ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - โทนี่ วู๊ดดี้

หน้า: 1 ... 10 11 12 13 14 [15] 16 17 18 19 20 ... 26
709
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

723
สำหรับประเทศเมืองร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างเมืองไทย พัดลม ถือว่าเป็นตัวช่วยคลายร้อนในระหว่างวันที่จะขาดไปไม่ได้ แม้ว่าพัดลมจะไม่สามารถทำความเย็นได้เท่ากับเครื่องปรับอากาศแต่ก็มีราคาประหยัด สิ้นเปลืองไฟน้อยกว่า แถมยังย้ายที่ไปไหนมาไหนได้คล่อง ทำให้สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิว 4 พัดลมราคาดีตัวช่วยคลายร้อนที่ท่านควรมีติดบ้านเอาไว้ ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าจะมีพัดลมแบรนด์ไหนรุ่นใดบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. พัดลม hatari Slide Smart L1
ราคาจำหน่าย 1,548 บาท



พัดลม hatari Slide Smart L1 พัดลมไฮเทค ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ทันสมัยดูเรียบหรู ให้ลมแรงเย็นสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถปรับแรงลมได้มากถึง 5 ระดับ และปรับความสูงได้ 6 ระดับ ทำงานด้วยระบบมอเตอร์เทอร์มอลฟิวส์ ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล มาพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง Temperature display ระบบแสดงอุณหภูมิบริเวณโดยรอบ ฟังก์ชั่นตั้งเวลาเปิด-ปิด สามารถเซ็ตได้นานสูงสุด 9 ชม. ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย มอก. 934-2558 และมาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5

2. พัดลม mitsubishi R12A-HRZ BK
ราคา 2,240 บาท


พัดลม mitsubishi R12A-HRZ BK พัดลมตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะในดีไซน์สุดล้ำ เป็นสไตล์การออกแบบจากญี่ปุ่นที่คำนึงถึงเรื่องการประหยัดเนื้อที่พัดลมตัวนี้จึงสามารถพับเก็บได้ มาพร้อมมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ทั้งทนทานและประหยัดไฟ สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ 4 ระดับ และปรับเงยคอพัดลมได้ 35 องศา ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 14001 มีการรับประกันมอเตอร์ยาวนานถึง 5 ปี

3. พัดลม MITSUBISHI LV16-GA SF-GY
ราคา 1,875 บาท



MITSUBISHI LV16-GA SF-GY พัดลม 16 นิ้ว การออกแบบสวยทันสมัย ใช้ระบบมอเตอร์แบบปิดที่มีประสิทธิภาพสูง ทนทานและประหยัดพลังงาน มีระบบ Premium Safety ด้วยการใช้วัสดุ หรือชิ้นส่วนที่ไม่ลุกลามไฟ ฟังก์ชั้นทอร์มอลฟิวส์ตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิมอเตอร์สูงเกิน 140 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันมอเตอร์ไหม้ ที่ฐานมีล้อเลื่อนทำให้สามารถเปลี่ยนที่ได้สะดวก ได้มาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001, มาตรฐาน RoSH และ มาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5

4. พัดลม HATARI HT-S16R2
ราคา 1,298 บาท



พัดลม 16 นิ้ว HATARI HT-S16R2 พัดลมอัจฉริยะ ทำงานด้วยระบบ i-COMFORT สามารถปรับแรงลมเพิ่ม-ลด ได้โดยอัตโนมัติ ทำงานด้วยระบบเซ็นเซอร์ ตามอุณหภูมิห้องที่มีการเปลี่ยนแปลง มีฟังก์ชั่นตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติ ปรับระดับความสูงได้ 5 ระดับ พร้อมเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ เทอร์มอลฟิวส์ และมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงด้วยระบบรองลื่น บอลแบริ่ง มาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5 มีรีโมทคอนโทรลใช้งานได้สะดวกสบาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP05

724
ไฟเส้น LED คือหลอด led เส้นยาวที่มาในลักษณะของริบบิ้น เป็นไฟตกแต่งแบบหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นของตกแต่งเอนกประสงค์สามารถใช้ตกแต่งห้องพัก สถานที่ท่องเที่ยว ผับ บาร์ หรือแม้แต่นำไปตกแต่งรถยนต์ก็สามารถทำได้ตามแต่ไอเดียจะบรรเจิด อีกทั้งยังราคาไม่แพงจึงทำให้ไฟเส้น LED ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ว่าแล้วในวันนี้เราก็จะมาแชร์ประโยชน์ของไฟเส้น LED ของตกแต่งสุดจี้ดที่จะช่วยเพิ่มสีสันให้ชีวิตของคุณ ๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ



1. เป็นของประดับตกแต่งเอนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลาย
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าไฟเส้น LED เป็นของตกแต่งเอนกประสงค์ที่สามารถใช้ตกแต่งสถานที่ ห้องพัก ผนัง กำแพง หรืออะไรก็ตามแล้วแต่ไอเดียจะบรรเจิด ทำให้มันสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย พูดง่าย ๆ คือถ้าต้องการให้อะไรมีความโดดเด่นและดึงดูดสายตามากขึ้น ก็ให้นำไฟเส้น LED ไปตกแต่งได้เลย

2. ให้แสงสว่างได้ต่อเนื่อง และไม่เกิดเงา
ไฟ LED นั้นสามารถให้แสงสว่างได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งแสงของ LED จะแสงที่มองแล้วสบายตาและไม่เกิดเงา ทำให้หลาย ๆ ท่านนิยมติดตั้งเพื่อใช้เป็นไฟนำทางในที่มืด

3. ช่วยสร้างบรรยากาศในแบบที่ปรารถนา
ไฟเส้น LED นั้นสามารถปรับระดับความสว่างและปรับเป็นไฟกระพริบได้อย่างอิสระ(ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นของแต่ละแบรนด์) ช่วยสร้างบรรยากาศตามแบบที่ท่านต้องการ อย่างเช่น ถ้าหากคุณอยากให้ห้องมีบรรยากาศดูอบอุ่น น่าค้นหา ก็สามารถปรับแสงไฟ LED ให้เป็นสีขาวหรือสีส้มอ่อน ๆ แต่ถ้าหากคุณต้องการบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในปาร์ตี้ก็สามารถปรับเป็นไฟกระพริบ led ที่มีสีฉูดฉาดได้เช่นกัน

4. ไม่มีความร้อน ปลอดภัยในการใช้งาน
ไฟ LED นั้นเป็นไฟที่ไม่มีความร้อน ทำให้มีความปลอดภัยสูง สามารถเปิดไฟ LEDทิ้งไว้ได้โดยไม่มีอันตราย

5. ประหยัดค่าใช้จ่าย กินไฟน้อย
ไฟเส้น LED นั้นเป็นของตกแต่งที่สวยมีคลาสแต่ราคามิตรภาพ นอกจากนี้แสงจาก LED เป็นแสงอ่อน ๆ สบายตาทำให้กินไฟน้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย ต่อให้เปิดทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่มีปัญหา

6. สามารถติดได้ได้ทุกมุมของห้อง
สามารถโค้ง บิด งอ ได้อย่างอิสระทำให้สามารถติดตั้งเข้ากับพื้นที่ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมุมห้องที่เป็นเหลี่ยมหรือห้องที่มีลักษณะเป็นโค้งเว้า หรือมุมห้องที่แคบแค่ไหนก็สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย

7. ติดตั้งง่ายๆ
ไฟเส้น LED นั้นเป็นของตกแต่งที่ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้ง่ายๆ เพียงแค่ดูคู่มือท่านก็สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/LIG0407

727
เรื่องขน ๆ พูดเลยว่ากวนใจใครทุกผู้ทุกนาม ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ก็สนใจเรื่องการกำจัดขนกันมากขึ้น นอกจากการกำจัดขนในจุดยอดฮิตที่ต้องดูแลเป็นประจำอย่างหนวด ของคุณผู้ชาย หรือรักแร้ของคุณผู้หญิงแล้ว สมัยปัจจุบันยังนิยมกำจัดขนในจุดอื่น ๆ อีกด้วย ด้วยเหตุนั้น การได้รู้วิธีกำจัดขนเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านด้วยอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ไม่ยากในปัจจุบันก็คงช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก ในครั้งนี้มาดู 3 อุปกรณ์กำจัดขนที่ทั้งหาซื้อได้ง่าย และใช้งานง่ายดายกัน

1. มีดโกนหนวด



มีดโกนหนวด แค่ชื่อก็บ่งบอกการใช้งานอยู่แล้วว่าใช้ทำอะไร แต่บอกได้เลยว่ามีดโกนนี่แหละสามารถกำจัดขนได้ดีและง่ายมากที่สุด ที่ว่าง่ายไม่ใช่แค่วิธีใช้งาน แต่ยังหมายถึงหาซื้อง่ายๆอีกด้วย ไม่ว่าจะตามร้านสะดวกซื้อ หรือห้างก็หาได้ง่าย ๆ นอกจากจะมีราคาจับต้องได้แล้ว ยังสามารถกำจัดขนได้ทุกบริเวณที่ต้องการได้ด้วยตัวเองอีกด้วย ไม่ใช่แค่หนวดเท่านั้น สาว ๆ หลาย ๆ ท่านก็ใช้มีดโกนในการกำจัดขนรักแร้และขนหน้าแข้งด้วยเหมือนกัน

2. เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า



ถัดจากมีดโกนก็คงหนีไม่พ้นเครื่องโกนหนวดไฟฟ้านั่นเอง พูดได้ว่าเป็นวิวัฒนาการของการกำจัดขนก็ว่าได้ เพราะทำให้การโกนหนวดของคุณผู้ชายสะดวกขึ้นมาก ปัจจุบันที่โกนหนวดไฟฟ้าพัฒนาไปไกลมาก ถึงขนาดว่าบางยี่ห้อเคลือบสารสกัดจากว่านหางจระเข้เพื่อเป็นการถนอมผิวบริเวณที่ทำการจำกัดขน และช่วยป้องกันการระคายเคืองที่อาจขึ้นด้วย การกำจัดขนด้วยวิธีนี้อาจจะราคาแพงกว่ารูปแบบแรกหลายเท่า แต่ก็สามารถชาร์จไฟใช้ซ้ำได้จนกว่าเครื่องจะพังเลยทีเดียว แต่ขอเตือนว่าที่โกนหนวดไฟฟ้าเหมาะกับการกำจัดหนวดเท่านั้น ไม่เหมาะกับการกำจัดขนในจุดอื่น ๆ เหมือนกับมีดโกนหนวด

3. เครื่องเลเซอร์กำจัดขน
มาถึงวิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำ ก็คือการใช้เครื่องเลเซอร์กำจัดขนด้วยตัวเองนั่นเอง ยุคนี้ สมัยนี้ใครอยากจะกำจัดขนที่ตำแหน่งไหนก็แค่กดจองคอร์สกำจัดขนในคลินิกเสริมความงามก็กำจัดขนได้ง่าย ๆ แล้ว แต่แน่นอนว่าราคาสูงกว่าอีกสองรูปแบบด้านบนแบบสุด ๆ แต่นวัตกรรมสมัยนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในคลินิกเท่านั้น เนื่องด้วยเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ซื้อเครื่องเลเซอร์กำจัดขนมาใช้งานเองที่บ้านได้แล้ว มีเลเซอร์หลายประเภทให้เลือก แถมมีหลายราคาด้วย ใช้งานได้นาน บางยี่ห้อให้หลายหมื่นช็อตก็สามารถใช้กันได้เป็นปีทีเดียว ประหยัดกว่าเข้าคลินิกเป็นไหน ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกซื้อเลือกหาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ด้วยล่ะ ผิวไหม้ไม่รู้ด้วยนะ

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP160201

728
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

729
หูฟังเปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของเราไปแล้ว โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะเวลาออกไปข้างนอกหรืออยู่ในบ้านก็ตาม การใช้หูฟังเหมือนการได้สร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาอีกใบ ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแค่เพียงใส่หูฟังเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือว่าพูดคุยโทรศัพท์ หูฟังจัดว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว วันนี้จะมานำเสนอหูฟัง 3 ประเภทจาก 3 แบรนด์ดังตามแต่รูปแบบการใช้งานของแต่ละคนกัน

1. หูฟังไร้สาย XIAOMI TRUE 2 BASIC สีขาว



เชื่อว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีท่านใดไม่รู้จักยี่ห้อ XIAOMI แน่ ๆ เพราะไม่ว่าจะออกผลิตภัณฑ์อะไรออกมาก็ใช้งานได้ดีเกินราคาทุกอย่างไป ในครั้งนี้จะมาแนะนำหูฟังไร้สายของเค้าให้ได้รู้จักกัน หูฟังลักษณะนี้เรียกได้ว่าฮิตที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้ เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ใช้หูฟังมีสายกันแล้ว ด้วยความที่พกพาสะดวก เล็ก น้ำหนักเบา สั่งงานได้ผ่านการสัมผัส ไม่ว่าจะรับสาย-วางสาย หรือกดเพลย์-กดพอสก็ทำได้ง่าย ๆ ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง แถมรุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Beamforming ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนระหว่างพูดสายโทรศัพท์ทำให้ปลายสายได้ยินเราอย่างชัดเจนอีกด้วย

2. หูฟังเกมมิ่ง 7.1 SIGNO HP-824 สีดำ



สำหรับเกมเมอร์ที่ผ่านเข้ามาต้องขอแนะนำหูฟังเกมมิ่งรุ่นนี้ของ SIGNO เลย ขอบอกว่าไม่ธรรมดาทั้งนี้เพราะถึงกับติดอันดับหูฟังเกมมิ่งแห่งปี 2021 เลยทีเดียว ก็นอกจากจะหุ้มด้วยหนังเทียมซึ่งทำให้ใส่ได้สบายหูแล้วยังมีน้ำหนักเบา เพิ่มความเก๋ด้วยไฟ LED ที่ทั้งหูฟังและไมโครโฟน พ่วงด้วยสายยาวถึง 2.2 เมตร ระบบซอฟต์แวร์เสียง 7.1 ที่จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมมากขึ้น ไมโครโฟนปรับหมุนได้ ลดเสียงรบกวนรอบข้างด้วย

3. หูฟัง JBL ENDURANCE RUN สีดำ



เดี๋ยวนี้มีกระแสการกลับมาใช้หูฟังมีสายกันอย่างแพร่หลาย สวนกระแสหูฟังไร้สายที่กำลังเป็นที่นิยมของคนหมู่มากอยู่ในขณะนี้ ไหน ๆ จะสวนกระแสทั้งที ก็ขอแนะนำหูฟังดี ๆ จาก JBL ไปเลยดีกว่า แค่ได้ยินชื่อแบรนด์ก็รับรู้ได้ถึงคุณภาพเสียงที่จะได้รับจากหูฟังกันแล้ว นอกจากคุณภาพเสียงที่อัดแน่นยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์สุดเท่ ยางหูฟังนิ่มไม่ระคายผิว แถมมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะสมกับการใช้งานตอนออกกำลังกายด้วย

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA10

730
ในช่วงที่มลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน PM 2.5 บานปลายเกินการควบคุม โควิด-19 ก็ไม่มีท่าทีจะหยุดการแพร่ระบาดลงอีก การเอาใจใส่ตัวของเราเองคงเป็นทางออกที่ทั้งหมดสามารถทำได้ดีที่สุด นอกจากจะใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์กันตลอดทั้งวันแล้ว หากมีอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความมั่นอกมั่นใจได้ก็คงดีไม่น้อย ระยะนี้หลาย ๆ บ้านน่าจะมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านกันอยู่แล้ว ในคราวนี้เลยอยากเสนอแนะให้รู้จักกับเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา 3 รุ่น 3 สไตล์เผื่อใครสนใจพกไว้ใช้งานกัน

1. เครื่องฟอกแบบพกพาหน้ากาก LG AP551ABFA.ABAE



เครื่องฟอกอากาศพกพาแบบแรกที่นำมาแนะนำคือ หน้ากากฟอกอากาศ ของ LG นั่นเอง หน้ากาก LG อันนี้ดูภายนอกอาจจะเหมือนหน้ากากทั่วไปที่นิยมใช้กันอยู่ทุกวันนี้ แต่ทั้งภายนอกและภายในของหน้ากากอันนี้แตกต่างจากหน้ากากธรรมดาทั่วไปอย่างมาก นอกจากจะมีพัดลมที่ช่วยในการระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดีแล้ว ยังมีแผ่นกรองอากาศที่ช่วยฟอกอากาศให้สะอาดก่อนที่เราจะสูดหายใจเข้าไป ภายนอกก็ไม่ได้ทำจากวัสดุเดียวกับหน้ากากอื่น ๆ แต่ทำมาจากซิลิโคนทางการแพทย์จึงทำให้แน่ใจได้เลยว่าปลอดภัย ไร้กังวลอย่างแน่นอน

2. เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา JYE DOUGHNUT



เครื่องฟอกอากาศพกพารุ่นที่ 2 ที่จะมาแนะนำคือของ JYE รุ่น DOUGHNUT มีรูปลักษณ์ที่น่ารัก มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้แบบไม่เคอะเขิน มาพร้อมสร้อยคอทำให้สวมใส่ได้ง่าย ถึงขนาดจะเล็ก แต่บอกเลยว่าจิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยเหตุว่าเจ้าเครื่องนี้สามารถปล่อยประจุลบประมาณ 5 ล้านประจุ/ลูกบาศก์เซนติเมตร เพื่อช่วยในการดักจับฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ หรือ PM 2.5 ก็ดักจับได้หมด ชาร์จไฟแค่เพียง 3 ชั่วโมงก็ใช้งานได้ยาวนานถึง 3 วันเลยทีเดียว

3. เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา JEWELION 1.6ตารางเมตร



เครื่องฟอกอากาศแบบพกพารุ่นสุดท้ายที่ขอแนะนำในวันนี้ก็คือของยี่ห้อ JEWELION ที่เค้าเคลมไว้เลยว่าสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ในรัศมี 1 ตารางเมตร สามารถกรองสารปนเปื้อน และสารพิษร้ายแรงได้ ปล่อยประจุลบ 19 ล้านประจุต่อตารางเซนติเมตร เพื่อดักจับฝุ่นให้ฝุ่นตกลง ภายใน 0.6 วินาที ประสิทธิภาพเหนือชั้นขนาดนี้แต่ราคาไม่ได้ต่างจากหน้ากากฟอกอากาศมากนัก ยิ่งไปกว่านี้ยังมาพร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงาม ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่ายแค่คล้องคอหรือวางไว้ใกล้ ๆ ตัวก็สามารถทำงานได้อย่างทั่วถึง ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้งานได้นานถึง 3 วัน และยังสามารถใช้ได้ในทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้ป่วยหอบหืดอีกด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0203

731
เวลาเราไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ คนส่วนใหญ่คงจะเป็นห่วงการจัดกระเป๋าเสื้อผ้า ว่าจะมีชุดสวยเข้ากับสถานที่และบรรยากาศมากพอหรือเปล่า แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้เครื่องแต่งกายที่ต้องเตรียมให้เหมาะกับสภาพอากาศ บรรยากาศและสถานที่ที่ไปนั่นก็คือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการแคมปิ้งนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ ไฟฉาย เสื่อ ถุงนอน ฯลฯ ส่วนครั้งนี้จะมาแนะนำของ 3 อย่างที่อย่าพลาดที่จะพกไปแคมปิ้งด้วยเป็นที่สุด

1. กระติกน้ำแข็ง



หนึ่งในของที่มีทุกบ้านที่ควรนำไปแคมปิ้งด้วยเป็นอย่างยิ่งก็คือ กระติกน้ำแข็ง นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในบ้าน งานปาร์ตี้บริษัท หรือไปปิกนิกก็ขาดกระติกน้ำแข็งไปไม่ได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็นงานใด ก็ต้องการที่เก็บความเย็นกันทั้งนั้น กระติกแบบนี้ทั้งหาซื้อไม่ยากและใช้งานได้ทนทานนานหลายปี และยังทนต่อสภาพอากาศ นอกจากจะป้องกันความชื้นจากภายนอกเข้าไปในกระติกได้แล้ว ยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย เป็นของที่ราคาไม่แพงแต่เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว

2. ถังเก็บความเย็น



ขั้นกว่าของกระติกน้ำแข็งก็ต้องเป็นถังเก็บความเย็นนี่แหละ กระติกน้ำแข็งอาจรักษาความเย็นได้ประมาณ 10 ช.ม. แต่เจ้าถังนี้สามารถเก็บความเย็นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันกันเลยทีเดียว ใครไปแคมปิ้งไกล ขึ้นเขา ขึ้นดอยแล้วต้องการรักษาความสดของอาหารเอาไว้ สมควรสุด ๆ ที่จะต้องหาซื้อติดบ้านไว้สักถัง ถึงแม้ราคาจะสูงมาก แต่ก็คุ้มค่า คุ้มราคาแน่นอน มีหลายขนาดความจุให้เลือกตามความต้องการ เรื่องความทนทานชนะเจ้ากระติกน้ำแข็งด้านบนแน่นอน ยังไงก็ลองเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานกันดูนะ

3. ถังน้ำดื่ม



ไปแคมปิ้งทั้งที ก็คงไม่มีท่านใดต้องการแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อน้ำบ่อย ๆ แน่ ๆ การซื้อน้ำไปตุนครั้งเดียวแล้วพกถังน้ำดื่มไปด้วยสักถังตั้งไว้นอกเต็นท์ ก็จะช่วยประหยัดเวลา แถมสะดวกต่อการกดดื่มอีกด้วย เนื่องมาจากสมัยนี้ถังน้ำดื่มมีก๊อกกดน้ำในตัว บางรุ่นมีฝาปิดจุกเพื่อป้องกันแมลงหรือสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปได้ด้วย พกพาสะดวก สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ใช้งานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -10 ถึง 50 องศาเซลเซียส ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ๆ แต่ก็ควรระวังความร้อนจัดจนเกินไป เพราะอย่างไรวัสดุก็ผลิตจากพลาสติก ถึงอย่างนั้นก็ล้างเก็บใช้งานได้อีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเก็บกลับไปใช้ที่บ้านหรือนำไปตั้งกลางที่ทำงานก็สามารถทำได้เช่นกัน

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/KIT030501

734
สำหรับผู้หญิงแล้วทรงผมนั้นก็เปรียบเสมือนมงกุฏประดับศีรษะ ที่เป็นเครื่องแสดงออกถึงตัวตนและความงดงามของพวกเธอ ซึ่งถ้าหากจะพูดถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยให้สาว ๆ สามารถจัดทรงผมให้เป๊ะปังก็คงจะหนีไม่พ้น “ที่ม้วนผมไฟฟ้า” อุปกรณ์เอนกประสงค์ที่สามารถ ม้วน ดัดลอน และแต่งทรงผมให้เป็นไปตามใจต้องการ ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิว 4 เครื่องม้วนผมแบรนด์ดัง ของดีคุ้มค่าคุ้มราคา ถ้าอยากรู้ว่าจะมี โรลม้วนผมรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. แกนม้วนผม LESASHA LS0806
ราคา 2,590 บาท



LESASHA LS0806 แกนม้วนผมคุณภาพสูงคุ้มค่า สามารถจัดแต่งทรงผมทั้งม้วนและดัดลอนได้ในขั้นตอนเดียว ตัวเครื่องถูกดีไซน์ให้มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด จับถนัดมือ สามารถพกพาและจัดเก็บได้สะดวก มีจุดดีที่พลังทัวร์มาลีนสีฟ้าช่วยปกป้องและถนอมเส้นผม สามารถปรับอุณหภูมิได้ถึง 4 ระดับ มีฟังก์ชั่นบอกอุณหภูมิขณะใช้งาน มีระบบไฟฟ้า 2 ระบบทำให้ใช้งานได้กับทุกที่ อีกทั้งยังมีการรับประกันตัวเครื่องให้นานถึง 2 ปีเต็ม

2. แกนม้วนผม REMINGTON CI-9132
ราคา 1,890 บาท



REMINGTON CI-9132 เครื่องม้วนผมที่ช่วยให้คุณสามารถจัดทรงสวยได้อย่างมืออาชีพ ด้วยเทคโนโลยี OPTI ตัวแกนจะปล่อยความร้อนในระดับที่พอเหมาะ คงที่ และสม่ำเสมอในระหว่างม้วน ช่วยให้ลอนผมอยู่ทรงนานขึ้น ตัวเครื่องถูกออกแบบให้ดูทันสมัย พกพาสะดวก ตัวแกนความร้อนมีขนาด 32 มม. ให้ความร้อนสูงได้ถึง 120 - 210 องศาเซลเซียส ร้อนเร็วภายใน 30 วินาที มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือหากอุปกรณ์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป มีการรับประกันสินค้าให้ 2 ปีเต็ม

3. แกนม้วนผม NOBBY BY TESCOM NTIR2632
ราคา 1,590 บาท



NTIR2632 แกนม้วนผมคุณภาพในราคาไม่แพง เป็นแกนม้วนผม 2 ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานทั้งการม้วนผม และหนีบผม สามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการภายในเครื่องเดียว ตัวแกนม้วนมีขนาด 32 มิลลิเมตร ปรับอุณหภูมิความร้อนได้ถึง 21 ระดับ ตั้งแต่ 100-200 องศาเซลเซียส ร้อนเร็วภายใน 25 วินาที มีการประกันสินค้าให้ 2 ปีเต็ม

4. แกนม้วนผม REMINGTON CI-8019
ราคา 2,390 บาท



REMINGTON CI-8019 แกนม้วนผมสุดล้ำ ดีไซน์เรียบหรูดูทันสมัย ใช้แกนความร้อนแอดวานซ์เซรามิคเคลือบด้วยเคราตินและน้ำมันอัลมอนด์ สามารถปรับความร้อนได้ 7 ระดับ ตั้งแต่ 130-230 องศา ร้อนเร็วภายใน 30 วินาที แสดงผลผ่านหน้าจอ LCD ดิจิตอล มีฟังก์ชั่นอัตโนมัติมากมายให้เลือกใช้งาน เช่น สามารถตั้งเวลาการเซ็นทรงได้ 4 ระดับ และฟังค์ชั่น Pro+ ที่ช่วยถนอมสุขภาพของเส้นผม มีการการันตีสินค้าให้ 2 ปีเต็ม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP160104

737
เครื่องตีแป้งหรือที่หลาย ๆ คนเรียกอีกชื่อคือเครื่องผสมอาหาร ถือเป็นเครื่องครัวยุคใหม่ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำอาหารหรือทำขนมของคุณสะดวกขึ้น แต่สำหรับแม่ครัวมือใหม่ที่ไม่เคยใช้ หรือไม่เคยมีเครื่องตีแป้งเป็นของตัวเองมาก่อน ก็คงจะสับสนว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องตีแป้งรุ่นไหนแบรนด์อะไรดี ว่าแล้วเราก็จะมาแชร์ 4 ปัจจัยที่คุณ ๆต้องคำนึงก่อนจะตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องผสมอาหาร ถ้าอยากทราบว่าจะมีอะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย



1. ชนิดและขนาด
เครื่องตีแป้งเป็นอุปกรณ์ทำขนมที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายทั้งชนิดและขนาด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันไป ฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อท่านควรคิดมาแล้วว่าคุณจะเอาเครื่องตีแป้งไปทำอะไร อาทิเช่น ถ้าหากคุณ ๆแค่อยากหัดทำขนมและต้องการอุปกรณ์สำหรับตีไข่ขาวกับครีม คุณก็เหมาะกับเครื่องตีแป้งมือถือซึ่งเป็นเครื่องขนาดเล็กและราคาประหยัด แต่ถ้าหากคุณ ๆกำลังทำธุรกิจเบกอรี่และต้องการเพิ่มปริมาณกับความรวดเร็วในการทำงาน คุณก็ควรสั่งซื้อเครื่องตีแป้งแบบตั้งโต๊ะขนาดใหญ่จึงจะเหมาะสมนั่นเอง

2. ราคาของเครื่องตีแป้ง
ราคา นับเป็นปัจจัยสำคัญในการซื้อสินค้าทุกชนิดซึ่งก็รวมถึงเครื่องตีแป้งด้วย โดยสำหรับการเลือกซื้อเครื่องตีแป้งนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อเลือกหาเครื่องราคาแพงเสมอไปแต่ให้เน้นดูที่การใช้งานเป็นหลัก ก็เพราะว่าบางครั้งคุณอาจจะเลือกเครื่องราคาสูงฟังก์ชั่นครบ แต่คุณไม่เคยได้ใช้ฟังก์ชั่นเหล่านั้น มันก็จะเป็นการเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

3. กำลังไฟ
กำลังไฟเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ท่านต้องคิดถึงในการเลือกซื้อเครื่องตีแป้ง เหตุเพราะกำลังไฟเป็นส่วนที่แสดงถึงประสิทธิภาพและข้อจำกัดของตัวเครื่องว่ามีลิมิตแค่ไหน ตัวอย่างเช่น เครื่องตีแป้งแบบมือถือ โดยส่วนใหญ่จะมีกำลังไฟอยู่ที่ 100-200 วัตต์ ทำให้มันเหมาะจะใช้กับการทำขนมเล็ก ๆ น้อย ซึ่งถ้าหากคุณต้องทำขนมขายเป็นอาชีพ หรือต้องผสมอาหารสำหรับคนจำนวนมากก็ควรเลือกหาเครื่องตีแป้งตั้งโต๊ะที่มีกำลังไฟ 800-1,000 วัตต์ ขึ้นไปจึงจะดีที่สุด

4. ระดับความเร็วที่ปรับได้
เครื่องตีแป้งแต่รุ่นจะมีปุ่มสำหรับปรับความเร็วในการหมุนของหัวตีแป้งได้หลายระดับไม่เท่ากัน โดยบางรุ่นอาจจะปรับได้แค่ 1-3 ระดับ แต่สำหรับเครื่องราคาแพงก็อาจจะปรับได้มากถึง 10 ระดับ ซึ่งคุณ ๆจะต้องศึกษามาให้ดีว่าวัตถุประสงค์ในการใช้ของคุณเหมาะกับความเร็วขนาดไหน และเครื่องที่คุณต้องการซื้อสามารถตอบโจทย์ได้หรือไม่

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080604

738
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยปกติสูงกว่า 30 องศา แต่ในวันที่ร้อนจัดอุณหภูมิอาจขึ้นสูงจนทะลุ 40 องศาได้เลย ด้วยเหตุนี้ตัวช่วยลดอุณหภูมิอย่างเครื่องปรับอากาศหรือ “แอร์” จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนไทย แต่แอร์นั้นก็มีข้อจำกัดในการใช้งานเนื่องจากมันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้(จริง ๆ ก็ทำได้แต่ค่อนข้างลำบาก) แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าหากคุณเปลี่ยนมาใช้งานแอร์พกพา เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ท่านสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น ว่าแล้วในครั้งนี้เราก็จะมารีวิวประโยชน์ของแอร์เคลื่อนที่ ความเย็นแบบพกพาที่คุณควรมีไว้



1. สามารถขยับและเคลื่อนย้ายได้
จุดเด่นที่สุดของแอร์แบบพกพาคือมันสามารถขยับเคลื่อนย้ายได้ ทำให้มันกลายเป็นตัวช่วยทำความเย็นเอนกประสงค์ ที่สามารถนำไปทำความเย็นได้ในหลาย ๆ โอกาส

2. ใช้งานในที่แจ้งหรือสถานที่เปิดได้
อีกประโยชน์ของแอร์พกพาก็คือมันสามารถนำมาใช้ลดอุณหภูมิในสถานที่กลางแจ้งหรือสถานที่เปิดได้ ขอเพียงแค่คุณมีปลั๊กไฟให้แอร์ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. ให้ความเย็นได้ดีไม่แพ้แอร์ติดผนัง
แอร์พกพานั้นสามารถทำความเย็นได้ดีไม่แพ้แอร์ติดผนัง ด้วยเหตุว่าประสิทธิภาพการทำงานของแอร์นั้นขึ้นอยู่กับค่าบีทียูของตัวเครื่อง ซึ่งแอร์พกพาก็สามารถมีค่าบีทียูสูง ๆ ได้เช่นกัน

4. ดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย
ด้วยความที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งพื้น ทำให้แอร์พกพานั้นสามารถทำความสะอาดและบำรุงรักษาได้ง่าย ต่างกับแอร์ติดผนังที่แค่จะล้างยังต้องปีนบันไดขึ้นไปทำความสะอาด

5. ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
แอร์เคลื่อนที่ ราคาไม่แพงอย่างที่ใครคิด ด้วยว่าตลาดแอร์เคลื่อนที่นั้นมีการแข่งขันที่สูง ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องแข่งขันกับแอร์ของเจ้าอื่น ๆ ส่งผลให้แอร์รุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาดมักจะมีคุณภาพดีขึ้นในราคาที่ถูกลง

6. มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย
แอร์พกพารุ่นใหม่ ๆ นั้น จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดการใช้งานต่าง ๆ ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน ฟังก์ชั่นการควบคุมด้วยรีโมท หรือแม้แต่ฟังก์ชั่นสั่งการด้วยเสียงก็ยังมีให้เห็น เช่นกัน

7. มีหลายรุ่นหลายเกรดให้เลือกสรร
ปัจจุบันแอร์พกพาเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้บริษัทแอร์ทั้งหลายต้องผลิตสินค้ารุ่นใหม่ ๆ กันออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าตัวเลือกของผู้บริโภคก็จะมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยในปัจจุบันมีแอร์พกพาหลายรุ่นหลายเกรดให้เลือกสรรได้ตามความต้องการ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0104

740
น้ำยาปรับอากาศ เป็นตัวช่วยบำบัดอากาศที่ทุก ๆ บ้านต้องมีติดบ้านไว้ เนื่องจากนอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หายไปแล้ว น้ำยาบางชนิดยังทำหน้าที่กำจัดแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ช่วยให้ผู้อาศัยมีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นได้อีกด้วย โดยน้ำยาปรับอากาศที่มีการผลิตออกมานั้นมีด้วยกัน 3 แบบ คือ เจลปรับอากาศ น้ำหอมปรับอากาศ และสเปรย์ปรับอากาศ โดยในวันนี้เราก็จะมารีวิวตัวช่วยปรับอากาศทั้ง 3 ชนิดว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไรและมีข้อดีข้อเสียเช่นไร ถ้าอยากรู้แล้วก็ตามมาดูกันได้เลย

1. เจลปรับอากาศ



เจลปรับอากาศหรือที่หลายคนนิยมเรียกว่าเจลดับกลิ่น น้ำหอมปรับอากาศที่มาในรูปแบบก้อน เป็นตัวช่วยปรับอากาศแบบกระจายกลิ่น แค่เพียงท่านวางเจลปรับอากาศไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น ในห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องนั่งเล่น หรือในรถยนต์ กลิ่นของเจลก็จะค่อย ๆ กระจายสร้างความหอมไปทั่วห้อง ต้องบอกว่าเจลปรับอากาศนั้นเป็นตัวช่วยเอนกประสงค์ราคาถูก ๆที่นอกจากจะช่วยสร้างกลิ่นหอมแล้ว ยังสามารถบำบัดอากาศ และช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย หากจะพูดถึงข้อเสียของเจลปรับอากาศก็คงจะเป็นระยะของกลิ่นหอมที่ไม่ค่อยกว้าง และมีอายุการใช้งานแค่ราว ๆ 1 เดือนเท่านั้น

2. สเปรย์ปรับอากาศ



สเปรย์ปรับอากาศ คือน้ำหอมปรับอากาศที่ถูกนำมาบรรจุกระป๋องและใช้งานในรูปแบบของสเปรย์ มีคุณสมบัติในการบำบัดอากาศ กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้ห้องมีกลิ่นหอมสดชื่น ข้อดีคือใช้งานง่ายแค่เขย่ากระป๋องแล้วฉีด สามารถใช้บำบัดอากาศได้อย่างทันท่วงที และใช้ได้กับทุกที่ทุกห้องแบบไม่จำกัดระยะไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ หรือรถยนต์ ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งเวลาฉีดออกมาจะเป็นละออกฟุ้งในอากาศจึงไม่เหมาะกับคนที่มีอาการแพ้สารเคมี

3. น้ำหอมปรับอากาศ



น้ำหอมปรับอากาศเป็นตัวช่วยบำบัดอากาศแบบกระจายกลิ่นเหมือนกันกับเจล แค่เพียงเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ตามห้องต่าง ๆ ก็จะสร้างกลิ่นหอม ช่วยบำบัดอากาศ และช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตามน้ำหอมปรับอากาศจะต่างกับเจลปรับอากาศตรงที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบก้อนเจล แต่จะเป็นน้ำหอมระเหยที่ให้กลิ่นที่เข้มข้นกว่าทำให้ไม่เหมาะจะใช้ในห้องแคบ ๆ ก็เพราะว่าอาจทำให้กลิ่นแรงจนเกินไป นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างของน้ำหอมปรับอากาศที่เหนือกว่าเจลปรับอากาศ คือมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน ซึ่งก็แลกมากับราคาที่แพงกว่านั่นเอง

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0101

742
สว่านแบตหรือสว่านไร้สาย เป็นเครื่องมือช่างเอนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายทั้งงานเจาะ งานซ่อม ประกอบยึดติด หรืองาน DIY ทั่ว ๆ ไป ด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก อีกทั้งยังใช้งานง่าย จึงทำให้สว่านประเภทนี้เป็นที่นิยมในหมู่ช่างทั้งหลาย อย่างไรก็ตามสว่านไร้สายในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกซื้อกันหลากหลายรุ่นหลายยี่ห้อ จนหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าควรจะซื้อสว่านแบรนด์ไหนดี คราวนี้เราก็จะมารีวิวสว่านแบตไร้สายคุณภาพเยี่ยม 4 รุ่น 4 แบรนด์ พร้อมทั้งบอกจุดแข็งของแต่ละรุ่น ถ้าอยากทราบว่าจะมีสว่านของยี่ห้ออะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. สว่านไร้สาย MAKITA DF333DWYE
ราคาขายรวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จอยู่ที่ 3,630 บาท



สว่านไร้สาย makita DF333DWYE สว่านคุณภาพมาตรฐานระดับสากล กำลังไฟฟ้า 12 โวลต์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพใช้ได้กับทั้งงานไม้ งานเหล็ก งานซ่อม และงาน DIY ทั้งหลาย ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก จัดเก็บง่าย ด้ามจับกระชับมือง่ายต่อการใช้งาน สามารถระบายความร้อนได้ดี และมีการรับประกันสินค้านานถึง 6 เดือน

2. สว่านไร้สาย STANLEY SCH121S2-B1
ราคาจำหน่ายรวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จอยู่ที่ 2,890 บาท


STANLEY SCH121S2-B1 สว่านไร้สายเอนกประสงค์ สินค้าคุณภาพมาตรฐานระดับสากลในราคาจับต้องได้ สามารถตอบโจทย์ทุกงานช่างทั้งงานเจาะทั่วไป จนถึงงานประกอบยึดติด ตัวสว่านถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก สามารถใช้งานในที่แคบได้อย่างสบาย มีช่องระบายอากาศช่วยในการระบายความร้อน แน่ใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ด้วยประกันยาวนานถึง 2 ปีเต็ม

3. สว่านไร้สาย BOSCH GSR120-LI
ราคารวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จอยู่ที่ 2,990 บาท


BOSCH GSR120-LI สว่านคุณภาพมาตรฐานจากโรงงาน กำลังไฟฟ้า 12 โวลต์ ราคาไม่แพง เป็นเครื่องมือเอนกประสงค์ช่วยให้ทำงานง่าย งานเสร็จเร็ว อีกทั้งยังทำได้หลายหลายทั้งงานช่าง งานไม้ งานเหล็ก หรืองาน DIY ต่าง ๆ ตัวสว่านถูกออกแบบโดยคำนึงถึงสรีระและการใช้งาน แต่จะเน้นไปที่ขนาดกะทัดรัด เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน สามารถมั่นใจในการใช้งานด้วยการรับประกันสินค้า 6 เดือน ตามเงื่อนไขที่ผู้ขายกำหนด

4. สว่านไร้สาย HYUNDAI HD-BD685
ราคาขายรวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จอยู่ที่ 1,590 บาท


HYUNDAI HD-BD685 สว่านไร้สายราคาประหยัด กำลังไฟ 12 โวลต์ ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีมาตรฐานจากโรงงาน สามารถทนความร้อนสูงและไม่ติดไฟ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก สะดวกต่อการใช้งานรวมถึงการจัดเก็บ ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีระ ช่วยให้จับง่ายและจับถนัดกระชับมือยิ่งขึ้น มั่นใจไร้กังวลด้วยการรับประกันสินค้ายาวนานถึง 6 เดือน

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO110503

744
เตาปิ้งย่างหรือเตาหมูกระทะไฟฟ้า เป็นเตาที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านโดยเฉพาะ ด้วยความที่ใช้งานง่าย อีกทั้งยังมีราคาถูก ๆทำให้ได้รับความนิยมมากในยุคปัจจุบันนี้ ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิวประโยชน์ของการมีเตาปิ้งย่างไฟฟ้าไว้ติดบ้าน ถ้าอยากทราบว่าจะมีอะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย



1. ควันน้อย กินในบ้านได้
เตาปิ้งย่างไฟฟ้าเป็นเตาอุณหภูมิสูง ร้อนเร็ว และควันน้อยทำให้สามารถใช้ปรุงอาหารกินกันในบ้านได้ โดยไม่ต้องมีเครื่องดูดควันขอแค่คุณเปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นของอาหารไม่ให้ติดบ้านเท่านี้ก็สามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารกันได้ทั้งครอบครัว

2. ประหยัดกว่าการไปกินที่ร้าน
แน่นอนว่าอาหารที่ทำกินเองก็ย่อมต้องประหยัดกว่าการไปกินที่ร้านอาหาร ซึ่งมีการบวกกำไรและค่าบริการเพิ่มเข้ามาด้วย นอกจากนี้การทำปิ้งย่างกินเองที่บ้านยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันที่ใช้เดินทางไปร้านอาหารอีกต่างหาก

3. มีความเป็นส่วนตัว
การมีกระทะปิ้งย่างไว้ที่บ้านจะทำให้มื้ออาหารของคุณ ๆมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะว่าเป็นการรับประทานอาหารร่วมกันเฉพาะกับคนในครอบครัวหรือกับเพื่อน ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถกินปิ้งย่างพร้อมกับทำกิจกรรมที่ชอบ อาทิเช่น การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรืออะไรก็ได้ตามใจ เพราะคุณอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวนั่นเอง

4. มั่นอกมั่นใจในคุณภาพของอาหาร
การทำปิ้งย่างกินเองที่บ้านจะทำให้ท่านสามารถมั่นใจในคุณภาพของอาหารมากขึ้น ทั้งนี้เพราะคุณเป็นคนเตรียมวัตถุดิบและปรุงเองกับมือ

5. พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
เตาปิ้งย่างไฟฟ้านั้นมีขนาดกระทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่ว่าคุณจะไปออกทริป ตั้งแคมป์ เดินป่า ปิคนิค หรือไปท่องเที่ยวทะเล หรือแค่ไปนั่งเล่นห้องเพื่อน ถ้าหากคุณมีเตาปิ้งไฟฟ้าไปด้วยก็สามารถจัดปาร์ตี้ปิ้งย่างได้ทันที

6. เป็นการสานสัมพันธ์กันในครอบครัว
ถ้าคุณมีเตาปิ้งไฟฟ้าไว้ติดบ้านก็จะเป็นการสร้างโอกาสให้ครอบครัวได้รับประทานข้าวร่วมกันบ่อยมากขึ้น กินไปสนทนากันไป นับเป็นการสานสัมพันธ์กันในครอบครัวและช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานให้อาหารอร่อยขึ้น

7. มีความปลอดภัยกว่าการใช้เตาย่างที่ใช้แก๊ส
เตาย่างไฟฟ้านั้นปลอดภัยกว่าเตาย่างที่ใช้แก๊สที่ต้องคอยเปลี่ยนกระป๋องแก๊สบ่อย ๆ อีกทั้งเตาย่างไฟฟ้าคุณภาพดี ๆ ยังมีระบบนิรภัยที่จะทำการตัดไฟเมื่ออุณหภูมิของเตาร้อนจนเกินไปอีกด้วย

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0807

745
เมื่อกล่าวถึงเก้าอี้พับหลาย ๆ ท่านคงจะนึกถึงเก้าอี้พับได้ที่โครงทำจากเหล็ก มีส่วนเบาะนั่งและพนักพิงเป็นพลาสติก ซึ่งเหตุผลที่เราคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดีก็เพราะเก้าอี้พับคือเฟอร์นิเจอร์เอนกประสงค์ยอดนิยมที่มีให้เห็นกันทุกบ้าน ว่าแล้วในคราวนี้เราก็จะมารีวิวประโยชน์ของเก้าอี้พับว่ามีอะไรบ้าง ถ้าใครอยากทราบก็ตามมาดูกันได้เลย



1. เป็นเก้าอี้เอนกประสงค์ใช้งานได้เอนกประสงค์
เก้าอี้พับ ถือเป็นเก้าอี้เอนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลายหลาย ไม่ว่าจะใช้เป็นเก้าอี้ปิคนิคเวลาออกไปเที่ยวนอกบ้าน ใช้เป็นเก้าอี้เสริมสำหรับแขกที่มาเยือน(ในกรณีที่เก้าอี้หลักมีไม่พอ) ใช้ในงานแสดงสินค้า ร้านอาหาร ตลาดนัด หรือแม้แต่จะเอาไปสรรสร้างเป็นงานศิลปะก็ยังทำได้ ด้วยคุณสมบัติที่ค่อนข้างทนทานแข็งแรงและราคาถูกทำให้ประโยชน์ของมันนั้นแทบจะไร้ขีดจำกัด

2. น้ำหนักเบาพกพาสะดวก
นอกจากส่วนโครงเหล็กแล้ว โดยส่วนใหญ่ตรงที่นั่งและพนักพิงของเก้าอี้พับมักจะทำมาจากพลาสติกทำให้มีน้ำหนักโดยรวมค่อนข้างเบา อีกทั้งมันยังสามารถพับเก็บได้ทำให้เปลี่ยนที่ และพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกเวลาจัดเก็บก็ไม่กินเนื้อที่

3. มีวัสดุหลายชนิดให้เลือก
อีกสาเหตุที่ทำให้เก้าอี้พับนั้นเป็นเป็นเฟอร์นิเจอร์เอนกประสงค์ที่ได้รับความนิยม นั่นก็เพราะมันเป็นเฟอร์ที่มีวัสดุหลากหลายชนิดให้เลือกตั้งแต่พลาสติก ไม้ อลูมิเนียม ไปจนถึงเก้าอี้พับโครงเหล็กซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด โดยราคาของเก้าอี้ก็จะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้นั่นเอง

4. หาซื้อง่ายๆและราคาถูก
เก้าอี้พับนั้นเป็นของที่แทบทุกบ้านต้องใช้งานทำให้มันหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ศูนย์การค้า รวมถึงร้านค้าออนไลน์ อีกทั้งยังมีราคาถูกแสนถูกโดยเก้าอี้พับเหล็กคุณภาพสูง ๆ จะมีราคาอยู่ที่ราว ๆ 1,000-1,200 บาทต่อตัว เท่านั้น

5.ทนทาน และมีอายุการใช้งานนาน
เก้าอี้พับนั้นคุณภาพดี ๆ จะมีความทนทาน ความยืดหยุ่น และอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยส่วนใหญ่จะสามารถทนต่อแรงกระแทก การแตกหัก และการงอ อีกทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกัน UV เพื่อให้สามารถทนแดด ทนฝน และทนความร้อนได้ดีอีกด้วย

6. ดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย
เก้าอี้พับเป็นเก้าอี้ที่ดูแลรักษาและทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย แค่เพียงล้างและเช็ดด้วยผ้าแห้งหลังจากใช้งานก็จะทำให้เก้าอี้ดูใหม่และสะอาดอยู่ตลอดเวลา

7. รองรับน้ำหนักได้เยอะจนน่าตกใจ
เก้าอี้พับเป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบให้คนนั่งแบบกระจายน้ำหนักจึงทำให้มันสามารถรับน้ำหนักได้มากจนน่าตกใจ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเก้าอี้พับเหล็กจะสามารถรับน้ำหนัก(แบบกระจายน้ำหนัก)ได้มากถึง 120 Kg.

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0607

747
ในยุคปัจจุบันที่ฝุ่นผง สิ่งสกปรก และมลพิษซึ่งสามารถทำอันตรายกับผิวหน้าของเราลอยอยู่เต็มอากาศ ทิชชู่เช็ดหน้าได้ถูกเพิ่มบทบาทให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความจำเป็น และต้องพกติดตัวเอาไว้ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ตลาดกระดาษทิชชู่ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงทั้งในด้านคุณภาพและราคา ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิว 5 ทิชชู่เช็ดหน้าคุณภาพสูงในราคาประหยัดจาก 5 แบรนด์ดังที่คุณ ๆควรพกติดตัวเอาไว้ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีทิชชู่ของแบรนด์อะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. ทิชชู่เช็ดหน้า PORRIN SOFT PACK  จำนวน 150 แผ่น ราคาจำหน่าย 85 บาท



PORRIN SOFT PACK กระดาษเช็ดหน้าหนา 2 ชั้น ทำจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ปราศจากสารเรืองแสง ย่อยสลายง่ายไม่อุดตัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจุดดีที่เนื้อกระดาษที่ให้สัมผัสนุ่ม เหนียว และไม่ติดผิวขณะเช็ดทำความสะอาด สามารถซึมซับของเหลวได้ดีสามารถใช้ซับเหงื่อ หรือเช็ดหน้าให้รู้สึกสะอาดสดชื่นได้

2. กระดาษทิชชู่เช็ดหน้า KLEENEX BE U  จำนวน 140 แผ่น แพ็ค 3 ราคาจำหน่าย 107 บาท



KLEENEX BE U ทิชชู่เช็ดหน้าคุณภาพสูง ให้สัมผัสอันแสน นุ่มนวล อ่อนโยน ขณะใช้ ทำจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ธรรมชาติ ที่ผ่านการอบด้วยความร้อน 300 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถมั่นอกมั่นใจในความสะอาดได้แบบ 100% มีส่วนผสมพิเศษเป็นสารสกัดจากแตงกวาเพื่อสัมผัสเนียนนุ่นที่เหนือกว่า มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ดีไซน์สวยงามเหมาะจะพกติดตัวไปใช้งานในทุก ๆ ที่

3. กระดาษเช็ดหน้า CELLOX DECOR
จำนวน 140 แผ่น แพ็ค 3 ราคาจำหน่าย 117 บาท



CELLOX DECOR ทิชชู่เช็ดหน้าที่ผ่านการทดสอบจากสถาบันแพทย์ผิวหนังว่า อ่อนโยน และไม่ระคายเคืองผิว ตัวกระดาษทำจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์คุณภาพดี ซึ่งผ่านการอบความร้อนที่ 250 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถมั่นใจในความสะอาดปลอดภัย มีสารสกัดจาก \"เชียบัตเตอร์\" เพื่อสัมผัสเนียนนุ่มมากขึ้นขณะใช้ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี \"Germ Clear Plus\" ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้มากถึง 99.9%

4. กระดาษเช็ดหน้า ZILK SOFT PACK
ปริมาณ 150 แผ่น แพ็ค 3 ราคาจำหน่าย 79 บาท



ZILK SOFT PACK กระดาษเช็ดหน้าที่ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ คุณภาพดี ให้สัมผัส นุ่ม อ่อนโยน มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทรีเรียถึง 99% เป็นสินค้ายอดนิยม มีคุณภาพในราคาเซฟๆ มาพร้อมลวดลายสุดน่ารักบนบรรจุภัณฑ์

5. กระดาษเช็ดหน้า SCOTT BOX
จำนวน 115 แผ่น แพ็ค 4 ราคา 98 บาท



SCOTT BOX กระดาษเช็ดหน้าคุณภาพดีความหนา 2 ชั้น ราคาสุดคุ้ม ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์และคอนตอนธรรมชาติชั้นดี ทำให้กระดาษมีความเหนียว ให้สัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่เปื่อยง่าย ไม่เป็นขุย ผสมสารสกัดจากแตงกวาช่วยบำรุงผิว มาพร้อมบรรจุภัณฑ์สีสันสดใสสวยงาม

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0213

748
สำหรับท่านที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างการเดินป่า ขึ้นเขา คงจะชินกับเก้าอี้โครงเหล็กพับได้ที่มีเบาะนั่งและพนักพิงเป็นผ้าขึงเอาไว้ ซึ่งเราเรียกเก้าอี้แบบนี้ว่า “เก้าอี้สนาม” โดยเก้าอี้ประเภทนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางสายลุย เนื่องจากสามารถพกพาไปที่ต่าง ๆ และใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ แต่นอกจากที่กล่าวมาเก้าอี้สนามก็ยังเป็นเก้าอี้เอนกประสงค์ที่มีประโยชน์อีกมากมาย ว่าแล้วในวันนี้เราก็จะมารีวิวประโยชน์ของเก้าอี้สนาม ถ้าอยากทราบว่าเก้าอี้ตัวนี้มีดีอย่างไรก็ตามมาดูกันได้เลย



1. น้ำหนักเบาพกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบาย
เก้าอี้สนามนั้นมีน้ำหนักเบาและยังสามารถพับเก็บได้ ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่เคลื่อนย้ายและพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย กลายเป็นที่นั่งเอนกประสงค์ตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารถนั่งพักผ่อนได้ทุกที่ที่ปรารถนา

2. นั่งสบาย เหมาะสมแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
โดยส่วนใหญ่แล้วตรงที่รองนั่งของม้านั่งสนามมักจะใช้ผ้าเป็นวัสดุ(เพื่อความสะดวกในการพับเก็บ) ทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มและนั่งสบายกว่าเก้าอี้โลหะหรือเก้าอี้พลาสติก ที่สำคัญคือเก้าอี้สนามมีพนักพิงให้เอนหลังได้จึงเหมาะแก่การนั่งชมวิวพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด

3. หาซื้อง่ายและราคาไม่แพง
เก้าอี้สนามเป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านเฟอร์นิเจอร์ ศูนย์การค้า และร้านค้าออนไลน์ทั่วไป อีกทั้งยังมีราคาถูกแสนถูกโดยต่อให้เป็นเก้าอี้สนามคุณภาพสูงก็ยังมีราคาอยู่ที่ราวๆ 500-600 บาทเท่านั้น

4. มีความทนทานกว่าที่คิด
เก้าอี้สนามเป็นเก้าอี้ที่ถูกดีไซน์มาให้สามารถกระจายน้ำหนักได้ดี ทั้งในส่วนเบาะรองและพนักพิงที่เป็นผ้าช่วยรับน้ำหนักหรือส่วนของที่เท้าแขน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเก้าอี้สนามที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ซึ่งจะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า 80 Kg. เลยทีเดียว

5. ซักทำความสะอาดได้ไม่ยาก
ด้วยความที่ตรงส่วนเบาะรองนั่งและพนักพิงซึ่งเป็นส่วนที่ร่างกายสัมผัสนั้น ใช้ผ้าเป็นวัสดุทำให้เก้าอี้สนามสามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย

6. เหมาะจะใช้ไปปิคนิคหรือแคมป์ปิ้งเดินป่า
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเก้าอี้สนามนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบาและยังสามารถพับเก็บได้ ทำให้มันกลายเป็นเพื่อนรักของนักท่องเที่ยวสายลุยทั้งหลาย ด้วยเหตุว่าไม่ว่าคุณจะไปปิคนิค ตั้งแคมป์ หรือเดินป่า คุณก็สามารถมีที่นั่งส่วนตัวได้ง่าย ๆ เพียงแค่พกเก้าอี้สนามติดรถไปด้วย ด้วยความนิยมที่ล้นหลามทำให้หลายคนติดเรียกมันว่าเก้าอี้สนามเดินป่ากันเลยทีเดียว

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT060503

750
เป็นที่ทราบกันว่าการนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ เพราะฉะนั้นการเลือกที่นอนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยว่าที่นอนมีหน้าที่ในการรับน้ำหนักและพยุงสรีระทั้งหมดเราเพื่อให้เกิดคุณภาพการนอนที่ดี  โดยที่นอนนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายชนิดหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้ทำ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีข้อดีข้อเสียของตัวเองแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่คุณตัดสินใจว่าอยากจะซื้อที่นอนแบบไหนก็ต้องศึกษาคุณสมบัติของที่นอนประเภทนั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิวที่นอนแต่ละประเภทว่าแบบไหนเหมาะสำหรับใครถ้าอยากทราบก็ตามมาดูกันได้เลย



1. ที่นอนยางพาราแท้
ที่นอนยางพาราแท้ เป็นที่นอนจากวัสดุธรรมชาติ มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่น ความคงทนสูง และอายุการใช้งานนาน ให้สัมผัสนุ่มสบายเวลานอน ช่วยรองรับน้ำหนักและสรีระร่างกายได้ดี แม้จะมีราคาสูงแต่ก็เป็นหนึ่งในที่นอนประเภทที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุด

2. ที่นอนใยมะพร้าว
ที่นอนใยมะพร้าวเป็นอีกหนึ่งที่นอนที่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ โดยจะนำใยมะพร้าวมาแปรรูปและอัดเป็นแผ่นให้แน่น ซึ่งที่นอนใยมะพร้าวจะมีจุดเด่นตรงความแข็ง มีความยืดหยุ่นน้อย ทำให้สามารถช่วยลดอาการปวดหลังจากการนอนได้ จะอย่างไรก็ตามข้อดีของที่นอนชนิดนี้คือมีน้ำหนักเบาทำให้ง่ายต่อการขนย้าย

3. ที่นอนสปริง
ที่นอนสปริงเป็นที่นอนซึ่งมีจุดดีเรื่องความยืดหยุ่นและการคืนตัวสามารถกระจายน้ำหนักของร่างกายแต่ล่ะส่วนได้เป็นอย่างดี ที่นอนลักษณะนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนตะแคงซึ่งเป็นท่านอนที่ลงน้ำหนักไปจุดใดจุดหนึ่งค่อนข้างมาก นอกจากนี้ที่นอนสปริงยังสามารถระบายอากาศได้ดี มีความแข็งแรงทนทาน และมีอายุการใช้งานที่นานอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากใช้งานจนเกินอายุไข ที่นอนสปริงอาจเกิดการเสื่อมทำให้เกิดเสียงรบกวนในเวลานอนได้

4. ที่นอนฟองน้ำ
ที่นอนฟองน้ำเป็นที่นอนที่ให้สัมผัสนุ่มนวล มีความยืนหยุ่น และน้ำหนักเบาสามารถขนย้ายไปไหนมาไหนได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีความทนทานและราคาถูก อย่างไรก็ตามที่นอนชนิดนี้มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือหากฟองน้ำที่นำมาผลิตเป็นที่นอนไม่มีคุณภาพเมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจเกิดการยุบตัวเป็นหลุมมีผลให้ผู้นอนมีอาการปวดหลัง นอกจากนี้ฟองน้ำยังเป็นวัสดุที่ระบายอากาศได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับและเกิดการสะสมของฝุ่นได้ง่าย

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/BED0302

หน้า: 1 ... 10 11 12 13 14 [15] 16 17 18 19 20 ... 26