ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - โทนี่ วู๊ดดี้

หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 ... 27
301


เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ต้องมีติดกันไว้เลยไม่อาจมองข้ามตู้เย็น 2 ประตูที่กำลังเป็นที่นิยม ณ ขณะนี้ไปได้ ทว่าบางท่านมีความสนอกสนใจอยากใช้งานแต่ก็กลัวเรื่องค่าไฟฟ้าว่าใช้แล้วกินไฟมากไหม ถ้าจะเลือกควรเลือกยังไงให้ประหยัดไฟมากที่สุด? แน่นอนว่าเราไม่รอช้าขออาสาพาท่านไปหาคำตอบพร้อมกัน

ใช้ตู้เย็น 2 ประตูกินไฟฟ้ามากไหม?
หลายท่านอาจคิดว่าการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้านี้เปลืองไฟเนื่องจากต้องเสียบไว้ตลอด ทั้งที่จริงไม่ได้แพงเลย โดยถ้าจะให้คำนวณนั้นก็มีสูตรอยู่ คือ
- แบบ 2 ประตูขนาด 12 คิว ไฟฟ้าจำนวน 240 วัตต์ต่อชั่วโมง ค่าไฟคิดเป็นเลขหน่วยละ 4 บาท ให้คิดโดยเอาค่าไฟ - จำนวนวัตต์ x ค่าไฟต่อหน่วย แล้วหารด้วย 1,000 = เงินบาทต่อชั่วโมง
- เท่ากับว่าตู้ขนาด 12 คิว กินไฟ 240 x 4 หาร 1,000 =  0.96 บาทต่อชั่วโมง ตกวันละ 23.04 บาท หรือเดือนละ 691.2 บาทเท่านั้น 
- เสียบไว้ต่อ 1 ชม. แต่กินไฟไม่ถึง 1 บาทถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

แนะนำการเลือกซื้อเพื่อให้ประหยัดไฟ
- เลือกให้ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยเลือกความจุที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว
- เลือกวางในตำแหน่งที่แสงส่องไม่ถึง เพราะการมีความร้อนจะยิ่งทำให้เครื่องทำงานหนัก และให้ด้านข้าง ด้านหลังห่างจากผนัง 10 เซนติเมตร
- ปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับปริมาณการแช่ของโดยที่ควรให้มีปุ่มกดละลายน้ำแข็ง ด้วยเหตุว่าหากเป็นระบบทำอัตโนมัติจะสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า
- ราคาตู้เย็น 2 ประตูไม่ใช่ตัวแปรในการเลือกเครื่องประหยัดไฟ ควรศึกษารายละเอียดฟังก์ชันให้ดี ยิ่งราคาแพงยิ่งมีฟังก์ชันน่าสนใจ

ควรเลือกซื้อและใช้งานขนาดเท่าไหร่?
ต้องบอกว่าตู้เย็นลักษณะนี้จะมีตัวตู้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนบนที่เป็นช่องแช่แข็ง และส่วนล่างที่เป็นช่องแช่ธรรมดา โดยที่ปกติแล้วจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 5.9 คิว ซึ่งถือเป็นความจุโดยทั่วไปที่เหมาะสำหรับครอบครัวมีสมาชิก 3 คน ซึ่งหากต่ำกว่า 5.9 คิวลงมาจะเป็นลักษณะ 1 ประตูมากกว่า ทั้งนี้ แบบ 2 ประตูที่ได้รับความนิยมจะมีขนาด 6 – 10 คิว ที่ถือว่าใหญ่และเหมาะกับครอบครัว 4 – 6 คน กรณีที่บ้านไหนมีสมาชิกมากกว่า 6 คนขึ้นไป แนะนำเป็น 12 – 15 คิว ตรงกันข้ามถ้าขนาดที่ใหญ่มาก ๆ 15 – 18 คิว ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมทั้งนี้เพราะส่วนใหญ่จะเลือกใช้หลายประตูมากกว่า เช่น แบบ Door – in – Door

อย่ามองข้ามการใช้งานตู้เย็น 2 ประตูไปได้ ด้วยความน่าสนใจต่าง ๆ ที่มี และตอบได้เลยว่าไม่ได้กินไฟแพงขนาดนั้น ทั้งยังมีเทคนิคการเลือกที่ทำให้ประหยัดไฟอยู่แบบนี้ รับรองว่าการแช่ของจะเป็นอะไรที่ราบรื่น ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสุด

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0905

302


ในแวดวงอุตสาหกรรมทีวีนั้นมีวิวัฒนาการมากขึ้น ทำให้ได้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอด หนึ่งในนั้นก็คือ QLED TV ที่พร้อมพาคุณเข้าสู่ความบันเทิงได้อย่างเต็มอรรถรส กระนั้นบางท่านอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับทีวีประเภทนี้ไปได้ เราจึงรวบรวมความจริงมาบอกต่อ รู้ไว้เข้าใจมากขึ้น ซื้อใช้งานได้อย่างเหมาะสม

สิ่งที่หลาย ๆ ท่านมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ QLED TV ที่ควรทำความเข้าใจใหม่
ต้องอธิบายก่อนว่า QLED คือ อีกรูปแบบที่อยู่ใน LED/LCD ที่ใช้จุดควอนตัมสร้างการแสดงผล ซึ่งเป็นโมเลกุลนาโนที่เปล่งแสงสีแตกต่างออกไปเมื่อไปเจอกับแหล่งกำเนิดแสง โดยที่จะมีการห่อหุ้มไว้ในแผ่นฟิล์ม และไฟแบล็กไลท์ ที่จะทำให้ LED ตกกระทบ แล้วแสงส่องผ่านชั้นต่าง ๆ ในทีวี รวมถึงผลึกเหลวทำให้ได้ภาพที่หน้าจอ ให้เฉดสีต่างกันยิ่งอนุภาคใหญ่สีแดงก็จะสดมาก หรือยิ่งอนุภาคเล็กเท่าไหร่สีฟ้าก็จะสดมาก ส่วนความเข้าใจผิดนั้น มีด้วยกันคือ
1. เข้าใจว่า QLED คือ OLED TV
ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลย โดย OLED จะไม่ได้พึ่งพา LED ทั่วไปในการแสดงผลภาพทางหน้าจอ แต่ใช้เป็นส่วนประกอบสารอินทรีย์ที่เปล่งแสงได้เอง เมื่อเทียบกับคิวแอลอีดีแล้ว ของโอแอลอีดีจะบางกว่า ทั้งนี้เพราะไม่มีไฟแบล็กไลท์ด้วย ทำให้ติดตั้งบนผนังได้สบาย ขณะที่คิวแอลอีดีต้องวางตั้ง

2. เข้าใจว่า UHD TV ทั้งหมด เป็น QLED
คิวแอลอีดี มีความละเอียดตั้งแต่ 4k ขึ้นไป โดยที่จอแสดงผลจะเป็นแบบ Ultra High Definition (UHD) ทว่า UHD TV นั้นไม่ใช่แบบคิวแอลอีดีทั้งหมด ทั้งนี้เพราะจะมีเทคโนโลยีหน้าจออื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น LCD, LED, OLED และโปรเจคเตอร์

3. เข้าใจว่าคิวแอลอีดีทำร้ายดวงตา
ซึ่งจริง ๆ แม้คิวแอลอีดีจะมีจุดควอนตัมที่ปล่อยแสงสีน้ำเงินแต่ทีวีรูปแบบนี้มีเทคโนโลยีควบคุมแสงให้ได้ระดับทั้งแสงและสีที่เหมาะสมเพื่อสร้างภาพที่หน้าจอ ดังนั้นมีแสงสีน้ำเงินออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ยิ่งได้ยี่ห้อที่เป็นมาตรฐานแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ QLED Samsung หมดกังวลไปได้เลย

4. เข้าใจว่าคิวแอลอีดีส่องสว่างในตัวเอง
บางผู้ขายมักจะอ้างว่าคิวแอลอีดีนั้นเรืองแสงได้ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเพราะอย่างที่บอกแสงไฟที่มีจะมาจาก LED เพื่อสร้างภาพบนหน้าจอ โดยที่แสงจะมาจากควอนตัม และสร้างสี สร้างเฉดสีที่ต้องการ มีแผ่น Quantum Dot Enhancement Film (QDEF) ที่มีการแทนที่สร้างแสงด้วย โดยใช้หน่วยแบล็กไลท์ควบคุมความเข้มของแสง ดังเช่น การอิ่มตัวของสีที่มีมากขึ้น

เมื่อได้ทำความเข้าใจถึง QLED TV มากขึ้นแบบนี้แล้วก็หวังว่าในการเลือกซื้อจะได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ทำให้ได้ความสะดวกสบาย รวดเร็วในการรับสินค้ามากขึ้น ท่านสามารถเลือกซื้อได้สบายใจในราคาที่ย่อมเยา แถมมีลดราคาให้ด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA0705

303


ต้องการเป็นเจ้าของโทรทัศน์ที่ดีมีคุณภาพและกำลังมองหาไม่ปิดกั้นงบ อยากให้ท่านได้ทำความรู้จักกับอีกประเภท อย่าง OLED แบรนด์ LG 77 นิ้ว รุ่น 77C2PSC.ATM ที่บอกเลยว่าฟังก์ชันการใช้งานไม่ธรรมดา ที่สำคัญหากสั่งผ่านออนไลน์วันนี้ท่านจะได้ไปในราคาที่ลดลงแบบคุ้มขั้นสุด ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้นตามมาทางนี้ด่วน

ฟังก์ชันที่น่าสนใจของ OLED ยี่ห้อ LG 77 นิ้ว รุ่น 77C2PSC.ATM
เมื่อกล่าวถึง OLED TV ยี่ห้อ LG 77 นิ้ว รุ่น 77C2PSC.ATM แล้วนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นความบันเทิงที่มาให้คุณได้สัมผัสอย่างเต็มอรรถรสมากที่สุด จากยี่ห้อ LG ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยด้วยจอโอแอลอีดีที่สามารถส่องสว่างได้ด้วยตัวเอง ความคมชัดของภาพสูงให้ความสมจริงสุด มีระบบเสียงคุณภาพสูงสามารถกระจายออกได้รอบทิศทาง เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้หลากหลายช่องทาง ช่วยให้รับชมความบันเทิงเต็มอิ่มทุกรูปแบบ เสมือนดูอยู่ในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา เพลง ภาพยนตร์ ความบันเทิงอื่น ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้สมบูรณ์แบบ การออกแบบเรียบหรูจอบางเฉียบ ทำให้พื้นที่ใช้สอบประหยัดมากขึ้น
- เป็นสมาร์ททีวีรูปแบบโอแอลอีดี evo ที่สามารถเปล่งแสงจากจอได้สว่างเอง และคมชัดมากยิ่งขึ้น
- ฟังก์ชันพิเศษ LG ThinQ AI & Google Assistant ที่สามารถใช้งานได้ง่าย มีความสามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงได้สบาย
- สามารถสั่งงานทีวีด้วยเสียงแบบที่ไม่ต้องใช้รีโมท ด้วยฟังก์ชัน Hands-free Voice Control ทำให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น
- มีฟังก์ชัน Eye Comfort Display ทำให้ได้จอที่ถนอมสายตามากยิ่งขึ้น คุณจะสามารถรับชมได้อย่างสบายตาไม่เป็นปัญหา
- เป็นรูปแบบอัลฟ่า9Gen5 AI Processor 4K ชิปประมวลผลอัจฉริยะพร้อมยกระดับภาพคมชัด 4K ทำให้เราได้ดูอย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น
- เป็นรูปแบบ Real 4K ที่ให้ความละเอียดของภาพคมชัดระดับ 4K หรือ 3840 x 2160p
- สามารถเชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้หลากหลายช่องทาง ด้วยฟีเจอร์ Input / Convenience: Wi-Fi, HDMI 2.1 : 4 ช่อง, Bluetooth 5.0, USB 3 ช่อง
- สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ ด้วยฟีเจอร์ Home Dashboard เมจิกรีโมท ร่วมด้วย AI Sound Pro ที่สามารถยกระดับเสียงเข้าสู่ระบบ 7.1.2 ได้อย่างอัจฉริยะขั้นสุด
- ฟีเจอร์ Always Ready แม้พักหน้าจอทีวีไปแล้ว ก็ยังสามารถฟังและตอบสนองคุณได้ปกติ
- มีระบบเสียงรูปแบบ 2.2 Ch / 40W พลังเสียง 40 วัตต์ สามารถกระจายเสียงได้รอบทิศทาง 2.2 Ch

อย่างไรก็ดี ในการใช้งาน OLED ยี่ห้อ LG 77 นิ้ว รุ่น 77C2PSC.ATM วางขายในราคา 139,990 บาท แต่หากท่านสั่งผ่านทางออนไลน์ลดเหลือเพียง 106,890 บาท ซึ่งถือได้ว่าคุ้มค่ามาก ๆ กับความบันเทิงที่เราจะได้สัมผัสกัน ทั้งนี้ มีข้อระวังที่ควรรู้ด้วยคืออย่าติดตั้งไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป ไม่ควรวางไว้ที่ที่มีความชื้น ฝุ่นหนา เมื่อต้องเคลื่อนย้าย ติดตั้งให้ระวังมาก ๆ ป้องกันการตกกระแทกพังเสียหาย และหากพบว่าสินค้าชำรุด หรือไม่สมบูรณ์ ให้หยุดใช้งานในทันที ติดต่อช่างผู้ชำนาญงานมาช่วยดูแล

กดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA0703

304


ท่านใดกำลังมองหาแปรงทำความสะอาดซักผ้าแบบไนลอนอยู่บ้าง?? แล้วตอนนี้หาเจอกันหรือยัง เพราะว่าถ้ายังไม่เจอไม่ทราบว่าจะเลือกแปรงรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี เราไม่รอช้าที่จะมานำเสนอให้ได้รู้จักกับรุ่น YJ-2637 จาก ACCO สีครีม/เทา ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจทั้งสิ้น กระนั้นหากยังลังเลอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจเราไม่รอช้ามีมาแนะนำเช่นเคย

คุณสมบัติแปรงทำความสะอาดซักผ้าไนลอน YJ-2637 ACCO สีครีม/เทา
นี่นับเป็นแปรงที่ใช้ทำความสะอาดแปรงซักผ้าได้อย่างดีกับ YJ-2637 ACCO สีครีม/เทา ที่จัดอยู่ในหมวดแปรงไนลอนซักผ้าตัวช่วยด้านการทำความสะอาดแสนง่าย ด้วยวัสดุขนแปรงที่ได้ไนลอนอย่างดี มีความทนทานต่อการใช้งานแบบสุด ๆ พร้อมการดีไซน์มาให้มีด้ามจับทำให้ทุกการขัดซักผ้าง่ายมากขึ้น สะดวกเพิ่มมากขึ้น และไม่ลื่นหลุดมือระหว่างใช้งานไปได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดคราบหนัก ที่มีรูเพื่อใช้แขวนจัดเก็บ
- ขนแปรงทำมาจากพลาสติกคุณภาพดี มีความทนทานต่อการใช้งานสูง
- ด้ามจับออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่ทำให้ลื่นหลุดมือ จับถนัดมือ
- ขนแปรงทำมาจากไนลอน ที่ทำให้การทำความสะอาดผ้าไปจนถึงการขัดพื้นผิวทั่วไปได้ประสิทธิภาพ
- มีความสามารถในการทำความสะอาดหมดจดทุกซอกมุม เข้าถึงได้ตามที่ทุกท่านต้องการ

การใช้งาน และข้อควรระวังกับผลิตภัณฑ์แปรงช่วยทำความสะอาด
สำหรับแปรงใช้ซักผ้าแบบไนลอน YJ-2637 ACCO สีครีม/เทา นี้นั้นจริง ๆ ดูจากคุณสมบัติที่กล่าวมาแล้วนั้นก็เป็นแปรงขัดพื้นได้ด้วยเช่นกัน โดยที่การใช้งานจะเหมาะสมกับนำมาขัดทำความสะอาดได้ทั้งผ้า และพื้นทั่วไป แต่ก็ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ให้เกิดสิ่งสกปรกมั่วซั่ว ซึ่งหลังการใช้งานควรล้างทำความสะอาด และนำไปผึ่งให้แห้งด้วย ส่วนข้อควรระวังนั้น
- ห้ามนำเอาไปใช้ใกล้เปลวไฟ หรือถูกเปลวไฟจัง ๆ
- ห้ามโยนหรือกระแทก เพราะมีโอกาสที่จะทำให้สินค้าเสียหายได้ง่าย
- ห้ามเอาของมีคมต่าง ๆ มาขูดขีดที่แปรงเพราะโอกาสที่จะทำให้สินค้าเสียหายเป็นไปได้สูง
และนี่ก็เป็นแปรงทำความสะอาดแบบไนลอน กับรุ่น YJ-2637 ยี่ห้อ ACCO สีครีม/เทาที่น่าสนใจอย่างมากซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้สะดวกสบายมากขึ้นเหตุเพราะผ่านออนไลน์ได้เลย ในราคาเพียงแค่ 58.65 บาทเท่านั้น (ราคาทั่วไป 79 บาท) สามารถนำไปใช้ทำความสะอาดได้ทั้งซักผ้า และขัดพื้น (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ตอบสนองความต้องการของคนชอบการทำความสะอาดที่ได้คุณภาพสุด คงจะตกลงใจซื้อได้อย่างไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0204

305


เมื่อลองพิจารณาให้ดีแล้วนั้นหลาย ๆ คนเลือกใช้งานไม้ม็อบดันฝุ่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เชื่อเหลือเกินว่ามีเพื่อน ๆที่เกิดความสงสัยว่าเพราะอะไรปัจจุบันสิ่งนี้ถึงได้รับความนิยมสูงมาก แน่นอนว่าเราไม่ทำให้คุณ ๆต้องเป็นกังวลเก็บความสงสัยอยู่อีกต่อไป รวบรวมข้อมูลมาให้ได้ทำความเข้าใจอย่างล้วงลึก พร้อมแล้วก็ตามเรามาทางนี้เลย

ต้นเหตุที่ปัจจุบันไม้ม็อบดันฝุ่นได้รับความนิยมสูง
ต้องอธิบายก่อนว่าม็อบประเภทนี้มีขนาดของผ้าเช็ดที่กว้างเหมาะสมกับการนำมาใช้ในพื้นที่กว้าง ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นผ้าคัตตอนที่ผสมน้ำยาเพื่อการเก็บฝุ่นที่ดี โดยที่สาเหตุของการได้รับความนิยมเพราะว่า
1. คุณสมบัติมีความน่าสนใจ
สำหรับไม้ม็อบถูพื้นใช้กันฝุ่นนี้จะเป็นผ้าชนิดถูแห้ง ไว้ใช้สำหรับเช็ดพื้นทั่วไป ด้วยเหตุนั้นจึงไม่เหมาะกับพื้นที่เปียก มีน้ำขัง เนื่องมาจากจะเก็บบังผงได้ดีมีประสิทธิภาพ ทำให้พื้นที่ทำความสะอาดมีความเงางามมาก สถานที่ไหนมีฝุ่นเยอะ ๆ และมีความแห้งอยู่แล้วซื้อมาใช้งานได้รับความนิยมสูงสุด

2. การใช้งานที่น่าสนใจ
อีกสาเหตุที่ทำให้ผู้คนสนใจใช้งานสิ่งนี้ก็มาจากการใช้งานด้วยเหมือนกัน โดยที่จะหมุนเป็นลักษณะเลข 8 เพื่อเก็บพื้นที่ในการถูได้กว้างขวางมากขึ้น เหมาะสมกับพื้นที่ที่เป็นลักษณะทางยาว ที่เมื่อใช้งานก็ควรเอาปลายผ้าเป็นด้านหน้าใช้เพื่อเช็ดเท่านั้น เนื่องด้วยส่วนที่เป็นด้านหน้าจะมีเส้นใยที่ดักเก็บฝุ่นได้ดีที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำความสะอาดง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเช็ดหลาย ๆ รอบ พื้นที่กว้าง ๆ ใช้งานได้ดี

3. การเก็บรักษาไม่ใช่เรื่องยาก
สุดท้ายก็คือเรื่องของการเก็บรักษาไม้ถูพื้นแบบดันฝุ่นที่ปกติแล้วหลังจากมีการใช้งานก็จะสะบัดเอาฝุ่นที่เกาะติดอยู่ออก หรือใช้แปรงมาถูกที่ผ้าม็อบเอาฝุ่นออกไป หรือบางท่านก็เอาเครื่องดูดฝุ่นมาช่วยได้เลย ต่อไปก็นำไปซักทำความสะอาดให้หมดจด สุดท้ายใช้น้ำอุ่นล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วก็ตากไว้ในที่ร่มให้มีอากาศถ่ายเทมากที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นการเก็บรักษาที่ง่ายมากไม่เคยใช้งานมาก่อนก็ทำได้

นอกจากปัจจุบันจะมีไม้ม็อบดันฝุ่นแบบคัตตอนแล้ว จริง ๆ ก็ยังมีรูปแบบไมโครไฟเบอร์ด้วย ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้กับพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นลามิเนต โดยนำมาติดแผ่นรองเข้ากับหัวม็อบหากต้องการเช็ดพื้นที่เปียกก็เอาไปจุ่มน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดเช็ดได้เลย ดันไม้ไปตามพื้นเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก แล้วล้างผ้าให้สะอาด หรือจะไปซักในเครื่องซักผ้าด้วยน้ำอุ่นก็ได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำความสะอาดพื้นต่อจากนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0208

306


เปิดแล้ว“ตลาดนัดกรีนวินเทจ รัชโยธิน” แหล่งรวมสินค้า กิน ช้อป ชิลล์ ใจกลางกรุงเทพฯ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้นักท่องเที่ยวรวมทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติลดน้อยและหายไป ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลให้ผู้ค้าในตลาดนัดทุกพื้นที่ทั่วไทยได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป ผู้บริโภคเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย และจากแผนรองรับนโยบายเปิดประเทศ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในสถานการณ์ COVID – 19 เพื่อให้การเปิดประเทศมีความปลอดภัย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สามารถกลับมาดําเนินกิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรมตามเดิมได้ วันนี้หากคุณอยากทำธุรกิจของตัวเอง อยากค้าขาย และเลือกทำเลเป็นตลาดนัดที่มีผู้คนเดินสัญจรมากมาย “ตลาดนัดกรีนวินเทจรัชโยธิน” เปิดรองรับผู้ขายมาจับจองร้านค้า ซึ่งตอนนี้เต็มครบถ้วน และเปิดตลาดให้ผู้ซื้อมาเดินจับจ่ายสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้าแฟชั่น































Green Vintage

Green Vintage Night Market

ชวนเพื่อนๆมาเดินคลายร้อนกลางเดือนเมษายนกับกิจกรรมเอาใจขาช้อปและเหล่าเพื่อนอีกี้ นำปายุดและปาวิด ประกาศนโยบายชัด ไม่ต้องยกเลิก บูโร แบล็กลิสต์ทุกคนก็มีสิทธิ์ช้อป คิดใหญ่ทำเป็น กรีนวินเทจ รัชโยธิน เปิดแล้ว เปิดอยู่ เปิดต่อ แลนด์สไลด์ทั้งแยกรัชโยธิน  ไม่ต้องปิดสวิตซ์ ไม่ต้องรอบัตรแก้จน ประชาชนก็มีกินมีใช้ ตลอดเจ็ดวัน ใจกล้าท้าทายกับร้านค้านับพัน ก้าวข้ามความหิวกับอาหารเครื่องดื่มที่ผู้ใช้สิทธิยืนยันความอร่อย ก้าวข้ามความขัดแย้งการแต่งตัวกับแฟชั่นหลากสไตล์ ของใช้ วินเทจ ของสะสม  ค้าขายจริงไม่ทิ้งพื้นที่  สร้างเงิน สร้างงาน สร้างชาติ เลือกตลาดนัด กรีนวินเทจรัชโยธิน ก้าวไม่ไกลแต่อยากให้ไปเดินด้วยกัน หลังจากนั้น นำปายุดและปาวิดนำสื่อมวลชนเดินเยี่ยมชมร้านค้ายาวกว่าพันร้านพร้อม Live ผ่านช่องทาง Facebook  โดยน้องนุ๊ก influencer สายเซ็กซี่ และน้องจ๊อบ วิทยา บุญพัฒน์ นายแบบinfluencer





“ตลาดนัดกรีนวินเทจ รัชโยธิน” เป็นตลาดนัดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้เปิดพื้นที่ให้เข้าเลือกซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัยที่ตลาดกรีนวินเทจ รัชโยธิน มีอาหาร เสื้อผ้า แฟชั่น ของสะสม ชิคๆ แนวๆ วินเทจ ร้านนั่งชิลล์ อยู่ฝั่งตรงข้ามเมเจอร์รัชโยธิน เปิดทุกวัน 16.00-24.00 น. และตลาดกรีนวินเทจ โซนคลาสสิค สำหรับผู้ที่สนใจ ของเก่า ของโบราณ งานสินค้าhandmade อะไหล่รถเก่า รถคลาสสิค และ ฟูดทรัค ฝั่งข้างตึกช้าง วันเสาร์คืนเดียว 16.00-24.00 น.



สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/greenvintagenightmarket
GOOGLE MAPS : https://goo.gl/maps/7ExHuAe1F6QHZFhm6

307


การเลือกซื้อพวงหรีดในสมัยปัจจุบันนั้นก็มีการพัฒนามากขึ้นเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่สร้างประโยชน์ได้ต่อไป และหนึ่งในนั้นก็คือพวงหรีดพัดลม กระนั้นพัดลมที่นำมาทำก็มีให้เราเลือกซื้อหลากหลายแต่ที่ดูจะน่าสนใจก็คงไม่พ้นพัดลมอุตสาหกรรมขนาด 22 นิ้ว ซึ่งในวันนี้เราจะมานำเสนอเพื่อการเลือกได้อย่างตอบโจทย์

รวมพวงหรีดพัดลมอุตสาหกรรม ขนาด 22 นิ้ว ที่น่าสนใจ
1. พัดลมอุตสาหกรรมพวงหรีด ขนาด 22 นิ้ว ยี่ห้อ HATARI รุ่น IS22M1 สีดำ
พูดเลยว่าพัดลมพวงหรีดแบบอุตสาหกรรมขนาด 22 นิ้ว ที่น่าสนใจไม่อาจมองข้ามไปได้กับ แบรนด์ HATARI รุ่น IS22M1 สีดำ ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 105.5 – 118.5 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยที่ยังปรับซ้าย – ขวา หรือจะให้หยุดส่ายก็ได้ด้วย เลือกความแรงของลมได้ 3 ระดับ มีความปลอดภัยด้วยระบบเทอร์มอล ฟิวส์ สามารถตัดไฟได้แบบอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิมีสูงมากเกินไป
มาพร้อมขาเสาที่แข็งแรง ตัวฐานรองรับน้ำหนักได้ดี เพื่อการวางตั้งที่มั่นคง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งมาตรฐานระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 9001 และมาตรฐานความปลอดภัย มอก.934 – 2558 เหมาะสำหรับการนำไปส่งมอบเพื่อแสดงความไว้อาลัยอย่างดีมีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดต่อไป ราคาจำหน่ายเครื่องละ 2,800 บาท

2. พัดลมอุตสาหกรรมพวงหรีด ขนาด 22 นิ้ว แบรนด์ HATARI รุ่น IS22M1 สีเทา
เป็นอีกเครื่องที่น่าสนใจกับหรีดพัดลมอุตสาหกรรม ขนาด 22 นิ้ว ยี่ห้อ HATARI รุ่น IS22M1 สีเทา ที่สามารถปรับส่ายซ้าย – ขวาได้เลยตามต้องการ ปรับแรงได้ 3 ระดับ ที่มีแรงลมพัดเย็นสบายทั่วถึง ปรับความสูงได้ตั้งแต่ 105.5 – 118.5 เซนติเมตร ที่เลือกปรับได้ตามต้องการ มีมอเตอร์ประสิทธิภาพแรงสูงด้วยระบบรองลื่น บอล แบริ่ง ที่พร้อมสร้างความปลอดภัยด้วยเทอร์มอล ฟิวส์ ที่เมื่อพัดลมมีอุณหภูมิสูงเกินไประบบตัดไฟอัตโนมัติเลยทันที
มีขาเสา มีฐานพัดลมที่รองรับน้ำหนักได้ดี มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อการวางตั้งที่มั่นคงสุด ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเช่นกัน ทั้งมาตรฐานระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 9001 และมาตรฐานความปลอดภัย มอก.934 – 2558 ราคาจัดจำหน่ายเครื่องละ 2,800 บาท เหมาะกับการแสดงความไว้อาลัยทุกงานเลยจริง ๆ นำไปใช้ต่อได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ

แม้จะเป็นที่น่าสนใจกับการซื้อเพื่อแสดงความไว้อาลัยกับพวงหรีดพัดลมอุตสาหกรรม 22 นิ้ว แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ด้วย คือการถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ห้ามมีการสัมผัสพัดลม หรือชิ้นส่วนที่มีกระแสไฟฟ้าหากรู้ตัวว่ามือกำลังเปียกน้ำ ไม่ให้ใช้พัดลมหากมีการประกอบชิ้นส่วนไม่ครบ หรือชำรุด และข้อสำคัญห้ามมีการดัดแปลงแก้ไขสินค้า เนื่องมาจากอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานเองได้ ทั้งนี้ ผู้รับควรมีการเรียนรู้คู่มือก่อนการใช้งานเสมอด้วย

กดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0512

308


การเลือกซื้อพวงหรีดในสมัยปัจจุบันนั้นก็มีการพัฒนามากขึ้นเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่สร้างประโยชน์ได้ต่อไป และหนึ่งในนั้นก็คือพวงหรีดพัดลม กระนั้นพัดลมที่นำมาทำก็มีให้เราเลือกซื้อหลากหลายแต่ที่ดูจะน่าสนใจก็คงไม่พ้นพัดลมอุตสาหกรรมขนาด 22 นิ้ว ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำเพื่อการเลือกได้อย่างตอบโจทย์

รวมพวงหรีดพัดลมอุตสาหกรรม ขนาด 22 นิ้ว ที่น่าสนใจ
1. พัดลมอุตสาหกรรมพวงหรีด ขนาด 22 นิ้ว แบรนด์ HATARI รุ่น IS22M1 สีดำ
บอกเลยว่าพัดลมพวงหรีดแบบอุตสาหกรรมขนาด 22 นิ้ว ที่น่าสนใจไม่อาจมองข้ามไปได้กับ แบรนด์ HATARI รุ่น IS22M1 สีดำ ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 105.5 – 118.5 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยที่ยังปรับซ้าย – ขวา หรือจะให้หยุดส่ายก็ได้ด้วย เลือกความแรงของลมได้ 3 ระดับ มีความปลอดภัยด้วยระบบเทอร์มอล ฟิวส์ สามารถตัดไฟได้แบบอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิมีสูงมากเกินไป
มาพร้อมขาเสาที่แข็งแรง ตัวฐานรองรับน้ำหนักได้ดี เพื่อการวางตั้งที่มั่นคง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งมาตรฐานระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 9001 และมาตรฐานความปลอดภัย มอก.934 – 2558 เหมาะกับการนำไปส่งมอบเพื่อแสดงความไว้อาลัยอย่างดีมีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดต่อไป ราคาจำหน่ายเครื่องละ 2,800 บาท

2. พัดลมอุตสาหกรรมพวงหรีด ขนาด 22 นิ้ว ยี่ห้อ HATARI รุ่น IS22M1 สีเทา
เป็นอีกเครื่องที่น่าสนใจกับหรีดพัดลมอุตสาหกรรม ขนาด 22 นิ้ว ยี่ห้อ HATARI รุ่น IS22M1 สีเทา ที่สามารถปรับส่ายซ้าย – ขวาได้เลยตามต้องการ ปรับแรงได้ 3 ระดับ ที่มีแรงลมพัดเย็นสบายทั่วถึง ปรับความสูงได้ตั้งแต่ 105.5 – 118.5 เซนติเมตร ที่เลือกปรับได้ตามต้องการ มีมอเตอร์ประสิทธิภาพแรงสูงด้วยระบบรองลื่น บอล แบริ่ง ที่พร้อมสร้างความปลอดภัยด้วยเทอร์มอล ฟิวส์ ที่เมื่อพัดลมมีอุณหภูมิสูงเกินไประบบตัดไฟอัตโนมัติเลยทันที
มีขาเสา มีฐานพัดลมที่รองรับน้ำหนักได้ดี มีความแข็งแรง เพื่อการวางตั้งที่มั่นคงสุด ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเช่นกัน ทั้งมาตรฐานระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 9001 และมาตรฐานความปลอดภัย มอก.934 – 2558 ราคาจัดจำหน่ายเครื่องละ 2,800 บาทเท่านั้น เหมาะกับการแสดงความไว้อาลัยทุกงานเลยจริง ๆ นำไปใช้ต่อได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ

แม้จะเป็นที่น่าสนใจกับการซื้อเพื่อแสดงความไว้อาลัยกับพวงหรีดพัดลมอุตสาหกรรม 22 นิ้ว แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องทราบด้วย คือการถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ห้ามมีการสัมผัสพัดลม หรือชิ้นส่วนที่มีกระแสไฟฟ้าหากรู้ตัวว่ามือกำลังเปียกน้ำ ไม่ให้ใช้พัดลมหากมีการประกอบชิ้นส่วนไม่ครบ หรือชำรุด และที่สำคัญห้ามมีการดัดแปลงแก้ไขสินค้า ทั้งนี้เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานเองได้ ทั้งนี้ ผู้รับควรมีการเรียนรู้คู่มือก่อนการใช้งานเสมอด้วย

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0512

309


การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมสูงเพราะปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากปล่อยไว้คงไม่เป็นผลดีต่อปอดแน่นอน ทว่าท่านใดที่กำลังจะเลือกซื้อเลือกหาอาจเกิดความสับสน สงสัย และไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร เราไม่รอช้าที่จะพาไปทำความเข้าใจอย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้

เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม เพื่อการป้องกัน PM 2.5 อย่างดี
1. เลือกให้เหมาะสำหรับพื้นที่ห้อง
อย่างแรกที่มองข้ามไม่ได้ก็คือขนาดพื้นที่ห้องที่ใช้งาน ไม่ว่าจะห้องนอน ห้องรับแขกใด ๆ แล้วนั้นต้องมีขนาดเครื่องที่พอดีกับขนาดห้อง ดังนั้น เราจึงต้องทราบและคำนวณพื้นที่ห้องเสมอ ยิ่งเลือกครอบคลุมพื้นที่ได้ดีก็ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ไม่เสียเงินเปล่า

2. ค่า CADR
ที่เรียกอีกอย่างว่าค่าตัวเลขที่จะวัดปริมาณอากาศจากระบบฟอกอากาศเป็นความสามารถในการทำความสะอาดที่ปนเปื้อน ตัวอย่างเช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ ยิ่งเลขมากประสิทธิภาพการกรองก็ดีมากตามไปด้วย ช่วยให้เรานั้นตัดสินใจได้ง่าย หากเครื่องมีแผ่นกรองที่คุณภาพดี เราก็ดูค่า CADR ได้ตามคู่มือเครื่อง หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์

3. ไส้กรอง หรือระบบกรองอากาศ
ที่แต่ละแบรนด์ก็จะมีแตกต่างกัน อย่างเช่น เครื่องฟอกอากาศ Philips หรืออื่น ๆ ที่หากเป็นแบบ HEPA ก็จะสามารถดักจับฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ดี ทำให้บ้านสดชื่น ไม่เป็นภูมิแพ้ ไม่เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งควรมีฟังก์ชันอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น ตรวจสอบการทำงานผ่านแอป หรือสั่งการผ่านแอปได้ แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง ฯลฯ กระนั้นสนนราคาก็จะต่างกันออกไปตามฟังก์ชันที่มี

4. ระดับเสียงเมื่อทำงาน
เรื่องเสียงของเครื่องนั้นก็สำคัญ โดยที่หากนำไปวางตั้งแล้วเปิดเครื่องก็ควรจะมีระดับเสียงที่ต่ำ หรือไม่มีเสียงรบกวนเลยยิ่งดี โดยเฉพาะการไปวางในห้องนอน ซึ่งเสียงที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 30 – 35 เดซิเบล เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนขณะนอนหลับ อย่าง เครื่องฟอกอากาศ sharp ก็มีเสียงที่เบามาก

5. ค่า Air Volume หรือ Airflow
ที่จะเป็นค่าความเร็วลมจากปริมาณในอากาศดูดเอาเข้าไปและปล่อยที่บริสุทธิ์ออกมา หากมีค่า Airflow มากยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศเร็วตามไปด้วย เท่ากับว่าเราจะได้เครื่องที่ทำอากาศบริสุทธิ์ไว ดูค่า Airflow ได้จากข้อมูลพื้นฐานเครื่องได้เลย ใครใช้กับห้องใหญ่ ๆ พิจารณาค่านี้ไว้เป็นพิเศษดีเลย

ด้วยความที่สภาพอากาศในเมืองไทยปัจจุบันค่อนข้างน่ากลัวไม่น้อย ด้วยฝุ่นควัน มลพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM 2.5 ที่รุนแรงอยู่ตลอด และการใช้งานเครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดหมดห่วงวายร้ายทำลายปอดไปได้ ซึ่งเราก็หวังว่าต่อจากนี้การเลือกซื้อเลือกหาของทุก ๆ คนจะมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการใช้งานในห้องได้อย่างดี

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0201

310


หนุ่ม ๆ สาว ๆท่านไหนที่กำลังมองหาไดร์เป่าผมเพื่อเป้าหมายผมแห้งไว แห้งดี ไม่ทำให้ผิดหวังแต่ยังหาไม่ได้ เรารวบรวมมานำเสนอให้เลือกกันถึง 5 ยี่ห้อด้วยกัน การันตีใช้ดีโดนใจ ผมแห้งนุ่มสลวยไม่แห้งเสีย แต่จะมียี่ห้อไหนบ้างนั้นเราไปติดตามกันได้เลยอย่ารอช้า

5 ไดร์เป่าผมยอดฮิต การันตีผมแห้งเร็ว ผมไม่เสีย ใช้ได้ยาว ๆ
1. PANASONIC รุ่น EH-ND37-KL 1,800 วัตต์
กำลังไฟกำหนด 1,800 วัตต์ ให้ลมร้อนได้ทันที มีระดับความร้อนปรับได้มากถึง 4 โหมด มีโหมด Heat Protection และโหมด Scalp Care ที่ปรับความร้อนให้พอเหมาะ ป้องกันเส้นผม และหนังศีรษะเกิดความร้อน มีโหมดพลังลมเย็น อย่าง Cool-shot ที่ช่วยถนอมเส้นผมได้ดี ราคาขายปกติ 690 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือแค่ 576 บาท

2. PHILIPS BHD300/10 1,600วัตต์
ไดร์เป่าผม Philips ขนาดเล็ก ใช้งานสะดวกด้วยกำลังไฟ 1,600 วัตต์ จัดแต่งทรงผมได้สวยในทุกวัน หัวเป่าแบบ Airflower ที่ทำให้แห้งรวดเร็วมาก แต่ถนอมเส้นผมให้มีสุขภาพดี ไม่ทำร้ายเส้นผมใด ๆ พร้อมเทคโนโลยี ThermoProtect ที่ช่วยควบคุมความร้อนอุณหภูมิได้ที่ 57 องศาเซลเซียส และเป่าผมแห้งง่ายด้วยอุณหภูมิลดลง 10 องศาเซลเซียส ราคาปกติ 1,090 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือเพียงแค่ 845.5 บาทเท่านั้น

3. AIKO รุ่น SL-128 1,200วัตต์
อีกแบรนด์ที่ทำให้ผมแห้งรวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดปัญหาผมเสีย กับ AIKO รุ่น SL-128 ที่มีกำลังไฟ 1,200 วัตต์ แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ สามารถปรับลมเย็น – ลมร้อนได้ตามความต้องการ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้ดี รูปทรงสวยจับถนัดมือ ราคาจำหน่ายเครื่องละ 449 บาท

4. DYSON รุ่น HD08 Ssonic 1,600 วัตต์ NICKEL/COPPER
เป็นไดร์เป่าผม dyson รุ่นที่ดีที่สุดก็ว่าได้ โดยที่เป็นดิจิตอลมอเตอร์รุ่น V9 ความเร็ว 110,000 รอบต่อนาที ที่ช่วยให้เกิดกระแสลมความเร็วสูง ผมแห้งอย่างรวดเร็ว มีแอร์มัลติพลายเออร์ที่ทำให้ผมแห้งไว ไม่ทำให้เกิดปัญหาผมเสียง่าย ๆ หัวเป่าเป็นแบบแม่เหล็กที่ประกบติดกับตัวเครื่องได้เลย สามารถหมุนเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายมาก ราคาขายปกติ 16,900 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือแค่ 15,900 บาท

5. ยี่ห้อ LESASHA รุ่น LS1371 1,200 วัตต์
กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ที่สร้างรังสีความร้อนที่มีความเข้มข้นสูงเข้าแทรกซึมกับแกนผมได้ดี ช่วยให้ผมแห้งเร็ว มีการปล่อยคลื่นแม่เหล็กที่ต่ำมาก ไม่ทำลายระบบประสาทและสมอง ต่อภัยต่อแม่และเด็ก มีการเพิ่มประสิทธิภาพลดไฟฟ้าสถิต และลดการชี้ฟูของเส้นผมได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบ ONIC Function ราคาขายปกติ 2,990 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือแค่เพียง 2,511 บาทเท่านั้น

ในการเป่าผมให้แห้งแบบที่ไม่ส่งผลเสียต่อเส้นผมนั้นเรื่องการเลือกไดร์เป่าผมนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ และทั้งหมดที่เราเสนอแนะเหล่านี้ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีความน่าสนใจมาก ๆ เรียกได้ว่าคุณภาพดีคุ้มราคาแน่นอน หาซื้อไปใช้งานไม่มีผิดหวัง

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP160101

311


สุภาพบุรุษ สุภาพสตรีท่านไหนที่กำลังหาไดร์เป่าผมเพื่อเป้าหมายผมแห้งไว แห้งดี ไม่ทำให้ผิดหวังแต่ยังหาไม่ได้ เรารวบรวมมานำเสนอให้เลือกกันถึง 5 ยี่ห้อด้วยกัน รับประกันใช้ดีโดนใจ ผมแห้งนุ่มสลวยไม่แห้งเสีย แต่จะมีแบรนด์ไหนบ้างนั้นเราไปติดตามกันได้เลยอย่ารอช้า

5 ไดร์เป่าผมยอดฮิต การันตีผมแห้งเร็ว ผมไม่เสีย ใช้ได้ยาว ๆ
1. PANASONIC รุ่น EH-ND37-KL 1,800 วัตต์
กำลังไฟกำหนด 1,800 วัตต์ ให้ลมร้อนได้ทันที มีระดับความร้อนปรับได้ 4 โหมด มีโหมด Heat Protection และโหมด Scalp Care ที่ปรับความร้อนที่พอเหมาะ ป้องกันเส้นผม และหนังศีรษะเกิดความร้อน มีโหมดพลังลมเย็น อย่าง Cool-shot ที่ช่วยถนอมเส้นผมได้ดี ราคาขายปกติ 690 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือเพียงแค่ 576 บาทเท่านั้น

2. PHILIPS BHD300/10 1,600วัตต์
ไดร์เป่าผม Philips ขนาดกะทัดรัด ใช้งานสะดวกด้วยกำลังไฟ 1,600 วัตต์ จัดแต่งทรงผมได้สวยในทุกวัน หัวเป่าแบบ Airflower ที่ทำให้แห้งเร็วมาก แต่ถนอมเส้นผมให้มีสุขภาพดี ไม่ทำร้ายเส้นผมใด ๆ พร้อมเทคโนโลยี ThermoProtect ที่ช่วยควบคุมความร้อนอุณหภูมิได้ที่ 57 องศาเซลเซียส และเป่าผมแห้งง่ายด้วยอุณหภูมิลดลง 10 องศาเซลเซียส ราคาจัดจำหน่ายปกติ 1,090 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือแค่ 845.5 บาทเท่านั้น

3. AIKO รุ่น SL-128 1,200วัตต์
อีกยี่ห้อที่ช่วยให้ผมแห้งไว ไม่ทำให้เกิดปัญหาผมเสีย กับ AIKO รุ่น SL-128 ที่มีกำลังไฟ 1,200 วัตต์ แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ สามารถปรับลมเย็น – ลมร้อนได้ตามความต้องการ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้ดี รูปทรงสวยจับถนัดมือ ราคาขายเครื่องละ 449 บาท

4. DYSON รุ่น HD08 Ssonic 1,600 วัตต์ NICKEL/COPPER
เป็นไดร์เป่าผม dyson รุ่นที่ดีที่สุดก็ว่าได้ โดยที่เป็นดิจิตอลมอเตอร์รุ่น V9 ความเร็ว 110,000 รอบต่อนาที ที่ช่วยให้เกิดกระแสลมความเร็วสูง ผมแห้งเร็ว มีแอร์มัลติพลายเออร์ที่ทำให้ผมแห้งเร็วมาก ไม่ทำให้เกิดปัญหาผมเสียง่าย ๆ หัวเป่าเป็นแบบแม่เหล็กที่ประกบติดกับตัวเครื่องได้เลย สามารถหมุนเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายมาก ราคาปกติ 16,900 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือเพียง 15,900 บาทเท่านั้น

5. ยี่ห้อ LESASHA รุ่น LS1371 1,200 วัตต์
กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ที่สร้างรังสีความร้อนที่มีความเข้มข้นสูงเข้าแทรกซึมกับแกนผมได้ดี ช่วยให้ผมแห้งเร็วไว มีการปล่อยคลื่นแม่เหล็กที่ต่ำมาก ไม่ทำลายระบบประสาทและสมอง ต่อภัยต่อแม่และเด็ก มีการเพิ่มประสิทธิภาพลดไฟฟ้าสถิต และลดการชี้ฟูของเส้นผมได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบ ONIC Function ราคาปกติ 2,990 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดทันทีเหลือเพียง 2,511 บาท

ในการเป่าผมให้แห้งแบบที่ไม่ส่งผลเสียต่อเส้นผมนั้นเรื่องการเลือกไดร์เป่าผมจัดเป็นสิ่งสำคัญ และทั้งหมดที่เราเสนอแนะเหล่านี้ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีความน่าสนใจมาก ๆ เรียกได้ว่าคุณภาพดีคุ้มราคาแน่นอน หาซื้อไปใช้งานไม่มีผิดหวัง

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP160101

312


ปัจจุบันวิวัฒนาการการทำกาแฟนั้นมีมากขึ้น แน่นอนว่าเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลจึงได้รับความนิยมสูงมาก และต่างก็พากันแนะนำให้เลือกมีติดบ้านไว้ ทว่าบางคนอาจจะลังเลไม่แน่ใจ อยากรู้ถึงเหตุผลที่คอกาแฟทั้งหลายต้องมีเครื่องติดไว้ เราไม่ต้องการให้พลาดการดื่มกาแฟที่ดีที่สุดไป รวบรวมมาให้ศึกษาอย่างเจาะลึก

เหตุผลที่ควรใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล มีติดบ้านชงกินสบายใจ
1. ใช้งาน ไม่เสียเวลาไม่นาน
สิ่งแรกที่นับเป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ๆ ก็คือตัวเครื่องนั้นมีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้น้ำเดือดได้รวดเร็วกว่าเดิม ใช้เวลารอน้ำร้อนไม่นาน แค่ 30 วินาทีเท่านั้น ต่อจากนั้นก็เอาแคปซูลที่มีรสชาติดีติดใจ ทั้งกาแฟ นมสำเร็จรูปใส่เข้าเครื่องไป กดปุ่ม เท่านี้ก็จะได้เป็นกาแฟไหลมาที่แก้วของเราแล้ว มีฟองกาแฟ หรือคาราเมลสีทองสวยงามให้อีก ในเวลาสั้น ๆ สะดวก รวดเร็วมาก
2. รูปแบบทันสมัย การทำงานอัตโนมัติ
สำหรับเหตุผลที่น่าสนใจต่อมาก็คือเครื่องชงถูกดีไซน์มาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความสวยงาม หรูหรา ที่มีทั้งตัวเครื่องลักษณะต่าง ๆ พร้อมช่องใส่น้ำขนาดใหญ่ มีถาดรองแก้วเป็นแบบสเตนเลส เลือกปรับฟังก์ชันสูงต่ำได้ตามขนาดแก้ว ฯลฯ ที่ยังมีการทำงานรูปแบบอัตโนมัติด้วย ดังเช่น ระบบการทำงาน ระบบหยุดไหลอัตโนมัติ ระบบทำความร้อน ระบบแรงดันสูง ฯลฯ เรียกได้ว่าให้เราเข้าถึงการใช้งานเครื่องชงกาแฟแคปซูลแสนง่าย พร้อมดื่มด่ำกาแฟเลิศรสในบ้านอย่างดี
3. ให้รสชาติเข้าถึงทุกกลุ่มคอกาแฟอย่างดี
เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องเป็นกังวลเลย ด้วยเหตุว่าตัวแคปซูลเราสามารถเลือกรสที่ถูกใจได้หมดตามต้องการ อย่างถ้าเป็นเนสกาแฟก็มีรสชาติกลมกล่อม มีทั้งโรบัสต้า และอาราบิก้า ที่ชิมได้มากกว่า 10 รสชาติ หรือแบรนด์อื่น ๆ ก็มีด้วยเช่นกัน การันตีรสชาติเหมือนได้กาแฟสด ๆ จากคาเฟ่เลยเชียว ทั้งนี้ บางรุ่นก็มีสูตรการชงที่ติดอยู่บนฝากล่องให้เราศึกษาก่อนด้วย
4. พร้อมให้สวมบทบาทบาริสต้าด้วยตัวเอง
สุดท้ายก็คือท่านสามารถใช้งานเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเองที่อยากมีความฝันอยากเป็นบาริสต้าแต่ยังไม่เคยได้สานฝันมาก่อน ก็ลองเอามาช่วยได้ เติมเต็มความฝันให้ตัวเองแบบไม่ยาก ที่ได้รสชาติกาแฟดี ทำไม่ยุ่งยากด้วย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการหาซื้อเครื่องชงกาแฟก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีหลายแหล่งให้บริการเลย แถมยังมีรูปแบบออนไลน์ด้วย ที่จัดโปรโมชั่นลดราคาซื้อได้ถูกกว่าแต่คุณภาพเครื่องยังคงใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ บางที่ก็จัดส่งฟรีให้ภายใน 3 – 5 วันด้วย เรียกได้ว่าพร้อมสนับสนุนคอกาแฟทุก ๆ คนอย่างดีที่สุดเลยเชียว

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080203

313


ปัจจุบันวิวัฒนาการการทำกาแฟนั้นมีมากขึ้น แน่นอนว่าเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลจึงเป็นที่นิยมสูงมาก และต่างก็พากันแนะนำให้เลือกมีติดบ้านไว้ ทว่าบางท่านอาจจะลังเลไม่เชื่อมั่น อยากรู้ถึงเหตุผลที่คอกาแฟทั้งหลายต้องมีเครื่องติดไว้ เราไม่อยากให้พลาดการดื่มกาแฟที่ดีที่สุดไป รวบรวมมาให้ศึกษาอย่างเจาะลึก

เหตุผลที่ควรใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล มีติดบ้านชงกินสบายใจ
1. ใช้งาน ไม่เสียเวลาไม่นาน
อันดับแรกที่นับว่าเป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ๆ ก็คือตัวเครื่องนั้นมีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้น้ำเดือดได้รวดเร็วกว่าเดิม ใช้เวลารอน้ำร้อนไม่นาน แค่ 30 วินาทีเท่านั้น ต่อจากนั้นก็เอาแคปซูลที่มีรสชาติดีติดใจ ทั้งกาแฟ นมสำเร็จรูปใส่เข้าเครื่องไป กดปุ่ม เท่านี้ก็จะได้เป็นน้ำกาแฟไหลมาที่แก้วของเราแล้ว มีฟองกาแฟ หรือคาราเมลสีทองสวยงามให้อีก ในเวลาสั้น ๆ สะดวก รวดเร็วมาก ๆ
2. รูปแบบทันสมัย การทำงานอัตโนมัติ
สำหรับเหตุผลที่น่าสนใจต่อมาก็คือเครื่องชงถูกดีไซน์มาเพื่อให้ท่านได้สัมผัสถึงความสวยงาม หรูหรา ที่มีทั้งตัวเครื่องลักษณะต่าง ๆ พร้อมช่องใส่น้ำขนาดใหญ่ มีถาดรองแก้วเป็นแบบสเตนเลส เลือกปรับฟังก์ชันสูงต่ำได้ตามขนาดแก้ว ฯลฯ ที่ยังมีการทำงานรูปแบบอัตโนมัติด้วย อย่างเช่น ระบบการทำงาน ระบบหยุดไหลอัตโนมัติ ระบบทำความร้อน ระบบแรงดันสูง ฯลฯ เรียกได้ว่าให้เราเข้าถึงการใช้งานเครื่องชงกาแฟแคปซูลแสนง่ายดาย พร้อมดื่มด่ำกาแฟเลิศรสในบ้านอย่างดี
3. ให้รสชาติเข้าถึงทุกกลุ่มคอกาแฟอย่างดี
เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องเป็นกังวลเลย เหตุเพราะตัวแคปซูลเราสามารถเลือกรสที่ถูกใจได้หมดตามต้องการ อย่างถ้าเป็นเนสกาแฟก็มีรสชาติกลมกล่อม มีทั้งโรบัสต้า และอาราบิก้า ที่ชิมได้มากกว่า 10 รสชาติ หรือยี่ห้ออื่น ๆ ก็มีด้วยเช่นกัน การันตีรสชาติเหมือนได้กาแฟสด ๆ จากคาเฟ่เลยเชียว ทั้งนี้ บางรุ่นก็มีสูตรการชงที่ติดอยู่บนฝากล่องให้เราศึกษาก่อนด้วย
4. พร้อมให้สวมบทบาทบาริสต้าด้วยตัวเอง
สุดท้ายก็คือท่านสามารถใช้งานเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเองที่อยากมีความฝันอยากเป็นบาริสต้าแต่ยังไม่เคยได้สานฝันมาก่อน ก็ลองเอามาช่วยได้ เติมเต็มความฝันให้ตัวเองแบบง่าย ๆ ที่ได้รสชาติกาแฟดี ทำไม่ยุ่งยากด้วย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการหาซื้อเครื่องชงกาแฟก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีหลายแหล่งให้บริการเลย แถมยังมีรูปแบบออนไลน์ด้วย ที่จัดแคมเปญลดราคาซื้อได้ถูกกว่าแต่คุณภาพเครื่องยังคงใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ บางที่ก็จัดส่งฟรีให้ภายใน 3 – 5 วันด้วย เรียกได้ว่าพร้อมสนับสนุนคอกาแฟทุก ๆ ท่านอย่างดีที่สุดเลยเชียว

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080203

314


สำหรับการใช้งานผ้าห่มแบบนาโนนั้นประจุบันได้รับความนิยมสูงมาก และเมื่อมีการใช้งานแน่นอนว่าต้องควบคู่มาพร้อมกับการทำความสะอาด และถ้าท่านสนใจอยากให้มีกลิ่นหอมเพื่อการนอนหลับสบายใจด้วยแล้วนั้น เราก็มีทริคที่น่าสนใจด้วยวิธีการแสนง่ายไม่ยุ่งยากมาแนะนำ อยากรู้กันแล้วก็ตามมาทางนี้โดยเร็ว

เทคนิคการซักผ้าห่มให้กลิ่นหอมยวนใจเมื่อใช้งานไม่ใช่เรื่องยาก
ในการซักผ้าชนิดนี้เชื่อเหลือเกินว่ามีหลาย ๆ คนที่ลงน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยแล้วแต่ก็ยังไม่หอมหวนยวนใจเลย ซึ่งนั่นอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เราจึงอยากแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ผ้ามีกลิ่นหอมอยู่นานมาบอกต่อ ไม่ว่าจะเป็น

1. การซักด้วยมือ
เป็นการซักที่จะช่วยให้กลิ่นหอมคงทนอยู่นาน เนื่องด้วยแต่ละครั้งก็จะซักในจำนวนไม่มากอยู่แล้ว สามารถทำให้เราซักได้อย่างทะนุถนอม นอกจากนี้ คุณก็สามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแช่ได้ในระยะเวลาตามที่คุณต้องการ โดยที่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็จะกระจายไปได้ทั่วถึงเพิ่มมากขึ้นด้วย
2. ไม่ควรพลาดคัดแยกผ้าเสมอ
บางคนอาจจะซักกับผ้าหลากหลายชนิด อย่างเช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนข้าง ผ้าห่มมีแขน หรือแบบเป็นผืนธรรมดา ฯลฯ สิ่งที่เราต้องทำมากที่สุดก็คือคัดแยกเสื้อผ้าไปตามสภาพที่เป็นอยู่ในช่วงเวลานั้น อย่างเช่น ผ้าห่มที่เปียกชื้นหรือมีกลิ่นอับมากควรแยกออกจากการซักไปเลย เหตุเพราะถ้าเอามาซักรวมก็จะเกิดแบคทีเรียและกลิ่นกระจายไปติดเครื่องนอนชิ้นอื่น ๆ ด้วยนั่นเอง
3. น้ำยาปรับผ้านุ่มควรเป็นสูตรเข้มข้น
ถ้าท่านอยากที่จะให้ผ้าห่มนาโนมีความหอมยวนใจอยู่เป็นเวลานาน ๆ หอมเป็นพิเศษ สิ่งที่อยากเสนอแนะก็คือการเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีความเข้มข้น หรือเป็นสูตรพิเศษติดทนผ้านาน ๆ ก็จะช่วยให้ความหอมอยู่นานมากยิ่งขึ้น
4. เวลาตากให้เอาไว้กลางแดด
ทั้งนี้เพราะความที่แสงแดดจะทำให้ผ้าหอมมากขึ้นได้ แต่ก็ไม่ควรตากเอาไว้นานมากเกินไปเนื่องด้วยจากที่จะทำให้หอมอาจจะมีกลิ่นจางลงและเนื้อผ้ามีความกรอบแห้ง เสนอแนะให้ตากไว้กลางแดดจัด ๆ ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง พอ เมื่อผ้าแห้งแล้วก็ให้รีบเก็บมาพับขึ้นห้องนอนได้เลยทันที

นอกจากการซักหรือแช่ผ้าห่มด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มเพิ่มความหอมได้ดีแล้ว จริง ๆ ภายในห้องก็ควรมีการใช้สเปรย์น้ำหอม หรือตะเกียงน้ำมันหอมระเหยด้วยก็ได้ จะฉีดไปตามเครื่องนอนโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน เอากลิ่นที่หอมระเหยได้ดี อย่างเช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ด้วยก็ได้ ซึ่งนอกจากผ้านี้แล้วก็ยังทำให้เครื่องนอนอื่น ๆ หอมอบอวลไปอีกขั้น บรรยากาศน่านอน ไล่แมลงได้ดีไปอีก

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BED0103

315


สำหรับการใช้งานเตาอบไฟฟ้าในปี 2023 ก็ยังคงได้รับความนิยมเสมอมา และหากท่านก็เป็นอีกคนที่สนใจอยากมีไว้ในบ้านเพื่อการทำอาหารที่ดีที่สุดสักเครื่องแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์ไหนดี เราไม่ทำให้ผิดหวังมีมานำเสนอกันถึง 5 ยี่ห้อด้วยกัน รับรองใช้งานง่าย ราคาสุดคุ้ม ฟังก์ชันครบครัน

5 เตาอบไฟฟ้าแบรนด์ดี 2023 ใช้งานง่าย ราคาประหยัด ฟังก์ชันครบครัน
1. SAMSUNG รุ่น MS30T5018AP/ST 30 ลิตร
ยี่ห้อแรก SAMSUNG รุ่น MS30T5018AP/ST 30 ลิตร มีระบบ Power Defrost ที่พร้อมละลายอาหารแช่แข็งได้อย่างดี เซฟเวลา ใช้งานได้ทั้งเนื้อสัตว์ ปลา สัตว์ปีก ขนมปัง/เค้ก ฯลฯ มีแผงควบคุมแบบ Glass Touch แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็สั่งการได้ พื้นผิวเคลือบเซรามิกทำให้มีความทนทาน ทำความสะอาดง่ายๆ ราคาปกติ 4,690 บาท และหากสั่งซื้อออนไลน์ลดเหลือแค่เพียง 4,090 บาทเท่านั้น

2. ELECTROLUX รุ่น EMM23D22B 23 ลิตร
ไมโครเวฟยี่ห้อ ELECTROLUX รุ่น EMM23D22B 23 ลิตร เป็นอีกเครื่องที่อยากแนะนำในปี 2023 กำลังไฟปรับได้ถึง 5 ระดับ เหมาะกับการปรุงอาหารแต่ละเมนูได้ดี ควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล ที่มีให้คุณได้หมุนสั่งการ หน้าจอ LED ที่ช่วยแสดงค่าได้ดี มีไอคอนประเภทการปรุงอาหารช่วย เพื่อให้เราสามารถเลือกความร้อนได้ง่ายขึ้น ราคาจัดจำหน่ายปกติ 4,390 บาท และหากสั่งซื้อออนไลน์ลดพิเศษเหลือเพียงแค่ 3,690 บาท

3. SHARP รุ่น R-7280G-BS 28 ลิตร
เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ อย่าง SHARP R-7280G-BS 28 ลิตร ที่มีระบบการอุ่น ย่างอาหารได้เป็นแบบประหยัดไฟ Inverter ให้ท่านเลือกทำอาหารได้สะดวกด้วยฟังก์ชันปรุงอาหารอัตโนมัติ หรือ Touch Control ขนาดกำลังดี วางตั้งได้ง่าย ความจุสูงสุดถึง 28 ลิตร ส่วนเรื่องราคาปกติ 4,490 บาท และหากสั่งซื้อออนไลน์ลดราคาเหลือแค่ 4,290 บาทเท่านั้น

4. TEFAL รุ่น OF4848 39 ลิตร
TEFAL รุ่น OF4848 39 ลิตร อีกเตาอบไมโครเวฟปี 2023 ที่น่าสนใจมาก ๆ โดยสามารถควบคุมการทำงานแบบแมนนวลได้ลักษณะปุ่มลูกบิด ที่ปรับได้ตามต้องการ และใช้งานได้ง่ายดาย มีโหมดการทำอาหาร 4 แบบที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งแบบอบ ย่าง หมุนเวียนอบลมร้อน และอบขนม โดยที่สามารถอบได้ในความเร็ว และความร้อนทั่วถึงกำลังไฟ 2,000 วัตต์ จากราคาขายปกติ 5,990 บาท และหากสั่งซื้อออนไลน์ลดราคาพิเศษเหลือเพียงแค่ 3,192 บาทเท่านั้น

5. OTTO รุ่น TO-772 60 ลิตร
ปิดท้าย OTTO รุ่น TO-772 60 ลิตร ที่สามารถทำได้ทั้งปิ้ง ย่าง อบ ทำเบเกอรี่ หรืออุ่นอาหารในเครื่องเดียว มีพัดลมกระจายความร้อนทั่วถึงทุกทั้งตู้ มีฮีตเตอร์ใช้ได้ทั้งบน / ล่างพร้อมกัน ปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 250 องศา วัตต์ จากราคาจัดจำหน่ายปกติ 3,990 บาท และหากสั่งซื้อออนไลน์ลดเหลือแค่ 3,890 บาทเท่านั้น

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกซื้อเตาอบไฟฟ้าในปี 2023 ใช้งานของท่านจะผ่านไปได้อย่างดีที่สุด ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งาน ราคาดี ฟังก์ชันน่าคบหา ไม่มีทางทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน ซึ่งหากท่านใดซื้อเครื่องไหนผลลัพธ์เป็นเช่นใด อยากมาเล่าสู่กันฟังก็ทำได้เลย

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0809

316


เมื่อกล่าวถึงซิลิโคนยาแนวแล้วนั้นที่จริง ก็มีให้เลือกทั้งแบบมีกรด และปราศจากกรด แต่หากวันนี้ท่านไหนที่สนใจจะเลือกซื้อแบบไร้กรดกันเชื้อราเพิ่มเติมที่ดีที่สุดด้วยแล้วนั้น แต่ไม่ทราบจะเลือกยี่ห้อใดดี เราไม่พลาดนำเสนอแบรนด์ที่ดีที่สุด อย่าง NEOBOND 300 มล. พร้อมเปิดตัวรายละเอียดข้อมูลอย่างเจาะลึก ราคาดีถูกใจคุ้มค่าการใช้งาน

ตามหาซิลิโคนยาแนวไร้กรดที่ดีที่สุด ต้องยี่ห้อ NEOBOND 300 มล.
สำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ NEOBOND 300 มล. นี้นั้นถือเป็นแบบไร้กรดที่น่าสนใจมาก ๆ โดยที่ไม่มีกลิ่นฉุน เหมาะสำหรับงานที่ต้องมีรอยต่อ อุดร่อง หรือแตกร้าวตามพื้นผิวต่าง ๆ ทั้ง เครื่องมือ เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่มี อย่าง หน้าต่าง ขอบวงกบ ประตู สุขภัณฑ์ กระจก ไปจนถึงงานยานยนต์ โลหะทั่วไป
มีการผสมสารช่วยป้องกันเชื้อราให้ด้วยเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องได้อย่างดี เนื้อซิลิโคนมีฤทธิ์เป็นกลาง ความยืดหยุดมีสูง ไม่ทำลายพื้นผิววัสดุโดยเฉพาะกับงานที่ทำด้วยโลหะแน่นอน เหมาะมากที่จะนำมาใช้เพื่อยาแนวกับวัสดุที่ไม่สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ เหมาะกับวัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วัสดุที่เปียกชื้น หรืออื่น ๆ อย่าง คอนกรีต หิน พลาสติก อะลูมิเนียม หรือแก้ว
- กาวซิลิโคนแบบอุดรอยรั่วไร้กรดนี้ออกฤทธิ์เป็นกลาง ใช้ยึดแรงเกาะได้ดี ลักษณะยืดหยุ่นสูง
- ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก
- ไม่เป็นเหตุให้เกิดกลิ่นรบกวน ไม่ทำให้เกิดการกัดกร่อน พื้นผิววัสดุต่าง ๆ ไม่ถูกทำลาย
- ง่ายต่อการใช้งาน สามารถใช้ร่วมกับพื้นผิวที่เป็นวัสดุที่หลากหลายชนิดไม่เกิดปัญหาอย่างแน่นอน
- เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อยาแนวโลหะ ยานยนต์ และกระจกทั่วไป
- มีการผสมสารที่ช่วยป้องกันเชื้อรา ไม่ทำให้เกิดเชื้อราขึ้นตามพื้นผิวยาแนวได้
สำหรับการใช้งานซิลิโคนอุดรอยรั่วจะเหมาะกับการอุดร่อง รอยต่อ ยาแนว ขอบวงกล เพื่อช่วยในการป้องกันการรั่วซึมได้อย่างดี กระนั้นในการใช้งานก็ควรมีการเรียนรู้ข้อมูลสินค้า รายละเอียดอย่างดีด้วย ควรเลือกใช้ซิลิโคนที่เหมาะสำหรับประเภทงานให้มากที่สุดเพื่อประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์
ข้อควรระวังในการใช้งานที่ต้องทราบ
ข้อควรระวังซิลิโคนยาแนวยี่ห้อ NEOBOND 300 มล. ต้องระมัดระวังอย่างมากหากมีการมีสัมผัส หรือเกิดอาการระคายเคืองในการใช้งานต้องล้างด้วยน้ำสะอาดทันที ซึ่งถ้าไม่อยากเกิดการระคายเคืองแนะนำให้สวมใส่หน้ากาก สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันขั้นพื้นฐานอย่างถุงมือ ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำสินค้าไปใช้แบบผิดประเภท หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่มีผิวหยาบ หรือมีสารเคมี โดนของมีคมสัมผัสที่บริเวณลงซิลิโคนนี้เด็ดขาด ห้ามจัดเก็บบริเวณที่ใกล้ หรือสัมผัสความชื้น – ความร้อนสูง เก็บไว้ในที่แห้งและพ้นมือเด็ก ซึ่งปกติราคาอยู่ที่ 355 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดพิเศษเหลือ 218 บาทเท่านั้น
คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030105

317

สำหรับท่านใดที่มีความสนอกสนใจซื้อวัสดุกันซึมใช้งานแล้วนั้นมีอีกแบรนด์ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือ VPROOF 430 5 กิโลกรัม ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวให้ทุก ๆ ท่านได้เข้าใจมากขึ้นเพื่อการตัดสินใจอย่างมั่นอกมั่นใจ โดยรุ่นนี้ยังเป็นชนิดไร้รอยต่อพร้อมใช้งานประสิทธิภาพเต็ม 100% อีกด้วย ใครอยากรู้แล้วก็ไปติดตามข้อมูลกันได้เลย

รีวิววัสดุกันซึมยี่ห้อ VPROOF 430 5 กิโลกรัม เพื่อการตัดสินใจซื้อใช้งาน
สำหรับแบรนด์ VPROOF 430 5 กก. เป็นรูปแบบไร้รอยต่อที่พร้อมใช้งานได้อย่างดี เหมาะกับงานที่ต้องการป้องกันน้ำรั่วซึม 100% แต่จะใช้กับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังไม่ได้ ซึ่งจะเป็นรูปแบบสูตรสำเร็จรูป พร้อมใช้งานทันทีไม่ต้องผสมเพิ่ม มีความสามารถในการยืดหยุ่นสูง 600% ปกปิดรอยแตกร้าวจากอุณหภูมิ รวมถึงสภาพอากาศที่รุนแรงได้อย่างดี ทนทานต่อสารเคมีด้วย ใครที่ต้องการใช้เพื่อเคลือบผิวงานคอนกรีต อย่าง ผนัง ดาดฟ้า หรือหลังคา เหมาะสมมาก ๆ
- เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบโพลียูรีเทนกันซึมที่เป็นรูปแบบไร้รอยต่อ พร้อมให้ได้ใช้งานแล้ว
- มีความยืดหยุ่นในตัวเองสูง ทนต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สามารถปกปิดรอยแตกร้าวของคอนกรีตจากการแตกร้าวของอุณหภูมิได้อย่างดี
- เมื่อผลิตภัณฑ์แห้งไปแล้วก็จะมีลักษณะคล้ายแผ่นยางที่ป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้สูงสุด 100%
- ผสมสารป้องกันการเกิดเชื้อราได้ แห้งเร็ว ใช้งานสะดวก ประหยัดเวลาสุด ๆ 
- มีความสามารถในการทนทานรังสี UV และสภาพอากาศที่รุนแรงได้อย่างดี รับแรงเสียดสีที่เกิดจากการสัญจรของยานพาหนะ หรืออื่น ๆ ได้
- สามารถนำไปผสมใช้ในงานบนพื้นผิวที่เป็นลักษณะของคอนกรีต ปูนฉาบ กระเบื้องมุงหลังคา โลหะทั่วไป ไม้ อิฐ และพลาสติกได้อย่างดี
สำหรับการใช้งานโพลียูรีเทนยี่ห้อ VPROOF 430 5 กิโลกรัม จะเหมาะกับยาแนวที่มีรอยต่อ หรืออุดรูรั่ว ทำให้ไม่มีปัญหาแตกร้าวเกิดขึ้น และก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ก็ควรมีการทำความสะอาดพื้นผิวเป็นอย่างดี ไม่ให้เกิดคราบไขมัน หรือฝุ่นผงติดอยู่ได้ ทั้งนี้ ควรมีการศึกษาข้อมูลก่อนการใช้งานให้ละเอียดเสมอ ขณะที่ทำงานจะต้องใส่ถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคืองด้วย

วัสดุกันซึมยี่ห้อ VPROOF 430 5 กก. นี้นั้นก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วย นั่นคือห้ามดัดแปลง แก้ไขสินค้า หรือใช้งานแบบผิดประเภท ห้ามทำความสะอาดโดยใช้กรด หรือด่างเด็ดขาด ห้ามจัดเก็บไว้ใกล้เปลวไฟ หรือในที่ที่มีความร้อนสูง แต่ให้จัดเก็บในพื้นที่แห้ง และพ้นมือเด็กแทน ห้ามสูดดมหรือกิน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาจเกิดความเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ตรงตามประสิทธิภาพอีกได้ โดยยี่ห้อนี้ปกติราคา 980 บาท แต่หากสั่งผ่านออนไลน์ลดเหลือแค่ 959 บาทเท่านั้น

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0305

318


ในวันนี้เราขออาสาพาทุก ๆ ท่านที่มีความสนอกสนใจต้องการหม้อทอดแบบไร้น้ำมันมาใช้งานได้เลือกสิ่งที่ดีที่ตอบโจทย์ต่อตนเองมากที่สุดไปใช้งาน โดยที่ได้รวบรวมมาให้เปรียบเทียบราคาและฟังก์ชันการทำงานที่มี ชนิดที่เจาะลึกทุกซอกมุม ซึ่งจะเป็นยี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้าง ไปติดตามได้เลยอย่ารอช้า

เปรียบเทียบราคาและฟังก์ชันการทำงานของหม้อทอด
1. ELECTROLUX รุ่น E6AF1-220K
สำหรับแบรนด์ ELECTROLUX E6AF1-220K ราคาเครื่องละ 3,190 บาท (ราคาออนไลน์) ที่มีขนาดความจุ 3 ลิตร ทำงานด้วยระบบหมุนเวียนลมร้อนที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ควบคุมระบบลูกบิด ที่ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาฯ ตั้งเวลาสูงสุดได้ 60 นาที มีปุ่มล็อกนิรภัยป้องกันตะกร้าทอดไม่ให้หลุดขณะใช้งาน หรือยกเขย่าให้อาหารสะเด็ดน้ำมัน ตะกร้าทอดมีเคลือบสารเทฟล่อนไม่ให้อาหารติด ล้างทำความสะอาดแสนสะดวก

2. SEAGULL รุ่น 150001207
หม้อทอดไฟฟ้าไร้น้ำมันยี่ห้อ SEAGULL รุ่น 150001207 ที่มีราคาขาย 3,630 บาท ฟังก์ชันสุดปังที่มีขนาดความจุ 3.5 ลิตร ใหญ่จนสามารถใส่ไก่ได้เลยทั้งตัว สูงสุด 1.8 กิโลกรัม ตั้งอุณหภูมิได้ 90 – 200 องศาเซลเซียส และตั้งเวลาได้ 60 นาทีต่อการใช้งาน ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี ระบบตัดไฟได้เองอัตโนมัติเมื่อดึงหม้อออก มีระบบ Cyclone Air Twin Turbo Technology ที่ให้ใบพัด 2 ชั้นหมุนทำความร้อนรอบทิศทาง อาหารสุกทั่วถึงรวดเร็ว

3. OTTO ยี่ห้อ TO-751
หม้อทอดไร้น้ำมันแบรนด์ OTTO แบรนด์ TO-751 ที่มีราคาขาย 3,700 บาท (ราคาออนไลน์) ฟังก์ชันดีที่สามารถทำอาหารได้หลากหลายทั้ง ปิ้ง ย่าง อบเบเกอรี่ และอุ่นอาหารภายในเครื่องเดียว หน้าจอเป็นแบบสัมผัสใช้งานง่าย ควบคุมเวลาและอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ปรับอุณหภูมิได้ 80 – 200 องศาฯ ใช้ลมร้อนทำอาหารสุดทั่วกัน ตั้งเวลาสูงสุด 60 นาที กำลังไฟ 1,600 วัตต์ ความจุขนาดใหญ่ 12 ลิตร ด้านหน้าเครื่องมองเห็นอาหารได้อย่างชัดเจน

4. LOCKNLOCK รุ่น EJF691
ยี่ห้อ LOCKNLOCK รุ่น EJF691 ราคาเครื่องละ 3,992 บาท ที่มีฟังก์ชันน่าสนใจกับการประกอบอาหารขนาด 10 ลิตรได้สบาย มีกำลังไฟฟ้า 1,700 วัตต์ ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาเซลเซียส ตามฟังก์ชันการใช้งานที่มี มีระบบทอดผ่านลมร้อน สามารถประกอบอาหารได้ 7 ฟังก์ชัน (คั่ว/ทอด/อุ่นอาหาร/อบ/ปิ้ง/อบแห้ง/ย่าง) สามารถตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 30 นาที มาพร้อมเสียงเตือนให้ทราบ มีอุปกรณ์เสียบย่าง ตะแกรงทอด ตะกร้าหมุนใด้ด้วย

สำหรับข้อควรระวังในการใช้งานหม้อทอดแบบไร้น้ำมันนี้นั้นจริง ๆ ก็จะคล้ายกันเลยก็คือหากไม่ใช้งานแล้วให้ถอดปลั๊กออก ห้ามนำตัวเครื่องไปแช่ในน้ำ ไม่ดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานผิดประเภท ห้ามใช้ฝอย หรือฟองน้ำแข็ง ๆ มาขัดทำความสะอาดเนื่องด้วยจะทำให้เทฟล่อนที่เคลือบหลุดร่อนได้ ซึ่งจะเห็นเลยว่าฟังก์ชันที่ดีราคาก็จะสูงตามไปด้วย ชนิดไหนที่ตอบโจทย์ งบประมาณและการใช้งานของท่านมากที่สุด ก็เลือกซื้อเลือกหาได้ตามสบาย

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080503

319


ในครั้งนี้เราขออาสาพาทุกคนที่มีความสนใจอยากได้หม้อทอดแบบไร้น้ำมันมาใช้งานได้เลือกสิ่งที่ดีที่ตอบโจทย์ต่อตัวเองมากที่สุดไปใช้งาน โดยที่ได้รวบรวมมาให้เปรียบเทียบราคาและฟังก์ชันการทำงานที่มี ชนิดที่เจาะลึกทุกซอกมุม ซึ่งจะเป็นแบรนด์ไหน รุ่นไหนบ้าง ไปติดตามได้เลยอย่ารอช้า

เปรียบเทียบราคาและฟังก์ชันการทำงานของหม้อทอด
1. ELECTROLUX รุ่น E6AF1-220K
สำหรับยี่ห้อ ELECTROLUX E6AF1-220K ราคาขายเครื่องละ 3,190 บาท (ราคาออนไลน์) ที่มีปริมาตรความจุ 3 ลิตร ทำงานด้วยระบบหมุนเวียนลมร้อนที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ควบคุมระบบลูกบิด ที่ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาฯ ตั้งเวลาสูงสุดได้ 60 นาที มีปุ่มล็อกนิรภัยป้องกันตะกร้าทอดไม่ให้หลุดขณะใช้งาน หรือยกเขย่าให้อาหารสะเด็ดน้ำมัน ตะกร้าทอดมีเคลือบสารเทฟล่อนช่วยไม่ให้อาหารติด ล้างทำความสะอาดแสนสะดวก

2. SEAGULL รุ่น 150001207
หม้อทอดไฟฟ้าไร้น้ำมันยี่ห้อ SEAGULL รุ่น 150001207 ที่มีราคา 3,630 บาท ฟังก์ชันสุดปังที่มีความจุ 3.5 ลิตร ใหญ่ใส่ไก่ได้เลยทั้งตัว สูงสุด 1.8 กิโลกรัม ตั้งอุณหภูมิได้ 90 – 200 องศาเซลเซียส และตั้งเวลาได้ 60 นาทีต่อการใช้งาน ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี ระบบตัดไฟได้เองอัตโนมัติเมื่อดึงหม้อออก มีระบบ Cyclone Air Twin Turbo Technology ที่ให้ใบพัด 2 ชั้นหมุนทำความร้อนรอบทิศทาง อาหารสุกทั่วถึงรวดเร็ว

3. OTTO ยี่ห้อ TO-751
หม้อทอดไร้น้ำมันแบรนด์ OTTO แบรนด์ TO-751 ที่มีราคา 3,700 บาท (ราคาออนไลน์) ฟังก์ชันดีที่สามารถทำอาหารได้หลากหลายทั้ง ปิ้ง ย่าง อบเบเกอรี่ และอุ่นอาหารภายในเครื่องเดียว หน้าจอเป็นระบบสัมผัสใช้งานง่าย ควบคุมเวลาและอุณหภูมิได้แม่นยำ ปรับอุณหภูมิได้ 80 – 200 องศาฯ ใช้ลมร้อนทำอาหารสุดทั่วกัน ตั้งเวลาสูงสุด 60 นาที กำลังไฟ 1,600 วัตต์ ความจุขนาดใหญ่ 12 ลิตร ด้านหน้าเครื่องมองเห็นอาหารได้อย่างชัดเจน

4. LOCKNLOCK รุ่น EJF691
ยี่ห้อ LOCKNLOCK รุ่น EJF691 ราคาเครื่องละ 3,992 บาท ที่มีฟังก์ชันน่าสนใจกับการประกอบอาหารขนาด 10 ลิตรได้สบาย มีกำลังไฟฟ้า 1,700 วัตต์ ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาเซลเซียส ตามฟังก์ชันการใช้งานที่มี มีระบบทอดผ่านลมร้อน สามารถประกอบอาหารได้ 7 ฟังก์ชัน (คั่ว/ทอด/อุ่นอาหาร/อบ/ปิ้ง/อบแห้ง/ย่าง) สามารถตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 30 นาที มาพร้อมเสียงเตือนให้รู้ มีอุปกรณ์เสียบย่าง ตะแกรงทอด ตะกร้าหมุนใด้ด้วย

สำหรับข้อควรระวังในการใช้งานหม้อทอดแบบไร้น้ำมันนี้นั้นจริง ๆ ก็จะคล้ายกันเลยก็คือหากไม่ใช้งานแล้วให้ถอดปลั๊กออก ห้ามนำตัวเครื่องไปแช่ในน้ำ ไม่ดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานผิดประเภท ห้ามใช้ฝอย หรือฟองน้ำแข็ง ๆ มาขัดทำความสะอาดทั้งนี้เพราะจะทำให้เทฟล่อนที่เคลือบหลุดร่อนได้ ซึ่งจะเห็นเลยว่าฟังก์ชันที่ดีราคาก็จะสูงตามไปด้วย ชนิดไหนที่ตอบโจทย์ งบและการใช้งานของคุณ ๆมากที่สุด ก็เลือกซื้อเลือกหาได้ตามสบาย

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080503

320


การที่คุณ ๆจะเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side ได้นั้น มีบางเรื่องที่ควรรู้อยู่ด้วยเช่นกันทั้งในแง่ของประเภทที่มีให้เลือก และสิ่งที่ควรทราบเพื่อการประหยัดไฟฟ้าที่สุด เนื่องมาจากก็คงไม่มีท่านใดที่ต้องการใช้งานแล้วจ่ายค่าไฟแพง ๆ ยิ่งเป็นแบบขนาดใหญ่ Side by Side แบบนี้ด้วยแล้ว กระนั้นจะมีข้อมูลอย่างไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย

ทำความรู้จักกับตู้เย็น Side by Side
ต้องชี้แจงให้เข้าใจก่อนเลยว่ารูปแบบ Side by Side คือตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างมากกว่าทั้งแบบประตูเดียวและแบบ 2 ประตู แน่นอนว่าเรื่องราคาก็จะมีสูงมากกว่าด้วยเช่นกัน แต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับทั้งในเรื่องของขนาดที่กว้างขวางมากกว่า จัดเก็บของได้เยอะมากกว่า ความเย็นถึงใจกระจายทั่วถึง ทั้งยังมีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ มากกว่า และดีกว่าอีกด้วย กระนั้นประเภทของตู้ก็มีให้เราได้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะมาแนะนำให้ได้รู้จัก รวมไปถึงบอกสิ่งที่จะช่วยให้ท่านประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น

แนะนำประเภทของ ตู้เย็น Side by Side
สำหรับประเภทที่มีให้คุณ ๆได้เลือกนั้นจะแบ่งออกเป็นระบบการทำความเย็น 2 รูปแบบ โดยที่จะขึ้นอยู่กับประเภทของคอมเพรสเซอร์ด้วยว่าเป็นลักษณะไหน โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการทำความเย็น การที่เราเลือกมาเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ ซึ่งมีด้วยกันคือ
- Compressor Inverter : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์รูปแบบใหม่ล่าสุด ที่ได้รับความนิยมมากในรูปแบบ Side by Side ที่จะลดรอบหมุนลง พอเครื่องมีการทำความเย็นที่อยู่ในระดับเหมาะตามกำหนดเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิภายในได้อย่างดี แล้วเมื่ออุณหภูมิมีสูงขึ้นก็จะกลับมาทำรอบหมุนเหมือนเดิม โดยที่ระบบอินเวอร์เตอร์นี้ทำความเย็นได้ดีมาก ๆ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ดีไปอีก
- Compressor Normal : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์แบบปกติทั่วไปที่เคยมี ซึ่งจะใช้ระบบในการหมุนทำรอบเพื่อสร้างความเย็นในตู้ และตู้เย็นที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบนี้ก็จะหมุนไปด้วยความเร็วที่เท่าเดิมตลอด ทำความเย็นได้อย่างดี แต่ก็อาจจะกินพลังงานไฟฟ้ามากด้วยเช่นกัน

ถึงกระนั้นก็ตาม ในส่วนของสิ่งที่ช่วยประหยัดไฟนอกจากการเลือกแบบ Compressor Inverter แล้ว จริง ๆ ก็ควรเลือกที่มีเครื่องหมายฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย ยิ่งสูงก็ยิ่งประหยัดไฟ ทั้งนี้ ควรเลือกยี่ห้อที่มีการรับประกันเพื่อป้องกันความเสียหายได้ดี พร้อมซ่อมแซมได้ง่ายด้วย

หวังว่าทุกการเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็น Side by Side ของทุกท่านจะผ่านไปได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งนอกจากเรื่องการใช้งานได้ดีพื้นที่กว้างขวางแล้วนั้น ก็ยังช่วยประหยัดไฟถ้วนหน้าไปอีก เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาไม่เสียดายทีหลังแน่นอน

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0906

321


เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมอย่างหนึ่งในเกิดขึ้นภายในครอบครัวเสมอก็คือการล้อมวงทานปิ้งย่างกันเพิ่มความสุขในการรับประทานอาหารได้เป็นอย่างดี แต่หากท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเลือกหาแบรนด์ไหน รุ่นไหนดี พยายามหาแล้วแต่ก็ยังไม่พึงพอใจ เราไม่พลาดมีมารีวิวอีกเช่นเคย กับ เตาปิ้งย่าง ยี่ห้อ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800 การันตีพร้อมเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุข
ความน่าสนใจของเตาปิ้งย่างแบรนด์ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800
สำหรับแบรนด์ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800 ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ด้วยวัสดุคุณภาพที่ดีมาก มีความแข็งแรงที่สุด โดยที่ผิวหน้าเตามีการเคลือบอย่างดี ทำให้วัตถุดิบ หรืออาหารขยับเขยื้อนได้ดีไม่มีติดกระทะระหว่างปิ้งย่าง ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีหม้อชาบูให้ในตัวด้วยคือซื้อ 1 ได้ถึง 2 กันเลยทีเดียว เท่านี้ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็พร้อมเสิร์ฟได้อย่างอร่อย อุ่นใจสบายท้องแน่นอน
- เตาปิ้งย่างไฟฟ้ายี่ห้อ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800 มีความจุที่ 3 ลิตร และมีกำลังไฟในการใช้งาน 2,000 วัตต์
- ผิวหน้าผ่านการใช้เทฟลอนเคลือบ ทำให้วัตถุดิบไม่ติดหน้าเตาเมื่อมีการปิ้งย่าง ทั้งช่วยให้การทำความสะอาดง่ายมากด้วย
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่นอกจากเรื่องของเตาที่สามารถทำได้ทั้งปิ้ง และย่างแล้ว ก็ยังมีหม้อที่ใช้ต้มได้ด้วยในชุดเดียว ซึ่งมีฝาแก้วคุณภาพดี ที่ถอดแยกออกจากเตาได้ตามต้องการ
- เคลื่อนย้าย หรือจัดวางได้ด้วยลักษณะที่เตาออกแบบให้มีหูจับที่จับเคลื่อนย้ายไปได้ตามที่ต่าง ๆ ให้ทั้ง 2 ข้าง

การใช้งานกระทะปิ้งย่างยี่ห้อ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800 ก็สามารถเปิดเครื่องเพื่อปิ้ง หรือย่าง หรือจะใช้ต้มด้วยก็ได้เลยตามต้องการ แต่ทั้งนี้ให้เรียนรู้คู่มือการใช้งานก่อนเสมอ และที่สำคัญห้ามวางเครื่องพิงผนัง ให้มีการเว้นช่องว่างที่ด้านข้างและด้านหลังด้วย ให้มีพื้นที่ 10 ซม. ส่วนใครที่อยากรู้ถึงข้อควรระวังในการใช้งานก็อยากเสนอแนะให้ถอดปลั๊กไฟหลังใช้งาน ไม่เอามือไปสัมผัสหน้าเตาขณะที่เปิดอยู่ ไม่ให้ใช้ฝอยขัดหรือของแข็ง ๆ ขัดทำความสะอาดทั้งนี้เพราะอาจจะทำให้เทฟลอนหลุดได้ง่าย ๆ หากมีลูกหลาน มีเด็ก ๆ ใช้งานด้วยควรดูแลอย่างใกล้ชิด

เตาปิ้งย่างแบรนด์ HANABISHI รุ่น BBQ – 1800 เรียกได้ว่าพร้อมช่วยให้การสังสรรค์สมาชิกในครอบครัว หรือแม้แต่เพื่อนฝูง คนรักใด ๆ ก็ตามเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขได้อย่างดี ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานก็ดูคุ้มค่าคุ้มราคาอยู่มาก ด้วยเครื่องละ 1690 บาทเท่านั้น แต่ทำได้ทั้งปิ้งย่าง หรือต้มหม้อชาบู อยากมีใช้งานเป็นอีกยี่ห้อ อีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0807

322


การที่คุณ ๆจะเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side ได้นั้น มีบางเรื่องที่ควรรู้อยู่ด้วยเช่นกันทั้งในแง่ของประเภทที่มีให้เลือก และสิ่งที่ควรรู้เพื่อการประหยัดไฟฟ้าที่สุด เพราะก็คงไม่มีท่านใดที่ต้องการใช้งานแล้วจ่ายค่าไฟฟ้าแพง ๆ ยิ่งเป็นแบบขนาดใหญ่ Side by Side แบบนี้ด้วยแล้ว กระนั้นจะมีข้อมูลอย่างไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย

ทำความรู้จักกับตู้เย็น Side by Side
ต้องชี้แจงให้เข้าใจก่อนเลยว่ารูปแบบ Side by Side คือตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างมากกว่าทั้งแบบประตูเดียวและแบบ 2 ประตู แน่นอนว่าเรื่องสนนราคาก็จะมีสูงมากกว่าด้วยเช่นกัน แต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับทั้งในเรื่องของขนาดที่กว้างขวางมากกว่า จัดเก็บของได้มากกว่า ความเย็นถึงใจกระจายทั่วถึง ทั้งยังมีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ มากกว่า และดีกว่าอีกด้วย กระนั้นประเภทของตู้ก็มีให้เราได้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะมาแนะนำให้ได้รู้จัก รวมไปถึงบอกสิ่งที่จะช่วยให้คุณ ๆประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น

แนะนำประเภทของ ตู้เย็น Side by Side
สำหรับประเภทที่มีให้ท่านได้เลือกนั้นจะแบ่งออกเป็นระบบการทำความเย็น 2 รูปแบบ โดยที่จะขึ้นอยู่กับประเภทของคอมเพรสเซอร์ด้วยว่าเป็นลักษณะไหน โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการทำความเย็น การที่เราเลือกมาเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ ซึ่งมีด้วยกันคือ
- Compressor Inverter : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์รูปแบบใหม่ล่าสุด ที่ได้รับความนิยมมากในรูปแบบ Side by Side ที่จะลดรอบหมุนลง พอเครื่องมีการทำความเย็นที่อยู่ในระดับเหมาะตามกำหนดเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิภายในได้อย่างดี แล้วเมื่ออุณหภูมิมีสูงขึ้นก็จะกลับมาทำรอบหมุนเหมือนเดิม โดยที่ระบบอินเวอร์เตอร์นี้ทำความเย็นได้ดีมาก ๆ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ดีไปอีก
- Compressor Normal : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์แบบปกติทั่วไปที่เคยมี ซึ่งจะใช้ระบบในการหมุนทำรอบเพื่อสร้างความเย็นในตู้ และตู้เย็นที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบนี้ก็จะหมุนไปด้วยความเร็วที่เท่าเดิมตลอด ทำความเย็นได้อย่างดี แต่ก็อาจจะกินไฟมากด้วยเช่นกัน

ถึงกระนั้นก็ตาม ในส่วนของสิ่งที่ช่วยประหยัดไฟนอกจากการเลือกแบบ Compressor Inverter แล้ว จริง ๆ ก็ควรเลือกที่มีเครื่องหมายฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย ยิ่งสูงก็ยิ่งประหยัดไฟ ทั้งนี้ ควรเลือกยี่ห้อที่มีการรับประกันเพื่อป้องกันความเสียหายได้ดี พร้อมซ่อมแซมได้ง่ายด้วย

หวังว่าทุกการเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็น Side by Side ของทุก ๆ คนจะผ่านไปได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งนอกจากเรื่องการใช้งานได้ดีพื้นที่กว้างขวางแล้วนั้น ก็ยังช่วยประหยัดไฟถ้วนหน้าไปอีก เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาไม่เสียดายทีหลังแน่นอน

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0906

323


ก่อนที่คุณ ๆจะตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูได้นั้น สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือเรื่องของจุดเด่นที่มีให้เราได้สัมผัส แน่นอนว่าหากมีความคุ้มค่าก็จะช่วยให้คุณ ๆเข้าถึงการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งคราวนี้เราจึงขออาสาพาทุกคนได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการตกลงใจซื้อที่เหมาะสม

จุดดีของการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ที่ควรรู้ก่อนตกลงใจซื้อ
1. สามารถใส่ของได้ในจำนวนมาก
สิ่งแรกเลยของการเลือกใช้งานแบบ 2 ประตูนั้นจะมีความสามารถในการขนาดพื้นที่ที่ใหญ่มากกว่าแบบประตูเดียว โดยมีทั้ง
- ขนาดเล็ก 7 – 13 คิว เหมาะกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 1 – 2 คน จุได้ 200 – 380 ลิตร
- ขนาดกลาง 12 – 18 คิว เหมาะสำหรับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 3 – 4 คน จุได้ 350 – 530 ลิตร
- ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 15 คิว เหมาะสำหรับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้านมากกว่า 5 คนขึ้นไป จุได้มากกว่า 440 ลิตร
โดยที่ส่วนการแช่แข็ง และแช่เย็นจะมีแยกออกจากกันเลย และมีขนาดช่องเป็นไปตามขนาดตู้ที่เราเลือก ทำให้มีพื้นที่แบ่งแยกที่เยอะ อีกทั้งยังมีช่องย่อย ๆ มากมายภายในด้วย ทำให้สามารถใส่ของที่หลากหลายประเภทได้อย่างดี สามารถจัดระเบียบตู้ให้เป็นระเบียบได้มากขึ้นไปอีก
2. สัดส่วนตู้ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจน
อย่างที่บอกไปว่าตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะมีขนาดใหญ่กว่า และมีการแบ่งแยกส่วนในการแช่ โดยที่ทั่วไปแล้วนั้นมีให้เลือกทั้งในส่วนบนที่เป็นช่องมีไว้แช่แข็ง และส่วนล่างที่เป็นช่องมีไว้แช่เย็น แบ่งแยกกันไว้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนกันแบบประตูเดียวที่จะอยู่ภายในเครื่องเดียวแล้วใช้เปิด 1 ประตูออกมา ที่บางครั้งก็มีโอกาสทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ด้วยเช่นกัน
3. ความเย็นกระจายทั่วถึง
โดยที่เราสามารถวางของได้มากตามต้องการ แต่ความสามารถในการกระจายความเย็นก็ยังคงทั่วถึงอยู่ โดยที่มีให้เลือกทั้งระบบ Compressor Normal และระบบ Compressor Inverter ที่แตกต่างกันมาก และถ้าแนะนำเลือกเป็นรุ่นระบบ Compressor Inverter ก็จะทำความเย็นได้เร็วมากกว่า ทำงานเงียบ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า
4. ช่องแช่ต่าง ๆ เย็นมาก
ด้วยความที่แยกช่องออกเป็นช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น จึงมีความเย็นที่คงที่ และเย็นเร็ว ทั้งนี้ จะมีระบบที่ช่วยในการละลายน้ำแข็งได้แบบอัตโนมัติด้วย ไม่ทำให้เกิดปัญหาช่องแช่มีน้ำแข็งเกาะเหมือนแบบประตูเดียวกระนั้นราคาตู้เย็น 2 ประตูก็จะมีสูงกว่าประตูเดียว

เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลจุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู เชื่ออย่างยิ่งว่าต่อจากนี้การเลือกซื้อของคุณ ๆจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ได้ตู้ที่พอเหมาะกับสมาชิก พร้อมฟังก์ชันดี ๆ ที่มีให้สัมผัส ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบรนด์ ก็เปรียบเทียบเอาตู้ที่คุ้มค่า ตอบสนองการใช้งานมากที่สุดด้วย

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0905

324


ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็น 2 ประตูได้นั้น สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือเรื่องของจุดเด่นที่มีให้เราได้สัมผัส แน่นอนว่าหากมีความคุ้มค่าก็จะช่วยให้คุณ ๆเข้าถึงการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งในวันนี้เราจึงขออาสาพาทุก ๆ ท่านได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการตกลงใจซื้อที่เหมาะสม

จุดดีของการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
1. สามารถใส่ของได้ในจำนวนมาก
อันดับแรกเลยของการเลือกใช้งานแบบ 2 ประตูนั้นจะมีความสามารถในการขนาดพื้นที่ที่ใหญ่มากกว่าแบบประตูเดียว โดยมีทั้ง
- ขนาดเล็ก 7 – 13 คิว เหมาะสมกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 1 – 2 คน จุได้ 200 – 380 ลิตร
- ขนาดกลาง 12 – 18 คิว เหมาะกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 3 – 4 คน จุได้ 350 – 530 ลิตร
- ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 15 คิว เหมาะกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้านมากกว่า 5 คนขึ้นไป จุได้มากกว่า 440 ลิตร
โดยที่ส่วนการแช่แข็ง และแช่เย็นจะมีแยกออกจากกันเลย และมีขนาดช่องเป็นไปตามขนาดตู้ที่เราเลือก ทำให้มีพื้นที่แบ่งแยกที่เยอะ อีกทั้งยังมีช่องย่อย ๆ มากมายภายในด้วย ทำให้สามารถใส่ของที่หลายประเภทได้อย่างดี สามารถจัดระเบียบตู้ให้เป็นระเบียบได้มากขึ้นไปอีก
2. สัดส่วนตู้ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจน
อย่างที่บอกไปว่าตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะมีขนาดใหญ่กว่า และมีการแบ่งแยกส่วนในการแช่ โดยที่ทั่วไปแล้วนั้นมีให้เลือกทั้งในส่วนบนที่เป็นช่องมีไว้แช่แข็ง และส่วนล่างที่เป็นช่องมีไว้แช่เย็น แบ่งแยกกันไว้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนกันแบบประตูเดียวที่จะอยู่ภายในเครื่องเดียวแล้วใช้เปิด 1 ประตูออกมา ที่บางครั้งก็มีโอกาสทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ด้วยเช่นกัน
3. ความเย็นกระจายทั่วถึง
โดยที่เราสามารถวางของได้มากตามต้องการ แต่ความสามารถในการกระจายความเย็นก็ยังคงทั่วถึงอยู่ โดยที่มีให้เลือกทั้งระบบ Compressor Normal และระบบ Compressor Inverter ที่แตกต่างกันมาก และถ้าแนะนำเลือกเป็นรุ่นระบบ Compressor Inverter ก็จะทำความเย็นได้เร็วมากกว่า ทำงานเงียบ พร้อมช่วยประหยัดไฟ
4. ช่องแช่ต่าง ๆ เย็นมาก
ด้วยความที่แยกช่องออกเป็นช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น จึงมีความเย็นที่คงที่ และเย็นเร็ว ทั้งนี้ จะมีระบบที่ช่วยในการละลายน้ำแข็งได้แบบอัตโนมัติด้วย ไม่ทำให้เกิดปัญหาช่องแช่มีน้ำแข็งเกาะเหมือนแบบประตูเดียวกระนั้นราคาตู้เย็น 2 ประตูก็จะมีสูงกว่าประตูเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลจุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู เชื่อเหลือเกินว่าต่อจากนี้การเลือกซื้อของคุณจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ได้ตู้ที่เหมาะสมกับสมาชิก พร้อมฟังก์ชันดี ๆ ที่มีให้สัมผัส ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบรนด์ ก็เปรียบเทียบเอาตู้ที่คุ้มค่า ตอบสนองการใช้งานมากที่สุดด้วย

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0905

325


เป็นอีกประเภททีวีที่น่าสนใจมากกับ qled tv ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT ที่ถือเป็นสุดยอดทีวีเทคโนโลยีล้ำ พร้อมให้ท่านได้รับความบันเทิง ความผ่อนคลายกันอย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เผื่อบางท่านอยากทราบก่อนตัดสินใจซื้อเราไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลมาให้ประกอบการพิจารณา ว่าแล้วก็ตามมาได้ทางนี้เลย

รีวิวให้รู้! qled tv แบรนด์ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT
SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT qled คือความน่าสนใจในการสร้างความบันเทิง ความผ่อนคลายให้เราอย่างดี โดยที่มีความล้ำสมัย บางเฉียบด้วยดีไซน์การออกแบบ AirSlim ที่ทำให้ยิ่งเพิ่มประสบการณ์อันน่าหลงใหลได้มากขึ้น ที่กลมกลืนไปกับผนังได้อย่างไร้ร่องรอย มีชิปประมวลผลแบบ Quantum Processor Lite 4K ที่มีการรับชมได้อรรถรสด้วยเฉดสีระดับสีแบบ 100% Quantum Dot ที่แสงกลายเป็นสีที่สมจริงมาก ให้ความรู้สึกเสมือนได้ชมอย่างดีสามารถเห็นรายละเอียดกับคอนทราสต์ต่าง ๆ ได้สมจริงมากขึ้นด้วยระบบ Quantum HDR แถมยังมีเทคโนโลยีฉากหลัง อย่าง Dual LED ที่ช่วยปรับโทนสีเข้ากับแสงได้ มีรีโมตที่ชาร์จไฟจากแสงอาทิตย์ได้อย่างดีด้วย Solar Cell Remote เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้งอีกต่อไป
- qled Samsung รุ่น QA75Q65BAKXXT มีเทคโนโลยีแบบ Quantum HDR ที่ให้ความคมชัดได้ทั้งในฉากสว่างและมืด
- การดีไซน์เป็นแบบ AirSlim ที่มีความสวยงาม เบาบางได้อย่างดี ช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้สอยได้ไม่น้อย
  - ทีวีแบบ 100% Color Volume ที่ให้เทคโนโลยีภาพสีสันสดใส สมจริงมาก เพิ่มอรรถรสในการชมได้เป็นอย่างดี
- ทีวีแบบ Quantum Processor Lite 4K ที่มีชิปประมวลผลทำให้ภาพมีความคมชัดระดับ 4K มากขึ้น หรือ 3,840 x 2,160
- ทีวีแบบ Dual LED ที่มีมิติสีดำที่เพิ่มเติมให้มากขึ้น สีสัน ความคมชัดเห็นรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ชัดเจน
- มีระบบ Super Ultrawide GameView & Game Bar 2.0 สามารถเข้าสู่โหมดเกมได้เลยอย่างเต็มอิ่ม
- มีค่า Refresh Rate 60 Hz และ Motion Xcelerator ที่ทำให้ภาพไหลลื่นอย่างดีมีประสิทธิภาพ
- กรอบทีวีมีความบางเฉียบทำให้มองเห็นคุณภาพสุดกับ Boundless Screen
โดยการใช้งานนั้นแนะนำให้รับชมเพื่อเพิ่มความบันเทิง แต่ก็อยากจะเสนอแนะว่าให้ศึกษาคู่มือการติดตั้งก่อน รวมทั้งวิธีการใช้งานที่เหมาะสม ควรถอดปลั๊กสายไฟให้เรียบร้อยโดยเอาออกจากเต้ารับไฟฟ้าที่ผนัง แล้วเช็ดผลิตภัณฑ์ด้วยผ้าที่แห่งและนุ่ม เป็นการป้องกันรอยขูดขีดต่าง ๆ

การใช้งาน qled tv ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT มีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือไม่ให้ดึง ดัน หรือโหน tv เด็ดขาด ห้ามวางในพื้นที่ที่ไม่มั่นคง ด้วยเหตุว่าอาจทำให้ร่วงหล่นเกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้ เพื่อไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ หรือไฟฟ้าช็อต ไม่ควรใช้เต้ารับ สายไฟที่ต่อ หรือตัวแปลงเกินขีดจำกัด และหากพบความผิดปกติอื่นใด ให้ติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไปดีที่สุด

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA0705

326


เป็นอีกประเภททีวีที่น่าสนใจมากกับ qled tv แบรนด์ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT ที่ถือว่าเป็นสุดยอดทีวีเทคโนโลยีล้ำ พร้อมให้ท่านได้รับความบันเทิง ความผ่อนคลายกันอย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เผื่อบางคนอยากรู้ก่อนตกลงใจสั่งซื้อเราไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลมาให้ประกอบการพิจารณา ว่าแล้วก็ตามมาได้ทางนี้เลย

รีวิวให้รู้! qled tv ยี่ห้อ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT
SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT qled คือความน่าสนใจในการสร้างความบันเทิง ความผ่อนคลายให้เราอย่างดี โดยที่มีความล้ำสมัย บางเฉียบด้วยดีไซน์การออกแบบ AirSlim ที่ทำให้ยิ่งเพิ่มประสบการณ์อันน่าหลงใหลได้มากขึ้น ที่กลมกลืนไปกับผนังได้อย่างไร้ร่องรอย มีชิปประมวลผลแบบ Quantum Processor Lite 4K ที่มีการรับชมได้อรรถรสด้วยเฉดสีระดับสีแบบ 100% Quantum Dot ที่แสงกลายเป็นสีที่สมจริงมาก ให้ความรู้สึกเสมือนได้ชมอย่างดีสามารถเห็นรายละเอียดกับคอนทราสต์ต่าง ๆ ได้สมจริงมากขึ้นด้วยระบบ Quantum HDR แถมยังมีเทคโนโลยีฉากหลัง อย่าง Dual LED ที่ช่วยปรับโทนสีเข้ากับแสงได้ มีรีโมตที่ชาร์จไฟจากแสงอาทิตย์ได้อย่างดีด้วย Solar Cell Remote เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้งอีกต่อไป
- qled Samsung รุ่น QA75Q65BAKXXT มีเทคโนโลยีแบบ Quantum HDR ที่ให้ความคมชัดได้ทั้งในฉากสว่างและมืด
- การดีไซน์เป็นแบบ AirSlim ที่มีความสวยงาม เบาบางได้อย่างดี ช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้สอยได้ไม่น้อย
  - ทีวีแบบ 100% Color Volume ที่ให้เทคโนโลยีภาพสีสันสดใส สมจริงมาก เพิ่มอรรถรสในการดูได้อย่างดี
- ทีวีแบบ Quantum Processor Lite 4K ที่มีชิปประมวลผลทำให้ภาพมีความคมชัดระดับ 4K มากขึ้น หรือ 3,840 x 2,160
- ทีวีแบบ Dual LED ที่มีมิติสีดำที่เพิ่มเติมให้มากขึ้น สีสัน ความคมชัดเห็นรายละเอียดได้อย่างดี ชัดเจน
- มีระบบ Super Ultrawide GameView & Game Bar 2.0 สามารถเข้าสู่โหมดเกมได้เลยอย่างเต็มอิ่ม
- มีค่า Refresh Rate 60 Hz และ Motion Xcelerator ที่ทำให้ภาพไหลลื่นอย่างดีมีประสิทธิภาพ
- กรอบทีวีมีความบางเฉียบทำให้มองเห็นคุณภาพสุดกับ Boundless Screen
โดยการใช้งานนั้นแนะนำให้รับชมเพื่อเพิ่มความบันเทิง แต่ก็อยากจะเสนอแนะว่าให้ศึกษาคู่มือการติดตั้งก่อน รวมทั้งวิธีการใช้งานที่เหมาะสม ควรถอดปลั๊กสายไฟให้เรียบร้อยโดยเอาออกจากเต้ารับไฟฟ้าที่ผนัง แล้วเช็ดผลิตภัณฑ์ด้วยผ้าที่แห่งและนุ่ม เป็นการป้องกันรอยขูดขีดต่าง ๆ

การใช้งาน qled tv แบรนด์ SAMSUNG รุ่น QA75Q65BAKXXT มีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือไม่ให้ดึง ดัน หรือโหน tv เด็ดขาด ห้ามวางในพื้นที่ที่ไม่มั่นคง เนื่องจากอาจทำให้ร่วงหล่นเกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้ เพื่อไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ หรือไฟฟ้าช็อต ไม่ควรใช้เต้ารับ สายไฟที่ต่อ หรือตัวแปลงเกินขีดจำกัด และหากพบความผิดปกติอื่นใด ให้ติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไปดีที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA0705

327


ท่านไหนที่สนอกสนใจอยากได้ทีวีแบบ oled แล้วกำลังตามหาอยู่แต่ไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อแบรนด์ไหนดี ไม่ต้องเป็นกังวลเลือกซื้อแบรนด์ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ได้เลยรับรองไม่ทำให้ผิดหวังด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีให้ได้สัมผัสคุ้มค่าคุ้มราคา สร้างความบันเทิงได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ แต่หากยังไม่มั่นใจจะซื้ออยากได้ข้อมูลดี ๆ สนับสนุนก่อนเราก็มีมาเสนอแนะกันเช่นเคย

ทีวี oled แบรนด์ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ของดีบอกต่อ
ไม่ว่าเนื้อหาความบันเทิงชนิดไหนที่ท่านสนอกสนใจ ท่านสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยภาพระบบ HDR ได้เลยกับยี่ห้อ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ที่มีระดับความละเอียดสูง 4K UHD ที่ช่วยให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น มีสีสันสดใสสวยงาม รายละเอียดคมชัดสูงมาก เพื่อออกมาสวยสมจริงได้อย่างดี ทั้งยังผสมผสาน Ambilight เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้การชมภาพยนตร์ช่วงค่ำคืนสบายใจที่เป็นระบบบล็อคบัสเตอร์ที่ภาพและเสียงเปรียบเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วย Dolby Vision และ Dolby Atmos ที่เข้าถึงได้อย่างดี เล่นเกมก็ดีด้วยอย่างกับไปสู่อีกโลกหนึ่งเลย สามารถรองรับได้ด้วยการเชื่อมต่อสาย HDMI จากอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามต้องการ เข้าถึงแหล่งบันเทิงได้ง่าย ด้วยระบบ Android สตรีมรายการที่ชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
- oled tv นี้ให้ภาพที่สวยงาม คมชัด จากความละเอียดที่มี 4K UHD หรือ 3840 x 2160 พิกเซล
- รองรับระบบ HDR, HDR10 และ HDR10+ ที่ช่วยให้ภาพออกมามีสีสันสดใส แสงเงามีมิติอย่างดี เพิ่มความสมจริงได้เพิ่มอรรถรสการดูเพิ่มขึ้น
- มีระบบปฏิบัติการแบบ Android 10 ที่ใช้การประมวลผลแบบ 4 แกน เข้าถึงเนื้อหาความบันเทิงได้อย่างเร็วที่สุดด้วย
- รูปแบบเสียงเป็นแบบ Dolby Atmos ที่ทำให้เราเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ได้ด้วยระบบเสียงออกมาแบบรอบทิศทาง
- สามารถเชื่อมต่อพอร์ตแบบ HDMI ได้สูงสุด 4 ช่อง และแบบ USB สูงสุด 3 ช่อง
- มีการเล่นฉากเคลื่อนไหวที่ราบรื่นด้วย Refresh Rate 120Hz

สมาร์ททีวีแบบโอแอลทีวีนี้สามารถใช้เพื่อความบันเทิงได้เลย จะเลือกดูซีรีส์ หนัง ภาพยนตร์ ฟังเพลงได้ครบตามต้องการ แต่ถ้าจะให้แนะนำควรศึกษาคู่มือก่อน ดูข้อแนะนำอื่น ๆ และคำเตือนก่อนติดตั้งและใช้งานเสมอ ทั้งนี้ มีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือห้ามติดตั้งโทรทัศน์กับบริเวณที่สัมผัส หรือใกล้ความร้อน – ความชื้นสูง เพราะว่าอาจส่งผลต่อเครื่องได้ ในการขนย้ายให้ระมัดระวังด้วย รวมทั้งการติดตั้ง เหตุเพราะอาจจะเกิดปัญหาชำรุดเสียหายได้เช่นกัน เมื่อมีการตรวจสอบเกิดการชำรุดเสียหาย สภาพไม่สมบูรณ์ ควรหยุดการใช้งาน และติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลดีที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีวีแบบ oled แบรนด์ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 นี้นั้นถือเป็นอีกของดีที่น่าใช้งานมาก ๆ ด้วยเหตุว่ามีโอกาสที่จะช่วยให้ท่านได้สร้างความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ได้หลากหลาย มีประสิทธิภาพ ได้รับความผ่อนคลายกันไปในช่วงเวลาพักผ่อน..

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA0703

328


ใครที่ให้ความสนใจอยากได้ทีวีแบบ oled แล้วกำลังตามหาอยู่แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อเลือกหาแบรนด์ไหนดี ไม่ต้องเป็นกังวลเลือกซื้อแบรนด์ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ได้เลยรับรองไม่ทำให้ผิดหวังด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีให้ได้สัมผัสคุ้มค่าคุ้มราคา สร้างความบันเทิงได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ แต่หากยังไม่มั่นใจจะซื้ออยากได้ข้อมูลดี ๆ สนับสนุนก่อนเราก็มีมานำเสนอเช่นเคย

ทีวี oled ยี่ห้อ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ของดีบอกต่อ
ไม่ว่าเนื้อหาความบันเทิงชนิดไหนที่ท่านสนอกสนใจ คุณ ๆสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยภาพระบบ HDR ได้เลยกับแบรนด์ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 ที่มีระดับความละเอียดสูง 4K UHD ที่ช่วยให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น มีสีสันสดใสสวยงาม รายละเอียดคมชัดสูงมาก เพื่อออกมาสวยสมจริงได้อย่างดี ทั้งยังผสมผสาน Ambilight เป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยให้การชมภาพยนตร์ช่วงค่ำคืนสบายใจที่เป็นระบบบล็อคบัสเตอร์ที่ภาพและเสียงเปรียบเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วย Dolby Vision และ Dolby Atmos ที่เข้าถึงได้อย่างดี เล่นเกมก็ดีด้วยอย่างกับไปสู่อีกโลกหนึ่งเลย สามารถรองรับได้ด้วยการเชื่อมต่อสาย HDMI จากอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามต้องการ เข้าถึงแหล่งบันเทิงได้ง่าย ด้วยระบบ Android สตรีมรายการที่ชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
- oled tv นี้ให้ภาพที่สวยงาม คมชัด จากความละเอียดที่มี 4K UHD หรือ 3840 x 2160 พิกเซล
- รองรับระบบ HDR, HDR10 และ HDR10+ ที่ช่วยให้ภาพออกมามีสีสันสดใส แสงเงามีมิติอย่างดี เพิ่มความสมจริงได้เพิ่มอรรถรสการดูเพิ่มขึ้น
- มีระบบปฏิบัติการแบบ Android 10 ที่ใช้การประมวลผลแบบ 4 แกน เข้าถึงเนื้อหาความบันเทิงได้อย่างเร็วที่สุดด้วย
- รูปแบบเสียงเป็นแบบ Dolby Atmos ที่ทำให้เราเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ได้ด้วยระบบเสียงออกมาแบบรอบทิศทาง
- สามารถเชื่อมต่อพอร์ตแบบ HDMI ได้สูงสุด 4 ช่อง และแบบ USB สูงสุด 3 ช่อง
- มีการเล่นฉากเคลื่อนไหวที่ราบรื่นด้วย Refresh Rate 120Hz

สมาร์ททีวีแบบโอแอลทีวีนี้สามารถใช้เพื่อความบันเทิงได้เลย จะเลือกดูซีรีส์ หนัง ภาพยนตร์ ฟังเพลงได้หมดตามต้องการ แต่ถ้าจะให้แนะนำควรศึกษาคู่มือก่อน ดูข้อแนะนำอื่น ๆ และคำเตือนก่อนติดตั้งและใช้งานเสมอ ทั้งนี้ มีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือห้ามติดตั้งโทรทัศน์กับบริเวณที่สัมผัส หรือใกล้ความร้อน – ความชื้นสูง เพราะว่าอาจส่งผลต่อเครื่องได้ ในการขนย้ายให้ระมัดระวังด้วย รวมทั้งการติดตั้ง เหตุเพราะอาจจะเกิดปัญหาชำรุดเสียหายได้เช่นกัน เมื่อมีการตรวจสอบเกิดการชำรุดเสียหาย สภาพไม่สมบูรณ์ ควรหยุดการใช้งาน และติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลดีที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีวีแบบ oled ยี่ห้อ PHILIPS รุ่น 55OLED706/67 นี้นั้นถือเป็นอีกของดีที่น่าใช้งานมาก ๆ เนื่องด้วยมีโอกาสที่จะช่วยให้ท่านได้สร้างความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ได้หลากหลาย มีประสิทธิภาพ ได้รับความผ่อนคลายกันไปในช่วงเวลาพักผ่อน..

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA0703

329


เมื่อพูดถึงกล่องเก็บของขึ้นมาแล้วนั้นมีอยู่อีกแบรนด์ที่น่าสนใจเลยและมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเลยด้วย นั่นคือยี่ห้อ STACKO ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาเสนอแนะให้เลย 4 รุ่น 4 รูปแบบ เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ที่ตอบสนองกับการใช้งานของตัวเองที่สุดมาได้ แต่จะเป็นรุ่นไหน อย่างไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า

4 กล่องเก็บของแบรนด์ STACKO เลือกเอาที่ตอบโจทย์ที่สุด
1. รูปแบบบานเปิด STACKO CHEER 64x40x37 เซนติเมตร 
รุ่นแรกของยี่ห้อ STACKO จะเป็นฟังก์ชันบานเปิดที่ฝามีความกึ่งโปร่งใส เปิด – ปิดได้เลยทั้ง 2 ด้านซ้ายขวา พร้อมช่วยให้การหยิบของผ่านไปได้อย่างดี สะดวกมากที่สุด วัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพสูง วางซ้อนกันได้ไม่มีปัญหา ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสิ่งของภายในบ้านให้เป็นระเบียบมากขึ้นได้ดี มีล้อเลื่อนที่ทำให้กล่องเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้นด้วย ดีไซน์ได้ทันสมัย จัดเก็บของได้หลายประเภท ไม่ว่าจะใช้ในห้องทำงาน ห้องนอน สำนักงาน ออฟฟิศ ได้หมด ราคาขาย 560.07 บาท (ลดราคาออนไลน์)

2. รูปแบบมีล้อ ฝาหน้า STACKO 70552 ไซซ์ L
สำหรับกล่องอเนกประสงค์รูปแบบมีล้อ ฝาหน้า แบรนด์ STACKO นี้นั้น จะเป็นรูปแบบการผลิตที่ได้พลาสติกคุณภาพ ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐาน ตัวกล่องใส มองเห็นสิ่งของได้ดี ง่ายต่อการค้นหา เหนียว แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้อย่างดี สามารถเปิด/ปิดกล่องได้ตลอดเวลา แม้จะวางซ้อนกันก็แค่เปิดฝาด้านหน้าเอา ที่ฝาก็ยังมีตัวล็อคกล่องเปิด/ปิดได้ ตัวล็อคแน่นหนา ป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดี ที่สำคัญมีล้อเลื่อนทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ราคาขาย 380.37 บาทเท่านั้น (ลดราคาออนไลน์)

3. รูปแบบฝาล็อค STACKO FAMILI 16.5 ลิตร สีใส
ต่อมาเป็นอีกรูปแบบของยี่ห้อ STACKO ที่เป็นกล่องพลาสติกฝาล็อคที่มีวัสดุพลาสติกคุณภาพดี พร้อมฝาปิดที่ช่วยป้องกันสิ่งของตกหล่นได้ พร้อมจัดเก็บของได้อย่างมิดชิดด้วย ซึ่งคุณสามารถวางซ้อนทับไปเลยตามต้องการ ประหยัดพื้นที่การใช้งาน ไม่มีกล่องแตก รั่วใด ๆ เกิดขึ้น สามารถใส่สิ่งของได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เสื้อผ้า อุปกรณ์สำนักงาน และอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย ราคา 147.87 บาทเท่านั้น (ลดราคาออนไลน์)

4. กล่องบานสไลด์ STACKO MEET 60x37x40 เซนติเมตร
ปิดท้ายอีกรูปแบบกับกล่องบานสไลด์ STACKO MEET ที่พลาสติกคุณภาพเกรดดี ทนทานต่อแรงกระแทก ไม่กรอบแตกง่าย วางซ้อนลงล็อคได้เลย ไม่มีร่วงหล่นง่าย ซ้อนสูงสุด 3 ชั้น เปิด / ปิดผ่านทางฝาด้านบน ที่หน้าบานด้านหน้าแบบสไลด์พร้อมจับ มีล้อเลื่อนเลื่อนย้ายง่าย พับเก็บได้ตามที่ท่านต้องการ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และขนย้ายได้ดี ราคาจำหน่าย 699 บาทเท่านั้น (ลดราคาออนไลน์)

กล่องเก็บของแบรนด์ STACKO การันตีคุณภาพวัสดุพลาสติกที่เกรดดีมาก วางซ้อนได้ มีล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ราคาสุดพิเศษด้วยยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาลง และด้วยการดีไซน์ที่แตกต่างสามารถเลือกใช้ได้เลยตอบโจทย์ตามต้องการเลยเชียว

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1206

330


เมื่อเอ่ยถึงกล่องเก็บของขึ้นมาแล้วนั้นมีอยู่อีกแบรนด์ที่น่าสนใจเลยและมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเลยด้วย นั่นคือยี่ห้อ STACKO ซึ่งวันนี้เราก็จะมาเสนอแนะให้เลย 4 รุ่น 4 รูปแบบ เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ที่ตอบสนองกับการใช้งานของตัวเองที่สุดมาได้ แต่จะเป็นรุ่นไหน อย่างไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า

4 กล่องเก็บของแบรนด์ STACKO เลือกเอาที่ตอบโจทย์ที่สุด
1. รูปแบบบานเปิด STACKO CHEER 64x40x37 ซม. 
รุ่นแรกของแบรนด์ STACKO จะเป็นฟังก์ชันบานเปิดที่ฝามีความกึ่งโปร่งใส เปิด – ปิดได้เลยทั้ง 2 ด้านซ้ายขวา พร้อมช่วยให้การหยิบของผ่านไปได้อย่างดี สะดวกมากที่สุด วัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพสูง วางซ้อนกันได้ไม่มีปัญหา ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสิ่งของภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ดี มีล้อเลื่อนที่ทำให้กล่องเคลื่อนย้ายได้ง่ายดายมากขึ้นด้วย ออกแบบได้ทันสมัย จัดเก็บของได้หลายประเภท ไม่ว่าจะใช้ในห้องทำงาน ห้องนอน สำนักงาน ออฟฟิศ ได้หมด ราคาจำหน่าย 560.07 บาท (ลดราคาออนไลน์)

2. รูปแบบมีล้อ ฝาหน้า STACKO 70552 ไซซ์ L
สำหรับกล่องอเนกประสงค์รูปแบบมีล้อ ฝาหน้า แบรนด์ STACKO นี้นั้น จะเป็นรูปแบบการผลิตที่ได้พลาสติกคุณภาพ ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐาน ตัวกล่องใส สามารถมองเห็นสิ่งของได้ดี ง่ายๆต่อการค้นหา เหนียว แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้อย่างดี สามารถเปิด/ปิดกล่องได้ตลอดเวลา แม้จะวางซ้อนกันก็แค่เปิดฝาด้านหน้าเอา ที่ฝาก็ยังมีตัวล็อคกล่องเปิด/ปิดได้ ตัวล็อคแน่นหนา ช่วยป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดี ที่สำคัญมีล้อเลื่อนทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ราคาจำหน่าย 380.37 บาท (ลดราคาออนไลน์)

3. รูปแบบฝาล็อค STACKO FAMILI 16.5 ลิตร สีใส
ต่อมาเป็นอีกรูปแบบของยี่ห้อ STACKO ที่เป็นกล่องพลาสติกฝาล็อคที่มีวัสดุพลาสติกคุณภาพดี พร้อมฝาปิดที่ช่วยป้องกันสิ่งของตกหล่นได้ พร้อมจัดเก็บของได้อย่างมิดชิดด้วย ซึ่งคุณสามารถวางซ้อนทับไปเลยตามต้องการ ประหยัดพื้นที่การใช้งาน ไม่มีกล่องแตก รั่วใด ๆ เกิดขึ้น สามารถใส่สิ่งของได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เสื้อผ้า อุปกรณ์สำนักงาน และอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย ราคาจำหน่าย 147.87 บาท (ลดราคาออนไลน์)

4. กล่องบานสไลด์ STACKO MEET 60x37x40 ซม.
ปิดท้ายอีกรูปแบบกับกล่องบานสไลด์ STACKO MEET ที่พลาสติกคุณภาพเกรดดี ทนทานต่อแรงกระแทก ไม่กรอบแตกง่าย วางซ้อนลงล็อคได้เลย ไม่มีร่วงหล่นง่าย ซ้อนสูงสุด 3 ชั้น เปิด / ปิดผ่านทางฝาด้านบน ที่หน้าบานด้านหน้าแบบสไลด์พร้อมจับ มีล้อเลื่อนเลื่อนย้ายง่าย พับเก็บได้ตามที่ท่านต้องการ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และขนย้ายได้ดี ราคาจำหน่าย 699 บาทเท่านั้น (ลดราคาออนไลน์)

กล่องเก็บของแบรนด์ STACKO การันตีคุณภาพวัสดุพลาสติกที่เกรดดีมาก วางซ้อนได้ มีล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ราคาถูกด้วยยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาลง และด้วยการดีไซน์ที่แตกต่างสามารถเลือกใช้ได้เลยตอบสนองตามต้องการเลยเชียว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1206

331


ท่านไหนที่กำลังอยากได้แปรงทำความสะอาดทรงเตารีดหัวจุกแต่ไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อเลือกหายี่ห้อไหนดี แนะนำให้ลองมาดูรีวิวนี้เลยเป็นทรงเตารีดหัวจุด ตราสมอ ที่การันตีว่าเข้าถึงได้ทุกซอกมุมอย่างดี ซึ่งจะเป็นยังไงบ้างนั้นเราไปติดตามรีวิวนี้กันเลยดีกว่าเพื่อการตกลงใจใช้งานได้อย่างดีที่สุด

รีวิวแปรงทำความสะอาดตราสมอ แบบเตารีดทรงหัวจุก
เมื่อคุณ ๆมีความสนใจจะทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ ด้วยแปรงที่ใช้ทำความสะอาดโดยที่ขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างดีไม่ว่าจะอยู่ซอกมุมไหนก็ตาม โดยที่เข้าถึงได้ยากมากแต่แปรงนี้ช่วยได้ ขจัดคราบได้ไวไม่ต้องใช้เวลานาน มีรูปแบบที่โดดเด่น ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ที่จะออกแบบมาเพื่อจัดการซอกมุมได้อย่างดี ด้วยรูปทรงเตารีดที่มีให้ได้สัมผัส โดยเฉพาะหัวจุกที่มีองศาตั้งขึ้นช่วยให้คุณขัดถูกทุกบริเวณได้อย่างดี ถนัดมือมาก ๆ ช่วยให้ท่านประหยัดแรงในการขัดได้อย่างดี รวมไปถึงเซฟเวลาในการทำความสะอาดมากที่สุด
  - แปรงขัดพื้นเป็นทรงเตารีด โดยที่หัวแปรงและขนแปรงสามารถทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี เป็นพลาสติกแบบ PP เกรด A ที่มีความเหนียวแน่น ไม่หลุดได้ง่าย ทนทานต่อแรงขัดของเราได้อย่างดีไม่มีชำรุดง่าย ๆ
- ใช้จัดการคราบสิ่งสกปรกที่ฝั่งแน่นทุกซอกมุมได้ง่ายและดีมีประสิทธิภาพ อย่าง คราบสิ่งสกปรกที่เกาะติดแน่น พื้นปูนที่มีตะไคร่จับก็หลุดลอกออกง่าย
- หัวจุกด้านหน้าที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างดีเข้าถึงได้ทุกซอกมุม รูปทรงมีความพิเศษขนาดพอเหมาะพอดี พร้อมที่จับที่ถนัดมืออย่างที่สุด

แปรงขัดนี้จะสามารถใช้ได้ในรูปแบบการขัดพื้นทำความสะอาดทั่วไป ไม่ใช่แปรงซักผ้าที่หากสนอกสนใจจริง ๆ ก็สามารถหาได้หลากหลาย คุณภาพดีด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ใช้งานแล้วควรล้างทำความสะอาดอย่างดี ผึ่งให้แห้งก่อนที่จะเก็บเข้าที่ ทั้งนี้ ยังมีข้อควรระวังที่ต้องทราบด้วย คือการจัดเก็บก็ควรอยู่ในพื้นที่แห้งสนิท ปราศจากความเปียกชื้น หรือความร้อน รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการจัดเก็บในที่ที่มีแสงแดด เปลวไฟ ที่สำคัญต้องระมัดระวังในการกระทบกระแทกที่รุนแรงด้วย อาจทำให้สินค้ามีความชำรุดเสียหายได้

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าการใช้งานแปรงทำความสะอาดของคุณจะผ่านไปได้อย่างดี ตกลงใจเลือกซื้อเลือกหาตราสมอนี้มาใช้งานตอบโจทย์การทำความสะอาดทุกซอกมุม ซึ่งหากใครสนอกสนใจและตกลงใจได้แล้วสามารถเลือกซื้อได้เลยในราคาย่อมเยา 25 บาทเท่านั้น แต่การันตีเลยว่าคุณภาพคุ้มเกินคุ้ม!!

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0204

332


หากคุณ ๆเป็นอีกคนที่ต้องการใช้งานไม้ม็อบดันฝุ่นด้วยจุดเด่นหลายอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ยี่ห้อไหนดี เราไม่รอช้าบอกต่อของดีให้ได้เข้าใจถึง 4 ยี่ห้อเลยเชียว รับประกันว่าพร้อมให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพ แต่จะเป็นยี่ห้อไหน น่าสนใจยังไงบ้างไปติดตามกับเราทางนี้เลยดีกว่า

4 ยี่ห้อไม้ม็อบดันฝุ่นที่น่าสนใจ ประสิทธิภาพใช้งานได้อย่างดี
1. ไม้ม็อบไมโครไฟเบอร์ดันฝุ่น FARCENT รุ่น W701
ไมโครไฟเบอร์ดันฝุ่น FARCENT รุ่น W701 ที่สามารถทำความสะอาดได้ทั้งพื้นแห้ง พื้นเปียกทุกซอกมุม และฝาผนังบ้าน โดยที่สามารถถอดเก็บได้ง่ายสบายมาก กะทัดรัด มีแป้นยึดหัวไม้ม็อบ หัวม็อบสามารถหมุนรอบทิศทางได้เลย ปรับได้ 3 ระดับ ที่ทำจากอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา มีแผ่นรองหัวม็อบ ที่ง่ายต่อการใช้งานใส่แผ่นทำความสะอาด สามารถปรับความยาวได้ ราคาเพียงแค่ 349 บาท ลดราคาพิเศษเหลือ 279 บาท
2. ไม้ม็อบไมโครไฟเบอร์ดันฝุ่น SCOTCH - BRITE
ไม้ม็อบถูพื้นแบบดันฝุ่นที่สามารถปรับระดับได้ตามการใช้งาน โดยที่สามารถใช้ได้นอกจากถูพื้น ก็ยังกวาดหยากไย่ หรือเช็ดกระจกได้หมด ผ้าผลิตจากใบไมโครไฟเบอร์ ที่กวาดฝุ่นละอองและมีสิ่งสกปรกได้หมดจด ไม่ว่าจะใช้งานแบบเปียกหรือแบบแห้ง ซึ่งจะเป็นแบบสก๊อตช์-ไบรต์ ที่รูปร่างแบน เข้าถึงได้ทุกซอกมุมตามต้องการแม้ในส่วนที่ทำความสะอาดยากก็ยังทำได้ ราคาแค่เพียง 493 บาท ลดเหลือ 455 บาทเท่านั้น
3. ไม้ม็อบไมโครไฟเบอร์ดันฝุ่น SWASH
เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจมาก ๆ กับไม้ม็อบไมโครไฟเบอร์ดันฝุ่น SWASH ที่มีประสิทธิภาพดีมาก เหมาะสำหรับการทำความสะอาดทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง ที่มีความสามารถในการปรับระดับได้เข้าถึงทุกซอกทุกมุม ที่ไม่ว่าจะเป็นคราบฝังแน่นไหนก็ขจัดได้รวดเร็ว สะอาดหมดจดแน่นอน ซึ่งที่ตัวผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์ก็เป็นโครงสร้างแบบพิเศษเฉพาะด้วย ถือว่าเป็นไม้ถูพื้นน่าใช้งานอย่างที่สุด ราคาเพียง 459 บาท ลดเหลือ 386.1 บาท
4. ไม้ม็อบคอตตอนดันฝุ่น POLY-BRITE
ปิดท้ายกันที่ยี่ห้อ POLY-BRITE ที่ได้คอตตอนผลิตคุณภาพดีมาก กักเก็บฝุ่นได้ดี ไม่ฟุ้งกระจาย ดูดซับน้ำได้มีประสิทธิภาพ ด้ามจับแข็งแรงทนทานด้วยความยาว 135 เซนติเมตร เส้นใยทนทาน ทำความสะอาดพื้นผิวได้ทั้งแบบเปียก แบบแห้ง ความยาวผ้าขนาด 18 นิ้ว ที่หัวล็อคสามารถหมุนได้ 360 องศา ซอกซอนเข้าถึงการทำความสะอาดได้ทุกซอกมุม ราคาจำหน่ายเพียง 379 บาทเท่านั้น

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อไม้ม็อบดันฝุ่นได้อย่างดี ประสิทธิภาพการใช้งานตอบโจทย์ขั้นสุด ทั้งราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วยเข้าถึงได้ง่าย การันตีพร้อมให้คุณ ๆเข้าถึงการทำความสะอาดพื้นทุกซอกมุมได้อย่างดีแน่นอน

  เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0208

333


เมื่อเอ่ยถึงที่นอนเชื่อว่าหลายท่านอดคิดไม่ได้เลยว่าแท้จริงมีขนาดเท่าไหร่ และผ้าปูที่จะใช้นั้นจะต้องวัดอย่างไร คราวนี้เราไม่ปรารถนาให้ความสงสัยเหล่านี้คงเหลือ จึงอยากเสนอแนะการวัดขนาดผ้าปูที่นอน และแนะนำขนาดของที่นอนที่ใช้กันในปัจจุบันให้ทุกคนได้เรียนรู้ข้อมูลอย่างละเอียด ว่าแล้วก็ตามมาทางนี้ได้

การวัดขนาดผ้าปูที่นอน และขนาดของที่นอนที่ใช้กันทั่วไป
โดยทั่วไปแล้วขนาดมาตรฐานของที่นอนจะมีด้วยกันตั้งแต่ 3.5 ฟุต 5 ฟุต และ 6 ฟุต โดยที่การวัดขนาดของผ้าปูจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ยาก คือจะวัดในด้านทางกว้าง และด้านยาวที่จะมีความยาวเท่ากันที่ 198 ซม. หรือขนาด 6.5 ฟุต ที่ขนาดที่นอนก็จะอิงจากทางด้านกว้างด้วย โดยที่นอนก็มีจะด้วยกันอย่างที่บอก 3 ขนาด และการใช้ผ้าปูก็จะอิงตามนั้นได้เลย จะผ้าปู 3.5 ฟุต ผ้าปูที่นอน 5 ฟุต หรือผ้าปูที่นอน 6 ฟุตก็ตาม
1. ที่นอน + ผ้าปูแบบ Twin size หรือ Single size
รูปแบบขนาด 3.5 ฟุต หรือ 105 ซม. นั่นเอง (3.5 x 6.5 ฟุต หรือ 105 x 198 ซม.) ซึ่งถือเป็นขนาดเริ่มต้นใช้เหมาะกับคนที่นอนในหอพัก นอนเตียงเดี่ยว ฯลฯ ที่นิยมใช้แพร่หลายมาก และด้วยขนาดที่เล็กราคาของสินค้าจะที่นอน หรือผ้าปูก็จะถูกอยู่ไม่น้อย เข้าถึงได้ทุกกลุ่มคน แต่ก็จะเหมาะสำหรับการนอนคนเดียว
2. ที่นอน + ผ้าปูแบบ Queen size
รูปแบบขนาด 5 ฟุต หรือ 150 เซนติเมตร (5 x 6.5 ฟุต หรือ 150 x 198 ซม.) ซึ่งจะเป็นขนาดที่เหมาะกับการนอน 2 คน กำลังนอนได้พลิกตัวไปมาอย่างดี อบอุ่นกับคนที่ขนาดตัวเล็ก ไม่ได้นอนดิ้นมากมาย หรือบางคนที่ต้องการใช้เพื่อนอนคนเดียวพลิกตัวสบาย ๆ ก็ได้ด้วยเช่นกัน สะดวกอย่าบอกใครเลยเชียว ราคาสินค้าอย่างที่นอน หรือผ้าปูก็จะอยู่ที่ปานกลาง
3. ที่นอน + ผ้าปูแบบ King Size
คือรูปแบบขนาด 6 ฟุต หรือ 180 เซนติเมตร  (6 x 6.5 ฟุต หรือ 180 x 198 ซม.) มีขนาดพื้นที่ใหญ่สุด นิยมกับการนอน 2 คน มีพื้นที่กว้างขวางมาก จะพลิกตัว หรือนอนดิ้นไปมาก็ไม่มีทางถูกตัว กระทบตัวคนข้าง ๆ แน่นอน หรือถ้าอยากนอนแค่คนเดียวอีกก็ทำได้เลย ด้วยพื้นที่กว้างขวางมีความสุขทุกการพักผ่อน  ราคาสินค้าทั้งที่นอน และผ้าปูก็จะสูงที่สุด

เมื่อทราบอย่างนี้แล้วในการเลือกซื้อเลือกหาทั้งผ้าปูที่นอนและที่นอนเพื่อให้สอดคล้องการใช้งานมากที่สุดของทุก ๆ คนจะเข้าถึงได้อย่างสบายใจ เรียบร้อยดี ซึ่งความจริงแล้วก็ยังมีขนาดที่เพิ่มได้อีกเพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานของทุก ๆ คนที่ต้องการ ซึ่งหากสนใจก็ลองพิจารณาตามหากันได้

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BED0102

334


เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนคงจะรู้เรื่องการซักทำความสะอาดในส่วนของผ้านวมกันมาไม่มากก็น้อย แต่อีกสิ่งที่ไม่อยากให้ละเลยไปได้ก็คือการตาก และจัดเก็บที่ถูกต้องซึ่งก็มีความสำคัญเช่นเดียวกันเนื่องจากมีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมเทคนิคการตาก และจัดเก็บมาเล่าสู่กันฟัง

เทคนิคดูแลผ้านวม หลังซัก ทั้งการตากและจัดเก็บที่ถูกวิธี
1. การตากที่ถูกวิธี
เมื่อเราได้ซักทำความสะอาดเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบเอาผ้าขึ้นตากทันที แต่แนะนำให้สะบัดผ้าก่อน เพื่อเป็นการคลายเนื้อผ้าออกแล้วค่อยตากจริง เป็นการลดการยับและช่วยให้เนื้อผ้าคลายตัวได้ดี ลดการเกิดการจับตัวเป็นก้อน รวมไปถึงช่วยให้ผ้าแห้งรวดเร็วมากขึ้นด้วย ส่วนการตากผ้าที่ให้นำผ้าสะบัดก่อนนั้น ก็ควรคลายเป็นผืนบนราวตากให้เรียบร้อยด้วย เอาให้ถูกแดดทั้งหมด และตากกลางแดดที่ไม่แรงมาก 2 – 3 ชั่วโมง และถ้าแดดเริ่มแรงก็ให้ขยับเข้าที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกดีที่สุด
ทั้งนี้ มีสิ่งที่ควรทราบอยู่ด้วย คือแสงแดดมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อ และทำให้แห้งได้เร็วมากขึ้นก็จริงอยู่ แต่ถ้าตากผ้าห่มนวมกลางแดดแรงจัดเป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดกลิ่นไหม้ติดผ้าอย่างที่บอกไปได้ รวมถึงสีก็จะซีดจาง หรือความหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มลดลง เนื้อผ้าเกิดความเสียหายได้ ขาดเร็วกว่าปกติ ฯลฯ
2. แนะนำการจัดเก็บผ้าห่มแบบนวมที่ถูกวิธี
สำหรับการจัดเก็บไม่ว่าจะ ผ้านวม 6 ฟุต 5 ฟุต 3 ฟุต หรือขนาดใดก็ตาม การจัดเก็บถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย แต่ก็ต้องระวังด้วย หากจัดเก็บไม่ถูกต้องอาจจะทำให้ผ้าเกิดความเสียหายได้เช่นกัน แนะนำคือ
- ให้ตรวจสอบก่อนว่าแห้งสนิทแล้วหรือไม่ ต้องไม่มีความชื้นหลงเหลือเลยแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ผ้าเน่าได้
- หากต้องการจัดเก็บเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็ให้ใช้ปลอกผ้าเข้าช่วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีฝุ่นมาเกาะ หรือเกิดความเสียหายอื่น ๆ ส่งผลต่อตัวผ้าได้
- หากต้องการเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือพื้นที่ปิดอื่น ๆ ต้องดูให้มั่นใจด้วยว่ามีการระบายอากาศที่ดีแล้วหรือไม่ เหตุเพราะหากไม่มีอาจทำให้ผ้ามีกลิ่นอับได้
- ทันทีที่จะใช้งานอีกครั้งต้องเขย่าให้ผ้าฟูกลับขึ้นมา ช่วยให้การใช้งานยาวนานมากขึ้น และผ้าก็ยังคงรูปสวยดูดีเสมอ
กระบวนการที่จะทำให้ผ้านวมหอมคงทนอยู่กับเราไปนาน ๆ ไม่ใช่แค่การซัก แต่ต้องเอาใจใส่ถึงการตาก และการจัดเก็บที่ถูกวิธีด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็หวังว่าเพื่อนๆจะเข้าใจมากขึ้น และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงินซื้อผืนใหม่บ่อย ๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BED0105

335


เผื่อว่าท่านใดที่กำลังมองหาชุดห้องนอนที่ดีที่สุดอยู่ เราไม่อยากให้มองข้ามไปอีกแบรนด์ อย่าง SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA ที่บอกเลยว่าซื้อไปใช้งานไม่ทำให้ผิดหวัง กระนั้นหากท่านไหนยังไม่มั่นอกมั่นใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเราก็มีข้อมูลมาแนะนำเช่นเคย จะเป็นเช่นไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้
ชุดห้องนอนที่ดีที่สุด ต้อง SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA
การใช้งานชุดเฟอร์นิเจอร์เครื่องนอนนั้นมีความน่าสนใจตรงที่เราสั่งแล้วก็จะมาเป็นแบบครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานอย่างที่สุด และที่เราอยากนำเสนอก็คือ SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA ที่จัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนที่น่าสนใจ สไตล์คอนเทมโพรารี่ ที่มีความสวยงามตอบสนองทุกการใช้งาน สะท้อนรสนิยมความเป็นตัวเองได้ด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยมไม้สีเข้มตัด Crystal High Gloss สี Tortora
ขาเตียงแบบโปร่ง หัวเตียงที่ทำจาก Crystal High Gloss สี Tortora ด้วยเช่นกัน ให้ความทันสมัย เรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา มีทั้งตู้เสื้อผ้าที่เป็นกระจกเงาอยู่หน้าบานด้วย ทำให้สะดวกในการเลื่อนมากยิ่งขึ้น โดยที่จะเป็นรูปแบบ Anti-Jump Sliding Door ที่ไม่ทำให้ไหลตกราง มีโต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนด้วย ซึ่งชั้นล่างก็จะมีลิ้นชักให้ได้เก็บของ ด้านข้างมีตะขอที่แขวนเนกไท หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้เพิ่มขึ้น
- เตียงนอนมีขนาด 6 ฟุต (W 161 x D 207 x H 90 ซม.)
- โต๊ะเครื่องแป้งขนาด 60 เซนติเมตร (W60 x D45 x H180 เซนติเมตร)
- ตู้เสื้อผ้ามีขนาด 200 เซนติเมตร (W 200 x D 60 x H 230 เซนติเมตร)
- โครงสร้างเตียงเป็นแบบ FIRM STRUCTURE SYSTEM ที่ระบบโครงสร้างจะแข็งแรง ยึดโครงสร้างได้ 12 จุด ไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเมื่อนอน สามารถรองรับน้ำหนักได้ 800 – 1,000 กิโลกรัม ไม่ทำให้เกิดฝุ่นใต้เตียงด้วย
- เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ E1 ที่ได้มาตรฐานแบบ European Standard Class 1 ที่จะมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ น้อยกว่า 0.005% การันตีใช้แล้วจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ไม่ก่อให้เกิดอาหารภูมิแพ้กำเริบ ไม่แสบตา ไม่มีกลิ่นฉุนกวนใจด้วย

สำหรับการใช้งานนั้นก็จะมีเพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ทำให้เกิดแมลงอย่าง มด ปลวก มอด และหากเฟอร์นิเจอร์ถูกน้ำเปียกต้องรีบจัดการเช็ดทำความสะอาดให้แห้งไม่ควรปล่อยไว้
ชุดห้องนอนที่ดีที่สุด ย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็นยี่ห้อ SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA นี้เลย กับราคาเหมาะสมคุณภาพ ในราคาปกติชุดละ 66,900 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 46,350 บาทเท่านั้น พร้อมให้การอยู่อาศัยของคุณเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ทั้งสุขภาพ หรืออายุการใช้งานแน่นอน

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR0101

336


เผื่อว่าท่านไหนที่กำลังมองหาชุดห้องนอนที่ดีที่สุดอยู่ เราไม่อยากให้มองข้ามไปอีกยี่ห้อ อย่าง SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA ที่บอกเลยว่าซื้อไปใช้งานไม่ทำให้ผิดหวัง กระนั้นหากท่านไหนยังไม่เชื่อมั่นต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเราก็มีข้อมูลมาแนะนำเช่นเคย จะเป็นเช่นไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้
ชุดห้องนอนที่ดีที่สุด ต้อง SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA
การใช้งานชุดเฟอร์นิเจอร์เครื่องนอนนั้นมีความน่าสนใจตรงที่เราสั่งแล้วก็จะมาเป็นแบบครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานอย่างที่สุด และที่เราอยากแนะนำก็คือ SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA ที่จัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนที่น่าสนใจ สไตล์คอนเทมโพรารี่ ที่มีความสวยงามตอบสนองทุกการใช้งาน สะท้อนรสนิยมความเป็นตัวเองได้ด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยมไม้สีเข้มตัด Crystal High Gloss สี Tortora
ขาเตียงแบบโปร่ง หัวเตียงที่ทำจาก Crystal High Gloss สี Tortora ด้วยเช่นกัน ให้ความทันสมัย เรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา มีทั้งตู้เสื้อผ้าที่เป็นกระจกเงาอยู่หน้าบานด้วย ทำให้สะดวกในการเลื่อนมากยิ่งขึ้น โดยที่จะเป็นรูปแบบ Anti-Jump Sliding Door ที่ไม่ทำให้ไหลตกราง มีโต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนด้วย ซึ่งชั้นล่างก็จะมีลิ้นชักให้ได้เก็บของ ด้านข้างมีตะขอที่แขวนเนกไท หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้มากขึ้น
- เตียงนอนมีขนาด 6 ฟุต (W 161 x D 207 x H 90 เซนติเมตร)
- โต๊ะเครื่องแป้งขนาด 60 เซนติเมตร (W60 x D45 x H180 เซนติเมตร)
- ตู้เสื้อผ้ามีขนาด 200 ซม. (W 200 x D 60 x H 230 เซนติเมตร)
- โครงสร้างเตียงเป็นแบบ FIRM STRUCTURE SYSTEM ที่ระบบโครงสร้างจะแข็งแรง ยึดโครงสร้างได้ 12 จุด ไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเมื่อนอน รองรับน้ำหนักได้ 800 – 1,000 กก. ไม่ทำให้เกิดฝุ่นใต้เตียงด้วย
- เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ E1 ที่ได้มาตรฐานแบบ European Standard Class 1 ที่จะมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ น้อยกว่า 0.005% การันตีใช้แล้วจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ไม่ก่อให้เกิดอาหารภูมิแพ้กำเริบ ไม่แสบตา ไม่มีกลิ่นฉุนกวนใจด้วย

สำหรับการใช้งานนั้นก็จะมีเพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ทำให้เกิดแมลงอย่าง มด ปลวก มอด และหากเฟอร์นิเจอร์ถูกน้ำเปียกต้องรีบเช็ดให้แห้งอย่าปล่อยไว้
ชุดห้องนอนที่ดีที่สุด ย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็นแบรนด์ SB FURNITURE TAZZINA สี I-WALNUT/TORTORA นี้เลย กับราคาเหมาะสมคุณภาพ ในราคาปกติชุดละ 66,900 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 46,350 บาทเท่านั้น พร้อมให้การอยู่อาศัยของคุณ ๆเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ทั้งสุขภาพ หรืออายุการใช้งานแน่นอน

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR0101

337


ต้องยอมรับว่าราคาของทีวี oled นั้นค่อนข้างสูงแต่ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ดีมาก ๆ เสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในภาพเหตุการณ์นั้นได้เลยเชียว กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือการดูแลรักษาโทรทัศน์ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้อยู่กับเราไปนาน ๆ แต่หากท่านใดที่ยังไม่รู้จะดูแลอย่างไร เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมข้อมูลมาเสนอแนะ ว่าแล้วก็ไปติดตามกันได้
ทีวี oled ของดีที่ต้องได้รับการดูรักษาอย่างดี ใช้งานได้ยาว ๆ
สำหรับ oled tv นี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นของดีที่เราควรต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการดูแลรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานไม่ต้องเสียเงินเสียทองซ่อมแซม หรือซื้อใหม่ เสียสตางค์เสียเวล่ำเวลาไปอีก แต่ถามว่าจะดูแลรักษาอย่างไรให้ใช้งานได้ยาว ๆ
1. ดูเรื่องความชื้นที่วางตั้ง
สิ่งแรกเลยก็คือการดูเรื่องของความชื้นที่เป็นส่วนของการวางตั้งทีวีที่เราควรต้องละเอียดอ่อนมาก ๆ ความชื้นเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดปัญหาเครื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในเสียหายได้ ก็ต้องระวังไว้ไม่ควรไปวางใกล้ตำแหน่งห้องน้ำจะดีที่สุด
2. เรื่องอุณหภูมิที่เปลี่ยนรวดเร็ว
ต่อมาคือเรื่องของอุณหภูมิพื้นที่วางตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ที่ทำให้ส่งผลต่อระบบTVมีปัญหาได้ อาทิ การวางไว้ในบริเวณที่ต้องโดนลมเย็น ๆ แล้วเครื่องปรับอากาศมาแบบตรง ๆ ก็กลายเป็นว่าจากที่ร้อน ๆ อยู่เย็นเลยเชียว
3. เรื่องอุณหภูมิความร้อน
ที่ส่งผลได้จากการส่งผลต่ออุปกรณ์การแสดงผลภาพที่จะทำให้จอTVเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว การตั้งวางทีวีก็ไม่ควรอยู่ใกล้หน้าต่าง หรือที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเราด้วย ที่สำคัญคือไม่ควรวางไว้ใกล้ทุกสิ่งที่มีความร้อนอื่น ๆ ด้วย ยิ่งสีสัน ความสดใสของสมาร์ททีวีมีสูงด้วยระวังให้ดี
4. เรื่องการเคลื่อนย้าย
ที่ปัจจุบันมีความคมชัดสูงมาก แต่เวลาเดียวกันก็มีความบางมากด้วย การเคลื่อนย้ายหากทำได้ไม่ดีก็เกิดการกระทบกระเทือนได้ด้วย เกิดพลาดหลุดมือตกกระแทกพื้น หรือแตกหักเสียหายขึ้นมาก็ชำรุดเสียหายไปอีก
5. เรื่องฝุ่นละอองต่าง ๆ
สุดท้ายก็คือเรื่องของฝุ่นละอองที่ด้วยความที่ปัจจุบันฝุ่นเยอะมาก PM 2.5 ด้วยก็มีโอกาสที่จะเข้าไปภายในเครื่องได้ ทำให้การระบายความร้อนออกจากแผงวงจรน้อยลงมาก็เพราะว่าอุดตันนั่นเอง ส่งผลต่อแผงวงจรเกิดการเสียหาย
และนี่ก็เป็นการดูแลทีวี oled ที่ท่านใดสนอกสนใจซื้อ หรือมีอยู่แล้วสามารถนำไปปรับใช้ได้เลยตามต้องการ ไม่ใช่การดูแลที่ลำบากลำบนที่ก็ควรต้องใส่ใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ต้องส่งซ่อม หรือซื้อใหม่อยู่บ่อย ๆ แล้ว ยิ่งเป็นแบบโอแอลอีดีด้วยอยู่คู่ดูกันเพลิดเพลินได้อย่างสบายใจไร้กังวล

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA0703

338


การเลือกซื้อกล่องเก็บของนั้นช่วงปัจจุบันเป็นที่นิยมสูงมากด้วยความที่มีส่วนช่วยในการจัดเก็บของได้เป็นอย่างดี เป็นระบบระเบียบเพิ่มขึ้น และหากคุณ ๆเป็นอีกคนที่สนใจกำลังมองหากล่องเก็บของแบบมีล้อแบรนด์ STACKO ที่นับว่าเป็นอีกฟังก์ชันใช้งานสะดวกสบาย เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาบอกต่ออย่างละเอียด

4 กล่องเก็บของ STACKO ชนิดมีล้อ เพื่อการจัดเก็บของอย่างมีระเบียบ
1. STACKO S105 A 100 ลิตร 50x70x42 ซม.
เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกเนื้อหนามาก ทนทาน คุณภาพดีสุด สามารถวางซ้อนกันได้อย่างดี ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของได้เยอะขึ้น เป็นกล่องใสสามารถมองเห็นสิ่งของที่อยู่กล่องได้เป็นอย่างดีทำให้ทราบได้ว่ามีอะไรในนั้นบ้าง หูล็อกมี 2 ข้าง ปิดแน่นสนิท เพื่อป้องกันน้ำ และฝุ่นไม่ให้เข้าไปในกล่องได้ ด้วยความแข็งแรงสามารถวางซ้อนกันได้ เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บได้มาก เหมาะสมกับการใช้งานเก็บสิ่งของอเนกประสงค์ ราคาแค่เพียง 359 บาท
2. STACKO 70552 ไซซ์ L สีใส
การใช้งานกล่องอเนกประสงค์จัดเก็บทุกสิ่งได้อย่างดี STACKO 70552 ไซซ์ L สีใสนี้นั้นมีความแข็งแรง เหนียว สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างดี โดยที่พลาสติกเป็นของดีมีคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐาน มีฝาเปิด – ปิดให้เราและล็อกได้อย่างหนาแน่น  ป้องกันทั้งฝุ่นและสิ่งสกปรก มีล้อเลื่อนให้ด้วย ทำให้การเคลื่อนย้ายง่ายมากยิ่งขึ้น ประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ด้วยการวางกล่องซ้อนกันได้ ตัวกล่องแบบใสที่ทำให้เรามองเห็นของที่เก็บภายใน ราคาแค่ 409 บาท
3. STACKO 70550 มีล้อ ฝาหน้าสีใส
STACKO 70550 กล่องช่วยเก็บของที่มีล้อ และเป็นลักษณะการดีไซน์ฝาหน้าสีใสที่พลาสติกคุณภาพเกรด A ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสุด ตัวกล่องมีความใสที่ช่วยให้เราได้ค้นหาของง่าย มีความแข็งแรง เหนียวแน่นหนา สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ฝาเปิด – ปิดล็อกได้อย่างง่ายมาก ป้องกันฝุ่นละออง สิ่งสกปรกได้ดี มีล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้ดีเนื่องจากสามารถวางซ้อนกันได้ ราคาแค่ 209 บาทเท่านั้น
4. กล่องช่วยเก็บของ มีล้อ STACKO 7612 55 ลิตร
อีกกล่องพลาสติก STACKO ชนิดมีล้อที่ผลิตด้วยพลาสติกหนา เหนียวแน่น ทำให้อายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น มีล้อเลื่อน 4 ด้านที่สามารถไถเคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย ฝากล่องปิดได้แบบมิดชิด ช่วยป้องกันไรฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศได้อย่างดี ด้วยความจุ 55 ลิตรทำให้สามารถเก็บของอเนกประสงค์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ราคาจำหน่ายเพียง 289 บาทเท่านั้น

สำหรับกล่องเก็บของแบรนด์ STACKO นั้นมีฟังก์ชันล้อที่เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น รวมไปถึงยังมีฝาปิด และมีความแข็งแรงที่วางซ้อนกันได้ดี ยิ่งมีฝาปิดอีกไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปได้แน่นอน เลือกซื้อตามไซซ์ที่เหมาะจึงสามารถจัดเก็บของได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP1206

339


เมื่อกล่าวถึงแปรงทำความสะอาดนั้นปัจจุบันนี้มีให้เราเลือกหลากหลายลักษณะมาก โดยที่คุณ ๆสามารถเลือกใช้ให้ได้อย่างตอบโจทย์มากที่สุด กระนั้นบางคนอาจจะเกิดความงงว่ามีกี่แบบ แบรนด์ไหนน่าสนใจมาก ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาเสนอแนะให้ได้รู้จักอย่างเจาะลึกมากยิ่งขึ้น ใครใคร่ต้องการรู้แล้วก็ไปติดตามพร้อมกันกับเราได้เลย

พาให้ได้ทราบถึงแปรงทำความสะอาด ที่พร้อมใช้งานตอบโจทย์
1. แปรงขัดกระเบื้องร่องยาแนว SCOTCH-BRITE ANTIBACTERIAL
มาเริ่มต้นกันที่แปรงขัดกระเบื้องร่องยาแนว SCOTCH-BRITE ANTIBACTERIAL นี้นั้นเป็นตัวช่วยจัดการคราบสกปรกได้อย่างง่ายๆ ไม่ทำร้ายพื้นผิวกระเบื้อง สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ พื้นที่ร่องยาแนว ฯลฯ ที่ทำจากวัสดุไนลอนคุณภาพ ทนทาน แข็งแรงต่อทุกการใช้งาน ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรียบนขนแปรงที่ทำให้เราทำความสะอาดได้อย่างแน่ใจ ด้ามจับเป็นซิโคนช่วยให้จับได้ถนัดมือ ช่วยเพิ่มความสบายในการใช้งาน ราคาจำหน่ายเพียง 89 บาทเท่านั้น
2. แปรงขัดทองเหลือง ตราสมอ ซุปเปอร์บิ๊ก
แปรงขัดพื้นทองเหลืองที่น่าสนใจแบรนด์สมอ ซุปเปอร์บิ๊กที่ผลิตจากพลาสติก PP เกรด A ที่มีโฟมผสมให้มีน้ำหนักเบา โดยที่ด้ามจับจะทำจากพลาสติกอย่างดี ที่ขนาดความยาว รูปทรงที่ขนาดพอดี แผ่นยางรีดน้ำที่ขนาดใหญ่มากทำให้พื้นแห้งได้ไว ขนแปรงเป็นขนทองเหลือง ช่วยขจัดคราบฝังแน่นให้ออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ราคา 235 บาท
3. แปรงล้างห้องน้ำ สุขภัณฑ์ BE MAN
ที่เป็นลักษณะหัวแปรงทรงกลมที่ทำจากพลาสติกเกรด A ที่มีความเหนียวแน่น ไม่หลุดง่าย ทนทานต่อการขัดห้องน้ำ ขัดโถสุขภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี เข้าถึงเฉพาะจุดได้ง่ายๆ แม้จะซอกซอนเท่าใด ปลายด้ามออกแบบให้แขวนจัดเก็บได้ ด้ามจับมีพื้นผิวขรุขระ เพื่อให้การจับใช้งานถนัดมือมากขึ้นด้วย มีฐานที่วางจัดเก็บเข้าที่เป็นระเบียบได้อย่างดี พร้อมใช้งานได้เสมอ ราคา 49 บาท
4. แปรงไนลอนซักผ้า YJ-2637 ACCO
แปรงซักผ้าแบบไนลอนแบรนด์ YJ-2637 ACCO ที่วัสดุทำมาจากพลาสติกที่ดี มีความทนทานต่อการใช้งานสุด ๆ ด้ามจับมีการออกแบบที่ช่วยจับแล้วถนัดมือ ไม่ทำให้ลื่น ขนแปรงทำจากไนลอน เหมาะกับการขัดเสื้อผ้าขัดพื้นผิวทั่วไป ที่สามารถขัดทำความสะอาดได้แบบหมดจดเข้าถึงทุกซอกมุมได้อย่างดี มีรูเอาไว้แขวนจัดเก็บได้ ราคาจำหน่ายเพียง 69 บาทเท่านั้น

แปรงทำความสะอาดนั้นจะเห็นเลยว่ามีหลายประเภทมาก และเราก็สามารถเลือกซื้อมาใช้งานให้ตอบสนองความต้องการของตนเองได้เลยตามต้องการ แต่กระนั้นเมื่อมีการใช้งานก็ต้องรู้จักข้อควรระวังต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เรียนรู้ได้จากคำแนะนำที่ควรมีบอกเราอย่างชัดเจน เพื่อให้การดูแลผลิตภัณฑ์ผ่านไปได้อย่างดี ไม่ใช่ใช้พักเดียวชำรุดเสียหายก็ต้องมาเสียสตางค์เปลืองเวลาไปซื้อใหม่ไปอีก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0204

340


เมื่อพูดถึงไม้ม็อบขึ้นมาแล้วนั้นบางคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ายุคปัจจุบันมีรูปแบบไม้ม็อบดันฝุ่นด้วย กระนั้นในการใช้งานนี้ก็จะมีอะไหล่ต่าง ๆ ให้เราได้ซื้อแยกร่วมด้วยเผื่ออย่างใดอย่างหนึ่งเกิดเสียหายก็สามารถหาเปลี่ยนได้ตามต้องการ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมมาแนะนำ บอกเลยว่าน่าสนใจและประสิทธิภาพการทำงานปังมากด้วย

แนะนำอะไหล่ไม้ม็อบดันฝุ่นประสิทธิภาพการทำงานปัง
1. อะไหล่ม็อบคอตตอนดันฝุ่น NEW SPONGE MM-1-D17
เป็นอะไหล่ม็อบดันฝุ่นที่ผลิตจากผ้าฝ้าย NEWSPONGE ที่สามารถทำความสะอาดครบได้หมดจด ช่วยประหยัดน้ำได้ต่อวัน 10 ลิตร มีขนาด 17 นิ้ว ซอกซอนได้ทุกซอกมุม สามารถทำความสะอาดได้ทั้ง ปาร์เกต์ แกรนิต หินอ่อน พื้นไม้ ฯลฯ หลังใช้งานให้ตากแห้งทุกครั้ง ซึ่งอะไหล่ชิ้นนี้จำหน่ายในราคา 210 บาท
2. อะไหล่ม็อบไมโครไฟเบอร์กลม BE WISH
ที่จะเป็นลักษณะไมโครไฟเบอร์แบบกลมที่ช่วยจัดการคราบสิ่งสกปรกได้อย่างดี ซึมซับน้ำ ดักจับฝุ่นได้ดี ทำความสะอาดได้ทั้งหินแกรนิต หินอ่อน พื้นไม้ปาร์เกต์ หินขัด เซรามิก กระเบื้องยาง ฯลฯ น้ำหนักเบาถอดเปลี่ยนง่าย สามารถถอดซักออกจากไม้ม็อบถูพื้นทำความสะอาดได้ง่ายดาย ใช้ร่วมกับชุดถังปั่นดับเบิลวอชสเตนเลส ถังปั่นโปรแม็กซ์ หรือถังปั่นคอมแพ็กได้เลย โดยผลิตภัณฑ์นี้จำหน่ายในราคา 199 บาทเท่านั้น
3. ถังบิดม็อบคันโยกมีล้อ BE MAN BMU02
ทำจากพลาสติกคุณภาพที่ดี ไม่เปราะบาง น้ำไม่รั่วซึม เนื้อหนา เป็นชุดบีบที่มีระบบสปริง ที่ช่วยน้ำออกจากผ้าแบบที่ไม่ต้องออกแรง โดยที่ตัวคันโยกใช้งานไม่ยาก มียางหุ้มจับถนัดมือ มีชุดบีบน้ำระบบสปริง ที่บีบน้ำออกจากผ้าได้โดยไม่ต้องออกแรง มีล้อเลื่อนด้วยแต่ไม่ทำให้พื้นเป็นรอยใช้กับไม้ถูพื้นชนิดแบน ที่มีหน้ากว้างไม่เกิน 8 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ขนาดกลาง โดยถังบิดม็อบจำหน่ายในราคาเพียงแค่ 1,190 บาทเท่านั้น
4. รีฟิลผ้าเปียกดันฝุ่นอเนกประสงค์ FARCENT W-7065 B
รีฟิลไม้ถูพื้นแบบอเนกประสงค์ที่เป็นกลิ่นใบชาที่ได้ความหอมสดชื่นจากธรรมชาติ ที่ผ้าสามารถใช้ได้ 2 ด้าน สามารถใช้ควบคู่กับไม้ม็อบอเนกประสงค์ได้ ผิวสัมผัสออกแบบมาเพื่อเก็บฝุ่นได้โดยเฉพาะ เนื้อผ้าเป็นแบบ Non - Woven ที่สามารถใช้ได้กับกระเบื้องลามิเนต พื้นไม้ ปาร์เกต์ หินอ่อน ผนัง หรือพื้นผิวเรียบ ๆ โดยรีฟิลผ้าเปียกนี้ขายราคา 79 บาท

ต้องยอมรับว่าการใช้งานไม้ม็อบดันฝุ่นนั้นก็จะมีอะไหล่อุปกรณ์ใด ๆ ให้เราได้ใช้งานหลากหลาย โดยขณะที่ใช้งานแล้วเกิดเก่า ชำรุดก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนใหม่ได้ตลอด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้การใช้งานไม้ม็อบของคุณ ๆแบบดันฝุ่นจะผ่านไปได้อย่างดี และไม่เกิดปัญหาใด ๆ ภายหลัง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0208

341


ยุคปัจจุบันหากลองสังเกตดูแล้วในงานศพหลาย ๆ งานมักจะให้เป็นพวงหรีดพัดลมแสดงความเสียใจมากกว่าแบบพวงหรีดดอกไม้ หรือนาฬิกาเลยก็ว่าได้ กระนั้นมีเรื่องที่ต้องทราบหลากหลายซ่อนอยู่ด้วย และเพื่อให้การเลือกซื้อเลือกหาของคุณ ๆเป็นไปได้มั่นใจ เรารวบรวมเรื่องต้องทราบ มาไว้ให้ศึกษาเบื้องต้นแล้วผ่านบทความนี้

มัดรวมเรื่องต้องทราบของการใช้งานพวงหรีดพัดลม
1. จุดเริ่มต้นของการใช้พวงหรีดประเภทนี้
สำหรับจุดเริ่มต้นนี้นั้นคาดว่าเป็นที่นิยมจากเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่ได้พูดคุยกับญาติโยมถึงปัญหาของพวงหรีดดอกไม้สดที่เมื่อเสร็จงานแล้วก็เ.่ยวเฉา ส่งกลิ่นเหม็น จึงมีการนำเสนอให้ลองเปลี่ยนมาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และพัดลมก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับหน้าร้อนในบ้านเราที่มีแทบตลอดปี จึงตัดสินใจใช้เรื่อยมา
2. เหตุผลที่พวงหรีดประเภทนี้เป็นที่นิยม
ต้องยอมรับเลยว่าการใช้งานพัดลมพวงหรีดนี้นั้นมีความน่าสนใจ เป็นประโยชน์กับใครหลายคนมาก ไม่ว่าในด้านของความสวยงาม คงทน ที่มีราคาย่อมเยา สามารถวางตั้งได้กับทุกพื้นที่ ด้วยน้ำหนักที่เบาและเราสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ไม่มีกลิ่นฉุนของดอกไม้กวนใจ ทั้งนี้เพราะบางคนในงานอาจไม่ชอบกลิ่นดอกไม้ หรือแพ้เกสรของดอกไม้บางชนิดเป็นอันตรายไปอีก ทั้งจบงานก็ยังสามารถนำไปใช้ต่อ หรือบริจาคให้กับวัด โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ หรือมอบให้คนที่ขาดแคลนยังได้ ที่สำคัญในยุคที่ขยะเยอะแบบนี้ก็ช่วยลดการเกิดขยะใหม่ การเผาไหม้ที่หากเป็นพวงหรีดดอกไม้ต้องทำซึ่งส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
3. เราสามารถเลือกยี่ห้อพัดลมได้เลย
แน่นอนว่าการที่เราจะซื้อหรีดพัดลมสักเครื่อง เราสามารถเลือกแบรนด์ได้เองเลยตามต้องการ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ที่ดูจะได้รับความนิยมก็คงหนีไม่พ้นยี่ห้อ Hatari ที่มีให้เลือกหลากหลายขนาดตั้่งแต่ 18 นิ้ว 22 นิ้ว 16 นิ้ว หลากหลายประเภททั้งแบบพัดลมสไลด์ พัดลมอุตสาหกรรม บางเครื่องปรับความสูง – ต่ำได้ด้วย ซึ่งสนนราคาก็จะมีแตกต่างกันออกไปราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,400 ไปจนถึง 3,000 บาท

และหากว่าท่านไหนที่นำพวงหรีดพัดลมกลับไปใช้ที่บ้านก็อยากให้ดูแลรักษาอย่างดีด้วย เพื่อลดความเสี่ยงชำรุดเสียหายไวกว่าที่ควรจะเป็น หรือก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าจะถอดปลั๊กออกทุกครั้งที่เลิกใช้งานโดยเฉพาะรุ่นที่เป็นระบบรีโมทคอนโทรล หรือหากไม่ใช้ก็ไม่ควรเปิดค้าง เพื่อให้มอเตอร์พักบ้าง ไม่ทำให้เสื่อมสภาพไว ควรวางตั้งไว้ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ทำให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างดี  เลือกความแรงความเร็วให้เหมาะสมกับสถานที่ ไม่ทำให้เสื่อมสภาพไวเช่นกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0512

342


เผื่อว่าใครที่ให้ความสนใจกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศมาไว้ติดบ้าน แต่ก็ยังเลือกไม่ได้ระหว่างแบรนด์ Philips VS ยี่ห้อ Sharp ในคราวนี้เราไม่ทำให้ผิดหวังรวบรวมมาให้ลองศึกษาถึงความแตกต่างที่มีในแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ ซึ่งจะเป็นเช่นใด จะน่าสนอกสนใจมากแค่ไหนนั้นไปติดตามพร้อมกันได้เลย

เทียบความต่างเครื่องฟอกอากาศ 2 ยี่ห้อ Philips VS Sharp
1. ยี่ห้อ Philips
เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่ดีมาก ๆ มีให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายดีไซน์ และหลากหลายราคา ซึ่งเราสามารถเลือกได้เลยตามต้องการ
- PHILIPS AC0820/20 49 ตร.ม. : ที่ประสิทธิภาพสูงกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก 0.003 ไมครอนได้ แสดงสีไฟแบบเรียลไทม์ถึงคุณภาพอากาศ 4 ระดับ มีระบบอัจฉริยะกรอกอากาศให้อัตโนมัติ การกรองเป็นแบบระบบหมุนเวียน 3 มิติ ฟอกอากาศในพื้นที่ 20 ตร.ม.หรือน้อยกว่า ราคา 3,290 บาท

- PHILIPS AC1715/21 78 ตร.ม. : ที่สามารถกำจัดไวรัสและฝุ่นละอองได้สูงสุด 99.9% ระดับเสียงรบกวน 15 db ทำงานเงียบเป็นพิเศษ และไม่มีแสงรบกวน เปิดใช้งานได้ตลอดคืน กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ 0.003 ไมครอน ได้ 99.97% ราคาเพียง 7,990 บาท

- เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0850/21 49 ตารางเมตร : มีเทคโนโลยีของฟิลลิปส์เฉพาะที่ช่วยกรองอากาศให้บริสุทธิ์ อย่าง NanoProtect HEPA และ Active Carbon Filter เชื่อมต่อแอปได้ผ่าน Wi – Fi สั่งการเครื่องได้ทุกที่ทุกเวลา มีเซนเซอร์ AeraSense ที่สแกนอากาศแม่นมาก 1,000 ครั้งต่อวินาที ตรวจจับมลพิษที่เป็นอันตราย ราคา 5,490 บาท

2. ยี่ห้อ Sharp
มาต่อกันที่เครื่องฟอกอากาศ sharp บ้าง ซึ่งแบรนด์นี้ก็มีผลิตภัณฑ์ให้เราเลือกเยอะเหมือนกัน มีฟังก์ชันที่น่าสนใจ พร้อมทำให้อากาศภายในห้องบริสุทธิ์ขั้นสุด
- SHARP FP-J40TA-W 30 ตารางเมตร : ที่มีแผ่นกรองฝุ่น HEPA ดักจับฝุ่นละอองได้ขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ที่เข้มข้น ฆ่าเชื้อรา เชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียในอากาศได้ดี มีเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่น ไฟแสดงความสะอาดของอากาศให้ทราบด้วย ราคาเพียง 8,990 บาทเท่านั้น

- SHARP KC-G40TA-W 28 ตารางเมตร : ที่มีเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์เข้มข้น ช่วยกำจัดอนุภาคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีระบบเซนเซอร์ 6 ประเภท ที่ตรวจจับสภาพแวดล้อมฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ดีไปจนถึงแสงสว่าง มีฟีลเตอร์แผ่นกรอง HEPA 3 ชั้น ดักจับฝุ่นละออง กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี ราคาเพียง 10,990 บาท

- SHARP FU- A80TA-N 62ตารางเมตร : มีระบบ HEPA ที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองได้มากถึง 99.97% มีความสามารถสลายฤทธิ์สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ไรฝุ่น มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์เข้มข้น ฆ่าเชื้อรา เชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อไข้หวัดนก มีแผ่นกรองกลิ่นที่ช่วยสลายกลิ่นอับชื้นต่าง ๆ อากาศในห้องบริสุทธิ์ สดชื่นมากขึ้น ราคา 9,990 บาทเท่านั้น

จะเห็นได้เลยว่าความต่างเครื่องฟอกอากาศ 2 ยี่ห้อ Philips VS Sharp นี้นั้นมีให้เห็นชัดเจนเลยทีเดียว ตั้งแต่เรื่องฟังก์ชัน การทำงาน รวมไปถึงราคาที่เราควรต้องพินิจพิเคราะห์ให้ดี เอาที่ตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0201

343


บอกเลยว่าไดร์เป่าผมถือเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านมีไว้ใช้งาน กระนั้นหากใครที่กำลังมองหาแต่ไม่ทราบว่าจะเลือกแบบไหน ที่จริง ก็ควรต้องไตร่ตรองจากสิ่งที่มีค่าอย่างผมเราด้วย ซึ่งเราก็ได้รวบรวมแนวทางการเลือกให้เข้ากับลักษณะผมและปัญหามาเสนอแนะ ซึ่งจะเป็นเช่นไรนั้นไปติดตามกันได้

แนวทางการเลือกซื้อไดร์เป่าผมให้เหมาะสมกับผมตัวเอง
ลักษณะผมและปัญหาผมมีความสำคัญมาก ๆ กับการจะเลือกซื้อเลือกหาไดร์มาเป่าใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีให้เราเลือกหลายยี่ห้อมาก อย่าง ไดร์เป่าผม Philips, dyson, LESASHA, PANASONIC และอื่น ๆ ทั้งนี้ เราควรรู้ตัวด้วยว่าตัวเองมีลักษณะและปัญหาผมอย่างไร เพื่อให้การใช้งานเหมาะสมมากที่สุด โดยลักษณะ + ปัญหาที่ว่าคือ
- คนที่มีผมแห้ง : เสนอแนะให้เลือกไดร์แบบไอโอนิก เพราะไดร์ประเภทนี้จะมีการปล่อยไอออนที่ทำให้ผมมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ผมก็จะดูเรียบและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เป่าเสร็จแล้วดูเป็นคนละคนเลยทีเดียว
- คนที่มีผมบาง : แนะนำให้เลือกใช้เป็นไดร์แบบเซรามิก เนื่องมาจากจะมีสารเคลือบด้านในที่ช่วยให้ความร้อนมีระดับที่สม่ำเสมออยู่ตลอด ผมก็จะแห้งเร็ว ไม่ต้องมาจ่อความร้อนนาน ๆ เหตุเพราะจะทำให้ผมเสีย ผมร่วงได้ง่าย
- คนที่มีผมหยิก หรือหยักศก : เป็นกลุ่มคนที่จะมีผมฟูมากกว่าคนผมตรง เสนอแนะให้เลือกใช้ไดร์ที่เป็นแบบกระจายลม โดยที่หัวไดร์แบบนี้จะช่วยพัดลมให้เข้าเส้นผมมากขึ้น ไม่สาดไปมั่วแบบไร้ทิศทาง เส้นผมก็จะเป็นลอนเด้งสวย ไม่ทำให้เส้นผมฟูกระจายมั่วซั่ว ดูผมฟูกว่าเดิมไปอีก
- คนที่มีเส้นผมเล็ก : แนะนำเลยสำหรับคนที่มีเส้นผมเล็กให้เลือกเป็นไดร์ที่สามารถปรับความร้อนได้หลาย ๆ ระดับ เพื่อให้ผมได้รับการเป่าแล้วแห้งง่าย  แห้งเร็ว ให้ใช้ความร้อนน้อยที่สุด แน่นอนว่าไดร์เป่าผม dyson, Philips, dyson, LESASHA, PANASONIC, COOL A STYLER ฯลฯ มีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลายราคา

ทั้งนี้ ในการเป่าผมเรายังควรเลือกลมในการเป่าให้เหมาะสมด้วย ซึ่งไดร์เป่าผมหลาย ๆ ยี่ห้อก็มีให้เลือกด้วย ซึ่งลมร้อนจะเหมาะกับคนที่อยากให้ผมแห้งไว และจัดทรงได้ทั้งตรง วอลลุ่ม ส่วนหากเป็นลมเย็นก็จะเหมาะสำหรับคนไม่รีบ ไม่ทำให้ผมแห้งกรอบไว ทั้งยังมีส่วนช่วยล็อกผมให้อยู่ทรงจึงมักจะเลือกใช้หลังจากที่เอาลมร้อนเป่าจัดทรงแล้วเรียบร้อย ลองนำไปปรับใช้กันดูได้ ซึ่งก็หวังว่าการเลือกซื้อของท่านจะกลายเป็นเรื่องสะดวก ตัดสินใจได้อย่างมั่นอกมั่นใจมากขึ้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP160101

344


การใช้งานเตาอบไฟฟ้าในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมสำหรับหลาย ๆ ครอบครัวไม่น้อย ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีกันเลยเชียว โดยเฉพาะภายในหอพัก หรือคอนโดมีเนียม แต่การที่เราใช้งานสม่ำเสมอบางครั้งอาจจะมีคราบติดแน่นอยู่ด้วย และการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เครื่องชำรุดก่อนถึงอายุการใช้งาน วันนี้เราจึงอยากเสนอแนะเทคนิคขจัดคราบที่ต้องทำให้ไวแบบง่าย ๆ มาบอกต่อ

เทคนิคการขจัดคราบที่เตาอบไฟฟ้าแบบง่าย ที่ใครๆก็ทำได้
ต้องบอกเลยว่าทริคการขจัดคราบที่เราจะบอกต่อไปนี้ก็เหมาะสำหรับการทำความสะอาดภายในไมโครเวฟด้วย ซึ่งถือเป็นทริคที่ทำได้ง่าย ๆ ที่แม้ใครจะไม่เคยทำมาก่อนก็สามารถทำได้ คือ
1. โรยเกลือช่วยขจัดคราบ
ที่หากบ้านใดชื่นชอบการทำอาหารด้วยเนื้อสัตว์ใส่เข้าเตา ก็อาจพบเจอกับคราบอาหารที่หกเปรอะภายในเตาอบได้เป็นจุด ๆ ซึ่งนับเป็นคราบที่ทำความสะอาดด้วยผ้าเช็ดยาก แต่ก็แก้ไขได้ด้วยการโรยเกลือเข้าไปในถาดก่อนที่อาหารจะสุกเต็มที่ แล้วปล่อยให้เตาทำงานต่อไป เมื่ออาหารสุก คราบที่เหนียว ๆ ก็จะกลายเป็นเม็ดเกลือสีดำเช็ดได้ง่ายมาก
2. ใช้เบกกิ้งโซดาเช็ด
นำเสนออีกทริคที่ช่วยได้เช่นกันก็คือการนำเบกกิ้งโซดา 2 ส่วนมาผสมกับน้ำ 1 ส่วน แล้วก็เอาไปป้ายทิ้งไว้ภายในเตาประมาณ 5 – 6 นาที ต่อไปก็เอาฟองน้ำไปชุบน้ำเปียกหมาด ๆ มาเช็ดให้ทั่ว เท่านี้การทำความสะอาดคราบก็ออกได้หมดจดแล้ว
3. ใช้ผงซักฟอกจัดการ
หลาย ๆ คนอาจคาดไม่ถึงกับเทคนิคในการใช้ผงซักฟอกที่ช่วยในส่วนของตะแกรงเตาอบไมโครเวฟที่มักมีคราบติดแน่น ให้เอามาโรยให้ทั่วตะแกรงเลย จากนั้นก็เปิดเตาอบเปล่า ๆ แล้วทิ้งไว้ เมื่อตะแกรงร้อนก็นำออกมาโรยผงซักฟอกให้ทั่วใช้ทิชชูเปียกมาคลุมผงซักฟอกนี้ไว้ 15 นาที เท่านี้คราบที่ติดอยู่ก็หลุดร่อนออกหมดแล้ว
4. ใช้ทิชชูเปียกเช็ดไปเลย
นับว่าเป็นการทำความสะอาดภายในเตาอบที่ง่ายดายมากที่สุด กับการใช้ทิชชูเปียกเช็ดทำความสะอาดหลังจากที่เปิดใช้งานนำอาหารออกมาแล้ว โดยเอาเข้าไปอบต่อภายใน 3 – 5 นาที ซึ่งน้ำยาที่มีจะคลายความเหนียวให้กับคราบต่าง ๆ ได้ รอทิชชูเย็นหลังจากนั้นก็เริ่มต้นเช็ดทำความสะอาดได้เลย รับรองว่าคราบต่าง ๆ จางลงชัวร์
อย่างไรแล้วนั้นจริง ๆ ก็มีน้ำยาทำความสะอาดเตาอบไฟฟ้าโดยเฉพาะอยู่ด้วยเราสามารถนำมาเช็ดที่ตะแกรงให้ทั่วได้เลยหากมีคราบฝังลึกติดอยู่ แล้วเอาตะแกรงเข้าไปอบ 3 นาที เพียงเท่านี้คราบที่ติดอยู่ก็หลุดร่อนสามารถทำความสะอาดเพิ่มเติมได้ง่ายมากขึ้น

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0809

345


เชื่อเหลือเกินว่ามีหลาย ๆ ท่านที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟ และมักจะได้รับคำแนะนำให้เลือกเป็นแบบแรงดัน NESPRESSO CREATISTA PRO ทว่าด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เครื่องละ 27,500 บาท การศึกษารายละเอียดต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนจึงไม่อาจมองข้ามไปได้ และหากใครอยากรู้จักให้มากขึ้นก่อนซื้อไปใช้ เราก็มีมาแนะนำเช่นเคย

เครื่องชงกาแฟแบบแรงดัน NESPRESSO CREATISTA PRO
ถือว่าเป็นเครื่องที่มีราคาสูงไม่น้อยเลยในบรรดายี่ห้อ รุ่นอื่น ๆ กับ NESPRESSO CREATISTA PRO แบบแรงดัน แต่ก็เป็นอีกเครื่องที่พาจิตวิญญาณบาริสต้าในตัวให้ฟื้นคืนชีพ พร้อมเนรมิตเมนูกาแฟต่าง ๆ ได้อย่างดีมีศิลปะ ด้วยเครื่องที่สามารถจัดทำเมนูออกมาได้ถึง 9 เมนูด้วยกัน ได้กาแฟที่ชอบถูกใจแน่นอน ที่ต่างก็ชงได้แบบง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ทันสมัย เพิ่มเสน่ห์ให้แก้วโปรดได้ด้วยการทำลาเต้อาร์ตสวย ๆ ง่ายมาก รสชาติยวนใจกลมกล่อมที่คอกาแฟพลาดไม่ได้
- เป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ออกแบบได้สวยหรู ที่ตัวเครื่องเป็นสเตนเลสมีลายคลาสสิค ทนทาน แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน
- มาพร้อมก้านเป่าฟองนม ที่ช่วยทำฟองนมให้มีความเนียน ละเอียดเหมือนมืออาชีพมาชงเองเลยเชียว
- มีการควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสได้ขนาดใหญ่ ที่มองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ การสั่งการได้ชัดเจนขั้นสุด
- มีถาดรองน้ำหยด แท็งก์นั้น ที่สามารถถอดออกเพื่อเอามาล้างทำความสะอาดได้ตามต้องการ
- สามารถสร้างความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ชงได้เรื่อย ๆ ไม่หวั่นด้วยระบบ Thermoblock
- มีแก้วให้เอาไว้ตีฟองนมได้ ขนาดสูง 10 ซม. x กว้าง 8 ซม. ปริมาณ 460 มิลลิลิตร
- มีโปรแกรที่สามารถกดเพื่อทำความสะอาดเครื่องได้อัตโนมัติด้วย เพื่อการใช้งานที่ถูกสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น

สำหรับการใช้งานเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติแบบแรงดัน NESPRESSO CREATISTA PRO นี้นั้น เหมาะกับการชงกาแฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนไปที่ร้านแบบสบาย ๆ แม้อยู่บ้าน เหมาะสมกับการใช้งานร่วมแคปซูลกาแฟ โดยที่ควรมีการศึกษาคู่มือให้ละเอียดก่อนเริ่มต้นใช้งาน และหลังจากที่ใช้งานเสร็จแล้วควรมีการเทเอาน้ำออกจากแท็งก์น้ำด้วย เพื่อให้เครื่องสามารถใช้งานได้ต่อไปไร้ปัญหากวนใจภายหลัง

ถึงกระนั้นก็ตาม การใช้งานเครื่องชงกาแฟแบบแรงดัน NESPRESSO CREATISTA PRO ก็ยังมีข้อควรระวังที่มือใหม่ควรรู้ไว้ด้วย คือในการจัดวางใช้งานควรให้อยู่ห่างจากความร้อนสูง เปลวไฟ หรือที่ที่มีความเปียกชื้น ควรวางในพื้นที่แห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวกและให้พ้นจากมือเด็ก + สัตว์เลี้ยง น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำดื่มหรือน้ำกรองเท่านั้น และเมื่อมีสัญลักษณ์ขึ้นแจ้งเตือนที่หน้าจอให้ดูข้อมูลการใช้งานเพื่อความปลอดภัยเสมอ

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080203

346


การนอนหลับนับว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเครื่องนอนต่าง ๆ ที่ต้องเอาใจใส่อย่างดี หนึ่งในนั้นคือผ้าปูที่นอนที่มีหลากหลายขนาด แต่หากไม่เอาใจใส่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้ บางท่านเป็นภูมิแพ้ก็มี การได้ทำความเข้าใจถึงเทคนิคการถนอมผ้าปูอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลย และเราก็มีมาแนะนำสร้างความเข้าใจ ให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอไม่ยากอย่างที่คิด
เคล็ดลับถนอมผ้าปูที่นอน รู้ไว้เหมือนได้ผืนใหม่ใช้งานตลอด
1. แยกออกจากเสื้อผ้า
ไม่ว่าคุณ ๆจะซักผ้าปูที่นอน 6 ฟุต 5 ฟุต 3 ฟุต หรือขนาดเท่าไหร่เล็กใหญ่ก็ตาม สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือการแยกซัก โดยต้องแยกออกจากเสื้อผ้า เพราะซิป หรือตะขอที่มีของเสื้อผ้าอาจจะมาขีดข่วนทำให้ผ้าปูของเราเกิดรอยได้ ซึ่งการแยกจะช่วยให้ผ้าปูยังคงมีคุณภาพ และพื้นที่ในการปั่นซักก็มีมากขึ้นทำความสะอาดละเอียดขึ้น
2. เลือกโหมดปั่นรอบที่ต่ำที่สุด
สำหรับการซักผ้าปูด้วยเครื่องนั้นในทุก ๆ ขนาดเราควรเลือกปั่นในโหมดรอบต่ำสุด เพื่อช่วยให้ผ้าปูมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การที่ใช้ความเร็วมาปั่นจะยิ่งทำให้ผ้าปูชำรุดได้ง่าย กลายเป็นความเสียหาย ถ้าไม่อยากให้ผ้าปูขาด ดูเก่า ซื้อใหม่บ่อย ๆ
3. อบแห้งและตากให้ถูกวิธี
ทั้งผ้าปูที่นอน 5 ฟุต 4 ฟุต 3 ฟุต หรือ 6 ฟุตก็ตาม ควรมีการนำไปอบโดยตั้งอุณหภูมิความร้อนระดับปานกลาง แต่ก็อย่าอบนานเกินไปด้วยเหตุว่าเดี๋ยวผ้าปูจะไหม้ได้ ทั้งนี้หากไม่มีเครื่องอบแห้งให้นำไปตากแดดในบริเวณที่อากาศถ่ายเท แต่ก็อย่าไปตากที่ที่แดดจัด ป้องกันไรฝุ่น เชื้อโรค ถนอมผ้าปูได้ดี
4. เลือกน้ำยาสูตรถนอมผ้า
เป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยให้ผ้าปูของคุณดูเหมือนใหม่อยู่เสมอก็คือการเลือกน้ำยาซักที่ควรเลือกใช้เป็นผงซักฟอก หรือน้ำยาซักสูตรถนอมผ้า หลีกเลี่ยงไปเลยกับน้ำยาฟอกขาว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีทำลายเนื้อผ้า ไม่ควรใส่ผงซักฟอก + น้ำยาซักมากเกินไป เนื่องจากจะซักไม่ทั่ว ล้างน้ำไม่ทั่ว แล้วเกิดเป็นอาการแพ้เมื่อสัมผัสกับผ้าปูที่นอน

ในการถนอมผ้าปูที่นอนเหล่านี้นั้นท่านสามารถนำไปปรับใช้ได้เลยตามต้องการ โดยที่ผ้าปูจะขนาดไหนก็ควรได้รับการซักทำความสะอาดเสมอ อย่างน้อยทุก 1 – 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการซักมากที่สุดควรอ่านฉลากที่ติดกับชุดเครื่องนอนให้เข้าใจก่อนซักให้ละเอียดด้วย ว่าเอาไปปั่นในเครื่องซักผ้าได้ไหม เนื่องจากบางผืนบางยี่ห้อก็ไม่สามารถทนทานต่อการซักเครื่องได้นั่นเองก็ต้องเปลี่ยนมาซักมือแทน

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BED0102

347


แนะนำผ้านวมที่ควรมีติดบ้านเอาไว้เลย ใช้งานในช่วงหน้าหนาวเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างดี เพียงเลือก HOME LIVING STYLE OUTLAST ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถป้องกันไรฝุ่นที่ลดความเสี่ยงภูมิแพ้ ซึ่งหากใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์รูปแบบนี้ เลือกแล้วไม่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นยังไง เราไปติดตามกันได้เลย

ผ้านวม HOME LIVING STYLE OUTLAST ติดบ้านไว้คลายหนาว
ซื้อติดบ้านไว้แล้วไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่ๆ เลือกซื้อยี่ห้อ HOME LIVING STYLE OUTLAST เป็นเครื่องนอน Outlast ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่สิ่งทอที่อยู่ในอวกาศ หรือที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ NASA ที่ได้เส้นใยโพลีเอสเตอร์คุณภาพดี มีความหนานุ่ม ช่วยปรับอุณหภูมิ และความชื้นในร่างกายให้เหมาะสมได้อย่างดี ไม่ทำให้เกิดเหงื่อ 50% ไม่มีแบคทีเรียสะสมแน่นอน ช่วยป้องกันไรฝุ่นได้ ลดเสี่ยงภูมิแพ้ และทำให้ร่างกายอบอุ่นนอนหลับง่าย หลับสบายตลอด
- เป็นผ้าห่มนวมที่ได้เส้นใยโพลีเอสเตอร์มาผลิต มีความหนาแน่น ความยืดหยุ่น ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย หลับกันยาว ๆ
- ลดการเกิดเหงื่อเมื่อห่มแล้วได้มากกว่า 30 – 50%  ที่ช่วยปรับอุณหภูมิที่ไม่ให้เกิดความร้อนจนเกินไป หรือเย็นเกินไป
- ช่วยป้องกันไรฝุ่น ไม่ทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมอยู่ น้ำหนักเบา สามารถคืนรูปได้ดี
- มีการรับรองผ่านมาตรฐานส่งออกจากยุโรปที่ปลอดภัย 100% ไม่มีสารฟอกย้อมที่อาจเสี่ยงต่อสุขภาพของร่างกาย
- มีเทคโนโลยี Outlast พร้อมช่วยปรับทั้งความชื้น และความร้อนที่ทำให้ผิวสมดุลนอนหลับสบายใจได้มากขึ้น

สำหรับเครื่องห่ม HOME LIVING STYLE OUTLAST มีให้เลือกหลากหลายขนาด ทั้ง ผ้านวม 6 ฟุต 5 ฟุต 3 ฟุต ฯลฯ ราคาผืนละ 2,790 บาท ที่สามารถนำมาห่อนอนได้จริง ๆ ไม่ใช่เฉพาะหน้าหนาว แต่ยังได้ตลอดปีเลยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย นอกจากนี้ เมื่อมีการใช้งานแล้วสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือการซักทำความสะอาด ที่สามารถซักได้กับมือและเครื่องซักผ้า โดยที่แนะนำให้ซักด้วยน้ำยาถนอมผ้า หรือเครื่องซักที่รอบหมุนต่ำ ที่สำคัญห้ามใช้สารฟอกขาวด้วย ก่อนที่จะนำมาผึ่งแดดให้แห้งในพื้นที่โล่ง โปร่ง เมื่อแห้งแล้วก็นำกลับไปใช้งานได้เลยทันที

ย้ำอีกครั้งเลยว่าหากท่านกำลังมองหาผ้านวมใช้ห่มนุ่ม ๆ คลายหนาวที่ควรมีติดบ้าน แนะนำเป็นแบรนด์ HOME LIVING STYLE OUTLAST บอกได้เลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่แท้ แต่กระนั้นก็มีข้อควรระวังที่ต้องทำความเข้าใจไว้ด้วย คือการเก็บรักษาหากไม่ได้จะใช้งานแล้วให้เก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย และหลีกเลี่ยงการวางใกล้บริเวณที่มีความร้อนสูง เปลวไฟ รวมทั้งใกล้ของมีคม

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BED0105

348


เผื่อว่าใครที่กำลังอยากได้ชุดห้องนอนที่มีกันครบจบ ไม่ลำบากลำบนไปตามหาตามซื้อ แนะนำเลยกับ SB FURNITURE RICCHI สีขาว/G-TWIST ที่มาให้ครบตอบสนองความต้องการแน่นอน แต่จะมีชุดรูปแบบไหน มีความน่าสนใจยังไง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า แต่รับประกันว่านี่เป็นของดีที่ต้องมีซื้อใช้งานกัน

ชุดห้องนอน SB FURNITURE RICCHI สีขาว/G-TWIST มีอะไรให้บ้าง
เพิ่มเติมความโดดเด่นให้กับห้องนอนแบบง่าย ๆ ด้วย เฟอร์นิเจอร์ห้องนอนที่รวบรวมเครื่องนอนเอาไว้โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ขั้นสุด ไม่ว่าจะเป็น
- เตียงไม้ที่มีพื้นผิวราบเรียบ เสมอกัน ยึดพื้นเตียงได้ 12 จุด มั่นอกมั่นใจได้ว่ามีความแข็งแรงสุด ไม่ยุบตัวง่าย รองรับได้ 1,000 กก.กันเลยทีเดียว กระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เมื่อขยับ พลิกตัวไม่ทำให้เกิดเสียงดัง ป้องกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี ลดการเกิดภูมิแพ้ ยืดอายุการใช้งานที่นอนได้ดี
- โต๊ะเครื่องแป้งเป็นแบบยืน มีบานกระจกกว้าง 42 เซนติเมตร มีฟังก์ชันในการวางอเนกประสงค์ มีลิ้นชัก ตู้เก็บของ และตะขอเอาไว้แขวนหมวก สร้อยคอ มีอะลูมิเนียมตกแต่ง เพิ่มความหรูหรา ให้ความโดดเด่นกับชุดนอนอย่างดี
- ตู้เสื้อผ้าบานเปิด ที่มีกระจกเงาอยู่กลางบาน ส่องได้เห็นเต็มตัว ภายในตู้เสื้อผ้ามีรางที่สูงแขวนเดรส เสื้อ มีราวแขวนกางเกงที่แยกให้เป็นสัดส่วนอย่างดี มีชั้นวางของที่มีแผ่นชั้นวางภายใน และลิ้นชักเปิดใช้งานได้ตามต้องการ เน้นการจัดเก็บที่จุใจมาก

ขนาดเฟอร์นิเจอร์เครื่องนอน SB FURNITURE RICCHI สีขาว/G-TWIST
- โครงสร้างของเตียงเป็นแบบ FIRM STRUCTURE SYSTEM ที่แข็งแรงทนทาน มีตัวยึดโครงสร้าง 12 จุด รองรับได้ 800 – 1000 กก. ขยับตัวแล้วไม่เกิดเสียง ป้องกันฝุ่นใต้เตียงได้ด้วย
- โต๊ะเครื่องแป้ง ขนาด 80x35x180 ซม. (WxDxH)
- เตียงนอน 5 ฟุต ขนาด 167x206x90 ซม. (WxDxH)
- ตู้เสื้อผ้าบานเปิด ขนาด 180x59x210 เซนติเมตร (WxDxH)
โดยที่ชุดเครื่องนอนนี้นั้นผลิตจากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เกรด E1 สำคัญสุดคือเป็นเครื่องนอนมาตรฐานระดับยุโรปที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยสาร Formaldehyde ต่ำกว่า 0.005 ppm ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ที่วางขายตามท้องตลาด ที่จะแสบจมูก แสบตา มีกลิ่นฉุน ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในบ้านเราที่ใช้ไม้เกรด E1
ชุดห้องนอน SB FURNITURE RICCHI สีขาว/G-TWIST นี้นั้น ราคา 26,010 บาท ที่สั่งซื้อได้เลยตามต้องการ ทั้งนี้ แนะนำการวางให้อยู่ในจุดที่ถ่ายเทอากาศได้ดี ปราศจากบรรดาแมลงต่าง ๆ ดังเช่น ปลวก มด มอด อย่าวางเฟอร์นิเจอร์อยู่ใกล้ความชื้นสูง ใต้แอร์ หรือใกล้ห้องน้ำ หากถูกน้ำแนะนำว่าให้เช็ดทันทีไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เด็ด อย่าเอาของหนัก ๆ มาวางบนเฟอร์นิเจอร์ การทำความสะอาดไม่ควรใช้วัสดุที่หยาบ แข็ง ผ้าเปียก สารเคมี หรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนมาเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรใช้การผลักหรือลากเมื่อต้องการขนย้ายเพื่อลดความเสี่ยงชำรุดเสียหาย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0101

349


ปัจจุบันผ้าห่มมีให้เลือกมากมายตามต้องการ หนึ่งในนั้นคือชนิดนาโนที่ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก กระนั้นบางคนอาจจะยังไม่รู้จักมาก่อน อยากรู้คืออะไร มีความน่าสนใจยังไง แบรนด์ไหนควรมีติดบ้าน เพื่อการเลือกใช้งานให้เหมาะสมได้สบายใจจึงรวบรวมข้อมูลมานำเสนอ ว่าแล้วก็ไปติดตามกันได้เลย

ผ้าห่มนาโนคืออะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร
สำหรับรูปแบบนาโนนี้นั้นจะเป็นการผลิตที่ได้จากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีขนาดเล็ก 1 – 100 นาโนเมตร ที่มีการผลิตออกมาหลากหลาย ทั้งในเรื่องขนาดที่เลือกให้เหมาะสมทั้งขนาดเตียง 3.5 ฟุต 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต ซึ่งนอกเหนือไปจากรูปแบบผ้าผืนใหญ่ ๆ ก็ยังมีผ้าห่มมีแขนให้เราสวมใส่ป้องกันความหนาวได้ด้วย

กระนั้นคุณสมบัตินั้นมีลักษณะที่นุ่มนวล เรียบเนียน ละเอียด ใช้งานไปนาน ๆ แล้วไม่ทำให้เกิดขุยขึ้นมาได้เลย และไม่กักเก็บฝุ่นในผ้าด้วย หากท่านใดเป็นภูมิแพ้ก็สามารถเลือกใช้งานผ้าประเภทนี้ได้เลย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแน่นอน แต่เรื่องความอุ่นก็อาจจะไม่ได้อบอุ่นมาก แต่ก็สามารถกันน้ำได้ หากซักก็จะแห้งรวดเร็วมากกว่าปกติ สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา น้ำหนักเบาไม่รู้สึกอึดอัดขณะใช้งานห่มนอนหลับ

แนะนำแบรนด์ที่ควรมีติดบ้าน ซื้อไว้ใช้งานได้อย่างตอบโจทย์
1. รุ่นนาโนมีแขน 3 IN 1 HOME LIVING STYLE SUMMER FRUIT
สามารถใช้คลุมตัว สอดแขน สอดมือ สร้างความอบอุ่นร่างกายได้ดี ผ้านาโนอบอุ่น ผิวสัมผัสนุ่มเบาบาง ระบายอากาศได้ดี ไร้กลิ่นอับชื้น แห้งไว ราคา 399 บาทเท่านั้น
2. รุ่นนาโน ME LIVING RABBIES
เป็นผ้าห่มอีกผืนที่น่าสนใจผลิตจากนาโนเนื้อผ้านิ่ม นุ่มลื่น มีความยืดหยุ่นได้ดีไม่หดตัว เบาสบาย ให้สัมผัสที่อ่อนโยน อบอุ่นในทุกครั้งที่ใช้ห่ม ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี แห้งไว ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นแน่นอน ราคา 149 บาท
3. รุ่นนาโน SLEEP LATEX WARMLEAF
ผ้าห่มนาโนที่ช่วยสร้างความอบอุ่นได้จริง ไม่ยับง่าย น้ำหนักเบา สามารถพกพาหรือพับเก็บได้ และยังทำความสะอาดได้ง่ายดายมาก ซักกับเครื่องซักผ้าได้ สีสวยงาม มีลายที่ถูกลิขสิทธิ์ให้ด้วย ราคา 449 บาทเท่านั้น
4. รุ่นนาโน HANSEN
ปิดท้ายที่รุ่นนาโน HANSEN ที่ให้สัมผัสที่ยืดหยุ่น นุ่มสบาย ไม่หดตัวหรือฉีกขาดได้ง่าย เนื้อผ้าระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดง่าย ไร้กลิ่นอับ สีสันสดใสน่ารัก ไม่ซีดจางง่าย ดูแลรักษาพับเก็บง่ายๆ ราคา 229 บาทเท่านั้น

สำหรับผ้าห่มรุ่นนาโนนี้นั้นมีให้เลือกหลากหลายมากในราคาที่แตกต่าง ท่านสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้เลย กระนั้นเมื่อใช้แล้วต้องซักทำความสะอาด และผ้านาโนซักได้ทั้งการซักมือ – ใช้เครื่องซักผ้าที่ช่วยให้กลับมาสะอาดมากขึ้น หวังว่าการใช้งานจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BED0103

350


ท่านใดที่กำลังต้องการหาผลิตภัณฑ์ซิลิโคนยาแนวแบบไร้กรด VS แบบมีกรด ที่จะขอมาเปรียบเทียบดูถึงความต่างว่าเป็นอย่างไร น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้การตกลงใจซื้อผ่านไปได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราไม่รอช้าหยิบมานำเสนอแบบไร้กรดแบรนด์ 3M และแบบมีกรดแบรนด์ NEOBOND QUICK

เปรียบเทียบซิลิโคนยาแนวแบบไร้กรด VS แบบมีกรด
1. ซิลิโคนชนิดไร้กรด 3M 300 มิลลิลิตร
จัดเป็นกาวซิลิโคนชนิดไร้กรดที่น่าสนใจมาก มาในราคาหลอดละ 239 บาทเท่านั้น แบรนด์ 3M ที่ผลิตจากซิลิโคน 100% มีความแข็งแรงทนทานมาก ความยืดหยุ่นสูง ใช้แล้วเนื้อไม่มีไหลย้อยกวนใจ เหมาะกับการอุดร่องยาแนว หรือรอยต่อที่ต้องการการซ่อมแซม ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และสามารถทนต่อแสงรังสี UV ได้ดี มีสารป้องกันยับยั้งเชื้อราผสมอยู่ด้วย ไม่มีกลิ่น ใช้ยาแนวกับอ่างอาบน้ำ สุขภัณฑ์ หรือโถสุขภัณฑ์ ซิงค์ในครัวได้เลยตามต้องการ โดยที่ก่อนจะใช้งานควรมีการทำความสะอาดพื้นผิวที่จะใช้งานให้แห้ง ให้ไม่มีฝุ่น คราบกวนใจด้วย โดยที่ไม่ลืมเรียนรู้ข้อมูลการใช้งานอย่างละเอียด และระยะเวลาที่ตัวซิลิโคนคงรูปที่ 15 นาที และระยะเวลาที่แห้งโดยสมบูรณ์ 24 ชม. (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศ) มีให้เลือกเฉพาะสีขาว

2. ซิลิโคนชนิดมีกรดยี่ห้อ NEOBOND QUICK ขนาดบรรจุ 300 มล.
มาดูความแตกต่างของซิลิโคนอุดรอยรั่ว ชนิดมีกรด NEOBOND QUICK 300 มิลลิลิตร ที่มีฤทธิ์เป็นกรด มีแรงยึดเกาะสูง เนื้อไม่ไหลย้อย ใช้ในงานที่เป็นแนวดิ่งได้ดี มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อสภาพอากาศ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารไม่มีปัญหา ประหยัดเวลาด้วยเนื้อซิลิโคนที่แห้งเร็วมาก ๆ เหมาะกับงานด่วนรีบใช้ เป็นงานทั่วไปที่ใช้อุดร่องรอย รอยต่อ บริเวณต่าง ๆ ที่แตกร้าว อย่างเช่น ขอบวงกบ หน้าต่าง ประตู สุขภัณฑ์ กระจก แต่ด้วยความที่มีฤทธิ์เป็นกรดก็จะไม่เหมาะกับวัสดุโลหะ เหล็ก หรือหินอ่อน แต่กระนั้นในการใช้งานควรจะอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนใช้งาน และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทงานด้วย โดยที่ผลิตภัณฑ์นี้ราคาหลอดละ 114 บาท มีให้เลือกทั้งสีใส สีดำ สีขาว

กระนั้นในการใช้งานซิลิโคนยาแนวทั้งแบบไร้กรด VS แบบมีกรด ควรรู้ถึงข้อควรระวังให้ดี เช่น การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันขณะใช้งานอย่างถุงมือ หน้ากาก หากสัมผัสขณะใช้งานแล้วเกิดการการระคายเคือง ต้องล้างด้วยน้ำสะอาดทันที หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุผิวหยาบ ของมีคม สารเคมีที่ซิลิโคน เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ห้ามอยู่ใกล้เปลวไฟ ใกล้ความร้อน เหมาะสมคือเก็บในพื้นที่แห้ง ที่สำคัญห้ามดัดแปลง แก้ไขสินค้า หรือใช้งานแบบผิดประเภทไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลต่อชิ้นงาน และเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030105

หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 ... 27