ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - นภสร บุญมี

หน้า: [1]
1
ทุกวันนี้คนไทยเป็นสิวกันเยอะขึ้นมาก สมัยก่อนหลายคนอาจจะจำได้ว่าหลังจากอายุ 20 ปี ส่วนใหญ่สิวก็จะหายกันแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ด้วยปัญหามลพิษทางอากาศ สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงความเครียดและการนอนดึก ร่วมเป็นปัจจัยส่งผลให้คนไทยยังเป็นสิวกันอยู่ทั้งๆที่อายุ 30-40 ปีแล้ว และสาเหตุของสิวก็ซับซ้อนมากขึ้นนอกเหนือจากเกิดจากฮอร์โมนอย่างเดียว ดังนั้นการรักษาสิวแบบวิธีเดิมจึงไม่เพียงพออีกต่อไป
นำทีมโดย หมอผึ้ง แพทย์หญิงพัจนภา เวชอนุรักษ์ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังจากสถาบันโรคผิวหนัง และหมอโบว์แพทย์หญิง พันธลี ชื่นสัมพันธ์ แพทย์ประจำเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) จากโรงพยาบาลกรุงเทพ ภูมิใจเปิดตัว EY Clinic สาขาเอแบคบางนา นำเสนอคอนเซ็ปต์คลินิกรักษาสิวแบบใหม่ที่ครบวงจรที่สุด ไม่เพียงแต่จะให้บริการรักษา สิว ฝ้า และโรคทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังมีบริการด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและป้องกัน อาทิ เช่น การดริปวิตามิน และ การเจาะแลปทดสอบภูมิแพ้และตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วย
โดดเด่นด้วยคอร์สรักษาสิวที่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างแท้จริง ป้องกันการเกิดสิวใหม่ และควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้า โดยมีตัวเลือกในการรักษาสิวที่หลากหลายและทันสมัย อาทิ เช่น ADVA Clear เทคโนโลยีเลเซอร์ความยาวคลื่น 2 พิสัยจากเดนมาร์ก ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA เป็นเครื่องที่ 18 ของประเทศไทย มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาสิวอักเสบและรอยแผลจากสิว และมีการประเมินการรักษาแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ EY Clinic ยังมีบริการการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เช่น Sculptra และ Exosome รวมไปถึงหัตถการเช่นฟิลเลอร์เติมเต็มผิว โบท็อกซ์ลดริ้วรอยปรับรูปหน้า และเลเซอร์ YAG กำจัดขน ซึ่งทำให้ EY Clinic เป็นศูนย์รวมการดูแลผิวอย่างครบวงจรโดยแท้จริง
ส่วนคำว่า Wellness นำเสนอออกมาด้วยบริการด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและป้องกัน ซึ่งมีหมอโบว์เป็นแพทย์ดูแลดำเนินการและให้คำปรึกษากับผู้รับบริการ โดยบริการที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอคือ วิตามินบำบัด ที่ให้มากกว่าการฟื้นฟูผิวให้ผ่องใสและดูสดชื่น สรรพคุณของวิตามินบำบัดครอบคลุมไปถึงการป้องกันและลดอาการของภูมิแพ้ การฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ การกำจัดของเสียออกจากร่างกาย (Detox) อีกทั้งช่วยรับมือกับกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมและช่วยเพิ่มความสมรรถภาพให้กับสมองในส่วนของการเรียนรู้และเข้าใจ (Cognitive ability) ด้วย
นอกจากวิตามินบำบัดแล้ว ยังมีบริการทดสอบภูมิแพ้ โดยแบ่งออกเป็น การทดสอบภูมิแพ้อาหารและสารกระตุ้นภูมิแพ้ที่ถูกกระตุ้นผ่านแอนติบอดีของอิมมูโนโกลบูลิน G (IgG) และ อิมมูโนโกลบูลิน E (IgE) ซึ่งจะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกทั้งในเรื่องของสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร อากาศ และการเกิดภูมิแพ้แบบแฝงที่เกิดจากอาหาร ที่มักก่อให้เกิดอาการทางระบบย่อยอาหารและทางผิวหนัง โดยทุกบริการจะมีหมอโบว์เป็นผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องการปรับไลฟ์สไตล์ และโภชนาการด้วย
ด้วยความยึดมั่นในสุขภาพ ความงาม และความอุ่นใจของผู้รับบริการ ด้วยทีมแพทย์ประจำคลินิก 3 ท่านที่มีประสบการณ์รวมกันกว่า 30 ปี EY Clinic ให้ความสำคัญกับการรักษาแบบปัจเจกโดยปราศจากการขายที่ไม่จำเป็น
“เราดูแลลูกค้าทุกคนเหมือนสมาชิกครอบครัว ไม่ใช้ของปลอมหรือเจือจางยา ไม่ยัดเยียดคอร์สและฮาร์ดเซลล์ และจะติดตามผลกับคุณ ทำให้แน่ใจว่าคุณพึงพอใจ 100%” หมอผึ้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายแพทย์ประจำ EY Clinic ได้ทาง https://www.eyclinic.com/ LINE: ey skin & wellness หรือโทร +66 61 594 1923

2
หน้าใสไร้สิว คงเป็นสภาพผิวหน้าที่ใคร ๆ ไม่ว่าเพศไหน อายุเท่าไหร่ต่างก็ต้องการ เคล็ดลับหน้าใสไร้สิวนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองให้สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก การใช้ครีมบำรุงผิวหรือผลิตภัณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงการให้บริการคลินิกและหัตถการต่าง ๆ เป็นต้น ไม่ว่าจะใช้วิธีการไหน การมีผลลัพธ์ผิวหน้าใสไร้สิวถือเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝัน

สาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำมีอะไรบ้าง

สาเหตุของการเกิดผิวหน้าหมองคล้ำนั้นมาได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

แสงแดดและสภาพอากาศ: แสงแดดมีผลโดยตรงต่อการเกิดหน้าหมองคล้ำ โดยรังสี UVA และ UVB ทำให้ผิวเสีย คล้ำ และแห้งกร้าน อีกทั้งสภาพอากาศที่รุนแรงก็สามารถทำลายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว
การใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน: การใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนตลอดวันมีผลกระทบต่อผิวหน้า รังสี UVA ที่ออกมาจากหน้าจอสามารถทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้
การใช้เครื่องสำอางโดยไม่ล้างให้สะอาด: การไม่ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดอาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และเพิ่มโอกาสในการเกิดหน้าหมองคล้ำขึ้น
ความเครียด: ความเครียดสามารถกระตุ้นการเกิดเม็ดสีเมลานินที่เป็นตัวก่อให้เกิดหน้าหมองคล้ำ แถมยังทำให้หน้าดูแก่อีกด้วย
การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนไม่เพียงพอแทำให้ผิวหน้าสูญเสียความสมดุลและฟื้นฟูได้ยาก อีกทั้งยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดใบหน้าหมองคล้ำได้

การดูแลสุขภาพผิวและการพักผ่อนเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดหน้าหมองคล้ำแถมยังช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย

รวม 7 วิธีช่วยให้หน้าใสไร้สิว

การดูแลผิวหน้าเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนละเลย และเพราะใบหน้าเป็นสิ่งที่คนเราต่างเห็นเป็นสิ่งแรก อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นได้ ดังนั้น หากต้องการให้ผิวหน้าดูขาวใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอยใด ๆ แนะนำให้ทำตาม 7 วิธี ดังนี้

1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดล้ำลึก
การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกถือว่าเป็นขั้นตอนแรกสู่การมีผิวสวยใสไร้สิว การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี คือ การใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์เช็ดทำความสะอาดคราบฝุ่นละออง คราบเหงื่อ เครื่องสำอาง และครีมกันแดดออก จากนั้นให้ล้างหน้าตามปกติโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว
2. เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพปัญหาและสภาพผิวหน้า
การเลืกอใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกและตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น หากคนผิวแห้งใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยควบคุมความมันก็จะยิ่งทำให้หน้าแห้ง หรือใครที่หน้ามันแต่เลือกใช้ครีมบำรุงที่เข้มข้น ก็อาจทำให้หน้ามันเยิ้ม เกิดการอุดตัน และก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้ ทางที่ดีคือเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ตอบโจทย์กับสภาพผิว จะดีที่สุด
3. ห้ามละเลยการทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดเป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตแก่ผิวหน้า เนื่องจากรังสียูวีจากแสดงแดดเป็นตัวการของการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย การทาครีมกันแดดจะช่วยกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด หากทาในปริมาณที่เพียงพอเหมาะสม

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้ามันเยิ้มจนไม่อยากทาครีมกันแดด แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาอย่างเช่นเนื้อเจลหรือเนื้อโลชั่นที่ซึบซาบไว เพียงเท่านี้ก็ลดปัญหาหน้ามันไปพร้อม ๆ กับการปกป้องผิวจากแสงแดดเล้ว
4. เลี่ยงอาหารรสเค็ม หวานจัด น้ำตาลสูง
การดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสและปราศจากสิวเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงการบริโภคอาหารอย่างมีสติด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากอาหารที่มีรสเค็มหวานจัด และน้ำตาลสูงส่งผลต่อสุขภาพผิวเป็นอย่างมาก หากอยากมีผิวใสไร้สิว แนะนำให้
ลดอาหารรสเค็ม: อาหารรสเค็มจะทำให้ผิวบวมและเกิดเป็นรอยสิวเป็นตุ่มง่ายขึ้น แนะนำให้ลดการกินอาหารเค็มจัด หรือเติมเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็มมากเกินไป
หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด: อาหารที่มีระดับน้ำตาลสูงอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิว ควรลดการบริโภคขนมหวาน เค้ก นมสด และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและน้ำหวานต่าง ๆ : เครื่องดื่มและน้ำหวานอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพผิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
5. ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
การดื่มน้ำและการพักผ่อนอย่างเพียงพอถือเป็นหัวใจสำคัญของการมีผิวใสไร้สิว ไร้จุดด่างดำ การดื่มน้ำมีความสำคัญอย่างมากในการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสและปราศจากสิว เนื่องจากน้ำมีบทบาทสำคัญในการขับสารพิษต่าง ๆ ที่สะสมในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีผลในการรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว ดังนั้นน้ำมีบทบาทอย่างสำคัญในการเพิ่มความแข็งแรงและส่งผลดีสุขภาพของผิวของเราด้วย
6. หมั่นนวดหน้าและขัดผิวเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
การนวดหน้าและขัดผิวเป็นประจำเป็นวิธีการที่สามารถช่วยให้ผิวหน้าใสไร้สิวได้ แต่ควรทำอย่างระมัดระวังและใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการทำร้ายผิวหน้ารุนแรงเกินไป การนวดหน้าและขัดผิวเป็นประจำสามารถช่วยให้ผิวใสไร้สิวได้โดยการกระตุ้นการระบายสารพิษ ผลัดเซลล์ผิวทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยเพิ่มการดูดซึมของครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวได้รับสารบำรุงอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
7. ใช้บริการคลินิกความงาม
การใช้บริการคลินิกความงามก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสไร้สิวไร้ริ้วรอยได้อย่างเห็นผลในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยบริการคลินิกที่แนะนำ มีดังนี้
ลอกผิวหน้า (Peel) เป็นการใช้สารเคมีหรือเครื่องมือเฉพาะเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า ลดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ และสิว และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่
การทำเลเซอร์ (Laser) และไอพีแอล (IPL) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้เพื่อช่วยปรับสภาพผิวหน้า ลดริ้วรอย และการระคายเคือง ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่
ใช้คลื่นรังสีความถี่สูง (Radiofrequency): เป็นการใช้คลื่นรังสีความถี่สูงทำให้เซลล์ผิวใต้ผิวหน้าเรียบเนียน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับ ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิว
การฉีดสารต่าง ๆ เช่น โบท็อกซ์ (Botox) เพื่อลดการกระตุ้นกล้ามเนื้อใต้ผิวหน้า ทำให้ความหมองคล้ำลดลง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
การทำ Microneedling เป็นการใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะผิวหน้าเพื่อกระตุ้นกระบวนการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้ได้ผิวกระจ่างใส ดูเรียบเนียนและไร้สิวไร้ริ้วรอยจุดด่างดำ แนะนำให้หลากหลายวิธีการควบคู่กันไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะหากใช้บริการคลินิก ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ แต่ขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอและขาดการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐาน ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากับทำหลาย ๆ วิธีควบคู่กันไป
สรุปวิธีทำให้หน้าใสไร้สิวจาก Skinserity
วิธีต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั้นสามารถช่วยให้ผิวหน้าขาวใสขึ้นได้ และหากต้องการผลลัพธ์ที่เร่งด่วน รวดเร็ว ทันใจ แนะนำให้ใช้บริการหัตถการในคลินิก เช่น การฉีดเมโสหรือมาเด้คอลลาเจน เพราะการฉีดตัวสารเข้าไปในชั้นผิวจะมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่า

ที่ Skinserity มีบริการเสริมความงามเพื่อช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของผิวขาวกระจ่างใสและไร้สิว ไม่ว่าจะเป็นการทำเมโสหน้าใส การฉีดมาเด้คอลลาเจน รวมไปถึงหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดีในระยะเวลาสั้น ๆ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.skinserityclinic.com/

3
วันนี้เรามีฮาวทูทำให้หน้าใส ไร้สิว แบบธรรมชาติ มาให้หนุ่มสาวทุกคนที่อยากจะมีใบหน้าสว่างกระจ่างใสจนเดินไปที่ไหนก็มีทัก เริ่มจากเคล็ดลับในการทำความสะอาดผิว ไปจนวิธีที่ทำให้ใบหน้าดูขาวสว่างแบบสุขภาพดี ถ้าพร้อมแล้วเรามาทำความเข้าใจวิธีและเคล็ดลับขจัดปัญหาผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน  มีจุดด่างดำขาดความชุ่มชื้น หรือแม้แต่มีริ้วรอยก่อนวัย เพื่อให้คุณดูสวยหล่อในแบบที่ใครก็พากันคิดว่าคุณมีผิวดีเป็นทุนเดิมกันเถอะ

เคล็ดลับทำความสะอาดผิวหน้าให้สว่างสดใสแลดูปังเป็นธรรมชาติ
 
ใครที่กำลังตามหาเคล็ดลับหรือวิธีทำให้ใบหน้าสว่างใสไร้สิวและดูสวยหล่อแบบธรรมชาติที่สุด คุณก็ควรเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธีก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เพียงแค่การชำระล้างสิ่งสกปรกให้หมดไปจากใบหน้าเท่านั้น หากล้างหน้าไม่ถูกวิธีก็มีโอกาสที่ผิวหน้าของคุณจะแห้งตึงเนื่องจากสูญเสียความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย หน้าแห้งกร้านจนลอกเป็นขุย  ผิวหนังเหี่ยวย่นและใบหน้าก็จะยิ่งดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

นอกจากนี้การที่ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นอยู่บ่อย ๆ ยังทำให้กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่ขาดหายไป แต่ว่าน้ำมันที่ถูกผลิตออกมาเพิ่มนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อผิวของคุณเท่าไรเลย เพราะน้ำมันส่วนเกินเหล่านี้จะเข้าไปอุดตันตามรูขุมขนรวมกับสิ่งสกปรกที่คุณเจอมาในแต่ละวัน และนั่นเป็นตัวการที่ไปช่วยแบคทีเรียบนผิวหน้าที่ส่งผลให้เกิดสิวมากขึ้นอีกต่างหาก

นั่นหมายความว่าการทำความสะอาดผิวหน้าสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกและไขมันให้หลุดออกไปผิวหน้าและรูขุมขนของคุณอย่างหมดจด และยังต้องควบคุมให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อทำให้การทำความผิวหน้าของคุณมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวให้สว่างใสแลดูปังเป็นธรรมชาติได้มากที่สุดนั่นเอง

 
ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าและเคล็ดลับแบบพึ่งธรรมชาติ
โฟมล้างหน้าไม่ใช่วิธีเดียวในการทำความสะอาดผิวหน้าของคุณจากสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดสิวอุดตัน แต่ควรผสมผสานการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเข้าด้วยกันเพื่อความสะอาดอย่างล้ำลึกและเพื่อให้ผิวของคุณคงความชุ่มชื้นได้อย่างดี และนี่คือวิธีการทำความสะอาดผิวด้วยโฟมและการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อการดูแลผิวที่เหมาะสม.
●   ใช้น้ำอุ่นชโลมผิวหน้าเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน
การใช้น้ำอุ่นชโลมผิวหน้าเป็นหนึ่งเคล็ดลับที่ทำง่ายและได้ผลดีมาก เพราะความร้อนจากน้ำอุ่นจะเข้าไปช่วยเปิดรูขุมขนให้ขยายและค่อย ๆ เปิดออกจนกว้างขึ้น จากนั้นคุณก็จะสามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกและไขมันที่อุดตันอยู่บนผิวหน้าได้จนหมดเกลี้ยงแบบง่าย ๆ เลย
●   ใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนต่อผิว
เวลาไปที่ร้านขายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าก็ให้ลองมองหาโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ซึ่งได้แก่

1.   แอลกอฮอล์
2.   พาราเบน (วัตถุกันเสีย)
3.   น้ำหอม
4.   สารในกลุ่ม Phthalates
5.   สเตียรอยด์
●   ใช้คลีนซิ่งจากธรรมชาติในวันที่แต่งหน้าเบา ๆ
ในวันไหนที่คุณไม่ได้แต่งหน้าหรือประโคมครีมต่าง ๆ เพื่อบำรุงใบหน้ามากนัก ก็อาจลองใช้คลีนซิ่งที่มาจากธรรมชาติดูบ้าง เพราะทุก ๆ วันที่ผ่านมาใบหน้าของคุณเจอสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวผสมอยู่ในคลีนซิ่งมากมายหลายตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ พาราเบน และสารที่ใช้ลบเครื่องสำอางอื่น ๆ บนใบหน้า

สำหรับคลีนซิ่งจากธรรมชาติที่เหมาะกับสภาพผิวและคุณยังสามารถหาได้ง่ายใกล้ ๆ ตัวนั้น ก็ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว ที่นำมาใช้นวดใบหน้าเพื่อชำระล้างเครื่องสำอางได้ โดยวิธีก็ไม่ยากอะไรเพียงแค่คุณนำน้ำมันมะพร้าวมานวดให้ทั่วใบหน้าและเน้นไปบริเวณที่มีเครื่องสำอางค์ จากนั้นก็ใช้สำลีชุบน้ำมาเช็ดเพื่อล้างคราบน้ำมันมะพร้าวออกไป เท่านี้จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณก็จะสะอาดได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติแล้ว


อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือโฟมล้างหน้านั้นจะต้องปกป้องความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวหน้าของคุณไปนาน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งตึงและเป็นสาเหตุของปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

1.   ผิวหน้ามีปัญหาหมองคล้ำไม่สว่างใส
2.   ผิวหน้ามีความมันส่วนเกินมากเกินไปเนื่องจากขาดความชุ่มชื้น
3.   ผิวหน้าหลุดลอกเป็นขุยขาว ๆ
4.   ผิวหน้ามีริ้วรอยดูแก่ก่อนวัยและจุดด่างดำให้เห็นชัดเจน
5.   ผิวหน้ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีสิวอุดตันผุดขึ้นมา

 

●   ใช้โทนเนอร์ที่ทำขึ้นเองด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
มาถึงเคล็ดลับทำความสะอาดใบหน้าให้สดใสไร้สิวด้วยการใช้โทนเนอร์ที่คุณสามารถทำขึ้นมาด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ซึ่งโทนเนอร์จากวัตถุดิบธรรมชาตินี้ช่วยให้คุณมั่นใจว่ารูขุมขนจะสะอาดอย่างแน่นอน รวมถึงทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงผิวหน้าของคุณไปในตัว และนี่คือสูตรโทนเนอร์จากธรรมชาติที่คุณสามารถทำเพื่อใช้เองได้

1.   โทนเนอร์สูตรน้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ ช่วยปรับสภาพ pH ของผิวให้กลับมาสมดุลและป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
2.   โทนเนอร์สูตรน้ำมะเขือเทศสด ช่วยให้ผิวหน้าของคุณมีความชุ่มชื้นแลดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
3.   โทนเนอร์สูตรชาเขียว ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และอาการอักเสบของผิวให้ลดลง
●   ใช้น้ำเย็นชโลมผิวหน้าเพื่อช่วยปิดรูขุมขน
หลังจากที่ทำความสะอาดหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องชโลมผิวหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยปิดรูขุมขนบนใบหน้า เนื่องจากรูขุมขนบนใบหน้าของคุณจะค่อย ๆ หดตัวเล็กลงและทยอยปิดเมื่อถูกน้ำเย็นนั่นเอง โดยการปิดรูขุมขนให้สนิทหลังจากที่ล้างทำความสะอาดใบหน้าด้วยวิธีและเคล็ดลับตามธรรมชาติแล้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดเข้าไปในรูขุมขนบนผิวหน้าของคุณอีก
หน้าใส ไร้สิว ด้วย 6 วิธีธรรมชาติ ที่ทำได้ง่ายกว่าที่คุณคิด
 
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
จำได้ไหมว่าหากผิวหน้าของคุณขาดความชุ่มชื้นก็จะส่งผลให้มีความมันส่วนเกินมากขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมในแต่ละวันคุณถึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อาจนับง่าย ๆ เป็น 8-12 แก้วต่อวัน หรือประมาณวันละ 1.5-2 ลิตรต่อวัน ก็จะช่วยให้คุณมีผิวกายและผิวหน้าที่ดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน แลดูกระจ่างใสและลดความหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ก็จะช่วยให้ผิวของคุณขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติและมีสุขภาพดีอีกด้วย

2. นอนหลับให้เพียงพอ
เมื่อสุขภาพดีจากภายในก็จะส่งผลถึงภายนอก คุณจึงควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในช่วงที่คุณนอนหลับ ไปพร้อมกับการให้ผิวหน้าได้พักฟื้นและเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณได้ออกกำลังกายก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและเซลล์ผิวให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

3. รับประทานผัก ผลไม้ ที่มีประโยชน์
ใครที่ชอบกินผักผลไม้อยู่แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะนี่คือหนึ่งในวิธีทำให้หน้าใสไร้สิวแบบธรรมชาติ ที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดีจากภายในร่างกาย โดยผิวหน้าจะเปล่งปลั่ง ดูขาวใส และชุ่มชื้นยิ่งขึ้น เพราะวิตามินกับแร่ธาตุมากมายที่มีอยู่ในผักผลไม้นั่นเอง ซึ่งควรทำไปพร้อม ๆ กับการลองเลือกชนิดของผักและผลไม้ให้เหมาะสมกับความชอบและความต้องการของคุณเองจะดีที่สุด

 
4. ใช้สกินแคร์ที่ดีเพื่อบำรุงผิวหน้า
เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีลักษณะผิวที่แตกต่างกัน การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำว่าคุณควรมองหาเซรั่มบำรุงผิวที่แมตช์กับผิวของคุณ แต่หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองมีผิวประเภทไหนก็สามารถไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้เช่นกัน

5. ล้างทำความสะอาดใบหน้าให้ถูกวิธี
อย่างที่เราเคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าการทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด สามารถช่วยให้ผิวหน้าของคุณห่างไกลจากสิว มีความสว่างใส และลดโอกาสที่จะเกิดสิวได้ หากวันไหนที่คุณแต่งหน้าจัดเต็มไปข้างนอกมา ก็ควรที่จะใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางร่วมกับโฟม เจล หรือครีมล้างหน้า จากนั้นก็บำรุงผิวให้สุขภาพดีด้วยโทนเนอร์ที่เหมาะกับผิวของคุณ แต่ถ้าวันใดแต่งหน้าเบา ๆ ก็อาจลดขั้นตอนให้เหมาะสมมากขึ้นก็ได้เช่นกัน

6. ทาครีมกันแดดทุกวันก่อนแต่งหน้า
เคล็ดลับสุดท้ายที่เป็นหนึ่งวิธีทำให้หน้าใสไร้สิวแบบธรรมชาติ ก็คือการทาครีมกันแดดก่อนที่คุณจะเริ่มแต่งหน้าเสมอ เพราะเมืองไทยขึ้นชื่อว่าแดดแรงและมีแสงยูวีเข้มข้นที่เล่นงานผิวหน้าของคุณให้หมองคล้ำและมีริ้วรอยได้ง่าย ๆ แต่ถ้าคุณได้ลงครีมกันแดดดี ๆ สักตัวก่อนแต่งหน้า ปัญหาที่ว่ามาเหล่านั้นก็จะไม่สามารถทำร้ายผิวหน้าของคุณได้อีก

สูตรหน้าใสไร้สิว ผิวนุ่มชุ่มชื้นสุขภาพดีแบบธรรมชาติ ที่ทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
 
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีทำให้หน้าใสไร้สิวและมีผิวที่นุ่มชุ่มชื้นสุขภาพดีแบบธรรมชาติ เรามี 6 สูตรที่คุณสามารถทำตามได้ด้วยตัวเองที่บ้านมาฝาก โดยจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อมกันเลย

สูตรที่ 1 กล้วยหอมผสมกับนมสด
มาเริ่มกันด้วยสูตรกล้วยหอมผสมกับที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้สุขภาพดี เพียงคุณนำกล้วยหอมครึ่งลูกมาบดให้ละเอียดจากนั้นผสมนมสดเย็น ๆ แล้วคนให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นนำมาทาบนผิวหน้าให้ทั่ว และปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที เมื่อครบเวลาก็ล้างหน้าออกให้สะอาด

สูตรที่ 2 ว่านหางจระเข้
ให้คุณนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกแล้วคัดเอาเฉพาะส่วนที่เป็นวุ้นมาบนให้ละเอียด จากนั้นนำมาทาให้ทั่วใบหน้าและปล่อยทิ้งไว้ราว 20-30 นาที เมื่อครบเวลาก็ล้างหน้าให้สะอาด ซึ่งว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงผิวหน้าของคุณให้นุ่มชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น รวมถึงช่วยลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว พร้อม ๆ กับฝ้า กระ จุดด่างดำ แน่นอนว่าหากอยากให้เห็นผลไว ๆ คุณก็ต้องหมั่นทำวิธีนี้เป็นประจำนั่นเอง

สูตรที่ 3 ไข่ขาวผสมกับน้ำผึ้ง
ต่อเนื่องด้วยการนำไข่ขาวมาผสมและคนให้เข้ากันดีกับน้ำผึ้ง จากนั้นนำมาทาบนใบหน้าแล้วรอให้แห้ง ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เมื่อครบเวลาก็ล้างออกให้สะอาด โดยสูตรนี้ขึ้นชื่อว่าช่วยให้ใบหน้าของคุณสว่างใส ผิวอิ่มน้ำ และยังช่วยจัดการกับสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เรียกว่าเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือมีสิวอุดตันมาก ๆ

 
สูตรที่ 4 แตงโม
สูตรนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพราะใช้เพียงแค่เนื้อแดงส่วนในสุดของแตงโมนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำมาวางบนใบหน้าให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที เมื่อครบเวลาก็ล้างออกให้สะอาด ซึ่งวิตามินที่อยู่ในแตงโมจะช่วยบำรุงผิวหน้าของคุณให้นุ่มชุ่มชื้น และเปลี่ยนผิวให้ดูสว่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

สูตรที่ 5 โยเกิร์ต
อีกหนึ่งวิธีทำให้หน้าใสไร้สิวแบบธรรมชาติอย่างการใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติมาพอกบนใบหน้าทิ้งไว้ 20 นาที เมื่อครบเวลาก็ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อผิวหน้าแน่นอน และหากเหลือก็ยังกินโยเกิร์ตที่มีอยู่ได้อีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งผิวดีและระบบขับถ่ายดีไปพร้อมกัน

สูตรที่ 6 ใบบัวบก
มาถึงเคล็ดลับสุดท้ายในการเปลี่ยนใบหน้าให้ขาวใสไร้สิวอย่างการใช้ใบบัวบก เพียงล้างใบบัวบกให้สะอาดแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาใช้ จากนั้นให้คุณนำสำลีมาชุบน้ำใบบัวบกและนำไปทาหรือวางไว้บนใบหน้าเป็นเวลา 20-30 นาที เมื่อครบเวลาจึงค่อยล้างออกให้สะอาด โดยสูตรนี้ถือว่ามีสรรพคุณในการช่วยรักษาสิว ลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว ริ้วรอยต่าง ๆ และช่วยให้มีใบหน้าที่ขาวใสเป็นธรรมชาติได้ดีมาก ๆ

EY Clinic พร้อมแนะนำวิธีที่ทำให้คุณมีใบหน้าใส ไร้สิว ได้รวดเร็วและปราศจากผลข้างเคียง
 

บรรดาวิธีทำให้คุณมีใบหน้าที่สว่างใสไร้สิวแบบธรรมชาติที่เราได้นำเสนอมาทั้งหมด รวมถึงเคล็ดลับในการช่วยให้คุณผิวหน้าที่ดีขึ้นจากภายในและภายนอก  และสูตรบำรุงผิวหน้าทั้ง 6 สูตรที่สามารถทำตามด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เหล่านี้ล้วนช่วยให้คุณมีผิวหน้าสุขภาพดีได้ตามต้องการแทบทั้งนั้น

แต่หากคุณอยากมีใบหน้าที่สดใส ไร้สิว แลดูเป็นธรรมชาติได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้วละก็ EY Clinic เราก็มีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและเวลล์เนสที่มีประสบการณ์รวมกว่า 30 ปีจากสถาบันชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมมอบคำแนะนำรวมถึงการใช้เครื่องมือมาตรฐานระดับโลก เพื่อช่วยให้คุณมีผิวหน้าสุขภาพดีได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ เพียงติดต่อเราที่ไลน์ @EYClinicTH หรือ https://www.eyclinic.com/

หน้า: [1]