ทุกๆคน จะต้องมีสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่มีความคิดว่าอยากไปลองทำอะไรที่ใหม่ๆ หาความท้าทายให้ชีวิตของตัวเองบ้าง บางบุคคลเลือกหางานที่ทำในเวลาว่างใหม่ที่ยังไม่เคยทำ ช่วงเวลาที่บางบุคคลอยากเอางานที่ทำในเวลาว่างนั้นมาต่อยอดเป็นอาชีพ และเมื่องานที่ทำในเวลาว่างหรือสิ่งที่ชอบนั้นไม่ใกล้เคียงกับงานที่ทำอยู่เลย จึงจำเป็นที่จะต้องแปลงสายงานหรือสายอาชีพใหม่ และการแปลงสายอาชีพนับว่าเกิดเรื่องใหญ่ไม่น้อย เพราะว่าเสมือนจึงควรเริ่มนับหนึ่งใหม่

ผมเลยอยากให้ผู้ที่กำลังคิดต้องการจะแปลงสายอาชีพได้ลองเอาอย่างแนวทางที่เราเอามาฝากกัน เพื่อจะให้การแปลงสายอาชีพนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ

1: หาข้อมูลของสายงานที่อยากจะมีผลให้เยอะที่สุด

เมื่อรู้แล้วว่างานที่อยากได้เป็นยังไง ก็จึงควรศึกษาเล่าเรียน data เกี่ยวโยงกับงานต่าง ๆ ที่อยู่ในสายงานนั้นให้เยอะที่สุด ก็เพราะเหตุว่ายิ่งเตรียมความพร้อมและมี data มากก็จะช่วยทำให้เราพร้อมในการเริ่มงานใหม่มากยิ่งขึ้น และอย่าพึ่งจะกังวลหาก data เจอนำมาซึ่งการทำให้รู้สึกถึงความไม่แน่นแฟ้นหรือพบว่ามีอุปสรรค เพราะเหตุใดที่เราชอบจริง ๆ ปริศนาที่กำเนิดขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอีกความมันส์ที่จึงควรแก้ให้ได้ในทันที

2: ทบทวนว่าตนเองมีความชำนาญอะไรบ้างที่นำมาประยุกต์ใช้กับงานใหม่ได้

มีความถนัดจำนวนไม่ใช่น้อยที่ได้ศึกษาจากการปฏิบัติงานหรือการดำเนินชีวิต ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานในแทบทุกสายอาชีพได้ อย่างความถนัดสำหรับเพื่อการสื่อสาร การเป็นหัวหน้า หรือการคิดแผนเป็นต้น ความถนัดเหล่านี้อาจจะก่อให้เราประหลาดใจว่าจริง ๆ แล้วตนเองก็มีความถนัดและประสบการณ์บางสิ่ง ที่มากพอจะใช้ประโยชน์กับการปฏิบัติงานในสายอาชีพใหม่ได้

3: ลง course ศึกษาเพิ่มอีกเพื่อที่จะเป็นการเตรียมพร้อมอีกขั้นหนึ่ง

ความชำนาญที่ควรต้องมีในสายอาชีพนั้นโดยตรง หรือความชำนาญอะไรบางอย่างที่เฉพาะทางมาก ๆ การเรียนผ่าน course เรียนรู้สั้น ๆ เพิ่มเติมอีก จะมีผลให้เราได้เตรียมพร้อมสำหรับจ้างทำงานนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นการช่วยทำให้เราเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ ว่าชอบอาชีพนี้จริง ๆ และมันส์กับการปฏิบัติงานนี้หรือเปล่า

4: เพิ่มเติมประสบการณ์ที่เกี่ยวพันกับงานนั้นเข้าไว้

การแปลงสายอาชีพคือการที่เราจะต้องไปเริ่มสร้างนับหนึ่งใหม่ ด้วยเหตุดังกล่าวหากได้โอกาสก็ควรที่จะลองหาเวลาว่างในวันหยุดหรือข้างหลังเลิกงาน ไปดำเนินงานพาร์ทไทม์ อาสาดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกับงานที่เราอยากได้ทำดูบ้าง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งผลให้เราได้เล่าเรียนและเก็บรวบรวมเกี่ยวข้องประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกับงานสายนั้นได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยซ้ำ

5: อย่าลืมมองหาทางเลือกใกล้ตัว

การแปลงสายงานมิได้มีความหมายว่าราต้องลาออกมาจากบริษัทเดิมแล้วไปทำที่ใหม่เสมอไป ก็เพราะเหตุว่าในแต่ละหน่วยงานก็จะมีแผนกต่าง ๆ ซึ่งหากสายงานที่อยากได้ทำ มีอยู่ในบริษัทปัจจุบันและบริษัทก็มีนโยบายที่ให้โอกาสให้บุคลากรได้ย้ายไปทำในแผนกอื่น ๆ เราก็อาจจำเป็นจะต้องลองไปคุยกับผู้นำเกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ดู แต่ก่อนจะไปคุยก็จำเป็นจะต้องแน่ใจแล้วว่าเรามีคุณภาพและมีความพร้อมมากพอ

6: ตระเตรียมข้อมูลและเอกสารให้พร้อมสำหรับเพื่อการหางานใหม่

หากแน่ใจแล้วว่าเราพร้อมที่จะก้าวออกจากบริษัทเดิม ก็ถึงในขณะที่เราจึงควรเริ่มเตรียมความพร้อมในการหางาน สมัครงาน ไม่ว่าจะหาหนทางการหางานและการสมัครงาน ปรับแก้ resume’ และอัปเดตดาต้าใหม่ เรียนรู้และฝึกตอบปัญหาสัมภาษณ์ และที่สำคัญควรเตรียมความพร้อมสำหรับในการเขียนจดหมายสมัครงานให้ดี ก็เนื่องจากว่าจดหมายสมัครงานจะเป็นหลักที่ที่เราจะได้ชี้แจงถึงเหตุที่ปรารถนาแปลงสายงาน และบอกถึงต้นสายปลายเหตุผลที่เขาควรจะเรียกเราไปสัมภาษณ์ถึงแม้ว่าเรายังไม่เคยปฏิบัติงานในสายนี้มาก่อน

การเริ่มงานในสายอาชีพใหม่ก็ราวกับการริเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกที เราก็จำเป็นต้องสารภาพว่าตำแหน่งและ salary จะน้อยลงเป็นปกติ เราจึงควรฝึกหนัก ฝึกหัด และเรียนให้เยอะขึ้นกว่าก่อนหน้าที่ผ่านมาเพื่อจะพิสูจน์ให้ผู้อื่น ๆ มองว่าเรามีความรู้และความเข้าใจมากพอแม้เรายังไม่เคยดำเนินการสายนี้มาก่อนก็ตาม

credit: oknation