจัดเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร ทั้งยังกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้มีความสมดุล ลดอาการท้องอืด ท้องเสีย กระตุ้นการขับถ่าย บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน และเมื่อลำไส้มีจุลินทรีย์ดี แบคทีเรียดีมากกว่าชนิดไม่ดี ก็ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ โพรไบโอติกยังช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในช่องคลอดได้ด้วยนะคะ ซึ่งก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอดของสาว ๆ และยังมีการศึกษาที่พบว่า การได้รับโพรไบโอติกเป็นประจำมีส่วนช่วยคงระดับอารมณ์ของเราได้ เพราะแบคทีเรียดีบางชนิดในลำไส้มีส่วนช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น ช่วยฮีลสุขภาพใจ ถ้าเราได้รับในปริมาณที่เพียงพอ


ที่สำคัญยังมีโพรไบโอติกชนิด LPR ที่มีงานวิจัยพบว่า มีประสิทธิภาพในการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานได้ดี เมื่อร่างกายแข็งแกร่ง สมองก็สามารถพัฒนาได้เต็มที่ ถือเป็นโพรไบโอติกอีกหนึ่งชนิดที่เด็ก ๆ ควรได้รับอย่างเพียงพอค่ะ
มารู้จัก LPR เทรนด์จุลินทรีย์โพรไบโอติกที่มาแรง


โพรไบโอติก LPR

* ได้รับคำแนะนำระดับ Grade A สำหรับประโยชน์ในเรื่องของภูมิคุ้มกันจาก The consensus opinions from the 4th Triennial Yale/Harvard Workshop on Probiotics Recommendations (2015)
** LPR is identical to L. rhamnosus GG.

LPR หรือ LGG มีชื่อเต็ม ๆ ว่า แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส (Lactobacillus rhamnosus GG.) โดย LPR คือ จุลินทรีย์มีประโยชน์ที่เรียกกันว่า
 โพรไบโอติก พบได้ในน้ำนมแม่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว หรือนมบางชนิด ซึ่งความมาแรงของ LPR

โพรไบโอติก ที่คนให้ความสนใจก็เพราะ LPR เป็นจุลินทรีย์ชนิดดี ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับในหลากหลายด้าน
       
LPR โพรไบโอติก ได้รับคำแนะนำระดับ Grade A สำหรับประโยชน์ในเรื่องของภูมิคุ้มกันจาก The consensus opinions from the 4th Triennial Yale/Harvard Workshop on Probiotics Recommendations (2015) ให้เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และกำลังได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในวงการผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย และสมาคมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ อีกทั้งยังมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด6 โดยมีการศึกษาค้นคว้าในด้านคุณประโยชน์ต่อเนื่องกว่า 30 ปี ถือเป็นโพรไบโอติกที่น่าสนใจสำหรับเด็ก ดังนี้

จากการศึกษาพบว่า LPR โพรไบโอติก มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร อันก่อให้เกิดโรคท้องเสียเฉียบพลันในเด็ก นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อแบคทีเรียในลำไส้มีชนิดดีมากกว่าชนิดไม่ดี รวมไปถึงร่างกายดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้เป็นปกติ จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง และเด็กที่ได้รับ LPR จากนมแม่ก็จะมีร่างกายที่เติบโตสมวัย

ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนในเด็ก
         
มีงานวิจัยที่ทำการศึกษาในเด็กอายุ 1-7 ขวบ พบว่า จุลินทรีย์ LPR โพรไบโอติก มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ ไข้หวัด น้ำมูกไหล โรคหูชั้นกลางอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ หรือเด็ก ๆ ในวัยอนุบาลที่เริ่มไปโรงเรียน ได้ถึง 37%
ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง
         
ทราบไหมว่า สมองและทางเดินอาหารทำงานสัมพันธ์กัน หากจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุลย่อมส่งผลกระทบต่อสมอง ดังนั้นการได้รับจุลินทรีย์ LPR โพรไบโอติก อย่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยรักษาสมดุลในลำไส้แล้ว LPR ยังจะช่วยย่อยทริปโตแฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาท เช่น สารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีสำคัญชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและระบบประสาท ส่งผลต่อกระบวนการคิด พฤติกรรม และอารมณ์ ช่วยให้รู้สึกมีความสุข คลายเครียด นอนหลับได้ง่าย
         
กล่าวโดยรวมก็คือ จุลินทรีย์ LPR

 โพรไบโอติก เกรด A ที่พบได้ในนมแม่ มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็ก ๆ ช่วยลดความเสี่ยงการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ และยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหารให้เกิดความสมดุล ให้เด็ก ๆ เติบโตและมีพัฒนาการสมวัย

Reference :

    Floch MH, et. al. J Clin Gastroenterol 2015; 49:S69-S73

    Lara-Villoslada F, et al. Br J Nutr. 2007 Oct;98 Suppl 1:S96-100.

    Sun J, et al. J Dairy Sci. 2019 Jul;102(7):5971-5978.

    Fox MJ, et al. BMJ Open. 2015 Jan 14;5(1):e006474

    Hojsak I, et. al. Clin Nutr. 2010 Jun;29(3):312-6.

    Kort R, et. al., Microb Cell Fact. 2015 Dec 8;14:195.

    Mayer EA, et al. Nat Rev Neurosci. 2011 Jul13;12(8): 453-66.

    Van Oudenhove L, et al. Best Pract Res Clin Gastroenterol. 2004 Aug; 18(4):663-80.

โพรไบโอติกกับลองโควิด (Long Covid)
          ในช่วงที่เพิ่งหายจากโควิด 19 ร่างกายผู้ป่วยอาจยังต้องเผชิญกับอาการที่หลงเหลืออยู่ เช่น อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ อ่อนล้า หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย เป็นต้น ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้แนะนำให้ผู้ป่วยที่มีอาการลองโควิด กินอาหารที่มีโพรไบโอติกเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างสม่ำเสมอ
          ทางด้าน นพ.กฤษดา ศิรามพุช แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย ก็ระบุว่า มีรายงานที่พบว่าผู้ที่หายจากโควิดแล้วจะมีจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่ปกติ คือ แบคทีเรียชนิดดีน้อยลง แต่แบคทีเรียตัวร้ายเพิ่มขึ้น ทำให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน แต่การรับประทานโพรไบโอติกจะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ และยังไปกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว B lymphocyte หรือ B cell ขึ้นมา ซึ่งเม็ดเลือดขาวชนิดนี้จะไปสร้างเป็นแอนตี้บอดี ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายรับมือกับเชื้อโรคได้อีกทาง
          พอได้ทราบประโยชน์ของโพรไบโอติกทั้งหมดแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากเติมโพรไบโอติกให้ร่างกายกันอยู่แน่ ๆ งั้นมาดูเลยว่า อาหารที่มีโพรไบโอติก คือ อาหารชนิดไหนบ้าง

อาหารที่มีโพรไบโอติก เลือกกินอะไรดี
         
อาหารที่เป็นแหล่งที่ดีของโพรไบโอติก ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ผ่านการหมัก ดอง จนทำให้ได้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ซึ่งก็สามารถเลือกรับประทานได้ตามนี้

1. โยเกิร์ต

ถ้าอยากกินอาหารที่มีโพรไบโอติก หลายคนก็จะนึกถึงโยเกิร์ตเป็นอันดับแรก ๆ ซึ่งโยเกิร์ตก็เป็นแหล่งที่ดีของโพรไบโอติกจริง ๆ ค่ะ แถมยังเป็นอาหารที่รับประทานง่าย รสชาติอร่อย และมีหลายรส หลายตัวเลือก แต่หากต้องการโพรไบโอติกจากโยเกิร์ต แนะนำให้กินโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกสด ๆ ซึ่งจะระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Live and Active หรือ Live Probiotic หรือ Living Probiotic หรือ Active Probiotic และควรมีปริมาณโพรไบโอติกอย่างน้อย 100 ล้าน CFU
         
นอกจากนี้ก็ควรเลือกโยเกิร์ตที่ระบุชนิดโพรไบโอติกอย่างชัดเจนด้วย เช่น เป็นโพรไบโอติกชนิดบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium), บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิส (Bifidobacterium animalis DN173010), แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) เพราะโพรไบโอติกสายพันธุ์เหล่านี้เป็นชนิดที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทว่าเพื่อสุขภาพที่ดีก็ควรเลือกกินโยเกิร์ตไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย ด้วยนะคะ


2. นมเปรี้ยว

แตกไลน์จากโยเกิร์ตมาเป็นนมเปรี้ยว ซึ่งเป็นนมที่ผ่านการหมักจนได้โพรไบโอติกมา ซึ่งก็ควรมองหานมเปรี้ยวที่มีโพรไบโอติกชนิดเดียวกับที่มีในโยเกิร์ต เพื่อให้ได้โพรไบโอติกชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้จริง และควรเลือกดื่มนมเปรี้ยวชนิดที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งจะเป็นนมเปรี้ยวที่มีโพรไบโอติกที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่หากดื่มนมเปรี้ยวแบบ UHT วิธีการผลิตนี้จะให้ความร้อนสูงมากจนจุลินทรีย์ต่าง ๆ ตายหมด เราก็จะไม่ได้โพรไบโอติกที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริง ๆ นั่นเอง อ้อ ! อย่าลืมเลือกดื่มนมเปรี้ยวไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยด้วยนะคะ


3. คีเฟอร์ (Kefir)

คีเฟอร์ คือ นมหมักจากบัวหิมะทิเบต โดยใช้กรดแลคติกแอซิดแบคทีเรีย (Lactic acid bacteria: LAB) และยีสต์ชนิดที่ดี หมักเลี้ยงให้ได้จุลินทรีย์ชนิดดีอีกหลากหลายสายพันธุ์ โพรไบโอติกจากคีเฟอร์จึงมีหลากหลายชนิดมากกว่าในโยเกิร์ต โดยเป็นโพรไบโอติกในกลุ่มที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดีของคนที่แพ้แลคโตสของนมด้วยนะคะ


4. คอมบูชา

คอมบูชาหรือคอมบูชะ ชาหมักที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้ก็เป็นแหล่งที่ดีของโพรไบโอติกเช่นกัน เพราะเป็นน้ำหมักจากชาดำหรือชาเขียว กับหัวเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งมีทั้งแบคทีเรียชนิดดี จุลินทรีย์ชนิดดี และยีสต์ที่ดี แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดแอซีติก (Acetic acid) และวิตามิน ที่ล้วนแต่เป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
         
แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกดื่มคอมบูชาที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีฉลากโภชนาการบอกชัดเจนด้วยนะคะ เพราะหากกระบวนการหมักไม่ถูกสุขลักษณะก็ยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่ก่ออันตรายได้ เช่น ทำให้ท้องเสีย อาเจียน เป็นพิษต่อตับ


5. ขิงดอง

สมุนไพรไทยอย่างขิงเมื่อนำมาดองก็จะให้โพรไบโอติกที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน นอกจากนี้ด้วยสรรพคุณของขิงอ่อนเองก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งช่วยแก้เมารถ เมาเรือ บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้อง และจากการทำเคมีบำบัด เป็นต้น


6. กิมจิ

กิมจิเป็นเครื่องเคียงยอดนิยมในเกาหลีและในไทยเองก็กินกิมจิกันเก่งไม่แพ้ใคร เพราะกิมจิมีรสชาติที่ดี กินเคียงกับอาหารได้หลากหลายประเภท และยังจัดเป็นผักดองที่อุดมไปด้วยกรดแลคติกแอซิดแบคทีเรีย (Lactic acid bacteria : LAB), แลคโตบาซิลัส และจุลินทรีย์ที่ดีต่าง ๆ อีกหลายชนิด โดยส่วนใหญ่จะเป็นโพรไบโอติกที่ดีต่อระบบย่อยอาหารและช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้


7. มิโสะ

มิโสะเป็นเครื่องปรุงรสของญี่ปุ่นที่ทำจากถั่วเหลืองหมักกับเกลือและเชื้อราชนิดที่ดี และแน่นอนว่ากระบวนการหมักนี้ก็ให้จุลินทรีย์ชนิดที่ดีตามมาด้วย โดยสามารถรับประทานแบบซุปมิโสะก็อร่อย หรือใช้ปรุงอาหารเพิ่มโพรไบโอติกให้จานโปรดก็ได้


8. เทมเป้

เทมเป้ คือ ถั่วเหลืองหมักกับเชื้อราที่ดีจนทำให้ได้โพรไบโอติก และยังเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน ขณะที่สารไอโซฟลาโวนที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนก็ช่วยในการลดไขมันในเลือด ช่วยบรรเทาอาการวัยทอง อาการร้อนวูบวาบ และยังได้เลซิตินจากถั่วเหลืองช่วยบำรุงสมอง รวมทั้งได้วิตามินต่าง ๆ จากกระบวนการหมักของถั่วเหลือง เช่น วิตามินบี 12 ที่ปกติมักพบได้ในเนื้อสัตว์ เป็นต้น


9. นัตโตะ

นอกจากเทมเป้แล้วยังมีนัตโตะซึ่งเป็นถั่วหมักและเป็นแหล่งที่ดีของโพรไบโอติกเช่นกัน และยังมีการศึกษาที่พบว่า การรับประทานนัตโตะเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ด้วย


10. ชีสบางชนิด

ชีสที่มีโพรไบโอติกสังเกตง่าย ๆ จากฉลากผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีคำว่า “live cultures” หรือ “active cultures” ซึ่งมักจะเจอได้ในชีสเกาด้า มอซซาเรลลาชีส เชดด้าชีส และคอทเทจชีส เป็นต้น
         

อย่างไรก็ตาม ช่วงแรก ๆ ที่เริ่มกินโพรไบโอติกเยอะกว่าปกติ อย่างคนที่โหมกินอาหารที่มีโพรไบโอติกเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ก็อาจมีอาการท้องอืด มีลมในท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวได้ในบางคน เพราะการรับประทานโพรไบโอติกก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกันนะคะ


โพรไบโอติก กับข้อควรระวัง
         
อย่างที่บอกว่าการกินโพรไบโอติกอย่างไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ ฉะนั้นจึงอยากให้ใส่ใจในข้อควรระวังกับการกินโพรไบโอติก ดังนี้

    หากเพิ่งเริ่มกินให้กินในปริมาณน้อย ๆ ก่อน เพราะถ้ากินในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องอืด มีลมในท้องมากขึ้น ท้องผูก หรือถ่ายเหลวได้
    สำหรับคนที่กินอาหารหมักดองเพื่อให้ได้โพรไบโอติก ควรเช็กว่ารสชาติอาหารนั้นไม่ผิดเพี้ยนจากปกติ กลิ่น สี รส ไม่บูดเน่าเสีย หรือทางที่ดีควรเลือกกินผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคที่อาจก่อโรคอาหารเป็นพิษหรือทำให้ท้องร่วงได้
    เช็กร่างกายตัวเองว่ากินโพรไบโอติกแล้วเกิดความผิดปกติไหม อย่างบางคนอาจมีความไวต่อโพรไบโอติก ทำให้กินแล้วท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสียมาก ซึ่งก็ต้องระวังอาการนี้ในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เช่น ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก

41
รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้างขนของตาก บริการดีหรือไม่

รถ 6 ล้อรับจ้างภาคเหนือ จังหวัดตากที่รับขนย้ายบ้าน รับจ้างขนของ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนย้ายเครื่องจักร ย้ายบ้าน ย้ายหอ ขนเครื่องจักร และขนสินค้าทั่วไป ปัจจุบันมีหลายบริษัท ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าจะเลือกใช้บริการ แบบไหน ทำอะไร  ตัวอย่างเช่น ต้องการยกของที่ไม่สามารถใช้คนได้ เราก็สามารถเลือกใช้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้างจังหวัดตาก มาช่วยในการขนย้าย  ในเมื่อหลาย ๆอย่าง จำเป็นที่ต้องได้ใช้

การขนย้ายจึงมีความจำเป็นอย่างมาก งานบริการที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในการช่วยเหลือสิ่งต่าง ๆ เช่น ธุรกิจขนส่ง ที่จะต้องมีรถรับจ้างขนย้ายของที่หลากหลายชนิดในแต่ละจังหวัด รถ 6 ล้อรับจ้างก็ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี เพราะการขนย้ายในแต่ละครั้งที่มีสินค้าจำนวนมาก ก็ต้องอาศัยรถ 6 ล้อ ในการเคลื่อนย้าย ถึงจะสามารถขนไปได้หมด

การขนย้ายสิ่งของที่ต้องขนมากโดยใช้รถบรรทุกรับจ้างตาก หรือขนไปต่างจังหวัด เช่น ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน รถจักรยานยนต์ อันนี้ต้องใช้รถ 6 ล้อรับจ้า แทน จะสะดวกกว่า เพราะสามารถที่จะขนย้ายได้ง่าย ภายในครั้งเดียว การใช้บริการรถรับจ้างนั้น ต้องดูว่างานแต่ละอย่างของเรานั้นคืออะไร  เพราะรถนั้นจะมีให้เลือกในรูปแบบที่หลากหลาย  เช่น หากต้องการขนย้ายสินค้าที่มีปริมาณมาก ๆ จำนวนข้าวสาร การขนดิน ขนหิน แบบนี้พวกรถเล็ก ๆ อาจจะขนได้ปริมาณน้อย

แต่หากเราใช้รถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น รถพ่วง รถเทเลอร์ ก็จะเป็นการเพิ่มสินค้าได้มากขึ้น ที่สำคัญราคาขนส่งครั้งละมาก ๆ ก็จะถูกกว่าการขนส่งครั้งละนิด ๆ และต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ามากกว่า ในการขนส่งนั้นนอกจากการนำสินค้า ของต่าง ๆ จากผู้ส่งไปยังผู้รับแล้ว บริการ รถหกล้อรับจ้างขนของย้ายบ้านจังหวัดตาก

ขนส่งให้บริการรถรับจ้างภาคเหนือ บริการถึงสุดปลายทางแม่สาย บริการขนย้ายภายในจังหวัดตาก และต่างจังหวัด การยกของนั้นทางผู้ให้บริการรถขนส่งอาจจะมีพนักงานรับจ้างขน แต่หากเป็นสินค้าที่หนักมาก ๆ เช่นการนำวัสดุก่อสร้างไปส่งตามไซด์งาน การที่จะใช้กำลังคนในการขนส่งนั้นก็เห็นทีจะยาก จึงทำให้ร้านค้ามีวัสดุก่อสร้างนั้นต้องใช้บริการรถเครนรับจ้าง เพื่อมาช่วยยกแทน ซึ่งถือว่าเป็นการทุ่นแรงได้ดีพอสมควร

การที่เราจะใช้บริการรถบรรทุกรับจ้าง ขนส่งยกของเหล่านี้นั้น เรามักจะเห็นเป็นการโฆษณาบ่อย ๆ ทั่ว ๆ ไป สามารถเรียกใช้บริการได้ และก่อนการเคลื่อนย้ายนั้น จัดของสินค้าควรมีการแพ็คจัดเก็บของ ๆ ตัวเอง ให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกในการขนส่ง ยกเว้น พวกหิน ดิน ทราย อันนี้สามรถที่จะถ่ายขึ้นรถได้เลย และเจ้าของรถจะมีผ้ายางคลุมอีกที เพื่อป้องกันการหล่น กันฝน และฝุ่น การฟุ้งกระจายของของ และที่สำคัญคนขับรถรับจ้าง ต้องรู้จักเส้นทางที่จะเดินทางไปด้วย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง การบริการที่ดีที่สุดของ รถ 6 ล้อจังหวัดตากรับจ้าง

จุดพื้นที่ให้บริการที่ใกล้เคียงทุกท่านดังนี้

อำเภอเมืองตาก

อำเภอท่าสองยาง

อำเภอบ้านตาก

อำเภอพบพระ

อำเภอแม่ระมาด

อำเภอแม่สอด

อำเภอสามเงา

อำเภออุ้มผาง

อำเภอวังเจ้า


ในการขนย้ายบ้าน สำหรับรถ 6 ล้อรับจ้าง ใช้คนยก 3-4 คน แต่หากอยู่ชั้นสูง ๆ มากกว่าชั้น 2 อาจจะต้องเพิ่มคน ส่วนถ้าเป็นการขนย้ายหอพัก รถขนของ ย้ายหอ ส่วนใหญ่จะใช้คนยก 1-2 คนเท่านั้น  การขนย้ายไซด์งานก่อสร้าง สำหรับรถ 6 ล้อรับจ้าง จะใช้คนยกมากกว่า 5 คนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของสินค้า  ส่วนการขนย้ายสินค้าทั่วไป ไม่ระบุเจาะจง รถ 6 ล้อรับจ้างต้องใช้คนยกตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

การคิดค่าบริการสำหรับคนยกสินค้านั้น ส่วนมากราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท/คน  เช่นการย้ายห้องพัก ย้ายหอ และราคาจะปรับสูงขึ้นตามปริมาณของสินค้า และความยากง่ายในการขนย้ายในแต่ละครั้งด้วย มีการตรวจเช็คผ้าใบคลุมรถเป็นอย่างดี ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพื่อไม่ให้ผู้ว่าจ้างเกิดความกังวลในการขนส่งสินค้าในแต่ละครั้งด้วย

การท่องเที่ยวในประเทศไทยถือได้ว่า มีส่วนสำคัญต่อการให้บริการ รับรับจ้างขนส่ง ต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจด้านการขนส่งย้ายของ ย้ายหอพัก ย้ายบ้านตาก ย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นใช้รถรับจ้างกันทั้งนั้น ดังนั้นปัจจุบันบริษัทขนส่งจึงได้เปรียบเป็นอย่างมากที่จะช่วยบริการ หรือสนับสนุนงานย้ายให้กับลูกค้าได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ และลุกค้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวจะมีรถไม่พอที่จะให้บริการ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้บริการว่าจะเลือกใช้บริการกับขนส่งไหน เจ้าไหน เพราะว่าผู้ว่าจ้างก็มีสิทธิที่จะประเมินการใช้บริการว่างานที่ตัวเองจะว่าจ้างให้ไปขนย้ายนั้น มีความเหมะสมกับรถในลักษณะใดมากกว่ากัน ทีมงานขนส่งบริการรถบรรทุกขนย้ายจังหวัดตาก และพื้นที่จังหวัดอื่นๆ

42
เช็กก่อน….สินเชื่อรถแลกเงิน VS สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ต่างกันอย่างไร?

การขอสินเชื่อ หรือการขอกู้เงินมักมีวัตถุประสงค์ คือต้องการเงินก้อน หรือวงเงินสำรอง เพื่อเสริมสภาพคล่องทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อรูปแบบไหน เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน หรือสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล หลายคนก็คงมองว่ายังไงก็คือการกู้เงินเหมือนๆ กัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเภทของสินเชื่ออย่างสินเชื่อรถแลกเงิน และสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล จะมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน แต่...จะมีข้อแตกต่างอะไรบ้างที่หากคิดจะขอสินเชื่อ เราควรรู้! ก่อนตัดสินใจเลือกประเภทสินเชื่อ ตามมาดูกันเลย…


1. รูปแบบของสินเชื่อ
 
สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อที่ต้องใช้หลักทรัพย์ ซึ่งก็คือรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่ม ใช้รถเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน และต้องโอนเล่มทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อจนกว่าจะผ่อนชำระหมด จึงจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์คืน แต่ระหว่างทางยังสามารถนำรถยนต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม ใช้รถเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเช่นกัน แต่ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน วงเงินที่ได้อาจจะน้อยกว่าแบบโอนเล่มทะเบียน แต่จะได้รับอนุมัติเร็วกว่า

สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน แบ่งออกเป็น
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน รับเป็นเงินกัอนผ่อนชำระเป็นรายเดือนๆ ละเท่าๆ กัน
สินเชื่อบัตรกดเงินสด รับเป็นวงเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในบัตรฯ กดใช้เมื่อไหร่ ถึงจะมีการคิดดอกเบี้ย
สินเชื่อตามวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ สินเชื่อเพื่อการศึกษา ฯลฯ


2. วงเงินกู้
 
สินเชื่อรถแลกเงิน : วงเงินสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับราคาประเมินรถยนต์ รวมถึงรุ่นรถยนต์ สภาพรถยนต์ เป็นต้น สินเชื่อรถแลกเงินแต่ละแบบก็จะได้วงเงินกู้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

สินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มทะเบียน วงเงินสินเชื่อประมาณ 80% - 120% ของราคาประเมิน
สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่มทะเบียน (โอนลอย) วงเงินสินเชื่อประมาณ 70% - 80% ของราคาประเมิน
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล : เป็นสินเชื่อที่มีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงินกู้ โดยจะได้รับวงเงินอ้างอิงจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ ความสามารถในการชำระหนี้ และประวัติการขอสินเชื่อในอดีต ส่วนใหญ่วงเงินที่ได้รับจะไม่เกิน 3 - 5 เท่าของรายได้
 

3. การคิดดอกเบี้ย
 
เมื่อเกิดการกู้ยืม ผูัให้บริการสินเชื่อก็จะมีการคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้กู้นั้น ซึ่งการคิดดอกเบี้ย แบ่งตามรูปแบบของดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อแต่ละประเภท ดังนี้
 
สินเชื่อรถแลกเงิน มีการคิดดอกเบี้ย 2 รูปแบบ คือดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) และอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ซึ่งก่อนขอสินเชื่อผู้กู้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการสินเชื่อ เพื่อลองคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนก่อนได้
 
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) และมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ชัดเจน
ทราบข้อแตกต่างของสินเชื่อรถแลกเงิน และสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลกันไปแล้ว ลองเลือกสินเชื่อที่เหมาะสม และวางแผนการชำระเงินให้ดี เพื่อให้การขอสินเชื่อครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดนะคะ

43
Doctor At Home: ภาวะสายตาผิดปกติ

โดยปกติการมองเห็นเกิดจากการที่แสงตกกระทบที่ผิวกระจกตา แล้วเกิดการหักเหโฟกัสไปที่จอประสาทตาพอดี ภาพที่มองเห็นจึงมีความชัดเจน ไม่ว่าวัตถุนั้นจะอยู่ใกล้หรือไกล แต่หากความโค้งของกระจกตา หรือความยาวของลูกตา มากหรือน้อยเกินไป จะทำให้ภาพที่เห็นไม่ชัดเจน เรียกว่า ภาวะสายตาผิดปกติ

ภาวะสายตาผิดปกติมี 4 ประเภท


1.สายตาสั้น (Myopia)

     เกิดจากการรวมแสงตกลงหน้าจอประสาทตา มักเกิดจากลูกตายาวเกินไป หรือเกิดจากกระจกตามีความโค้งมากเกินไป ผู้ที่มีสายตาสั้นจึงมองเห็นได้ในระยะใกล้ แต่จะมองไม่ชัดในระยะไกล

     ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้น เช่น พันธุกรรมจากพ่อแม่ หรือมีพฤติกรรมการใช้สายตาในระยะใกล้มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ


2. สายตายาว (Hyperopia)

     เกิดจากการรวมแสงของตาที่ทำให้จุดโฟกัสของแสงตกลงด้านหลังจอประสาทตา มักเกิดจากลูกตาสั้นเกินไปหรือกระจกตามีความโค้งน้อยเกินไป ผู้ที่มีสายตายาวจึงมองไม่ชัดทั้งในระยะใกล้หรือไกล ภาวะสายตายาวโดยกำเนิดนี้ไม่ใช่ชนิดเดียวกับสายตายาวในผู้สูงอายุ


3.สายตาเอียง (Astigmatism)

    เกิดจากความโค้งของกระจกตาในแต่ละแนวไม่เท่ากัน ทำให้แสงโฟกัสที่จอประสาทตาไม่เป็นจุดเดียว จึงมองเห็นเป็นภาพซ้อน อาจเกิดร่วมกับสายตาสั้นหรือสายตายาวก็ได้

ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่มักเกิดมาพร้อมกับสายตาเอียงเล็กน้อยอยู่แล้ว และอาจเกิดร่วมกับภาวะสายตาสั้นและสายตายาว สำหรับผู้ที่มีสายตาเอียงมากจะมีอาการ เช่น มองเห็นภาพซ้อนหรือบิดเบี้ยว ปวดศีรษะ ปวดตา ตาล้า เห็นภาพเป็นแสงกระจาย และต้องพยายามหรี่ตาอยู่ตลอดเวลาเพื่อปรับโฟกัสให้มองเห็นได้ชัดขึ้น


4.สายตายาวในผู้สูงอายุ (Presbyopia)

     เป็นภาวะจากการเสื่อมของกล้ามเนื้อในตาที่ใช้ในการปรับระยะมองใกล้-ไกล และเกิดจากการเริ่มแข็งตัวของเลนส์แก้วตาที่มีความยืดหยุ่นลดน้อยลง ทำให้มองใกล้ไม่ชัด ซึ่งภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุนี้จะเริ่มมีอาการในผู้ที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป


การแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ

1.การแก้ไขโดยไม่ใช้การผ่าตัด

    แว่นตา (Spectacles) เลนส์ของแว่นตาจะช่วยในการรวมแสงให้ตกลงบนจอรับภาพพอดี ซึ่งมีความปลอดภัย ง่ายต่อการดูแลรักษา แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สะดวกในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ การประกอบอาชีพบางสายงาน เช่น นักกีฬา ทหาร นักบิน เป็นต้น
    คอนแทคเลนส์ (Contact Lens) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีสายตาผิดปกติ และไม่สะดวกที่จะใส่แวนตา หรือนักกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ช่วยให้มองภาพในมุมกว้างได้ดี และเหมาะสมในผู้ที่สายตาทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันมาก แต่จะมีข้อควรระวังในเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระจกตาติดเชื้อ ซึ่งอาจรุนแรงจนสูญเสียตาได้ และผู้ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้คอนแทคเลนส์ เช่น มีภาวะตาแห้ง ภูมิแพ้คราบโปรตีนที่สะสมในเลนส์ และในน้ำยาล้างเลนส์ นอกจากนั้น ไม่แนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ ในขณะที่ทำกิจกรรมบางประเภท เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ และไม่ควรใส่ขณะนอน การใช้เลนส์สัมผัสควรได้รับการตรวจและแนะนำจากจักษุแพทย์


2.การแก้ไขผ่าตัดด้วยเลเซอร์

    การผ่าตัดด้วยวิธี PRK (photorefractive keratectomy) วิธีการโดยเริ่มจากลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออกแล้วจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (excimer laser) ยิงลงไปบนเนื้อกระจกตาด้านล่าง เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาและเป็นการแก้ไขค่าสายตาที่ผิดปกติ จากนั้นปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์แบบไม่มีค่าสายตา เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อผิวกระจกตาสมานกันได้ดี
    การผ่าตัดด้วยวิธีเลสิก (LASIK) เป็นการผ่าตัดสายตาด้วยการเปิดฝากระจกตาคล้ายบานพับ ด้วยใบมีด หรือ femtosecond laser  แล้วจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ยิงลงไปบนเนื้อกระจกตาเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาจากนั้นจะปิดฝากระจกตากลับที่เดิม
    การผ่าตัดด้วยวิธี ReLEx Pro เป็นการรักษาภาวะสายตาสั้น และ สายตาเอียงโดยการปรับความโค้งของกระจกตาด้วยเลเซอร์โดยใช้ Femtosecond Laser แยกชิ้นเนื้อเยื่อกระจกตาให้เป็นลักษณะรูปทรงเลนส์(lenticule)  ซึ่งอยู่ภายในกระจกตาจากนั้นจะดึงแผ่น lenticule ออกมาผ่านรอยตัดที่มีขนาดเล็ก 2 – 4 มิลลิเมตร

3.การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (Phakic IOL) เป็นการผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม เข้าไปในลูกตาโดยเลนส์เทียมนี้จะวางอยู่หน้าต่อเลนส์แก้วตาธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตามากๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีเลเซอร์


44
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใสกับการดูแลรักษาให้ฟันสวยเป็นธรรมชาติ

การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากและเราเองจะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้เราได้มีสุขภาพฟันที่ดี สะอาด และสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่บางคนก็อาจจะละเลยในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟัน จนเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ ทำให้เรามีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟันผุ ปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง จนทำให้มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เวลารับประทานอาหาร อาจจะทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด หรืออาจจะส่งผลให้พูดไม่ชัด ซึ่งถือว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก


แต่ในปัจจุบันนี้ วงการทันตกรรมของเราก็มีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม รวมไปถึงการจัดฟัน ซึ่งหากพูดถึงเรื่องการจัดฟันนั้น นับได้ว่าเป็นวิธีการรักษาทางทันตกรรมที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อย จนเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ของวัยรุ่นยุคใหม่เลยก็ว่าได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงการดูแลรักษาและการเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ตั้งแต่เด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในระยะยาว แต่ถ้าหากพูดถึงการจัดฟันนั้น มักพบปัญหาได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องมือการจัดฟันที่อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันรู้สึกไม่สบายช่องปาก หรืออาจจะเป็นอุปสรรคในการรับประทานอาหาร


แต่ด้วยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ของการจัดฟันที่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยนั่นก็คือ การจัดฟันแบบใส หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า INVISALIGN ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และเป็นปกติ จนแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย เพราะด้วยเครื่องมือการจัดฟันฟันที่สามารถถอดออกได้ขณะที่เรารับประทานอาหารหรือขณะแปรงฟัน นอกจากจะช่วยให้เราได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเต็มที่แล้ว ในขณะที่ทำความสะอาดช่องปากและฟัน เรายังสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ทำให้เราได้ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงแม้แต่จะทำให้เรามีฟันที่สวยเป็นธรรมชาติแล้ว การจัดฟันแบบใสยังช่วยส่งเสริมในด้านสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นทางเลือกที่ดีมากเลยทีเดียว


ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงวิธีการดูแลรักษาสำหรับผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใสเพื่อให้เราได้มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันแบบใสนั้น เป็นการจัดฟันที่มองเห็นเครื่องมือได้ยาก ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีรอยยิ้มที่สวยงามเป็นธรรมชาติ สำหรับวิธีการดูแลรักษาก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทำความสะอาดได้ตามปกติ เพราะการจัดฟันแบบใสนั้น มีจุดเด่นที่แตกต่างจากการจัดฟันในรูปแบบอื่นคือ สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ทำให้เราสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ตามปกติ การดูแลรักษาความสะอดช่องปากและฟัน สำหรับผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส วิธีเบื้องต้นเลยคือ ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันควบคู่กันเป็นประจำ เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสแทบจะตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ผู้เข้ารับกาจัดฟันแบบใสก็ต้องทำให้ฟันสะอาดอยู่เสมอนั่นเอง นอกจากจะทำให้ฟันสะอาดแล้ว ยังช่วยทำให้ฟันดูสวยเป้รธรรมชาติด้วย นอกจากนี้การสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีวินัย ควรใส่เครื่องมืออย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อผลการรักษาที่ดี และทำให้ฟันเรียงตัวกันอย่างสวยงาม


สุดท้ายการดูแลรักษาสำหรับผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสอีกข้อหนึ่งคือ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อที่จะได้มีผลการรักษาที่ดีและมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ควรไปตามนัดที่ทันตแพทย์นัดเพื่อทำการตรวจช่องปากเป็นประจำ ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีและฟันที่สวยงาม มีรอยยิ้มที่มั่นใจ หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ ทางเรมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จากสหรัฐอเมริกา เครื่องมือผลิตจากต่างประเทศ

45
motor show: เมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-benz C-Class C 350 e AMG Dynamic (Night Edition) ปี 2024
3,290,000 บาท 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-benz C-Class C 350 e AMG Dynamic (Night Edition) ปี 2024
Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic (Night Edition) คือยนตรกรรมไซส์คอมแพกต์ ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดรุ่นยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว โดยรุ่นพิเศษ Night Edition มาพร้อมการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ด้วยการผสานชุดแต่ง AMG เข้ากับชุดแต่ง Night Package รอบคัน ทั้งกระจกมองข้างสีดำเงา กระจังหน้า กันชนหน้า และล้อแม็กซ์รมดำแบบ AMG 5-spoke aerodynamically ขนาด 18 นิ้ว ที่มาเสริมสร้างรูปลักษณ์แห่งความสปอร์ต ดุดัน และเปี่ยมไปด้วยความหรูหราอย่างมีระดับ นอกจากนี้ C-Class (Night Edition) ยังมาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครันมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Mercedes-benz
   รุ่น                 เมอร์เซเดส-เบนซ์ Mercedes-benz C-Class C 350 e AMG Dynamic (Night Edition) ปี 2024
   ประเภทรถ        รถเก๋ง 4 ประตู, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา              3,290,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (ผสานชุดแต่ง AMG เข้ากับชุดแต่ง Night Package รอบคัน,กระจัง-กันชนหน้ารมดำ)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (แบบ LED สีดำ)
กระจกกรองแสง (สีเขียว)
ไฟตัดหมอก (หลัง)
ระบบควบคุมระยะการจอด
ระบบไล่ฝ้ากระจกมองข้าง
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม
ไฟท้าย LED
ขนาดยางหน้า-หลัง (หน้า 225/45 R18 หลัง 245/40 R18)
ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ พร้อมเซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน)
ไฟหน้า LED (High Performance)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า)
ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering Light)
ไฟ Daytime Running Lights
ระบบไฟสูงแบบ Ultra Rang Highbeam
ล้ออัลลอย (AMG 5-spoke aerodynamically ขนาด 18 นิ้ว)

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ
ตกแต่งภายใน (แบบ AMG interior package,วัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Metal structure trim element)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง (Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control)
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
ม่านบังแดด (ประตูหลังซ้าย- ขวา, ด้านหลัง เลื่อนขึ้น-ลง ด้วยระบบไฟฟ้า)
พรมปูพื้น (พร้อมสัญลักษณ์ AMG)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่

สเปค
   เครื่องยนต์               เบนซิน แถวเรียง/4 สูบ/4 วาล์วต่อสูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์/มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า 440 นิวตันเมตร มอบกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร

   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)     1,999 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   204 แรงม้า
   ระบบเกียร์                    เกียร์อัตโนมัติแบบ 9AT
   รูปแบบเกียร์                  9G-TRONIC
   ระบบเบรค ABS              มี
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง      เบนซิน 95, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), ไฮบริด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)       N/A
   ระบบจ่ายน้ำมัน               หัวฉีด/ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน WLTP)
   น้ำหนักตัวรถ                    2,080 กก.
   ประเภทยางรถยนต์              -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                ล้ออัลลอย (AMG 5-spoke aerodynamically ขนาด 18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน               ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย 

ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค (พร้อมเปิดฝากระโปรงท้าย)
กุญแจรีโมท (แบบ KEYLESS-GO)
กุญแจนิรภัย (Immobilizer)
ล็อคประตูอัตโนมัติ
ระบบแจ้งอุปกรณ์ทำงานขัดข้อง (ระบบเตือนระดับผ้าเบรก)
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์ (Assyst)
หลอดไฟพิเศษระบบ Daytime Running Lights(DRL) (แบบ LED Fibre-Optic)
เข็มขัดนิรภัย (แบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ)
กระจกนิรภัย (กระจกหน้าต่างแบบ Heat and noise-insulting acoustic glass)
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HSA)
อื่นๆ (ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL)
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (พร้อมกล้อง 360 องศา)
ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Dynamic Damper Control
กล้อง (แสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง

46
townhouse ซิตีลิงก์ พระราม 9-ศรีนครินทร์ (Citylink Rama 9-Srinagarindra)
เริ่มต้น 4.5 ลบ.

ซิตีลิงก์ พระราม 9-ศรีนครินทร์ (Citylink Rama 9-Srinagarindra)
คอนเนคกับการใช้ชีวิตที่ใช่ .. สำหรับคุณด้วยการออกแบบที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น เพื่อการตอบสนองการอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “ทาวน์โฮม” ที่มาพร้อมกับดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างลงตัวหรือ “โฮมออฟฟิศ เพื่อต่อ ยอดทางธุรกิจและพักอาศัยไปพร้อมๆกัน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ          ซิตีลิงก์ พระราม 9-ศรีนครินทร์ (Citylink Rama 9-Srinagarindra)
 เจ้าของโครงการ      เอ เบสท์ เอสเตท
 ราคา              เริ่มต้น 4.5 ลบ.

 ประเภทบ้าน      ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome), โฮมออฟฟิศ
 ลักษณะทำเล     บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ     15 ไร่
 จำนวนบ้าน       175 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด   7 แบบ
  เนื้อที่บ้าน       ตั้งแต่ 19 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย      ตั้งแต่ 177 ถึง 283 ตร.ม.
 จำนวนชั้น       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 หน้ากว้าง       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนที่จอดรถ  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน    รามคำแหง, บางกะปิ, เสรีไท
 ที่ตั้ง   ถ.กาญจนาภิเษก แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

 ขนส่งสาธารณะ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
รร.นานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ
รร.นานาชาติแอสคอต
เดอะพาซิโอ ทาวน์
เดอะมอลล์ บางกะปิ
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์
รพ.รามคำแหง
สนามบินสุวรรณภูมิ

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ


47
วิธีการให้ยาทางสายยางให้อาหารสายยาง !

ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ บางครั้งก็ต้องรับยาเพื่อรักษาหรือบรรเทาอาหารเจ็บป่วย หลายคนสงสัยว่า เมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารเองไม่ได้ หรือผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว จะสามารถรับประทานยาได้ด้วยวิธีใด ซึ่งการรับประทานยานั้น สามารถให้ยาทางสายยางให้อาหารได้เลย ซึ่งในการให้ยาทางสายยางนั้นจะต้องมีแพทย์เป็นผู้ดูแลในเรื่องของการให้ยาแก่ผู้ป่วย ผู้ป่วยที่ไม่สามารุรับประทานอาหารเองได้จะต้องได้รับสารอาหารที่พียงพอต่อร่างกายและยาที่ต้องรับเพื่อรักษาอาการป่วย

สำหรับการให้ยาทางสายยางให้อาหารนั้นมักจะพบปัญหาได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น การอุดตันของสายยางให้อาหาร เมื่อให้ อาหารสายยาง การเกิดพิษจากยา ประสิทธิภาพของยาลดลง หรือทำให้การดูดซึมของยาลดลง การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับอาหาร ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบาย รวมถึงการเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถพบได้ในการให้ยาทางสายยางให้อาหาร จึงต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะถ้าเกิดข้อผิดพลาด หรือยาอาจจะไม่ดูดซึมอาจจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายได้ เพราะยาบางชนิดผู้ป่วยจะต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้ดุแลหรือแพทย์ควรสังเกตอาการของผู้ป่วยหลังจากที่ได้รับยาด้วย เพื่อป้องกันการเกิดสิ่งผิดปกติ หรือยาที่ให้ไปอาจจะมีประสิทธิภาพที่ลดลงได้ ถ้าเกิดความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการเปลี่ยนวิธีการบริหารยา ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ถ้าหากมีการสั่งให้ยาผ่านทางสายยางให้อาหาร ควรจะพิจารณาถึงความจำเป็นและเป้าหมายของการรักษาด้วย เพราะเนื่องจากยาบางชนิดสามารถหยุดให้ชั่วคราวได้ โดยไม่มีผลร้ายแรงต่อการรักษาหรือกับร่างกายผู้ป่วย ผู้ดูแลหรือแพทย์ควรพิจารณาว่าสามารถบริหารยาได้โดยวิธีอื่นได้หรือไม่ เช่น การฉีด สูดพ่น และข้อที่สำคัญที่สุดคือ ควรพิจารณายาในรูปแบบด้วย เพราะยาเม็ดบางชนิดห้ามบดหรือทำให้เม็ดยาแตก ยาบางชนิดถูกออกแบบให้ผ่านกระเพาะอาหารไปปลดปล่อยและดูดซึมในลำไส้เพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะอาหาร


ทั้งยังเป็นการป้องกันการถูกทำลายด้วยกรดในกระเพาะอาหารด้วย และเพื่อป้องกันการเกิดการอุดตันของสายยางให้อาหารด้วย ผู้ดูแลจะต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการบริหารยาทางสายยางให้อาหาร จะต้องทราบถึงวิธีการให้ยาแก่ผู้ป่วยที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถรับยาได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาถึงผลข้างเคียงในหลายๆเรื่อง เพราะการให้อาหารหรือยาทางสายยางให้อาหารควรจะต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของความสะอาดด้วย เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อได้ เรื่องความสะอาดถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการให้อาหารทางสายยาง


อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จำเป็นตองใช้ยาเม็ดผ่านทางสายให้อาหาร ผู้ดูแลควรพิจารณาว่ายาสามารถบดได้หรือไม่โดยยาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน เช่น simple compressed tablet เป็นยาเม็ดที่ไม่มีการเคลือบ ยาเม็ดเคลือบน้ำตาลหรือเคลือบฟิล์ม มักมีวัตถุประสงค์เพื่อกลบรสขมของยา สามารถบดเป็นผงได้ sublingual tablet (ยาใช้อมใต้ลิ้น) การบดเม็ดยาและให้ทางสายอาหารจะทำให้ ประสิทธิภาพหรือฤทธิ์ของยาลดลง จึงควรให้อมใต้ลิ้นไม่ตองบดให้ทางสายให้อาหาร enteric-coated tablet เป็นรูปแบบยาที่ต้องการให้เกิดการดูดซึมที่ลำไส้เล็กหรือป้องกันกรดในกระเพาะอาหารทำลายยา การบดเม็ดยาจะทำลายคุณสมบัติเหล่านี้ ในกรณีที่จำเป็นอาจจะบดเม็ดยาได้ แต่ยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และรูปแบบสุดท้าย extended-released tablet การบดเม็ดยาทำให้คุณสมบัติในการปลดปล่อยตัวยาเสียไป และอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้

การให้ยาทางสายยางให้อาหาร ก็ยังมีข้อจำกัดด้วย คือ ห้ามผสมยารวมกับอาหาร ควรหยุดการให้อาหารขณะให้ยา สําหรับ continuous feeding ควรเลือกรูปแบบยาน้ำก่อน และผู้ดูแลจะต้องเตรียมยาตามความเหมาะสมกับรูปแบบของยา นอกจากนี้ควรบดยาให้เป็นผงละเอียดและกระจายผงยาในน้ำก่อนใส่ในสายยาง ข้อแนะนำข้างต้นนี้ ผู้ดุแลจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอันตรายในการรับยาของผู้ป่วย

48
โรคมะเร็งถุงน้ำดี

มะเร็งถุงน้ำดี (Gallbladder Cancer) เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นตรงถุงน้ำดีใต้ตับซึ่งอยู่บริเวณชายโครงด้านขวา โดยถุงน้ำดีมีหน้าที่ผลิตสารที่ช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน มะเร็งชนิดนี้พบได้ค่อนข้างยากผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บช่วงท้องด้านขวา โดยจะแสดงอาการป่วยเมื่อเป็นมะเร็งได้สักระยะหนึ่งแล้ว


อาการของมะเร็งถุงน้ำดี

ในช่วงแรกอาการของมะเร็งถุงน้ำดีนั้นจะยังไม่แสดงออกมาจนกว่ามะเร็งจะแพร่กระจายลุกลาม ซึ่งหากตรวจพบได้เร็วจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยอาการที่อาจพบในผู้ป่วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ได้แก่

    ปวดท้องด้านขวามากกว่าปกติ มีก้อนเนื้อในช่องท้องข้างขวา
    ช่องท้องบวม ท้องอืด
    ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด
    คลื่นไส้ อาเจียน
    เป็นไข้คันตามผิวหนัง
    ดีซ่าน ซึ่งทำให้มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
    ปัสสาวะมีสีเข้ม และอุจจาระเปลี่ยนเป็นสีอ่อน


สาเหตุของมะเร็งถุงน้ำดี

มะเร็งเกิดจากดีเอ็นเอของเซลล์มีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งถุงน้ำดีนั้นยังไม่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดมะเร็งชนิดนี้ คือ

    สูบบุหรี่
    มีปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับถุงน้ำดีอยู่ก่อนแล้ว เช่น ลักษณะของผนังถุงน้ำดีเปลี่ยนแปลงไป มีติ่งเนื้อขนาดใหญ่บริเวณถุงน้ำดี เป็นต้น
    มีอายุ 70 ปีขึ้นไป
    มีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งถุงน้ำดี
    มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
    เป็นเพศหญิง เพราะฮอร์โมนเพศหญิงอาจมีส่วนทำให้เพิ่มการหลั่งคอเลสเตอรอลสะสมในถุงน้ำดีเป็นเวลานาน
    อยู่ในเขตอุตสาหกรรม หรือบริเวณที่มีมลพิษ


การวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดี

ในการวินิจฉัยโรคมะเร็งถุงน้ำดีนั้น แพทย์จะซักถามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ และประวัติสุขภาพของผู้ป่วย รวมทั้งอาจตรวจด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

    การตรวจร่างกาย แพทย์อาจตรวจหาสาเหตุของอาการป่วย เช่น อาการปวดท้อง อาการดีซ่าน เป็นต้น
    การตรวจประวัติทางการแพทย์ หากครอบครัวของผู้ป่วยเคยเป็นมะเร็งถุงน้ำดีมาก่อน ผู้ป่วยอาจอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้เช่นกัน
    การตรวจเลือด แพทย์จะนำตัวอย่างเลือดไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ เช่น ค่าการทำงานของตับ เป็นต้น
    การอัลตราซาวด์ เป็นการใช้คลื่นเสียงสะท้อนเพื่อสร้างภาพและตรวจหาก้อนเนื้อมะเร็ง
    การถ่ายภาพทางรังสี เป็นการฉายภาพตรวจภายใน โดยแพทย์อาจใช้เครื่องซีทีสแกน (CT Scan) ตรวจตำแหน่งที่มีเซลล์มะเร็ง หรือให้ทราบถึงขนาดของก้อนมะเร็งและการแพร่กระจายของมะเร็ง เพื่อให้สามารถประเมินการรักษาได้อย่างเหมาะสมต่อไป
    การตรวจเอ็มอาร์ไอสแกน (MRI Scan) คล้ายกับการอัลตราซาวด์และซีทีสแกน แต่เป็นการสร้างภาพเนื้อเยื่อภายในร่างกายจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการตรวจหาเซลล์มะเร็งถุงน้ำดีอย่างละเอียด
    การส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กแล้วนำกล้องสอดเข้าไปตรงช่องท้อง ใช้เพื่อตรวจหามะเร็งหรือผ่าตัดนำตัวอย่างเนื้อเยื่อมาตรวจหาเซลล์มะเร็ง

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยอาจทำได้ต่อเมื่อผู้ป่วยเกิดอาการหรือป่วยเป็นมะเร็งได้สักระยะหนึ่งแล้วเท่านั้น ซึ่งผู้ป่วยบางรายก็อาจมีการแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ แพทย์จะแบ่งระยะมะเร็งตามลักษณะการลุกลามของเซลล์มะเร็งถุงน้ำดี ดังนี้

ระยะที่ 1 มะเร็งจะอยู่ภายในถุงน้ำดี ยังไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่น
ระยะที่ 2 มะเร็งจะค่อย ๆ ลุกลามไปยังผนังชั้นนอกของถุงน้ำดี แต่ยังไม่ลุกลามไปที่ตับ
ระยะที่ 3 มะเร็งจะลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงส่วนอื่น ๆ เช่น ตับ ลำไส้เล็ก ต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
ระยะที่ 4 เกิดก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ และมะเร็งลุกลามแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ


การรักษามะเร็งถุงน้ำดี

การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี หากเป็นมะเร็งระยะแรกอาจสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งออกไปได้หมด ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งและสภาวะของผู้ป่วยเป็นหลัก

    การผ่าตัด มักใช้เพื่อรักษามะเร็งระยะแรก หากเซลล์มะเร็งขยายไปนอกถุงน้ำดีและบริเวณรอบ ๆ ตับ แพทย์อาจผ่าตัดนำถุงน้ำดีรวมทั้งตับและท่อน้ำดีบางส่วนที่เป็นมะเร็งออกไป โดยหลังผ่าตัดแพทย์อาจให้ผู้ป่วยรับการฉายรังสีและทำเคมีบำบัดร่วมด้วย
    การฉายรังสีบำบัด ในปัจจุบันการฉายรังสีอาจช่วยรักษาเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ ลดอาการข้างเคียงต่าง ๆ และทำลายเซลล์มะเร็งไม่ให้กลับมาอีกได้ ซึ่งอาจทำควบคู่กับการผ่าตัดด้วยก็ได้
    การใช้ยาเคมีบำบัด ส่วนมากจะใช้รักษามะเร็งขั้นรุนแรง อย่างมะเร็งที่แพร่กระจายสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
    การรักษาแบบประคับประคองอาการ ใช้เพื่อควบคุมและบรรเทาอาการปวดหรืออาการป่วยอื่น ๆ ที่เกิดจากโรคมะเร็ง

หลังการรักษาผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เป็นประจำ เพื่อติดตามผลการรักษาให้แน่ใจว่าเซลล์มะเร็งนั้นหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งแพทย์จะตรวจร่างกายหรืออาจทำซีทีสแกนทุก ๆ 6 เดือน โดยผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการข้างเคียงจากการรักษา จึงควรไปพบแพทย์เพื่อดูแลอาการอย่างถูกต้อง


ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งถุงน้ำดี

ผู้ป่วยมะเร็งถุงน้ำดีอาจเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ เนื่องจากเซลล์มะเร็งชนิดนี้มีแนวโน้มแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากมะเร็งถุงน้ำดี ได้แก่

    หากเซลล์มะเร็งเกิดการอุดตันที่ท่อน้ำดี อาจทำให้เกิดอาการดีซ่านหรือภาวะตัวเหลืองตาเหลือง และอาจมีอาการป่วยอื่น ๆ ตามมาได้
    อาจกลับมาเป็นมะเร็งถุงน้ำดีซ้ำอีกครั้งหลังการรักษา โดยอาจเป็นที่ถุงน้ำดี หรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย


การป้องกันมะเร็งถุงน้ำดี

โรคมะเร็งถุงน้ำดียังไม่มีวิธีการป้องกันที่แน่ชัด แต่อาจลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดนี้โดยดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี และปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

    ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารจำพวกธัญพืช ผัก และผลไม้
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีควันบุหรี่

49
motor show: ฟอร์ด เปิดตัวเซ็ตชุดแต่ง แอดเวนเจอร์แพ็ค เสริมสไตล์ความเท่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต ในราคาสุดเร้าใจ

ฟอร์ด ประเทศไทย นำเสนอชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษสำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต ตอบโจทย์ลูกค้าฟอร์ดที่ชื่นชอบการแต่งรถคู่ใจให้มีเอกลักษณ์ด้วยชุดแต่งพิเศษ แอดเวนเจอร์แพ็ค มาในราคาสุดเร้าใจเพียง 20,000 บาท จากราคาปกติ 59,567 บาท พิเศษจำนวนจำกัด เมื่อจองและออกรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต พร้อมแพ็คเกจเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (DAT Pack B) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 และจัดไฟแนนซ์ผ่านฟอร์ด ลีสซิ่ง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษต่อที่สองด้วยดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งพร้อมชุดแต่ง

 
“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกการเดินทาง นอกจากการออกแบบสุดเท่ สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และแพ็คเกจเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มาในราคาคุ้มค่าแล้ว ชุดแต่ง แอดเวนเจอร์แพ็ค ยังนับเป็นการรวบรวมชุดแต่งยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการผจญภัยในวันหยุดพักผ่อนมานำเสนอในราคาเร้าใจ เราจัดเต็มด้วยชุดแต่งดีไซน์เท่ และอุปกรณ์เสริมสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม ซึ่งเรามั่นใจว่าจะช่วยเสริมให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งานที่ลูกค้ามองหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายเมธัส ลิขิตสัจจากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
 
ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ แอดเวนเจอร์แพ็ค ช่วยเสริมความเท่และดุดันให้กับตัวรถด้วย กระจังหน้า FORD สีดำ คิ้วไฟหน้าและคิ้วไฟท้ายสีดำ สติ๊กเกอร์ตกแต่งด้านข้างตัวรถ
 
 
เสริมลุคสปอร์ตด้วยชุดคิ้วโป่งล้อสีดำด้าน เสริมหล่อภายในด้วยชุดชายบันไดประตู สเตนเลส พร้อมตอบโจทย์ไลฟสไตล์ลูกค้าที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวแบบผจญภัยสายแคมปิ้งด้วยชุดแร็คติดหลังคา ARB ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ แอดเวนเจอร์แพ็ค
 

เป็นอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษซึ่งจำหน่ายและติดตั้งโดยผู้จำหน่ายฟอร์ด ลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ โดยอุปกรณ์ตกแต่งแท้ฟอร์ดมาพร้อมการรับประกันคุณภาพสูงสุด 5 ปี/150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ลูกค้าที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้

 
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต พร้อมแพ็คเกจเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (DAT Pack B) รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่มอบทั้งความสมบุกสมบันในการเดินทาง ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ในราคาสุดคุ้ม ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตกแต่งแนวสปอร์ต จำหน่ายในราคา 1,580,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีดำ แอบโซลูท แบล็ก สีน้ำตาลอีควิน็อกซ์ บรอนซ์ สีเทา เมทิเออร์เกรย์ สีน้ำเงิน ไลท์นิ่งบลู สีเงินอลูมิเนียม เมทัลลิก และสีขาว สโนวเฟล็ก ไวท์เพิร์ล (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
 
หมายเหตุ:
1 แพ็คเกจและอุปกรณ์เสริมสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต พร้อมแพ็คเกจเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (DAT Pack B) ราคา 58,000 บาท
อัพเกรดจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch จากขนาด 10.1 นิ้ว เป็น 12 นิ้ว
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beam
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection
ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ

50
motor show 2024: First Look นิสสัน นาวาร่า ใหม่ ! 2024

นิสสัน นาวารา ปรับสเปคและภายในใหม่กับเวอร์ชันปี 2024 พร้อมสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ กับดีไซน์ภายในใหม่ สไตล์สปอร์ต พรีเมียม เสริมความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยังคงความโดดเด่นด้านสมรรถนะ และความทนทานจากรถกระบะของนิสสันทุกรุ่น โดย นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2024 มากับคำนิยาม “ทน พร้อม ลุย” ในทุกสถานการณ์ และยังให้ความมั่นใจกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

ดีไซน์ภายนอก ยังดูดุดันแฝงความทันสมัย ตลอดไปจนเส้นสายของตัวถังด้านข้าง และด้านท้ายรถ ที่ดูคมเข้ม พร้อมประโยชน์ใช้สอย สื่อถึงจุดเด่นของนาวาราที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง และในทุกสภาพการขับ กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค  ไฟหน้า Quad-Eye LED คุณภาพสูง พร้อมไฟ Daytime Running Light และไฟท้าย LED แบบ Guide light ที่โดดเด่น ซุ้มล้อขนาดใหญ่สไตล์รถออฟโรดตอกย้ำความพร้อมที่จะลุยในทุกสถานการณ์ สำหรับดีไซน์ภายนอกของนิสสัน นาวารา รุ่นPRO-4X และ PRO-2X  เด่นด้วยกระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ DLR  ล้ออัลลอยพร้อมยางแบบออลเทอเรน เสาอากาศดีไซน์ใหม่แบบ shark fin  ตัวถังยกสูงช่วยให้ผู้ขับลุยได้ทุกเส้นทาง และพร้อมสำหรับทุกความท้าทายด้วยความมั่นใจ ซึ่งในคลิปนี้เราจะแนะนำรุ่น PRO-4X


ตกแต่งรถในสไตล์ด้วยอุปกรณ์เสริม Utility Package ชุดใหญ่ กับคิ้วกันสาดประตู กันรอยมือเปิดประตูลายคาร์บอน ชุดคิ้วบันไดสเตนเลส ชุดพรมพร้อมยางปูพื้นนิสสัน นาวารา รุ่นปี 2024 มีสีภายนอกให้เลือกแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่สีเทา Stealth Gray ที่เป็น  ซิกเนเจอร์  สีทองแดง Forged Copper สีแดง Burning Red สีดำ Black Star สีเทา Twilight Gray  สีเงิน Brilliant Silver สีขาว White Pearl และ Solid White

ภายในลุคใหม่ทุกมุมมองกับคอนโซลหน้าจากรุ่นเทอร์ร่า เปลี่ยนบรรยากาศภายในของห้องโดยสารให้พรีเมี่ยมมากขึ้น ด้วยการตกแต่งที่ลงตัวทุกจุด เด่นด้วยจอทัชสกรีนใหญ่ขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X เพิ่มความสปอร์ต พรีเมียม มาพร้อมวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูงในหลายๆ จุด เช่น ที่พักแขน และคอนโซลหน้า และติดตั้งกระจกอคูสติก (Acoustic Glass) ลดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวน

รุ่น PRO-Series  มีเบาะนั่งปรับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับปรับเบาะนั่งให้เหมาะได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส  รวมทั้งยังเพิ่มบรรยากาศสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะเดินเส้นด้วยสีส้มที่นั่งตอนหน้าแบบ Zero Gravity เริ่มตั้งแต่ในรุ่น คาลิเบอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล หุ้มเบาะด้วยวัสดุ Quole Modure* ที่สะท้อน และไม่สะสมความร้อนแม้ต้องเดินทางในระยะไกล เพิ่มความสบายทั้งในรุ่น คาลิเบอร์และ PRO-Series ที่นั่งตอนหลังยังได้ติดตั้งที่พักแขน และที่วางแก้วน้ำให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมากยิ่งขึ้น

ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมแยกระบบควบคุมอุณหภูมิในแต่ละที่นั่ง ให้ความสบาย ผู้โดยสารแต่ละคนทั้งตอนหน้า และหลังสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการและเพื่อสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ นิสสัน นาวารา ยังมาพร้อม NissanConnect  ระบบอินโฟเทนเมนท์อัจฉริยะ ที่พร้อมสร้างความบันเทิง ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Wireless Apple CarPlay และเชื่อมต่อผ่านสาย USB สำหรับ Android Auto  ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง  พร้อมกันนี้ยังมีจุดชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้ง Type C และ Type A เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และสื่อสารได้อย่างไม่ขาดตอนขณะกำลังเดินทาง รวมทั้งยังมีช่องเก็บของหลายจุด ให้จัดเก็บของได้อย่างสะดวก ปลอดภัย สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย และยังมาพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ที่ใช้งานและควบคุมได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ขุมพลังเครื่องยนต์ทรงพลังและสมรรถนะสูง ภายใต้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 รหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร  4 สูบ แบบทวินเทอร์โบ พร้อมจะพาผู้ขับไปทุกที่ และสนุกกับทุกความท้าทายในการเดินทาง  เครื่องยนต์ใหม่รุ่นนี้มีความทันสมัยได้มาตรฐานยูโร 5 (EURO V) ที่มีการปล่อยไอเสียต่ำ แต่ยังคงให้การตอบนองทันใจ ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกับนิสสัน นาวารา รุ่นก่อนหน้า ฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับสามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง โดยให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นโหมดแมนนวล (M mode) ได้เพื่อเพิ่มความสนุกสนการขับที่ควบคุมได้ตามใจ รวมทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง และรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท (B7, B10, และ B20)

เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ ประสิทธิภาพเยี่ยมให้ความมั่นคงในการยึดเกาะถนน และควบคุมได้ ด้วยเทคโนโลยี Brake-Limited Slip Differential (B-LSD)  ระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO ที่ผู้ขับสามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นิสสัน นาวารา ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการบรรทุกหนักด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก

ระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยกล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มีกล้อง 4 ตัวที่แสดงภาพได้แบบเรียลไทม์ และมุมสูง ดูได้จากขอ 9 นิ้ว (สำหรับรุ่น PRO) ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Moving Object Detection (MOD) ที่ตรวจจับวัตถุรอบตัวรถในช่วงความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตรวจพบวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเตือนผู้ขับทันที รวมทั้งยังสั่งให้ระบบออฟโรด และระบบชับเคลื่อนทุกล้อทำงาน นอกจากนี้ยังมี Parking Sonar พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าและหลังที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุเคลื่อนไหวขณะที่กำลังจอด นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือต่างๆ อีกมากมายเหมือนเดิม

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 11