ถ้าหากต้องการถมที่ดิน เราต้องดูหลายปัจจัยควบคู่กันไป ทั้งในเรื่องระดับความสูงของหน้าดิน การทรุดตัวของดิน รวมถึงการระบายน้ำภายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระยะยาวในภายหลัง แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกันก่อนว่าทำไมผู้ รับเหมาก่อสร้าง ถึงต้องถมที่ดินก่อนสร้างสิ่งปลูกสร้าง?
สามารถเข้าไปอ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่
ทำไมต้อง ถมที่ดิน ก่อนสร้างสิ่งปลูกสร้าง?
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นสร้างบ้าน สร้างอาคาร หรือ สร้างโรงงาน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ สักหลัง สิ่งที่ต้องเตรียมอย่างแรก คือ การเตรียมที่ดินให้พร้อม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อพื้นที่ตัวอาคาร สามารถแบ่งออกได้ 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. การถมที่ดิน ก่อนสร้างสิ่งปลูกสร้าง เหตุผลที่ต้อง ถมที่ดิน เนื่องจากเป็นการยกระดับความสูงของพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือวางท่อระบายน้ำให้อยู่สูงกว่าถนน ทั้งนี้สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ การปรับระดับพื้นที่ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ คือ
- ลักษณะพื้นที่ที่จะถมดินเป็นอย่างไร
เบื้องต้นผู้รับเหมาควรตรวจสอบลักษณะของพื้นที่ เพื่อให้รู้ว่าจะต้องมีการถมดินสูงแค่ไหน ถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านี้จะส่งผลให้ดินเกิดความอ่อนตัวสูง
- ระดับความสูงของพื้นที่ที่จะถมดิน
ก่อนเริ่มต้นถมดิน ต้องมีการกำหนดระยะความสูงที่ต้องการจะถม ซึ่งควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมรวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ระยะเวลาในการทิ้งพื้นที่หลังถมดิน
หลังจากที่ถมที่ดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรดำเนินการสร้างบ้านทันที แต่ควรทิ้งระยะเวลาไว้ 6 - 12 เดือน เพื่อให้หน้าดินมีการเซตตัว และ ป้องกันไม่ให้เกิดการทรุดเพิ่มขึ้นในระยะยาว
ข้อควรระวังในการถมที่ดิน
สำหรับบ้านที่สร้างจากพื้นที่เดิม เมื่อเกิดการทับถมเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้จะทำให้เกิดปัญหาการทรุดตัวของดินมากกว่าปกติ เพราะเศษวัสดุเหล่านั้นไม่สามารถผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับดินได้
2. การวางฐานโครงสร้างตั้งแต่เริ่มต้นวิธีป้องกันการทรุดตัวของดิน คือ การมีเสาเข็มรองรับน้ำหนัก โดยทั่วไปแล้วโครงสร้างบ้านจะถูกกำหนดให้มีเสาเข็มลึกลงไปถึงชั้นทรายประมาณ 18 - 21 เมตร (เป็นความลึกของพื้นที่ กทมฯ)
ข้อควรระวังในการวางเสาเข็ม
ที่ดินบางแปลงที่เราเลือกก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง อาจเคยเป็นคลอง บึง หรือ บ่อทิ้งขยะเก่า ดังนั้นการก่อสร้างบ้านบริเวณนี้ ควรมีการเจาะสำรวจชั้นดิน ไม่ควรใช้วิธีเทียบเคียงจากพื้นที่ข้างๆ
แนะนำข้อควรรู้สำหรับเจ้าบ้านก่อน ถมที่ดิน
ก่อนสร้างบ้านใหม่แต่ละหลัง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ การถมที่ดิน ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อควรรู้สำหรับเจ้าบ้านก่อนถมที่ดินมาฝากทุกคนกัน!
1. การคำนวณพื้นที่ และ ราคา ปกติแล้วราคาสำหรับการถมที่ดินจะมีราคาไม่ตายตัว ซึ่งจะวัดจากพื้นที่เป็นหลักว่ามีการใช้พื้นที่เท่าไหร่ ใช้ดินประเภทไหน ส่วนการคิดค่าใช้จ่าย ผู้รับเหมาก่อสร้างบางเจ้าจะคิดเป็นคันรถ โดยวิธีการคำนวณราคาจะวัดจากพื้นที่ที่ต้องการถมดิน และ ปรับหน้าดิน ว่ามีขนาดกี่ตารางเมตร สามารถใช้สูตรคำนวณ 1 ตารางวา เท่ากับ 4 ตารางเมตรได้ เช่น ที่ดิน 100 ตารางวา คูณ 4 เท่ากับ 400 ตารางเมตร เมื่อแปลงค่าแล้ว สามารถคิดปริมาณดินที่ใช้ได้ตามสูตรนี้ [ความสูงถมดิน x พื้นที่ถมดิน (กว้าง x ยาว)] x 1.20 (ปริมาณดินที่เผื่อ) = ปริมาณดินที่ใช้
จากนั้นให้คำนวณความสูงของดินที่ต้องการจะถม หากต้องการถมสูง 80 เซนติเมตร บนพื้นที่ 400 ตารางเมตร ก็จะเป็น 0.8 x 400 = 320 คิว ที่สำคัญต้องเผื่อพื้นที่การอัดบดดินเข้าไปอีกประมาณ 20% - 30% จะอยู่ที่ 80 คิว ดังนั้นการคำนวณในลักษณะนี้จะทำให้รู้ได้ถึงปริมาณดินที่ต้องการ การคำนวณค่าถมที่ดินในเบื้องต้นเป็นราคาที่ไม่ตายตัว ทั้งลักษณะของพื้นที่ ประเภทของดินที่ใช้ ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างต้องประเมินรอบด้านอย่างละเอียด
2. ข้อควรระวังด้าน กฎหมายถมที่ดินอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการถมที่ดินนั่นก็คือ เรื่องของกฎหมาย โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถมดิน คือ พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 เนื้อหาหลักเกี่ยวกับการถมดิน คือ การถมดินพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต หากเกิดกรณีที่ถมดินเกินกว่า 2,000 ตารางเมตร หรือ 1 ไร่ 1 งาน ต้องจัดให้มีการระบายน้ำตามที่กล่าวมาในเบื้องต้น และต้องแจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่น
3. ขั้นตอนการ ถมที่ดิน การถมที่ดิน คือ ขั้นตอนแรกของการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น สร้างบ้าน สร้างอาคาร สร้างโรงงาน หรืออื่นๆ ที่ต้องมีการลงโครงสร้าง โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้สำหรับการถมที่ มีดังนี้
ดินทั่วไป – มีราคาไม่สูง นิยมนำมาใช้สำหรับถมที่ดินเพื่อสร้างบ้าน และปรับระดับพื้นที่ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดระยะเวลาลงได้
ดินดาน – ลักษณะของดินชนิดนี้มีความแห้ง สามารถบดอัดได้เป็นอย่างดี นิยมใช้ถมที่ดินริมน้ำ ถมทำถนน สร้างบ้านแบบเร่งด่วน หรือ รองรับสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้อย่างแน่นหนา
ดินทราย – เป็นดินที่ไม่อุ้มน้ำ ใช้สำหรับรองพื้นก่อนเทปูนทำสิ่งปลูกสร้าง หากนำมาใช้ต้องบดอัดให้แน่นเป็นพิเศษ ข้อดี คือ สามารถป้องกันดินไหลไปยังบริเวณข้างเคียงได้
ดินทรายหยาบ – มีลักษณะเป็นหินแข็ง และ เม็ดใหญ่ ใช้ในขั้นตอนปรับสภาพพื้นผิวชั้นบนสุดของสิ่งปลูกสร้าง เหมาะกับงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง
ดินลูกรัง – ดินที่พบในชั้นลูกรัง ชั้นกรวด หรือชั้นหินพื้น ด้วยลักษณะที่เป็นหินมีความแข็ง จึงมีความหนาแน่นสูง สามารถบดอัดได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทำถนนคอนกรีต สร้างโรงงาน หรือเน้นงานถมสร้างลานจอดรถ
หินคลุก – เป็นประเภทของหินปูนมีขนาดแตกต่างกันไป ทำให้ความสมบูรณ์ของแร่ธาตุไม่มีความสม่ำเสมอ หินคลุกจะมีคุณสมบัติใช้สำหรับเทพื้น ปรับพื้นของถนน รองรับน้ำหนักของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
เลือกบริษัทรับเหมา ถมที่ดิน ต้อง V.K.B บริการครบ จบ ในที่เดียว!
การเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อนสร้างบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญ หากเจ้าของบ้านมีการเตรียมพร้อมในส่วนของที่ดินตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เกิดปัญหาน้อยลง แต่จะดีกว่านั้น ถ้าหากมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา สำหรับใครที่ต้องการใช้บริการรับเหมาก่อสร้าง เลือก V.K.B บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่ให้บริการทั้งงานออกแบบ และก่อสร้าง รวมถึงให้คำแนะนำเรื่อง บริหารโครงการ เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี ด้วยทีมที่เชี่ยวชาญ และ มีประสบการณ์ ทำให้คุณหมดกังวลในเรื่องต่างๆ ได้ เพราะ V.K.B ดูแลตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ และให้คำปรึกษาตลอดจนจบงาน ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่างานที่ออกมาจะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ และ มีคุณภาพ
- งานก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้างด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsourch คุณภาพที่พร้อมบริการอย่างเต็มที่
- งานออกแบบ มีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ รวมทั้งนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่พร้อมออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ตามสไตล์ของคุณ
- ให้คำปรึกษา และ บริหารโครงการ นอกจากการก่อสร้างแล้ว เรายังให้คำแนะนำ ปรึกษา และ ช่วยเหลือปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างทุกรูปแบบ
สามารถสอบถาม
V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ
Facebook :
VKB ContractingLine :
@vkbthTel : 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email :
vkb.cont@gmail.com