ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อยู่ในรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสเครดิตบูโร ต้องทำอย่างไรจึงกู้เงินซื้อบ้านได้

อยู่ในรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสเครดิตบูโร ต้องทำอย่างไรจึงกู้เงินซื้อบ้านได้


การติดหนี้บัตรเครดิต หรือค้างชำระติดต่อกันหลายงวด ไม่เพียงแต่จะถูกทวงถามและมีภาระค่าปรับและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเท่านั้น หากแต่ยังต้องระวังปัญหาใหญ่กว่าที่จะตามมา จากการมีรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสหรือติดเครดิตบูโรด้วย
 ติดแบล็คลิสคืออะไร
   ก่อนจะได้คำตอบว่า ติดแบล็คลิสคืออะไร คนที่เคยมีบัตรเครดิตหรือเคยมีภาระหนี้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ต้องรู้ก่อนว่า ในการก่อหนี้ทุกครั้ง จะมีการบันทึกข้อมูลไว้ที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่หลายคนเรียกว่า “เครดิตบูโร” ซึ่งที่นี่จะเก็บข้อมูลหนี้สินของแต่ละบุคคลไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น มูลหนี้, หนี้แต่ละประเภท, หนี้ที่ทำไว้กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง รวมไปถึงประวัติและพฤติกรรมการชำระหนี้ว่าตรงเวลาหรือไม่, มีการค้างชำระหนี้ประเภทใด และค้างชำระเป็นเวลานานแค่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทางสถาบันการเงินจะต้องส่งรายงานให้กับเครดิตบูโร ทราบอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด
แบล็คลิส สำคัญอย่างไร
   ในการปล่อยสินเชื่อเป็นเงินก้อนใหญ่ ๆ อาทิ สินเชื่อบ้าน และรถยนต์ ทางสถาบันการเงินจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของผู้กู้ก่อน หากเช็คแบล็คลิสแล้วพบว่าผู้ขอกู้มีชื่อติดบัญชีดำหรือแบล็คลิส ทางสถาบันการเงินจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้
   ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดในการยื่นขอกู้เงิน โดยเฉพาะกรณีการกู้เพื่อซื้อบ้าน ให้ผู้กู้ต้องเช็คแบล็คลิสและนำหลักฐานการตรวจสอบดังกล่าว แนบไปกับเอกสารยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินด้วย
หากมีรายชื่อติดอยู่ในแบล็คลิส จะทำอย่างไร
   เมื่อค้างชำระหนี้ต่าง ๆ เกิน 90 วันและถูกติดในบัญชีแบล็คลิสแล้ว ก็จะต้องเร่งหาทางเคลียร์ภาระหนี้ดังกล่าวกับสถาบันการเงิน ซึ่งอาจต้องมีการเจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
จากนั้นเมื่อลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินได้ครบหมด แต่รายชื่อก็ยังคงจะอยู่ในบัญชีแบล็คลิสต่อไปอีก 3 ปี นั่นหมายถึงการขอสินเชื่อหรือกู้เงินใหม่ในช่วงนี้จะไม่ได้รับการอนุมัติ แต่ระหว่างนี้หากผู้กู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระหนี้ของตนเองให้ตรงเวลา, เป็นลูกหนี้ที่ดี, ไม่ค้างชำระหรือไม่ทิ้งหนี้ ข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกสถาบันการเงินจัดส่งไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเครดิตบูโร เป็นข้อมูลใหม่ ซึ่งก็จะทำให้ประวัติการชำระหนี้ดีขึ้น และไม่เกิดปัญหาในการขอกู้เงินก้อนเพื่อซื้อบ้านหรือรถยนต์อีกต่อไป