4 วิธีเช็กอาการขาหัก ก่อนเจ็บหนักทำชีวิตสะดุด!

[mooky555]

4 แนวทางพินิจอาการขาหัก แบบไหนเจ็บหนักจำเป็นต้องทราบ!
แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุคาดไม่ถึง แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเราทราบแนวทางดูอาการคนที่บาดเจ็บในพื้นฐาน เพื่อดูแลแล้วก็รักษาตามอาการได้อย่างเหมาะควร ยังนับว่าเป็นหนึ่งไม้ต่อสำคัญก่อนส่งตัวคนที่บาดเจ็บ โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่มีลักษณะอาการขาหักไปถึงมือแพทย์ ซึ่งพวกเราสามารถเช็กการบาดเจ็บข้างหลังเกิดอุบัติเหตุในพื้นฐานก่อนได้ ดังต่อไปนี้

1.ปวดบวม แดง มีรอยช้ำ หรือที่พวกเราเรียกกันว่าอาการอักเสบ ซึ่งเป็นอาการแรกๆซึ่งสามารถพบบ่อยข้างหลังเกิดอุบัติเหตุต่างๆโดยธรรมดาอาการบวมช้ำ หรือบวมแดงจะทุเลาลงข้างใน 10-14 วัน ขึ้นกับความร้ายแรงของอุบัติเหตุนั้นๆตรงข้ามถ้าเกิดพบว่าอาการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทวีความร้ายแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆ บางทีอาจเป็นสัญญาณบอกว่าขาหัก หรือมากยิ่งกว่าเพียงแค่การอักเสบทั่วๆไป

2.ความรู้ความเข้าใจสำหรับการขยับเขยื้อน แม้พบว่าไม่มีรอยแผลหรือเลือดไหลร้ายแรง พวกเราควรจะไต่ถามความรู้สึกของคนที่ได้รับบาดเจ็บก่อนจะเข้าไปช่วยพยุง โดยเลี่ยงการสัมผัสรอบๆที่เจ็บให้สูงที่สุด ในเรื่องที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรู้สึกเจ็บ มีลักษณะขาหัก จะไม่อาจจะขยับหรือเคลื่อนด้วยขาข้างนั้นได้แทบในทันทีทันใด

3.รูปร่างด้านนอกของอวัยวะไม่ปกติ หรือผิดรูปผิดร่าง ถ้าหากพบว่าขาของคนได้รับบาดเจ็บมีลักษณะไม่ปกติไป ดังเช่น บิด หรืองอแบบไม่ยุติธรรมชาติ บางทีอาจพูดได้ว่านี่เป็นอาการ ขาหัก แม้กระนั้นยังจำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์โดยหมอด้วยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ถัดไป สิ่งที่ควรจะทำก็เลยเป็นการติดต่อโรงหมอเพื่อส่งตัวคนที่บาดเจ็บเข้ารับการดูแลรักษากับหมอโดยตรง

4.ลูบคลำพบกระดูกโผล่หรือเขยื้อนออกมา เว้นแต่รูปแบบของอวัยวะที่แตกต่างจากปกติไป ในบางรายบางทีอาจพบว่าสามารถลูบคลำพบกระดูก หรือแลเห็นเป็นลักษณะผิวหนังนูนขึ้นมาได้ ซึ่งนับเป็นอาการขาหักที่เด่นชัด โดยให้พากเพียรเลี่ยงการเปลี่ยนที่หรือสัมผัสรอบๆที่ขาหัก ก่อนนำส่งให้หมอรักษาถัดไป

แน่ๆว่ากรณีขาหัก คนที่บาดเจ็บบางทีอาจจะต้องใช้ช่วงเวลาพักฟื้นถัดไปอีกนับเป็นเวลาหลายเดือน แล้วก็แน่ๆอีกว่าเมื่อจะต้องเข้าเฝือกเพื่อรักษาบางทีอาจก่อกวนการใช้ชีวิตประจำวันไม่มากมายก็น้อย จนถึงอดสงสัยมิได้ว่าถ้าเกิดขาหักอย่างงี้… กี่เดือนเดินถึงได้ หรือจำเป็นต้องใช้ช่วงเวลารักษาราวๆกี่เดือน ?

พยาบาลเบื้องต้น-ดาม-ขาหัก พร้อมแนวทางรักษาตามอาการ

เมื่อแยกอาการตามระดับความร้ายแรงโดยประมาณได้แล้วว่าคนที่บาดเจ็บขาหักไหม พวกเราสามารถทำรักษาพยาบาลเบื้องต้นพื้นฐานด้วยตัวเองได้โดยการประคบเย็น (Cold compression therapy) เพื่อลดอักเสบหรือบวมแดง รวมทั้งในกรณีที่ผู้ที่บาดเจ็บขาหัก ควรที่จะใช้ผ้าสะอาดพันแผลประคับประคองไว้ แล้วก็พากเพียรเลี่ยงการเปลี่ยนที่หรือสัมผัสรอบๆนั้น ก่อนส่งต่อให้หมอเป็นแพทย์ถัดไป โดยหมอจะทำวิเคราะห์ตามอาการ อีกทั้งจากการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และก็การตรวจเส้นเลือดด้วยเครื่องเอกซเรย์ (Angiogram) ก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอนรักษาอาการขาหักตามดุลยพินิจหมอ ซึ่งแบ่งได้ 3 แนวทางสำคัญๆดังต่อไปนี้

1.การเข้าเฝือกชั่วครั้งชั่วคราว (ตรึงอวัยวะ) ซึ่งเป็นแนวทางรักษาเพื่อลดการใช้แรงงาน หรือการเคลื่อนไหวของขา แล้วก็ความร้ายแรงอื่นๆที่บางทีอาจเกิดขึ้นตามมาได้

2.การจัดกระดูกให้เข้าที่เข้าทาง (Reduction) โดยหมอจะทำจัดกระดูกที่หักให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะกระทำเข้าเฝือกเพื่อดามกระดูกขาถัดไป

3.การผ่าตัดดามกระดูกด้วยโลหะ แนวทางรักษาอาการขาหักในเรื่องที่มีกระดูกหักหลายจุด ซึ่งมักมีสาเหตุจากอุบัติเหตุร้ายแรง รวมทั้งยังจะต้องเข้าเฝือกเพื่อตรึงกระดูก ลดการใช้แรงงานของขาไปอีกโดยประมาณ 6-8 อาทิตย์

ยิ่งไปกว่านี้ ยังส่งผลข้างๆจากการดูแลและรักษาขาหักที่บางทีอาจเจอได้ อาทิเช่น กล้าม หรือเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งแสดงออกเป็นลักษณะของการปวดให้ประสบพบเห็นได้ โดยหมอบางทีอาจให้ยาหยุดลักษณะของการปวด เพื่อลดลักษณะของการปวด บวม รวมทั้งลดอักเสบ ทั้งตลอดการพักฟื้นรักษาตัวคนที่ได้รับบาดเจ็บยังจำเป็นต้องใช้ไม้ประคอง ไม้ค้ำ รวมทั้งรถเข็น ถ้าถามคำถามว่าขาหัก กี่เดือนเดินได้ โดยธรรมดาบางทีอาจจำต้องใช้ช่วงเวลาราว3-6 เดือน หรือมากยิ่งกว่านั้น ขึ้นกับการบาดเจ็บและก็การดูแลตนเองข้างหลังการดูแลรักษาร่วมด้วย


เหมาะสมที่สุดก็เลยเป็นการคุ้มครองปกป้องอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดก่อนทำกิจกรรมต่างๆอย่างเช่น การใส่เครื่องมือคุ้มครอง การอบอุ่นร่างกายหรือยืดดูถูกกล้าม เพื่อลดจังหวะเจ็บที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งการทำประกันอุบัติเหตุพร้อมรับการเสี่ยง รับรองที่ไม่ต้องสำรองจ่ายด้วยบริการของ Cigna Care Card แล้วก็ทดแทนค่ารักษาสูงสุดถึง 25,000 ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง เพื่อคุณได้สุดกำลังกับทุกความสนุกสนานอย่างมั่นอกมั่นใจ

ศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1758
หรือ โทร. 0-2099-3999