ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - สิริ พร

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9
1
รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ รถกระบะรับจ้าง 10ล้อ รับจ้างขนของ

รถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ บริการรถรับจ้างทั่วไป ในเขตสมุทรปราการ ด้วยบริการ รถกระบะรับจ้างขนของย้ายบ้านสมุทรปราการ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ รถ10ล้อรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ รถเฮียบรับจ้างสมุทรปราการ รถเครนรับจ้างสมุทรปราการ รถบรรทุกรับจ้างสมุทรปราการ รถรับจ้างสมุทรปราการ รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรปราการ เป้นต้น ซึ่งงานหลักๆที่เราให้บริการในขณะนี้ จะเป็นงาน รับจ้างย้ายบ้าน ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง รับจ้างขนของทั่วไป ขนย้ายสินค้าการเกษตร ย้ายหอ ย้ายออฟฟิค ขนย้ายคอนโด เรียกได้ว่า เรามีรถทุกประเภทที่มีความเหมาะสมในการขนย้ายของๆแต่ละงานอย่างพร้อมเพียง มาที่เดียวท่านได้ครบทุกอย่าง เพราะเราบริหารงานด้วยทีมงานที่มีคุณภาพโดยแท้ และเป็นสุดยอดงานบริการ รถรับจ้างขนของเขตสมุทรปราการ โดยแท้
   
ด้านบริการ คนยกสินค้า กรณีนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าเราเกือบทุกรายที่บางที มีคนขนของ มีเพื่อนมาช่วยขน แต่พอถึงเวลา เพื่อนมาไม่กี่คน หรือ ขนยกเองทำของตัวเองแตกบ้าง ล้มบ้าง ขอบอกเลยว่า รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรปราการ ของเรา มีช่างและคนผู้ชำนาญงานไว้คอยบริการท่านอยู่แล้ว โดยที่ท่านไม่ต้องเหนื่อยหรือกังวลที่จะยกของทั่งขึ้นและลง ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และถ้าข้าวของเสียหายจากการยก ทางทีมงานเราก็รับผิดชอบของที่เสียหายให้ได้อยู่แล้ว แล้วเราจะไปเสี่ยงทำไม และเหนื่อยทำไม ถูกมั้ยครับ ราคางานบริการเราก็คิดไม่แพง ต่อรองได้อีก บอกได้เลยว่า ทีมงาน รถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ หรือทีมงาน รับจ้างขนของ ทั่วไปของเรามีคุณภาพมากๆ ท่านจะไม่ผิดหวังที่โทรหารเรา

จุดพื้นที่ให้บริการ รถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ ได้แก่

รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ เมืองสมุทรปราการ
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ บางบ่อ
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ พระประแดง
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ บางพลี
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอบางเสาธง
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ พระสมุทรเจดีย์
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ สุขุมวิท
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ บางพลีใหม่
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ บางนา-ตราด
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ สำโรง
รถรับจ้างขนย้ายบ้านอำเภอ บางปู   

2
motor expo2024:  อีวี ไพรมัส โชว์ วู่หลิง บิงโก อีวี ในงาน Fast Auto Show Thailand 2024 โค้งสุดท้าย

บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า วู่หลิง (WULING) แต่ผู้เดียวในประเทศไทย (Sole Distributor) ตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าในงาน Fast Auto Show Thailand 2024 ในงานนี้ ทาง อีวี ไพรมัส ได้นำรถ วู่หลิง แอร์ อีวี และ วู่หลิง บิงโก อีวี มาแสดงเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับตัวรถจริงก่อนจะมีพิธีเปิดตัวพร้อมราคาและโปรโมชั่นสุดพิเศษอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
 
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผยว่าในงาน Fast Auto Show Thailand 2024 นอกจากเผยโฉม วู่หลิง บิงโก อีวี แล้ว บริษัทฯ ยังแสดงความชัดเจนในการทำตลาด วู่หลิง แอร์ อีวี ตอกย้ำกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งสองรุ่น อีกทั้งยังจะมีการขยายเครือข่ายโชว์รูมการขายและบริการหลังการขายจากเดิม 33 รายมาเป็น 41 ราย เพื่อรองรับยอดขายที่มากขึ้นในอนาคตอันใกล้

“บริษัทได้มุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งเห็นได้ชัดในความเป็นเอกลักษณ์ของ Air EV ด้วยยอดขายกว่า 1,000 คัน และ การออกแบบในลักษณะ RETRO ของ BINGUO EV ที่กำลังจะเปิดตัวมาตลอด ทั้งนี้ กระแสข่าวสงครามราคา ได้สร้างแรงกระเพื่อมในตลาด สร้างความสนใจให้กับผู้ที่ต้องการซื้อรถอีวีมาใช้เป็นคันแรกของบ้านจำนวนมากให้หันมาให้ความสนใจกับรถไฟฟ้าในราคาช่วง 500,000 บาท ส่งผลให้ตลาดในช่วงราคานี้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งค่ายวู่หลิงเองจะตั้งใจทำราคาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อตอบรับความสนใจในช่วงระยะนี้ เตรียมพบกับราคาเปิดตัวและโปรโมชั่นสุดพิเศษในวันที่ 8 กรกฎาคมที่จะถึงนี้” นายพิทยา กล่าว

 
วู่หลิง บิงโก อีวี เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่ เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก ด้วยขนาดตัวรถ ความยาว 3,950 มม. ความกว้าง 1,708 มม. ความสูง 1,580 มม. ระยะฐานล้อ 2,560 มม. โดยจะเปิดตัว 2 รุ่นคือ Standard Range 333AC และ Standard Range 333DC

Standard Range 333AC และ Standard Range 333DC มาพร้อมกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 31.9 kW หรือ 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 31.9 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 333 กม. ทำความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ชม. โดยในรุ่น Standard Range 333DC รองรับการชาร์จกระแสตรง DC ซึ่งใช้ระยะเวลาการชาร์จจากแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% เพียง 30 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC ที่ 7kw ต่อชั่วโมง ที่จะชาร์จไฟเต็มในเวลา 4.5 ชม.

ในงาน Fast Auto Show Thailand 2024 นอกจากลูกค้าจะได้สัมผัสกับรถ วู่หลิง บิงโก อีวี อย่างใกล้ชิดแล้ว อีวี ไพรมัส ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถ วู่หลิง แอร์ อีวี ด้วยข้อเสนอรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 20,000 บาท
 
รถยนต์ไฟฟ้า วู่หลิง แอร์ อีวี นั้น มีระยะวิ่งสูงสุด 300 กิโลเมตร ทำให้ลูกค้าสามารถใช้รถได้ 2-3 วันก่อนต้องชาร์จไฟ มีอัตราสิ้นเปลืองที่กิโลเมตรละ 35 สตางค์ ไม่กินไฟสูงระหว่างรถติด ด้วยขนาดกะทัดรัดทำให้หาที่จอดรถได้ง่ายขึ้น เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้า วู่หลิง แอร์ อีวี นั้นจะสามารถแก้ Pain Point ของคนใช้รถในเมืองได้อย่างสมบูรณ์ ขับง่าย (Easy Drive) และเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน (Easy Life) แบ่งเบาภาระด้านค่าเดินทาง และ มีเทคโนโลยีเสริมความสนุกสนานในการใช้รถ ได้เป็นอย่างดี

วู่หลิง แอร์ อีวี ปัจจุบันมี 2 รุ่นคือ Standard Range และ Long Range โดยเป็นรถซิตี้ อีวี 4 ที่นั่ง 3 ประตู รถทั้ง 2 รุ่น ตัวรถมีขนาดความยาว 2,974 มม. ความกว้าง 1,505 มม. และความสูง 1,631 มม. ความจุของแบตเตอรี่สำหรับรุ่น Standard Range 17.3 kWh สามารถวิ่งได้ 200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 8 ชั่วโมง และรุ่น Long Range ความจุของแบตเตอรี่ 26.7 kWh สามารถวิ่งได้ 300 กม. ต่อการชาร์จแบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง 4 ชั่วโมง ในรุ่น Long Range มี Application ควบคุมการทำงานของรถได้จากระยะไกล อาทิเช่น ล็อค-ปลดล็อครถ ปรับกระจกขึ้น-ลง เปิด-ปิดแอร์ เช็คสถานะแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ และ ตำแหน่งรถ

สำหรับราคาเริ่มต้นของรุ่น Standard Range 425,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถและแบตเตอร์รี่ 3 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร และรุ่น Standard Range Extended ราคา 455,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอร์รี่ 8 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 2 ปี กรมธรรม์ชั้นหนึ่งของวิริยะประกันภัย ฟรีกระจกแบบ Tinted Privacy Glass จากโรงงาน ฟรี Charging Socket พร้อมเบรกเกอร์และชุดซ่อมยางอัตโนมัติ

ส่วนรุ่น Long Range ราคาเริ่มต้นที่ 465,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถและแบตเตอร์รี่ 3 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร และรุ่น Long Range Extended ราคา 495,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรและการรับประกันแบตเตอร์รี่ 8 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 2 ปีและกรมธรรม์ชั้นหนึ่งของวิริยะประกันภัย ฟรีกระจกแบบ Tinted Privacy Glass จากโรงงาน ฟรี Charging Socket พร้อมเบรกเกอร์และชุดซ่อมยางอัตโนมัติ และฟรีค่าบริการรายเดือนเชื่อมต่อ Wuling IoV Application เป็นระยะเวลา 3 ปี

3
10 สารอาหารบำรุงสมอง ลดภาวะสมองล้า ไม่เสื่อมง่ายก่อนวัย!

อายุที่เพิ่มขึ้น เป็นธรรมชาติที่จะเกิดความเสื่อมกับร่างกายไม่เว้นแม้กระทั่งสมองที่เราใช้ทุกวันและทุกเวลา โดยเฉพาะคนทำงานที่ใช้ร่างกายอย่างหนัก พักผ่อนน้อย มีภาวะเครียดสะสม อาจส่งผลให้อวัยวะสำคัญอย่างสมองเกิดภาวะสมองล้า ส่งผลให้ความจำและการทำงานของสมองลดลง ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคความจำเสื่อมก่อนวัย แนะสารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง!


สารอาหารสำคัญช่วยบำรุงสมอง!

1.    น้ำมันปลา (Fish Oil) เพราะอุดมไปด้วยดีเอชเอ (DHA) กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 ซึ่งมีมากในปลาชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ช่วยป้องกันโรคเสื่อมต่าง ๆ มีความสำคัญทั้งด้านความจำของสมอง ทักษะการทำงานด้านการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทและระบบการมองเห็นของจอประสาทตา

2.    สารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract) ช่วยในการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงสมองและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น ป้องกันภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน เพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นแก่ผนังหลอดเลือด เพิ่มพลังงานแก่เซลล์สมองโดยตรง ช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และมีความจำที่ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระจำพวกกลุ่มฟลาโวนอยด์ช่วยป้องกันความเสื่อมของสมองและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์

3.    โคลีน (Choline Bitartrate) คือ สารอาหารสำคัญตัวหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท รวมทั้งไลโปโปรตีน อีกทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างอะเซททิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ใช้ในการส่งกระแสประสาทของสมอง การรับสารโคลีนเพียงพอต่อวัน จะช่วยป้องกันภาวะความจำเสื่อมได้ อุดมอยู่มากใน เนื้อวัว ตับวัว อกไก่ เนื้อปลา ไข่แดง นม โยเกิร์ต เป็นต้น

4.    สารสกัดจมูกข้าว (Gamma Oryzanol) มีบทบาทสําคัญในการทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้ GABA ยังถือเป็นสารสื่อประสาทประเภทสารยับยั้ง โดยทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมองที่ได้รับการกระตุ้น ซึ่งช่วยทำให้สมองเกิดการผ่อนคลายและนอนหลับสบาย

5.    ธีอะนีน (L – Theanine) เพิ่มสารซีโรโทนิน โดพามีน และกาบา ทำให้เกิดความผ่อนคลายและลดความเครียดได้ เสริมให้จิตใจสงบ มีสมาธิมากขึ้น ไม่หงุดหงิดง่าย ช่วยให้ลำดับความคิดเป็นระบบระเบียบมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น นอนหลับสนิทและเต็มอิ่ม ธีอะนีน พบมากที่สุดในชาเขียว

6.    ฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine) ไขมันชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งไม่สามารถรับได้จากอาหารทั่วไป แต่ร่างกายสามารถผลิตได้เองเพื่อปกป้องเซลล์สมองให้มีสุขภาพที่ดี ป้องกันหรือชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมอง ช่วยรักษาความจำที่บกพร่อง โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) ความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ  ลดความอ่อนล้าของสมอง ให้เกิดความสมดุลทางอารมณ์ โดยกระบวนการผลิตสารชนิดนี้จะลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น พบมากใน ไข่ เมล็ดทานตะวัน ตับ และถั่วเหลือง


วิจัยพบ! นั่งติดเก้าอี้เพิ่มเสี่ยงมะเร็ง กินอะไรบูสต์ร่างกายจากการทำงานหนัก

1.    อิโนซิทอล (Inositol) สารชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีที่มีบทบาทสำคัญในระบบประสาทและระบบการกำจัดไขมันในร่างกาย อุดมไปด้วย Colostrums สารอาหารในน้ำนมแม่ระยะ 4 -5 วันแรก มีประโยชน์ในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) โดยเฉพาะเยื่อหุ้มระบบประสาท (Myelin Sheath) เซลล์รากผมที่ทำหน้าที่สร้างผม และเซลล์ไขกระดูกให้มีความแข็งแรงสมบรูณ์ อุดมมากใน จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง ลูกเกด แคนตาลูป เกรปฟรุต กะหล่ำปลี เป็นต้น

2.    สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract) พืชสมุนไพรที่นิยมมากกว่า 5,000 ปี มีความเชื่อกันว่า รากโสมสามารถรักษาได้สารพัดโรค สารสกัดจากโสมมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ช่วยต้านความเครียด ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและช่วยชะลอความแก่

3.    ซอยเลซิทิน (Soy Lecithin) มี Phosphaticylcholine ให้สารโคลีน ช่วยให้ความจำและความสามารถในการเรียนรู้ดีขึ้น การทำงานของตับมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการอุดตันของถุงน้ำดี ให้สารอิโนซิทอล ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท ทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น ใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคความจำเสื่อม

4.    แอลคาร์นิทีน แอลทาร์เทรต (L-Carnitine L-Tartrate) มีบทบาทสำคัญในส่วนของการผลิตอะซิติลโคลีน (Acetylcholine) สารเคมีในสมองที่ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทในสมอง ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสมอง และเซลล์ประสาท

การเลือกทานอาหารเสริมบำรุงสมองที่ปรุงและวิจัยโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญมาตรฐานโรงพยาบาลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเสริมความจำ ลดความอ่อนล้าของสมอง ลดความเครียด ปรับสมดุลอารมณ์ ช่วยให้สมองแข็งแรงไม่เสื่อมก่อนวัย ที่สำคัญควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างหลากหลายและดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกายด้วยนะคะ

4
12 เคล็ดลับ วิธีแก้ง่วง นอนน้อย ให้กลับมาสดชื่นพร้อมทำงานต่อ

"ฮ๊าวว.." เสียงหาวพร้อมกับน้ำตาไหลจากความง่วงนอนที่คุณต้องตื่นไปทำงาน อาการเซื่องซึมหลังจากถึงโต๊ะที่ทำงาน และยิ่งแทบลืมตาไม่ขึ้นหลังจากพักทาน ข้าวกลางวัน มา

12 เคล็ดลับ วิธีแก้ง่วง นอนน้อย ให้กลับมาสดชื่นพร้อมทำงานต่อ


1.ดื่มน้ำหรือดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อให้รู้สึกสดชื่น

2.ทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อมลูกอมหรือทานขนมขบเคี้ยว

3.ลดแป้งและของหวาน เนื่องจากเมื่อรับประทานจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการง่วงหลังอาหาร

4.ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง หรือดื่มน้ำชา กาแฟ ที่มีสารคาเฟอีน

5.ดมยาดม ความเย็นจากสมุนไพรจะช่วยให้ตื่นตัวขึ้น

6.กำหนดลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด และค่อยๆปล่อยอย่างช้า เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่สมอง

7.ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือใช้ผ้าเย็นๆเช็ดหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่นและหายจากอาการง่วงนอน

8.ฟังเพลงจังหวะสนุกๆ โดยขยับแขนขาตามจังหวะเพลง เป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราให้ตื่นตัวแก้อาการง่วงนอนได้ดี

9.ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยการลุกเดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือแกว่งแขนยืดเส้นยืดสายด้วยท่ากายบริหารแบบง่ายๆ

10.ออกไปข้างนอกสักครู่ หากกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง ลองปรับเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเดินออกไปสูดอากาศภายนอกสักครู่หนึ่ง

11.ลองปรับเปลี่ยนงานที่กำลังทำ หากกำลังทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร การอ่านรายงานหรืออ่านจากหนังสือแทน

12.หลับเลย ถ้าทำทั้ง 11 ข้อแล้วยังไม่หายง่วง แสดงว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว หากยังฝืนทำงานต่อ ประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลงและอาจเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นได้

วิธีแก้อาการง่วงนอนทำได้พร้อมกันหลายวิธี อาจพักปรับเปลี่ยนอิริยาบถพร้อมๆ กับการฟังเพลง ดื่มเครื่องดื่ม ทานของว่างประเภทผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือเลือกวิธีอื่นที่เหมาะกับตนเอง แต่หากทำแล้วยังรู้สึกง่วงนอน ควรหาโอกาสหลับอย่างน้อย 10 นาทีหรือนั่งหลับตานิ่งๆ เพื่อพักสายตาแล้วล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ก็สามารถทำให้คนที่มีอาการง่วงนอนรู้สึกสดชื่นขึ้นได้



5
ยาโรคเบาหวาน กินอย่างไรให้ถูกต้อง?

โรคเบาหวานเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินให้เพียงพอ หรืออินซูลินทำหน้าที่บกพร่องจึงไม่สามารถเอาน้ำตาลที่ได้จากอาหารไปใช้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ผลของน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานเป็นเหตุให้อวัยวะต่างๆ เสียหน้าที่ และเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น โดยเฉพาะที่ตา ไต ประสาทส่วนปลาย หัวใจ และหลอดเลือด

 
โรคเบาหวานแบ่งตามสาเหตุการเกิดได้ 4 ชนิด ดังนี้


1.เบาหวานชนิดที่ 1

เกิดจากขาดอินซูลิน ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินเข้าไปทดแทน มักเกิดในคนอายุน้อยและผอม พบได้ไม่มากประมาณ 5 – 10 เปอร์เซ็นต์


2.เบาหวานชนิดที่ 2

เกิดจากการขาดอินซูลินบางส่วนหรืออินซุลินทำหน้าที่บกพร่อง (ดื้อต่อฤทธิ์ของอินซูลิน) มักเกิดในผู้ใหญ่และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน แต่ปัจจุบันพบได้มากขึ้นในเด็กที่น้ำหนักเกินหรืออ้วน ซึ่งอาจเริ่มรักษาด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และยาลดระดับน้ำตาล


3.เบาหวานชนิดอื่นๆ

เช่น เกิดจากการใช้ยาบางชนิด ตับอ่อนอักเสบ ติดเชื้อไวรัสบางชนิด


4.เบาหวานขณะตั้งครรภ์

เป็นเบาหวานชนิดที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์และจะหายไปเองเมื่อสิ้นสุดการตั้งครรภ์ เกิดจากฮอร์โมนที่สร้างจากรก ทำให้เกิดภาวะดื้ออินสุลิน และการตั้งครรภ์ก็ทำให้มีการหลั่งอินสุลินจากตับอ่อนลดลง

 
หลักในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานขึ้นอยู่กับชนิดของเบาหวาน ประกอบด้วย

    การปรับวิถีการดำเนินชีวิต เป็นหัวใจสำคัญและมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาเบาหวาน โดยต้องปรับในเรื่องของอาหารโดยมีเป้าหมายเพื่อให้น้ำหนักลดลง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมทั้งเลี่ยงอาหารฟาสฟู๊ดและควรออกกำลังกายเป็นประจำวันละอย่างน้อย 30 นาที
    การใช้ยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ตามวิธีการบริหารยา
        ยารักษาโรคเบาหวานชนิดรับประทาน มีทั้งยาที่กินก่อนอาหาร และหลังอาหาร
        ยาก่อนอาหาร ออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะใช้พลังงานจากแป้งและน้ำตาล โดยกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมา ณ เวลาที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหลังจากกินอาหาร โดยทั่วไปแล้วมักแนะนำให้กินก่อนอาหารประมาณ 30 นาที ข้อควรระวังของยากลุ่มนี้ เมื่อรับประทานยากลุ่มนี้แล้วจำเป็นต้องรับประทานอาหารหลังทานยาเสมอ เพราะฮอร์โมนอินซูลินที่ถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าระดับปกติ จนอาจเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงได้

 
หากลืมกินยาต้องทำอย่างไร?

    ยาก่อนอาการ เช่นเดียวกับกรณีลืมกินยา ไม่ควรกินยาหลังอาหาร เพราะยาจะออกฤทธิ์ในช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงไปแล้ว จึงทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำลงไปมากกว่าเดิม อาจมีโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หากลืมทานยา ควรเว้นยาที่ลืมทานไปโดยไม่ต้องทานเพิ่มเป็นสองเท่าในมื้อถัดไป
    ยาหลังอาหาร ยาที่กินหลังอาหารมีหลายกลุ่มด้วยกัน และอาจใช้ยารักษามากกว่า 1 ชนิด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการรักษามากขึ้น กรณีลืมทานยากลุ่มนี้หลังอาหาร สามารถทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้อาหารมื้อถัดไปแล้ว ควรเก็บยาไว้ทานหลังอาหารมื้อถัดไปแทน

 
ยารักษาโรคเบาหวานชนิดฉีด

ปัจจุบันมียาฉีดหลายชนิด เช่น อินซูลิน ยากลุ่ม GLP-1 analogue ใช้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณต้นขา หรือหน้าท้อง วันละ 1-4 ครั้งก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง หรือฉีดก่อนนอน ควรหมุนเวียนเปลี่ยนที่ฉีดเข้าใต้ผิวหนังแทนการฉีดซ้ำที่เดิม แต่ยังคงอยู่ในบริเวณผิวหนังเดียวกัน เช่น ฉีดบริเวณต้นขา ก็เปลี่ยนตำแหน่งแทงเข็มโดยให้ยังคงอยู่ที่บริเวณต้นขา อินซูลินที่ยังไม่เปิดใช้ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาที่ไม่ใช่ช่องแช่แข็ง เมื่อจะนำมาใช้ค่อยนำออกมาจากตู้เย็น จากนั้นคลึงระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างเพื่อให้อินซูลินมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย ก่อนนำไปฉีด ดังนั้นถ้าไปโรงพยาบาลและรับยาฉีดอินซูลิน จึงต้องบรรจุน้ำแข็งระหว่างเดินทางจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน เพราะยาฉีดอินซูลินหากโดนความร้อนจัดจะเสื่อมสภาพและใช้ไม่ได้อีกต่อไป


สำหรับอินซูลินที่เปิดใช้แล้วสามารถวางไว้นอกตู้เย็นได้หากอุณหภูมิไม่สูงมาก แต่ต้องใช้ให้หมดภายใน 30 วัน ซึงข้อดีของยาฉีดอินซูลิน สามารถใช้ได้ในทุกกรณีที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง โดยอาจมีข้อบ่งชี้เฉพาะ เช่น ภาวะกรดคั่งจากคีโตน การตั้งครรภ์ โรคตับ โรคไต การผ่าตัด การติดเชื้อรุนแรง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงรุนแรง และผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้จากการควบคุมอาหารและยาเม็ดลดระดับน้ำตาล แต่ผลข้างเคียงจากการใช้ยา ได้แก่ ภาวะน้ำตาลต่ำ น้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นต้น

 
สิ่งสำคัญของโรคเบาหวาน…คือต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ผู้ป่วยต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้กลับสู่ระดับปกติหรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด การใช้ยาอย่างสมเหตุผล และการรับประทานยา หรือฉีดยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้การควบคุมโรคที่ดีจะทำให้ลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นทางด้านร่างกาย รวมทั้งลดผลกระทบทั้งด้านจิตใจและสังคม ดังนั้น เกณฑ์ที่แสดงว่าควบคุมโรคเบาหวานได้ คือ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร (Fasting Plasma Glucose FPG) อยู่ในระดับ 90-130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารน้อยกว่า 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือระดับฮีโมโกลบินที่มีนํ้าตาลเกาะ (HbA1c) น้อยกว่า 7

6
Mitsubishi Triton 2024: มิตซูบิชิ ทุ่มงบเปิดสายการผลิต ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ด้วยหุ่นยนต์กว่า 250 ตัว

มิตซูบิชิ เดินหน้าเพิ่มการลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน หรือ แอล 200 (L200) ที่โรงงานแหลมฉบัง รองรับการส่งออกไปทั่วโลก เผยสัดส่วนกระบวนการอัตโนมัติถึง 95% จากการใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัวผลิตรถกระบะ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน”

มิตซูบิชิ ทุ่มงบเปิดสายการผลิต ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ด้วยหุ่นยนต์กว่า 250 ตัว

มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ไทยเติบโตขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์แห่งภูมิภาคมาอย่างยาวนาน โดยมองว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ จึงดำเนินการผลิตรถยนต์รุ่นสำคัญๆ ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่นี่ เพื่อจำหน่ายส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลก

ที่ผ่านมา ได้ทุ่มงบลงทุนในหลากหลายภาคส่วนเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี โดยหนึ่งในการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนั่นก็คือ การทุ่มงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ในปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเป็นโรงงานพ่นสีที่มีคุณภาพสูง โดยผสานการทำงานที่แม่นยำของเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ากับความพิถีพิถันของบุคลากรที่บรรจงสร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยความประณีต

ทั้งยังมีระบบการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ด้วยพลังงานสะอาดโดยใช้ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังผลิตไฟฟ้าที่ 7 เมกะวัตต์ และมีแผนที่จะลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

MITSUBISHI TRITON 2023 มิตซูบิชิ ทุ่มงบเปิดสายการผลิตใหม่! ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ด้วยหุ่นยนต์กว่า 250 ตัว
ใช้หุ่นยนต์กว่า 250 ตัว ผลิต All-new Mitsubishi Triton

การเปิดตัว “ออล-นิว ไทรทัน” ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสายการผลิตรถกระบะอย่างเป็นรูปธรรมไปอีกขั้น โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ยกระดับสายการผลิตใหม่ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการเชื่อมประกอบตัวถังรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและมีความแม่นยำสูง โดยมีกำลังผลิตราว 200,000 คันต่อปี

“สายการผลิตอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์นี้ มีมาตรฐานสูงเทียบเท่าโรงงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นหัวใจแห่งยุทธศาสตร์สู่การเติบโต ด้วยการลงทุนที่ล้ำสมัย โดยในวันข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุน การผลิต การส่งออก และส่งต่อความรู้และเทคโนโลยี โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญ”


มิตซูบิชิ ทุ่มงบเปิดสายการผลิตใหม่

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตแบบอัตโนมัติสำหรับออล-นิว ไทรทัน ด้วยมุ่งหวังที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาทำหน้าที่ที่หลากหลาย อาทิ หุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่สามารถยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้ถึง 900 กิโลกรัม หุ่นยนต์เคลื่อนย้ายชิ้นงาน แขนกลที่มีความยืดหยุ่นซึ่งสามารถหยิบจับชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว หุ่นยนต์พร้อมระบบตรวจสอบหัวเชื่อมอัตโนมัติ กล้องตรวจคุณภาพแนวซีลตะเข็บรถยนต์แบบอัตโนมัติ อุปกรณ์ขันยึดแบบไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูง และระบบบันทึกข้อมูลการตรวจสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดการใช้กระดาษ


ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยให้กับพนักงาน

มร. เออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ระบบควบคุมอัตโนมัติรุ่นใหม่ทั้งหมดถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยให้กับพนักงานของเรา พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการควบคุมคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตออล-นิว ไทรทัน เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่รถระดับโลกอย่างออล-นิว ไทรทัน มีต้นกำเนิดจากโรงงานแหลมฉบังของเราแห่งนี้ และตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับเสียงตอบรับจากลูกค้า เราหวังว่าเทคโนโลยีการผลิตใหม่ล่าสุดของเรานี้จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น”

ออล-นิว ไทรทัน ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งภายใต้ดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อเติมเต็มและตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย พร้อมมอบความปลอดภัยและอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ความสงบเงียบและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง


mitsubishi triton 2023 ทุ่มทุนสายการผลิตใหม่

"ด้วยเครื่องยนต์ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power) รุ่นใหม่ เมกาเฟรมหรือโครงรถใหม่ ช่วงล่างใหม่ ที่มาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุดของห้องโดยสารทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน กลายเป็นสัญลักษณ์ระดับโลกที่สะท้อนถึงความทุ่มเทของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการสร้างสรรค์รถกระบะที่ดีที่สุดในคลาส เพื่อให้ ออล-นิว ไทรทัน เติมเต็มความสนุกในการใช้ชีวิตและมอบอรรถประโยชน์ให้กับลูกค้าทั่วโลก ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพและใช้งานส่วนตัว เราภูมิใจที่จะได้นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้งานรถกระบะในรูปแบบที่หลากหลาย ในวันข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความเติบโตโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อความสำเร็จและคุณค่าให้กับลูกค้าทั่วโลก”  มร. โคอิโตะ กล่าวปิดท้าย


7
เครื่องมือจัดฟันเด็ก EF Line ช่วยปรับสมดุลกล้ามเนื้อ

การจัดฟันในเด็ก ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่ง สำหรับเด็ก ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกรูปแบบ เนื่องจากในวัยเด็กนั้น มักพบเจอกับปัญหาฟันผุ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการละเลยในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่าน อาจจะคิดว่าการดูแลฟันของเด็กในวัยที่ยังมีฟันน้ำนมอาจจะไม่จำเป็น เพราะคิดว่ายังไงฟันแท้ขึ้นมาแทนที่อยู่แล้ว ซึ่งความคิดนี้ถือว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะฟันน้ำนมส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้


ถ้าหากเรามีฟันที่ผุหรือไม่รักษาสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย อาจจะส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติของการขึ้นของฟันแท้ได้นั่นเอง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะพบได้ก็คือการเกิดฟันซ้อนเก ฟันห่าง ทำให้มีปัญหาในการรับประทานอาหาร บดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดและส่งผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจและอาจจะโดนเพื่อนล้อได้ ดังนั้น จึงนิยมใช้วิธีการเข้ารับการจัดฟันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพและได้ผลแม่นยำมาก พ่อผู้ปกครอง อาจจะคิดว่าการจัดฟันในเด็กนั้น ยังไม่มีความจำเป็นมากเท่าไหร่


แต่หารู้ไม่ว่า การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่อายุตั้งแต่ 4-15 ปี ซึ่งจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า EF Line ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติได้ ทั้งยัง ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูก โดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุของเด็ก  นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟัน EF Line ยังช่วยปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ ได้อีกด้วย


และในวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน EF Line ในแง่ของการปรับสมดุลของกล้ามเนื้อของเด็ก ให้เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น  เพราะเด็กบางคนที่มีพฤติกรรมความเคยชินบางอย่าง เช่น การดูดนิ้ว การแกะเล็บ การกัดริมฝีปาก หายใจทางปากเป็นประจำ หรือมีการกลืนที่ผิดปกติ พฤติกรรมเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟัน หรืออาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดปกติด้วย ทำให้ต้องมารับการจัดฟันเร็วขึ้น เพื่อป้องกันหรือแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้น ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองหรือตัวเด็กเอง ก็ควรตระหนักและให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษา กล้ามเนื้อเป็นสิ่งกำหนดรูปร่างของอวัยวะต่างๆ เช่นใบหน้า โดยแท้จริงแล้วกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและมีอิทธิพลเหนือกระดูกมาก


ซึ่งพบว่าตำแหน่งและการทำงานของลิ้น กิจกรรมของกล้ามเนื้อรอบปาก และการหายใจผ่านทางจมูกล้วนมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขการสบฟันผิดปกติรวมไปถึงการคงสภาพผลของการจัดฟันในระยะยาว ซึ่งเครื่องมือการจัดฟัน EF Line ก็มีส่วนที่ช่วยปรับสมดุลให้กับกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยทำให้เด็กจัดฟันง่ายขึ้นและเสร็จเร็วมากขึ้น ทั้งยังเป็นการป้องกันปัญหาการคืนกลับตำแหน่งเดิมของฟันหลังจัดฟันด้วย สำหรับคำถามที่ว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือการจัดฟัน EF Line แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหรือเด็กโตขึ้น ฟันจะคืนกลับสภาพเดิมหรือไม่  ในข้อนี้ ต้องอธิบายก่อนว่า ถ้าหากเราเปรียบเทียบผลการจัดฟันแบบสวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น หลังการใส่ EF Line กับแบบที่ไม่ใส่ EF Line แค่จัดฟันอย่างเดียว แบบที่มีการใส่EF Line ร่วมด้วยจะสวยกว่าและแก้ปัญหากระดูกได้ดีกว่า รวมถึงคงสภาพไปตลอดชีวิตจะดีกว่า และไม่ทำให้ฟันไม่เคลื่อนด้วย

ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF Line จึงได้ผลมากกว่าการจัดฟันตอนโต แถมยังมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF Line สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ามาตรวจประเมินช่องปากเบื้องต้นกับทันตแพทย์จากทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์จัดฟันที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก จึงสามารถให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง ทำให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

8
มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi POCO F6 Pro (16G/1TB)
18,990 บาท

เสียวหมี่ Xiaomi POCO F6 Pro (16G/1TB)
Snapdragon® 8 Gen 2 ระดับเรือธง เทคโนโลยี LiquidCool 4.0 พร้อม IceLoop
120W ไฮเปอร์ชาร์จอัจฉริยะ แบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh (typ)
กล้องสามตัว 50MP พร้อม OIS บันทึกภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเซ็นเซอร์ภาพ Light Fusion 800
WQHD+ 120Hz Flow AMOLED ความสว่างสูงสุดที่ 4000 nits เพื่อภาพที่งดงามตระการตา
ดีไซน์ระดับพรีเมียมพร้อมเฟรมโลหะ ฝาหลังทำจากกระจกโค้งสี่ด้านสุดเรียบเนียน

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น             เสียวหมี่ Xiaomi POCO F6 Pro (16G/1TB)
   ราคากลาง          18,990 บาท
   จำนวนซิม           2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์          จอสัมผัส
   สี                   White, Black

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM: แบนด์ 2/3/5/8)
3G(WCDMA: แบนด์ 1/2/4/5/6/8/19)
4G(LTE FDD: แบนด์ 1/2/3/4/5/7/8/18/19/20/28/66 | LTE TDD: แบนด์ 38/40/41)
5G(Sub6G: แบนด์ n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/77/78)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 160.86 x กว้าง 74.95 x หนา 8.21 มม., น้ำหนัก 209 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  1000 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ            จอสัมผัส (WQHD+ Flow AMOLED DotDisplay)
   ความละเอียด     6.67 นิ้ว, 526 ppi, 1,440 x 3,200 px

   รายละเอียดอื่น
อัตราคอนทราสต์: 5,000,000:1
ความสว่าง: 700 nits (typ), 1200 nits (ความสว่าง HBM), 4000 nits (ความสว่างสูงสุด)
อัตรารีเฟรช: สูงสุด 120Hz
ความไวตอบสนองการสัมผัส: สูงสุด 480Hz
ความไวตอบสนองการสัมผัสฉับไว: 2160Hz*
ความลึกของสี 12 บิต 6.8 หมื่นล้านสี
ช่วงสีกว้างระดับ DCI-P3
การหรี่ไฟ PWM สูงสุด 3840Hz
สีดั้งเดิมโปร
โหมด Cycle
โหมดอ่านหนังสือ
การแสดงผลกลางแจ้ง
การแสดงผล HDR ระดับโปร
สีแบบปรับอัตโนมัติ
การแสดงผล HDR ปรับอัตโนมัติ
เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทาง 360°
HDR10+
Dolby Vision
ใบรับรองแสงสีฟ้าต่ำของ TÜV (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบของ TÜV
ใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพของ TÜV
*ต้องเปิดโหมดแสงอาทิตย์เพื่อใช้ความสว่าง 700 nits (typ)

กล้องถ่ายรูป
    ขนาด-ความละเอียด                  กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                              -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            Snapdragon? 8 Gen 2
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Adreno GPU
   หน่วยความจำ (RAM)              16.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             USB(Type-C), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(Wi-Fi 7/ Wi-Fi 6*/ Wi-Fi 5/ Wi-Fi 4 และ 802.11a/b/g)
   ระบบรับส่งข้อความ                 -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, WiFi, 4G, 5G

9
การใส่สายยางให้อาหารสายยางที่ถูกต้อง โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

ในการดูแลผู้ป่วย เพื่อเฝ้าระวังภาวะความเสี่ยงที่สามารถ เกิดอันตรายได้เสมอ การใส่สายยางให้อาหารแก่ผู้ป่วยนั้นคือการให้อาหารหรือผ่านทางสายให้อาหารเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของผู้ป่วย โดยการใส่สายเข้ากระเพาะอาหารเป็นชุดอาการที่พบบ่อยทั้งนี้เพราะผู้ป่วยในห้องตรวจ การใส่สายอย่างให้อาหารเข้ากระเพาะอาหารมีเพียงเพื่อแต่ส่งเสริมภาวะโภชนาการ ยังช่วยในการสืบค้นเพื่อวินิจฉัยและการดูแลรักษา พยาบาลหรือผู้ดูแลจึงต้องใช้ความรู้และมีเทคนิคในการใส่สายให้ได้อย่างถูกต้อง

และที่สำคัญป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดูที่ใส่สายเข้าทางกระเพาะอาหารเป็นการใส่สายทางรูจมูกผ่านโพรงจมูกไปยังคอ ถึงกระเพาะอาหาร เพื่อวัตถุประสงค์หลักๆคือการให้อาหาร น้ำและยา ในผู้ป่วยรายที่ไม่สามารถหรืออาหารได้เช่นผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวผู้ป่วยอัมพาตรวมถึงผู้ป่วยที่รับประทานอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ซึ่งการคาสายสายยางให้อาหารในกระเพาะอาหารที่ผ่านรูจมูกไม่ควรเกิน 4-6 สัปดาห์ หากเกินมากกว่านั้นจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือไซนัสอักเสบ หลอดอาหารอักเสบ ผนังกั้นรู้จมูกบัตรเจ็บเป็นเนื้อตาย หรือปลอดอักเสบจากการสำลักได้ หากผู้ป่วยจำเป็นต้องคาสายเข้ากระเพาะอาหารไว้เป็นเวลานานเท่อาจจำเป็นต้องพิจารณาใส่สาย เข้ากระเพาะอาหารผ่านผนังหน้าท้อง ซึ่งขั้นตอนในการใส่สายยางให้อาหารแก่ผู้ป่วยผ่านรูจมูก ผู้ดูแลหรือพยาบาลจะต้องเรียนรู้ขั้นตอนและจำขั้นตอนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญอยู่บนเทคนิคความสะอาดไม่ปนเปื้อน เนื่องจากว่าเป็นการใส่อุปกรณ์เข้าไปในร่างกายการปนเปื้อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญควรระวังเพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อภายในช่องท้องลดอาหารหรือโพรงจมูกได้


การใส่สายยางให้อาหารนั้นมีขั้นตอนดังนี้ เริ่มต้นจากการล้างมือให้สะอาด ทำการตรวจสอบดูรูจมูกผนังกั้นผู้ป่วยว่ามีทางสะดวกหรือไม่อะไรอุดกั้นหรือไม่ ทำการตรวจสอบดูรูจมูกผนังกั้นผู้ป่วยว่ามีทางสะดวกหรือไม่อะไรอุดกั้นหรือไม่ ต่อมาจัดถ้าผู้ป่วยให้นั่งหรือนอนศีรษะสูง หากผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวให้นอนหงายหรือท่าศีรษะสูงเล็กน้อย เพื่อให้หลอดอาหารตรงสายสามารถขึ้นลงตามแรงโน้มถ่วงได้ จากนั้นวัดความยาวของสายที่จะใส่เข้าไปในผู้ป่วยโดยวัดจากปลายจมูกถึงติ่งหูและจากติ่งหูถึงปลายกระดูกอก และทำเครื่องหมายมาร์คไว้


เพื่อกำหนดระยะจากรูจมูกเข้าสู่กระเพาะอาหารส่วนต้น ตรวจสอบสายยางให้อาหารไม่มีสิ่งใดอุดตันหรือมีสิ่งแหลมคมจากนั้นตัดพลาสเตอร์ประมาณ 10 เซนติเมตรเพื่อเตรียมแปะที่จมูกผู้ป่วยเข้ากับสายยางไม่ให้เลื่อนหลุด ถัดมาปูผ้ากันเพื่อนบนหน้าอกความสามรูปไปไว้ใต้คาร์ลให้ผู้ป่วยถือกระดาษเช็ดหน้าไว้เผื่อว่ามีอาการอาเจียนขย้อนมีน้ำมูกหรือน้ำลายไหลได้ ใส่ถุงมือ เตรียมสารหล่อลื่นไปสายโดยทำการหล่อลื่นประมาณ 6-10 cm  เพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างเยอะบุและสาย จากนั้นให้ผู้ป่วยนอนศีรษะขึ้นเล็กน้อยให้เห็นรูจมูกชัดเจนค่อยค่อยใส่สายยางเข้าทางรูจมูกอย่างนุ่มนวลให้สายผมลงตามแนวธรรมชาติของโพรงจมูกถ้าติดสายสายไม่ลงอย่าดันแรงให้คือค่อยหมุนซ้ายพร้อมเลื่อนสายเข้าไป เมื่อสายถึงคอให้ผู้ป่วยก้มศีรษะเล็กน้อยและให้ช่วยเตือนช้าๆ เพื่อช่วยในการใส่สายให้ไหลลงได้ง่าย


หากผู้ป่วยมีอาการไอสำลักหายใจไม่สะดวกหรือเขียวให้หยุดแล้วดึงสายออกทันทีรอจนกว่าอาการดังกล่าวจะดีขึ้นแล้วค่อยใส่ใหม่ จากนั้นตรวจสอบว่าสายอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่โดยการใช้กระบอกฉีดดันลมเข้าไปประมาณ 5-10 cc เข้าไปเร็วเร็วพร้อมกับใช้หูฟังเสียงลมผ่านกระเพาะบริเวณหน้าท้องส่วนบนด้านซ้าย หากได้ยินเสียงลมผ่านของเหลวนั้นแปลว่าสายยางให้อาหารนั้นอยู่ในกระเพาะอาหารเรียบร้อย หรือใช้กระบอกฉีดยาดูดของเหลวในกระเพาะอาหารออกมาถ้าพบว่ามีเศษอาหารขึ้นมานั่นแปลว่าอยู่ในกระเพาะอาหารเช่นกัน


หรือถ้าหากให้ผู้ป่วยพูดแล้วไม่มีเสียงแสดงว่าสายยางให้อาหารนั้นผ่านเส้นเสียง ใช้พลาสเตอร์ติดสายยางกับจมูกเพื่อยึดให้อยู่กับที่  และสุดท้ายปิดปลายสายด้านนอกด้วยตกรอบถ้าไม่มีจะครอบให้ใช้ผ้าก๊อซหุ้มใช้ตัวหนีบไว้ ดูแลทำความสะอาดเช็ดสายและช่องปากจมูกให้สะอาดพร้อมสังเกตอาการผิดปกติหลังใส่สายอย่างให้อาหาร

ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆหลังจากการให้สายยางให้อาหารนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอโดยสิ่งที่จำเป็นจะต้องระวังมากที่สุดก็คือป้องกันอย่าให้สายอย่างให้อาหารหลุดเลื่อนโดยที่ก่อนให้อาหารผ่านสายยางให้อาหารทุกครั้งจะต้องทำการตรวจสอบว่าสายยางให้อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่ตามขั้นตอนดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น  และขณะให้อาหารควรให้อาหารไหลอย่างช้า ๆเพื่อหลีกเลี่ยงแรงดันควรจะอุ่นอาหารก่อนให้อาหารเพื่อลดอาการ ท้องอืดแน่นท้องหรือท้องเสีย และหลังให้อาหารทุกครั้งจะต้องให้น้ำเพื่อลดอาการท้องผูกได้


อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆนั้นสามารถป้องกันได้จากการสังเกตอาการผู้ป่วย ผู้ดูแลหรือพยาบาลจำเป็นต้องสังเกตผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดขณะให้อาหารโดยเฉพาะหลังให้อาหารเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเช่นอาการสำลักหรือจะไอจามได้ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ผู้ป่วยที่ใส่สายยางให้อาหารได้รับอาหารอย่างปลอดภัย ทางเราให้ความสำคัญเรื่องอาหารเหลวแก่ผู้ป่วยที่ใส่ยาให้อาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะรวมถึงการขั้นตอนและอาหารที่ดีมีประโยชน์สะอาดและปลอดภัยแก่ผู้ป่วยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด

10
อาหารแก้ง่วงยามบ่าย

อาการง่วงนอนหาวหวอดเป็นโรคระบาดยามบ่ายๆ ของหนุ่มสาววัยทำงาน ที่ต้องทนทรมานกับความง่วงตลอดทั้งบ่าย ทำให้เสียสมาธิในการทำงานและเกิดอาการเกียจคร้านตามมา จนเสียงานการกันได้

หากว่าไปแล้วอาการอ่อนเพลียที่พูดถึงนี้ เป็นหนึ่งในอาการของโรคไฮโปไกลซีเมีย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกินอาหารผิดๆ โดยเฉพาะอาหารหวานๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลขัดขาวและแป้งขัดขาว

หากคุณยังจัดการกับการง่วงนอนหรือความรู้สึกเฉื่อยชาช่วงบ่ายไม่ได้สักที และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามี 4 อาหารช่วยแก้อาการดังกล่าวมาแนะนำค่ะ

     1. เมล็ดพืชมากคุณค่า ได้แก่ งา ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี (ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ) และจมูกข้าวสาลี ซึ่งมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ช่วยบำรุงประสาทและช่วยให้จิตใจแจ่มใส สดชื่น

     2. ไขมันดีๆ จากปลา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เสริมโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3 ให้แก่ร่างกาย และยังช่วยทำให้สมาธิและความจดจำดีขึ้น

     3. ผลไม้ที่มีโครเมียม ได้แก่ แอปเปิล กล้วย มันฝรั่ง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย

     4. ผักผลไม้อุดมวิตามินซี ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม บร็อคโคลี ช่วยต้านความเหนื่อยล้าที่มาจากความเครียดและกังวล

     เพียงเท่านี้ คุณก็โบกมืออำลาอาการง่วงนอนยามบ่ายๆ ได้แล้วค่ะ


เคล็ดลับ วิธีแก้ง่วง นอนน้อย ให้กลับมาสดชื่นพร้อมทำงานต่อ

1.ดื่มน้ำหรือดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อให้รู้สึกสดชื่น

2.ทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อมลูกอมหรือทานขนมขบเคี้ยว

3.ลดแป้งและของหวาน เนื่องจากเมื่อรับประทานจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการง่วงหลังอาหาร

4.ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง หรือดื่มน้ำชา กาแฟ ที่มีสารคาเฟอีน

5.ดมยาดม ความเย็นจากสมุนไพรจะช่วยให้ตื่นตัวขึ้น

6.กำหนดลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด และค่อยๆปล่อยอย่างช้า เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่สมอง

7.ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือใช้ผ้าเย็นๆเช็ดหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่นและหายจากอาการง่วงนอน

8.ฟังเพลงจังหวะสนุกๆ โดยขยับแขนขาตามจังหวะเพลง เป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเราให้ตื่นตัวแก้อาการง่วงนอนได้ดี

9.ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยการลุกเดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือแกว่งแขนยืดเส้นยืดสายด้วยท่ากายบริหารแบบง่ายๆ

10.ออกไปข้างนอกสักครู่ หากกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง ลองปรับเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเดินออกไปสูดอากาศภายนอกสักครู่หนึ่ง

11.ลองปรับเปลี่ยนงานที่กำลังทำ หากกำลังทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร การอ่านรายงานหรืออ่านจากหนังสือแทน

12.หลับเลย ถ้าทำทั้ง 11 ข้อแล้วยังไม่หายง่วง แสดงว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว หากยังฝืนทำงานต่อ ประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลงและอาจเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นได้

วิธีแก้อาการง่วงนอนทำได้พร้อมกันหลายวิธี อาจพักปรับเปลี่ยนอิริยาบถพร้อมๆ กับการฟังเพลง ดื่มเครื่องดื่ม ทานของว่างประเภทผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือเลือกวิธีอื่นที่เหมาะกับตนเอง แต่หากทำแล้วยังรู้สึกง่วงนอน ควรหาโอกาสหลับอย่างน้อย 10 นาทีหรือนั่งหลับตานิ่งๆ เพื่อพักสายตาแล้วล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ก็สามารถทำให้คนที่มีอาการง่วงนอนรู้สึกสดชื่นขึ้นได้


11
ไม่ต้องถอนฟัน ก็จัดฟันแบบดามอนได้

สำหรับคนที่มีปัญหา เรื่องของฟัน ที่เรียงตัวไม่สวยงาม ขอแนะนำอีกหนึ่งวิธี คือ การจัดฟัน แบบ Damon ด้วยวัสดุติดฟันแบบ Damon System ที่สามารถทำการรักษาโดยการลดปัญหาได้ 3 ประการด้วยกัน คือ

Damon passive self-ligating braces ใช้แบล็คเกตแบบมีบานล๊อคเปิดและปิด แทนการใช้ยางที่เป็นแรงดึงและยึดติดกับลวดเหล็ก ทำให้คนไข้ไม่ต้องทนเจ็บกับการดึงมากเกินไป

Light high-technology shape-memory wires การเคลื่อนที่ของฟันเป็นไปได้อย่างอิสระ จึงรวดเร็วขึ้นโดยที่ทันตแพทย์ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งมากจนเกินไป

A new clinically proven treatment approach ทำให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพและปรับให้เข้ากับโครงหน้าได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องถอนฟัน หรือใช้เครื่องมือใดๆ เพิ่มเติม


ข้อดีของการมีฟันครบ
ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ของการจัดฟันร่วมกับการถอนฟันก็คือ บางคนยิ้มแล้วฟันจะดูไม่เต็ม เหมือนมีอะไรหายไป ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดที่เราต้องยอมรับ เพราะสำหรับบางคน การถอนฟันเป็นเรื่องจำเป็น หากจะแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ หากไม่ถอนก็แก้ไม่ได้

แต่ถ้ามีฟันครบ จะทำให้ยิ้มแล้วเห็นฟันโค้งแบบเต็มๆ และที่สำคัญ บริเวณรอบปากจะอูมกำลังดี ดูเป็นธรรมชาติ

อีกหนึ่งผลข้างเคียง ของการจัดฟันร่วมกับถอนฟันก็คือ ในบางคน ฟันอาจยุบมากเกินไป ทำให้บริเวณริมฝีปากแบน ดูไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น

การจัดฟันแบบดามอน (Damon System) ก็เป็นการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่มีจุดเด่นก็คือ การจัดฟันโดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องถอนฟันของเราออก ซึ่งการจัดฟันแบบดามอนนี้จะมีลักษณะรูปแบบการจัดฟันโดยการใช้กลไกการสไลด์สำหรับการจับลวดดัดฟัน และยังสามารถช่วยลดการเกิดแรงเสียดทานในการยึดติดของอุปกรณ์ดัดฟันกับตัวฟันของเรา ซึ่งมันจะช่วยให้เรามีความรู้สึกสบายและไม่เจ็บปวดมากเหมือนกับการดัดฟันแบบอื่นๆ นอกจากนี้การจัดฟันแบบดามอนยังถูกออกแบบเพื่อใหเหมาะสมกับรูปหน้าของบุคคลแต่ละคนโดยเฉพาะ และยังสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากว่าการจัดฟันแบบดามอนนั้นจะไม่มียางที่ใช้ยึดติดกับฟันเพื่อให้อุปกรณ์และลวดคงอยู่กับที่ ฉะนั้นการที่ไม่มียางอยู่ก็จะเกิดคราบหินปูนได้น้อยกว่าารจัดฟันในรูปแบบอื่นๆนั่นเอง

ข้อเสียของการจัดฟันแบบดามอน การจัดฟันแบบดามอนมีข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

หากใครที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันสวยงามและมีรอยยิ้มสวยๆ การจัดฟันแบบดามอนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ลดความเจ็บปวดในการดัดฟันได้แต่ว่าหากต้องการจัดฟันแบบดามอนเราจะต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้นกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ สักหน่อยเพราะการจัดฟันแบบดามอนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร แต่เมื่อแลกกับฟันที่สวยและรอยยิ้มหวานๆ แล้วเชื่อว่าหลายคนก็คงยอมที่จะแลกเพื่อให้ได้มา

12
คอนโดติดรถไฟฟ้า วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน (Whizdom Craftz Samyan)
เริ่มต้น 7.99 ลบ.


วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน (Whizdom Craftz Samyan)
คอนโดมิเนียมสูง 55 ชั้น ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัย 423 ยูนิต จัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางทั้งสิ้น 2,316 ตร.ม. และที่จอดรถรวม 359 คัน มอบการอยู่อาศัยที่ปลอดภัยด้วยการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ ระบบคีย์การ์ดเข้า-ออก ประตูล็อกดิจิทัล นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการยังออกแบบมาให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ           วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน (Whizdom Craftz Samyan)
 เจ้าของโครงการ     แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น
 ราคา                  เริ่มต้น 7.99 ลบ. (ณ. วันที่ 4 ต.ค. 66)
 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล         คอนโดย่านธุรกิจกลางเมือง, คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด       High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี     1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, Penthouse, Duplex
 ขนาดห้องที่มี        ตั้งแต่ 30.00 ถึง 233.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนชั้น            55 ชั้น
 จำนวนห้อง          423 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด    359 คัน
 ค่าบำรุงส่วนกลาง   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค        สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, สวนหย่อม

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน         สีลม, บางรัก, สุรวงศ์, สี่พระยา, เจริญกรุง
 ที่ตั้ง         ถนนพระราม4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. 10500

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
สยามสแควร์
สยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์
สยามดิฟโคฟเวอรี่
สยามสแควร์วัน
เอ็มบีเค เซ็นเตอร์
รร.กรุงเทพคริสเตียน
รร.อัสสัมชัญ
รร.เตรียมอุดมศึกษา
รร.สาธิต มศว ปทุมวัน
รร.วัฒนาวิทยาลัย
รร.นานาชาติเรนทรี
รร.นานาชาติ โชรส์เบอรี กรุงเทพฯ
รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูวส์ สาทร
รพ.จุฬาลงกรณ์
รพ.กรุงเทพคริสเตียน
รพ.เลิดสิน
รพ.เซนต์หลุยส์
รพ.บีเอ็นเอช
 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

13
ยาชูกำลัง: อาหารเช้าช่วยปลุกสมอง สดชื่น กระปรี้กระเปร่าลองแล้วตื่นตัว !

ถ้ามื้อเช้าที่เป็นมื้อสำคัญ คุณไม่รู้ว่าจะกินอะไรเพื่อปลุกให้ร่างกายตื่นตัว ช่วยกระตุ้นสมองให้พร้อมทำงาน และเติมท้องให้อิ่มแบบได้คุณค่าทางสารอาหาร วันนี้ขอแนะนำเป็น 10 อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ต่อไปนี้ค่ะ รับรองกินแล้วตาสว่าง สมองตื่น ความง่วงหายไปอย่างไม่รู้ตัวเลย !


1. น้ำเปล่า

          เครื่องดื่มอย่างแรกที่อยากให้ตกถึงท้องทุกคนก่อนใครก็คือน้ำเปล่านี่เองค่ะ เพราะขณะที่ร่างกายเรานอนหลับ 6-8 ชั่วโมง เราจะไม่ได้ดื่มน้ำเลย ดังนั้นเพื่อเติมน้ำให้เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย น้ำเปล่าก็ควรเป็นสิ่งที่เราเติมเต็มให้ตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วเชื่อเถอะค่ะว่า หลังจากดื่มน้ำเข้าไปสักแก้วแล้ว จะรู้สึกสดชื่นตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย


2. น้ำมะนาว

          สำหรับคนที่ตื่นมาแล้วเพลียหนักมาก ดื่มน้ำเปล่าเพียว ๆ อาจไม่พอค่ะ ต้องเป็นน้ำมะนาวอุ่น ๆ สักแก้ว หรือจะบีบมะนาวลงไปในน้ำเปล่าปกติสักครึ่งซีกก็ได้ กลิ่นซิตรัสของมะนาวจะช่วยปลุกความสดชื่นให้สมอง ส่วนน้ำก็จะช่วยขับไล่ความอ่อนเพลียให้หมดไป



3. ไข่

          ไข่เป็นอาหารที่กินมื้อไหนก็อร่อย แต่หากกินไข่เป็นอาหารเช้าก็จะได้ประโยชน์ในแง่ของการบำรุงสมองที่อึน ๆ ให้ตื่นตัวขึ้นด้วย เนื่องจากไข่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโปรตีน นอกจากนี้ไข่ไก่ 1 ฟอง ยังมีโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง อยู่มากถึง 20% ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างตื่นตัว โดยยืนยันให้มั่นใจอีกทีด้วยผลการศึกษาในวารสาร International Journal of Obesity ที่พบว่า คนกินไข่ไก่เป็นมื้อเช้าจะรู้สึกตื่นตัวและพร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าคนที่กินอาหารชนิดอื่นที่ให้พลังงานเท่ากัน อย่างเช่น ขนมปังเบเกิล เป็นต้น


4. กล้วย

          กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตเซิงซ้อน ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อให้พลังงานแก่เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะเซลล์สมองได้ทันที อีกทั้งในกล้วย 1 ผล ยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินบี 2 บี 3 โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าได้อีกต่างหาก ดังนั้น หากมีเวลาจำกัด ต้องรีบเร่ง พกกล้วยน้ำว้าสัก 1-2 ผลไปกินเป็นมื้อเช้าได้เลยค่ะ



5. ข้าวโอ๊ต โฮลเกรน โฮลวีต

          ข้าวและธัญพืชไม่ขัดสีกลุ่มนี้ก็มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้ร่างกายเปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคสด้วยเหมือนกัน แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ นอกจากจะเป็นคาร์บเชิงซ้อนให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานแล้ว ธัญพืชเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นวัตถุดิบหลักของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้อวัยวะและเซลล์ในร่างกายตื่นตัว ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็ช่วยให้ร่างกายสดชื่นเพิ่มขึ้นด้วย


6. ข้าวกล้อง

          ข้าวกล้องมีกาบ้า สารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งข้าวกล้องยังมีวิตามินบีสูงมาก จึงช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ตื่นตัวได้อีกทาง


7. ถั่วชนิดต่าง ๆ

          ถั่วเป็นแหล่งของสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ทั้งโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น การกินถั่วเป็นมื้อเช้าก็ช่วยให้มีพลังกายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญกรดไขมันชนิดดีและธาตุสังกะสีจากถั่วยังจะเข้าไปเป็นพลังงานให้เซลล์สมองพร้อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ซึ่งหากใครไม่สะดวกจะกินถั่วเปล่า ๆ ลองกินถั่วกับโยเกิร์ต หรือจะเป็นเมนูขนมปังโฮลวีตทาเนยถั่วแบบนี้ก็ได้


8. องุ่น

          มีการศึกษาพบว่า ไม่ว่าจะกินองุ่นเขียว องุ่นดำ หรือองุ่นแดง ก็จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ที่ชื่อว่าองุ่น ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระนี่แหละที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของเซลล์ ในขณะเดียวกันก็เป็นพลังงานสำคัญของเซลล์สมองด้วย ดังนั้น หากเบื่ออาหารเช้าเดิม ๆ ลองหันมากินองุ่นกันบ้างก็ได้นะ


9. บลูเบอร์รี

          ผลไม้ชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากเช่นกัน และยังมีการศึกษาที่พบว่าคนที่รับประทานบลูเบอร์รีเป็นประจำจะมีความจำและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี อันเนื่องมาจากสารแทนนินในบลูเบอร์รีมีส่วนช่วยเชื่อมการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง จากที่ตื่นมาด้วยความมึนงง พอได้กินบลูเบอร์รีก็จะช่วยให้เชื่อมต่อข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้บลูเบอร์รียังมีสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) ที่เชื่อกันว่าเป็นสารที่ช่วยเติมเต็มความสามารถของสมองในด้านการเรียนรู้ ความคิด และความจำ


10. แอปเปิล

          ผลไม้อย่างแอปเปิล มีน้ำและน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ทันที ดังนั้น ใครที่รู้สึกเพลีย ๆ หลังตื่นนอนแอปเปิลก็จะช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แต่ประโยชน์ของแอปเปิลยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Cornell ยังพบว่า แอปเปิลมีสารพฤกษเคมีที่ชื่อว่า เควอซิทิน (Quercetin) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์สมองและเซลล์ประสาทถูกทำลาย จึงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร

 

14
“การสร้างแบรนด์
ก็เหมือนกับ
การสร้างพื้นที่ทำธุรกิจของคุณเอง
ถ้าคุณไม่สร้างแบรนด์ เท่ากับว่าวันนี้คุณไม่มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ“

ครูแมกซ์
“สอนสร้างแบรนด์
สอนทำธุรกิจออนไลน์”

“การสร้างแบรนด์”
ไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าดูสวยงาม หรือการทำโลโก้กับสีสันที่ดึงดูดเท่านั้น แต่มันคือศิลปะในการสร้างเสน่ห์ที่ลูกค้าไม่อาจต้านทานได้ มันเหมือนการทำเวทมนตร์ ซึ่งไม่ต้องการไม้กายสิทธิ์ หรือหมวกวิเศษ แต่ต้องการความเข้าใจในลูกค้าและการสื่อสารที่ตรงจุด
สมมติว่าคุณกำลังขายกาแฟ ลองนึกภาพนี้สิ…
คุณไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่คุณกำลังขายช่วงเวลาแห่งความสุข
บทสนทนาที่ดี และความรู้สึกที่อบอุ่นใจ ทุกครั้งที่ลูกค้าหยิบถ้วยกาแฟของคุณ
พวกเขาไม่ได้แค่ดื่ม แต่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับเรื่องราวที่คุณเล่า
.
แบรนด์ที่ดี คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าจำได้ ไม่ว่าจะผ่านงานโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ หรือแม้กระทั่งการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์ที่สำคัญทั้งนั้น
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ตรงใจและสร้างความแตกต่าง  จะเป็น แบรนด์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในตลาด และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นศิลปะแห่งการเชื่อมต่อกับใจคนอย่างแท้จริง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://www.facebook.com/Krumax181026
เว็บไซด์ : https://businesssmarttools.com/
เบอร์โทร : 093-962-6545



15
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/


16
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

เหนื่อย เฉื่อย ชา ล้าสมอง
แฮงก์ มึนตึบ ง่วงนอน

ต้อง เอ็มเมด ออน เลย
แค่ฉีกแล้วเทใส่ปาก ดูดซึมไว หายมึนตึบ

วิตามินที่เป็นผง ละลายในปาก ดูดซึมได้ดีกว่า วิตามินที่เป็นเม็ด
จะเล่นเกมส์หนัก ดูซีรี่ย์ดึก ทำงานกะดึก
ตื่นสายแค่ไหน ก็แค่ ฉีกซอง กรอกปาก แล้วดื่มน้ำตาม
สดชื่นทันที ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน วิตามินผงละลายในปาก
ดูดซึมไว ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ทันที
ปลอดภัยกว่า ควบคุมโดยเภสัชมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ ใน เอ็มเมด ออน
L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน
ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกาย ด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
เลขที่ใบจดแจ้ง อย : 13-1-15859-5-1159
รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม)
เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยว ก่อนกลืน ดื่มน้ำตาม

สารกระตุ้น ที่ขายในท้องตลาด
ปลอดภัยกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน!!!
ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่!!!
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเภสัชมหิดล
สำหรับคนนอนดึก เข้ากะดึก ง่วง หงาว หาว อยากนอน
แค่ ฉีก ซอง ใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น ได้ทันที
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์ https://mmed.com/promotions/


17
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



18
all new mitsubishi triton 2024: Mitsubishi Triton เจนฯ 6 กลับมาขายใหม่ที่ญี่ปุ่นในรอบ 10 กว่าปี

หลังจากที่ Mitsubishi Triton 2024 ใหม่ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ล่าสุดทางมิตซูบิชิประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศวันที่ทางรถกระบะเจนฯ ใหม่ จะลงตลาดวางขายในดินแดนอาทิตย์อุทัยแล้ว โดยมีกำหนดลงโชว์รูมในวันที่ 15 ก.พ. 2024 นี้ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่น GLS และรุ่น GLR โดยรถที่วางขายในแดนปลาดิบนี้จะถูกผลิตทั้งคันจากโรงงานในประเทศไทย

สำหรับ Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ถูกนำไปวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดนี้ จะมีเฉพาะตัวถังแบบ Double Cab 4 ประตู ในด้านงานออกแบบมาพร้อมแนวคิดที่เรียกว่า Beast Mode (บีสท์ โหมด) ที่สะท้อนความบึกบึน และทรงพลังแบบฉบับ

ด้านหน้ายังมาในแบบไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield) โดยในรุ่น GLR จะได้รับกระจังหน้าสีเดียวกัยตัวรถ พร้อมปั้มชื้อแบรนด์ M I T S U B I S H I ไว้ที่ขอบกระจังหน้าด้านบน ส่วนตรงกลางติดตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงิน ส่วนในรุ่น GLS จะเป็นกระจังหน้าสีดำ ขณะที่ลายละเอียดจะเหมือนกับในรุ่นท็อป GLR

นอกจากนั้นในส่วนชุดแต่งที่ขอบชุดไฟหน้า ในรุ่น GLR จะเป็นสีดำ ลากยาวมาจรดถึงกันชนหน้า ส่วนในรุ่น GLS จะเป็นสีบรอนซ์เงิน เช่นเดียวกัยที่ฝาครอบกระจกแมองข้าง และมือเปิดประตู ในรุ่นท็อปจะเป็นสีดำ ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะเป็นสีบรอนซ์เงิน นอกจากนั้นยังเติมความดุดันด้วยการ์ดกันกระแทกสีเงินในร่นท็อป ขณะที่รุ่นเริ่มต้นจะไม่มีติดตั้งมาให้

อีกทั้งในรุ่น GLR ยังมาพร้อมกับซุ้มล้อสีดำมาในแบบสามมิติ เข้าชุดกับล้ออัลลอยล้อรมดำขนาด 18 นิ้ว ส่วนในรุ่น GLS จะมีขนาด 18 นี้วเท่ากัน แต่จะมาในสีเทา

นอกจากนั้นในรุ่น GLR ยังได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์บนขอบกระบะท้าย มาพร้อมไฟท้าย ไฟท้าย LED T-shaped และกันชนหลังสีเงิน

โดยในรุ่น GLR จะมีให้เลือก 4 เฉดสีได้แก่ สีส้ม Yamabuki Orange Metallic, สีขาว White Dimond, สีเทา Graphite Gray Metallic และสีดำ Jet Black Mica

ส่วนในรุ่น GLS จะมีให้เลือก 5 เฉดสีได้แก่ สีขาว White Dimond, สีเทา Graphite Gray Metallic, สีดำ Jet Black Mica, สีบรอนซ์เงิน Blade SilveR Metallic และสีแดง Red Solid

ภายในห้องโดสารทั้ง 2 รุ่นย่อยจะได้รับจอเรือนไมล์แบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่หุ้มด้วยวัสดุหนัง มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้นับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, ช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้า และด้านหลัง 1 จุด, แท่นชาร์จมือถือไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม

แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด

สำหรับระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการกขับขี่ จะได้รับระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและผู้ใช้จักรยาน, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบป้องกันรถออกนอกเลน, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ และระบบอ่านป้ายจราจร, กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ e-Assist, ประตูกระบะท้ายพร้อมระบบกุญแจล็อก เป็นต้น

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนวอร์ชันญี่ปุ่นทั้ง 2 รุ่นย่อย จะมากัยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส 4N16 ความจุ 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับ Triton Athlete ที่จะเปิดตัวในประเทศไทยช่วงต้นปี 2567 นี้

ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-Ⅱ และระบบล็อกเฟืองท้าย

สำหรับ Mitsubishi Triton เวอร์ชั่นในตลาดญี่ปุ่น จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 15 ก.พ. ที่จะถึงนี้ โดยในรุ่น GLS จะมีราคา 4,988,000 เยน หรือราว 1.2 ล้านบาท และรุ่น GLR เปิดราคาอยู่ที่ 5,401,000 เยน หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท



19
ตรวจสุขภาพโบทูลิซึม (Botulism)

โบทูลิซึม เป็นโรคที่เกิดจากพิษของแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ทำลายระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต จัดว่าเป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง พบได้ในคนทุกวัย บางครั้งพบการเจ็บป่วยพร้อมกันหลายคนจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนพิษ (อาหารเป็นพิษ)

ในบ้านเราเคยมีรายงานผู้ป่วยโรคนี้จากการกินหน่อไม้ปี๊บที่เป็นพิษเป็นครั้งคราว เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 มีรายงานการป่วยเป็นโรคนี้พร้อมกันกลุ่มใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ของโลกจำนวน 209 ราย จากการกินหน่อไม้ปี๊บ ในงานฉลองพระธาตุเมล็ดข้าว ที่อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ในจำนวนนี้มีประมาณ 40 รายที่มีอาการหนักจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

สาเหตุ

เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อบาดทะยัก เชื้อโรคมีลักษณะเป็นสปอร์ (spore) พบอยู่ตามดินทราย ตะกอนในน้ำ ฝุ่นละออง สามารถปลิวกระจายไปตามอากาศ มีความทนทานอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายปี สปอร์เมื่อตกอยู่ในที่ที่มีความชื้นมีสารอาหารและขาดออกซิเจน เช่น ในลำไส้ บาดแผลลึกและแคบ อาหารที่บรรจุในภาชนะที่ปิดมิดชิด (เช่น กระป๋อง ปี๊บ ขวดนม ถุงพลาสติกสุญญากาศ) ก็จะเกิดการงอกเจริญเติบโต และปล่อยสารพิษที่มีชื่อว่า โบทูลิน (botulin) ออกมา

โบทูลิน* เป็นพิษต่อประสาท (neurotoxin) ออกฤทธิ์โดยไปจับกับปลายประสาท (presynaptic nerve terminal) ตรงบริเวณรอยเชื่อมต่อกับเส้นใยกล้ามเนื้อ (postsynaptic muscle membrane) เกิดผลในการยับยั้งไม่ให้ปลายประสาทหลั่งอะเซทิลโคลีน (acetylcholine) ซึ่งเป็นตัวนำสัญญาณประสาทไปสั่งให้กล้ามเนื้อทำงาน (หดตัว) พิษโบทูลินัมจึงทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายไม่หดตัว เกิดอาการอ่อนแรงเป็นอัมพาต นอกจากนี้ยังไปยับยั้งการส่งทอดสัญญาณประสาทของระบบประสาทอัตโนมัติพาราซิมพาเทติกที่อาศัยอะเซทิลโคลีนเป็นตัวนำสัญญาณประสาท ทำให้อวัยวะภายในทำงานผิดปกติ (เช่น รูม่านตาขยาย น้ำลายออกน้อย ท้องผูก ถ่ายปัสสาวะไม่ออก เป็นต้น) ปลายประสาทจะถูกพิษทำลายอย่างถาวร ต้องรอให้ปลายประสาทงอกขึ้นมาใหม่ ระบบประสาทและกล้ามเนื้อจึงจะฟื้นคืนหน้าที่ได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานาน 2-4 เดือน

โดยทั่วไป ผู้ป่วยอาจรับพิษของเชื้อชนิดนี้ได้ 3 ลักษณะ คือ

1. โบทูลิซึมจากอาหารเป็นพิษ (food-borne botulism) มักเกิดจากการกินพืชผักหรือเนื้อสัตว์ที่บรรจุอยู่ในภาชนะมิดชิดและมีความเป็นกรดไม่มาก เช่น หน่อไม้ เห็ด ถั่ว ข้าวโพด แตง ปลา อาหารทะเล สัตว์ป่า (เช่น เนื้อเก้ง) เป็ด ไก่ นม ที่บรรจุกระป๋อง ปี๊บ หรือขวดแก้ว ที่ผลิตแบบอุตสาหกรรมในครัวเรือนซึ่งขาดกรรมวิธีที่ถูกต้อง หรือในถุงพลาสติกที่ปิดมิดชิด ทำให้สปอร์ของเชื้อชนิดนี้ปนเปื้อนในอาหาร สามารถงอกเจริญเติบโตและปล่อยพิษเจือปนอยู่ในอาหาร เช่น หน่อไม้ปี๊บที่นิยมบริโภคในบ้านเรานั้น จะทำการต้มหน่อไม้นานเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่สามารถฆ่าสปอร์ที่ปนเปื้อนได้ แล้วอัดใส่ปี๊บ ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง รอจำหน่ายหมดภายใน 3-6 เดือน สปอร์ก็สามารถงอกเจริญเติบโตและปล่อยพิษออกมา (ส่วนหน่อไม้ดองที่มีรสเปรี้ยว มีการใส่น้ำมะนาวหรือน้ำส้มในการดอง ทำให้มีความเป็นกรดหรือ pH ต่ำกว่า 4.6 สปอร์ไม่สามารถเจริญเติบโต)

2. โบทูลิซึมจากการติดเชื้อทางบาดแผล (wound botulism) มักจะเป็นแผลลึกและแคบที่ขาดออกซิเจน รวมทั้งการฉีดยาเสพติดด้วยเข็มที่ไม่สะอาด สปอร์ในดินทรายที่ปนเปื้อนบาดแผลจะเข้าไปแบ่งตัวในบาดแผลแล้วปล่อยพิษเข้าสู่กระแสเลือด ไปทำลายระบบประสาททั่วร่างกาย การติดเชื้อลักษณะนี้พบได้น้อย

3. โบทูลิซึมในทารก (infant botulism) เกิดจากการกินอาหารที่ปนเปื้อนสปอร์ ซึ่งจะพบในทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากในลำไส้ของทารกยังไม่มีจุลินทรีย์ที่สามารถป้องกันการแบ่งตัวของสปอร์เช่นเด็กโตและผู้ใหญ่ สปอร์จึงเกิดการแบ่งตัวอยู่ในลำไส้ แล้วปล่อยพิษเข้ากระแสเลือดไปทั่วร่างกาย ในสหรัฐอเมริกาจะพบภาวะนี้ในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน มักเกิดจากการกินน้ำผึ้งที่มีสปอร์ปนเปื้อน บางครั้งอาจไม่ทราบสาเหตุชัดเจน สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการกินอาหารที่ปนเปื้อนสปอร์ที่ปลิวมากับฝุ่นละออง

กลไกการออกฤทธิ์ของพิษโบทูลิซึม

* โบทูลินจัดว่าเป็นพิษร้ายแรงที่สุดในบรรดาพิษที่เกิดจากแบคทีเรีย จึงมีการนำมาผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ
ปัจจุบัน มีการนำโบทูลินไปทำให้เจือจาง ผลิตเป็นยา (เช่น ยาที่มีชื่อว่า Botox) รักษาโรคต่าง ๆ เช่น ใบหน้ากระตุกครึ่งซีก (hemifacial spasm) ตากระพริบค้าง (blepharospasm) หนังตาบนถูกดึงรั้ง (eyelid retraction) ภาวะตาแห้ง ตาเข ไมเกรน อาการแขนขาเกร็ง กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวกว่าปกติหรือน้อยกว่าปกติ ต่อมลูกหมากโต อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง เสริมสวย (แก้รอยย่นบนใบหน้า) เป็นต้น

อาการ

โบทูลิซึมจากอาหารเป็นพิษ มักจะมีอาการเกิดขึ้นหลังกินอาหาร 8-36 ชั่วโมง (แต่อาจพบเร็วสุด 4 ชั่วโมง และนานสุด 14 วัน) หากรับปริมาณพิษเข้าไปมาก อาการก็จะเกิดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอาการเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังกินอาหาร อาการมักจะรุนแรง มักเป็นพร้อมกันหลายคน

แรกเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง บางรายอาจมีอาการท้องเดินร่วมด้วย หลังจากนั้นจะมีอาการอิดโรย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ มึนงง กระหายน้ำ ปากแห้ง คอแห้ง เจ็บคอ น้ำลายเหนียว หนังตาตก (ลืมตาไม่ขึ้น) ทั้ง 2 ข้าง ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน กลืนลำบาก พูดอ้อแอ้หรือเสียงค่อยมาก ท้องผูก ปัสสาวะไม่ออก

ในรายที่เป็นรุนแรง จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายตามมา โดยเริ่มจากบริเวณลำตัวกระจายไปสู่แขนขา กล่าวคือ จะมีอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อหน้าอก กะบังลม และหน้าท้อง ทำให้หายใจลำบาก ก่อนที่จะมีอาการอัมพาตของแขนขาทั้ง 2 ข้าง หากไม่ได้รับการรักษามักเสียชีวิตภายใน 3-7 วัน

ส่วนโบทูลิซึมจากการติดเชื้อทางบาดแผล มักมีอาการหลังมีบาดแผลประมาณ 4-14 วัน (เฉลี่ย 10 วัน) ผู้ป่วยจะมีประวัติฉีดยาเสพติด หรือมีบาดแผลตามผิวหนัง แล้วมีอาการแบบเดียวกับโบทูลิซึมจากอาหารเป็นพิษดังกล่าวข้างต้น ยกเว้นไม่มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร (คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน)

สำหรับโบทูลิซึมในทารก มักจะมีอาการหลังกินอาหารที่มีสปอร์ประมาณ 3-30 วัน อาการแรกเริ่มที่พบก็คือ อาการท้องผูก ต่อมาจะมีอาการง่วงซึม เฉยเมย ไม่ดูดนม ไม่กินอาหาร หนังตาตก กลืนลำบาก ร้องไม่มีเสียง คอพับคออ่อน เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก หายใจลำบาก

อาการของโบทูลิซึม

ภาวะแทรกซ้อน

ที่ร้ายแรง คือ ภาวะการหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นสาเหตุของการตายของผู้ป่วย

อาจมีโรคปอดอักเสบ (ปอดบวม) แทรกซ้อน เนื่องจากการสำลัก

บางรายอาจมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย ปากแห้ง ตาแห้ง เหนื่อยง่ายเวลาออกแรง นานเป็นแรมปี

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มักตรวจพบอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ เช่น หนังตาตก พูดอ้อแอ้หรือเสียงค่อยมาก กลืนลำบาก หายใจลำบาก แขนขาเป็นอัมพาต (ในทารกจะพบอาการคอพับคออ่อน เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก หายใจลำบาก)

ทั้งทารกและผู้ใหญ่ จะพบรูม่านตาขยาย และไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง รีเฟล็กซ์ของข้อลดลงหรือไม่มี

ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวดี และไม่มีอาการชาของแขนขา (เนื่องเพราะพิษโบทูลินไม่มีผลต่อสมองและประสาทรับความรู้สึก)

ผู้ป่วยมักไม่มีไข้ (ยกเว้นในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนในช่วงหลัง)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการถ่ายภาพสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เจาะหลังเพื่อตรวจน้ำไขสันหลัง ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) ตรวจพิษโบทูลินในเลือดหรืออุจจาระ ตรวจเพาะเชื้อจากอุจจาระหรือเศษอาหารในกระเพาะอาหาร รวมทั้งการนำอาหารที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุไปตรวจหาพิษ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ถ้าเกิดจากอาหารเป็นพิษจำเป็นต้องทำการขับเอาอาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะลำไส้ออกให้มากที่สุด โดยการทำให้อาเจียน ล้างท้อง หรือสวนทวาร ให้กินผง ถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) เพื่อลดการดูดซึมพิษ

ถ้าติดทางบาดแผล จำเป็นต้องตัดเลาะเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกไป

นอกจากนี้ ให้การดูแลรักษาแบบประคับประคอง เช่น ให้สารน้ำและสารอาหารทางหลอดเลือดดำ คาสายสวนปัสสาวะ ในรายที่หายใจไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าจะหายใจได้เอง ทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง ป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน เป็นต้น

บางกรณี แพทย์จะฉีดเซรุ่มต้านพิษ (botulinum antitoxin) ซึ่งควรฉีดภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีอาการ จึงจะได้ผลดีในการทำลายพิษที่หลงเหลืออยู่ในเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหนักขึ้น (ส่วนทารกที่เป็นโรคนี้จากการกินสปอร์ที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร จะใช้เซรุ่มต้านพิษไม่ได้ผล เพราะไม่สามารถทำลายสปอร์)

ผลการรักษาขึ้นกับความรุนแรงของโรคและความรวดเร็วของการได้รับการดูแลรักษา

หากได้รับการดูแลรักษารวดเร็วและถูกต้อง ส่วนใหญ่มักจะหายขาดได้ โดยใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่ากล้ามเนื้อจะทำงานได้เป็นปกติ

ในรายที่เป็นรุนแรง (มีภาวะหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ) หากไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ก็อาจเสียชีวิตภายใน 3-7 วัน หลังมีอาการ

โดยเฉลี่ย โรคนี้มีอัตราตายประมาณร้อยละ 5-10

การดูแลตนเอง

หากมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นเฉียบพลัน เช่น หนังตาตก พูดอ้อแอ้หรือเสียงค่อยมาก กลืนลำบาก หายใจลำบาก แขนขาเป็นอัมพาต (ในทารกจะพบอาการคอพับคออ่อน เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก หายใจลำบาก) ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อพบว่าเป็นโบทูลิซึม ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

1. เลือกกินอาหารกระป๋องที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง (ฆ่าเชื้อสปอร์ภายใต้หม้ออัดแรงดัน อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที)* หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋องที่บู้บี้ บวมป่อง หมดอายุ หรืออาหารที่บูดเน่า (มีกลิ่นเหม็นหรือเปลี่ยนสี)

2. หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่บรรจุในภาชนะมิดชิดที่ผลิตแบบอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่อไม้ปี๊บ เนื้อสัตว์ (เช่น สัตว์ป่า)

หากไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ควรนำไปต้มในน้ำเดือดหรือทำให้เดือดนานประมาณ 30 นาที แม้พิษโบทูลินจะถูกทำลายเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที แต่ในแง่ปฏิบัติแนะนำให้ต้มให้เดือดนาน 30 นาที เผื่อเวลาที่ความร้อนต้องส่งผ่านจากภายนอกเข้าสู่ภายในของชิ้นอาหาร**

3. อาหารที่เหลือเก็บไว้กินมื้อต่อไป ควรนำไปเก็บในตู้เย็น ไม่ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง และก่อนกินครั้งใหม่ควรปรุงให้ร้อน

4. เมื่อมีบาดแผลสกปรก ปนเปื้อนดินทราย ควรทำการชะล้างบาดแผลให้สะอาด และควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการป้องกันการติดเชื้อ

5. หลีกเลี่ยงการฉีดยาด้วยเข็มที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีทำให้ปลอดเชื้อ

6. หลีกเลี่ยงการป้อนน้ำผึ้งแก่ทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี

* สปอร์ มีความทนต่อความร้อนสูง การต้มให้เดือด (100 องศาเซลเซียส) ไม่สามารถทำลายมันได้ ในขณะที่พิษโบทูลินสามารถถูกทำลายด้วยความร้อนที่น้อยกว่า
** ดร.วิสิฐ จะวะสิต. สารพิษโบทูลิน: มหันตภัยที่ซ่อนในหน่อไม้ปี๊บ. นิตยสารหมอชาวบ้าน 2549:28(พ.ค.):17-24.

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ในระยะแรกมักมีอาการแบบอาหารเป็นพิษ (คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน) นำมาก่อนจะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยมีอาการอาหารเป็นพิษ อย่าลืมถามประวัติอาหารที่ผู้ป่วยกิน (เช่น หน่อไม้ปี๊บ อาหารกระป๋อง เนื้อสัตว์ป่าที่บรรจุในภาชนะมิดชิด) หากสงสัยควรเฝ้าสังเกตดูอาการอย่างใกล้ชิด (อาการปากแห้ง คอแห้ง หนังตาตก พูดเสียงค่อย กลืนลำบาก) และส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลด่วน

2. ผู้ป่วยที่มีอาการหนังตาตก (ตาปรือ ลืมตาไม่ขึ้น) อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น พิษงูเห่า โบทูลิซึม ไมแอสทีเนียเกรวิส เป็นต้น (ตรวจอาการอัมพาต/หนังตาตก ประกอบ) แต่ถ้าพบอาการหนังตาตกทั้ง 2 ข้าง หรือเกิดขึ้นฉับพลันพร้อมกันหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอาการแบบอาหารเป็นพิษนำมาก่อน ควรคิดถึงโบทูลิซึม

3. ในกรณีที่สงสัยผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ควรนำอาหารที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลด้วย

4. ผู้ป่วยที่รับพิษรุนแรง มักมีอาการหายใจไม่ได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต ต้องคอยเฝ้าดูอาการนี้ และให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ซึ่งมักจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าจะปลอดภัย

* ต่างกันที่การเรียงลำดับ โบทูลิซึมจะเป็นจากบนลงล่าง (descending paralysis) คือเริ่มที่หน้าก่อน ค่อยลงมาที่หน้าอก หน้าท้อง (หยุดหายใจ) แล้วไปสิ้นสุดที่แขนขา ส่วนพิษปลาปักเป้าจะเป็นจากส่วนปลายเข้าหาส่วนกลาง (ascending paralysis) คือ เริ่มจากแขนขาก่อน แล้วไปที่หน้าและไปสิ้นสุดที่หน้าอก หน้าท้อง (หยุดหายใจ) นอกจากนี้โบทูลิซึมไม่มีอาการชา ส่วนพิษปลาปักเป้ามีอาการชาที่ปาก ลิ้น หน้า แขน ขา


20
รถกระบะรับจ้าง ไม่มีเจ้าไหนถูกกว่าเจ้านี้แล้ว รถรับจ้างพะเยา 

รถรับจ้างพะเยาที่อยู่ใกล้สุดนานราคาเท่าไหร่แค่ไหนที่ไม่ได้ใช้บริการรับจ้างขนของ ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน รถรับจ้างขนย้ายห้อง รถสิบล้อรับจ้าง หรือรถรับจ้างขนาดใหญ่ที่เป็นรถเทรลเลอร์รับจ้าง ไม่ว่าจะเป็นงาน รับจ้างขนของ ขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ขนส่งสินค้า หรือ รับจ้างขนย้ายทั่วไป การที่จะได้รถรับจ้างที่อยู่ใกล้บ้านเรามากที่สุดนั้น เราต้องเริ่มจากการค้นหาคำที่มีความชัดเจน ว่าต้องการใกล้ที่ไหนมากสุด หรืออยากได้ให้รถรับจ้างไปขนของให้ที่เราที่จุดไหน ก็ระบุในคำค้นหาคำนั้นได้เลยทันที เช่น ขนย้ายของที่พะเยาก็ใช้คำว่า “รถรับจ้างพะเยา” และอีกความสำคัญนั่นคือการขนย้ายของที่นี่


เราจะขนย้ายเองหรือจะจ้างรถรับจ้างพะเยามาช่วยเราในการย้ายของ สาเหตุมาจากอะไรบางครั้งเราเคยถามตัวเองว่า ในการขนย้ายของในแต่ละครั้งเรามีความจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องใช้รถขนของของเราเอง หรือจะต้องไปทำการขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองเท่านั้น อีกมุมนึงเราก็มองว่าในเมื่องานบริการสิ่งเหล่านี้ ก็มีให้บริการอยู่มากมายอยู่แล้ว ความเป็นมืออาชีพก็ย่อมที่จะ มีมากกว่าเราอย่างแน่นอน เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะทำการขนย้ายของด้วยตัวเราเอง แล้วทำไมเราจึงต้องมาขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองในเมื่องานบริการเหล่านี้มีให้มาแต่ช้านาน ต้องบอกก่อนว่าเมื่อเราได้พิจารณาถี่ถ้วนดูแล้วหลายๆครั้งที่เราคิดอยากจะลดต้นทุนการขนย้ายของหรือต้องการที่จะประหยัด เพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้เราต้องรู้จักใช้เงินและประหยัดให้มากขึ้น จึงอยากที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเอง ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้บริการรถรับจ้างขนของแต่อย่างใด

เมื่อครั้งหนึ่ง เราเคยคิดแบบนี้และได้ตัดสินใจที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเองโดยที่ไม่เรียกใช้บริการ รถรับจ้าง ตอนนั้นเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ดูจากปริมาณสินค้าแล้วมีเพียงแค่ที่นอน ตู้เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้เพื่อนมาช่วยกันยกประมาณ 3 คนก็น่าที่จะจบ แต่พอถึงวันเวลาที่ขนย้ายกลับกลายเป็นว่ามีเพื่อนมาช่วยยกแค่ 2 คน ทำให้วันนั้นต้องเหนื่อยกับการขนย้ายของเป็นอย่างมากรู้สึกปวดเมื่อยและเหนื่อยล้า คิดอยู่เสมอว่าวันนั้นทำไมเราถึงไม่เลือกใช้บริการรถรับจ้าง เห็นเพียงแค่ว่ามีรถของตัวเองและอยากที่จะประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้นเองเหรอแล้วมันคุ้มกับการ ต้องมาปวดเมื่อยหรือเจ็บร่างกายหรือเปล่า พร้อมกับสินค้า มีการชำรุดเป็นรอยเพราะแรงที่เรายกนั้นไม่ไหวจริงๆ จึงทำให้เรารู้สึกเข็ดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

มาวันนี้ เมื่อเราต้องการที่จะใช้บริการ รถรับจ้างขนย้ายสินค้าจังหวัดพะเยา อีกครั้ง บอกได้เลยทันทีว่าต้องใช้บริการรถรับจ้างอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเรามองแล้วว่าไม่คุ้มแน่ๆถ้าหากเราต้องขนย้ายที่ตัวเราเองอีกสิ่งนึงที่ เราควรจะตระหนักถึงงาน บริการรถรับจ้างขนของ นั่นก็คือความปลอดภัยของผู้ให้บริการ ว่าเป็นผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่และที่สำคัญงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของรายนี้เป็นอย่างไรทุกคนต้องการอยากจะได้รถรับจ้างขนของที่สภาพดี มีคุณภาพในการบริการที่เด่นและมีความน่าเชื่อถือ

ดังนั้นเราจึงต้อง ทำการวิเคราะห์หรือหาข้อมูลการให้บริการของรถรับจ้างขนของต่างๆมากมายซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากว่าเราต้องการที่จะค้นหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่ารถรับจ้างนั้นมีรถรับจ้างที่เข้ามาให้บริการจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้เลยว่า อันดับที่อยู่ต้นๆหรือที่มีการโฆษณานั้นคุณภาพงานบริการจะดีหรือไม่ดี แต่เราควรที่จะดูถึงความน่าเชื่อถือดูรีวิวจากลูกค้าและราคาค่าบริการนั้นมันเหมาะสมสมเหตุสมผลหรือไม่ จึงเป็นที่มาว่าเราควรที่จะต้องวิเคราะห์พิจารณารถรับจ้างขนของอย่างไรไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างขนของ รถรับจ้าง 4 ล้อ รถรับจ้าง 6 ล้อ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน หรือ รถขนของหลากหลายชนิดอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในแต่ละขนาดของรถก็จะมีลักษณะงานที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเราจึงต้อง ศึกษาหาข้อมูลหรือเลือกข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์เบื้องต้นในการเลือกรถรับจ้างต่างๆดังนี้

ขนาดของรถรับจ้างต้องมีความเหมาะสมกับสินค้าที่จะขนย้าย ไม่ว่างงาน ย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายคอนโด ย้ายห้องขนส่งสินค้า รถกระบะรับจ้าง หกล้อรับจ้างพะเยา น่าจะมีความเหมาะสมที่จะเข้าให้บริการได้เป็นอย่างดี ยกเว้นแต่สินค้าที่มีปริมาณมากๆหรือบรรทุกน้ำหนักประมาณ 15 ตันก็ควรที่จะใช้ รถสิบล้อรับจ้าง เป็นต้น

ต้องมีคนยกสินค้าหรือพนักงานยกของ เพราะนี่คือสิ่งสำคัญสำหรับการให้บริการ รถรับจ้าง เพราะว่าเราไม่ได้ขนย้ายด้วยตัวเราเอง ดังนั้นเราจึงควรที่จะหาพนักงานยกสินค้าที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามายกสินค้าให้กับเรา

ที่ไปที่มาของผู้ให้บริการรถรับจ้าง ควรที่จะ อยู่ในพื้นที่หรือในระแวกนั้นเพื่อที่จะสามารถให้รถรับจ้างขนของวิ่งเข้ามาให้บริการในช่วงระยะเวลาอันสั้นหรือเราสามารถที่จะบริหารและเวลาในการขนย้ายได้เป็นอย่างดีดังนั้นถ้าหากค้นหาคำว่ารถรับจ้างควรที่จะลงพื้นที่ในรายละเอียดเข้าไปด้วยเช่นต้องการรถรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรีเป็นต้น

ไม่เกี่ยงงานไม่งอแง เพราะต้องการผู้ให้บริการที่มีใจรักงานบริการจริงๆ โดยที่สามารถจะตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการได้แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม และพูดจาไพเราะสุภาพ

ใกล้ไกลแค่ไหนก็สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นอีกหนึ่งบริการที่เราควรจะต้องได้ใช้บริการอย่างแน่นอนเพื่อที่จะเช็คสถานะของสินค้าว่าถึงไหนแล้วหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงการขนย้ายสามารถที่จะโทรบอกผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของได้โดยทันที


ถ้าผู้ให้บริการสามารถที่จะเป็นไปตามคุณลักษณะดังนี้ เราก็มั่นใจได้เลยว่า งานบริการขนย้ายของในรอบนี้จะไม่มีเรื่องยุ่งยากและไม่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างแน่นอน โดยจริงๆแล้วงาน รับจ้างขนของจังหวัดพะเยา นั้นหากพูดไปแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา แน่นอนเพราะว่าเราไม่ใช่ คนที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เราจึงควรปล่อยให้ผู้ให้บริการรถรับจ้างเข้ามาบริการจัดการให้กับเราจึงจะมีความเหมาะสมที่สุดใช้คนให้ถูกงานเลือกรถให้ถูกคุณลักษณะของงาน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแต่ที่สำคัญต้องเลือก รถรับจ้างขนของที่บริการดีราคาไม่แพง หากเพื่อนๆหรือผู้ใช้บริการท่านใด มีความคิดว่าจะขนย้ายของ เรามีเบอร์ให้ท่านได้ลองติดต่อสอบถามหรือพูดคุยรายละเอียดผ่าน ผู้ให้บริการรถรับจ้างพะเยาโดยตรงไม่ต้องมีนายหน้า ซึ่ง เราเคยใช้บริการแล้วมองว่าบริการดีจริงและ มีความเป็นกันเองที่สำคัญต่อรองราคาได้ด้วย


รถรับจ้างในเขตต่างของพะเยา

อำเภอเมืองพะเยา

อำเภอจุน

อำเภอเชียงคำ

อำเภอเชียงม่วน

อำเภอดอกคำใต้

อำเภอปง

อำเภอแม่ใจ

อำเภอภูซาง

อำเภอภูกามยาว

21
อาหารสุขภาพ น้ำพริกกุ้งสด หนึ่งในเมนูอาหารไทยต้านมะเร็ง

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  จะทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การรับประทานผัก ผลไม้ก็ถือเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย โดยประเทศไทยของเรา ก็มีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ทำให้เราเลือกสามารถเลือกรับประทานผัก ผลไม้ได้อย่างหลากหลายและสามารถรับประทานได้ตลอดปี ทั้งนี้ พืชผักและผลไม้ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่น สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่แก่เกินวัย นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพโรคต่างๆได้ และพืชผักบางชนิด คนไทยนิยมรับประทานคู่กับน้ำพริก ซึ่งถือว่าเป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมาก และยังเป็นเมนูพื้นบ้านที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคต่างๆได้


สำหรับวันนี้ทางเราจะมาแนะนำเมนูอาหารไทยเพื่อสุขภาพ ที่ต้องถือได้ว่าต้องเป็นเมนูพื้นบ้านสำหรับทุกครัวเรือนเลยทีเดียว นั่นก็คือ น้ำพริกกุ้งสด ซึ่งเป็นอาหารไทยที่มีส่วนช่วยในการต้านโรคมะเร็ง และส่วนประกอบทั้งหมดในเมนูนี้ยังสามารถช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี  และยิ่งหากรับประทานคู่กับผักแล้ว ก็ยิ่งทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ได้รับเส้นใยอาหารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหารด้วย ถือว่าเป็นเมนูอาหารไทยที่น่ารับประทานแล้วยังได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย


สำหรับส่วนประกอบในเมนูเพื่อสุขภาพเมนูนี้ ประกอบด้วยกุ้งขนาดกลาง กระเทียมปอกเปลือก หอมแดง มะเขือพวง กะปิ พริกขี้หนู น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว ไข่ต้ม, ผักสดหรือผักนึ่งสำหรับทานกับน้ำพริก เช่น ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี แตงกวา หรือเลือกตามความชอบ และสำหรับเมนูอาหารไทย น้ำพริกกุ้งสด ก็มีวิธีการทำที่ง่ายมาก โดยขั้นตอนแรกนำกุ้งล้างทำความสะอาด แกะเปลือกและหั่นหยาบ นำไปลวกในน้ำเดือดจนสุก นำออกมาสะเด็ดน้ำ พักไว้ จากนั้นนำพริกขี้หนู หอมแดงและกระเทียมไปคั่วในกระทะจนหอม


จากนั้นจึงนำไปตำในครกพร้อมกะปิ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะนาว จากนั้นจึงเติมเนื้อกุ้งและมะเขือพวงลงไป ตำให้ส่วนผสมเข้ากัน ระวังอย่าให้เนื้อกุ้งเละจะทำให้ไม่น่ารับประทาน ตักน้ำพริกใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดหรือผักนึ่งตามใจชอบ ไข่ต้มและข้าวสวยร้อนๆ เพียงเท่านี้เราก็จะได้เมนูอาหารไทยเพื่อสุขภาพ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งผลวิจัยได้พบว่า 22 ตำรับอาหารไทยสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงมะเร็งได้และน้ำพริกกุ้งสดคือหนึ่งในเมนูอาหารที่สามารถต้านมะเร็งได้


ซึ่งหากเรามาวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านมะเร็งภายในส่วนประกอบในน้ำพริกกุ้งสดแล้ว ถือว่ามีประโยชน์หลากหลายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม ที่ให้สารออร์แกโกซัลเฟอร์ สามารถต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่ก่อมะเร็งได้สามารถกระตุ้นระบบทำลายสารพิษจึงสามารถต้านฤทธิ์สารก่อมะเร็งได้ และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา  Aspergillus fumigatus  ที่ทำให้ก่อโรคติดเชื้อในปอดได้ด้วย ต่อมาพริกขี้หนู ให้วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และความเผ็ดจากสารแคปไซซีน สารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยขัดขวางสารก่อมะเร็งไม่ให้ทำร้ายเซลล์


นอกจากนี้พริกขี้หนูยังจัดว่าเป็นสมุนไพร ที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย ป้องกันโรคร้ายแรงได้หลายชนิด มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย มะเขือพวง มีสารพวกฟลาโวนอยด์ และใยอาหาร ที่สามารถต้านฤทธิ์ของสารก่อมะเร็ง น้ำมะนาว ได้วิตามินซี และได้สารขมจากผิวผลมะนาว คือ ดี-ลีโมนีน ซึ่งต้านการเกิดมะเร็งได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามทางเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ และช่วยทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่อาจจะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้

22
อาหารทางการแพทย์สามารถใช้เป็นอาหารสายยางแก่ผู้ป่วยได้หรือไม่

อาหารทางการแพทย์ เป็นอาหารสำหรับใช้เป็นโภชนาการบำบัดสำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรคหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ ซึ่งในผู้ป่วยที่ร่างกายขาดพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นจากโรคหรือภาวะต่างๆ สิ่งหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารและความต้องการอย่างเหมาะสมนั่นก็คืออาหารทางการแพทย์ ในปัจจุบันอาหารทางการแพทย์มีให้เลือกหลากหลายชนิดและมีหลากหลายสูตรเพื่อให้เลือกให้เหมาะสมกับโรคของผู้ป่วย ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมุ่งเน้นให้ตรงกับความต้องการของร่างกายโดยเฉพาะ อาจจะอยู่ในรูปที่ใช้รับประทานหรือดื่มแทนอาหารหลักหรือในบางกรณีอาจดื่มเพื่อเป็นการเสริมอาหารบางมื้อและสำหรับใช้เป็นอาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยได้


ซึ่งหลายคนมีข้อสงสัยว่าอาหารทางการแพทย์สามารถใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยที่ให้ทางสายยางได้หรือไม่ ตอบก่อนว่าการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยนั้น สามารถใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้ป่วยที่หมดสติ ซึ่งร่างกายมีความจำเป็นที่ต้องได้รับสารอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอาจจะทำให้อาการป่วยแย่ลงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เพราะฉะนั้น อาหารทางการแพทย์ ก็สามารถใช้เป็นอาหารสำหรับให้ผู้ป่วยทางสายยางได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากอาหารทางการแพทย์สามารถนำมาชง ทำให้เป็นของเหลวเพื่อให้ไหลผ่านเข้าทางสายยางให้อาหารได้  เพราะฉะนั้นอาหารทางการแพทย์จึงตอบโจทย์ในเรื่องของการให้อาหารทางสายยาง ซึ่งโดยปกติแล้วการให้อาหารทางสายยาง จะใช้เป็นอาหารปั่นผสมหรืออาหารเหลวใส โดยใช้สายยางให้อาหารเป็นตัวนำอาหารเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นทางรูจมูกหรือทางหน้าท้อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


สำหรับสารอาหารส่วนใหญ่ ที่มีอยู่ในอาหารทางการแพทย์ ได้แก่คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ อาจจะถูกดัดแปลงให้ย่อยง่ายหรือผ่านการย่อยมาแล้วบางส่วน เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาหารทางการแพทย์ หากพูดในแง่ของอาหารทางสายยางแล้ว ถือว่ามีประสิทธิภาพเพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่ายโดยที่ ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักซึ่งอาหารทางการแพทย์บางชนิด อาจจะมีการเพิ่มสารอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของร่างกายในการนำไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าอาหารทางการแพทย์ไม่ได้มีจุดประสงค์หรือมีสรรพคุณในการรักษาโรคและไม่ใช่ยาแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคต่างๆได้ และที่สำคัญยังป้องกันภาวะโภชนาการขาดหรือที่เราเรียกว่าภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการรักษาได้


ทั้งนี้อาหารทางการแพทย์ ยังสามารถใช้เป็นอาหารหลักแทนอาหารในแต่ละมื้อได้สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารไม่ได้ตามปกติ รวมถึงผู้ป่วยที่มีร่างกายไม่สามารถย่อยดูดซึมอาหารได้ ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันการขาดสารอาหารลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออัตราการเสียชีวิตได้เนื่องจากร่างกายขาดสารอาหารที่จะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงไปด้วยดู ในปัจจุบันนี้อาหารทางการแพทย์มีให้เลือกมากมาย ทั้งสำหรับเด็กโดยเฉพาะ นั่นก็คือสูตรสำหรับเด็กที่ไม่ยอมรับประทานข้าวหรือรับประทานอาหารหลักได้น้อย


อย่างไรก็ตาม อาหารทางการแพทย์ยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับผู้ที่รับประทานหารเองได้แต่ได้รับปริมาณและพลังงานของสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น ผู้สูงอายุที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเช่น ภาวะเบื่ออาหาร รวมไปถึงปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร หรือมีปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหารทำให้การรับประทานอาหารนั้นลดประสิทธิภาพลง รวมไปถึงผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่สามารถรับประทานอาหารได้น้อย โดยแพทย์จะทำการพิจารณาให้ใช้อาหารทางการแพทย์เป็นอาหารเสริม สำหรับสร้างพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทำให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากใช้อาหารทางการแพทย์หรือหาซื้ออาหารทางการแพทย์มารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาหารทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีใยอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


เพราะฉะนั้นควรที่จะเลือกชนิด เลือกสูตร ให้ถูกต้องเพราะร่างกายของเรามีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งอาหารทางการแพทย์แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรได้รับคำแนะนำก่อนการซื้ออาหารทางการแพทย์มาใช้เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุลได้ อย่างไรก็ตาม ทางอาหารปั่นผสม เราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ รวมไปถึงควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

23
โรคเหงือกในเด็ก สามารถเข้ารับการจัดฟันเด็กได้หรือไม่

ปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันในเด็กนั้น มักจะพบได้บ่อย ซึ่งการดูแลรักษาความสะอาดของฟันถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเด็กในวัยที่ยังมีฟันน้ำนมอยู่ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะฟันน้ำนมส่งผลกระทบต่อการขึ้นของฟันแท้ ดังนั้น การดูแลช่องปากของเด็กๆ ควรที่จะได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี


ซึ่งปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กที่มักพบได้บ่อยส่วนใหญ่ก็คือ เรื่องของฟันน้ำนมผุ มักจะเกิดขึ้นเมื่อฟันน้ำนมสัมผัสกับน้ำตาลจากการดื่มบ่อยครั้งเช่น ดื่มนม น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มรสหวานอื่นๆ ก็จะทำให้เสี่ยงกับการเกิดฟันผุ เชื้อแบคทีเรียในปากจะกินน้ำตาลเป็นอาหาร ทำให้เกิดฟันผุหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา ยิ่งถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองละเลยในเรื่องของฟันของลูก ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ในระยะยาว โดนอาการฟันผุอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวด และทำให้เคี้ยวอาหารได้ลำบาก


หากฟันน้ำนมได้รับความเสียหาย หรือถูกทำลายก็จะไม่สามารถกำหนดทิศทางสำหรับฟันแท้ให้ขึ้นได้อย่างถูกตำแหน่ง อาจก่อนให้เกิดฟันซ้อน หรือฟันเก ฟันน้ำนมที่ผุอย่างรุนแรงอาจจะนำไปสู่การฟันที่เป็นหนองได้ และอาจจะนำไปสู่การเกิดโรคเหงือกอักเสบในเด็ก ซึ่งโรคเหงือกในเด็กนั้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เป็นการอักเสบของเยื่อเหงือกซึ่งเกิดจากการดูแลความสะอาดในปากที่ไม่เพียงพอ และการจับตัวของหินปูน สัญญาณเตือนของโรคเหงือกอาจจะเป็นกลิ่นปาก หรือเลือดออกที่เหงือก


โดยเฉพาะหลังจากการใช้ไหมขัดฟัน เมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถนำไปสู่ฟันหลอ และกระดูกเสียหายของกระดูก การพบทันตแพทย์เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคเหงือกอักเสบ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนที่อยากจะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับกรจัดฟัน ก็อาจจะเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือกอักเสบแล้ว จะสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ทางคลินิก Idol Smile เราจะมาพูดถึงประเด็นของการเกิดโรคเหงือกอักเสบในเด็ก และอยากที่จะเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟัน ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ สำหรับโรคเหงือกอักเสบในเด็กนั้น ต้องบอกว่า สามารถรักษาให้หายได้


เพียงหมั่นดูแลช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ และพ่อแม่ควรจะสังเกตอาการต่างๆของบุตรหลานด้วย ถ้าหากพบว่ามีสัญญาณของการเกิดปัญหาฟัน หรือมีการสะสมตัวของคราบแบคทีเรียที่มากและแข็งจนกลายเป็นหินปูน ก็ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อให้ทำการขจัดออกคราบเหล่านั้นออก ซึ่งการดูแลเพื่อป้องกันโรคเหงือกสามารถทำได้โดยหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อยเป็นประจำ พ่อแม่ผู้ปกครองควรเป็นผู้ช่วยในการช่วยแปรงฟันให้ลูก เพื่อให้บริเวณนั้นๆ สะอาด ขจัดคราบฟันออกให้หมด ซึ่งจะช่วยป้องกัน และบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถป้องกันการเกิดโรคเหงือกได้


ทั้งนี้ ในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก สำหรับเด็กที่มีปัญหาในเรื่องของเหงือกอักเสบ เบื้องต้นทันตแพทย์จะทำการรักษาโรคเหงือกอักเสบในเด็กให้หายดีเสียก่อน เพื่อที่จะได้มีปัญหาระหว่างการจัดฟัน และจะทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อเข้ารับการจัดฟันแล้ว เด็กๆควรที่จะปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น ป้องกันฟันผุ


หากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณเตือนในเรื่องของการเกิดโรคเหงือกหรือปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน สามารถปรึกษาทันตแพทย์ที่คลินิกได้ ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็กที่จะให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะช่วยดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่านให้มีฟันที่สวยงาม เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ป้องกันการเกิดปัญหาฟันผุ และยังช่วยแนะนำวิธีการรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้

24
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
???? สารสกัดกระชาย 200 มก.
???? ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
???? แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
???? วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/



25
วิธีแก้แฮงค์ ปาร์ตี้หนักแค่ไหนก็ตื่นไหว! 

สายปาร์ตี้คุณคงเคยชินกับอาการเมาค้างอยู่บ่อย ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างจะทรมานไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตื่นมามักจะมีอาการปวดหัว ตื่นไม่รอด ไม่อยากลุกไปทำงาน ต่อไปนี้หมดกังวลไปได้เลยในวันที่ต้องดื่มหนัก เพราะเรามีเคล็ดลับ แก้แฮงค์ มาฝากสายปาร์ตี้ลดอาการแฮงค์ในวันทำงานได้แน่นอน พร้อมกับอาหารเสริมช่วยบำรุงตับที่คุณต้องมีไว้ทาน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า


แนะนำ 7 วิธี แก้แฮงค์ ใครชอบปาร์ตี้ต้องลอง

หากใครที่รู้ตัวว่าชอบปาร์ตี้ หรือชอบดื่มบ่อย ๆ และต้องรับมือกับอาการเมาค้างในวันถัดมาล่ะก็ ลองมาดูวิธีแก้แฮงค์ที่ช่วยให้ตัวเองไม่เมาค้างในวันทำงานกัน ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นวิธี แก้เมา ง่าย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน กับ 7 วิธีแก้แฮงค์ที่คุณต้องลองดังนี้

1.    กินผลไม้รสหวาน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแต่การกินผลไม้ช่วยแก้อาการเมาได้! แต่ก็ไม่ใช่ว่าผลไม้ทุกอย่างที่จะช่วยแก้เมาได้เสมอไป ซึ่งผลไม้ที่ควรกินคือผลไม้ที่มีรสหวาน และผลไม้ที่เราอยากแนะนำนั่นก็คือ กล้วย เนื่องจากโดยปกติเวลาเราดื่มเรามักก็จะปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าเดิม เมื่อปัสสาวะก็จะขับโพแทสเซียมออกไป ซึ่งกล้วยที่มีโพแทสเซียมสูงจะช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ถูกขับออกไปตรงส่วนนี้ได้ การทานกล้วยหรือผลไม้รสหวานจึงสามารถช่วยเรื่องสุขภาพได้นั่นเอง

 
2.   กินไข่ต้ม หรือ ไข่ลวก

หลายคนอาจไม่รู้ว่าการกินไข่ต้ม หรือไข่ลวกเป็นอีกวิธีช่วยแก้อาการเวลาดื่มหนักได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากในไข่มีกรดอะมิโนช่วยบำรุงตับนั่นเอง แต่สำหรับการทานไข่นั้นแนะนำว่าควรเป็น ไข่ต้มหรือไข่ลวกเท่านั้น นอกจากนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานไข่เจียว ไข่ทอด ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเยอะ ๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้


3.    ดื่มกาแฟเอสเปรสโซเข้ม ๆ

หลายคนที่ดื่มบ่อยคงจะเคยใช้วิธีนี้แก้แฮงค์เพราะคาเฟอีนในกาแฟช่วยให้เราลดอาการคลื่นไส้ได้ และยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นขึ้น แต่อย่างไรก็ตามร่างกายของแต่ละคนนั้นอาจจะมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน จึงควรดื่มแค่พอดีจะดีกว่า หรือหากใครที่คิดว่าตนเองเมาหนักให้เลือกดื่มเป็นน้ำเปล่าเยอะ ๆ จะดีกว่า เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย และช่วยขับแอลกอฮอล์ออกทางปัสสาวะด้วย


4.    ดื่มน้ำอัดลม

สำหรับน้ำอัดลมนอกจากจะช่วยให้เราสดชื่นขึ้นแล้ว ในน้ำอัดลมยังช่วยลดสารอะซิทัลดีไฮด์และเอทานอลที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดหัวอีกด้วย สำหรับใครที่เมาบ่อย ๆ มีอาการมึนหรือปวดหัว การดื่มน้ำอัดลมช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


5.    ดื่มน้ำขิง

น้ำขิงถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ระบบหายใจสามารถทำงานได้ดีขึ้น ทั้งปัจจุบันสามารถดื่มได้ง่ายขึ้นเพราะมาในรูปแบสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง การทานน้ำขิงอุ่น ๆ จะช่วยให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นด้วยความเผ็ดร้อนของขิง สายปาร์ตี้จึงจะเป็นต้องมีติดบ้านไว้ นอกจากนี้ก็ยังช่วยลดอาการปวดหัว และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งวิธี แก้เมา ที่ทำให้สามารถช่วยระบายแอลกอฮอล์ออกไปได้ดีขึ้น


6.    ดื่มนมช็อกโกแลต

การดื่มนมช็อกโกแลตจะช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้ และยังไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรง หลังจากตื่นนอนในตอนเช้าอีกด้วย หรือหากมีนมช็อกโกแลตอุ่น ๆ จะดีมากเลย เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายในตอนเช้าด้วย หรือหากไม่มีนมช็อกโกแลต แนะนำเป็นนมอุ่น ๆ ก็ช่วยได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว


7.    ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น

จะเมาหนัก เมาน้อย แค่กินน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น หรือผสมน้ำผึ้ง ก็ช่วยแก้อาการเมาค้างได้แล้ว เพราะน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นจะช่วยให้คุณสดชื่น และช่วยขับสารพิษในตับได้อีกด้วย ที่สำคัญทำได้ง่ายแม้วันที่ต้องปาร์ตี้หนัก ๆ แถมยังอร่อยชุ่มคอ ช่วยให้ไม่เมาค้างแล้วยังช่วยให้คอไม่แห้งอีกด้วย

26

แบบไหนดีกว่ากัน ! ระหว่างการ จัดฟันใส กับการจัดฟันแบบรวดเร็ว Fastbraces

ในการรักษาทางทันตกรรม เป็นการแก้ไขปัญหาฟันในทุกรูปแบบ ขึ้นอยู่ที่ว่าผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากอย่างไร ซึ่งแต่ละบุคคลแน่นอนว่า มีปัญหาแตกต่างกันอย่างแน่นอน หลายคนเลิกจะเข้ารับการจัดฟัน เพราะมีปัญหาฟันที่ซ้อนเก อย่างรุนแรงและอยากมีฟันที่เรียงกันสวยงามและเป็นธรรมชาติ แต่บางกรณีก็มีผู้ที่มีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อย และเข้ารับการจัดฟันแบบใส


ซึ่งทันตแพทย์อาจจะแนะนำให้จัดฟันในรูปแบบ เพราะการจัดฟันแบบใส เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อยหรือผู้ที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว แต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ จึงทำให้เกิดฟันห่างได้ ซึ่งถึงแม้ผู้ที่เคยจัดฟันมา แต่ใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดปัยหาตามมา แต่อย่างไรก็ตาม หากเข้ารับการจัดฟันแบบใส จะต้องมีวินัยในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมืออย่างมาก เพราะไม่อย่างนั้น ก็จะเกิดปัญหาเดิมๆได้


ความแตกต่างระหว่างการจัดฟันแบบใส กับการจัดฟันแบบรวดเร็ว Fastbraces มีข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของเครื่องมือ เครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้ และมีความหลากหลายในการรับประทานอาหาร รวมไปถึงสามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่การจัดฟันแบบรวดเร็ว Fastbraces ไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ และรับประทานอาหารได้ไม่หลากหลาย

แต่การจัดฟันแบบรวดเร็ว มีความเจ็บและระคายเคืองน้อยกว่าการจัดฟันแบบใส รวมไปถึงระยะเวลาในการจัดฟันก็น้อยกว่าการจัดฟันแบบใสด้วย นี่คือข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าการจัดฟันแบบไหน ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างแน่นอน มีจุดเด่น เอกลักษณ์ คนละแบบ แต่ในเรื่องของระยะเวลาต้องยกให้การจัดฟันแบบรวดเร็ว ซึ่งทำให้เห็นผลได้เร็วกว่า


แต่การจัดฟันนั้น ไม่ว่าจะจัดฟันแบบไหน หรือผู้เข้ารับการรักษามีความต้องการที่จะจัดฟันแบบที่ตัวเองคิดไว้ ก็ต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาเสียก่อน เพราะทันตแพทย์จะต้องทำการพิจารณาช่องปากของผู้เข้ารับการรักษาก่อนว่า เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในรูปแบบใด

เพราะการจัดฟันแบบใส หรือการจัดฟันแบบรวดเร็ว Fastbraces ไม่สามารถทำได้ทุกคน มีข้อจำกัดในเรื่องของการจัดฟันอยู่ ซึ่งทันตแพทย์จะทำการวินิจฉัยเองว่า สภาพฟันและช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา เหมาะที่จะจัดฟันแบบใด ทั้งนี้สามารถเข้ารับการประเมินช่องปากได้ฟรี รวมไปถึงสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคลีนิคได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

27
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างนครปฐม ถ้าถามถึงเรื่องความถูกและดี

พนักงานให้บริการ รถรับจ้างขนย้ายของเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนการใช้บริการจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการขนย้ายของจึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะเรียกผู้ให้บริการ แต่ละท่านเข้ามาให้บริการกับเราดังนั้นสำหรับ รถรับจ้างนครปฐม เราจึงมีความใส่ใจเป็นพิเศษในการให้ บริการรถรับจ้าง ในแต่ละครั้งในแต่ละวันดังนั้นรถรับจ้างขนของนครปฐมของเราจึงต้องเป็นที่ยอมรับแก่ผู้ใช้บริการทุกคนไม่ว่างานนั้นจะทำการขนย้ายสินค้าเป็นประเภทอะไรเช่นงาน รับจ้างขนย้ายบ้านนครปฐม งาน รับจ้างย้ายของคอนโดนครปฐม การรับจ้างขนย้ายไซต์งานก่อสร้าง งานรับจ้างขนย้ายออฟฟิศสำนักงานในนครปฐม งานรับจ้างขนย้ายสินค้าทางการเกษตร รับจ้างขนของทั่วไป รับจ้างขนส่งสินค้าหรือแม้กระทั่ง รับจ้างขนย้ายเครื่องจักรและเฟอร์นิเจอร์ ล้วนแล้วแต่ต้องมีความชำนาญในการให้บริการเป็นอย่างมาก ถ้าหากเราได้ผู้ให้บริการรับจ้างขนของที่มีความเก่ง เขาจะสามารถวางแผนการขนย้ายสินค้าให้กับเราได้เป็นอย่างดีและไม่ทำให้เราต้องมาปวดหัวหรือมาช่วยผู้ให้บริการ ทำการวางแผนการขนย้ายดังนั้น สำหรับการที่เราจะ ตรวจเช็คราคารถรับจ้าง+คนยกสินค้า จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจและการที่เราจะได้ผู้ให้บริการที่เก่งมีความชำนาญก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่เราจะทำการตัดสินใจเช่นเดียวกัน

เราให้บริการทุกวันในจุดบริการต่างๆของรถรับจ้างนครปฐมดังนี้

อำเภอเมืองนครปฐม
อำเภอกำแพงแสน
อำเภอดอนตูม
อำเภอนครชัยศรี
อำเภอบางเลน
อำเภอสามพราน

ทำไมขนส่งของ รถรับจ้างขนของนครปฐม จึงเป็นผู้ให้บริการที่เราไม่ควรพลาดที่จะได้ใช้บริการเนื่องจากว่าอะไรนั้น เขามีรถรับจ้างต่างๆมากมายที่ให้บริการแก่ลูกค้าไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างนครปฐม รถปิคอัพรับจ้างนครปฐม รถ 6 ล้อรับจ้างนครปฐม รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้างนครปฐม รถเฮี๊ยบรับจ้างนครปฐม รถรับจ้างย้ายบ้านนครปฐม รถเทรลเลอร์รับจ้าง และอื่นๆอีกมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่มีสภาพรถที่ดีและใหม่ และที่สำคัญพนักงานขับรถทุกคนมีระเบียบวินัยไม่ดื่มสุรา ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการให้บริการเป็นอย่างมาก รวมไปจนถึงสิ่งที่มีอำนาจในการตัดสินใจเลือกใช้ รถรับจ้างนครปฐม


นั่นก็คือพนักงานยกสินค้าซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากในการที่เราจะใช้บริการรถรับจ้างในแต่ละครั้งบางทีเรามีการย้ายที่อยู่อาศัยมีโต๊ะตู้เตียงนอนสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆอาจจะต้องขนย้ายจากชั้น 2 ลงมาหรือ เป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งการยกสินค้านั้นจะต้องใช้แรงงานคนที่มากพอสมควร นอกจากนั้นยังต้องมีความถนัด ความสามารถพิเศษในการขนยกสินค้า ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้พนักงานยกสินค้าของขนส่งนั้นมีความถนัดและชำนาญมากพอสมควร เราบริการขนย้ายของลักษณะเหล่านี้ทุกวัน ลูกค้าสบายใจได้ว่าสินค้าของท่านจะไม่ชำรุดแตกเสียหายอย่างแน่นอน


สำหรับ รถรับจ้างขนของนครปฐม ของขนส่งถือว่าเป็นอีกผู้ให้บริการที่ดี ผู้ใช้บริการหลายท่านให้การยอมรับเขาให้บริการรับจ้างขนของมายาวนานกว่า 15 ปีมีประสบการณ์ มีพนักงานที่มีการยกสินค้า มีคนขับรถที่มีประสบการณ์สูง สามารถชำนาญทุกเส้นทางในการขนย้าย งานบริการจึงมีความสะดวกรวดเร็ว มีความปลอดภัยต่อสินค้า รับประกันการันตีการบริหารการรับจ้างขนของมาอย่างยาวนานสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้ามากพอสมควรที่วิ่งทั้งในเขตนครปฐม รวมไปจนถึงจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ ที่นี่ให้บริการด้วยความเป็นกันเองลูกค้าและผู้ให้บริการมีความสัมพันธ์ที่ดีสร้างมนุษยสัมพันธ์ สร้าง ความเป็นกันเองต่อลูกค้า จึงไม่แปลกเลยว่าขนส่งผู้ให้บริการ รถรับจ้างนครปฐม สามารถที่จะยืนหยัด ให้บริการรับจ้างขนของแก่ลูกค้ามาอย่างยาวนานเป็นเพราะผลงานและความตั้งใจจริงในการบริหารงานนั้นเอง การติดต่อประสานงานก็สามารถทำได้โดยง่ายเพียงแค่ท่านโทรเข้ามาปรึกษาได้


รถรับจ้าง ของเรามีการตรวจเช็คสภาพอยู่ตลอดเวลา โดยมีการเข้าเช็คระบบความปลอดภัยเช็ค ระบบไฟ ระบบเบรค และระบบที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายสินค้า ตรงตามรอบทุกครั้งเพื่อที่เราจะมีความมั่นใจว่า รถรับจ้างนครปฐม ของเรานั้นจะไม่ทำให้งานของคุณต้องสะดุด หรือทำให้เกิดการล่าช้ารถเราไม่มีเสียระหว่างทางอย่างแน่นอน ดังนั้นด้วยงานบริการต่างๆจึงทำให้ลูกค้ามีความไว้วางใจใน รถรับจ้างขนของนครปฐม ของเราจากทีมงานขนส่ง เป็นอย่างมากสำหรับลูกค้าท่านใดที่มีความประสงค์ต้องการอยากจะใช้บริการรับจ้างขนของต่างๆขนย้ายสินค้า ขนย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ย้ายสินค้าทั่วไป ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรืองานบริการรับจ้างขนของทั่วไทยอื่นๆมากมาย สามารถติดต่อประสานงานกับเราได้เลยทันทีเราพร้อมยินดีให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง เรามีความตั้งใจจริงและมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าจะมีความประทับใจและเรียกใช้ บริการรถรับจ้างขนของนครปฐมราคาถูก ของเราตลอดไปขอบคุณมากค่ะ

28
หมอประจำบ้าน: หืด (Asthma)


หืด เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรังชนิดหนึ่ง  ซึ่งมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นเนื่องจากหลอดลมตีบเป็นครั้งคราว  ทำให้มีอาการหายใจหอบเหนื่อย เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง  ส่วนมากมักจะไม่มีอันตรายร้ายแรง  ยกเว้นในรายที่เป็นมากหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง  ก็อาจเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นอย่างถาวร  หรือมีอันตรายถึงตายได้

โรคนี้พบได้บ่อยในคนทุกวัย  มีความชุกสูงสุดในช่วงอายุ 10-12 ปี  ส่วนใหญ่มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่อายุก่อน 5 ปี  ส่วนน้อยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในวัยหนุ่มสาวและวัยสูงอายุ

ในบ้านเราเคยมีการสำรวจนักเรียนในกรุงเทพฯ  พบว่ามีความชุกของโรคนี้ประมาณร้อยละ 4-13

ในวัยเด็ก (ก่อนวัยหนุ่มสาว) พบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงประมาณ 1.5-2 เท่า

ทั่วโลกพบว่าโรคนี้มีแนวโน้มเกิดมากขึ้นในทุกประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองที่มีสิ่งแวดล้อม (ได้แก่ มลพิษและสารก่อภูมิแพ้) และวิถีชีวิตที่ส่งเสริมให้เกิดโรคนี้


สาเหตุ

เกิดจากปัจจัยร่วมกันหลายประการ ทั้งทางด้านกรรมพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การติดเชื้อ และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้หลอดลมมีความไวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ มากกว่าคนปกติ เป็นเหตุให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลม การบวมของเนื้อเยื่อผนังหลอดลม และการหลั่งเมือก (เสมหะ) มากในหลอดลม มีผลโดยรวมทำให้หลอดลมตีบแคบลง เกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นชนิดผันกลับได้ (revesible) ซึ่งสามารถกลับคืนเป็นปกติได้เอง หรือภายหลังให้ยารักษา

บางรายอาจมีการอักเสบของหลอดลมอย่างต่อเนื่องนานเป็นแรมปี  หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง  โครงสร้างของหลอดลมจะค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง  จนในที่สุดมีความผิดปกติ (airway remodeling) ชนิดไม่ผันกลับ (irreversible) ทำให้เกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นอย่างถาวร

ผู้ป่วยมักมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อื่น ๆ (เช่น หวัด ภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้) ร่วมด้วย และมักมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายหรือญาติพี่น้องเป็นหืดหรือโรคภูมิแพ้อื่น ๆ

นอกจากนี้ยังพบปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากขึ้น ได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกิน (ทำให้มีอาการกำเริบบ่อย และรุนแรงได้) ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักแรกเกิดน้อย ทารกที่มีมารดาสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ การติดเชื้อไวรัสตั้งแต่เล็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสอาร์เอสวี (ดู "โรคหลอดลมฝอยอักเสบ" เพิ่มเติม) การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ (ได้แก่ ไรฝุ่นบ้าน) ปริมาณมากตั้งแต่ในช่วงขวบปีแรก


สาเหตุกระตุ้น 

ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบเมื่อมีสิ่งเร้าหรือสาเหตุกระตุ้น  ที่พบบ่อยได้แก่

    สารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองหญ้า วัชพืช  ละอองเกสรดอกไม้  ไรฝุ่นบ้าน (พบอยู่ตามพรม ที่นอน เฟอร์นิเจอร์หรือของเล่นที่ทำด้วยนุ่น หรือเป็นขน ๆ) เชื้อรา (พบสปอร์ตามพุ่มไม้  ในสวน ห้องน้ำ ห้องครัว ในที่ชื้น) แมลงสาบและสัตว์เลี้ยงในบ้าน (สารก่อภูมิแพ้อยู่ในน้ำลาย ขุยหนังที่ลอกหรือรังแค ขนสัตว์ ปัสสาวะ และมูลสัตว์) อาหาร (ได้แก่ นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไข่ กุ้ง หอย ปู ปลา ถั่วลิสง งา สีผสมอาหาร สารกันบูดในอาหาร)
    สิ่งระคายเคือง เช่น ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสีย ควันไฟ ควันธูป ฝุ่นละออง มลพิษในอากาศ (ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ของรถยนต์ ก๊าซโอโซนที่พบมากในเมืองใหญ่) สเปรย์ ยาฆ่าแมลงหรือวัชพืช อากาศเย็นหรืออากาศเปลี่ยน กลิ่นฉุด ๆ สารเคมี (ภายในบ้าน ที่ทำงาน และโรงงาน)
    ยา ได้แก่ แอสไพริน  ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์  ยาลดความดันกลุ่มปิดกั้นบีตา 
    การติดเชื้อของทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ เป็นต้น
    การออกกำลังกาย อาจชักนำให้เกิดอาการหอบหืดกำเริบในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกกำลังจนเหนื่อยหรือหักโหมเกินไป
    ความเครียดทางจิตใจ เช่น ความเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ การงาน ครอบครัว รวมทั้งอารมณ์ซึมเศร้า  ความเศร้าโศกจากการสูญเสียคนที่รัก  เป็นต้น
    ฮอร์โมนเพศ  พบว่าผู้หญิงระยะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ (puberty) ระยะก่อนมีประจำเดือน  หรือขณะตั้งครรภ์ มักมีโรคหืดกำเริบ  (ในช่วงสัปดาห์ที่ 24-36 ของการตั้งครรภ์)
    โรคกรดไหลย้อน น้ำย่อยหรือกรดที่ไหลย้อนลงไปในหลอดลมอาจทำให้โรคหืดกำเริบได้บ่อย


อาการ

มักมีอาการแน่นอึดอัดในหน้าอก หรือหอบเหนื่อยร่วมกับมีเสียงดังวี้ดคล้ายเสียงนกหวีด (ระยะแรกจะได้ยินช่วงหายใจออก ถ้าเป็นมากขึ้นจะได้ยินทั้งช่วงหายใจเข้าและออก) อาจมีอาการไอ ซึ่งมักมีเสมหะใสร่วมด้วย

บางรายอาจมีเพียงอาการแน่นอึดอัดในหน้าอก หรือไอเป็นหลักโดยไม่มีอาการอื่น ๆ ชัดเจนก็ได้ อาการไอดูคล้ายไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ หรือหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรกเริ่มของโรคนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการไอมากตอนกลางคืนหรือเช้ามืด ในช่วงอากาศเย็นหรืออากาศเปลี่ยน หรือวิ่งเล่นมาก ๆ เด็กเล็กอาจไอมากจนอาเจียนออกมาเป็นเสมหะเหนียว ๆ และรู้สึกสบายหลังอาเจียน

ผู้ป่วยอาจมีอาการภูมิแพ้ เช่น คัดจมูก คันคอ เป็นหวัด จาม หรือผื่นคันร่วมด้วย หรือเคยมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน

ในรายที่เป็นเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง มักจะมีอาการเป็นครั้งคราว และมักกำเริบทันทีเมื่อมีสาเหตุกระตุ้น ผู้ป่วยที่มีอาการหายใจลำบากจะลุกขึ้นนั่งฟุบกับโต๊ะหรือพนักเก้าอี้และหอบตัวโยน

ในรายที่เป็นรุนแรงมักมีอาการต่อเนื่องตลอดทั้งวันจนกว่าจะได้ยารักษา จึงจะรู้สึกหายใจโล่งสบายขึ้น

ในช่วงที่ไม่มีอาการกำเริบ ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายเช่นคนปกติทั่วไป

ผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคหืดรุนแรง เช่น เคยหอบรุนแรงจนต้องไปรักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลบ่อย เคยต้องใส่ท่อหายใจช่วยชีวิต ต้องใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดกินหรือฉีด หรือต้องใช้ยากระตุ้นบีตา 2 ชนิดออกฤทธิ์สั้น สูดมากกว่า 1-2 หลอด/เดือน ถ้าขาดการรักษาหรือได้รับยาไม่เพียงพอในการควบคุมอาการ  อาจมีอาการหอบอย่างต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ ถึงวัน ๆ แม้จะใช้ยารักษาตามปกติที่เคยใช้ ก็ไม่ได้ผล  เรียกว่า ภาวะหืดดื้อ หรือ หืดต่อเนื่อง  (status asthmaticus) ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนและมีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดภาวะเลือดเป็นกรด มีอาการสับสน หมดสติ ในที่สุดหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตในเวลารวดเร็ว

อาการที่เข้าข่ายเป็นโรคหืด

ควรสงสัยว่าเป็นโรคหืด  ถ้าผู้ป่วยมีอาการข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีเสียงหายใจดังวี้ดคล้ายเสียงนกหวีดบ่อยครั้ง คือ มากกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
    มีอาการไอ รู้สึกเหนื่อยง่าย หรือมีเสียงหายใจดังวี้ดขณะวิ่งเล่น  หรือออกกำลังกาย
    ไอตอนกลางคืน โดยที่ไม่ได้เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
    มีอาการต่อเนื่องหลังอายุ 3 ปี
    อาการกำเริบหรือเป็นมากขึ้น เมื่อมีสิ่งเร้าหรือสาเหตุกระตุ้น เช่น ละอองเกสร  ขนสัตว์ สเปรย์ บุหรี่ ไรฝุ่นบ้าน ยา การติดเชื้อทางเดินหายใจ ออกกำลังกาย ความเครียด
    เวลาเป็นไข้หวัดมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 10 วัน หรือมีอาการไอรุนแรง หรือไอนานกว่าคนอื่นที่เป็นไข้หวัด
    อาการดีขึ้นเมื่อใช้ยารักษาโรคหืด
    มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคหืดหรือโรคภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น หวัดภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้

ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบได้ค่อยข้างบ่อย ได้แก่ ภาวะหมดแรง (exhaustion) ภาวะขาดน้ำ ปอดแฟบ (atelectasis) การติดเชื้อ (หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ)

ที่ร้ายแรง คือ ภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งพบในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น ภาวะปอดทะลุ, ภาวะมีอากาศในประจันอกและใต้หนัง (mediastinal and subcutaneous emphysema), ภาวะหัวใจล้มเหลวดังที่เรียกว่า โรคหัวใจเหตุจากปอด (cor pulmonale), เป็นลมจากการไอ (tussive syncope), ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง 

ในหญิงตั้งครรภ์ ถ้าเป็นโรคหืดที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวน้อย ทารกตายระยะใกล้คลอดและหลังคลอด


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

การตรวจร่างกายขณะที่ไม่มีอาการ มักจะไม่พบสิ่งผิดปกติ

ขณะที่มีอาการหอบ มักได้ยินเสียงหายใจดังวี้ด ๆ ใช้เครื่องฟังตรวจปอดจะได้ยินเสียงหายใจออกยาวกว่าปกติและมีเสียงวี้ด (wheezing) กระจายทั่วไปที่ปอดทั้ง 2 ข้างในช่วงหายใจออก (ถ้าหอบมากจะได้ยินเสียงวี้ดทั้งในช่วงหายใจเข้าและออก) ชีพจรเต้นเร็ว มักไม่มีไข้ ถ้ามีไข้แสดงว่าอาจมีโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด หลอดลมอักเสบร่วมด้วย หรืออาจมีปอดอักเสบแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นรุนแรงจะมีอาการหอบรุนแรง ซี่โครงบุ๋ม แอ่งไหปลาร้าบุ๋ม ตัวเขียว สับสน หมดสติ ใช้เครื่องฟังปอดอาจไม่ได้ยินเสียงวี้ด เนื่องจากมีภาวะอุดกั้นรุนแรงจนลมหายใจผ่านเข้าออกน้อย

ในรายที่เป็นโรคหืดเรื้อรังมานานอาจพบหน้าอกมีความหนา (ความยาวจากด้านหน้าถึงด้านหลัง) กว่าปกติที่เรียกว่า อกโอ่ง บางรายอาจพบหน้าอกโป่งเหมือนอกไก่

ในการประเมินความรุนแรงของโรค แพทย์จะทำการทดสอบสมรรถภาพของปอด (ดูค่า FEV1 และ PEF)*

กรณีที่ยังวินิจฉัยไม่ได้ชัดเจน แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การสูดสาร methacholine กระตุ้นให้หลอดลมตีบ (methacholine challenge), การกระตุ้นให้อาการกำเริบด้วยการออกกำลังกาย หรือการสูดอากาศเย็น (provocative testing for exercise and cold-induced asthma), การทดสอบภาวะภูมิแพ้ (allergy testing) โดยการตรวจเลือดหรือทดสอบผิวหนัง การตรวจหาปริมาณอีโอซิโนฟิล (eosinophil ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง) ในเสมหะ, เอกซเรย์ปอด เป็นต้น

* FEV1 (forced expiratory in one second) หมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกแรง ๆ ใน 1 วินาที โดยใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า เครื่องวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometer)

PEF (peak expiratory flow) หมายถึง อัตราการไหลของลมหายใจออกสูงสุด หลังจากสูดหายใจเข้าเต็มที่ โดยใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า เครื่องวัดการไหลของลมหายใจออกสูงสุด (peak flow meter)

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

1. เมื่อมีอาการหอบหืดกำเริบฉับพลัน ให้ยาขยายหลอดลมชนิดสูด (เช่น ยากระตุ้นบีตา 2) ทันที เพื่อบรรเทาอาการ ถ้ายังไม่ทุเลา สามารถให้ซ้ำได้อีก 1-2 ครั้งทุก 20 นาที

หากผู้ป่วยรู้สึกหายดี แพทย์จะทำการประเมินอาการ สาเหตุกระตุ้น และประวัติการรักษาอย่างละเอียด

2. ในกรณีที่มีประวัติเป็นโรคหืดและมียารักษาอยู่ประจำ ถ้าผู้ป่วยมีอาการตอนกลางวันไม่เกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ  และไม่มีอาการตอนกลางคืน  ก็ให้การรักษาแบบกลุ่มที่ควบคุมโรคได้ (ดูตาราง "การแบ่งระดับของการควบคุมโรค") โดยให้ใช้ยาที่เคยใช้อยู่เดิมต่อไป

3. ในกรณีที่ผู้ป่วยเพิ่งมีอาการครั้งแรกและไม่เคยได้รับยารักษามาก่อน แพทย์จะให้ยารักษา (ส่วนใหญ่ใช้ยาชนิดสูดพ่นเป็นพื้นฐาน บางรายอาจให้ยาชนิดกินร่วมด้วย) ด้วยชนิดและขนาดมากน้อยตามระดับความรุนแรงของโรค นอกจากนี้แพทย์จะทำการตรวจสมรรถภาพของปอด  ให้สุขศึกษาและคำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง และการหลีกเลี่ยงสาเหตุกระตุ้น

4. แพทย์จะติดตามผู้ป่วยทุก 1-3 เดือน เพื่อประเมินอาการและปรับเปลี่ยนการรักษาที่เหมาะสมตามอาการในแต่ละช่วง

5. แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยมีอาการกำเริบและมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    ไม่ตอบสนองต่อการรักษาข้างต้นภายใน 1-2 ชั่วโมง มีอาการหอบต่อเนื่องมานานหลายชั่วโมง หรือมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย
    มีอาการหอบรุนแรง ซี่โครงบุ๋ม ปากเขียว มีอาการสับสน ซึม หรือพูดไม่เป็นประโยค
    มีประวัติเคยเป็นโรคหืดรุนแรง เคยรับการรักษาในห้องอภิบาลผู้ป่วย (ไอซียู) เนื่องจากโรคหืดมาก่อน กำลังกินหรือเพิ่งหยุดกินยาสเตียรอยด์ หรือใช้ยาบีตา 2 ออกฤทธิ์สั้นสูดบ่อยกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง
    มีอาการหอบเหนื่อยที่สงสัยว่าเกิดจากสาเหตุร้ายแรงอื่น ๆ เช่น เช่น มีไข้และใช้เครื่องฟังตรวจปอดมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation) หรือสงสัยว่าเป็นปอดอักเสบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบ, มีอาการเท้าบวม หลอดเลือดคอโป่ง ความดันโลหิตสูง หรือสงสัยมีภาวะหัวใจวาย, มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง มีประวัติเป็นโรคหัวใจ หรือสงสัยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย เป็นต้น ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจสมรรถภาพของปอด ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ ตรวจคลื่นหัวใจ เป็นต้น

6. ในรายที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคหืดกำเริบรุนแรง หรือภาวะหืดต่อเนื่อง มีแนวทางในการรักษาดังนี้

    ให้ออกซิเจน และสารน้ำ (น้ำเกลือ)
    ให้ยาขยายหลอดลม ออกฤทธิ์สั้น ชนิดสูด
    ให้สเตียรอยด์ชนิดสูดในขนาดสูงกว่าเดิม
    ในรายที่มีอาการรุนแรงปานกลางและมากให้สเตียรอยด์ชนิดฉีดหรือกิน
    เมื่ออาการดีขึ้น (มักได้ผลภายใน 36-48 ชั่วโมง) ก็ให้กินต่อจนครบ 5 วัน
    ในรายที่หอบรุนแรงจนเกิดภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว อาจต้องใส่ท่อหายใจและเครื่องช่วยหายใจและแก้ไขภาวะผิดปกติต่าง ๆ พร้อมกัน

เมื่อควบคุมอาการได้แล้ว แพทย์จะนัดติดตามดูอาการภายใน 2-4 สัปดาห์

7. ผู้ป่วยที่เป็นโรคหืดทุกราย แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาระยะยาวเพื่อควบคุมอาการให้น้อยลง ป้องกันอาการกำเริบรุนแรงเฉียบพลัน ฟื้นฟูสมรรถภาพของปอดให้กลับคืนสู่ปกติ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ป้องกันการเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นอย่างถาวร โดยมีแนวทางการดูแลรักษาดังนี้

(1) ประเมินความรุนแรงของโรค โดยพิจารณาจากอาการแสดง (ความถี่ของอาการกำเริบตอนกลางวัน และตอนกลางคืน) ร่วมกับการตรวจสมรรถภาพของปอด (ดูค่า FEV1 และ PEF)*

(2) ให้ยารักษาโรคหืด ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มยาบรรเทาอาการ ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดลม (เช่น ยากระตุ้นบีตา 2) และกลุ่มยาควบคุมโรค ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบและการบวมของผนังหลอดลม (เช่น ยาสเตียรอยด์) แพทย์จะเลือกใช้ชนิดและขนาดของยาตามระดับของการควบคุมโรค ดังนี้

    กลุ่มควบคุมได้ ให้การรักษาตามขั้นตอนเดิมต่อไปอย่างน้อย 3 เดือน แล้วค่อย ๆ ปรับลดยาลงทีละน้อย จนกว่าจะใช้การรักษาขั้นที่ต่ำสุดที่ยังสามารถควบคุมอาการได้
    กลุ่มควบคุมได้บางส่วน และกลุ่มควบคุมไม่ได้ แพทย์จะปรับเพิ่มขั้นตอนการรักษาจนกว่าจะสามารถควบคุมอาการได้ภายใน 1 เดือน โดยก่อนปรับยา จะทบทวนว่าผู้ป่วยมีการใช้ยาตามสั่ง และใช้ถูกวิธีหรือไม่ รวมทั้งได้หลีกเลี่ยงสาเหตุกระตุ้นหรือไม่ และแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน

หลังจากควบคุมอาการได้แล้ว จะติดตามผลการรักษาต่อไปทุก 1-3 เดือน และปรับขั้นตอนการรักษาให้เหมาะกับระดับของการควบคุมโรค ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยน (ดีขึ้นหรือเลวลง) ไปได้เรื่อย ๆ

ในเด็กที่มีสาเหตุจากสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้และอาการไม่ดีขึ้นหลังการใช้ยาหรือไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงของยา แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วย การขจัดภูมิไว (desensitization)**

(3) ให้การรักษาโรคที่พบร่วม เช่น หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น

(4) แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าหรือสาเหตุกระตุ้นและการปฏิบัติตัวต่าง ๆ (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การป้องกัน" ด้านล่าง)

(5) ติดตามผลการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องและทำการตรวจสมรรถภาพของปอดเป็นระยะ ในรายที่เป็นโรคหืดรุนแรงหรือมีอาการกำเริบบ่อย  แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยใช้เครื่องวัดการไหลของลมหายใจออกสูงสุด (peak flow meter)  ไปตรวจเองที่บ้านทุกวัน เพื่อตรวจภาวะหลอดลมตีบซึ่งจะพบก่อนมีอาการแสดงนานเป็นชั่วโมงถึงเป็นวัน ผู้ป่วยจะได้รีบใช้ยารักษาหรือไปพบแพทย์ปรับยาให้เหมาะสม  นอกจากนี้แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง

ผลการรักษา  ส่วนใหญ่สามารถควบคุมอาการได้ดี

ถ้ามีอาการเริ่มเป็นตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อโตขึ้นหรือย่างเข้าวัยหนุ่มสาว อาการอาจทุเลาจนสามารถหยุดการใช้ยาสูดบรรเทาอาการได้ แต่บางรายเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจมีอาการกำเริบได้อีก

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมีการอักเสบของหลอดลมอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ไม่มีอาการหอบเหนื่อยแล้ว หากขาดการให้ยาควบคุมโรค (ลดการอักเสบ) ก็อาจเกิดภาวะทางเดินหายใจผิดปกติและอุดกั้นในระยะยาวได้ ดังนั้น ถึงแม้จะมีอาการทุเลาแล้วก็ควรติดตามรักษากับแพทย์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนในรายที่มีอาการมาก จำเป็นต้องได้รับยาอย่างเพียงพอ หากขาดยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์มาก่อน ก็อาจมีอาการกำเริบรุนแรงเฉียบพลัน ถึงขั้นกลายเป็นภาวะหืดดื้อ เป็นอันตรายได้

ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะมีอัตราตายต่ำ

* FEV1 (forced expiratory in one second) หมายถึง ปริมาตรอากาศที่หายใจออกแรง ๆ ใน 1 วินาที โดยใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า เครื่องวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometer)

PEF (peak expiratory flow) หมายถึง อัตราการไหลของลมหายใจออกสูงสุด หลังจากสูดหายใจเข้าเต็มที่ โดยใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า เครื่องวัดการไหลของลมหายใจออกสูงสุด (peak flow meter)

** บางครั้งก็เรียกว่า อิมมูนบำบัด (immunotherapy) โดยการฉีดยาทดสอบว่าแพ้สารอะไร  แล้วฉีดสารนั้นทีละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ เพื่อลดการแพ้ วิธีนี้ใช้ได้ผลดีในเด็ก  ส่วนในผู้ใหญ่ได้ผลไม่สู้ดี  ข้อเสียคือ  ต้องใช้เวลารักษานาน  ราคาแพง  และอาจมีอาการแพ้ที่รุนแรงถึงขั้นเกิดภาวะช็อกจากการแพ้ (anaphylactic shock) หรือโรคหืดกำเริบรุนแรงได้ จำเป็นต้องฉีดในที่ ๆ มีความพร้อมในการช่วยเหลือถ้าเกิดการแพ้  โดยหลังฉีดสารบำบัดแต่ละครั้งควรเฝ้าสังเกตดูอาการอย่างน้อย 30 นาที


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการแน่นอึดอัดในหน้าอก หรือหอบเหนื่อยร่วมกับมีเสียงดังวี้ด ๆ คล้ายเสียงนกหวีด หรือผู้ที่มีประวัติใช้ยารักษาโรคหืดอยู่เป็นประจำ มีอาการหอบหืดกำเริบทั้งที่ได้ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ ควรรีบไปพบแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหืด ควรดูแลตนเองดังนี้

1. ปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ ดังนี้

    ติดตามรักษากับแพทย์เป็นประจำ ตรวจสมรรถภาพของปอดเป็นระยะ ใช้เครื่องวัดการไหลของลมหายใจออกสูงสุด (peak flow meter) ตรวจเองที่บ้านทุกวัน (สำหรับผู้ที่แพทย์แนะนำ) เรียนรู้วิธีใช้ยาให้ถูกต้อง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีสูดพ่นยา หากทำไม่ถูก การรักษาก็จะไม่ได้ผล) และใช้ยาตามขนาดที่แพทย์แนะนำ
    พกยาบรรเทาอาการติดตัวเป็นประจำ หากมีอาการกำเริบ ให้รีบสูดยา 2-4 หน (puff) ทันที ถ้าไม่ทุเลาอาจสูดซ้ำทุก 20 นาที อีก 1-2 ครั้ง ถ้ายังไม่ทุเลาควรไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าปล่อยให้หอบนานอาจเป็นอันตรายได้
    ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ อย่าให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่ไอมีเสมหะเหนียว หรือมีอาการหอบเหนื่อย
    ทุกครั้งที่สูดยาสเตียรอยด์ ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ยาตกค้างที่คอหอย ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเชื้อราในช่องปาก (ดู "โรคเชื้อราในช่องปาก มุมปากเปื่อยจากเชื้อรา" เพิ่มเติม)
    อย่าซื้อยาชุดหรือยาลูกกลอนมาใช้เอง เพราะยาเหล่านี้มักมีสเตียรอยด์ผสม แม้ว่าอาจจะใช้ได้ผล แต่ต้องใช้เป็นประจำ ซึ่งทำให้มีผลข้างเคียงร้ายแรงตามมาได้  อย่างไรก็ตาม ถ้าเคยใช้ยาเหล่านี้มานาน ห้ามหยุดยาทันที อาจทำให้มีอาการหอบกำเริบรุนแรงหรือเกิดภาวะต่อมหมวกไตวิกฤติ (ดู "โรคช็อก" เพิ่มเติม) ได้ ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อหาทางค่อย ๆ ปรับลดยาลง
    ฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ (โดยการเป่าลมออกทางปาก ให้ลมในปอดออกให้มากที่สุด) เป็นประจำ จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่งสดชื่น อาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้
    ลดน้ำหนัก ถ้ามีน้ำหนักเกิน

2. ถึงแม้อาการทุเลาแล้ว ก็ห้ามหยุดยา หรือปรับลดยาเองตามอำเภอใจ จนกว่าแพทย์จะสั่งปรับยาให้ มิเช่นนั้น อาจทำให้โรคกำเริบรุนแรง เป็นอันตรายได้

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้และสิ่งระคายเคือง กระตุ้นให้โรคกำเริบ (อ่านเพิ่มที่หัวข้อ "การป้องกัน" ข้อที่ 1 หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้และสิ่งระคายเคือง)

4. หากมีอาการไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นอะไร ควรปรึกษาแพทย์และใช้ยาที่แพทย์แนะนำเท่านั้น ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจทำให้โรคหืดกำเริบ หรือเป็นอันตรายได้

5. ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ซึ่งอาจกระตุ้นโรคหืดกำเริบได้ ควรกินยารักษาและปฏิบัติตัวในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการกรดไหลย้อน

6. หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม บำรุงอาหารสุขภาพ รู้จักผ่อนคลายความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

7. ควรไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    มีอาการหอบหืดกำเริบ 
    เจ็บแน่นหน้าอก 
    ไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว
    มีอาการไม่สบายที่จำเป็นต้องใช้ยารักษา ห้ามซื้อยามาใช้เอง เพราะมียาหลายชนิดที่ทำให้หอบหืดกำเริบได้
    ขาดยารักษาโรคหืด เช่น ยาหาย ยาหมดก่อนวันนัด
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


29
รีวิวบ้านใหม่ 2024: เดอะ คอนเนค บางนา - สุวรรณภูมิ (The Connect Bangna - Suvarnabhumi)


สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน รีวิวบ้านรอบนี้ขอพาไปชมทาวน์โฮมโครงการใหม่ สไตล์กรีก จาก พฤกษา ที่มีชื่อโครงการว่า "เดอะ คอนเนค บางนา - สุวรรณภูมิ (The Connect Bangna - Suvarnabhumi)" เป็นโครงการทาวน์โฮมที่ตั้งอยู่บน ถ.บางนา-ตราด สามารถเชื่อมต่อไปถนนเทพารักษ์ได้อย่างสะดวก ถือเป็นโซนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายทีเดียวค่ะ ทั้งตลาดขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า และมหาวิทยาลัย ในส่วนของตัวบ้านนั้นเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์กรีก หน้ากว้าง 5.7 เมตร มาพร้อม Fresh Air System ระบบหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน ช่วยลดอุณหภูมิ กลิ่น ความชื้น และยังประหยัดไฟอีกด้วย อีกทั้งภายในโครงการยังมีส่วนกลางให้อย่างครบครันทุกด้าน ทั้งคลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น เป็นต้น ทั้งหมดนี้เริ่มต้นเพียงแค่ 2.55 ล้านบาทเท่านั้น จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติมกันต่อได้เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ
เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ : ถนนบางนา-ชลบุรี ซอยบางปลา 43 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
ขนาดพื้นที่โครงการ : 31-0-98.8 ไร่
จำนวนบ้าน : 340 หลัง
ขนาดที่ดิน : ตั้งแต่ 18.2 - 49.7 ตร.ว.
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 99 - 120 ตร.ม.
ปัจจุบันมีแบบบ้านเดี่ยวทั้งหมด 2 แบบ
สิ่งอำนวยความสะดวก : สวนส่วนกลาง สนามเด็กเล่น คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และ CCTV
ราคาเริ่มต้น 2.55 ล้านบาท
วันที่เยี่ยมชมโครงการ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2561
ทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง
โครงการตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ซอยบางปลา 43 (ซอยแสนสุข) ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540


1. เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถมาได้หลายเส้นทาง ตามตัวอย่างเส้นทางดังต่อไปนี้ค่ะ
ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 มาจากทางถนนบางนา-ตราด เข้าซอยบางปลา 43
จากถนนบางนา-ตราด ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ตรงไปกลับรถที่สะพานเกือกม้า กม. 21 กลับรถแล้วตรงไปตามถนนบางนา-ตราดประมาณ 3.7 กม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางปลา 43 (ซอยแสนสุข) จากนั้นตรงเข้าซอยไปประมาณ 1 กม. จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ

ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 2 จากถนนบางนา-ตราด กลับรถกม.17 เข้าซอยอดุลย์ศาสนการ
จากถนนบางนา-ตราด ตรงมาเรื่อยๆ เตรียมกลับรถตรงสะพานเกือกม้า กม. 17 จากนั้นตรงเข้าซอยอดุลย์ศาสนการ ขับตรงไปตามป้ายอบต.บางโฉลง จะไปบรรจบกับซอยบางปลา 43 จากปากซอยใช้ระยะทางประมาณ 3.4 กม. จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งขวามือ


2. รถสาธารณะอื่นๆ

รถประจำทางที่วิ่งรับ-ส่งภายในซอยบางปลา 43 ซึ่งสามารถวิ่งไปถนนเทพารักษ์ และถนนบางนา-ตราดได้ด้วย
สภาพแวดล้อมใกล้เคียง

โครงการตั้งอยู่บนทำเลถนนบางนา-ตราด ตรงเข้าไปซอยบางปลา 43 (ซอยแสนสุข) ไปประมาณ 1 กม. จะเจอซุ้มประตูโครงการ ซึ่งซอยนี้สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนบางนา-ตราด และถนนเทพารักษ์ได้อย่างสะดวก โดยบริเวณทางเข้าที่ติดกับถนนเทพารักษ์นั้น ค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ (ตลาดเรือบินและตลาดบางปลา) มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ส่วนภายในซอยบางปลา 43 นั้นก็มี 7-11, คาร์แคร์, ร้านขายยา, และร้านอาหาร เรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกสบาย แบบที่ไม่ต้องไปไหนไกลเลยค่ะ สำหรับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ตั้งอยู่บนถนนใหญ่เทพารักษ์ ส่วน Market Village และ Home Pro ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด

ภาพจากมุมสูงแสดงให้เห็นระยะโครงการจากถนนบางนา-ตราด

เข้าโครงการได้จากถนนบางนา-ตราด ตรงปากซอยบางปลา 43 (ซอยแสนสุข)

เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยแล้วจะเห็น อบต.บางโฉลง ตรงเข้าไปประมาณ 1 กม. จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

ช่วงต้นซอยตรงข้าม อบต.บางโฉลง มีร้านอาหารตามสั่ง วินมอเตอร์ไซค์ และจุดจอดรถสองแถวที่วิ่งรับ-ส่งภายในซอย

มี 7-11 อยู่ภายในซอย

อบต.บางโฉลง ห่างจากโครงการประมาณ 950 ม.

ตลาดนัดเรือบิน ห่างจากโครงการประมาณ 1.4 กม.

ตลาดบางปลา ห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กม.

โรงพยาบาลเซ็นทรัล ปาร์ค ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กม.

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กม.

Big C บางพลี ห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กม.

Market Village, HomePro ห่างจากโครงการประมาณ 5.7 กม.

โรงพยาบาลบางพลี ห่างจากโครงการประมาณ 5.8 กม.

เมกา บางนา ห่างจากโครงการประมาณ 9.4 กม.

แบบบ้าน และตัวโครงการโดยรวม
โครงการ "เดอะ คอนเนค บางนา - สุวรรณภูมิ (The Connect Bangna - suvarnabhumi)" เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ซอยบางปลา 43 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีบ้านทั้งหมด 340 หลัง บนพื้นที่โครงการ 31-0-98.8 ไร่ ถนนตรงซุ้มประตูทางเข้ากว้าง 19 เมตร ถนนหลักกว้าง 12-16 เมตร ถนนภายในซอยกว้าง 8 เมตร มีรั้วรอบโครงการสูงถึง 3 เมตร ภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Club house สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง และสนามเด็กเล่น (สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ถนนทางเข้าโครงการ (ซอยแสนสุข) เป็นถนนหลักสวนกันสองเลน

ภาพจากมุมสูง ของ เดอะ คอนเนค บางนา - สุวรรณภูมิ แสดงให้เห็นขอบเขตของโครงการ
ทางเข้าโครงการ ส่วนกลาง คลับเฮ้าส์ บ้านตัวอย่าง และ Sales Gallery

ฝั่งซ้ายมือของทางเข้าโครงการ ถนนด้านหน้าเป็นถนนสองเลนสวนกันได้สะดวก

มาดูฝั่งขวามือบ้างค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการมีขนาดใหญ่สไตล์ Modern เรียบๆ มีหลังคาบังแดดและกันฝนได้ สะดวกสบาย

ฝั่งซ้ายมือมีป้ายชื่อโครงการ The Connect Bangna - Suvarnabhumi ขนาดใหญ่

ประตูทางเข้า-ออก แยกระหว่างลูกบ้าน (Residential) กับคนภายนอก (Visitor) ที่มาติดต่อ ซึ่งเป็นข้อดีนะคะ เพราะทำให้ลูกบ้านมีความสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารอคนภายนอกที่กำลังแลกบัตรค่ะ ส่วนที่ซุ้มประตูทางเข้า
โครงการมีไม้กั้นกระดก ประตูบานเลื่อน การ์ดสแกน CCTV และมีห้องสำหรับ รปภ. กั้นตรงกลางระหว่างทางเข้าและทางออก
นอกจากนี้ยังมีทางเดินเข้าสำหรับคนเดินเท้าอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

ทางเข้าของลูกบ้านมี CCTV 2 จุด

ทางเข้าสำหรับคนภายนอกมี CCTV 3 จุด

พอผ่านซุ้มประตูเข้ามา ฝั่งขวามือจะเป็นที่ตั้ง Sales Gallery ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะปรับเป็นอาคารนิติบุคคล

ตรงข้าม Sales Gallery จะเป็นบ้านตัวอย่างมีให้ชมทั้งหมด 2 แบบ

โครงการนี้ถนนหลักช่วงแรกกว้าง 16 เมตร ถัดจากนั้นกว้าง 12 เมตร และ 8 เมตร ตามความลึกของโครงการ

ถนนภายในซอยกว้าง 8 เมตร

แบบบ้านพร้อม Floor Plan ของทางโครงการ ปัจจุบันมี 2 แบบ ดังนี้

1. ทาวน์โฮมแบบ 1 ที่จอดรถ (HG1) - ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 99 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร จอดรถ 1 คัน


2. ทาวน์โฮมแบบ 2 ที่จอดรถ (HG2) - ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 21.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร จอดรถ 2 คัน


Floor Plan 2 ที่จอดรถ
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
Clubhouse ที่มีทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนส (อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง)
สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ กว้าง 5.3 เมตร ยาว 15.77 เมตร ลึก 120 ซม., สระเด็ก กว้าง 5.4 เมตร ยาว 3 เมตร ลึก 90 ซม. (อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง)
สวนสาธารณะส่วนกลาง และสนามเด็กเล่น (อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง)

รั้วโครงการสูง 3 เมตร
ระบบรักษาความปลอดภัย, CCTV
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ซุ้มประตูทางเข้า-ออก

ที่สแกนบัตร สำหรับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ

CCTV มีทั้งหมด 5 จุด
ภาพบ้านตัวอย่าง และ Layout
แบบบ้านภายในโครงการที่เราจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชม - รีวิว ในวันนี้ คือ แบบบ้าน 2 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน ที่จริงแล้ว โครงการนี้มีแบบบ้าน 2 แบบนะคะ แต่ทั้งสองแบบมีฟังก์ชันที่คล้ายกัน แตกต่างกันตรงที่จอดรถ เพราะฉะนั้นเราจึงขอพาท่านไปเยี่ยมชมบ้านที่มีขนาด 2 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง และบ้านเปล่ามาตรฐานที่ใช้ส่งมอบลูกค้ามาให้ชมกันค่ะ
บ้านเปล่ามาตรฐาน

แปลนบ้านทั้งสองชั้นของแบบ 2 ที่จอดรถ

สำหรับบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง และแบบบ้านเปล่า เป็นทาวน์โฮมหลังติดกัน อยู่บล็อคเดียวกัน
ตัวทาวน์โฮมออกแบบสไตล์กรีก เน้นสีขาวสะอาดตา บ้านที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะเป็นบ้านเปล่า
ไม่ได้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้จัดสวนให้ บ้านแต่ละหลังจะมีรั้วปูนกั้นสูงประมาณ 1.50 เมตร
ประตูหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับตามปกติค่ะ

บ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร จอดรถได้ 2 คัน พื้นจอดรถจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขัดหยาบลาดยาวจนถึงประตูรั้วบ้าน
ไฟด้านหน้าเป็นโคมไฟ LED ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนพร้อมตัวล็อค 2 ชั้น ข้างประตูฝั่งขวามือเป็นหน้าต่าง
บานกระทุ้ง เดี๋ยวจะพาไปชมตอนขึ้นบันไดนะคะ ด้านหน้ามีช่องลมระบายอากาศให้ เฉลียงหน้าบ้านยกสเต็ปให้ 1 ขั้น
สูงขึ้นมาจากพื้นที่จอดรถเล็กน้อย

สำหรับประตูบานเลื่อนด้านหน้าเป็นบานเลื่อนเดี่ยว พร้อมตัวล็อค 2 ชั้น กรอบ/วงกบอลูมิเนียมสีขาว

พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ไฟด้านล่างเป็นโคมไฟ LED ฝ้าที่ให้เป็นฝ้าเรียบ ดรอปฝ้าลงมา
เล็กน้อยช่วงตรงกลางบ้าน มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 3 เมตร ส่วนสติ๊กเกอร์ที่เห็นติดตรงผนังเป็นคำอธิบายบ้านพฤกษา Fresh Air System เพื่อให้ทราบถึงข้อดี และการทำงานของระบบนี้ ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้ในบ้านโครงการนี้ค่ะ

ฟังก์ชันบ้านชั้น 1 เริ่มจากฝั่งขวามือ เป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 จากนั้นเป็นห้องน้ำ ติดกับห้องน้ำ คือ ครัว
 และด้านหลังสุดจะมีประตูเปิดออกไปลานซักล้างหลังบ้านได้

มาดูห้องน้ำชั้นล่างมีให้ครบทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ ของ Kohler ก๊อกน้ำ และฝักบัวอาบน้ำ
ของ Karat/Anglefield ไม่ได้แยกส่วนเปียก/แห้งให้ ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายสวยงาม
ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ ส่วนไฟเป็นไฟ LED ค่ะ

ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวติดตั้งถังดับเพลิงให้ด้วย

โซนด้านหลังจะเป็นพื้นที่สำหรับทำครัว และมีประตูบานเลื่อนปิดให้

จะเรียกห้องนี้ว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้นะคะ ภายในห้องมีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับเปิดระบายอากาศให้ 1 บาน 

Smoke Detector ตรวจจับควันไฟและความร้อน ติดตั้งอยู่บนเพดานด้านหลัง ช่วงหน้าห้องครัวค่ะ

ลานซักล้างด้านหลังบ้าน สำหรับบ้านเปล่ามาตรฐานจะเทคอนกรีตเสริมเหล็กขัดหยาบลาดยาวให้เต็มพื้นที่
ทำระบบท่อน้ำดี น้ำทิ้งให้เรียบร้อย ลงเสาเข็มให้ลึก 23 เมตร เท่าตัวบ้าน เพื่อรองรับการต่อเติมครัวไทยด้านหลัง
พร้อมรั้วสูงเกือบ 3 เมตร เพื่อความเป็นส่วนตัว

ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดเข้า-ออกสะดวก

เข้ามาชมด้านในบ้าน ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ
และรับแสงธรรมชาติให้ 1 บาน บันไดของที่นี่เป็นบันได Precast สำเร็จรูป มีชานพัก 2 จุด มีราวจับให้ 1 ข้าง

มาที่ชั้น 2 จะพบฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นชั้นนี้ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร

มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร

ตู้ควบคุมระบบไฟและกริ่งติดตั้งอยู่บนกำแพงหน้าห้องน้ำ ส่วนฝ้าเพดานที่เห็นจะมีพัดลมดูดอากาศ
และ Sky Light เพิ่มความสว่างให้พื้นที่ มีช่องลมระบายอากาศและความร้อน

จากภาพสามารถอธิบายระบบ Fresh Air ที่ช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน ให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
1. เริ่มจากช่องลมที่ติดตั้งอยู่ตรงผนังทุกห้องรับอากาศจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน อากาศก็จะถ่ายเทภายในบ้าน
2. พัดลมดูดอากาศก็จะดูดเอาอากาศที่ใช้แล้วขึ้นไปบนฝ้า เพื่อระบายออกไปที่ชายคาด้านนอกบ้าน
3. จากนั้นอากาศจากด้านนอก จะเข้ามาผ่านช่องลมอีกครั้ง ทำให้บ้านสดชื่น ลดอุณหภูมิ ลดกลิ่นอับ และช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดี

มาชมห้องนอน 3 กันต่อ ห้องนี้ขึ้นบันไดมาจะอยู่ติดกับทางขึ้นเลยค่ะ มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน
ตรงผนังห้องมีช่องลมระบายอากาศมาให้ บ้านที่นี่ทุกหลังจะติดตั้งให้เหมือนกันค่ะ

ติดกันคือห้องนอน 2 มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน มีช่องลมให้เหมือนกันค่ะ

ติดกับห้องนอน 2 เป็นห้องน้ำชั้นบน วางตัวอยู่ตรงกลางบ้าน มีสุขภัณฑ์ให้ครบเหมือนชั้นล่าง วางตัวเรียงกันดังภาพเลย แต่ห้องน้ำชั้นนี้แยกส่วนเปียก/แห้งให้ มีประตูบานเลื่อนกั้น ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ

Master Bedroom ห้องนี้อยู่ติดกับห้องน้ำ วางตัวอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน กินพื้นที่ตามความกว้างของบ้านคือ 5.7 เมตร


มีช่องลมระบายอากาศให้เหมือนกัน

จากรูปจะเห็นว่ามีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 บาน สามารถเปิดรับลมและมองวิวด้านนอกได้ชัดเจน
(ด้านบนคือหน้าต่างบานเลื่อน ด้านล่างเป็นกระจกบาน Fix) ถัดไปโซนด้านหลังสามารถกั้นเป็น Walk in Closet ได้
และมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กให้อีก 1 บาน

มีห้องน้ำในตัวให้ 1 ห้อง

ภายในห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ให้ครบ ทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือแบบบานปิด และก๊อกน้ำ พร้อมกับแยกส่วนเปียก/แห้งให้ด้วย
Shower Box ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ และช่องแสงให้ทุกหลังเลยค่ะ


บ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง

ชมบ้านเปล่ามาตรฐานกันไปแล้ว มาชมบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่งกันต่อนะคะ สำหรับบ้านหลังมุมจะมีพื้นที่
ด้านข้างบ้านมาให้แบบนี้

บ้านที่นี่ติดตั้งระบบ Home Automation ให้ทุกหลัง โดยระบบนี้จะใช้ Smart Phone ในการควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า และสวิทช์ไฟต่างๆ ภายในบ้าน มีสัญญาณกันขโมย มีเครื่องตรวจจับการเคลื่อนไหว ช่วยตรวจจับความผิดปกติและแจ้งเตือนเมื่อเราไม่อยู่บ้าน ทำงานควบคู่กับกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบความผิดปกติภายในบ้านได้แบบ Real-time

บ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่งในแบบเดียวกัน หน้ากว้าง 5.7 เมตร จอดรถได้ 2 คัน จะเห็นว่ามีการจัดวางผังห้องอยู่คนละฝั่งกัน แต่มีฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกับบ้านเปล่าที่ชมมาเมื่อสักครู่นี้ทุกอย่าง

30
รับออกแบบบ้าน
รับออกแบบบ้าน ตามความต้องการ
และงบประมาณ ของเจ้าของบ้าน
ฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์สวย สร้างได้จริง
ปรับแบบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

รับสร้างบ้าน
รับสร้างบ้าน และควบคุมงานโดยทีมสถาปนิก-วิศวกร
ที่มีใบอนุญาต ทีมงานประสบการณ์สูง
เราเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมรับประกันความพึงพอใจ
บ้านสวย แข็งแรง ทนทาน เสร็จตรงตามเวลา
งบประมาณไม่บานปลาย
กว่า 20 ปี กับงานบริการ

บริษัทรับสร้างบ้าน และออกแบบบ้าน รับประกันคุณภาพมาตรฐานบ้านทุกหลัง


BEST BUILD DESIGN AND CONSTRUCTION
บริษัท เบสท์ บิลด์ ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่)
148/2 ซอยปราโมทย์ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. 0997829415


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
Page FB : https://www.facebook.com/AiForRealEstate
เว็บไซด์ : https://luxuryhomesdesigns.com/
เบอร์โทร : 099-782-9415


31
“การสร้างแบรนด์
ก็เหมือนกับ
การสร้างพื้นที่ทำธุรกิจของคุณเอง
ถ้าคุณไม่สร้างแบรนด์ เท่ากับว่าวันนี้คุณไม่มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ“

ครูแมกซ์
“สอนสร้างแบรนด์
สอนทำธุรกิจออนไลน์”

“การสร้างแบรนด์”
ไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าดูสวยงาม หรือการทำโลโก้กับสีสันที่ดึงดูดเท่านั้น แต่มันคือศิลปะในการสร้างเสน่ห์ที่ลูกค้าไม่อาจต้านทานได้ มันเหมือนการทำเวทมนตร์ ซึ่งไม่ต้องการไม้กายสิทธิ์ หรือหมวกวิเศษ แต่ต้องการความเข้าใจในลูกค้าและการสื่อสารที่ตรงจุด
สมมติว่าคุณกำลังขายกาแฟ ลองนึกภาพนี้สิ…
คุณไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่คุณกำลังขายช่วงเวลาแห่งความสุข
บทสนทนาที่ดี และความรู้สึกที่อบอุ่นใจ ทุกครั้งที่ลูกค้าหยิบถ้วยกาแฟของคุณ
พวกเขาไม่ได้แค่ดื่ม แต่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับเรื่องราวที่คุณเล่า
.
แบรนด์ที่ดี คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าจำได้ ไม่ว่าจะผ่านงานโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ หรือแม้กระทั่งการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์ที่สำคัญทั้งนั้น
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ตรงใจและสร้างความแตกต่าง  จะเป็น แบรนด์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในตลาด และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นศิลปะแห่งการเชื่อมต่อกับใจคนอย่างแท้จริง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://www.facebook.com/Krumax181026
เว็บไซด์ : https://businesssmarttools.com/
เบอร์โทร : 093-962-6545



32
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/


33
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







34
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





35
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
???? สารสกัดกระชาย 200 มก.
???? ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
???? แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
???? วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


36
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



37
สูตรเครื่องดื่มแก้เมาค้าง แก้แฮงค์ ดื่มปุ๊บสร่างปั๊บ


นักปาร์ตี้ทั้งหลายจะมีใครที่ไม่เคยผ่านอาการเมาค้าง หรือที่เรียกว่า แฮงก์ (Hangover) คงจะไม่มี ดื่มแอลกอฮอล์กันหนักหน่วงจนคลื่นไส้อาเจียน ที่สำคัญมีอาการปวดหัวตึ้บจนลุกไปเรียน ตื่นไปทำงานกันแทบจะไม่ไหว ไม่ดีเอาซะเลย อย่าปล่อยให้อาการเมาค้างแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณบ่อยนักนะคะ ถ้าไม่อยากแฮงก์จนเสียงานเสียการ ลองมาดูเครื่องดื่มแก้แฮงก์ที่เรานำมาฝากทางนี้เลยดีกว่า วิธีแก้อาการเมาค้าง พะอืดพะอม รับรองว่า ดื่มปุ๊บสร่างปั๊บ ตื่นเช้าขึ้นมาจะได้สดชื่นสบาย ๆ


1. กาแฟ

กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มแก้เมาค้างยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน เพราะในกาแฟมีคาเฟอีนที่จะช่วยให้หายจากอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ และกาแฟจะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น แต่ต้องเป็นกาแฟที่ไม่ใส่นม หรือน้ำตาล จะได้ผลดีและเร็วที่สุด


2. น้ำแตงกวาดอง
           
แค่พูดถึงชื่อ น้ำแตงกวาดอง ก็ทำเอาสร่างเมาขึ้นมาทันทีเลย ลองได้ตักซดเข้าไปสักอึกนึง คงจะตาตื่นกันเป็นแถว ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ในน้ำแตงกวาดองมีเกลือผสมอยู่ ถือเป็นเกลือแร่ชั้นดีเลยทีเดียว และมีน้ำส้มสายชูที่จะช่วยในการย่อยอาหารและขับเอาแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย วิธีดื่ม คือ

      - น้ำแตงกวาดองล้วน ๆ 1-2 ช้อนโต๊ะ
      - ผสมน้ำแตงกวาดอง 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำต้มสุก 1 แก้ว


3. น้ำขิง หรือชามินต์

ดูเหมือนเครื่องดื่ม 2 แก้วนี้จะเป็นเครื่องดื่มอันดับต้น ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกให้เป็นเครื่องดื่มแก้เมาค้างฝีมือฉมัง เพราะดื่มแล้วหายแฮงก์เร็วทันใจ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ขิงที่มีรสชาติเผ็ดร้อน และใบสะระแหน่ที่มีกลิ่นหอมเย็น จะช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าใส่น้ำผึ้งลงไปอีกสักนิด น้ำผึ้งจะทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ จะช่วยให้ชะล้างและทำลายแอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปได้อย่างรวดเร็วทีเดียว แถมการดื่มชาเข้าไปจะช่วยให้คุณตื่นนอนตอนเช้าได้แบบสบาย ๆ ไม่ปวดหัวมากกว่าการดื่มกาแฟด้วย

ส่วนผสม ชาสะระแหน่

      • ใบสะระแหน่สดหรือแบบตากแห้งบดละเอียด 2 ช้อนชา
      • น้ำร้อน 1 แก้ว
      • น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม ปริมาณตามชอบ

วิธีทำชาสะระแหน่

      ► ชงใบสะระแหน่ในน้ำร้อน จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น นำไปกรองเอาแต่น้ำชา เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามความชอบ


4. เครื่องดื่มเกลือแร่

ง่าย ๆ เลยแค่คุณเมาแล้วไปร้านสะดวกซื้อ หยิบเครื่องดื่มเกลือแร่มาสักหนึ่งขวด กระดกให้หมดขวด หรือถ้าที่บ้านมีเกลือแร่ชนิดผงที่ไว้ชงดื่มเวลาท้องเสียก็สามารถใช้ได้เช่นกัน โดยใส่เกลือแร่ชนิดผง 1 ซอง ชงกับน้ำต้มสุก 1 แก้ว



5. น้ำอัดลม

น้ำอัดลมถือเป็นวิธีที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มแก้แฮงก์ เพราะน้ำอัดลมจะช่วยขับแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดออกไป รวมทั้งส่วนผสมของน้ำอัดลม โดยเฉพาะน้ำอัดลมกลิ่นโคล่า จะช่วยลดสารอะซิทัลดีไฮด์ และเอทานอล ที่เป็นเหตุทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ ถ้าวันไหนคุณปวดหัวแต่ไม่ได้เมา ก็ลองดื่มน้ำอัดลมเข้าไปก็ช่วยได้เหมือนกัน



6. น้ำมะพร้าว
           
น้ำมะพร้าวแบบไทย ๆ สามารถแก้อาการเมาค้างได้สบาย ๆ เพราะในน้ำมะพร้าวเป็นแหล่งรวมของสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) หรือสารชนิดเดียวกับที่อยู่ในเครื่องดื่มเกลือแร่ จะช่วยทดแทนน้ำให้กับร่างกายที่สูญเสียไปจากการดื่มหนัก ๆ เหมือนกับเกลือแร่นั่นเอง



7. น้ำผัก-ผลไม้สีเขียว

ทำไมต้องสีเขียว ก็เพราะว่าในน้ำผัก-ผลไม้สีเขียวนั้นเต็มไปด้วยโพแทสเซียมที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณภายหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ ลดอาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ปวดเมื่อยตามตัวได้ดีทีเดียว

ส่วนผสม กรีนสมูทตี้

      • ผักกาดคอส (หั่นเป็นชิ้น) 100 กรัม
      • แตงกวา (หั่นเป็นชิ้น) 50 กรัม
      • น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
      • แอปเปิลเขียว (ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น) 30 กรัม
      • กีวี (ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น) 30 กรัม

วิธีทำกรีนสมูทตี้

      ► นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นรวมกันจนละเอียด
      ► รินใส่แก้วเล็ก ๆ ดื่มทันทีเป็นมื้อเช้า ช่วยล้างพิษในร่างกาย



 8. สมูทตี้ผลไม้

การดื่มหนัก ๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียม ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ เวียนหัว และใจสั่น การได้ดื่มสมูทตี้ผลไม้จะช่วยให้ร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่าขึ้น เป็นแหล่งรวมโพแทสเซียมชั้นดี โดยเฉพาะสมูทตี้กล้วยหอมนมสดน้ำผึ้ง เพราะกล้วยหอมเต็มไปด้วยแร่ธาตุ และน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยในการสลายแอลกอฮอล์ให้หมดไปจากร่างกายด้วย ส่วนผสมก็มีแค่กล้วยหอม นมสด และน้ำผึ้งเท่านั้นเอง
           
แต่ถ้าใครมีข้อครหาว่า เอ้า ! แล้วเมาหนักขนาดนี้จะมีแรงที่ไหนมานั่งปั่นสมูทตี้กิน ก็ให้ใช้วิธีปั่นสมูทตี้แล้วไปแช่เย็นเตรียมไว้ก่อนจะไปสังสรรค์ พอกลับมาจากปาร์ตี้ก็นำออกมาดื่ม รับรองว่าหายแฮงก์เลยล่ะ

ส่วนผสม สมูทตี้กล้วยหอม

      • กล้วยหอมแช่แข็ง 1 ลูก
      • นมพร่องมันเนย แช่เย็นจัด 1 1/2 ถ้วย
      • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ แช่เย็นจัด 1 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำสมูทตี้กล้วยหอม
         
      ► ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเนียนละเอียดเข้ากันดี เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม


9. สมูทตี้เนยถั่ว
             
เวลาเมาค้างหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการดื่มกาแฟหรือชา แต่คาแฟอีนในกาแฟและชาจะช่วยแค่ให้คุณหายจากอาการอาเจียนเท่านั้น ลองทำสมูทตี้เนยถั่วดื่มดู เพราะเครื่องดื่มแก้วนี้จะให้โปรตีนที่มากกว่า และโปรตีนนี้เองจะเป็นตัวช่วยให้คุณหายจากอาการเมาค้างได้เร็วขึ้น

ส่วนผสม เนยถั่วกับกล้วยหอมสมูทตี้ (นิตยสารแม่บ้าน)
           
      • นมสด 1 ถ้วยตวง
      • กล้วยหอมแช่แข็ง 1 ลูก
      • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
      • เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำแข็ง 1 ถ้วยตวง
      • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
           
      ► นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นให้เข้ากันจนละเอียด รินใส่แก้ว แช่ตู้เย็น เตรียมไว้



10. สมูทตี้ขิงกับส้ม
             
เครื่องดื่มแก้วนี้เป็นเครื่องดื่มล้างพิษที่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้างได้ เพราะในเลมอนมีสารที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้สามารถขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ขิงจะช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และส้มจะช่วยเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมทำให้ดื่มง่าย และยังอุดมไปด้วยวิตามินอีกด้วย

ส่วนผสม

      • น้ำส้มคั้น 1 ถ้วย
      • ขิง หั่นแว่น 3-5 ชิ้น
      • น้ำแข็ง 1 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง ตามชอบ
      • เกลือป่น เล็กน้อย

วิธีทำ

      ► ใส่ทุกอย่างลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเนียนละเอียด เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม


11. น้ำผึ้งมะนาวผสมขิง

เครื่องดื่มแก้เมาค้างแก้วนี้เป็นการรวมเอา 3 ตัวท็อปอย่าง น้ำผึ้ง ที่มีส่วนช่วยทำลายแอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปได้ ขิง ที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และน้ำนะนาวหรือน้ำเลมอน ที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้สามารถขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ถ้าใครไม่สามารถดื่มแบบเพียว ๆ ได้ก็สามารถผสมน้ำเข้าไปสักหน่อย ทำเก็บใส่ขวด แช่ไว้ในตู้เย็น คราวนี้ล่ะ ต่อให้เมาแฮงก์ขนาดไหนก็ไม่ต้องกลัว

ส่วนผสม

      • ขิงขูดละเอียด 3/4 ถ้วย (หรือ 4 ออนซ์)
      • น้ำมะนาว 1 ถ้วย
      • น้ำร้อน 1/2 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
      • น้ำแข็ง

วิธีทำ

       1. ผสมน้ำร้อนกับน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน ใส่ขิงขูดลงไปคนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนขิงเข้ากันดีกับน้ำผึ้ง

       2. เติมน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน ยกลงกรองผ่านกระชอนหรือตะแกรงเอาเฉพาะน้ำ จากนั้นเทน้ำขิงมะนาวใส่แก้วที่มีน้ำแข็งพอประมาณ พร้อมดื่ม



12. น้ำผลไม้ผสมเกลือ

น้ำผลไม้ผสมเกลือแก้วนี้เป็นเครื่องดื่มจำพวกเกลือแร่ที่คุณก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ แค่ผสมน้ำเปล่ากับน้ำผลไม้ที่มี และใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากันแล้วดื่ม เครื่องดื่มแก้วนี้จะช่วยขับแอลกอฮอล์ออกไปได้ แถมยังเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยใส่เกลือลงในน้ำผลไม้ที่ชอบ คนผสมให้เข้ากัน



13. สมูทตี้แตงโมผสมแตงกวา

ถ้าจะพูดถึงเครื่องดื่มที่ช่วยเรียกความสดชื่นให้กับร่างกายจะไม่มีแตงโมร่วมวงด้วยก็คงจะกระไรอยู่ เพราะในแตงโมและแตงกวา หรือผลไม้ตระกูลแตง จะมีน้ำมาก เมื่อดื่มเข้าไปจะทำให้ร่างกายคุณสดชื่นขึ้น วิธีทำก็แค่นำแตงโม แตงกวา น้ำมะนาว ใบสะระแหน่ และเกลือ ไปปั่นจนละเอียด เทใส่แก้ว ตามด้วยน้ำแข็งและโซดา ดื่มให้เย็นซ่าชื่นใจ เท่านี้ก็จะช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีทีเดียว

ส่วนผสม

      • แตงกวา ปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็ก 1/2 ลูก
      • เนื้อแตงโม (แกะเมล็ดออก หั่นชิ้นเล็ก) 100 กรัม
      • ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
      • น้ำตายทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น เล็กน้อย
      • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

      ► ใส่แตงกวา เนื้อแตงโม น้ำตาลทรายแดง เกลือป่น และน้ำมะนาว ลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเนื้อเนียนละเอียด เทใส่แก้ว นำไปแช่ในตู้เย็น เตรียมไว้


14. แพร์รี ออยส์เตอร์ (Prairie Oyster)
             
แพร์รี ออยส์เตอร์ (Prairie Oyster) เป็นเครื่องดื่มที่ชาวอเมริกันดื่มแก้แฮงก์ มีส่วนผสมของไข่ดิบ ซอสวูสเตอร์หรือซอสเปรี้ยว เกลือ พริกไทยดำ และซอสเผ็ด ซึ่งชาวอเมริกันเชื่อว่า ถ้าดื่มแก้วนี้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น เพราะไข่ดิบมีโปรตีน ที่จะช่วยขับแอลกอฮอล์ที่ตกค้างในร่างกายออกไปได้เร็วยิ่งขึ้น ส่วนของเหลวต่าง ๆ ทั้งบรั่นดี ซอสเปรี้ยว ซอสเผ็ด และน้ำส้มสายชู มีส่วนช่วยให้หายคลื่นไส้อาเจียนได้อีกด้วย

ส่วนผสม

      • บรั่นดี 25 มิลลิลิตร
      • ซอสเปรี้ยวหรือวูสเตอร์ซอส (Worcesterfhire Sauce) 1/4 ช้อนชา
      • น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนชา
      • ซอสเผ็ดหรือซอสพริก 1 ช้อนชา
      • ไข่แดง 1 ฟอง

วิธีทำ

      ► ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในแก้ว ตามด้วยไข่แดง พร้อมดื่ม


15. นมช็อกโกแลตผสมชีสพาย

เครื่องดื่มแก้แฮงก์แก้วนี้เป็นที่นิยมของชาวนิวซีแลนด์ ที่เชื่อว่า การดื่มนมช็อกโกแลตร้อน ๆ ผสมกับชีสพาย เพราะทั้งสองอย่างนี้จะให้โปรตีนแก่ร่างกายเรา ซึ่งจะช่วยเพิ่มกรดอะมิโมต่าง ๆ ในร่างกายเราไม่ว่าจะเป็น ทอรีน หรือซีสเทอีน รวมทั้งยังช่วยขับแอลกอฮอล์ที่ตกค้างออกจากร่างกายได้ด้วย



16. ซุปมิโซะ

ถึงแม้จะไม่ใช่เครื่องดื่มแต่ก็สามารถยกซดแก้แฮงก์ได้ดีทีเดียวกับ ซุปมิโซะ ในขณะที่คุณกำลังเมาแฮงก์อยู่นั้น ร่างกายของคุณต้องการกรดอะมิโน น้ำ วิตามิน และแร่ธาตุ ในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาปกติ มีนักวิชาการได้กล่าวไว้ว่า ซุปมิโซะนี่แหละที่จะช่วยแก้แฮงก์ได้ เพราะในซุปมิโซะมีน้ำที่จะช่วยเรียกความสดชื่น มีโซเดียมที่จะช่วยดูดซึมน้ำเอาไว้ และมีของหมักดอง ที่เป็นแหล่งรวมแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์ในการช่วยย่อยอาหารอีกด้วย

ส่วนผสม
           
      • น้ำเปล่า
      • ฮอนดาชิ
      • สาหร่ายวากาเมะ
      • มิโซะสำเร็จรูป
      • เต้าหู้นิ่มหั่นเต๋า   
 
วิธีทำ
           
      ► ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยฮอนดาชิ คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่สาหร่ายวากาเมะลงไปต้มจนเดือด
      ► ใส่มิโซะลงไปต้มจนเดือด ใส่เต้าหู้ ต้มจนเดือดอีกครั้ง ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ


17. น้ำเปล่าผสมไส้กรอก
             
แค่พูดชื่อเครื่องดื่มแก้แฮงก์แก้วนี้ดูจะแปลกไปสักหน่อย แต่ชาวสกอตแลนด์เขาบอกว่า การนำไส้กรอกไปผสมกับน้ำเปล่าแล้วนำไปดื่ม จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานช้าลง แถมยังทำให้ท้องไม่ว่างแล้วเมาช้าลงนั่นเอง


18. น้ำสต๊อกปลา
           
น้ำสต๊อกปลา เป็นเครื่องดื่มแก้แฮงก์ตำรับชาวเปรู ด้วยวิธีการน้ำสต๊อกปลาผสมกับน้ำมะนาวคั้นประมาณ 2-3 ลูก น้ำเลมอน และน้ำเปล่า ในปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นใส่กระเทียมและขิงลงไปอีกสักหน่อย จะช่วยให้ร่างกายที่อ่อนเพลียรู้สึกดีขึ้น และในน้ำมะนาวมีกลูโคสและกรดซิตริก จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญและขับแอลกอฮอล์ได้เร็วขึ้น


38
วิตามินบำรุงสมอง อาหารบำรุงสมองและแต่ละมื้อส่งผลอย่างไร

“สมอง”เป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนที่คอยควบคุมอวัยวะส่วนอื่นและการกระทำต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ โดยสมองมีน้ำหนักประมาณ 2% เมื่อเทียบกับน้ำหนักของร่างกายมนุษย์ แต่มีการใช้พลังงานถึง 20% จากการใช้พลังงานทั้งหมดซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมสมองถึงเป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ สารอาหารพื้นฐานของสมองประกอบไปด้วย ไขมัน (Fats), โปรตีน (Proteins), กรดอะมิโน (Amino Acids), กลูโคส (Glucose) และสารอาหารรองอื่นๆ (Micronutrients) ซึ่งสารอาหารแต่ละอย่างก็ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกันไป แต่แน่นอนว่าสารอาหารเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่สมองขาดไม่ได้เลย หากอาหารประเภทใดที่มีสารอาหารพื้นฐานที่สมองต้องการแล้วล่ะก็เราสามารถเรียกอาหารประเภทนั้นว่า อาหารบำรุงสมอง หรือ อาหารสมอง ได้ทันที


การเลือกทานอาหารบำรุงสมอง


1. การรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมัน (FATS)

ไขมันเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับสมองซึ่งช่วยสร้างและบำรุงรักษาเยื่อหุ้มเซลล์ และช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อม โดยสามารถหาได้จากอาหารประเภท ถั่ว เมล็ดพืช และปลาที่มีไขมันมาก ซึ่งเราควรรับประทานอาหารประเภทนี้เป็นประจำเนื่องจากเป็นไขมันดีทำให้สามารถเข้ามาแทนที่ไขมันทรานส์ในร่างกาย และควรลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวเนื่องจากส่งผลเสียต่อสมองในระยะยาว ส่วนความเชื่อที่เกี่ยวกับการลดไขมันนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดเนื่องจากร่างกายยังต้องการไขมัน และโครงสร้างของสมองมีไขมันมากถึง 60% ดั้งนั้นการงดไขมันจะทำให้ไขมันในสมองลดลงไปด้วย


2. การรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยโปรตีน (Proteins)

โปรตีนช่วยทำหน้าที่เป็นสารสื่อระหว่างเซลล์กับเซลล์และมีส่วนช่วยในการพัฒนาการเติมโตของร่างกาย ความรู้สึกและพฤติกรรม โดยวิธีการเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนนั้นควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ควรรับประทานปลาน้ำลึกสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง โดยไม่ควรทานปลาชนิดเดียวติดต่อกันยาวนานเกินไปควรรับประทานหมุนเวียนสลับกันไปเรื่อย ๆ เช่น ปลาเก๋า ปลาทู ปลากะพง และไม่จำเป็นต้องรับประทานเฉพาะปลาน้ำเค็มเพียงอย่างเดียวแต่เราสามารถรับประทานปลาน้ำจืดควบคู่กันไปด้วย โดยกรรมวิธีที่ใช้ควรเป็นการ นึ่งให้สุก ต้มให้สุก หรือย่าง จะดีกว่าการทอด


3. การรับประทานอาหารที่มีกรดอะมิโน (Amino Acids)

กรดอะมิโนมีสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสารที่นำสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท และส่งผลต่อ อารมณ์ การนอนหลับ สมาธิ และน้ำหนัก จึงเป็นปกติที่เรารู้สึกเหนื่อยหลังจากทานอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณมาก หรือรู้สึกตื่นตัวหลังจากได้ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง โดยกรดอะมิโนเป็นหน่วยเล็ก ๆ ของโปรตีน เมื่อเรารับประทานเข้าไปร่างกายจะย่อยโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโนจากนั้นจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและถูกขับออกทางปัสสาวะเมื่อได้รับกรดอะมิโนมากจนเกินไปโดยอาหารที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไข่ นมถั่วเหลือง สัตว์ปีก การรับประทานอาหารประเภทนี้ไม่ควรรับประทานเยอะมากจนเกินไปเนื่องจากสมองสามารถดูดซึมกรดอะมิโนได้จำกัดการทานอาหารที่มีกรดอะมิโนในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้มีสมดุลย์ในเรื่องของอารมณ์และควรทานช่วงเช้าเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายดูดซึมได้ดี


4. การรับประทานอาหารประเภทสารอาหารรอง (Micronutrients)

สารอาหารรองประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยวิตามินมีผลช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นกับสมอง แร่ธาตุช่วยให้ร่างกายแข็งแรงลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกและสมองโดยสารอาหารรองสามารถหาได้จากผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว ผลติภัณฑ์นม รำข้าวกล้อง หรือ อาหารบำรุงสมองทางเลือกที่ถูกผลิตขึ้นจากบริษัทต่าง ๆ ในการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารรองนั้นควรรับประทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารอาหารดังกล่าวได้อย่างเต็มที่


5. การรับประทานอาหารประเภทกลูโคส (Glucose)

กลูโคส (Glucose) เป็นอาหารสมองที่ทำให้เราใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก โดยกลูโคสสามารถเกิดจากร่างกายย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรดเป็นกลูโคสหรือน้ำตาลในเลือดอาหารที่มีค่าไกลซิมิคสูง เช่น ขนมปัง จะปล่อยกลูโคสเข้ากระแสเลือดอย่างรวดเร็วก่อนลดฮวบลง ส่งผลให้สมาธิและอารมณ์ของเราก็ตกลงด้วย ส่วนข้าวโอ๊ด เมล็ดพืช และถั่ว ปล่อยกลูโคสเข้ากระแสเลือดช้ากว่าทำให้ระดับสมาธิของเราเสถียรกว่า ดังนั้นในมื้อเช้าเราควรทานอาหารที่มีการปล่อยกลูโคสเข้ากระแสเลือดช้าเพื่อให้มีสมาธิกับงานได้ตลอดทั้งวันและทานอาหารที่มีการปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเมื่อต้องการใช้สมาธิอย่างหนักในเวลาอันสั้น


ผลของอาหารแต่ละมื้อที่เรารับประทานเข้าไป

1. มื้อเช้า

มื้อเช้าเป็นมื้อที่ควรเต็มไปด้วย อาหารสมอง ที่ให้พลังงานสูงแก่ร่างกายเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันดังนั้นควรเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อให้สามารถใช้ประสิทธิภาพของสมอง ร่างกายได้อย่างเต็มที่ และลดความหิวระหว่างวันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้อารมณ์สมดุลย์ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่งเยอะจนเกินไปด้วย


2. มื้อกลางวัน

มื้อกลางวันเป็นมื้อที่รับประทานเพื่อเสริมให้กับอาหารสมองที่ได้รับจากมื้อเช้าเพื่อนำพลังงานไปใช้ในตอนบ่าย ไม่ควรรับประทานมากเกินจำเป็นเนื่องจากร่างกายได้รับสารอาหารจากมื้อเช้าไปเยอะแล้ว และถ้าหากทานมื้อกลางวันมากจนเกินไปจะทำให้ช่วงบ่ายเกิดอาการเฉื่อย ง่วงนอน เนื่องจากกระเพาะอาหารมีการทำงานหนัก


3. มื้อเย็น

มื้อเย็นเป็นมื้อที่เราควรรับประทานในปริมาณน้อยและมีแคลอรี่น้อยกว่ามื้ออื่นๆ เนื่องจากหลังจากมื้อเย็นเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องซ่อมแซมตัวเองและพักผ่อน หากเราทานอาหารมื้อเย็นมากจนเกินไปจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ และอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงในวันถัดไปได้เนื่องจากร่างกายยังต้องคอยย่อยอาหารที่เรารรับประทานเกินจำเป็นทำให้นอนหลับไม่สนิทในเวลากลางคืน

การรับประทาน อาหารบำรุงสมอง เป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง หากมีความเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทชีวิตประจำวันของตนเองแล้วจะทำให้มีความสุขกับการมีสุขภาพที่ดีเพราะเข้าใจวิธีการรับประทานอาหารแต่ละอย่างอีกทั้งยังสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ให้กับตนเองได้ว่าจะเลือกทานอาหารแบบไหนและจะไม่ทานอาหารแบบไหน สุดท้ายแล้วการรับประทานอาหารประเภทเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ได้ส่งผลดีมากกว่าการรับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องสารพิษตกค้างและสารอาหารเกินในร่างกาย เพื่อให้สารอาหารในสมองและร่างกายมีความสมดุลลย์เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีความหลากหลายสลับกันไปในแต่ละวัน

39
เรื่องน่ารู้ ก่อนคิด จัดฟัน

จัดฟัน ไม่ใช่เพียงแค่ เป็นการแก้ปัญหา ของผู้ที่มีความผิดปกติของเหงือกและฟัน แต่การจัดฟัน ยังช่วยเสริมบุคลิกของผู้ที่จัดฟันให้แลดูดีขึ้น มั่นใจตนเองมากขึ้น ดังนั้น ก่อนที่จะคิดจัดฟัน เราต้องศึกษาอะไรบ้าง วันนี้ จึงมีข้อแนะนำ มาฝาก ดังนี้

ชนิดของเครื่องมือ ที่ใช้ในการจัดฟัน เครื่องมือแต่ละชนิดอาจมีความสามารถในการเคลื่อนฟันต่างกัน หรือสร้างจากวัสดุที่ต่างกัน และในบางครั้งผู้ป่วยคนหนึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือมากชนิดกว่าผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง เช่น จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใส่ภายนอกปากเพิ่มเติมด้วย ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จึงต้องปรึกษา ทันตแพทย์ ถึงปัญหาของของเหงือกและฟันของเรา ว่าเราต้องใช้เครื่องมือ อะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน เพื่อเตรียมความพร้อม ในเรื่องของค่าใช้จ่าย


ลักษณะความผิดปกติของผู้ป่วย ก่อนที่จะทำการจัดฟัน เราต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์ ปัญหาสุขภาพปากและฟัน และเมื่อผลการตรวจเสร็จสิ้น ทันตแพทย์ ก็จะแนะนำถึงรายละเอียด ของปัญหา แนวทางเลือกในการแก้ไข ขั้นตอนวิธีการ และระยะเวลาในการรักษา ตามปกติผู้ป่วยที่สามารถแก้ไขได้ง่าย และรวดเร็วจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในรายที่ยุ่งยาก และมีปัญหาที่ซ้ำซ้อน การไปพบทันตแพทย์ จะช่วยให้เรา ทราบถึงสภาพปัญหาของเหงือกและฟันของเรา เพื่อที่จะได้วางแผนการจัดฟัน และค่าใช้จ่าย ในการจัดฟัน


สถานที่ที่ให้บริการ เป็นเรื่องปกติ ที่สถานที่ให้บริการของภาครัฐ มักจะราคาถูกกว่า ภาคเอกชน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับ นั่นคือ เครื่องมือในการจัดฟัน ของภาคเอกชน มักจะมีความทันสมัย กว่าภาครัฐ เนื่องด้วยนวัตรกรรมต่างๆ ที่มีราคาแพง จึงส่งผลต่อการให้บริการ รวมถึง ความสะดวก และรวดเร็ว ของภาคเอกชน สามารถที่จะนัดหมายเวลา ในการจัดฟัน ตามที่ลูกค้าต้องการ และเลือกทันตแพทย์ ที่จะทำการจัดฟันที่ตนเองมีความเชื่อมั่น แต่สิ่งหนึ่งที่ตามมา คือค่าบริการ ของภาคเอกชน ย่อมแพงกว่า ภาครัฐ แต่ภาคเอกชน ก็จะมีความหลากหลาย ในการให้บริการ หลากหลายรูปแบบในการจัดฟัน ซึ่งในภาครัฐ จะมีข้อกำหนดในการให้บริการที่น้อยกว่า การเลือกรูปแบบต่างๆ ย่อมน้อยกว่า เนื่องด้วย เทคโนโลยีในการจัดฟัน มีมากมาย แล้วแต่งบประมาณของคนไข้ และความพร้อมของสถานบริการ


การจ่ายเงินสำหรับค่าจัดฟัน โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มาปรึกษาทางทันตกรรมจัดฟันครั้งแรก จะต้องจ่ายค่าพิมพ์ปาก ถ่ายรูป และค่าเอกซเรย์ เพื่อวิเคราะห์ถึงความผิดปกติและวางแผนการบำบัดรักษา เมื่อทันตแพทย์ได้อธิบายถึงความผิดปกติและวิธีการรักษาจนเป็นที่ตกลงกันแล้ว ทันตแพทย์ มักจะแนะนำ วิธีการในการจัดฟัน ที่มีหลากหลายรูปแบบ และราคาที่แตกต่า่งกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ คนไข้ ที่มีความพร้อม หรือเลือกรูปแบบการจัดฟัน ที่ตนเองชอบ และเหมาะสม กับการรักษา ที่ทันตแพทย์ แนะนำ เนื่องด้วย แต่ละวิธีของการจัดฟัน ก็จะมีเครื่องมือในการจัดฟัน ที่แตกต่างกัน ระยะเวลาในการจัดฟัน ที่แตกต่างกันด้วย งบประมาณของคนไข้ ที่สามารถจ่ายได้ จึงเป็นตัวเลือกหนึ่ง ในการตัดสินใจเลือกวิธีการในการจัดฟัน


การเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนทำ การรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน

การเตรียมพร้อมของสภาพในช่องปาก เนื่องจากสภาวะของฟัน เหงือกและกระดูกที่หุ้มรากฟันมีความสำคัญต่อการจัดฟัน ทั้งระหว่างการจัดฟัน และภายหลังการจัดฟัน การเคลื่อนที่ของฟันจะเป็นไปได้ด้วยดีต่อเมื่อสภาพของฟัน เหงือกและกระดูกที่หุ้มรากฟันอยู่ในสภาพแข็งแรงพอที่จะรองรับแรงจากเครื่องมือหรือการหยุดแรงโดยไม่จำเป็น เพราะอาจมีผลให้ระยะเวลาของการรักษาเนิ่นนานขึ้นหรือซับซ้อนมากขึ้น

หากผู้ป่วย มีปัญหาทันตกรรมด้านอื่นๆร่วมด้วย เช่น ฟันผุ ต้องทำการรักษาก่อน และจำเป็นต้องอุดฟันที่ผุทุกซี่ให้เสร็จสิ้นก่อนการใส่เครื่องมือจัดฟัน และให้ดูลักษณะที่บวมแดงของเหงือก หรือมีเลือดออกตามไรฟัน หรือหินปูนจับตามคอฟัน หรือฟันโยก ที่จะต้องรักษาให้หายก่อน และผู้ป่วยต้องศึกษาวิธีการแปรงฟัน การรักษาความสะอาดของช่องปาก เพราะเมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันไปแล้วอาจทำให้การแปรงฟันยากขึ้น รวมทั้งแรงจากเครื่องมืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเหงือกและกระดูก อาจรู้สึกเจ็บ ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าแตะต้องหรือทำความสะอาดฟันบริเวณนั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง

ความพร้อมทางด้านสุขภาพ ผู้ที่จะมาใช้บริการจัดฟัน ควรมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ไม่มีโรคติดต่อ หรือโรคประจำตัว อันอาจมีผลต่อการจัดฟัน เนื่องด้วย การใช้ยาบางชนิด ในการรักษาโรค อย่างเป็นประจำ อาจส่งผลต่อเหงือก หรือน้ำลายที่อยู่ในช่องปาก รวมไปถึง ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุโดยเฉพาะบริเวณของใบหน้าและศีรษะ การแพ้ยา การแพ้อาหาร ประวัติการเจ็บป่วย ที่ท่านมี ควรแจ้งให้ทันตแพทย์จัดฟันทราบก่อน เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษาและการเลือกใช้เครื่องมือ ที่เหมาะสม

การเตรียมพร้อมด้านสภาวะทางสังคม แน่นอนที่สุดว่า การจัดฟัน มีหลากหลายรูปแบบ ที่แตกต่างกัน เมื่ออยู่ระหว่างการจัดฟัน ก็ต้องดูแลตนเองให้ดี เนื่องด้วย อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟันแต่ละประเภท มีความแตกต่างกัน ในการใส่ จึงอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร การเข้าสังคม ของผู้ที่จัดฟัน ดังนั้น ผู้ที่จะจัดฟัน ต้องเตรียมพร้อมจะใส่เครื่องมือจัดฟันแบบปกติ หรือต้องการเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ทางด้านในปากโดยยึดติดกับฟันทางด้านใกล้สิ้น หรือเครื่องมือที่ติดกับฟันเป็นพลาสติกหรือเซรามิกที่มีสีเหมือนฟันแทนโลหะ หรือเครื่องมือชนิดถอดได้เพื่อให้ผู้ป่วยใส่และถอดได้เอง ต้องเรียนรู้ถึงเครื่องมือ ในแตะละแบบ ของการจัดฟันด้วย เพื่อที่จะวางแผนการใช้ชีวิต ในระหว่างจัดฟัน ได้อย่างเหมาะสมกับตนเอง

40
มิตซูบิชิ Mitsubishi-Outlander PHEV GT-Premium-ปี 2020
Mitsubishi Outlander PHEV ก้าวข้ามสู่อีกขั้นด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ เป็นการผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตรให้กำลังสูงสุดที่ 305 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ดีที่สุดจาก Evolution

รายละเอียดเบื้องต้น
   
แบรนด์               Mitsubishi
รุ่น                    มิตซูบิชิ Mitsubishi-Outlander PHEV GT-Premium-ปี 2020
ประเภทรถ           รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
ปีที่เปิดตัว           2020
ราคา                 1,749,000 บาท


ดีไซน์
   
ภายนอก

ล้อแม็ก (18")
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค (แบบ LED)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอก
ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง (แบบตัดการทำงานอัตโนมัติ)
ไฟ Daytime Running Lights
ราวหลังคา (สีเงิน)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (แบบ LED Twin Projector)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (ประตูท้ายไฟฟ้า)
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
ไฟท้าย LED (พร้อมตกแต่งด้วยกรอบสีเงิน)
   

ภายใน

เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ตกแต่งภายใน (สีเงิน และลายกราฟฟิกสีดำ)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (เข้า-ออก)
ภายในโทนสีดำ


สเปค
   
เครื่องยนต์                       4B12, 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์วไอดีแปรผัน กับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 82 แรงม้า และ มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง 95 แรงม้า กับแบตดตอรี่ลิเธียม-ไออน ความจุ 13.8 kWh

ขนาดเครื่องยนต์ (CC)        2,360 CC
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)     128 แรงม้า
ระบบเกียร์                      1 จังหวะ
รูปแบบเกียร์                    ใช้การขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปยังชุดกระจายกำลังและทำงานร่วมกับมอเตอร์?ไฟฟ้า?ที่ล้อหน้า
ระบบเบรค ABS               มี (พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA)
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง        เบนซิน 95, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน E20
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)        N/A
ระบบจ่ายน้ำมัน
น้ำหนักตัวรถ   
ประเภทยางรถยนต์
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน                 ขับเคลื่อนสี่ล้อ (แบบ S-AWC)

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย   อุปกรณ์ความปลอดภัย
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
กุญแจรีโมท
กุญแจนิรภัย
ล็อคประตูอัตโนมัติ
ไฟเบรกดวงที่ 3
ระบบปรับระยะส่องไฟหน้า
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
กล้อง
หมายเหตุ   หมายเหตุ




ออล นิว ไทรทัน: มิตซูบิชิ Mitsubishi-Outlander PHEV GT-Premium-ปี 2020 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/

41
ข้าวต้มปลาสมุนไพร เมนูอาหารสุขภาพ ผู้ป่วยหลังผ่าตัด

องค์ประกอบรวมกัน แปลว่าจากการซักถามอาการล่าสุด ระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วยว่าผู้ป่วยรู้สึกอย่างไร สัญญาณช่วยผู้ป่วยทุก 5 นาทีหรือทุกครึ่งชั่วโมง เนื่องจากการดมยาสลบนั้นอาจทำให้ไปกดศูนย์การหายใจของร่างกายได้ฉะนั้นระดับออกซิเจนในเลือดจึงสำคัญมากในการสังเกตอาการหลังผ่าตัด ถัดมาการประเมินถึง ลักษณะแผลผ่าตัด มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่หรือมีเลือดซึมมากนะเพียงใด


รวมไปถึงผู้ป่วยนั้นได้รับสารน้ำเพียงพอหรือไม่เนื่องจากก่อนผ่าตัดต้องมีการงดน้ำอดอาหารการให้สารน้ำทดแทนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันให้ผู้ป่วยไม่มีภาวะช็อกจากอาการขาดน้ำและอาหาร หรือแม้แต่ความเจ็บปวด หลังผ่าตัดนั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยจะต้องมีความเจ็บปวด ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ทำให้เกิดเป็นแผล หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรกผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดเสมอ การดูแลคอยให้ยาแก้ปวดจะเป็นอีกหนึ่งการพยาบาลที่สำคัญเช่นกัน ชัดมากคือคำสั่งแพทย์หลังจากผ่าตัดเรื่องอาหาร หลังผ่าตัดนั้นพบว่าหลายประเภทสามารถทานอาหารได้เลยและหลายประเภทไม่สามารถรับประทานอาหารได้ทันที การผ่าตัดบางประเภทนั้นจำเป็นต้องงดน้ำอดอาหารต่อเพื่อสังเกตอาการ แต่ในกรณีที่สามารถรับประทานอาหารได้เลยนั้น อาหารที่เหมาะแก่ผู้ป่วยหลังผ่าตัดจึงเป็นอาหารประเภทอ่อนย่อยง่ายไม่มีรสจัด เนื่องจากผู้ป่วยนั้นงดน้ำอดอาหารมาเป็นเวลานาน การรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายที่ไม่ต้องไปกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานหนักมากนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นอาหารมื้อแรกหลังผ่าตัด วันนี้เราจะมานำเสนอเมนูอาหารย่อยง่ายสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัด

สำหรับเมนูที่ผู้ป่วยหลังผ่าตัดนั้นสามารถรับประทานได้ เราจะมานำเสนอเมนู ข้าวต้มปลาสมุนไพร ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่สามารถหาง่ายตามท้องตลาด ได้แก่ ปลาแซลมอน คื่นช่าย ใบกระเพรา ข่าหั่นแว่นที่คั่วแล้ว 6-8 ชิ้น ซุบกระดูกหมูประมาณ 1000 ซีซี ซิอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมเจียว ข้าวสวย 1 ถ้วย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ นำแซลมอนลอกหนังออก หั่นชิ้นพอคำค้างไว้ จากนั้นตั้งน้ำซุปกระดูกหมูให้เดือด ใส่ข่าคั่ว พริกไทย แครอท แซลมอน ซิอิ้วขาว คื่นช่ายและใบกระเพรา ต้มไปเรื่อยๆจนได้ที่ก็สามารถพร้อมทาน

จากเมนูอาหารที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ส่วนผสมหลักที่มีโปรตีนเยอะได้แก่แซลมอนและข้าว ปลาแซลมอนนั้น อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีน วิตามินดี วิตามินบี โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูนอิสระ ซึ่งประโยชน์เหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพและการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย และมีคุณสมบัติต้านโรค สามารถลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้งยังบำรุงในคนตั้งครรภ์มีสุขภาพดีและคลอดบุตรอย่างปลอดภัยหากคุณแม่ดูแลตนเองเป็นพิเศษ ถัดมายังช่วยให้นอนหลับสบาย เนื่องจากปลาแซลมอนนั้นมีประโยชน์ต่อการให้พลังงานและยังกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ปรับสภาพอารมณ์ และยังบรรเทาความเครียดได้ จึงมีประโยชน์ที่อาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและมีสุขภาพแข็งแรง


อีกทั้งยังรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบที่เป็นแผลเหลือลังได้ เนื่องจากโรคนี้นั้นเป็นแผลที่ผนังทางเดินอาหารมีเลือดออกที่ผนังลำไส้หรือลำไส้บีบตัวเร็วเกินไปจนเกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง หรือถ่ายมีเลือดมูกปนออกมา สารอาหารและกดไขมันไม่อิ่มตัวในเนื้อปลาแซลมอนนั้นอาจช่วย ตั้งการอักเสบและรักษาลำไส้อักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีข้าว ข้าวนั้น มีประโยชน์ในการช่วยบำรุงร่างกายเพิ่มพลังงานและฟื้นฟูป้องกันการอ่อนเพลีย สร้างการเจริญเติบโตของร่างกายมีสารต่อต้านน้ำอิสระและช่วยชะลอความแก่ชรา ทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบทำงานระบบประสาท ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงปกป้องการสึกหรอของร่างกายและยังซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของร่างกายอีกด้วย เราสามารถเห็นแล้วว่าอาหารที่ดีต่อร่างกายของผู้ป่วยหลังผ่าตัดเป็นอย่างไร ก็ทำให้เราสามารถนำไปเป็นตัวอย่างในการดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดได้ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดก็จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมีประโยชน์อีกด้วย




42
ผลข้างเคียงของการให้อาหารทางเส้นเลือด อาหารสายยาง


การให้อาหารสำหรับผู้ป่วยถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะต้องจำกัดในเรื่องของปริมาณและสารอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ทั้งยังต้องกระทำการให้อาหารโดยผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญในการให้อาหารสำหรับผู้ป่วย ซึ่งวิธีการให้อาหารสำหรับผู้ป่วยนั้นมีด้วยกัน3 รูปแบบ ที่มักพบได้บ่อยคือการให้อาหารแก่ผู้ป่วยที่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ การให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วย และสุดท้ายการให้อาหารทางหลอดเลือดดำ


ซึ่งวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงการให้อาหารทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย สำหรับการให้อาหารทางหลอดเลือดดำนั้น เป็นการให้อาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินอาหารผิดปกติหรือระบบทางเดินอาหารไม่ทำงาน ซึ่งร่างกายผู้ป่วยจะต้องได้รับสารอาหารที่ไปหล่อเลี้ยงระบบต่าง ๆภายในร่างกาย เพราะถ้าหากผู้ป่วยไม่ได้รับสารอาหารอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายมาก สำหรับการให้อาหารทางหลอดเลือดดำนั้นจะใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับสารอาหารอย่างเพียงพอโดยวิธีการรับประทานอาหารทางปากได้

    ผู้ป่วยมีตับอ่อนอักเสบรุนแรง
    มีการตัดต่อลำไส้มี
    เส้นเลือดที่เลี้ยงลำไส้ขาดเลือด
    ลำไส้ไม่มีตัวหรือลำไส้อุดตัน


สำหรับวันนี้ เราจะมาพูดถึง ผลข้างเคียงของการให้อาหารทางหลอดเลือดดำ เพราะการให้อาหารทางหลอดเลือดดำนั้นจะต้องมีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญในการให้อาหารแก่ผู้ป่วย เพราะการให้อาหารทางหลอดเลือดดำเป็นวิธีการในการรับสารอาหารของผู้ป่วย ที่มีระบบทางเดินอาหารผิดปกติหรือไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งผลข้างเคียงจากการให้อาหารทางหลอดเลือดก็มีอยู่บ้าง สำหรับผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดคือเกิดแผลภายในช่องปาก การมองเห็นเสื่อมสภาพ และมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีอาการหัวใจวาย อาการหงุดหงิด อาการชัก หายใจลำบาก มีน้ำหนักตัวเพิ่งหรือลดอย่างรสดเร็ว มีอาการอ่อนเพลีย เป็นไข้ อาการปวดท้อง หรือบางครั้งอาจจะอาเจียน เพราะฉะนั้นหากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบเข้าพบแพทย์ทันที


นอกจากนี้ผู้ดูแลจะต้องมีการจัดเตรียมสำหรับการให้อาหารทางเลือด จะต้องมีการกำหนดคุณค่าทางโภชนาการที่แน่นอนให้แก่ผู้ป่วย สารอาหารจะต้องครบถ้วน มีการกำหนดปริมาณอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ผลข้างเคียงอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและความเสี่ยงอื่นไได้ยกตัวอย่าง เช่น เกิดลิ่มเลือด เป็นโรคตับ โรคกระดูก เพราะฉะนั้นการให้อาหารทางหลอดเลือดดำ ผู้ดูแลจะต้องระมัดระวังและต้องหมั่นสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ยกตัวอย่างเช่น อาจจะใส่หรือว่าปลายสายอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง เกิดการแข็งตัวของเลือด ภาวะปอดล้มเหลว ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป รับโปแตสเซียมในเลือดต่ำ หรือระดับเอนไซม์ของตับมีค่าสูงขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้ผู้ดูแลจัดต้องคอยสังเกตอาการ และควรหมั่นตรวจสอบความถูกต้องให้ละเอียดก่อนการให้สารอาหารแก่ผู้ป่วยทุกครั้ง


สำหรับวิธีการใส่สายยางให้อาหารทางหลอดเลือดดำ อาจถูกต่อเข้ากับเส้นเลือดดำเข้าสู่บริเวณหน้าอกหรือต้นแขน โดยสายให้สารอาหารจะถูกต่อเข้ากับเส้นเลือดดำผ่านทางผิวหนังบริเวณหน้าอกส่วนบนและจะถูกสอดเข้าสู่เส้นเลือดดำที่ต้นแขนโดยทีมแพทย์ เพื่อให้สำหรับการให้อาหารในระยะสั้น หลังจากที่มีการถอดสายยางแล้ว ผู้ป่วยจะต้องได้รับการตรวจหาการติดเชื้อหรือเลือดออกบริเวณที่สอดสายยางอยู่เสมอ และควรงดยาบางประเภทที่ให้โดยการฉีดเข้าเส้นเลือด เพราะยาและสารบางประเภทอาจจะไม่ปลอดภัยเมื่อมีการผสมกับสารอาหารที่ฉีดเข้าไปภายในร่างกายที่ให้ผ่านทางเส้นเลือด


ดังนั้น จึงควรที่จะมีการปรึกษากับเภสัชกรและแพทย์ก่อนการผสมยาหรือสารอื่น ๆทุกครั้ง ทางอาหารปั่นผสม เราอยากแนะนำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมกับโรคเพื่อให้ผู้ป่วยได้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งนี้ทางอาหารปั่นผสมเรามีบริการอาหารทางสายยาง สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ และต้องให้อาหารทางสายยาง ทางเรามีทีมนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารเพื่อผู้ป่วยมีการควบคุมการผลิตโดยมาตรฐานผลิตอาหารปั่นผสมภายในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาล จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารปั่นผสม มีความสะอาดปลอดภัยถูกสุขลักษณะเมื่อผู้ป่วยได้รับสารอาหารก็จะมีความปลอดภัยและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างแน่นอน



43
น้อยแต่มาก How to รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ที่ไหนดี ให้น่าอยู่ตามสไตล์มินิมอล

ถ้าพูดถึงบ้านที่น่าอยู่ หลายคนอาจนึกถึงบ้านที่สะอาด มีการจัดเก็บสิ่งของเป็นสัดส่วน อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเพียงพอ ทั้งนี้บ้านที่น่าอยู่จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงผู้มาเยี่ยม

ปัจจุบันมีเทรนด์การตกแต่ง หรือรีโนเวทบ้านแบบที่เรียกว่าบ้านสไตล์มินิมอล ซึ่งก็คือการตกแต่งที่เน้นความธรรมดา เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย มีการคุมโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน ที่คนมักพูดว่า “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” มีการจัดพื้นที่ให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย โปร่ง โล่ง รวมไปถึงการมีสิ่งของต่าง ๆ ตามความจําเป็น ข้อดีของการทำบ้านสไตล์มินิมอลหลัก ๆ เลยก็คือ ทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด เพราะการที่มีข้าวของน้อยชิ้น ทำให้บ้านดูเรียบง่าย เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตา สบายใจ


แต่งบ้านสไตล์มินิมอล

อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าใครสนใจรีโนเวทบ้านสไตล์มินิมอล สิ่งที่อยากแนะนำในขั้นแรกก็คือ ควรกำหนดเป้าหมาย เช่น อยากปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้าน ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก หรือมีสมาชิกใหม่ อยากปรับเปลี่ยนสไตล์บ้าน อยากทำบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น หรือต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ขั้นต่อมาก็ทำรายการว่าส่วนใดบ้างที่ต้องการปรับปรุง เช่น เพิ่มห้องนอน เพิ่มหน้าต่าง ทำห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่น เพิ่มตู้เก็บของ ทาสีบ้านใหม่ ฯลฯ
 

รีโนเวทบ้านเก่า

ทั้งนี้ในการรีโนเวทบ้านควรตรวจสอบตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบก่อนว่า เหมาะที่จะรีโนเวทหรือไม่ และสามารถรีโนเวทได้หรือไม่ เช่น โครงสร้างบ้านเดิมสามารถรับน้ำหนักของส่วนต่อเติมได้หรือไม่ ต่อเติมเลยหรือทุบแล้วสร้างใหม่อย่างไรคุ้มกว่ากัน ส่วนที่รีโนเวทกระทบระบบไฟฟ้าและประปาหรือไม่ โดยอาจให้ผู้ที่มีความชำนาญมาช่วยดู เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการรีโนเวท
 

ตรวจสอบตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบก่อนรีโนเวทบ้าน

นอกจากนี้ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้านเก่าด้วย เพราะแม้เราจะมีกรรมสิทธิ์ในบ้านอย่างเต็มที่ แต่การรีโนเวทบ้านก็มีเรื่องกฎหมายที่เราต้องทำตาม และหากจำเป็นก็จะต้องขออนุญาตก่อนการก่อสร้าง ดัดแปลง ต่อเติม เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย

อีกเรื่องที่สำคัญมากในการรีโนเวทบ้านก็คือ งบประมาณค่าใช้จ่าย ซึ่งในการรีโนเวทบ้านนั้นมีค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ 3 ส่วน ดังนี้


งบประมาณค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้าน
 
1. ค่าออกแบบ
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะคำนวณจากขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ราคาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความชำนาญ ผลงานที่ผ่านมาของผู้ออกแบบแต่ละราย และความยากง่ายของการออกแบบ โดยทั่วไปค่าออกแบบจะครอบคลุมถึง ค่าวิศวกร ค่าคำนวณแบบโครงสร้าง ค่าเขียนแบบ และค่าวิชาชีพ โดยระยะเวลาในการบริการจะเริ่มตั้งแต่ การเขียนแบบ การเตรียมเอกสารในการยื่นขออนุญาติก่อสร้าง การเซ็นแบบก่อสร้าง การหาผู้รับเหมาก่อสร้าง การควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ และกระบวนการอื่น ๆ จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ
 
2. ค่าผู้รับเหมา / ค่าช่าง
เมื่อได้แบบมาแล้ว เราจะนำแบบไปคุยรายละเอียดและประเมินราคากับผู้รับเหมา โดยจะต้องดู BOQ หรือบัญชีรายการวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่ผู้รับเหมาเสนอมา หากตกลงกันได้แล้วก็ให้ผู้รับเหมาทำสัญญาว่าจ้าง ซึ่งเงินงวดแต่ละงวดที่อยู่ในสัญญา ก็ควรจะอ้างอิงจาก BOQ และเราจะจ่ายเงินในแต่ละงวดก็ต่อเมื่อเนื้องานของงวดนั้น ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การจ่ายเงินเป็นงวดจะช่วยเซฟตัวเราไม่ให้โดนหลอก และไม่เสียเปรียบ กรณีผู้รับเหมาทำงานไม่ถูกต้อง หรือทิ้งงาน
 
3. ค่าเช่าที่อยู่อาศัย (กรณีไม่มีที่อยู่สำรอง)
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเกิดต่อเมื่อเราทำการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง แล้วต้องไปอาศัยอยู่ที่อื่นชั่วคราว ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยใช้

”ระยะเวลาการก่อสร้าง X ค่าเช่ารายเดือน”

ทั้งนี้นอกจากค่าใช้จ่ายทั้ง 3 ส่วนที่เรากล่าวไปแล้ว ถ้าหากอยากมั่นใจและสบายใจมากขึ้น หลังจากกำหนดงบประมาณทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเผื่องบประมาณเข้าไปอีกประมาณ 10 - 20% สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เปลี่ยนแปลงแบบ หรือการซ่อมแซมจุดอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึงเพิ่มเติม อย่างเจอปลวกในบ้าน ต้องมีค่าบริการกำจัดปลวก เป็นต้น

ทางออกสำหรับคนที่อยากรีโนเวทบ้านแต่ยังมีงบไม่พอ
หากคำนวณได้คร่าว ๆ แล้วว่าค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านเป็นเงินเท่าไร แต่ยังมีเงินก้อนไม่พอ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาขอแนะนำ สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช สินเชื่อบ้านแลกเงินก้อน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 5.90% ต่อปี นาน 3 ปี พร้อมฟรี! ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท* และยังให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 85% ของราคาประเมิน ใครที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขา

สุดท้ายนี้ขอฝากว่าคุณภาพชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งก็คือบ้านของเรานั่นเอง และบ้านจะขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญเท่าความน่าอยู่ กับการสร้างความสุขให้สมาชิกทุกคนในบ้าน
 


44
จัดฟันบางนา: การดูแลหลังการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันเป็นวิธีการรักษาทางทันตกรรม สำหรับผู้ที่มีปัญหาการเปลี่ยนสีของฟัน ซึ่งการฟอกสีฟันนั้น เป็นการเพิ่มความขาวให้กับสีของฟันด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันในการฟอกสีฟันให้เป็นธรรมชาติ ทำให้เรากลับมามีรอยยิ้มที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ทำให้รู้สึกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น การฟอกสีฟันสามารถทำได้กับทันตแพทย์โดยตรงที่คลินิกของเราก็มีการใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงและมีเครื่องมือ เครื่องใช้ที่ทันสมัย ทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน การฟอกสีฟันก็สามารถทำเองได้เช่นเดียวกัน เพราะผลิตภัณฑ์การฟอกสีฟันมีขายตามร้านขายยาทั่วไป แต่วิธีการฟอกเองนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เพราะเราไม่มีทันตแพทย์ที่คอยให้คำแนะนำ การฟอกสีฟันโดยตรงกับทางคลินิกก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่หากพูดถึงผลลัพธ์แล้ว การฟอกสีฟันจะได้ผลดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลืองและจะมีประสิทธิภาพน้อยกับฟันสีน้ำตาลหรืออาจไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ หากฟันมีสีเทาหรือม่วง รวมไปถึง วิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ภายหลังจากการฟอกสีฟันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากแต่ก่อนที่จะพูดถึงการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ภายหลังจากการที่ฟอกสีฟันแล้ว เราจะมาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เรามีฟันเหลือง ฟันคล้ำ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจซึ่งต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงของสีฟันนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นภายในตัวฟันหรือภายนอก


สำหรับปัจจัยภายในตัวฟันอาจจะทำให้ฟันตายทำให้ไม่มีเลือดและประสาทมันหล่อเลี้ยงฟันจะมีสีทึบหรือมีการสะสมของสารมีสีขณะสร้างฟันทำให้ฟันมีสีขุ่นโดยธรรมชาติหรืออาจจะการได้รับยาบางชนิดที่ส่งผลต่อความผิดปกติของโครงสร้างฟัน ต่อมาคือสาเหตุภายนอกตัวฟันก่อน ได้แก่ การได้รับอุบัติเหตุ เช่น การกระแทกที่ฟัน มีการสะสมของคราบบนสีฟัน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะเกิดจากการทำความสะอาดช่องปากที่ไม่ดีพอภายหลังจากการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เราอาจจะแปรงฟันไม่สะอาดหรือทำให้มีคราบอาหารแบคทีเรียและหินปูนสะสมบนเนื้อฟัน รวมไปถึง การรับประทานอาหารที่มีสี เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และลูกอม นอกจากนี้ การสูบบุหรี่เป็นประจำก็ส่งผลทำให้มีสีฝันที่เปลี่ยนไปได้เช่นเดียวกัน


สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงวิธีการดูแลรักษาฟัน ภายหลังจากการฟอกสีฟันการฟอกสีฟันนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโดยทันตแพทย์โดยตรงหรือฟอกเองที่บ้าน หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่คงทน ยาวนาน เราควรดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ อาจจะเริ่มจากการทำความสะอาดฟัน ด้วยการแปรงฟันใช่ไหมขัดฟันและบ้วนปากเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพราะการใช้ยาสีฟัน ชนิดที่ช่วยทำให้ฟันขาวร่วมด้วย แล้วจะเป็นการส่งเสริมให้การฟอกสีฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีฟันก็คือ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่อาจจะทำให้เกิดคราบบนฟัน


เพราะฉะนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบบนฟันเช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีสีเข้มอย่าง แกงกะหรี่ เย็นตาโฟ รวมไปถึงซอสต่างๆก็ส่งผลให้เรามีสีฟันที่เปลี่ยนไปได้รวมไปถึง พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราก็ส่งผลเช่นเดียวกันถ้าหากเรามีพฤติกรรมสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพช่องปากและฟันเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น การดูแลรักษาฟันหลังจากฟอกสีฟันแล้ว เราต้องควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุดและที่สำคัญควรหมั่นตรวจสุขภาพและเข้ารับการทำความสะอาดช่องปากกับทันตแพทย์เป็นประจำปีละสองครั้งเพื่อให้เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี รวมไปถึงมีฟันที่ขาวทำให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้  วิธีการรักษาความสะอาดช่องปากและฟันนอกจากการแปลงฟันแล้วเราอาจจะใช้ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาดบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนจะช่วยทำให้เรามีฟันที่ขาวขึ้นได้

 
นอกจากนี้การรับประทานอาหาร ภายหลังจากการฟอกสีฟันก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นเดียวกันเพราะเราจะต้องงดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถทำให้ฟันเรามีสีที่เปลี่ยนแปลงไปอัน ได้แก่ อาหารที่เป็นกรดอาหาร มีรสจัด เช่นเปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด อาหารร้อนหรือเย็นจนเกินไป ควรงดรับประทานภายหลังจากการฟอกสีฟัน 2 สัปดาห์ แต่การฟอกสีฟัน ถึงแม้ว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อห้ามและข้อจำกัดบางข้อที่คนที่มีปัญหาไม่สามารถเข้ารับการฟอกสีฟันได้เช่น คนที่มีภาวะเหงือกร่น ที่เผยให้เห็นเนื้อฟันสีเหลืองบริเวณรากฟัน ผู้ที่มีฟันสีคล้ำที่เกิดจากการรับประทานยาเตตราไซคลีน รวมไปถึงผู้ที่มีฟันที่มีสีคล้ำ จากการเกิดอุบัติเหตุร วมไปถึงการเกิดฟันผุด้วย ซึ่งการฟอกสีฟันก็อาจจะมีผลข้างเคียงหรือผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและฟัน โดยในช่วงแรก อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีอาการรู้สึกเสียวฟัน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยมากที่สุด


สำหรับผู้ที่เข้ารับการฟอกสีฟัน ซึ่งจะเกิดแค่ไหนช่วงแรกที่มีอาการอยู่ประมาณ1-3 วัน จากนั้นจะค่อยๆหายไป เพราะอาการเสียวฟัน มีสาเหตุมาจากน้ำยาฟอกสีฟัน  ส่งผลทำให้เม็ดสี แตกตัวออกเป็นโมเลกุลเล็กๆ ทำให้เนื้อฟันถูกดึงน้ำออกไปด้วย และไปกระตุ้นปลายประสาท ในเนื้อฟันที่ไวต่ออุณหภูมิจึงทำให้รู้สึกเสียงฝันได้ง่าย หากผู้เข้ารับการรักษามีอาการเสียวฟันมาก ก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ นอกจากนี้ อาจจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดเหงือกเป็นแผลเพราะถ้าหากน้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับบริเวณเหนือ อาจจะทำให้เกิดให้ได้นั่นเอง ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกหรือโรคที่เกี่ยวกับช่องปาก และยังทำให้เรามีความมั่นใจมีบุคลิกภาพที่ดีสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ


45
วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน ทำยังไงให้หายแฮงก์ไว พร้อมลุยต่อ

วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน ใครที่ปาร์ตี้มาหนัก ดื่มเกินลิมิตจนตื่นมาแล้วแฮงก์ ต้องรู้วิธีแก้เมาค้างแบบที่ได้ผลรวดเร็วทันใจ ฟื้นร่างกายให้กลับมาสดชื่นทันตา

สายปาร์ตี้ต้องมีบ้างแหละที่ดื่มหนักเกินไปจนเกิดอาการแฮงก์โอเว่อร์หรือเมาค้าง ตื่นมาแล้วปวดศีรษะ ไม่สดชื่น แต่ต้องใช้ชีวิตต่อ ก็เลยจำเป็นต้องหาวิธีแก้เมาค้าง แต่หลายวิธีก็ใช้ไม่ได้ผลหรือเห็นผลช้า แล้วจะมีวิธีแก้แฮงก์วิธีไหนบ้างที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็ว กระปุกดอทคอมจึงขอนำวิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน มาฝากกันครับ จะได้พร้อมลุยต่อทุกสถานการณ์


เมาค้างคืออะไร

อาการเมาค้างคือปฏิกิริยาของร่างกายหลังจากได้รับแอลกอฮอล์ ยิ่งดื่มมากเท่าไรก็ยิ่งเมาค้างมากเท่านั้น อาการแฮงก์มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลดลงจนเกือบหมด ส่วนใหญ่จะแสดงอาการตอนเช้าหลังจากที่ดื่มหนักมาทั้งคืน อาการส่วนใหญ่ของคนแฮงก์มีดังนี้

    เหนื่อยล้า อ่อนแอ

    ปากคอแห้ง กระหายน้ำมาก

    ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ

    คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง

    นอนไม่ค่อยหลับ นอนหลับไม่ดี

    ไวต่อแสงและเสียง

    วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน

    ตัวสั่น

    ไม่มีสมาธิ

    อารมณ์แปรปรวน เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล หงุดหงิด

    หัวใจเต้นเร็ว

วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน

ป้องกันไม่ให้เมาค้างได้ยังไงบ้าง

ทางที่ดีที่สุดถ้ารู้ว่าจะปาร์ตี้ก็ต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้เมาค้าง จะได้สนุกและตื่นมาไม่ทรมาน ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้เมาค้างสามารถทำได้ดังนี้

    กินอาหารที่มีไขมันก่อนดื่ม การกินอาหารก่อนดื่ม โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันจะทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้ช้าลง กินไขมันดีอย่างอะโวคาโดก็ได้ถ้าไม่อยากกินพวกของมันหรือของทอด
     

    กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงก่อนไปดื่ม อาหารที่มีเส้นใยสูงจะเข้าไปดูดซับแอลกอฮอล์ไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว
     

    เลือกดื่มอย่างเดียว อย่าดื่มผสม การดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิดผสมกันในครั้งเดียวมีโอกาสทำให้ร่างกายรับปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ไม่ทันและเมาง่าย
     

    เลี่ยงแอลกอฮอล์ที่มีแก๊ส เช่น แอลกอฮอล์ที่ผสมโซดาหรือน้ำอัดลม เพราะแก๊สเหล่านี้จะทำให้กระเพาะขยาย นำไปสู่การดูดซึมแอลกอฮอล์ที่มากขึ้น
     

    ดื่มน้ำสลับ แอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้าดื่มน้ำสลับระหว่างดื่มเหล้าก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีรับมืออาการเมาค้างได้เป็นอย่างดี

วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน

วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน มีวิธีไหนบ้าง

สำหรับคนที่ป้องกันไม่ทันแล้ว เมาไปแล้ว และตื่นมาก็มีอาการแฮงก์หนัก ต้องหาวิธีแก้แฮงก์กันด่วน ๆ ซึ่งทำได้ดังนี้

    ดื่มเครื่องดื่มแก้แฮงก์ เครื่องดื่มเหล่านี้จะมีอิเล็กโทรไลต์ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น เช่น น้ำมะพร้าว เครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มแก้แฮงก์โดยเฉพาะ น้ำผลไม้รสเปรี้ยว นม หรือแม้แต่กาแฟดำ เมื่อดื่มแล้วให้พักสัก 30 นาที อาการปวดศีรษะจะเริ่มดีขึ้น
     
    ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ แอลกอฮอล์ก็เหมือนยาขับปัสสาวะที่ทำให้ร่างกายขับของเหลวออกได้เร็วกว่าเครื่องดื่มอื่น ๆ และนำไปสู่การขาดน้ำอย่างรุนแรง และจะรู้สึกอ่อนเพลีย ดังนั้นเมื่อตื่นแล้วให้ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปเยอะ ๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายและช่วยให้ออกซิเจนไหลเวียนไปยังเลือดและสมอง จะทำให้สดชื่นขึ้นมาก
     
    กินอาหารเช้าดี ๆ ที่มีโปรตีนและวิตามินซี การกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพราะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจทำให้เกิดอาการเมาค้างได้ อาหารที่มีโปรตีนเยอะ ๆ จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ส่วนวิตามินซีก็จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นในทันที
     
    ถ้าพอไหว ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย เพราะร่างกายได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไปจนทำให้สมองขาดออกซิเจน ส่งผลให้มึนและปวดศีรษะ การเดินเบา ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้ขยับ เลือดไหลเวียนดีขึ้น และออกซิเจนจะช่วยให้สมองตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้หายแฮงก์ได้เร็ว
     
    กินยาไอบูโพรเฟ่น เพื่อลดอาการปวดศีรษะและอาการบวม เพราะยาตัวนี้แรงกว่าพาราเซตามอล แต่ไม่มีสเตียรอยด์ จึงเห็นผลเร็วและชัดเจนกว่า นอกจากปวดศีรษะแล้วยังกินเพื่อลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ด้วย
     
    งีบต่ออีกสัก 20-40 นาที บางคนพอเมาแล้วจะนอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอจนเกิดอาการเมาค้าง ดังนั้นถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายลดลงแล้ว ลองนอนหลับต่ออีกสัก 20-40 นาทีเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว พอตื่นขึ้นมาปุ๊บจะรู้สึกสดชื่นมากขึ้นปั๊บ

วิธีแก้เมาค้าง เร่งด่วน

ถ้าใครเคยแฮงก์หนัก ๆ จะรู้เลยว่าไม่สนุก แถมทรมานอีกต่างหาก ดังนั้นถ้าป้องกันไม่ให้ตัวเองเมาหนักได้ก็จะดี แต่ถ้าป้องกันไม่ทันก็ต้องหาวิธีทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ๆ จะได้ใช้ชีวิตต่อได้อย่างไม่สะดุด

46
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยความคืบหน้ายอดจอง NEW MG CYBERSTER ในประเทศไทยกว่า 1,000 คัน พร้อมนำรถ NEW MG CYBERSTER พวงมาลัยขวาสเปคไทยทดสอบสมรรถนะระบบความปลอดภัยที่มีการจำลองหลากหลายสถานการณ์จริงบนท้องถนน โดยคณะวิศวกรจากเอ็มจี ทั้งไทยและต่างประเทศ ก่อนทยอยส่งมอบรถในเดือนกรกฎาคม นี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมสัมผัสสมรรถนะของ NEW MG CYBERSTER บนนถนนจริงได้ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม นี้ ณ Dawn to Dusk BKK
 
 
สำหรับการทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของรถปอร์ตโรดสเตอร์สมรรถนะสูงในครั้งนี้ ทีมวิศวกรยานยนต์ เอ็มจี  ได้นำรถ NEW MG CYBERSTER รุ่นพวงมาลัยขวาทดสอบสมรรถนะในหลากหลายสถานี ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องของอัตราเร่ง กำลังเครื่องยนต์และแรงบิด การทรงตัวขณะเข้าโค้งหลายรูปแบบ รวมถึงระบบความปลอดภัยของรถในสถานการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สนามพีระ เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี โดยรีดสมรรถนะการขับขี่ของรถรุ่นนี้ออกมาให้มากที่สุด เพื่อเตรียมถ่ายทอดชุดข้อมูลความรู้ และประสบการณ์ไปสู่กลุ่มลูกค้าที่สนใจ และเจ้าของสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นนี้ ให้สามารถควบคุมขับขี่ได้อย่างมั่นใจ สร้างความเข้าใจในการใช้งานรถอย่างถูกต้อง มุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัยทั้งกับผู้ขับขี่ รวมถึงผู้ใช้ถนน พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง จาก เอ็มจี ที่ถ่ายทอดสปอร์ตดีเอ็นเอของโรดสเตอร์ที่ออกมาโลดแล่นบนท้องถนนได้อย่างเหนือชั้น อีกทั้งยังมีความโดดเด่นในแง่ของดีไซน์ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน กับกิจกรรม MG EXCLUSIVE TEST DRIVE โดย ลูกค้าที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยม ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ NEW MG CYBERSTER, NEW MG MAXUS 7 และ NEW MG MAXUS 9 ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคมนี้ ณ Dawn to Dusk BKK ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 ลงทะเบียนทดลองขับ ได้ที่นี่
 
 
สำหรับ NEW MG CYBERSTER เป็นสปอร์ตโรดสเตอร์อีวีที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นของประตูปีกนกแบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิดและหลังคาซอฟต์ท็อป มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แบบมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 544 แรงม้า มาพร้อมดีไซน์การออกแบบอย่างพิถีพิถัน สะท้อนกลิ่นอายความสปอร์ตสุดคลาสสิกทั้งภายในและภายนอก โดย SAIC’s Advanced Design Studio ในลอนดอน สหราชอาณาจักร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ครอบคลุมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มากถึง 26 ระบบ โดยมีสีภายนอกให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง Flame Red สีเหลือง Photon Yellow และสีบรอนซ์เงิน Bullet Silver ภายใน ห้องโดยสารเป็นแบบทูโทน โดยสีทูโทนดำ-แดง จะแมทซ์กับสีภายนอกสีแดง และสีเหลือง ส่วนสีทูโทน-เทาขาวจะแมทซ์กับสีภายนอกสีบรอนซ์เงิน ในราคาจำหน่ายที่ 2,499,000 บาท พร้อมทยอยส่งมอบรถในเดือน กรกฎาคม 2567 นี้เป็นต้นไป



motor expo: NEW MG CYBERSTER กับการทดสอบระบบความปลอดภัย เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการควบคุมรถอย่างปลอดภัย  อ่านบทความเพ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorexpo/

47
การขนย้ายสิ่งของไม่ว่าจะเป็นการ ย้ายบ้าน ย้ายออฟฟิศ หรือการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ มักจะเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการขนย้าย โดยบริการเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยในด้านการขนส่ง แต่ยังมีบริการเสริมและการดูแลลูกค้าเพิ่มเติม เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

บทความนี้จะนำเสนอบริการเสริมที่ บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี ขนส่ง มีให้ รวมถึงวิธีการที่พวกเขาดูแลลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินราคา การจัดการสิ่งของ ไปจนถึงการให้บริการหลังการขนย้าย คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบริการเสริมที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ และวิธีการที่บริการรถรับจ้างขนย้ายในราชบุรีสามารถทำให้การขนย้ายของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่ยุ่งยากและเป็นไปตามความต้องการของคุณมากที่สุด

บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี บริการเสริม

บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี ขนส่ง มีบริการเสริมหลายประเภทเพื่อช่วยให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากขึ้น ต่อไปนี้คือบริการเสริมที่พบได้บ่อยในบริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี

1. การบรรจุและการจัดเรียงของ
บริการนี้เป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าที่ต้องการความสะดวกและประหยัดเวลา ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยบรรจุสิ่งของลงในกล่องโดยใช้เทคนิคการบรรจุที่มีประสิทธิภาพ เช่น การห่อด้วยกระดาษหรือพลาสติกกันกระแทก เพื่อป้องกันความเสียหาย นอกจากนี้ ยังช่วยจัดเรียงสิ่งของในกล่องอย่างเป็นระบบ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนย้าย

2. การถอดและประกอบเฟอร์นิเจอร์
บางครั้งการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ต้องการการถอดประกอบ เช่น เตียง ตู้ หรือชั้นวางของ บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งมีทีมงานที่มีความชำนาญในการถอดและประกอบเฟอร์นิเจอร์อย่างถูกวิธี ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงที่เกิดจากการทำเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟอร์นิเจอร์มีชิ้นส่วนที่ซับซ้อนหรือเปราะบาง

3. การเก็บของชั่วคราว
หากคุณมีความจำเป็นต้องเก็บสิ่งของในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนการขนย้ายหรือหลังจากนั้น บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งมีพื้นที่เก็บของชั่วคราวที่ปลอดภัยและได้รับการควบคุม ทำให้คุณสามารถเก็บสิ่งของได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือการสูญหาย นี่เป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องรอการเคลื่อนย้ายหรือต้องการเวลาสำหรับการจัดบ้านหรือออฟฟิศใหม่

4. การขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่หรือพิเศษ
บางครั้งการขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น เปียโน ตู้เย็นขนาดใหญ่ หรือ เครื่องจักร ต้องใช้ทักษะและอุปกรณ์พิเศษ บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งมีทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ในการขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ โดยใช้อุปกรณ์เช่น เครนหรือรถยก เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ


5. การประกันความเสียหาย
การประกันความเสียหายเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพูดถึงการขนย้าย บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งให้ประกันครอบคลุมสิ่งของที่ขนย้าย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย คุณจะได้รับการชดเชย บริการนี้ช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยและลดความกังวลเกี่ยวกับการขนย้าย

6. การวางแผนและการประเมินราคา
การวางแผนการขนย้ายเป็นขั้นตอนสำคัญ บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งมีทีมงานที่สามารถช่วยวางแผนและประเมินราคาตามความต้องการของคุณ บริการนี้รวมถึงการตรวจสอบสิ่งของ การประเมินระยะทาง และการกำหนดทรัพยากรที่จำเป็น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเตรียมตัวและจัดสรรงบประมาณได้อย่างเหมาะสม
บริการเสริมเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการทำให้การขนย้ายในราชบุรีเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลือในส่วนไหน การรู้ว่ามีบริการเสริมอะไรบ้างจะช่วยให้คุณเลือกบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้มากขึ้น


บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี การดูแลลูกค้า

การดูแลลูกค้าเป็นส่วนสำคัญของ บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี การที่ลูกค้าได้รับบริการที่ดีและประสบการณ์ที่ราบรื่นสามารถส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการอีกครั้งหรือแนะนำต่อผู้อื่น ต่อไปนี้เป็นวิธีการดูแลลูกค้าที่มักพบในบริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี

1. การติดต่อที่รวดเร็วและเป็นมิตร
บริการรถรับจ้างขนย้ายที่ดีจะต้องมีการติดต่อกับลูกค้าอย่างรวดเร็วและเป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ อีเมล หรือโซเชียลมีเดีย พนักงานควรมีทักษะในการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ โดยไม่ใช้คำศัพท์ที่ซับซ้อนหรือสร้างความสับสน พวกเขาควรตอบคำถามของลูกค้าอย่างรวดเร็ว และให้คำแนะนำอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและสบายใจเมื่อใช้บริการ

2. การให้คำปรึกษาและคำแนะนำ
บริการรถรับจ้างขนย้ายบางแห่งมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับการขนย้าย ทั้งในเรื่องการจัดเตรียมสิ่งของ การวางแผนเส้นทาง หรือแม้กระทั่งการเลือกประเภทของรถที่เหมาะสมสำหรับงานขนย้ายแต่ละประเภท การให้คำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์สามารถช่วยให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การให้คำปรึกษาที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยลดความกังวลของลูกค้า แต่ยังทำให้กระบวนการขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น

3. ความยืดหยุ่นและการปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า
การขนย้ายบางครั้งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด บริการรถรับจ้างขนย้ายที่ดีจะสามารถปรับตัวและให้ความยืดหยุ่นแก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงวันเวลาขนย้าย การปรับขนาดของทีมงานตามความต้องการ หรือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางขนย้าย บริการที่ยืดหยุ่นทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าบริการนั้นพร้อมที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและทำให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น
รถกระบะรับจ้าง

4. การติดตามและการแจ้งความคืบหน้า
บริการที่ดีจะติดตามและแจ้งความคืบหน้าให้ลูกค้าทราบตลอดกระบวนการขนย้าย นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในบริการ บางครั้งการติดตามสามารถทำได้ผ่านการโทรศัพท์หรือส่งข้อความเพื่อแจ้งสถานะของการขนย้าย การแจ้งความคืบหน้าช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนได้อย่างเหมาะสมและรู้ว่าควรคาดหวังอะไรในการขนย้าย

5. การประเมินความพึงพอใจหลังการให้บริการ
บริการที่ดีมักจะสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าหลังจากการขนย้ายเสร็จสิ้น นี่เป็นวิธีที่ช่วยประเมินคุณภาพการบริการและรับข้อเสนอแนะในการปรับปรุง การสอบถามความพึงพอใจสามารถทำได้ผ่านการสัมภาษณ์ การส่งแบบสอบถาม หรือการติดตามผลหลังการขนย้าย การฟังความคิดเห็นของลูกค้าจะช่วยให้บริการปรับปรุงคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในอนาคต

6. การจัดการกับข้อร้องเรียนและปัญหา
หากเกิดปัญหา หรือข้อร้องเรียน บริการที่ดีจะมีขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม การแก้ไขปัญหาอาจเกี่ยวข้องกับการชดเชย หรือการดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น บริการที่รับผิดชอบและจัดการกับข้อร้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพจะสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าและทำให้เกิดความมั่นใจในการใช้บริการในอนาคต

การดูแลลูกค้าใน บริการรถรับจ้างขนย้ายราชบุรี จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจให้กับลูกค้า การให้บริการที่เป็นมิตร ยืดหยุ่น และมีความรับผิดชอบจะช่วยให้การขนย้ายเป็นประสบการณ์ที่ดีและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว



บริการรถกระบะรับจ้าง ขนย้ายราชบุรี บริการเสริมและการดูแลลูกค้า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-pickup.com/

48
หลายคนคงทราบกันดีว่า ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันจะต้องมีระเบียบมีวินัยในเรื่องของการทำความสะอาดสภาพช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่นๆตามมา เนื่องจากผู้ที่เข้ารับการจัดฟันจะสามารถทำความสะอาดฟันได้ยากเพราะมีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก และนี่คือต้นเหตุที่ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องดูแลสุขภาพฟันให้มากเป็นพิเศษ เพราะการที่มีรู้จักฟันจะทำให้การทำความสะอาดนั้นทำได้ยากขึ้น ผู้เข้ารับการจัดฟันจึงควรเพิ่มเวลาในการแปรงฟันในแต่ละครั้งให้นานขึ้น อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง หลังรับประทานอาหารทุกมื้อและต้องแปรงบริเวณเครื่องมือจัดฟันวางขนแปรงบนเครื่องมือขยับหมุนคนแปรงวนรอบๆก็จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดขึ้นอีก


สำหรับวันนี้คลินิกเราจะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษาและข้อควรดูแลรักษาสุขภาพฟันขณะเข้ารับการจัดฟันว่าผู้เข้ารับการจัดฟันสมควรที่จะปฏิบัติตัวเช่นไรและมีข้อปฏิบัติในระหว่างการจัดฟันอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องบอกก่อนว่าผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีวินัยมากๆ ถ้าไม่อยากให้มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมาและต้องดูแลด้วยวิธีการที่ถูกต้อง


ในปัจจุบันการจัดฟัน เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน ทำให้ไม่มีความสวยงามและขาดความมั่นใจ ในการจัดฟันนั้นจะช่วยให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่มีความเหมาะสมได้ดีอีกด้วย หากเราจะกล่าวถึงขณะเข้ารับการจัดฟันอาจจะต้องมาพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับช่องปากที่ควรระมัดระวังระหว่างจัดฟัน ซึ่งมักพบได้บ่อยมากก็คือปัญหาของการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่สามารถทำได้ยาก เนื่องจากมีเครื่องมืออยู่ภายในช่องปากและยังส่งผลให้เกิดฟันผุง่าย มีต้นเหตุจากการจัดฟันมีผลอันเนื่องมาจากการใส่ครอบที่ด้านในฟันกรามทั้งสี่มุมของปาก


โดยตัวครอบนี้อาจจะกดทับเหงือก ซึ่งอาจจะส่งผลระยะยาวทำให้เหงือกรุ่นได้ และปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือปัญหาของตัวฟันไม่แข็งแรง เนื่องจากมีการเคลื่อนของฟันในบางกรณีพบว่ามีเลือดออกตามไรฟัน มีคราบหินปูนเกิดขึ้น ฟันเหลือง เกิดการสูญเสียแร่ธาตุที่เคลือบบริเวณผิวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่ตัวครอบที่ด้านในฝันกรามซึ่งมีโอกาสคอฟันสึกได้ ต่อมาคือ การเกิดแผลในช่องปาก ซึ่งผู้ที่เข้ารับการจัดฟันมักจะพบเจอปัญหานี้ได้บ่อย เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันเมื่อใส่ในระยะแรกๆ ร่างกายหรือช่องปากยังไม่ชิน จึงมีโอกาสถูกปากเกี่ยวจะเป็นแผลได้ อีกทั้งเครื่องมือจัดฟันมีส่วนประกอบสำคัญคือลวดเพื่อให้การเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่สวยงาม เหมาะฝันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดตามมาได้


ต่อมาเราจะมาพูดถึงวิธีปฏิบัติตัวระหว่างจัดฟัน ซึ่งอย่างแรกเลยคือการรับประทานอาหารผู้เข้ารับการจัดฟัน ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีความแข็งหรือเหนียวเกินไปหากรับประทานอาหารหรือผลไม้ที่มีความแข็ง อาจจะทำให้เครื่องมือจัดฟันเกิดการเสียหายได้ รวมทั้งฟันที่กำลังจะอาจมีโอกาสเกิดการแตกและบิ่นได้ การป้องกันการเกิดฟันผุ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของหวาน ขนม น้ำอัดลม นอกจากนี้ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องปฏิบัติตัว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่จะส่งผลกับการจัดฟัน เช่น ใช้ลิ้นดุนเครื่องมือจัดฟันเล่น หรือขยับลวดจัดฟันเอง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นส่งผลให้ผลการรักษาอาจเกิดการคลาดเคลื่อนได้ ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ และขั้นตอนที่ง่ายที่สุดก็คือการดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากและฟัน


ผู้เข้ารับการจัดฟันจำเป็นต้องให้ความสำคัญและพิถีพิถันอย่างสูง ในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เมื่อฟันผุจะทำให้เกิดการจัดฟันที่ไม่สำเร็จทำให้ผลการรักษาที่มีความล้มเหลว ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะต้องแปรงฟัน นอกเหนือจากตอนเช้าและก่อนนอนด้วยต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจความเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนตัวของฟัน รวมไปถึงการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันในขณะเข้ารับการจัดฟันด้วย อย่างไรก็ตามหากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันสามารถปรึกษากับทางคลินิกได้ เนื่องจากทางเรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันสามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง การันตีด้วยประสบการณ์อย่างยาวนานจึงทำให้มั่นใจได้ว่าใครที่เข้ามาปรึกษาหรือเข้ารับบริการจากทางคลินิก จะต้องมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดียิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน


ข้อควรปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

49
ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมีแต่คุณประโยชน์ แต่รู้ไหมว่าวิตามินต่าง ๆ มีความลับซ่อนอยู่ที่หากคุณได้รู้จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและดีต่อร่างกายยิ่งขึ้นได้

 
1) วิตามินบางชนิดควรได้รับทุกวัน

วิตามินบางชนิดจำเป็นต้องได้รับทุกวัน ได้แก่ วิตามินซีและบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ วิตามินกลุ่มนี้ไม่ถูกสะสมหรือกักเก็บในร่างกายได้นาน จะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะและเหงื่อ เราจึงต้องได้รับวิตามินกลุ่มนี้ทุกวัน และแม้ร่างกายจะได้รับวิตามินกลุ่มนี้มากเกินไป ส่วนเกินของวิตามินจะถูกขับออกโดยไม่ทำให้เกิดพิษหรือปัญหาต่อร่างกาย


2) เอ ซี อี ซิลีเนียม เด่นชะลอวัย

วิตามินเอ ซี อี และแร่ซิลีเนียมเป็นกลุ่มวิตามินที่ให้ผลลัพธ์ในเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระโดดเด่นกว่าวิตามินตัวไหน ๆ ซึ่งพบมากในผลไม้ อาทิ ลูกพรุน องุ่น ผลไม้ชนิดเบอร์รี ฝรั่ง และส้ม ส่วนผัก ได้แก่ บรอกโคลี ผักโขม ผักบุ้ง ซึ่งการทานให้ได้ผลดีที่สุดควรทานในรูปแบบผักผลไม้สด แต่หากเป็นคนที่ทานผักผลไม้น้อย แหล่งอาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่สองได้



3) เบตาแคโรทีน ทานดีทั้งรูปแบบอาหารและอาหารเสริม

หากต้องการทานเบตาแคโรทีนเพื่อบำรุงสุขภาพ ป้องกันความเสื่อมถอยของร่างกาย แนะนำให้รับประทานในรูปอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในผักผลไม้ที่มีสีส้มหรือสีเหลือง แต่หากต้องการทานเพื่อรักษาภาวะความเสื่อมที่เป็นอยู่สามารถเลือกทานในรูปแบบอาหารเสริมได้ แต่ควรให้อยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุด



4) ไข่ขาวดิบ ทำลายวิตามินบี 7

ไข่ขาวดิบ มีสารที่ส่งผลต่อไบโอตินในวิตามินบี 7 ที่อยู่ในลำไส้และขัดขวางการดูดซึมของร่างกาย หากรับประทานไข่ขาวดิบปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น 2 ฟองหรือมากกว่า 2 ฟองต่อวันเป็นเวลาหลายเดือน จะทำให้ร่างกายขาดไบโอตินได้ เพราะในไข่ขาวมีสารที่ทำลายไบโอติน


5) วิตามินซีไม่ได้มีดีแค่ป้องกันหวัด

วิตามินซีเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายในชีวิตประจำมาก ๆ เพราะช่วยต้านความเครียด เพิ่มความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย ที่สำคัญคือ ช่วยต้านริ้วรอยโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีบทบาทช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้ด้วย



6) วิตามินดี ดีจริง ๆ

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วิตามินดีมีดีกว่าการเสริมสร้างแคลเซียมในกระดูกและฟัน หรือกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อในร่างกาย เพราะมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยต้านมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม รวมถึงยังช่วยลดอาการซึมเศร้า และลดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังด้วย



7) วิตามินอี ไม่ได้มีดีแค่เรื่องผิวพรรณ

วิตามินอีขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวสำหรับสาว ๆ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ก็ไม่น้อยหน้า เพราะช่วยแก้ปัญหาความบกพร่องของระบบสืบพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ และเพิ่มโอกาสในการมีบุตรในผู้ที่มีบุตรยาก รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจด้วย



8) วิตามินบี 5 ปราบสิว

สาเหตุหนึ่งของคนที่เป็นสิวอาจเพราะขาด Coenzyme-A ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้วิตามินบี 5 ในการสร้าง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดี ไขมันจึงออกมาทางส่วนต่าง ๆ ของผิวหนังเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันที่ผิวหนังและเป็นสิวในที่สุด แต่หากร่างกายมีวิตามินบี 5 เพียงพอก็จะทำให้ระบบการเผาผลาญไขมันทำงานปกติ ผิวหนังไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินจนเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว



9) กินวิตามินพร้อมอาหารและหลังอาหาร

ช่วงเวลาสำหรับการรับประทานวิตามิน คือ ทานพร้อมอาหารและหลังอาหารเพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุด แต่ก็มีวิธีทานวิตามินให้ได้ผลดี คือ วิตามินบีรวมและวิตามินซี ควรรับประทานพร้อมอาหารเช้า กลางวัน เย็น เพื่อให้วิตามินอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งวัน ส่วนวิตามินเอ ดี อี เคที่ละลายได้ดีในไขมัน ควรทานพร้อมมื้ออาหารที่มีไขมัน และถ้าต้องทานวิตามินในมื้อเดียวให้เลือกมื้อที่ใหญ่ที่สุดของวัน หรือทานครึ่งหนึ่งหลังอาหารเช้า ครึ่งหนึ่งหลังอาหารเย็นก็ได้เช่นกัน



10) วิตามินมีกลิ่นไม่ได้เสีย

หลายคนเมื่อได้กลิ่นแรงของวิตามินมักคิดว่าเสีย แต่ความจริงแล้วคือการเสื่อม ซึ่งเกิดจากการเก็บไว้ผิดที่ คือ โดนแสงแดดและอุณหภูมิสูงเกินไป หากรับประทานก็ไม่ได้เป็นอันตราย เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจจะลดลง นอกจากนี้วิตามินที่มีรอยร้าวที่เม็ดยังมีคุณภาพและทานได้ตามปกติ เพราะเกิดจากการเคลือบเม็ดมาไม่ดีเท่านั้น



ยาชูกำลัง: เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับวิตามิน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

50
ทำความรู้จัก Antigen Test Kit

Antigen Test Kit – ATK หรือชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน ด้วยการ Swab เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทางจมูก ลึกถึงคอ หรือเก็บจากคอ สามารถทำได้เองที่บ้าน การตรวจชนิดนี้เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งการหาซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit นั้น ควรซื้อชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานจากอย. เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และควรตรวจสอบวันหมดอายุของชุดทดสอบก่อนทุกครั้ง  ไม่ควรเปิดหรือฉีกซองที่บรรจุ Antigen Test Kit จนกว่าจะถึงการทดสอบ


ใครบ้างที่ควรใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit

    ผู้ที่สัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ
    ผู้ที่เริ่มมีอาการสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19

ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดย Antigen Test Kit ด้วยตัวเอง

ก่อนตรวจหาเชื้อ COVID-19 ควรอ่านวิธีการใช้หรือคำแนะนำ Antigen Test Kit ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนทุกครั้ง เนื่องจากชุดตรวจแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน  โดยการใช้งานเบื้องต้นมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้

    เคลียร์จมูก สั่งน้ำมูก (ถ้ามี) ก่อนทำการ Swab
    ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
    ใช้ไม้ SWAB ที่มาพร้อมชุดตรวจ เก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก เงยหน้าขึ้นนิดหนึ่ง จากนั้นแยงเข้าไปในโพรงจมูกช้า ๆ แยงเข้าไปลึกประมาณ  2- 2.5 ซม. หรือ 1 นิ้ว หมุนเบา ๆ 5 รอบ
    แยงจมูกอีกข้าง โดยทำเหมือนข้างแรก หมุนเบา ๆ 5 รอบ
    เมื่อเก็บสารคัดหลั่งเสร็จแล้ว นำไม้ SWAB ลงไปเก็บในหลอดที่มีน้ำยาสกัดหรือน้ำยา Test  จากนั้นหมุนไม้ SWAB  5 ครั้ง เพื่อให้สารคัดหลั่งสัมผัสกับน้ำยามากที่สุด  จากนั้นนำไม้ SWAB ออกและปิดด้วยจุกฝาหลอดหยด
    ตลับทดลองจะมีหลุม  เพื่อให้สามารถหยอดน้ำยาได้  โดยให้หยอดน้ำยาลงในตลับทดสอบตามจำนวนที่ชุดตรวจกำหนด (ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อชุดตรวจ) และเมื่อหยอดเสร็จแล้วน้ำยาจะไหลไปตามแผ่นกรองที่อยู่ด้านใต้
    รออ่านผล ประมาณ 15-30 นาที (ห้ามอ่านผลก่อนหรือหลังเวลาที่กำหนด)


หมายเหตุ

    ควรอ่านตามเวลาที่ Antigen Test Kit ระบุไว้ เพื่อไม่ให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนและเกิดความผิดพลาด
    ห้ามเอามือไปจับบริเวณที่ต้องใช้เก็บสิ่งส่งตรวจเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อน เนื่องจากจะมีเชื้อโรคจากมือปนเปื้อนลงไป
    ห้ามแยงแรงจนเลือดออก เพราะหากมีเลือดจะไม่มาสามารถยืนยันผลตรวจได้ ต้องรอให้แผลหายและทำการทดสอบใหม่

วิธีการอ่านผลตรวจและแปรผลทดสอบ

ผลบวก ติดเชื้อโควิด-19

ปรากฏแถบสีแดง ทั้งทีแถบทดสอบ (T) และแถบควบคุม(C) = ติดเชื้อ

(สีที่ต่างกันหรือสีเพื้ยน อาจเกิดจากการเก็บ ซึ่งไม่มีผลต่อการทดสอบแต่อย่างใด)

ผลลบ ไม่ติดเชื้อโควิด-19

ปรากฏเฉพาะแถบควบคุม (C )

ผลที่ใช้งานไม่ได้

ไม่ปรากฏแถบอะไรเลย ชุดตรวจอาจมีปัญหา แนะนำให้ทำการทดสอบซ้ำอีกครั้ง

การปฏิบัติตัวหลังทราบผลตรวจ กรณีผลการทดสอบเป็นบวก

แนะนำให้ทำการทดสอบ RT-PCR ซ้ำ  เพื่อยืนยันผลอีกที เนื่องจากชุดตรวจ Antigen Test Kit เป็นการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น  และควรดำเนินการติดต่อหน่วยงานบริการใกล้บ้าน เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือสถานพยาบาล เป็นต้น เพื่อทำการประเมินอาการและดำเนินการรักษาในขั้นต่อไป 


การปฏิบัติตัวหลังทราบผลตรวจ กรณีผลการทดสอบเป็นลบ

กรณีที่ผลตรวจแสดงออกมาเป็นลบ ไม่ได้หมายความว่าไม่ติดเชื้อเสมอไป โดยผู้ตรวจควรประเมินความเสี่ยงของตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มที่ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงไหม เพราะเชื้อไวรัส COVID-19 จะมีระยะฟักตัวยาวถึง 14 วัน เพื่อความแน่ใจควรทำการแยกกักตัวและตรวจหาเชื้ออีกครั้งภายหลังจากวันทดสอบวันแรกประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้าช่วงระหว่างกักตัว มีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ขึ้นสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เจ็บคอ ไอ ก็สามารถตรวจซ้ำได้อีกครั้งเลยทันที


ข้อควรระวัง!

    อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจผลหาเชื้อ COVID-19 ห้ามนำกลับมาใช้ใหม่เด็ดขาด
    หลังจากที่ตรวจหาเชื้อเสร็จแล้ว ควรทำการแช่น้ำยาฆ่าเชื้อและแยกชุดตรวจใส่ถุงปิดให้มิดชิดก่อนทิ้งขยะตามขั้นตอนการทิ้งขยะติดเชื้ออย่างถูกวิธี 
    ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังทำการตรวจหาเชื้อเพื่อความปลอดภัยต่อผู้อื่น กรณีที่ทำการตรวจ Antigen Test Kit ให้กับผู้อื่น ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ชุด PPE ถุงมือ และหน้ากากอนามัย N95 ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการได้รับเชื้อ


ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: วิธีตรวจหาเชื้อโควิดโดย Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตัวเอง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/covid-19

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9