ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เรื่องใกล้ตัวกับ ยาแก้ไอ วิธีใช้ ที่สาวๆควรรู้!!!



อาการไอ อีกหนึ่งอาการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปสู่ร่างกายผ่านทางลำคอ บางครั้งเราก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ลำคอได้ ทำให้เรามักจะไอขึ้นมาอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง!!! เราสามารถบรรเทาอาการไอได้ด้วยยาแก้ไอ วันนี้ Sistalk จะมาแนะนำ ยาแก้ไอ วิธีใช้ ยาแต่ละประเภทอย่างไรให้เหมาะสมไปอ่านบทความกันเลย!!!

สาเหตุของการไอ คืออะไรทำไมเราถึงไอกันนะ


การไอก็จะมีทั้ง การไอแบบแห้ง เป็นการไอที่เกิดจากการระคายเคืองภายในลำคอ อาจก่อให้เกิดการคันภายใน และ การไอแบบมีเสมหะ ที่เป็นการไอที่มาพร้อมกับเสมหะภายในลำคอ สาเหตุของการไอเกิดได้จากหลายปัจจัย ส่วนใหญ่จะเกิดจาก

  • การรับสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง สาเหตุนี้เป็นสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้เกิดการไอขึ้นอยู่บ่อยครั้ง สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองของแต่ละคนก็จะแตกต่างการออกไป เช่น น้ำหอม สเปรย์ปรับอากาศ ควันบุหรี่ ขนสัตว์ เชื้อรา เป็นต้น

  • การทานยาบางชนิด ยาที่เราทานประจำบางตัวอาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างเช่นการไอขึ้นมาได้ ซึ่งการไอจะไม่เกิดขึ้นหากไม่กินยา แต่ส่วนใหญ่ยาที่ทำให้เกิดการไอมักจะเป็นยาที่ต้องทานอย่างต่อเนื่อง เช่น ยาลดความดัน  ยาโรคหัวใจ เป็นต้น

  • อาการป่วย และ โรคต่างๆ นอกจากการทานยาแล้ว โรคบางอย่างก็ทำให้เกิดการไออย่างเฉียบพลัน และ เรื้อรังขึ้นได้ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปวดบวม โรคภูมิแพ้ เป็นต้น

>>อ่านสาเหตุที่ทำให้เรา เสียงหายเสียงแหบ เกิดจากอะไร ได้ที่นี่<<

ยาแก้ไอ มีกี่ประเภท?
การไอแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะของการไอที่แตกต่างกันทั้งการไอแบบแห้ง แบบมีเสมหะร่วมด้วย ดังนั้นเราจะต้องเลือกประเภทของยาให้ถูกต้อง ซึ่งยาแก้ไอเองก็มีประเภทของยาที่ใช้สำหรับบรรเทาอาการที่แตกต่างกันทั้ง

  • ยาที่บรรเทาอาการไอ (Antitussives) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการไอ ทำให้อาการไอลดน้อยลง แต่ก็ไม่ควรใช้กับคนที่มีเสมหะเหนียว เพราะจะยิ่งทำให้เสมหะเหนียวข้นขึ้น และ อาจทำให้เกิดการอุดตันที่ทางเดินหายใจได้
  • ยาที่ช่วยในการขับเสมหะ (Expectorants) ยาที่ช่วยในการขับเสมหะออกมา ตัวยาจะไปทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง ทำให้ร่างกายมีการสร้างสารที่ช่วยในการลดความหนืดลง ทำให้สามารถเอาเสมหะออกไปง่าย ยาขับเสมหะมักทำให้เกิดอาการข้างเคียงขึ้นได้ เช่น อาเจียน คลื่นไส้
  • ยาที่ช่วยละลายเสมหะ (Mucolytics) จะไปทำลายโครงสร้างของเสมหะที่เหนียว ทำให้เสมหะไม่เกาะตัว และ เสมหะออกมาในรูปของของเหลวไม่เป็นก้อน
  • ยาสมุนไพรช่วยลดอาการไอ สมุนไพรบางชนิดก็มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการคันคอ และ ลดการเจ็บคอ อย่างสมอไทย สมอพิเภก มะข้ามป้อง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ นอกจากนั้นสารสกัดบางอย่างจากดอกไม้ สารระเหยบางตัวก็สามารถช่วยลดการอักเสบ ไอ เจ็บคอ และ ระคายเคืองในช่องปากได้ดี อย่างดอกคาโมมายล์ อิชินาเซีย

มารู้จักรูปแบบ ยาแก้ไอ วิธีใช้ แต่ละแบบใช้อย่างไร?
รูปแบบของยาแก้ไอในปัจจุบันก็จะมีทั้งยาในรูปแบบของยาเม็ด ยาน้ำ ยาแบบพ่น และ ยาแบบฉีด ซึ่งยาแต่ละแบบก็จะมีวิธีใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งเราควรจะเลือกยาให้เหมาะสมกับอาการ

ยาแก้ไอแบบเม็ด


ยาเม็ดแบบแห้ง ใช้สำหรับรักษาอาการไอแบบมีเสมหะ และ ไม่มีเสมหะ จะเน้นออกฤทธิ์ในการรักษาอาการไอแบบต่างๆ และ แบบแคปซูล ที่ส่วนมากจะเป็นยาแก้ไอที่ช่วยขับเสมหะ ละลายเสมหะ ยาแก้ไอรูปแบบเม็ดเป็นยาแก้ไอที่ต้องทานคู่กับน้ำเพื่อช่วยในการลำเลียงยาเข้าสู่ร่างกาย และ ยังเป็นตัวช่วยในละลายยาให้ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีและข้อเสียของยาเม็ด - ออกฤทธิ์ได้ดี ละลายได้เร็ว และ สะดวกต่อการพกพา แต่เวลาทานหากไม่มีน้ำก็จะทำให้ละลายได้ยาก

ยาแก้ไอแบบน้ำ


ยาแก้ไอแบบน้ำ เหมาะสำหรับการไอแบบแห้งมากกว่าแบบมีเสมหะ เพราะตัวยาจะช่วยให้รู้สึกชุ่มคอ ช่วยบรรเทาอาการไอแห้งได้ดี หากเป็นยาน้ำที่ใช้กับเด็ก ตัวยาจะเป็นในรูปแบบของ ยาแก้ไอที่เป็นน้ำเชื่อม ทำให้ทานได้ง่าย สามารถทานได้ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่
ข้อดีและข้อเสียของยาน้ำ - จะทานได้ง่ายกว่ายาแก้ไอแบบเม็ด ใช้ในการจิบระหว่างวันจะทำให้รู้สึกชุ่มคอ แต่ก็พกพาไปได้ลำบาก

ยาแก้ไอแบบพ่น


ยาพ่นจะมีละอองน้ำเข้าไปในลำคอ เพื่อช่วยทำให้รู้สึกชุ่มคอ สามารถใช้ในการบรรเทาอาการไอแบบแห้ง และ แบบมีเสมหะได้ ส่วนใหญ่ยาแก้ไอแบบพ่นจะมีการปรับให้สามารถใช้ได้ง่ายด้วยส่วนผสมที่มีรสหวาน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
ข้อดีและข้อเสียของยาพ่น - สามารถพกพาได้ง่าย และ ใช้ได้ง่าย รวดเร็ว ทำให้รู้สึกชุ่มคอได้ยาวนาน แต่ก็จะต้องพ่นให้ถูกวิธี ไม่เช่นนั้นอาจจะสำลักได้ และ ใช้เวลาในการออกฤทธิ์

ยาแก้ไอแบบฉีด


สำหรับใครที่ไอมากๆ ไอหนักๆ ยาแก้ไอแบบฉีดก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้ได้  วิธีนี้มักจะใช้ในการรักษาการไอจากภูมิแพ้ ยารูปแบบนี้ถือว่าเป็นยาที่เอาไว้ใช้รักษาในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะเป็นตัวยาที่มีสารสเตียรอยด์ และ เมื่ออาการไอเบาลงก็จะเปลี่ยนไปใช้ยาในรูปแบบเม็ดแทน
ข้อดีและข้อเสียของยาฉีด - ออกฤทธิ์ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นการฉีดเข้าร่างกายโดยตรง แต่ไม่สามารถใช้ได้บ่อย แล้วหยุดใช้อาจทำให้อาการไอหนักขึ้นกว่าเดิมได้
 
วิธีการเลือกยาแก้ไออย่างไรให้ดี

  • ให้ทานยาหลังอาหารวันละ 3 - 4 ครั้งเมื่อมีอาการไอ ตามคำแนะนำของแพทย์ เภสัชกร

  • ควรศึกษาตัวยาให้ดี เพราะยาบางชนิดจะทำให้ง่วงซึมได้ จึงไม่ควรใช้หากทำการขับรถ

  • อย่าทานยาที่แรงจนเกินไป โดยเฉพาะยาที่เป็นยาฆ่าเชื้อ เพราะยาประเภทนี้เมื่อทานอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดอาการดื้อยา ทำให้เมื่อทานยาอีกครั้งจะรักษาอาการได้ไม่ดีเท่าเดิม และ อาจจะต้องเปลี่ยนตัวยาใหม่

  • ใครที่เป็นเบาหวาน ไม่ควรเลือกยาแก้ไอแบบน้ำเชื่อม เพราะมักจะมีส่วนผสมของสารให้ความหวาน หรือ น้ำตาล

  • กรณีที่ใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกรให้ชัดเจน เพราะยาอาจจะมีผลข้างเคียงต่อเด็ก และ ไม่ควรใช้ยากับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี

  • ใครที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ มีการให้นมบุตรให้ปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อยา เพราะอาจจะมีผลต่อเด็กได้

  • ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์ และ ทำการสูบบุหรี่ขณะที่มีอาการไอ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม และ อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้

  • กรณีใช้ยาในผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากกว่าคนทั่วไป หากใช้ในผู้สูงอายุควรปรึกษาแพทย์

  • หากทานยาแก้ไอติดต่อกันเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว แต่อาการไอยังไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และ รักษาต่อไป

การใช้ยาให้ได้ผล ต้องทานให้ตรงตามคำแนะนำไม่มากจนเกินไป ไม่บ่อยจนเกินไป ต้องทานให้พอดีตามคำแนะนำของแพทย์ เภสัชกร เพียงเท่านี้อาการไอก็จะไม่มารบกวนการใช้ชีวิตของเรา ไอเมื่อไหร่ก็หยิบมาใช้ได้เลย!!! นอกจากนั้นการดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ การกินอาหาร และ สมุนไพรที่ช่วยแก้อาการไอ รวมไปถึงวิธีในการแก้ไอวิธีอื่นๆ



Sistalk มาพร้อมคำแนะนำเรื่องสุขภาพดีๆ ให้คุณ

เรื่องของสาวๆ ก็ต้องให้สาวๆ คุยกันสิคะ หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหา มีข้อสงสัยไม่ว่าจะเรื่องของ สุขภาพ , การดูแลรูปร่าง , เรื่องลับๆ ของสาวๆ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความรัก และ เทรนด์อื่นๆ ไม่อยากพลาด ต้องเข้ามาอ่าน มาติดตามบทความที่เรา Sistalk ได้รวบรวมมาให้ รับรองได้ว่าคุณจะได้ทั้งประโยชน์ สาระความรู้ และ อัปเดตเทรนด์ก่อนใคร เพราะเราเข้าใจผู้หญิงดี!!!

ใครไม่ Talk Sistalk นะคะซิส!!!!

 
สามารถติดต่อสอบถาม Sistalk ช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : sistalk.in.th
Instagram : sistalk.in.th
Twitter : @SistalkTH