ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ดวงแก้ว

หน้า: [1]
1

ยุคนี้ใครๆก็ต้องใช้คุชชั่นกัน ถือว่ามาสั่นสะเทือนวงการรองพื้นกันพอสมควรเลยค่ะ สำหรับการเกิดมาของคุชชั่น ที่ทำเอาหลายๆแบรนด์จะต้องออกผลิตภัณฑ์คุชชั่นกันไปหมด เพราะยอดขายครีมรองพื้นนั้นตกลงเบาๆ แต่เมื่อวัดกันตามจริงแล้ว ก็ยังไม่สามารถมีเครื่องสำอางประเภท Base ไหนที่มาโค่นบัลลังก์ของครีมรองพื้นได้ซะที


แล้วครีมรองพื้นนั้นมีข้อดีอะไร ?


ทำไมผู้หญิงกว่าครึ่งโลกถึงยังติดใจใช้ครีมรองพื้นกันโดยไม่เปลี่ยนใจไปใช้อย่างอื่น แม้มีตัวเลือกมากมายให้เลือกสรร






1.ครีมรองพื้นคุมมันได้ดีที่สุด
           
                จะหาอะไรที่สามารถคุมมันได้ดีกว่าครีมรองพื้นกันนี่ ถึงแม้ว่าตอนนี้หลายๆผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกผลิตออกมาโดยมีคำโฆษณาเคลมว่าคุมมันได้ดี คุมมันได้ตลอดวัน แต่ก็โดนหลอกตากันทั้งนั้นค่ะ ส่วนใหญ่สาวๆที่ปันใจจากครีมรองพื้นไปลองผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นก็ต้องกลับมาซบอกครีมรองพื้นกันทั้งนั้นเลย เพราะรองพื้นนั้นส่วนใหญ่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จึงมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดน้ำมันบนผิวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผิวของเรานั้นไม่ค่อยมีความมันเมื่อใช้รองพื้นคุมมันนั่นเองค่ะ
               
2. ครีมรองพื้นปกปิดได้ดีที่สุด
ถึงจะบอกว่าบนโลกนี้มีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าคอนซีลเลอร์ที่ถูกสร้างมาเพื่อปกปิดริ้วรอยต่างๆอยู่แล้ว แต่สิ่งใดเท่าจะเล่าความสบาย ที่สามารถช่วยลดขั้นตอนการแต่งหน้าได้ ซึ่งเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์ความปกปิดได้ก็คงหนีไม่พ้นรองพื้นที่สามารถปกปิดได้ในระดับ High Coverage หรือปกปิดริ้วรอยได้เนียนสนิท บางยี่ห้อนั้นสามารถปกปิดได้สนิทจนไม่ต้องลงอะไรทับหลายๆชั้นได้เลย ถึงขนาดเป็นรองพื้นที่ปิดรอยสักได้ก็มีวางขายตามท้องตลาดเช่นกัน


3.ครีมรองพื้นให้ผิวเนียนตลอดวัน


“หนีไปซบแป้งพัฟ ก็ตายรังกลับมาที่ครีมรองพื้นอยู่ดี”
เรื่องการปกปิดให้ผิวเนียน ไม่ว่าจะหนีไปซบแป้งพัฟคุมมัน หรือหนีไปซบคุชชั่นมาแล้ว อย่างไรก็ตาม สาวๆจะต้องกลับมาซบอกที่ครีมรองพื้นดังเดิมแน่นอน นั่นเป็นเพราะไม่มีเครื่องสำอางที่ไหนจะให้ผิวที่เรียบเนียนและติดทนนานได้เท่ารองพื้นอีกแล้ว เพราะแป้งพัฟนั้นอาจเจอปัญหาแป้งหลุดลอก คุชชั่นก็ไม่ให้ผิวที่เนียนเรียบได้อย่างในโฆษณา ต้องรองพื้นสิคะ ที่สุดในใจของสาวๆแล้ว



นี่แหละเหตุผลสามข้อหลักที่ทำให้รองพื้นนั้นยังเป็นที่หนึ่งที่ทำให้ไม่ว่าผลิตภัณฑ์อะไรถูกผลิตออกมาใหม่ก็ไม่สามารถพังกำแพงอันสูงของรองพื้นได้เลย เพราะน้องดีแบบนี้ ใครที่กำลังจะเทใจจากรองพื้นให้ผลิตภัณฑ์อื่นล่ะก็ ต้องย้อนกลับมาคิดอีกทีแล้วล่ะว่าจะทิ้งคนที่ให้สิ่งดีๆกับผิวหน้าของเราไปจริงๆเหรอ

2
         ปัญหาเรื่องแป้งพัฟหรือแป้งผสมรองพื้นใช้แล้วเป็นคราบนั้นเป็นปัญหาที่กวนใจหลายคนมาอย่างยาวนาน และอาจทำให้หลายคนเข็ดขยาดการใช้แป้งพัฟจะต้องกลับไปซบรองพื้นคุมมันเลยก็เป็นได้โดยที่หลายคนไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของหน้าที่เป็นคราบระหว่างวันที่เกิดจากแป้งพัฟว่าเกิดจากสาเหตุใดจึงทำให้แป้งพัฟเป็นคราบ และดูหนาระหว่างวัน

การที่ผิวหน้าเป็นคราบหลังการใช้แป้งพัฟนั้นมีหลายสาเหตุดังนี้









สาเหตุที่ทำให้แป้งพัฟเป็นคราบระหว่างวัน!



•  สภาพอากาศ

  สภาพอากาศนั้นเป็นปัจจัยแรกที่มีส่วนสำคัญให้การใช้แป้งพัฟของสาวไทยผลลัพท์ออกมาไม่ตรงตามความต้องการที่อยากให้ผิวเนียนสวยได้ตลอดทั้งวันนั่นเป็นเพราะสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น ส่งผลให้ผิวหน้าของเรานั้นผลิตเหงื่อและน้ำมันออกมามากเกินทำให้ผิวเกิดความมันตกค้างบนผิวหน้าเมื่อความมันออกมาผสมกับแป้งพัฟจึงอาจทำให้หน้าเป็นคราบได้หากไม่ใช้แป้งพัฟคุมมันหรือแป้งฝุ่นคุมมันนั่นเอง

•  ปัญหาผิวมันและไม่ซับออกก่อนการเติมแป้งพัฟระหว่างวัน

การที่เรานั้นต้องการที่จะเติมแป้งพัฟระหว่างวันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิดเพราะใครๆก็อยากที่จะผิวสวยเป๊ะไปตลอดทั้งวันแต่การที่เราจะเติมหน้าโดยที่ไม่มีการซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าออกก่อนนั้นอาจทำให้ผิวหน้าของคุณนั้นเกิดเป็นคราบได้และยังอาจทำให้ผิวหน้าดูหนากว่าปกติเพราะเป็นการเติมแป้งผสมรองพื้นเข้าไปหลายชั้นโดยไม่มีการเอาสิ่งสกปรกออก

•  การใช้แป้งพัฟอย่างผิดวิธี

  การใช้แป้งพัฟอย่างผิดวิธีนั้นเป็นวิธีที่หลายๆคนทำไปอย่างไม่รู้ตัว โดยการ “ปาดหรือถู” นั่นเองโปรดอย่าลืมว่าผิวหน้าของเรานั้นค่อนข้างที่จะบอบบางหากได้รับการถูแรงๆก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวได้และการปาดพัฟที่มีแป้งเยอะๆลงไปบนหน้าเลยนั้นจะทำให้แป้งผสมรองพื้นเป็นคราบเกาะอยู่บนหน้าและไม่ติดทน เมื่อเหงื่อออกหรือมีความมันเกิดขึ้นจึงทำให้ไหลเป็นคราบนั่นเอง


3
   ผิวหน้ามันเยิ้มเป็นปัญหากวนใจของใครหลายๆคน มานักต่อนัก ผิวที่มีน้ำมันส่วนเกินมากเกินไปจะทำให้แต่งหน้าได้ไม่ติดทน เครื่องสำอางและครีมรองพื้นที่ใช้หลุดลอกไปได้ง่าย อีกทั้งยังรู้สึกเหนอะหนะไม่สบายผิวและนำไปสู่การเกิดสิวได้อีกด้วย การจัดการปัญหาหน้ามันให้อยู่หมัดนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างการกำจัดสาเหตุของผิวมัน และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาเพื่อผิวมันโดยเฉพาะอย่างรองพื้นคุมมัน ดังนั้นสาวๆคนไหนที่ผิวหน้ามันเยิ้มจนปวดใจละก็ มาดูกันดีกว่าว่าควรทำอย่างไรบ้าง



สาเหตุของผิวมันมีอะไรบ้าง

            การที่เรามีผิวมันนั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกเลยก็คือฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยรุ่นที่มักจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินปกติ ซึ่งฮอร์โมนแอนโดรเจนนี่ล่ะที่เป็นตัวการอันดับต้นๆที่ทำให้ผิวมัน ยิ่งมีฮอร์โมนแอนโดรเจนนี่มากเท่าไหร่ รูขุมขนก็จะยิ่งมีน้ำมันผลิตออกมามากเท่านั้น น้ำมันที่ผลิตออกมานี้จะเคลือบอยู่ที่ชั้นภายนอกของผิว ทำให้ผิวดูมันเงานั่นเอง
สาเหตุอื่นๆที่นำไปสู่การเกิดความมันส่วนเกินก็ได้แก่ รูขุมขนกว้างเพราะรูขุมขนที่กว้างมักจะผลิตน้ำมันออกมามากกว่า และการใช้ครีมบำรุงที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือไม่ทาครีมบำรุงผิวเลย หลายๆคนเข้าใจผิดว่าถ้ายิ่งถ้าทาครีมจะทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น แต่จริงๆแล้วถ้าปล่อยให้ผิวแห้งขาดน้ำละก็จะทำให้มีการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นผิวมันในที่สุด
ถ้าหากน้ำมันส่วนเกินนี้จับตัวรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนล่ะก็จะอุดตันและนำไปสู่การเกิดสิวต่างๆตามมานั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีมากำจัดความมันส่วนเกินเพื่อไม่ให้ผิวอุดตันเป็นสิวได้ หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดช่วยควบคุมความมันได้อย่างรวดเร็วก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผิวมันโดยเฉพาะ เช่น กันแดดคุมมัน รองพื้นคุมมัน หรือแป้งฝุ่นคุมมัน โดยในบทความนี้จะแนะนำให้สาวๆผิวมันได้รู้จักกับรองพื้นคุมมันมากขึ้น เพียงแค่รู้จักวิธีใช้รองพื้นคุมมันที่ถูกต้องก็มีชัยไปกว่าครึ่ง



4
               ถึงแม้ว่าตอนนี้เทรนด์ผิวโกลว์จะมาแรงแซงทุกกระแสการแต่งหน้าไปทั่วโลก แต่ในประเทศไทยเองนั้น เทรนด์การแต่งหน้าแบบผิวแมทท์ ดูขาวกระจ่างใสก็ยังเป็นที่นิยมและเป็นเป็นค่านิยมที่สาวไทยชอบมากที่สุดอยู่ดีค่ะ เพราะการเตรียมผิวในการแต่งหน้าแบบบางเบานั้นไม่ต้องการเตรียมผิวมาก แต่ถึงเป้นการแต่งหนาแบบบบางเบากระจ่างใสนั้นก็ไม่จำเป็นต้องดูแห้งชืดค่ะ วันนี้เรามีเทคนิคแต่งหน้าแบบแมทยังไงให้ดกระจ่างใสมาฝากกัน !!



                ขั้นตอนแรก เริ่มแรกหลังจากทาครีมบำรุงและและครีมกันแดดแล้ว ให้ทาเบสสีชมพูประกายมุกให้ทั่วบริเวณกึ่งกลางหน้า ได้แก่ กลางหน้าผาก ข้างจมูกสองข้าง จมูก และคาง แต่ถ้าใครผิวมีรอยแดงให้เปลี่ยนเป็นเบสสีเขียวแทนค่ะ ขั้นตอนนี้จะปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสมีประกาย ชุ่มชื้นพร้อมสำหรับการลงรองพื้นในขั้นต่อไป
                ขั้นต่อมาคือทารองพื้นคุมมันเนื้อแมตต์บางๆให้ทั่วใบหน้าด้วยฟองน้ำ ทาซ้ำเฉพาะจุดที่ต้องการให้ปกปิดเพิ่ม  ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาต้วยการใช้แปรงทาคอนซีลเลอร์ ต่อมาใช่พัฟทาแป้งฝุ่นคุมมันให้ทั่วใบหน้า กดพัฟกับผิวเบาๆให้แป้งติดทน
                สุดท้ายนี้ใช้แปรงปัดแป้งส่วนเกินออกเพื่อไม่ให้ดูหนาเป็นคราบก็เป็นอันเรียบร้อย

                 ผิวแมตต์แบบนี้นอกจากจะเข้ากับการแต่งหน้าแบบแมตต์สนิทเหมือนในรันเวย์แล้ว ยังเหมาะกับการแต่งหน้าที่ใช้ลิปกลอส หรือบลัชออนและอายแชโดว์แบบแวววาวด้วยนะคะ เพราะว่าจะช่วยบาลานซ์ความมันวาวบนใบหน้านั่นเองค่า



5

หากทำตามเทคนิคการใช้รองพื้นคุมมัน แป้งพัฟคุมมันและเมคอัพเบสตามที่กล่าวมานั้น รับรองว่าปัญหาหน้ามันของสาว ๆ จะต้องลดลงได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากสาว ๆ ยังคงเจอปัญหาหน้ามันอยู่ล่ะก็ อาจเป็นที่พฤติกรรมอื่น ๆ ก็เป็นได้  5 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่ไม่ควรทำถ้าหากไม่ต้องการให้ผิวหน้ามันเยิ้ม




1.   ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่เหมาะกับผิว

ผิวมันจะเหมาะกับมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เป็นเนื้อเจลมากที่สุด เนื่องจากซึมลงผิวได้ดีไม่ทิ้งความมันไว้ ดังนั้นถ้าใครสงสัยว่าทำตามทุกข้อแล้วผิวยังมันอยู่ ให้ลองเช็คครีมบำรุงผิวที่ใช้อยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นตัวการก็ได้

2.   ล้างหน้าบ่อยเกินไป

การที่เราล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้ง ไม่ได้เป็นวิธีการกำจัดน้ำมันส่วนเกินที่ดีอย่างที่เข้าใจกัน เพราะจริง ๆ แล้ว การทำความสะอาดผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวแห้งตึง และเป็นการกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิมนั่นเอง

3.   เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวดูโกลว

ถึงแม้ว่าตอนนี้เทรนด์หน้าฉ่ำเงาเกาหลีจะมาเเรง สาว ๆ ผิวมันก็ไม่ควรไปหาซื้อครีมรองพื้นที่ทำให้ผิวหน้าดูโกลวมาใช้ เพราะยิ่งมาเจอกับผิวที่มันอยู่แล้ว จะทำให้หน้ายิ่งเยิ้มเข้าไปใหญ่ ขอย้ำเลยว่าใช้รองพื้นคุมมันนี่แหละ เอาอยู่!!


6
   
         ผิวหน้ามันเยิ้มเป็นปัญหากวนใจของใครหลายๆคน มานักต่อนัก ผิวที่มีน้ำมันส่วนเกินมากเกินไปจะทำให้แต่งหน้าได้ไม่ติดทน เครื่องสำอางและครีมรองพื้นที่ใช้หลุดลอกไปได้ง่าย อีกทั้งยังรู้สึกเหนอะหนะไม่สบายผิวและนำไปสู่การเกิดสิวได้อีกด้วย การจัดการปัญหาหน้ามันให้อยู่หมัดนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างการกำจัดสาเหตุของผิวมัน และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาเพื่อผิวมันโดยเฉพาะอย่างรองพื้นคุมมัน ดังนั้นสาวๆคนไหนที่ผิวหน้ามันเยิ้มจนปวดใจละก็ มาดูกันดีกว่าว่าควรทำอย่างไรบ้าง



สาเหตุของผิวมันมีอะไรบ้าง

         การที่เรามีผิวมันนั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกเลยก็คือฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยรุ่นที่มักจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินปกติ ซึ่งฮอร์โมนแอนโดรเจนนี่ล่ะที่เป็นตัวการอันดับต้นๆที่ทำให้ผิวมัน ยิ่งมีฮอร์โมนแอนโดรเจนนี่มากเท่าไหร่ รูขุมขนก็จะยิ่งมีน้ำมันผลิตออกมามากเท่านั้น น้ำมันที่ผลิตออกมานี้จะเคลือบอยู่ที่ชั้นภายนอกของผิว ทำให้ผิวดูมันเงานั่นเอง

        สาเหตุอื่นๆที่นำไปสู่การเกิดความมันส่วนเกินก็ได้แก่ รูขุมขนกว้างเพราะรูขุมขนที่กว้างมักจะผลิตน้ำมันออกมามากกว่า และการใช้ครีมบำรุงที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือไม่ทาครีมบำรุงผิวเลย หลายๆคนเข้าใจผิดว่าถ้ายิ่งถ้าทาครีมจะทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น แต่จริงๆแล้วถ้าปล่อยให้ผิวแห้งขาดน้ำละก็จะทำให้มีการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นผิวมันในที่สุด

        ถ้าหากน้ำมันส่วนเกินนี้จับตัวรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนล่ะก็จะอุดตันและนำไปสู่การเกิดสิวต่างๆตามมานั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีมากำจัดความมันส่วนเกินเพื่อไม่ให้ผิวอุดตันเป็นสิวได้ หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดช่วยควบคุมความมันได้อย่างรวดเร็วก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผิวมันโดยเฉพาะ เช่น กันแดดคุมมัน รองพื้นคุมมัน หรือแป้งฝุ่นคุมมัน โดยในบทความนี้จะแนะนำให้สาวๆผิวมันได้รู้จักกับรองพื้นคุมมันมากขึ้น เพียงแค่รู้จักวิธีใช้รองพื้นคุมมันที่ถูกต้องก็มีชัยมากกว่าครึ่ง



7
   สำหรับการเลือกครีมรองพื้นนั้น การเลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะมีส่วนช่วยให้รองพื้นได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรองพื้นแต่ละแบบก็มีเนื้อที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับแต่ละสภาพผิวด้วย



•   ผิวแห้ง
ชนิดรองพื้นที่เหมาะ : รองพื้นแบบครีม / รองพื้นแบบลิควิด(ชนิด Oil base)
สำหรับผิวแห้ง ธรรมชาติของผิวแห้งนั้นคือผิวที่ขาดน้ำในผิว ทำให้บริเวณผิวชั้นนอกมีความแห้งผากกว่าคนที่มีน้ำในผิวเยอะจึงเกิดการเป็นขุยหรือเป็นคราบได้ง่ายหากเลือกรองพื้นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเลย
เพราะฉะนั้น การเลือกรองพื้นสำหรับคนที่ผิวแห้งนั้นควรเลือกใช้รองพื้นชนิดครีม เนื่องจากรองพื้นชนิดครีมนั้นมีความเข้มข้นจากส่วนผสมที่เป็นแว็กซ์หรือน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งมีส่วนช่วยในการหล่อลื่น ไม่ทำให้ผิวนั้นแห้งเกินไป หรือจะเป็นรองพื้นแบบลิควิดก็ได้ แต่สำหรับคนที่ผิวแห้งควรเลือกที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมันเป็นหลักซึ่งมีส่วนช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวและป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นได้
•   ผิวมัน
ชนิดรองพื้นที่เหมาะ : รองพื้นแบบลิควิค / แป้งผสมรองพื้น
สำหรับผิวมัน โดยทั่วไปคือผิวที่ขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติ จึงมีส่วนทำให้ผิวหน้านั้นมีความมันวาวเกิดขึ้นจากน้ำมันส่วนเกินที่ถูกขับออกมา
การเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวมันจึงควรเลือกรองพื้นคุมมันและไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ที่จะเป็นสาเหตุที่เพิ่มความมันให้ผิว รองพื้นแบบลิควิดจึงเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมากกว่าน้ำมัน หรือบางสูตรนั้นแทบไม่มีน้ำมันเลย จึงมีส่วนช่วยควบคุมความมันได้ดีหรือแป้งผสมรองพื้นสูตร oil-free ก็เป็นตัวเลือกที่ดีของผู้ที่ผิวมันเช่นกัน
•   ผิวผสม
รองพื้นที่เหมาะกับผิวผสม : รองพื้นทุกชนิด
โดยทั่วไปผิวผสมนั้นคือผิวที่เป็นการผสมกันระหว่างผิวมันและผิวแห้งบนใบหน้า บริเวณ T-zone ผิวจะมันและบริเวณ U-zone ผิวจะแห้ง ซึ่งสำหรับคนที่ผิวผสมนั้นการดูแลผิวจะค่อนข้างยากกว่าปกติเพราะต้องดูแลทั้งบริเวณที่มันและบริเวณที่แห้ง
รองพื้นที่เหมาะกับผิวผสมนั้นเป็นรองพื้นแบบลิควิด โดยเลือกสูตรที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์หรือเพิ่มความชุ่มชื่น โดยการใช้รองพื้นนั้นแนะนำให้ลงบริเวณที่แห้งมากกว่าบริเวณที่มัน หรือรองพื้นแบบครีมก็เหมาะสมเช่นกัน

8
          ในตอนนี้นั้น การแต่งหน้าเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สาวๆขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะหน้าที่สวยงาม เรียบนียน เป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวสาวๆก่อนออกจากบ้าน เป็นอาวุธที่เสริมความมั่นใจให้สาวๆได้อย่างดีนั่นเอง และเพราะเป็นอาวุธเสริมความมั่นใจนี่แหละคะ ถึงมีแค่ครีมรองพื้นหนึ่งเดียวไม่พอ ! การจะสวยได้เสร็จครบให้จบวันนั้นต้องมีตัวช่วยเด็ดๆอย่างแป้งพัฟมาเสริมทัพความสวยด้วยนั่นเอง ! เพราะอากาศที่ร้อนระอุของบ้านเรานั่นทำให้เมคอัพนั้นหลุดไหลง่ายเหลือเกิน เกินกว่าแป้งฝุ่นธรรมดาจะเอาอยุ่ ถึงจะต้องมีการเติมแป้งพัฟที่ผสมรองพื้นลงระหว่างวัน !!! ซึ่งก่อนอื่นเราจะต้องทำความรู้จักแป้งพัฟกันให้ดีกอนใช้ค่ะ



แป้งพัฟคืออะไร ?
          น้อยคนบนโลกที่จะไม่รู้จักแป้งพัฟ แต่ก็ยังมีคนไม่รู้จักกันอยู่ดีค่ะ เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักแป้งพัฟกันเสียก่อนดีกว่าว่าแป้งพัฟนั้นคืออะไร แป้งพัฟนั้นเป็นแป้งอัดแข็งโดยมีส่วนผสมของของเนื้อแป้งเนียนละเอียดกับรองพื้นไม่ว่าจะเป็นรองพื้นคุมมันหรือไม่คุมมันก็ตาม ซึ่งตัวรองพื้นนั้นคุณสมบัติเลยก็คือปกปิดดีเยี่ยม และเหมาะกับการเติมระหว่างวันสำหรับสาวๆมากเพราะพกพาสะดวกสบาย แถมยังมีพัฟและกระจกในตลับ พร้อมให้ใช้งานตลอดเวลา
ซึ่งการใช้เจ้าแป้งพัฟนั้นอาจทำให้หลายคนประสบปัญหาก็เป็นได้ เนื่องจากการทาแล้วไหล ทาแล้วแครกนทำให้ร้องยี้ไปซะหมดแต่สาวๆไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะกระทู้นี้เราจะมาบอกวิธีใช้แป้งพัฟให้หน้าเป๊ะ ดูเรียบเนียนเหมือนใช้แป้งฝุ่นกัน !

เทคนิคการใช้แป้งพัฟให้หน้าเป๊ะ

1.เริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากได้ผิวที่ดูเนียนส อุปกรณ์การแต่งหน่าก็สำคัญนะคะ เพราะว่าการใช้แปรงเพื่อปัดแป้งพัฟนั้น จะมีส่วนช่วยให้ผิวดูเนียนใสมากกว่าการใช้พัฟ แต่ถ้าใครอยากได้ผิวหน้าที่ดูเนียนกริบ แล้วก็เป๊ะล่ะก็ การใช้พัฟที่มากับตลับแป้งนั้นถือว่าเริ่ดที่สุดแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นใครต้องการผลลัพทืแบบไหนต้องเลือกอุปกรณ์ให้ดีก่อนนะคะ
2. เมื่อเราเลือกอุปกรณ์ได้แล้วเนี่ย ก็นำแปรงแต่งหน้าหรือพัฟมาแตะเบาๆที่แป้ง ไม่ต้องปาดนะคะ เพราะอาจได้ปริมาณแป้งที่มาเกินไป หลังจากนั้นหากใช้พัฟให้กดๆลงที่ผิวหน้าของเรา ให้เนื้อแป้งผสมรองพื้นนั้นติดแน่นที่ผิวเลยค่ะ แต่ถ้าหากใช้แปรงให้ปัดวนๆบนใบหน้าเอานะตะ
3. หลังจากปัดแป้งลงที่ผิวเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนทที่จะช่วยให้ผิวสวยเนียนเปะก็คือสเปรย์น้ำแร่นั่นเองค่ะ ให้สาวๆเอาสเปรย์น้ำแร่ฉีดลงที่พัฟอะไรก็ได้ค่ะ กลับไปแตกที่แป้งแล้วกดๆลงบนผิว เป็นการล้อคแป้งให้อยู่ติดทนกับหน้า และดูเรียบเนียนได้ตลอดวันค่ะ

9
เมคอัพละลายนี่เป็นเรื่องแสนเศร้าของผู้หญิงอย่างเราๆเลยค่ะ บวกกับอากาศประเทศไทยด้วยล่ะก็ แต่งไปไหนก็ไหลเละเลยค่ะ ต้องอาศัยอยู่ในแอร์ตลอดเวลา วันนี้เราจึงมี 3 ตัวช่วยชั้นดีมาแนะนำสาวๆ หน้ามันที่รักการแต่งหน้ามาฝากกันค่ะ การันตีเลยว่าช่วยได้แน่ๆ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

                ชิ้นแรกเลยคือปกติแล้วรองพื้นมักจะหนักหน้า จัดว่าเป็นตัวการที่ทำให้เมคอัพบนหน้าไหลเยิ้มเร็วไปอีก แต่หากสาวๆ เปลี่ยนมาใช้รองพื้นสำหรับคนหน้ามันแทนปัญหาเมคอัพเยิ้มก็จะลดลง เพราะว่าในรองพื้นคุมมันนั้นมีส่วนผสมของน้ำมันน้อยและเนื้อบางเบากว่าครีมรองพื้นทั่วไปนั่นเองค่ะ

                ต่อมาก็คือแป้งพัฟนั้นจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า เมื่อปัดหลังลงรองพื้นก็จะช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น เลือกเป็นแป้งพัฟคุมมันใช้ก็ได้ค่ะ ความมันดูลดลงโดยที่ไม่เป็นคราบ จะพกไว้เติมเพื่อลดความมันบนใบหน้าระหว่างวันก็เหมาะมาก

                ชิ้นสุดท้ายคือไอเท็มที่คุ้นเคยกันดี สเปรย์น้ำแร่นั่นเองง หากฉีดก่อนแต่งหน้าก็จะช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้นขึ้น ฉีดหลังแต่งหน้าก็จะช่วยเซ็ทเมคอัพให้ติดทนนาน หรือจะพกไว้ฉีดเติมความชุ่มชื้นให้ผิวระหว่างวันก็ได้ หากผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอก็จะไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น เมื่อฉีดสเปรย์น้ำแร่ผิวหน้าของเราจึงดูมันน้อยลงและยังดูสดชื่นขึ้นอีกด้วย

                 ตัวช่วย 3 อย่างนี้หาซื้อได้ไม่ยากเลยค่ะ แถมราคาก็น่าคบหาด้วย เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มที่สาวๆ หน้ามันไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่ะ อย่าลืมไปหาซื้อมาใช้กันนะคะ นอกจากนี้แล้วการใช้เครื่องสำอางที่ติดทนก็ช่วยลดปัญหาเมคอัพลดเลือนได้เช่นกันค่า




10
ความงาม | Beauty / ที่ล้างเครื่องสำอางสุดเจ๋ง
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2018, 05:05:29 AM »

การที่สาวๆนั้นแต่งหน้า แน่นอนค่ะว่าจะต้องมีเรื่องการล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางและการบำรุงผิวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นั่นเป็นเพราะว่าการแต่งหน้านั้น เป็นที่มาของการเกิดสิว เกิดริ้วรอยต่างๆที่ไม่พึงประสงค์นั่นเองค่ะ ถามว่าเป็นเพราะอะไรนั่นก็เป็นเพราะเครื่องสำอางทั้งหลายของเรานั่นเองค่ะไม่ว่าจะเป็นแป้งพัฟ หรือว่าจะเป็นครีมรองพื้นต่างๆ ซึ่งพวกนี้แหละค่ะ เป็นสาเหตุของการอุดตันจนเกิดสิวอักเสบบนหน้าเรานั่นเอง !
วิธีการป้องกันการเกิดสิวอุดตันที่เกิดขึ้นจากเครื่องสำอางนั้น จริงๆแล้วถือได้ว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่สาวๆทุกคนนั้นทำอยู่แล้ว แต่หลายๆคนอาจจะทำมันแบบลวกๆ ไม่ให้ความสำคัญกับขั้นตอนนั้นสักเท่าไหร่ นั่นก็คือ “การล้างเครื่องสำอาง” นั่นเองค่ะ
การล้างเครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เครื่องสำอางนั้นเข้าไปอุดตันที่ผิวนั้น ต้องเริ่มจากการเลือกที่ล้างเครื่องสำอางที่เหมาะกับผิวของตัวเองก่อนเลยค่ะ เพราะการเลือกเครื่องสำอางไม่เหมาะกับผิวของตัวเองนั้น ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอุดตันได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นสาวที่ผิวมัน แน่นอนค่ะว่าทุกคนจะต้องเลือกใช้ครีมรองพื้นหรือพวกรองพื้นคุมมันใดๆ เพราะอยากได้ความติดทนนานมากกกก การเลือกที่ล้างเครื่องสำอางของสาวผิวมัน ก็ควรจะต้องเลือกเป็นที่ล้างเครื่องสำอางแบบน้ำหรือพวก Micellar water นั่นเองค่ะ
เพราะคนผิวมันนั้น แน่นอนว่าน้ำมันบนผิวก็ต้องเยอะกันเป็นเองปกติแล้ว การที่จะเอาที่ล้างเครื่องสำอางแบบออยล์บวกเข้าหน้าไปอีก ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวอุดตันได้ย่างมากเลยล่ะค่ะ หรือถ้าอย่างเป็นสาวที่ผิวแห้งเนี่ย การที่สาวๆมาเลือกใช้ที่ล้างเครื่องสำอางแบบน้ำแทนแบบออยล์ ผิวของคุณที่ไม่มีความชุ่มชื่นอยู่แล้ว พอใช้ที่ล้างเครื่องสำอางแบบน้ำ ก็ทำให้หน้าของเราไม่มีความชุ่มชื่นขึ้นไปอีกนะ
พอเลือกที่ล้างเครื่องสำอางเรียบร้อยแล้ว วิธีการใช้ที่ล้างเครื่องสำอางก็สำคัญเช่นกันค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าแต่ละแบบก็มีวิธีการใช้ที่ต่างกัน อย่างที่ล้างเครื่องสำอางแบบออยล์นั้นวิธีการใช้ไม่ใช่การหยดลงทิชชู่แล้วเช็ด แต่เป็นการนวดลงบนผิวหน้า เพื่อให้เครื่องสำอางนั้นหลุดออกมาจากหน้า หรือแบบน้ำก็ควรใช้สำลีเพื่อเป็นตัวช่วยในการเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้านั่นเองค่ะ
เลือกที่ล้างเครื่องสำอางที่ถูก วิธีใช้ที่ใช่ ก็ช่วยป้องกันสิวที่จะเกิดบนใบหน้าได้แล้วล่ะค่ะ


11

           รองพื้นเป็นไอเท็มสำคัญที่สาวๆผู้รักการแต่งหน้าทั้งหลายต่างมีไว้ในครอบครองแต่จะมีสักกี่คนที่ใช้รองพื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทริคต่อไปนี้จะทำให้สาวๆใช้รองพื้นได้คุ้มค่ามากขึ้นแน่นอน
   
             รองพื้นใช้แทนคอนซีลเลอร์ได้ถ้าคุณสาวๆเกิดคอนซีลเลอร์หมดขึ้นมาไม่ต้องตกใจไป เอาครีมรองพื้นหรือจะเป็นรองพื้นคุมมันที่มีอยู่เนี่ยแหละมาประยุกต์ใช้ได้โดยเคล็ดลับการทำให้เนื้อรองพื้นใกล้เคียงกะคอนซีลเลอร์ขึ้นมาก็คือหยดเนื้อรองพื้นแล้วปล่อยให้แห้งลงเล็กน้อยเนื้อรองพื้นจะข้นขึ้นคล้ายคอนซีลเลอร์แต้มลงบริเวณที่ต้องการปกปิดจากนั้นจึงค่อยเบลนด์ ซึ่งถ้าเรารีบเบลนด์เร็วเกินไปเนื้อรองพื้นจะยังไม่ข้นพอทำให้หลุดลอกได้ง่ายให้การปกปิดน้อยเกินไป
         
อายแชโดว์ก็ต้องใช้แป้งเซต แก้ปัญหาหน้าโทรมได้ง่ายๆเมื่อลงรองพื้นทั่วใบหน้าแล้วก็อย่าลืมทารองพื้นที่บริเวณรอบดวงตาด้วยเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วบริเวณรอบดวงตาของเรามักจะมีสีแดงมาจากเส้นเลือดใต้ชั้นผิวหนังซึ่งการปกปิดรอยแดงบริเวณนี้จะทำให้เราดูสดชื่นเหมือนนอนเต็มอิ่มได้ทันทียิ่งถ้าเราลงรองพื้นทั่วใบหน้าแล้วก็จะยิ่งเห็นได้ชัดว่าผิวรอบดวงตาดูโทรมดังนั้นอย่าลืมปกปิดบริเวณรอบดวงตากันด้วยโดยเราไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นเยอะเพราะอาจเป็นคราบระหว่างวันเพียงแค่ใช้ส่วนที่เหลือติดฟองน้ำหรือแปรงมาทาบางๆก็เป็นอันใช้ได้รองพื้นที่ใช้ลงตาควรเป็นรองพื้นคุมมันนะคะเพราะตาของเรามีความมันกว่าส่วนอื่นบนใบหน้าแล้วค่อยตบแป้งพัฟปิดท้าย
     
           และสุดท้าย รองพื้นที่ถูกสีใช่ว่าจะถูกอันเดอร์โทนนะคะ ต้องอันเดอร์โทนเดียวกันด้วยปัญหาหน้าเทาหน้าหมองจะหมดไปเพียงแค่เลือกสีรองพื้นให้ตรงกับอันเดอร์โทนผิวซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 3 อันเดอร์โทนก็คือ โทนเย็นโทนร้อน และโทนกลางๆซึ่งการเลือกรองพื้นจากอันเดอร์โทนผิวนั้นสำคัญพอๆกับสีผิวเลยทีเดียวเพราะถึงแม้รองพื้นจะเป็นโทนสีสว่างใกล้เคียงแต่ถ้าเป็นคนละอันเดอร์โทนละก็ทำให้เราดูโทรมหรือหน้าลอยได้เลยทีเดียว


12
ความงาม | Beauty / คอนซีลเลอร์ใต้ตาดีที่สุด
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2018, 05:22:52 AM »
คอนซีลเลอร์ใต้ตาไม่เนียนเป็นปัญหาที่สาวๆ หลายคนแก้ไม่ตก บางทีอุตส่าห์ลงทุนไปซื้อยี่ห้อแพงๆ ที่เขาว่าดีนักดีหนามาใช้แล้ว แต่ก็ยังไม่วายเป็นคราบอีก! ปัญหามันอยู่ที่คอนซีลเลอร์หรืออะไรกันแน่
                คุณภาพของคอนซีลเลอร์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้สาวๆ ลงคอนซีลเลอร์ได้เนียนสวยก็จริง แต่สภาพผิวของสาวๆ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญหนึ่งเช่นกันค่ะ หากสาวๆ มีผิวใต้ตาที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือมีริ้วรอยใต้ตา การลงคอนซีลเลอร์ให้เนียนก็อาจจะยากขึ้นเป็นสองเท่า
                หากแต่ว่าปัญหานี้ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ เพียงแค่สาวๆ ลองไปหาอายครีมหรือเซรั่มใต้ตาที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นมาใช้ ทาใต้ตาให้ทั่วเป็นประจำทุกคืนเวลาที่เราบำรุงผิวหน้า ความชุ่มชื้นจะช่วยให้ผิวใต้ตาของเราดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ส่งผลให้เราสามารถลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาได้ง่ายขึ้นค่ะ
         ขั้นแรกต่อมาให้สาวๆ ปาดเนื้อคอนซีลเลอร์ลงบนหลังมือ ใช้นิ้วถูเนื้อครีมวนไปบนหลังฝ่ามือสักหน่อยเพื่อเป็นการวอร์มเนื้อครีม จากนั้นจึงแตะคอนซีลเลอร์ที่บริเวณใต้ตาเป็นจุดเล็กๆ สามจุด จากนั้นใช้นิ้ว แปรง หรือฟองน้ำเกลี่ยให้สม่ำเสมอ การวอร์มเนื้อคอนซีลเลอร์ก่อนใช้จะช่วยให้สาวๆ ได้ใช้คอนซีลเลอร์ในปริมาณที่พอเหมาะและเกลี่ยได้ดูบางเบามากขึ้นค่ะ นอกจากนี้การใช้ครีมรองพื้นที่เนื้อปกปิดมาใช้แทนก็จะลดการเป็นคราบได้เช่นกัน
          ปิดท้ายด้วยการใช้แป้งฝุ่นคุมมัน หรือแป้งพัฟคุมมันมาเซ็ตคอนซีลเลอร์ให้อยู่ทนทั้งวัน โดยการใช้แปรงค่อยๆ ปัดทับหลังลงคอนซีลเลอร์เบาๆ แทนการใช้พัฟ จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น ไม่ดูหนาเกินไป และคอนซีลเลอร์ติดทนนานมากขึ้นเพราะเจ้าแป้งฝุ่นคุมมันกับแป้งพัฟคุมมันนี่แหละค่ะ ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ ยังไงสาวๆ ก็ลองนำไปทำตามดูนะคะ เท่านี้ปัญหาคอนซีลเลอร์ไม่เนียนของสาวๆ ก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป แถมไปไม่ต้องคอยซื้อคอนซีลเลอร์ใหม่บ่อยๆ ด้วย ประหยัดเงินไปได้อีกเยอะแถมเมคอัพยังดูเนียนไร้ที่ติอีกด้วยล่ะค่า


13
ความงาม | Beauty / คุชชั่น ทางเลือกใหม่ของสาวๆ
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2018, 06:13:05 AM »

ในปัจจุบันนี้นอกจากรองพื้นแล้ว ทางเลือกสำหรับสาวๆที่อยากแต่งหน้าง่ายมากขึ้น ก็ยังมีคุชชั่น ที่ถูกออกแบบมาให้เพื่อสความสะดวกสบายเพื่อสาวๆด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้คุชชั่นก็มีให้เลือกเยอะหลายแบรนด์มาก นอกจากสะดวกแล้วยังช่วยให้หน้าดูโกลว เปล่งประกายอีกต่างหาก เรียกได้ว่าช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติอีกทั้งยังได้โชว์ผิวใสไปในตัวด้วยเลยล่ะ
ผลิตภัณฑ์ประเภทคุชชั่นมาในรูปแบบตลับที่พกพาง่าย สะดวกต่อการเติมระหว่างวัน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของทั้งกันแดดและครีมรองพื้นไปพร้อมๆกัน ซึ่งถ้าใครได้ลองใช้คุชชั่นแล้วก็คงจะรู้ว่าการทาคุชชั่นนั้นง่ายกว่าการทารองพื้นทั่วไปมาก แต่ถ้าเรามีวิธีทาที่ไม่ถูกต้องก็อาจจะได้หน้าหนาเตอะเป็นคราบมาแทนได้ค่ะ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าทาคุชชั่นอย่างไรถึงจะเนียนกริบสมใจ
            เริ่มแรกเลยให้กดพัฟลงบนคุชชั่นเบาๆ เน้นว่าเบาๆพอนะคะเพราะเราไม่ต้องการได้เนื้อรองพื้นมามากเกินไป รองพื้นที่มากับคุชชั่นนั้นมักจะมีเนื้อที่ค่อนข้างฉ่ำ ดังนั้นถ้าเรากดมาทีละเยอะๆจะทำให้หน้าเยิ้มหนาเตอะได้นั่นเอง ไม่ว่าจะต้องการปกปิดแบบน้อยหรือมากก็ควรเริ่มทาทีละน้อยๆจะได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกว่า
            ต่อมากดพัฟที่มีเนื้อคุชชั่นลงบนผิวเบาๆ การกดจะทำให้เนื้อคุชชั่นเนียนไปกับผิวไม่เป็นคราบ ถ้าใครที่ต้องการการปกปิดมากขึ้นก็ทาซ้ำอีกครั้งด้วยการแท็ปๆกดๆเข้าผิว ไม่ควรใช้วิธีถูพัฟหรือลากพัฟนะคะเพราะจะเห็นรอยรองพื้นเป็นเส้นๆได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แป้งผสมรองพื้นหรือแป้งพัฟเลย แต่ถ้าใครมีผิวมันก็อย่าลืมใช้แป้งฝุ่นคุมมันปัดบริเวณทีโซนเพื่อเซ็ตเนื้อคุชชั่นสักหน่อย หรือจะแป้งพัฟคุมมันก็ได้จ้าถ้าอยากได้แน่นๆ ปัวะๆ
เท่านี้เราก็จะได้ผิวที่เนียนใสไร้รอยต่างๆ แต่ยังคงความเป็นผิวจริง ฉ่ำๆเนียนๆแบบสาวเกาหลีแล้วค่า แต่ถ้าใครที่เอ้อ อยากได้ผิวหน้าที่เนียนกริบไม่มันก็กลับไปซบอกรองพื้นคุมมันเถอะจ่ะ คุชชั่นไม่เหมาะกับสายแมตต์นะจ๊ะ

emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21 emo21

14
          เรื่องเมคอัพที่ไหลเยิ้มนี่เป็นเรื่องที่แสนปวดใจของสาวๆเลยค่ะ เพราะว่าไม่มีใครหรอกที่อยากให้เครื่องสำอางหลุดลอกระหว่างวัน แต่เรื่องการที่เครื่องสำอางไหลเพราะหน้าที่มันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไมได้เช่นกัน แล้วคุณผู้หญิงทั้งหลายจะมีวิธีอะไรเล่า ที่จะช่วยให้เครื่องสำอางไม่ไหลเยิ้มระหว่างวันกันเนี่ย เรามีตัวช่วยมาฝากให้สาวๆกันค่ะ

          ตัวช่วยที่จะช่วยให้หน้าไม่ไหลเยิ้มนั่นก็คือแป้งพัฟนั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะพูดว่าแป้งพัฟนี่แหละตัวดีเลยที่ทำให้หน้าเยิ้ม นั่นแปลว่าคุณยังเลิกไม่ถูกไงล่ะคะ การที่เราอยากได้หน้าที่แมทและติดทน นอกจากรองพื้นที่เราเลือกใช้จะเป็นรองพื้นคุมมันแล้ว แป้งพัฟที่เราเลือกใช้ก็ต้องเป็นแป้งพัฟคุมมันเช่นกันค่ะ

         เพราะอะไรล่ะ ?? นั่นเป็นเพราะรองพื้นคุมมันอย่างเดียวอาจจะช่วยคุมมันไม่ไหลได้ไม่ครบลูปของหน้าเรา ! การที่เอาแป้งพัฟคุมมันไปเสริมทัพ จะช่วยให้หน้าที่ไหลเยิ้มง่ายของเรานั้น แมทท์ติดทนได้เป็นระยะเวลานานยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อหน้าเรามันน้อยลงนั้น การที่เมคอัพหรือเครื่องสำอางของเราจะหลุดออกจากใบหน้าของเรานั้น ก็เป็นเรื่องยากด้วยเช่นกัน

           นี่จึงเป็นเหตุผลหลักๆของสาวๆที่หน้ามัน หน้าไหลเยิ้มง่ายเลยล่ะค่ะ ที่จะต้องเลือกแป้งพัฟคุมมันดีๆ มาติดกระเป๋าไว้สักตลับ ทั้งช่วยประหยัดเวลาในการเติมหน้าบ่อยๆจากความมัน แล้วก็ช่วยเสริมความมั่นใจจากหน้าที่เนียนเปะ ไม่ง้อกระดาษซับมันบ่อยๆแล้วล่ะค่า

           อย่าลืมมองหาแป้งดีๆสักหนึ่งตลับ เชื่อได้เลยค่ะว่าแป้งดี มีชัยไปกว่าครึ่งน้า ;)


หน้า: [1]