การชงกาแฟสดดื่มกันภายในบ้านหรือในสำนักงานปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมี เครื่องทำกาแฟ ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้การชงกาแฟของเราไม่ยุ่งยาก กดเพียงไม่กี่ปุ่มเมท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็น เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติ ที่สามารถชงกาแฟแก้วโปรดได้เองภายในเวลาอันรวดเร็วหลังจากกดปุ่มให้เครื่องทำงาน
แต่หากจะให้ล้ำมากขึ้นหลายคนจะเลือกใช้ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการชงกาแฟ โดยจะต้องมี กาแฟแคปซูล ซึ่งเป็นแคปซูลที่บรรจุเมล็ดกาแฟผ่านการคั่วและบดอย่างพิถีพิถัน ที่ถูกกักเก็บรสชาติและความหอมกรุ่นไว้ในแคปซูลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็น เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติ ที่กำลังได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะ 4 รุ่นท็อปฮิตจาก Nespresso ที่ถูกใจคอกาแฟยุคใหม่มาก ๆ ในขณะนี้ ได้แก่
อันดับ 1 Nespresso Essenza Mini เป็นรุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเพียงแค่ 2.3 กิโลกรัม ไม่เปลืองพื้นที่และยังสะดวกสบายต่อการเคลื่อนย้ายอีกด้วย ทั้งยังเป็นรุ่นที่สามารถใช้กับ สูตรชงกาแฟ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟดำ สูตรคลาสิก อย่างเอสเพรสโซ่หรือ อเมริกาโน่ ไปจนถึงกาแฟสูตรนม อย่างลาเต้และคาปูชิโน่ได้แบบสบาย ๆ เพราะมีการจัดเซตคู่กับเครื่องทำฟองนมมาให้พร้อมใช้งานด้วย
อันดับ 2 เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso Atelier เป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่โดนใจคอกาแฟสะดวกสบายเป็นอย่างมากเพราะมีก้านปั่นฟองนม มาพร้อมกับตัวเครื่องช่วยให้ชงกาแฟได้ทั้งเมนูกาแฟดำและกาแฟสูตรนม ทำฟองนมแบบร้อนหรือเย็นได้ (Hot Foam และ Cold Foam) และยังสามารถเลือกปรับระดับความสูง – ต่ำของก้านปั่นฟองนมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบการทำความร้อนเร็วด้วยเวลาเพียง 25 วินาที มีแรงดัน 19 บาร์ และมีระบบแจ้งเตือนเมื่อต้องขจัดคราบตะกรันสำหรับน้ำกระด้าง ช่วยยืดอายุการใช้งานอีกด้วย
อันดับ 3 Nespresso Inissia เป็นเครื่องชงกาแฟอีกรุ่นที่มาในรูปทรงกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา ทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและเข้ากับการตกแต่งได้ง่าย หลายคน ๆ หลงรักเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้จากรูปลักษณ์ที่สวยเก๋และนิยมนำไปใช้ประดับตกแต่งสถานที่ได้ด้วย โดยสามารถใช้ชงกับแคปซูลกาแฟในแบบของบาริสต้าได้ทุกเมนูที่ต้องการ เครื่องนี้ใช้แรงดัน 19 บาร์ และมีระบบการทำความร้อนได้เร็วด้วยเวลาเพียง 25 วินาทีเท่านั้น ทั้งยังมีระบบประหยัดพลังงานด้วยการปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานเครื่องนานเกิน 9 นาที
อันดับ 4 Nespresso รุ่น Pixie Electric เป็นรุ่นที่โดดเด่นในด้านดีไซน์ที่ทันสมัย มีทั้งเฉดสีแดงและสีบรอนด์ในรูปทรงโค้งมนสวยเก๋ เหมาะกับการวางตกแต่งห้องอีกด้วย สำหรับเครื่องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดด้วยน้ำหนักเพียง 2.8 กิโลกรัมเท่านั้น ช่วยให้การจัดวางเป็นไปได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถใช้ชงกาแฟได้ทั้งแบบ Espresso และ Lungo ในเวลาไม่ถึง 1 นาที เพราะตัวเครื่องสามารถทำความร้อนได้เร็ว พร้อมกับมีแรงดันถึง 19 บาร์ จึงช่วยให้คอกาแฟดื่มด่ำกับกาแฟรสชาติกลมกล่อมได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับ
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ Nespresso ทุกรุ่นยังมีการรับประกันตัวเครื่องให้ถึง 2 ปี โดยคุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟเพิ่มเติมได้ที่
https://www.nespresso.com/th/th/order/machines หรือ
https://mthai.com/tell/229758.html