ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประเภทไหนก็ตามหน้าที่หลักของยางคือช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย โดยยางที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติในการรับน้ำหนักทั้งน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุก ช่วยลดการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกจากพื้นถนนขณะขับขี่ ทำงานประสานกับพวงมาลัยในการควบคุมทิศทาง ทั้งยังเป็นตัวกลางถ่ายทอดพลังงานให้รถขับเคลื่อนไปข้างหน้าหรือหยุดนิ่งได้ตามต้องการ หน้าที่ของยางรถยนต์ทั่วไปว่าหนักแล้ว
ยางรถออฟโรด หนักยิ่งกว่าเพราะเป็นยางสำหรับสายลุยและการขับขี่ที่สมบุกสมบัน
ยางออฟโรด / ยาง suv มี 3 ประเภท สำหรับการขับขี่ 3 สไตล์ ได้แก่ ยาง H/T ให้การขับขี่นุ่มนวล เงียบ เหมาะสำหรับทางเรียบ ไม่เก่งทางอุปสรรค
ยาง A/T ใช้งานได้ดีทั้งทางเรียบและทางขรุขระ ลุยต่ออุปสรรคได้ในระดับปานกลาง
ยาง M/T สำหรับสายลุยโดยเฉพาะ ไม่หวั่นแม้ต้องเจอการทำงานหนัก
เมื่อเลือกยางได้ตามสไตล์การขับขี่แล้วลองสังเกตกลุ่มตัวเลขหรือตัวอักษรบริเวณหน้ายาง หากพบว่ามีตัวอักษร LT นั่นแสดงว่าเป็นยางที่ใช้ได้ในกลุ่มรถปิคอัพหรือกระบะอเนกประสงค์ทั่วไปที่ใช้งานไม่หนักมาก เนื่องจาก LT หมายถึง Light Truck นั่นเอง โดยยาง LT มีโครงสร้างแข็งกว่ายางกลุ่ม H/T แต่นุ่มนวลน้อยกว่า ใช้ความเร็วได้ตามเกณฑ์กำหนดบนแก้มยาง
ถัดจาก LT จะเป็นกลุ่มตัวเลขซึ่งมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกยาง ยกตัวอย่างเช่น LT 225/70R15 80S อ่านค่าได้ดังนี้
225 คือ ความกว้างของหน้ายางหน่วยเป็น มม.
70 เป็นอัตราส่วนระหว่างความสูงกับความกว้างของยาง
R หมายความว่าเป็นยางเรเดียล
15 คือ ความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว เพื่อบอกขนาดของกระทะล้อที่ใช้กับยางได้ ในกรณีนี้แสดงว่าเป็นยางที่สามารถใช้กับกระทะล้อซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 นิ้ว หรือเรียกว่ายางขอบ 15 นั่นเอง
80 คือ รหัสที่ใช้บอกความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุดต่อล้อ เมื่อปรากฏรหัส 80 แสดงว่าแต่ละล้อรับน้ำหนักได้ถึง 450 กิโลกรัม
S คือ ดัชนีที่ใช้ระบุความเร็วสูงสุดของยางที่สามารถขับได้ โดย S เท่ากับ 180 กม./ชม.
ความหมายจากกลุ่มตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้คือรายละเอียดของยางซึ่งจะช่วยให้เลือกยางได้ตรงสเปกมากขึ้น โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือคู่มือรถ
เมื่อเลือก ยาง ออฟโรด ได้ตามต้องการแล้วอย่าลืมดูแลเรื่องความสะอาดเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น อันดับแรกที่พึงระวังคือห้ามใช้แปรงและผงซักฟอกขัดโดยเด็ดขาดเพราะส่งผลเสียต่อโมเลกุลของคาร์บอนและสารเคมีในเนื้อยางทำให้ยางแตกลายงาและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ใช้สเปรย์หรือน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะจะดีกว่า และหากออกไปลุยแล้วกลับมาพร้อมดินโคลนที่ล้อเบื้องต้นต้องสำรวจตะกั่วถ่วงล้อก่อนว่าอยู่ครบหรือไม่ หากมีเวลาควรล้างขอบยางด้วยการถอดยางออกจากล้อเพื่อทำความสะอาดเศษสกปรกต่าง ๆ ที่มักจะอัดอยู่ในซอกระหว่างล้อกับยางอันเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ลมยางซึมออกมา
บริดจสโตนมี DUELER ยางออฟโรดสมรรถนะสูง ทนทาน ใช้งานได้ดีทั้งถนนเรียบในเมืองและทางทุรกันดาร เช่น DUELER H/T684II, DUELER H/T 689, DUELER H/T 840 ซึ่งเป็นยาง H/T ที่ให้การขับขี่นุ่มเงียบ ยึดเกาะถนนดีทั้งสภาวะถนนเปียกและแห้ง สำหรับยาง A/T เช่น DUELER ALL TERRAIN 697, DUELER ALL TERRAIN 693, DESTINATION A/T ให้การขับขี่มั่นใจทั้งสองสไตล์นุ่มสบายบนทางเรียบและพร้อมกรุยบนทางขรุขระ สำหรับยาง M/T เช่น DUELER MUD TERRAIN 674 ให้การขับขี่ที่คล่องตัวบนเส้นทางวิบาก มีร่องดอกยางลึก สลัดดินได้ง่าย แกร่ง แรง ทนทาน
นอกจากตอบสนองทุกสไตล์การขับขี่แล้ว DUELER มีส่วนผสมของเนื้อยางสูตรพิเศษและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจึงทนทาน คุ้มค่าต่อการใช้งาน ทั้งยางออฟโรดและ
ยาง suv ในปัจจุบันนิยมใช้ยางขอบ 18 กันมาก หากให้แนะนำว่า
ยางรถยนต์ขอบ 18 ยี่ห้อไหนดี ? DUELER H/T 684II ยางขอบ 18 จากบริดจสโตนคือคำตอบ เนื่องจากเกาะถนนดี มีประสิทธิภาพในการเข้าโค้งเป็นเยี่ยมจึงให้ความปลอดภัยสูง ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ ให้การขับขี่นุ่มนวล อายุการใช้งานยาวนาน สเปกถูกใจสายออฟโรดขอบ 18 อย่างแน่นอน