ในยุคสมัยที่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพพุ่งสูงขึ้น ประกันสุขภาพจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลาย ๆ คน แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม" เราสรุปเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีไว้แล้วที่นี่

           ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม สรุปตัวอย่างประกันสุขภาพที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
- ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย: จ่ายเบี้ยประกันจำนวนหนึ่ง กำหนดวงเงินคุ้มครองต่อปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครอบคลุม เหมาะกับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง
- ประกันสุขภาพแบบชดเชยค่ารักษาพยาบาล: จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง เหมาะกับผู้ที่มีแผนการรักษาที่ชัดเจน ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย
- ประกันมะเร็ง: จ่ายเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคมะเร็ง ช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในการรักษา
- ประกันโรคร้ายแรง: จ่ายเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง ช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในการรักษา

         ประโยชน์ของประกันสุขภาพ
- ช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล: กรณีเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ จะมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
- ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย: ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของครอบครัว
- ช่วยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ: เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
         สรุปได้ว่า จากคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม บอกเลยว่านอกจากจะให้ความคุ้มครองสุขภาพแล้ว ยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้เสียภาษีควรศึกษาข้อมูล ประเภทของประกัน เงื่อนไข และวงเงินเบี้ยประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจทำประกัน

          วิธีการคำนวณเบี้ยประกันที่นำมาลดหย่อนภาษี
- เบี้ยประกันสุขภาพที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ ไม่รวมเบี้ยประกันเพิ่มเติม เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันการเดินทาง
- กรณีซื้อประกันสุขภาพหลายฉบับ ให้รวมเบี้ยประกันทั้งหมดแล้ว ไม่เกิน 25,000 บาท
- กรณีซื้อประกันสุขภาพให้ตัวเองและพ่อแม่ ให้รวมเบี้ยประกันทั้งหมดแล้ว ไม่เกิน 50,000 บาท

        เอกสารประกอบการขอคืนภาษี
1.ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกัน
2.สำเนากรมธรรม์ประกัน
3.ใบรับรองแพทย์ (กรณีซื้อประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่)

         สถานที่ยื่นขอคืนภาษี
- สำนักงานสรรพากรพื้นที่

         ระยะเวลาการยื่นขอคืนภาษี
- ภายใน 15 วันหลังสิ้นปีภาษี

         กรณีไม่สามารถยื่นขอคืนภาษีได้
- ผู้เสียภาษีไม่ได้เสียภาษีเงินได้
- ผู้เสียภาษีไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
 
         โดยสรุปแล้ว สำหรับใครที่สงสัยว่า ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบก็คือ สามารถลดได้ แต่ผู้เอาประกันควรศึกษาข้อมูลประเภทของประกัน เงื่อนไข และวงเงินเบี้ยประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจทำประกัน เก็บใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกัน สำเนากรมธรรม์ประกัน และใบรับรองแพทย์ (กรณีซื้อประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่) ไว้เป็นหลักฐาน และยื่นขอคืนภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด
 

ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการเก็บเงินก้อน การเลือกซื้อประกันออมทรัพย์ระยะสั้นก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบ เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครองชีวิตและได้ออมเงินในระยะสั้นแล้ว ระยะเวลาส่งเบี้ยประกันก็เป็นแบบเบาๆ เพราะจะอยู่ที่ 3 ปีขึ้นไป แต่จะไม่เกิน 10 ปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บออมเงินในระยะสั้น เพื่อใช้ในเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว หรือการศึกษาต่อในอนาคต



การเลือกซื้อประกันออมทรัพย์ระยะสั้น ควรพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
เป้าหมายการออมเงิน ว่าต้องการออมเงินเพื่อใช้ทำอะไร เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว หรือการศึกษาต่อ เมื่อทราบเป้าหมายการออมเงินแล้ว ก็จะช่วยให้สามารถเลือกประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่มีระยะเวลาส่งเบี้ยประกันและผลตอบแทนที่เหมาะสมได้

ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน ควรคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละเดือน โดยไม่ควรให้เบี้ยประกันสูงเกินกว่า 10% ของรายได้ต่อเดือน

ความคุ้มครองชีวิต ประกันออมทรัพย์ระยะสั้นส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองชีวิตกรณีเสียชีวิต ซึ่งควรพิจารณาความคุ้มครองชีวิตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและความต้องการ

นอกจากนี้ ควรเปรียบเทียบประกันออมทรัพย์ระยะสั้นจากหลายๆ บริษัทประกันภัย เพื่อเลือกประกันที่มีเงื่อนไขและผลตอบแทนที่ดีที่สุด
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเปรียบเทียบประกันออมทรัพย์ระยะสั้น

ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน ระยะเวลาส่งเบี้ยประกันมีผลต่อผลตอบแทนที่ได้รับ โดยประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่ส่งเบี้ยประกันนานกว่าจะได้รับผลตอบแทนมากกว่า

ผลตอบแทน ผลตอบแทนที่ได้รับจากประกันจะแตกต่างกันไปตามบริษัทประกันภัยและประเภทของการลงทุน โดยประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่ลงทุนในหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่ลงทุนในตราสารหนี้

ค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประกันออมทรัพย์ระยะสั้น เช่น ค่าธรรมเนียมการเบิกเงินก่อนครบกำหนด ค่าธรรมเนียมการคืนเบี้ยประกันก่อนครบกำหนด ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อประกัน

ตัวอย่างประกันออมทรัพย์ระยะสั้น
ประกันออมทรัพย์ Easy E-Save 10/5 จาก FWD ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 5 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100% ของทุนประกัน และผลตอบแทนสูงสุด 7% ต่อปี

ประกันออมทรัพย์ Easy E-Save 10/10 จาก FWD ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 10 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100% ของทุนประกัน และผลตอบแทนสูงสุด 8% ต่อปี

ประกันออมทรัพย์ Easy E-Life จาก FWD ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 5 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุด 2,000,000 บาท และผลตอบแทนสูงสุด 7% ต่อปี

ประกันออมทรัพย์ 10/5 ของอาคเนย์ประกันชีวิต ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 10 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100% ของทุนประกัน และผลตอบแทนสูงสุด 10% ต่อปี

ประกันออมทรัพย์ 10/4 ของไทยประกันชีวิต ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 10 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100% ของทุนประกัน และผลตอบแทนสูงสุด 8% ต่อปี

ประกันออมทรัพย์ 9/3 ของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ระยะเวลาส่งเบี้ยประกัน 9 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100% ของทุนประกัน และผลตอบแทนสูงสุด 7% ต่อปี

    หากใครที่อยากเลือกซื้อประกันออมทรัพย์ระยะสั้นได้อย่างตรงใจ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้ได้ประกันที่เหมาะสมกับเป้าหมายการออมเงินและความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน ซึ่งจะช่วยให้การออมเงินในระยะสั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันเอง

   ในยุคปัจจุบันที่ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดังอันทันสมัยเปิดให้บริการแทบทุกมุมเมือง คนจำนวนไม่น้อยอาจจะคิดว่าการเดินเข้าร้านค้าปลีกหรือร้านขายของชำอาจจะไม่น่าสนใจอีกต่อไป บวกกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา คนไม่จับจ่ายใช้สอยกันคล่องมือเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ร้านค้าปลีกเหล่านี้ต้องปิดกิจการลงไปหลายแห่ง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำให้รู้จักกับระบบ POS สำหรับร้านค้าปลีก ที่จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ร้านของชำเชย ๆ ให้กลายเป็นร้านค้ายุคใหม่ น่าเข้า น่าซื้อ สามารถยืนหยัดแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ได้อย่างแข็งแกร่งกัน!


   ระบบ POS สำหรับร้านค้าปลีกคืออะไร?
ระบบ POS หรือที่ย่อมาจากระบบ Point Of Sale System หมายถึงระบบขายหน้าร้าน ซึ่งไม่ใช่แค่สามารถใช้ในร้านขายของชำหรือร้านค้าปลีกเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับร้านค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายอุปกรณ์อื่น ๆ มีหน้าที่หลักคือช่วยแก้ปัญหาที่เจ้าของร้านทุกคนต้องพบเจอ อย่างเช่น ปัญหาเรื่องยอดเงินหรือคิดเงินผิดพลาด ปัญหาการจัดสต็อกไม่เพียงพอ ปัญหาสินค้าค้างสต็อก หรือปัญหาพนักงานลักลอบทุจริต
ระบบ POS ที่คิดค้นมาเพื่อร้านขายของชำ สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมาพร้อมความสามารถในการบริหารจัดการร้านแบบอัจฉริยะ ให้คุณบริหารจัดการร้านค้าได้จากทุกที่ในทุกเวลาที่ต้องการ มีระบบที่รองรับการใช้งานแบบครบวงจร เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูล ระบบ CRM สะสมแต้ม ระบบ Delivery ระบบบริหารจัดการสต็อก และระบบที่รองรับการชำระเงินแบบ Cashless ทุกรูปแบบ

   ข้อดีของการใช้ระบบ POS ในร้านค้าปลีก
สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำและกลายเป็นลูกค้าประจำ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
การใช้ระบบ POS ในร้านค้าปลีก จะช่วยลดปัญหาการเกิดสินค้าค้างสต็อกหรือสินค้าไม่เพียงพอได้เป็นอย่างดี
ตรวจสอบยอดเงิน ยอดขาย คำนวณกำไร และวิเคราะห์ข้อมูลการขายสินค้าได้อย่างละเอียดและแม่นยำ

   ใช้ระบบ POS สำหรับร้านค้าปลีกที่ไหนดี?
   เมื่อระบบ POS เป็นระบบที่มีประโยชน์และตอบโจทย์การทำธุรกิจของร้านค้าทุกประเภท ทำให้ในปัจจุบัน มีผู้ให้บริการระบบ POS ให้เราเลือกใช้เป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่สนใจแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ระบบ POS ของที่ไหนดี แนะนำให้พิจารณาจากหลักเกณ์เหล่านี้เลย
ฟังก์ชันการใช้งานครอบคลุม ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานกับลูกค้าและการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานหลังบ้าน
ระบบการทำงานเสถียร ใช้งานง่าย เจ้าของร้านและพนักงานสามารถเรียนรู้ได้เร็ว
มีศูนย์บริการคอยให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา หากเจอปัญหาระหว่างการใช้งาน
ราคาสมเหตุสมผลทั้งราคาของตัวเครื่อง POS และตัวโปรแกรม

   ยกระดับร้านค้าปลีกของคุณด้วยระบบ POS เพิ่มภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ ช่วยกระตุ้นยอดขาย สร้างธุรกิจร้านค้าปลีกให้เติบโต สามารถสู้กับร้านค้าสมัยใหม่ได้แบบไม่ต้องกลัวขาดทุนอย่างแน่นอน

   ย่านชิดลม เป็นแหล่งรวมออฟฟิศมากมายใจกลางเมืองที่สามารถเดินทางง่ายเพียงนั่งรถไฟฟ้าก็มีห้างสรรพสินค้าที่รายล้อม ทำให้มีตัวเลือกร้านอาหารมากมายในบริเวณชิดลม จนหลายคนอาจเลือกไม่ถูก วันนี้เราจึงมี 3 ร้านอาหารที่มีเมนูเด็ดน่ากินเวลากลางวันในย่านชิดลมมาแนะนำกัน


1. มุมกะเพรา
ผัดกะเพรา เป็นหนึ่งในชื่อของเมนูที่หลายคนมักนึกถึงในมื้อกลางวัน เพราะเป็นหนึ่งในเมนูอาหารจานด่วนยอดนิยมที่ทานได้ในเวลาเร่งรีบ ซึ่งที่ร้านมุมกะเพรามีเนื้อสัตว์ให้เลือกมากมาย ทั้งเนื้อวัว หมู ไก่ เป็ดพะโล้ ลูกชิ้นปู แฮม ไส้กรอก ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่พิถีพิถันและวิธีการเตรียมเนื้อสัตว์ให้สะอาดและใช้เนื้อล้วน ไม่ติดหนัง พร้อมคำนึงถึงสุขภาพด้วยปรุงรสสูตรโซเดียมต่ำที่ไม่ใส่ผงชูรสและใช้น้ำมันในการผัดให้น้อยลง เป็นสูตรใส่ใบกะเพราล้วนโดยไม่มีผักอื่นผสม ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 The Mercury Ville หนึ่งในย่านแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยในย่านชิดลม

2. Thang Long
   ร้านอาหารเวียดนามย่านชิดลมที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและชื่นชอบผัก โดยเฉพาะแหนมเนืองที่มีผักเป็นเครื่องเคียงอัดแน่นอยู่เต็มถ้วยและมีหมูย่างปรุงรสเคล้าเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสเข้มข้น โดยมีเมนูแนะนำอื่น ๆ เช่น ข้าวเกรียบปากหม้อ หมูย่างใบชะพลู เปาะเปี๊ยะสดกุ้ง โดยที่ร้านมีบรรยากาศที่เหมาะกับกลุ่มใหญ่ ไปจนถึงการจัดงานสังสรรค์ หรือนัดประชุมกลุ่มใหญ่ซึ่งที่ร้านก็พร้อมให้บริการ และจัดเตรียมที่นั่งไว้ให้ได้ โดยอยู่ระหว่างซอยหลังสวน 6 และ ซอยหลังสวน 7

3. เสวย
ร้านอาหารไทยขึ้นชื่อในย่านชิดลม ที่มีรสชาติกลมกล่อมด้วยชื่อเสียงนานกว่า 45 ปี โดยมีจุดเด่นคืออาหารซีฟู้ดแบบจัดเต็ม ทั้งกุ้ง หมึก ปู ที่เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่จากแหล่งวัตถุดิบโดยตรง ซึ่งอาหารจานเด็ดได้แก่ ข้าวอบสับปะรด เนื่องจากเป็นเมนูที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานเข้ากันดี จึงกินง่ายเหมาะสำหรับเป็นมื้อกลางวัน อีกทั้งยังมีเนื้อกุ้งและเนื้อปูก้อนแบบเน้น ๆ อีกทั้งยังมีบริการห้องส่วนตัวสำหรับงานเลี้ยงรับรอง ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 The Mercury Ville @ Chidlom

4. ครัวในบ้าน
   ร้านอาหารกึ่งภัตตาคาร​แนวไทย-จีนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านชิดลมในใจกลางกรุง เป็นร้านอาหารแนวครอบครัว ที่มีรสชาติทานง่าย ซึ่งจะมีกุยช่ายเป็นออเดิร์ฟให้ตามจำนวนคนบนโต๊ะ ที่ร้าน มีเมนูหลากหลาย โดยเฉพาะสายซีฟู้ดที่มีทั้ง กุ้งผัด 5 รส ปูม้านึ่ง ปูสด พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ที่มีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับทั้งการมาเป็นหมู่คณะ หรือจะมาทานคนเดียวแล้วสั่งจานเดียวก็ได้ โดยร้านตั้งอยู่ในซอยหลังสวนเกือบถึงสวนลุม

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                             
   ระบบ IoT โรงงานถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ของโลกอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะช่วยลดข้อผิดพลาดและต้นทุนในการดำเนินงานแล้ว ระบบ IoT โรงงานยังสามารถวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในอุตสาหกรรม ตลอดจนเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน เครื่องจักร และโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างรอบด้านอีกด้วย
   อย่างไรก็ดี เจ้าของธุรกิจหลายคนคงสับสนอยู่ไม่น้อยว่า ระบบ IoT โรงงานจะมีความแตกต่างจากระบบ IoT ทั่วไปอย่างไร มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่เหมือนกันหรือไม่ หากใครกำลังสงสัยแบบเดียวกันนี้อยู่ มารู้จักความแตกต่างของระบบ IoT ทั้งสองแบบได้ในบทความนี้กัน


IoT  โรงงานคืออะไร?
   IoT โรงงาน หรือ Industrial Internet of Things คือ Internet of Things ประเภทหนึ่งที่เชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมดภายในโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไว้ด้วยกัน มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างรอบด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนซ่อมบำรุงเครื่องจักรภายในอุตสาหกรรมเพื่อลดข้อผิดพลาดในการทำงานในอนาคต ตลอดจนการเชื่อมต่อระบบ IoT โรงงานเข้าสู่ระบบตรวจจับความปลอดภัย ทำให้เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องเท่าทันต่อความผิดปกติภายในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดทั้งความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับการทำงานภายในโรงงานอุตสาหกรรม
ที่สำคัญ การใช้งานระบบ IoT โรงงานยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการส่งต่อข้อมูลภายในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้อย่างรวดเร็ว เท่าทันต่อความต้องการลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสสร้างกำไรได้มากขึ้น

แตกต่างจาก IoT ทั่วไปอย่างไร?
   แม้จะเป็นระบบ IoT เหมือนกัน แต่ระบบ IoT โรงงานและระบบ IoT ทั่วไปกลับมีความแตกต่างในด้านจุดประสงค์ของการใช้งาน โดยระบบ IoT ทั่วไปจะเน้นเพิ่มความสะดวกในการทำงานภายในองค์กร อาทิ การจัดเก็บ เรียกใช้ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูล ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลในธุรกิจ
   ในขณะที่ระบบ IoT โรงงานมีจุดประสงค์เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานภายในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ไปจนถึงการวางแผนลดข้อผิดพลาดและต้นทุนภายในโรงงานอุตสาหกรรม
   นอกจากนี้ ยังอาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า IoT สำหรับอุตสาหกรรมจะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานแบบ B2B หรือ Business to Business ในขณะที่ระบบ IoT ทั่วไปจะเน้นการใช้งานแบบ B2C หรือ Business to Customer นั่นเอง ดังนั้น หากต้องการเลือกใช้งานระบบ IoT ให้ตอบโจทย์ความต้องการธุรกิจ อย่าลืมเลือกประเภท IoT ให้เหมาะสมด้วย

   เพียงเท่านี้ ทุกคนก็ทราบถึงความแตกต่างระหว่างระบบ IoT โรงงานและ IoT ทั่วไปครบทุกด้านแล้ว หากใครกำลังวางแผนจะใช้ระบบ IoT อยู่ แต่ไม่มั่นใจว่าควรจะเลือกใช้ IoT แบบใด หวังว่ารายละเอียดที่นำมาฝากนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือก IoT ที่เหมาะสมกับความต้องการได้มากขึ้นนะ

ในปัจจุบันนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนสนใจ เดินทางไปกราบไหว้บูชา และขอพรมากที่สุดองค์หนึ่งก็คือองค์ท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง และหลาย ๆ คนก็เลือกที่จะเช่าท้าวเวสสุวรรณ รูปแบบต่าง ๆ กันด้วย ไม่ว่าจะเป็นองค์เวสสุวรรรณแบบรูปหล่อตั้งหิ้ง กำไล จี้สร้อย และอีกมากมาย โดยในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับท้าวเวสสุวรรณให้มากขึ้น พร้อมชี้เป้าวัดวังที่มีท้าวเวสสุรรณให้บูชา และแหล่งเช่าท้าวเวสสุวรรณด้วย

ท้าวเวสสุวรรณคือใคร ? ทำไมหลายๆ คนจึงนิยมเช่าท้าวเวสสุวรรณมาบูชา ?
ท้าวเวสสุวรรณเป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาล โดยท้าวเวสสุวรรณนั้นเชื่อกันว่าเป็นผู้ดูแลภูติผีทั้งปวง และเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติมาก ดังนั้นผู้คนจึงนิยมบูชาท้าวเวสสุวรรณเพื่อให้ท่านช่วยคอยปกปักษ์รักษา และคุ้มครองดวงชะตาให้แคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้าย และช่วยให้โชคลาภ ช่วยให้ทรัพย์สินเงินทองกับผู้บูชาได้ คนจึงนิยมเช่าท้าวเวสสุวรรณมาบูชา

คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ

จุดธูปบูชาท้าวเวสสุวรรณ 9 ดอก และบูชาด้วยดอกกุหลาบแดง 9 ดอก
จากนั้นท่องบทสวด

นะโม 3 จบ

อิติปิโส ภะคะวา ยะมะราชาโน โสธายะ

ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณังสุขัง อะหัง สุคธโต นะโมพุทธายะ


ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมหาราชิกา

ยักขะพันตา ภัททะภูริโต เวสสะ พุสะ

พุทโธ พุทธัง อะระหัง พุทโธ

ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ

3 วัดไหว้ท้าวเวสสุวรรณในกรุงเทพ
วัดสุทธาราม
วัดสุทธารามมีท้าวเวสสุวรรณขนาดใหญ่ สวยงามน่าเกรงขาม ผู้คนนิยมไปกราบไหว้บูชากันอย่างล้นหลาม ตั้งอยู่ที่แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน
วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (บางชัน)
ที่วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (บางชัน) รูปหล่อขององค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาอนุสรณ์ ๙๕ เปิดให้คนเข้ามากราบไหว้บูชาได้
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารมีองค์ท้าวเวสสุวรรณ หล่อจากสำริดเคลือบสีเขียวเปิดให้กราบไหว้สักการะได้ทุกวัน โดยที่วัดจะอยู่ในเขตพระนคร บริเวณบนถนนบำรุงเมือง

ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว วัดเหล่านี้ก็จะเปิดให้เช่าท้าวเวสสุวรรณมาบูชากันด้วย แต่นอกจากวัดเหล่านี้แล้วคุณก็สามารถเช่าท้าวเวสสุวรรณในรูปแบบจี้ กำไล และเครื่องประดับมาบูชาได้จากร้านขายเครื่องประดับสายมูต่าง ๆ ด้วย

           นอกจากออสเตรเลียจะเป็นประเทศขนาดใหญ่ทางซีกโลกใต้แล้ว ประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะแห่งนี้ยังได้รับการสถาปณาร่วมกับประเทศนิวซีแลนด์ และเกาะแก่งน้อยใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิกให้เป็นทวีบโอเชียเนียหรือทวีปที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาห้าทวีปใหญ่ทั่วโลกในเวลาเดียวกัน จริงอยู่ว่าทวีปนี้อาจจะไม่ได้มีขนาดมหึมา แต่ที่นี่กลับมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ทวีปอื่นๆ ทั่วโลกไม่มี อาทิ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระเป๋าหน้าท้อง และความสวยงามทางธรรมชาติซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่เชื้อชวนให้นักเดินทางทั่วโลกอยากตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียสักครั้งในชีวิต ว่าแต่เรื่องที่หากใครอยากตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียจำเป็นต้องรู้ก่อนไปเยือนแดนจิงโจ้จะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วลองตามไปหาคำตอบกันด้านล่างนี้ได้เลย
 

คริสต์มาสในช่วงหน้าร้อน และลมหนาวในช่วงกลางปี
 
        เนื่องจากออสเตรเลียตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้จึงทำให้ที่นี่มีฤดูกาลสลับกับประเทศที่อยู่ทางซีกโลกเหนือ เช่น ยุโรป หรือเอเชียตะวันออก โดยฤดูกาลในออสเตรเลียจะเริ่มจากฤดูร้อนในช่วงธันวาคม - กุมภาพันธ์, ฤดูใบไม้ผลิในช่วงมีนาคม - พฤษภาคม, ฤดูหนาวในช่วงมิถุนายน – สิงหาคม และฤดูใบไม้ผลิในช่วงกันยายน - พฤศจิกายน ในเมื่อฤดูกาลของที่นี่เริ่มต้นไม่เหมือนกับบ้านเราแบบนี้ ดังนั้นคนที่มีแพลนตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียควรเช็กสภาพอากาศก่อนออกเดินทางให้ดีเพื่อให้เราสามารถเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศได้มากที่สุด
 
จะตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลีย โซนไหนอย่าลืมเช็กไทม์โซนของแต่ละที่ให้ดี
 
        ด้วยสาเหตุที่ออสเตรเลียนั้นมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่จึงทำให้เวลาของที่นี่แตกต่างกันออกไปในแต่ละโซน โดยเราสามารถแบ่งไทม์โซนสำคัญๆ ของออสเตรเลียออกเป็น 3 ไทม์โซนหลักๆ ตามเกณฑ์ของ Coordinated Universal Time (UTC) ที่ใครจะตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียจำเป็นต้องรู้ตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
 
UTC +8:  เวลาของรัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศอย่าง Western Australia อันเป็นที่ตั้งของ Perth จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
 
UTC +9:30: เวลาของเมืองในรัฐ Northern Territory เช่น เมือง Darwin และ Alice Springs, รัฐ South Australia เช่น Adelaide และบางส่วนของ New South Wales เฉพาะเมือง Broken Hill จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
 
ส่วนในต้นเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม เวลาของรัฐ South Australia และเมือง Broken Hill (ยกเว้น Northern Territoryที่จะใช้ไทม์โซน UTC +9:30 ตลอดทั้งปี) จะเร็วกว่าไทย 3 ชั่วโมง 30 นาทีตามหลัก Daylight Saving Time
 
UTC: +10:00: รัฐใหญ่ทางทิศตะวันออกอันเป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญๆ ของออสเตรเลีย อาทิ Melbourne, Sydney, Hobart, Brisbane, Gold Coast และ Canberra จะมีเวลาเร็วกว่าไทย 3 ชั่วโมง และจะเร็วกว่าไทย 4 ชั่วโมงเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมจนถึงช่วงเมษายน (UTC +11)
 
พื้นที่แต่ละแห่งมีสภาพอากาศไม่เหมือนกัน
 
        จริงอยู่ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียโดยเฉพาะบริเวณตอนกลางของประเทศจะเป็นทะเลทราย แต่นอกเหนือไปจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ออสเตรเลียยังมีสภาพอากาแบบอื่นๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ทั้งภูมิอากาศแบบร้อนชื้นเหมือนบ้านเราทางตอนเหนือของประเทศ, ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันตกของประเทศบริเวณเมืองเพิร์ธ, ภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีทางตะวันออกของประเทศบริเวณเมืองบริสเบรนและโกลด์โคสต์, ภูมิอากาศแบบเขตอบอุ่นบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ซิดนีย์ และเมลเบิร์น เป็นต้น ดังนั้นถ้าใครมีแพลนตีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียก็อย่าลืมเช็กภูมิอากาศของโซนที่ตัวเองจะไปให้ดีเพื่อที่จะได้เตรียมสัมภาระไปให้ถูกต้องด้วยละ
 

สำหรับการประชุมแล้ว การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะจะช่วยให้การประชุมราบรื่น มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหนึ่งงในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับห้องประชุมใหญ่ก็คือไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference นั่นเอง

โดยไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference ที่ดีนั้นควรมีลักษณะดังนี้
1. การรับเสียงคมชัด
ไมค์โครโฟนควรมีคุณภาพเสียงที่ดีและชัดเจน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมฟังเข้าใจได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีความสับสน
2. การตัดเสียงรบกวน
ไมค์โครโฟนควรมีระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) เพื่อลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกห้องประชุม เช่น เสียงรบกวนจากการพูดคุยข้างนอกหรือเสียงรบกวนจากการเคลื่อนไหว
3. รูปแบบการติดตั้งที่เหมาะสม
ไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference สามารถมีรูปแบบการติดตั้งต่างๆ ได้ เช่น ตั้งโต๊ะ, ติดเพดาน, หรือแบบไร้สาย ควรเลือกตามลักษณะและขนาดของห้องประชุมเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม
4. ความสามารถในการจัดกลุ่มและควบคุม
ไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference บางรุ่นมีความสามารถในการจัดกลุ่มหรือควบคุมผ่านระบบเครือข่าย เช่น ระบบการประชุมออนไลน์ หรือระบบการบริหารจัดการการประชุมให้ง่ายต่อการใช้งาน
5. ความทนทานและคุณภาพวัสดุ
ไมค์โครโฟนควรมีความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว และสามารถทนทานต่อการใช้งานที่ห้องประชุมมีความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้คุณภาพวัสดุก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไมค์โครโฟนจะให้ผลลัพธ์เสียงที่ดีและคงทนในระยะยาว
แนะนำไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference
1. Shure MX396/C: ไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference แบบตั้งโต๊ะที่มีดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และเสียงสะท้อนซ้ำจากห้องประชุม
2. Sennheiser TeamConnect Ceiling 2: ไมค์โครโฟนติดเพดานที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในห้องประชุมขนาดใหญ่ สามารถครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ได้ดี มีเทคโนโลยีเดียวกับไมค์โครโฟนประชุมแบบตั้งโต๊ะของ Sennheiser เช่นเดียวกัน
3. Audio-Technica ATUC-50CU: ไมค์โครโฟนสำหรับระบบประชุมแบบเครือข่าย มาพร้อมกับระบบการสั่งงานผ่านซอฟต์แวร์ สามารถใช้ร่วมกับระบบประชุมอื่นๆ เพื่อสร้างระบบการประชุมที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
4. ClearOne Ceiling Microphone Array: ไมค์โครโฟนติดเพดานที่มีคุณภาพเสียงสูง ออกแบบมาเพื่อใช้ในห้องประชุมขนาดใหญ่ มีการยับยั้งเสียงรบกวนและระบบการตัดเสียงเพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจนและเป็นเสียงหลักที่ไม่มีการรบกวน
5. Bosch DICENTIS Wireless Conference Microphone: ไมค์โครโฟนประชุมแบบไร้สายที่ใช้เทคโนโลยีดิจิตอล มาพร้อมกับฐานชาร์จแบตเตอรี่และระบบการควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ สามารถรองรับการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้

โดยไมค์โครโฟนสำหรับห้อง conference เหล่านี้มีคุณภาพเสียงดีและสามารถรองรับการประชุมแบบห้อง conference ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก คุณสามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมตามความต้องการของห้องประชุมและงบประมาณที่มีอยู่

มะเร็งปากมดลูก หนึ่งในโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า มะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ และมันเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง หรือมีอาการอย่างไร โดยในวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับมะเร็งมากมดลูกให้มากขึ้นว่ามะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ เกิดจากสาเหตุใด มีอาการอย่างไร และจะป้องกันได้อย่างไรบ้าง

มะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ?
มะเร็งปากมดลูกมีทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่
1. ระยะก่อนมะเร็ง (Precancerous stage) เป็นช่วงที่เนื้อเยื่อในปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงคล้ายมะเร็ง แต่ยังไม่ถึงขั้นมะเร็งจริงๆ
2.ระยะมะเร็งต้นแบบ (Early stage) เนื้อเยื่อมีเซลล์มะเร็งเล็กน้อยและยังไม่ได้กระจายต่อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
3.ระยะมะเร็งระยะกลาง (Intermediate stage) เนื้อเยื่อมีเซลล์มะเร็งมากขึ้น และเริ่มกระจายต่อไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
4.ระยะมะเร็งรุนแรง (Advanced stage) เนื้อเยื่อมีเซลล์มะเร็งอย่างมาก และเข้าไปกระทบกับส่วนอื่นของร่างกายด้วย

สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก
เมื่อรู้แล้วว่ามะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ เรามารู้จักกับสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกกันเลย

การติดเชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก เพราะเชื้อ HPV จะทำให้เซลล์ปกติที่อยู่บริเวณปากมดลูกกลายพันธุ์เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อ HPV จะเกิดโรคมะเร็ง

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อมะเร็งปากมดลูก
นอกจากรู้ว่ามะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ และมีสาเหตุจากอะไรแล้ว เรามาดูปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้กันเลย
1.เชื้อ HPV นั้นเป็นเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆจึงมีความเสี่ยงมาก
2.การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก
3.โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
4.ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
5.การสูบบุหรี่

แนวทางป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก

• ปรับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ไม่มีคู่นอนหลายคน และรู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยมีการใช้อุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อทุกครั้ง
• การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV (HPV vaccine)
• เลี่ยงการสูบบุหรี่ สุรา และสารเสพติดอื่น ๆ ทั้งหมด

มะเร็งปากมดลูกถือเป็นโรคมะเร็งที่เป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากมีศักย์ที่จะกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วยได้มากๆ โดยเฉพาะในระยะที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรับการรักษาไม่เหมาะสม ดังนั้นการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และคอบสังเกตตัวเองอยู่เสมอจึงสำคัญมาก ๆ เพราะจะช่วยให้คูรสามารถตรวจเจอโรคได้ไว และหาแนวทางรักษาได้ทันท่วงที

ใครที่กำลังสร้างบ้านใหม่ หรือต้องการรีโนเวตบ้าน แล้วกำลังมองหาแหล่งซื้อกระเบื้องราคาถูก คุณภาพดี เรามี 4 ร้านที่เปิดขายกระเบื้องคุณภาพดี มีหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ ไม่ว่าเราต้องการแบบไหน ก็มีหมด จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย


Grand Home Mart
   หากจะถามหาร้านขายวัสดุก่อสร้าง คุณภาพดี ราคาถูก ที่แรกที่เราจะขอแนะนำคือ Grand Home Mart มีกระเบื้องให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้น กระเบื้องผนัง จะต้องการกระเบื้องแผ่นเล็กหรือแผ่นใหญ่มีหมด หรือใครที่มองหากระเบื้องกันลื่นสำหรับใช้ในห้องน้ำหรือห้องครัวได้อย่างปลอดภัย ก็สามารถหาซื้อกระเบื้องราคาถูกได้
   Grand Home Mart มีสาขาทั่วประเทศ หรือหากว่าใครไม่ต้องการเดินทาง ก็สามารถเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ได้ และนอกจากกระเบื้องราคาถูกแล้ว ที่นี่ยังมีวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกว่าไปที่เดียว สั่งทีเดียว จบ ไม่ต้องเดินทางหรือตามหาให้เหนื่อย

ไทวัสดุ
   เวลาตามหากระเบื้องราคาถูก หลายคนมักจะเลือกไปซื้อที่ไทวัสดุ เนื่องจากมีสาขาอยู่หลายที่ในกรุงเทพฯ และมีบริการการสั่งซื้อจำนวนมากด้วย ดังนั้น หากว่าใครมองหากระเบื้องปูพื้น ปูผนัง สำหรับบ้าน อาคาร หรือโครงการก็สามารถไปหาที่นี่ได้เช่นเดียวกัน
   สำหรับไทวัสดุก็เป็นอีกที่ที่สามารถเลือกซื้อได้ทั้งที่หน้าร้านและที่เว็บไซต์ และสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายประเภท ทั้งวัสดุก่อสร้าง ประตู หน้าต่าง ห้องครัว เคาน์เตอร์ครัว ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ

บุญถาวร
   ร้านขายเฟอร์นิเจอร์และวัสดุก่อสร้างแบรนด์ใหญ่ของไทย ก็คงจะหนีไม่พ้นบุญถาวร ที่เป็นแหล่งขายกระเบื้องราคาถูก และหลากหลายแบบ เรียกได้ว่า หากว่าไปที่สาขาก็เดินเลือกกันเหนื่อยเลยทีเดียว
   นอกจากกระเบื้องและวัสดุก่อสร้างแล้ว เรายังสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ แชนเดอเลียร์ โต๊ะกินข้าว โซฟา เรียกว่าเป็นหนึ่งในร้านที่เดินเข้าไปแล้วได้ครบ สาขาอาจจะไม่มาก แต่ก็สามารถเลือกซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ มีบริการส่งถึงหน้าไซต์งานเช่นเดียวกัน

HomePro
   อีกหนึ่งร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ขายกระเบื้องราคาถูก คุณภาพดี และมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ คือ HomePro ข้อดีของการไปเดินเลือกซื้อที่ Home Pro คือสะดวกสบาย เพราะมักตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรืออยู่ในพื้นที่ชุมชน เรียกว่าไม่ต้องเดินทางออกไปนอกเส้นทาง สามารถไปซื้อของเข้าบ้านแล้วแวะไปเลือกลายกระเบื้องที่ต้องการก่อนเข้าบ้านได้เลย
   สำหรับ HomePro เราสามารถเลือกซื้อได้ทั้งที่สาขาและที่เว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน มีบริการส่งถึงไซต์งาน

นี่คือ 4 แหล่งซื้อกระเบื้องราคาถูกที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหากระเบื้องสำหรับตกแต่งบ้าน

   ‘ปี่เซียะ’ วัตถุมงคลยอดนิยมของคนไทย คนจีน และอีกหลายประเทศ เป็นสัตว์มงคลที่อยู่คู่ประเทศจีนมาอย่างยาวนาน พบเห็นได้บ่อยตามวัดจีน เชื่อกันว่ามีพุทธคุณในด้านการช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา มีโชคลาภ และกักเก็บทรัพย์ไว้ไม่ให้รั่วไหล ซึ่งก็มีวิธีบูชาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ สร้อยข้อมือ รวมทั้งเครื่องรางปี่เซียะด้วย


   รู้จักลักษณะทั่วไปของปี่เซียะ
   ตามตำราจีนโบราณ ว่ากันว่าปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 ของพญามังกรสวรรค์ นับถือเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นสัตว์มงคลที่รวบรวมของสัตว์มงคล 5 ชนิดเอาไว้ด้วยกัน ได้แก่ รูปร่างและเขาเหมือนกวาง, หน้า หัว ขา เหมือนสิงโต, มีปีกเหมือนนกอินทรี, หนังคล้ายปลา และบางส่วนของหัวเหมือนมังกร
   ไม่ว่าจะบูชาในรูปแบบเครื่องรางปี่เซียะหรือแบบใดก็ตาม ลักษณะของปี่เซียะที่ดี ที่ต้องสังเกตให้ดีก่อนบูชา คือ ต้องอ้าปากรับทรัพย์ มีหางและลิ้นยาวไว้กวักโชคลาภเข้าหาผู้บูชา หัวเชิดขึ้นเพื่อข่มขู่ศัตรู ก้าวขาข้างหนึ่งเพื่อใช้เท้าตะปบเงิน อกผายไหล่ผึ่งเพื่อเพิ่มความน่าเกรงขาม และที่สำคัญที่สุด ปี่เซียะต้องไม่มีรูทวาร เพื่อป้องกันทรัพย์สินรั่วไหลนั่นเอง

   เช็กก่อนบูชา เครื่องรางปี่เซียะแต่ละสีเหมาะกับใครบ้าง!?
   จะบูชาเครื่องรางปี่เซียะเพื่อส่งเสริมดวงชะตา เรียกทรัพย์ เรียกโชค เพิ่มความเฮงให้ชีวิตทั้งที หากบูชาแบบผิด ๆ ถูก ๆ ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวัง ลองมาดูกันดีกว่าว่าปี่เซียะที่มีให้เลือกบูชาหลากหลายสีนั้น แต่ละสีจะเหมาะกับใครกันบ้าง
   ปี่เซียะสีแดงหรือชมพู
   ปี่เซียะสีแดงหรือสีชมพูเป็นปี่เซียะธาตุไฟ เหมาะกับคนที่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า การสื่อสาร ธุรกิจพลังงาน ดารานักแสดง นักบิน แอร์โฮสเตส และเจ้าของกิจการร้านอาหารประเภททอดและปิ้งย่าง
   ปี่เซียะสีดำ
   สำหรับปี่เซียะสีดำหรือปี่เซียะธาตุน้ำ จะเหมาะกับผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับน้ำและความเร็ว ขายสินค้าออนไลน์ การเล่นหุ้น ธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจกลางคืน บาร์ และผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชค
   ปี่เซียะสีเหลือง
   ปี่เซียะสีเหลืองเป็นปี่เซียะธาตุดิน จึงเหมาะกับคนที่ทำงานเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ร้านค้า เงินทุน รับเหมาก่อสร้าง ค้าขายอัญมณี และธุรกิจให้เช่าบ้านหรือร้านต่าง ๆ
   ปี่เซียะสีเขียว
   ปี่เซียะธาตุไม้หรือปี่เซียะสีเขียว เหมาะกับผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรรม รวมทั้งอาชีพเกี่ยวกับอาหาร ศิลปะ สมุนไพร เฟอร์นิเจอร์ สิ่งพิมพ์ นักบริหารจัดการ หมอดู ไปจนถึงงานด้านสังคมสงเคราะห์
   ปี่เซียสีขาว
   ปี่เซียะสีขาว คือ ปี่เซียะธาตุทอง เหมาะกับคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับโลหะ วัตถุที่แข็งแรงทนทาน และงานที่ต้องเสี่ยงภัย อย่างการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม งานราชการ รวมทั้งวิศวกร นักกฎหมาย นักการเมือง

   และนี่ก็คือความหมายของเครื่องรางปี่เซียะแต่ละสี ทำอาชีพด้านไหน เกี่ยวกับเรื่องอะไร ก็สามารถเลือกบูชาตามความเหมาะสมกันได้เลย

   ในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้นั้น จะต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายส่วนด้วยกัน ตั้งแต่แผนการบริหารที่ดี บุคลากรที่มีคุณภาพ งบประมาณที่แน่นอน ตลอดจนการใช้ระบบต่าง ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แน่นอนว่ารวมถึงระบบ ERP โรงงานที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันด้วยเช่นกัน แต่จะมีวิธีอย่างไรในการเลือกผู้ให้บริการที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปได้ไกล? ชวนรู้จักหลักที่ควรพิจารณาในการเลือกผู้ให้บริการระบบ ERP โรงงาน เพื่อเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ!


พาร์ตเนอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง: เลือกผู้ให้บริการระบบ ERP โรงงานอย่างไรให้ใช่กับธุรกิจ

1. เลือกจากความน่าเชื่อถือ

   ต้องยอมรับว่าความน่าเชื่อถือนั้นคือเรื่องพื้นฐานในการที่เราจะตัดสินใจร่วมงานกับพาร์ตเนอร์สักคน และยังเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นในการที่เราจะเลือกผู้ให้บริการระบบ ERP โรงงานให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายของธุรกิจ ก็จะต้องพิจารณาจากความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรก โดยความน่าเชื่อถือนั้นสามารถดูได้จากประวัติการประกอบธุรกิจ เว็บไซต์ ประวัติธุรกิจ และอาจรวมถึงช่องทาง Social Media ด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจในการดำเนินธุรกิจของผู้ให้บริการเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

2. เลือกจากการให้บริการ

   อันดับถัดมา หากเราต้องการรู้ว่าผู้ให้บริการระบบ ERP โรงงานนั้นเป็นพาร์ตเนอร์ที่เรากำลังมองหาอยู่หรือไม่ ให้ลองพิจารณาจากการให้บริการ เช่น การให้คำปรึกษา คำแนะนำ สามารถโต้ตอบได้อย่างรวดเร็วทันใจหรือไม่ มีความเป็นมีออาชีพมากน้อยแค่ไหน สามารถตอบคำถามได้อย่างตรงจุดหรือเปล่า ซึ่งการพูดคุยในครั้งแรกก่อนที่จะตัดสินใจร่วมงานนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยบ่งบอกถึงอนาคตการร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี และผู้ให้บริการที่เป็นมืออาชีพก็ย่อมเข้าใจในจุดนี้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งพวกเขาจะทำให้คุณรู้ได้ทันทีที่เริ่มพูดคุยกัน

3. เลือกจากบริการหลังการขาย

   ในการใช้งานระบบ ERP โรงงานนั้น จุดประสงค์ก็คือการลดภาระการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงาน ดังนั้นผู้ให้บริการระบบ ERP โรงงานจะต้องดูแลในส่วนนี้อย่างครอบคลุม เพื่อลดภาระให้กับธุรกิจและช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ดังนั้นหากบริษัทใดที่มาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ครอบคลุม โดยไม่ต้องเสียเวลาติดต่อหรือต้องเสียเงินเพิ่ม ก็จะช่วยให้อุ่นใจในการใช้งานได้ไม่น้อย

   และนี่ก็คือหลักที่ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้บริการระบบ ERP โรงงาน ที่เชื่อว่าจะช่วยให้หลายบริษัทได้มองเห็นภาพมากขึ้น และสามารถเลือกผู้ให้บริการได้อย่างตอบโจทย์และตรงใจอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

   ปัจจุบันนี้เทรนด์การทาครีมกันแดดหน้ากลายมาเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะกับสาว ๆ แต่หนุ่ม ๆ เองก็ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง เพราะหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการทากันแดดนั้นสำคัญกว่าที่คิด! วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงความสำคัญของครีมกันแดด พร้อมเคล็ดลับเลือกครีมกันแดดหน้าให้เหมาะกับเรา มาดูกันเลย


ครีมกันแดดหน้า สำคัญอย่างไร

   เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า แสงแดดนั้นเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะในแสงแดดยังมีรังสี UV ตัวร้าย ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิว นอกจากจะทำให้สีผิวหมองคล้ำแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำฝังลึกที่ยากจะลบเลือน นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำร้ายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยว่า หากเราละเลยการทาครีมกันแดดแล้วล่ะก็ เป็นไปได้สูงที่ใบหน้าของเราจะดูมีอายุก่อนวัย และยังทำให้ผิวเสื่อมโทรมก่อนเวลาอันควรอีกด้วย! รู้แบบนี้แล้ว ต้องรีบหันมาให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดหน้าโดยด่วน

การทาครีมกันแดดหน้าที่ถูกต้อง ทำอย่างไร

   สำหรับใครที่รู้สึกว่า การทาครีมกันแดดหน้านั้นแค่ทาให้ทั่วหน้าก็เพียงพอ แต่ที่ถูกต้องก็คือ เราจะต้องใช้ครีมกันแดดในปริมาณเท่ากับความยาวของ 2 นิ้วมือ หรือเท่ากับเหรียญสิบ และค่อย ๆ ทาลงไปให้ทั่วใบหน้าหลังจากสกินแคร์ตัวอื่น ๆ จึงจะเพียงพอต่อการปกป้อง

เลือกครีมกันแดดหน้าอย่างไรให้ใช่สำหรับเรา

   เมื่อรู้ถึงความสำคัญของครีมกันแดดหน้า และปริมาณการทาที่ถูกต้องกันแล้ว หลายคนอาจกังวลว่าหากต้องทาในปริมาณมากเท่านี้ แล้วจะเลือกกันแดดอย่างไรดีให้หน้าไม่มันเยิ้ม เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก!

   อันดับแรก ให้เราพิจารณาจากส่วนผสม เพราะกันแดดที่ดีควรเป็นกันแดดที่อ่อนโยน แต่ก็ต้องมาพร้อมประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UV ได้ ควรเป็นกันแดดที่มีค่า SPF50+ และ PA++++ จึงจะเพียงพอต่อการกันแดดในปัจจุบัน และสามารถทาได้ทุกวันโดยที่ไม่ทำให้ผิวเสีย นอกจากนี้ หากเป็นกันแดดที่สามารถปกป้องฝุ่นละอองและมลภาวะได้ ก็จะยิ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคนี้เป็นอย่างมาก และที่สำคัญก็คือ ต้องปราศจากส่วนผสมอันตรายอย่างน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ที่อาจทำให้ระคายเคือง รวมถึงใครที่ผิวแพ้ง่าย ควรเลี่ยงกันแดดที่มีซิลิโคน เพราะอาจเสี่ยงต่อการอุดตัน

   และนี่ก็คือความสำคัญของครีมกันแดดหน้า พร้อมเคล็ดลับการทา และการเลือกกันแดดให้เหมาะกับเรา เชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ต่อทั้งหนุ่ม ๆ และสาว ๆ ที่กำลังหันมาสนใจการทากันแดดอย่างแน่อนน

หากคุณเคยประสบปัญหาเวลาพรีเซนต์งาน แล้วเจอจอทีวีในห้องประชุมที่เป็นรุ่นเก่า ต้องสั่งการผ่านเมาส์ จะย่อขยายหน้าเนื้อหาหรือเปลี่ยนหน้าพรีเซนต์แต่ละที ต้องสั่งผ่านโปรแกรมในโน้ตบุ๊กส์ หากสำหรับใครที่ไม่คล่องเรื่องโปรแกรมคงเป็นฝันร้ายน่าดู เพราะคนทั้งห้องประชุมจะคอยจับตาดูคุณอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้จะหมดไปทันทีหากเปลี่ยนจอในห้องประชุมเป็นจอแสดงผลแบบสัมผัส หรือจอ Touch Screen นั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้ทุกการพรีเซนต์ของคุณราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น ลองไปดูข้อดีของจอแสดงผลแบบสัมผัสกัน


หากคุณเคยประสบปัญหากับการต้องพกสายเชื่อมต่อสัญญาณกับจอทีวีรุ่นเก่าในห้องประชุมหรือห้องเรียนเก็บไว้มาก ๆ ทั้งสาย VGA, DVI และ HDMI แถมยังต้องพกตัวแปลงอีก เพราะไม่รู้ว่าเครื่องโน้ตบุ๊กที่จะมาเชื่อมต่อเพื่อพรีเซนต์งานจะมีช่องเสียบแบบไหน แต่นั่นเป็นปัญหาเก่าที่ขจัดไปได้แล้วสมาร์ตทีวี ที่สามารถเชื่อมสัญญาณด้วยบลูทูธแบบอัตโนมัติ

หากแต่ปัญหากวนใจใหม่ที่เหล่าวิทยากร ผู้พรีเซนต์งาน หรือคุณครู ต้องเผชิญคือ การพรีเซนต์ที่ไม่ราบรื่นหากต้องย่อขยายหน้าจอ เปลี่ยนหน้าจอ หรือคลิกไปสู่หน้าพรีเซนต์อื่น ๆ และหากยิ่งต้องพรีเซนต์คนเดียว การต้องเดินไปเดินมาระหว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ กับหน้าจอทีวี ก็คงดูไม่ค่อยมืออาชีพนัก แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากเปลี่ยนไปใช้จอแสดงผลแบบสัมผัส เป็นการยกระดับหน้าจอห้องประชุมและห้องเรียนอย่างมีคุณภาพทีเดียว และข้อดีของจอแสดงผลแบบสัมผัส มีดังนี้

ช่วยให้การพรีเซนต์ บรรยาย หรือสอน ราบรื่นยิ่งขึ้น
เพราะการมีจอแบบทัชสกรีนจะช่วยให้การพรีเซนต์งานราบรื่นยิ่งกว่าทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานพรีเซนต์ที่มีความซับซ้อน ที่ต้องย่อหรือขยายเนื้อหาให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น ภาพแผนที่ แผนภูมิ ซึ่งเราคงเคยเห็นผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองแผนที่ในหน้าจอเพื่อแสดงให้เห็นอุณหภูมิของบริเวณต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่วิทยากรผู้บรรยายที่ต้องนำเสนอความเชื่อมโยงของอินโฟกราฟิกหรือมายด์แมพ จากภาพใหญ่ไปสู่ภาพเล็กที่ละเอียดยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ทันทีผ่านการสัมผัสหน้าจอ โดยไม่ต้องเดินไปเปลี่ยนที่โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ให้เสียเวลา

ช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันสมัย ใส่ใจทุกการประชุม
เชื่อหรือไม่ว่าการมีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสช่วยยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กรคุณให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการพรีเซนต์งาน แถมยังแสดงให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่สนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวตามโลกยุคดิจิทัลได้อย่างเท่าทัน ไม่ตกยุค ซึ่งยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าขององค์กรคุณมากยิ่งขึ้น

ลองเลือกหน้าจอระบบทัชสกรีนในรุ่นและยี่ห้อที่ตอบโจทย์องค์กรของคุณ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมาย ด้วยความคมชัดของจอแสดงผลระดับ 4K ให้ภาพสีสันสดใส ชัดเจนทุกรายละเอียด ทุกระยะการมอง สามารถนำเสนอจากสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ Windows ผ่านหน้าจอไร้สาย และระบบประมวลผลที่ช่วยให้แสดงภาพได้อย่างรวดเร็วทุกสัมผัส ไม่มีดีเลย์ เพื่อให้การพรีเซนต์ของคุณน่าประทับใจยิ่งกว่าที่เคย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าขายได้และขายดี ไม่เพียงแค่เรื่องคุณภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีด้วย ซึ่งกล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้ามีความน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ได้อีกด้วย แต่เชื่อว่าหลายแบรนด์น้องใหม่อาจยังไม่เข้าว่าทำไมถึงควรเลือกใช้บริการรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์มาดูคำตอบได้ในบทความนี้


Package กับ Packaging ต่างกันอย่างไร

ก่อนที่เราจะไปรู้ว่าทำไมถึงควรเลือกใช้บริการรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ ต้องมาทำความเข้าถึงคำว่า Package กับ Packaging ต่างกันอย่างไร โดยทั้ง 2 คำ เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความหมายต่างกันเล็กน้อย ดังนี้

Package มีความว่า หีบห่อ หมายถึงสิ่งของชิ้นเดียวหรือกลุ่มของสิ่งของที่ได้รับการห่อหุ้มหรือบรรจุไว้เพื่อการจัดเก็บ การขนส่ง หรือการขาย เช่น กล่องซีเรียล ขวดแชมพู หรือของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษล้วนเป็นบรรจุภัณฑ์

Packaging หมายถึงวัสดุและการออกแบบที่ใช้ในการสร้างบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์อาจรวมถึงกล่อง ถุง หรือคอนเทนเนอร์ที่บรรจุผลิตภัณฑ์ ตลอดจนวัสดุเพิ่มเติมใดๆ เช่น ฉลาก ส่วนแทรก หรือแผ่นปิดป้องกัน บรรจุภัณฑ์ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ในระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บ ตลอดจนให้ข้อมูลและแบรนด์เพื่อผู้บริโภครับรู้

สรุป Package คือสิ่งของหรือกลุ่มของสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในห่อหรือภาชนะบรรจุ ในขณะที่ Packaging  หมายถึงวัสดุและการออกแบบที่ใช้ในการสร้างภาชนะและวัสดุอื่นๆ ที่อาจรวมอยู่ด้วย


ทำไมถึงควรเลือกใช้บริการรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์

การป้องกัน: บรรจุภัณฑ์จะช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์จากความเสียหาย การปนเปื้อน และปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น อุณหภูมิและความชื้น โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่เปราะบาง เน่าเสียง่าย หรือมีค่า
การเก็บรักษา: บรรจุภัณฑ์สามารถช่วยรักษาความสดและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารได้โดยการปิดไม่ให้อากาศเข้าและป้องกันการเน่าเสีย
ความสะดวกสบาย: บรรจุภัณฑ์ช่วยให้ขนส่ง จัดเก็บ และใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์แบบเสิร์ฟครั้งเดียวหรือถุงแบบเปิดปิดได้ช่วยให้นำผลิตภัณฑ์ไปใช้ระหว่างเดินทางหรือจัดเก็บไว้ที่บ้านได้ง่ายขึ้น
การสร้างแบรนด์และการตลาด: บริการรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อส่งเสริมแบรนด์และทำให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างจากคู่แข่ง การออกแบบและโลโก้ที่สะดุดตาสามารถช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและสร้างการจดจำแบรนด์ได้
ข้อมูล: บรรจุภัณฑ์สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้บริโภค เช่น ข้อมูลโภชนาการ ส่วนผสม และคำแนะนำในการใช้งาน ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลและใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง
ความยั่งยืน: บรรจุภัณฑ์สามารถออกแบบให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพสามารถช่วยลดของเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากบรรจุภัณฑ์

บริการรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จะมีบทบาทสำคัญในการปกป้องและถนอมผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าเดิม พร้อมช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ และส่งเสริมแบรนด์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของหลายอุตสาหกรรม รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอาง และการค้าปลีก

หากคุณคือธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องปั่นไฟ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดี ๆ เอาไว้ใช้งานในธุรกิจของคุณ คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไฟแบรนด์ต่าง ๆ มาบ้างแล้ว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมที่สุด และได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้มากที่สุดมาอย่างยาวนานแบรนด์หนึ่งก็คงหนีไม่พ้น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากแบรนด์ Cummins ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบรนด์นี้ พร้อมทั้งแชร์วิธีการเลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ให้ได้รู้กัน เพราะอย่างที่เป็นที่รู้กันดีว่า หากจะซื้อสินค้าใดสักชิ้น การเลือกซื้อผ่านคนกลางที่น่าเชื่อถือ และมีบริการที่ดีนั้นย่อมดีที่สุด และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอื่น ๆ ในอนาคตตามมาได้มากที่สุดด้วย

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าคืออะไร?

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าคือเครื่องจักรที่ใช้เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า โดยมีจะมีเครื่องยนต์ที่ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน เช่นดีเซล เบนซิน และอื่น ๆ รวมถึง แก๊สธรรมชาติ หรือแม้แต่พลังงานแสงอาทิตย์จากระบบโซลาร์เซลล์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เลือกใช้ โดยเชื้อเพลิงเหล่านั้นจะใช้ในการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าออกมาไว้ในงานต่าง ๆ ได้ อาจใช้เพื่อสำรองไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน หรือใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้าในที่ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับไฟฟ้าจากการไฟฟ้าได้ก็ได้

ความสำคัญของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

เหตุผลที่คุณควรเลือกซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ก็คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้นจำเป็นมากในหลายๆ สถานการณ์ เช่น เมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือไฟฟ้าดับ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะช่วยให้ผู้คนได้มีไฟฟ้าไว้ใช้งานนอกจากนี้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ายังมีความสำคัญต่อการสร้างรายได้ในธุรกิจโรงงานผลิต โรงแรม โรงพยาบาลต่าง ๆ ด้วย เพราะจะช่วยสำรองไฟ และช่วยสร้างไฟฟ้าในเวลาฉุกเฉินได้

เมื่อต้องการหาตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins  เราควรมองหาสิ่งต่อไปนี้:

- ควรเลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการให้บริการและมีประสบการณ์ในการจัดหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากแบรนด์นี้มาอย่างยาวนาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ของดี และของแท้

- ต้องเลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้เลือกหลายแบบ หลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ดีที่สุด

- ต้องเลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ที่มีบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เช่น การให้บริการซ่อมบำรุง การเคลมหากสินค้ามีปัญหา และอื่น ๆ

- เลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins ที่ขายสินค้าในราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ และเหมาะสมกับคุณภาพของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

หากคุณคือหนึ่งในคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในย่านต่างๆ หนึ่งในย่านพักอาศัยที่จะต้องผ่านหูผ่านตาน่าจะหนีไม่พ้นย่านลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตามไอเดียการเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจและตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย เนื่องด้วยเหตุผลและองค์ประกอบหลายๆ อย่าง แต่จะมีอะไรบ้างที่ทำให้การเลือกลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดในย่านลาดพร้าวเป็นไปอย่างคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก

ศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้ง
หากเหตุผลลำดับต้นๆ ของการเลือกลงทุนซื้อคอนโดในย่านลาดพร้าวคือการช็อปปิ้งแล้วล่ะก็ บอกเลยว่านักช็อปอย่างเราๆ ไม่ควรพลาด เพราะย่านลาดพร้าวคือหนึ่งในย่านที่รวบรวมแหล่งช็อปปิ้งเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์ ตลอดไปจนถึงสายสตรีทที่อาจจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ตลาดนัดสวนจตุจักรก็เป็นแหล่งรวมแฟชั่นเก๋ๆ เหมาะทั้งกับเด็ก วัยรุ่น หรือวัยทำงาน เป็นอีกหนึ่งเหตุผลประกอบที่ตอกย้ำว่าการเลือกซื้อคอนโดแถวลาดพร้าวนั้นสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น และวัยทำงานได้อย่างแท้จริง

อยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษามากมาย
อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญไปไม่แพ้เรื่องของไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้งนั่นก็คือเรื่องของสถานศึกษา การลงทุนเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวนั้นก็อาจจะกลายเป็นผลดีในระยะยาวสำหรับใครที่มีลูกแล้วกำลังมองหาหรือต้องการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดมิเนียมเอาไว้ให้ลูกพักอาศัย การเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งย่านที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งศึกษา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหอวัง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ฯลฯ

การเดินทางสะดวกสบาย
เหตุผลสนับสนุนลำดับสุดท้ายที่เรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมทุกสิ่ง เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าถ้าหากต้องการลงทุนเลือกซื้อคอนโดในย่านลาดพร้าวแล้วนั้น ความสะดวกอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้พักอาศัยในย่านนี้จะได้รับเลยนั่นก็คือความสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง เป็นย่านพักอาศัยที่อยู่ไม่ไกลจากระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่รถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือถ้าหากมีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตนเอง ย่านลาดพร้าวเองก็มีห้าแยกลาดพร้าว ถนนสายสำคัญที่สามารถตัดผ่านไปยังพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกนอกเมือง

ด้วยเรื่องของความสะดวกสบาย รายล้อมไปด้วยความสะดวกต่างๆ มากมาย ทำให้การเลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวนั้นกลายเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนจับตามองและเป็นที่ต้องการในหมู่นักลงทุนจำนวนไม่น้อย นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ได้เกริ่นไปบ้างแล้วในข้างต้น ในอนาคตย่านลาดพร้าวก็กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งย่าน Central Business District แห่งใหม่ที่ใครหลายๆ คนจับตามองอย่างแน่นอน

   เชื่อว่ามีหลายคนไม่น้อยที่มักจะ ‘ใช้ชีวิตติดนวด’ หรือเป็นผู้ที่หลงใหลในการนวดผ่อนคลายกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะใครที่อยู่ในวัยทำงาน ที่มักเผชิญกับอาการปวดเมื่อยรุมเร้า ซึ่งอาการปวดเมื่อยนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานในท่าเดิมนาน ๆ ตลอดจนการเดินทางบนท้องถนนที่รถติดอยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจะขอชวนมารู้จักกับข้อดีของการนวดผ่อนคลายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน มาดูกันว่าการนวดนั้นให้ประโยชน์อะไรกับเราได้บ้าง


ข้อดีของการนวดผ่อนคลาย กิจกรรมคู่ใจของวัยทำงาน

1. ช่วยคลายความเมื่อยล้า
   แน่นอนว่าข้อดีข้อแรกที่เด่นชัดของการนวดนั้นก็คือเรื่องของการผ่อนคลายร่างกายจากความปวดเมื่อยและเหนื่อยล้าที่ต้องเผชิญมาตลอดทั้งวัน ยิ่งหากใครที่เป็นชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่หน้าจอตลอดเวลา จนเริ่มรู้สึกถึงอาการออฟฟิศซินโดรมที่ถามหา การนวดผ่อนคลายอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้งนั้นเป็นวิธีที่จะช่วยบำบัดได้อย่างดีทีเดียว

2. ช่วยคลายความเครียด
   นอกจากเรื่องของการบรรเทาอาการปวดเมื่อยแล้ว อีกหนึ่งข้อดีของการนวดผ่อนคลายก็คือการที่ช่วยคลายความเครียดให้กับเรา โดยเฉพาะใครที่อาจเผชิญกับอาการเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ทั้งจากการทำงานและสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอในแต่ละวัน การนวดอย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยขจัดความเครียดให้หายเป็นปลิดทิ้ง ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและอารมณ์แจ่มใสมากขึ้น

3. ช่วยปรับจิตใจให้ผ่อนคลาย
   ไม่ใช่แค่ความเครียดเท่านั้นที่การนวดผ่อนคลายช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ยังเป็นวิธีการที่ช่วยปรับจิตใจให้ผ่อนคลาย ทำให้เรารู้สึกสงบและนอนหลับได้สนิทยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าวัยทำงานหลายคนน่าจะเคยเผชิญกับอาการนอนไม่หลับกันอยู่บ่อยครั้ง หากได้เข้ารับการนวดพร้อมกับได้ดื่มด่ำไปกับกลิ่นหอมจากสมุนไพร รับรองว่าจะช่วยให้อาการนอนไม่หลับดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

4. เป็นการให้รางวัลตัวเอง
   สำหรับใครที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์หรือทั้งเดือน และอยากให้รางวัลตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ การนวดนั้นก็เป็นสิ่งที่เราสามารถมอบให้กับตัวเองได้ ถือเป็นการมอบของขวัญตอบแทนตัวเองและร่างกายที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งเดือน

   และนี่ก็คือข้อดีของการนวดผ่อนคลายที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงมาก่อน หากใครที่อยากรู้ว่าการนวดสามารถให้ประโยชน์เหล่านี้ได้จริงหรือไม่ ลองหาคอร์สนวดที่ใช่แล้วเข้ารับบริการเพื่อให้รางวัลตัวเองได้หายปวดเมื่อยกันเลย

   มัลติมิเตอร์ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ช่างผู้เชี่ยวชาญมีติดตัวเอาไว้เพื่อวัดกระแสไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ด้วยจุดประสงค์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวัดกำลังไฟ กระแสไฟที่ไหลเวียน ไปจนถึงการตรวจดูว่า ภายในจุดที่ตรวจสอบนั้นมีกระแสไฟฟ้าอยู่หรือไม่ เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับการทำงานและการใช้งานจุดดังกล่าว
   ด้วยความที่เป็นเครื่องมือที่มีความซับซ้อน ผู้คนทั่วไปต่างสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าจะเลือกมัลติมิเตอร์อย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด วันนี้ช่างผู้เชี่ยวชาญมี 3 เคล็ดลับในการเลือกมัลติมิเตอร์ง่าย ๆ แต่ครบจบทุกการใช้งานมาฝากกัน


ดูจำนวนหน่วยวัดไฟฟ้าก่อน
   มัลติมิเตอร์เป็นเครื่องมืองานไฟฟ้าที่สามารถวัดค่าได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอมป์มิเตอร์ โวลท์มิเตอร์ และโอห์มมิเตอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นค่าสำคัญสำหรับงานซ่อมบำรุงและติดตั้งที่มีความเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า นอกจากนี้ มัลติมิเตอร์บางรุ่นยังสามารถวัดปริมาณไฟฟ้าที่จุดกำเนิดได้ทั้งแบบไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก
   อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมัลติมิเตอร์ทุกครั้ง ขอแนะนำให้ทุกคนลองตรวจสอบความสามารถในการใช้งานของตัวเครื่องให้เรียบร้อย ตลอดจนควรเลือกตัวเครื่องที่สามารถตรวจไฟฟ้าได้หลายประเภท เพื่อความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด

เช็กความแม่นยำของการอ่านค่าไฟ
   มัลติมิเตอร์ที่วางขายในท้องตลาดจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบดิจิทัล ที่จะมีตัวเลขวิ่งทันทีที่มีการตรวจวัดค่าไฟฟ้า และ แบบอะนาล็อกที่จะมีการวัดไฟฟ้าแบบลักษณะของเข็มบนสเกล โดยเครื่องทั้งสองแบบจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการใช้งาน การแสดงผล ไปจนถึงความแม่นยำในการวัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เครื่องแบบดิจิทัลจะมีความแม่นยำมากกว่า และสามารถปรับการแสดงผลได้สะดวกมากกว่า แต่หากใครชื่นชอบตัวเครื่องแบบอะนาล็อกก็ขอแนะนำให้ตรวจสอบความแม่นยำในการวัดค่าไฟฟ้าต่าง ๆ ก่อนด้วย

อย่าลืมดูวัสดุตัวเครื่องให้เรียบร้อย
   มัลติมิเตอร์เป็นเครื่องวัดไฟฟ้าที่มีประโยชน์ในหลายแง่มุม แต่การใช้งานในงานช่างหลาย ๆ ประเภทก็อาจเกิดการตก หล่น จนทำให้ตัวเครื่องมีการอ่านค่าที่ไม่แม่นยำ หรือ มีอาการเครื่องรวนได้ง่าย ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาในจุดนี้ ขอแนะนำให้ลองพิจารณาเลือกวัสดุตัวเครื่องที่มีความทนทานต่อการตกหล่นและการใช้งาน ทั้งยังควรเลือกเครื่องที่มีระบบป้องกันการอ่านค่าที่รวนอีกด้วย
   
   เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามรถเลือกซื้อมัลติมิเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้แล้ว หากใครกำลังมองหาเครื่องมือวัดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบรอบด้าน อย่าลืมนำทั้ง 3 เคล็ดลับที่นำมาฝากนี้ไปปรับใช้และพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วยนะ