แนะนำเครื่องดื่มแก้ปวดหัว เครื่องดื่มแก้ไมเกรน รักษาอาการปวดหัวอาการปวดหัว เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เมื่อรู้สึกได้ถึงอาการปวดแล้ว มักจะตามมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และต้องการการพักผ่อน เราจึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีลดอาการปวดลง บางคนอาจแก้ได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด บางคนขอแค่นอนสักงีบก็รู้สึกดีขึ้น หรือบางคนขอแค่ออกไปพักสายตาสักครู่หนึ่งอาการปวดหัวก็หายเป็นปลิดทิ้งได้
โดยบทความนี้เรามีอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัวเป็นประจำ รวมไปถึงอาจสามารถบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นกัน วิธีนั้นคือการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว บรรเทาอาการปวดศีรษะ
เครื่องดื่มแก้ปวดหัวโดย
เครื่องดื่มแก้ปวดหัว จะเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดหัว แต่ถ้ามีอาการทางสุขภาพและรับประทานยารักษาโรคอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อขอคำปรึกษาและข้อแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว และหากมี อาการปวดหัว ติดต่อกันหลายวันหรือเป็นระยะเวลานาน ควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
เครื่องดื่มช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างไรโดยอย่างที่กล่าวไปแล้วเครื่องดื่มแก้ปวดหัวนั้น มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดหัว เพราะเนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการเจ็บปวดที่สมอง ผ่อนคลายและขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี
10 เครื่องดื่มแก้ปวดหัว มีอะไรบ้างตัวอย่างเครื่องดื่มแก้ปวดหัว เช่น
1. ชาขิง
ชาขิง หรือบางคนอาจจะเรียกว่าขิงผงก็ได้ ชาขิงแม้จะไม่ใช่ชาชนิดที่ทำมาจากใบชา แต่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของชาสมุนไพร คือไม่ได้เก็บจากใบชา แต่มีกรรมวิธีในการชงที่คล้ายกับชา
ชาขิงเป็นชาที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดหัวมาอย่างยาวนาน เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการเจ็บปวดที่สมอง ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ผ่อนคลายและขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี
2. ชาเขียวชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อดูว่าสามารถป้องกันไมเกรนได้หรือไม่
3. ชาฟีเวอร์ฟิวฟีเวอร์ฟิว เป็นพืชดอกในตระกูลเดียวกับดอกเดซี่ อีกทั้งยังมีความคล้ายคลึงกับดอกคาโมมายล์และมีสรรพคุณทางยาที่ถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดหัวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีผลการวิจัยที่ได้เผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพของฟีเวอร์ฟิวว่าสามารถช่วยลดอาการปวดหัว โดยเฉพาะอาการปวดหัวแบบไมเกรนได้อาการอักเสบ เจ็บปวดต่าง ๆ รวมถึงอาการแพ้แสงและอาการคลื่นไส้ได้ดี
แต่ชาฟีเวอร์ฟิวจะมีรสชาติที่ค่อนข้างติดขม สามารถเพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้ง เพื่อให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ชาฟีเวอร์ฟิวอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
4. ชาเปปเปอร์มินต์ชาเปปเปอร์มิ้นหรือชาใบสะระแหน่ มีสรรพคุณช่วยคลายเส้นประสาทและอาการหดเกร็งในลำไส้ จึงช่วยลดความเสี่ยงหรือบรรเทาอาการปวดหัวให้ทุเลาลงได้
5. นมอัลมอนด์นมอัลมอนด์ อุดมไปด้วยแมกนีเซียมสูง ซึ่งถือเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนช่วยบรรเทาพร้อมปกป้องอาการไมเกรนได้ดี โดยแมกนีเซียมจะช่วยลดหรือปิดกั้นสารเคมีที่มีส่วนทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในสมอง ทำให้สามารถช่วยลดอาการปวดหัวได้
6. นมไขมันต่ำนมไขมันต่ำมีวิตามิน B2 เป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่อาจช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้
7. น้ำมะนาวอุ่นน้ำมะนาวอุ่น ๆ มีส่วนช่วยดีท็อกซ์และขับสารพิษออกจากร่างกาย สามารถช่วยลดอาการปวดหัวที่เกิดจากปัญหาทางเดินอาหาร และกระตุ้นระบบย่อยอาหารซึ่งอาจชะลอตัวลงในระหว่างการเป็นไมเกรน จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและไมเกรนได้ดี
8. น้ำองุ่นน้ำองุ่นประกอบด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ทำให้อาการไมเกรนที่ดีขึ้น
9. น้ำส้มน้ำส้มเป็นเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้ เนื่องจากมีแมกนีเซียมสูง
10. น้ำเปล่าจากการศึกษาพบว่า การขาดน้ำเรื้อรัง คือสาเหตุหลักของอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง และปวดหัวไมเกรน และผู้ที่มีอาการปวดหัวรุนแรงส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นภายใน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงหลังดื่มน้ำ ในแต่ละวันคุณจึงควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ หรือกินอาหารที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม ส้ม โยเกิร์ต เพื่อป้องกันการขาดน้ำ ที่ไม่เพียงทำให้ปวดหัว แต่ยังทำให้ไม่มีสมาธิ และหงุดหงิดง่ายด้วย
คำแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวโดยเครื่องดื่มแก้ปวดหัว แม้ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้จริง แต่เนื่องจากเครื่องดื่มแก้ปวดหัวหลายชนิดเป็นพืชสมุนไพร ซึ่งยังคงมีข้อจำกัดหรือผลการวิจัยที่ไม่มากพอที่จะรับรองความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จำเป็นจะต้องระมัดระวังในการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวเหล่านี้ เนื่องจากสารประกอบบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ได้
เครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงเมื่อมีอาการปวดหัวโดยเครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงเมื่อมีอาการปวดหัว เพราะนอกจากไม่ใช่เครื่องดื่มแก้ปวดหัวแล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นไมเกรนกำเริบด้วย เช่น
เกิดจากสารไทรามีน...ที่เข้าไปลดระดับสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ “ไวน์แดง” ที่มีส่วนประกอบของสารไทรามีนและฮีสตามีนที่มีผลทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
เพราะคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ผู้ที่มีอาการปวดไมเกรน..และไวต่อสารนี้จึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน
แนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัวโดยแนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัว นอกจากการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว เช่น
1. การประคบเย็นการประคบเย็นหรือประคบน้ำแข็งบริเวณลำคอหรือศีรษะเป็นเวลา 15 นาที ช่วยลดการอักเสบ ชะลอกระแสประสาท และการไหลเวียนของเลือด การวิจัยในอาสาสมัครหญิง 28 คนพบว่า การประคบเย็นช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้เป็นอย่างดี
2. การใช้ยาบรรเทาอาการปวดหัวโดยการใช้ยารักษาอาการปวดศีรษะมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะอาการและความรุนแรงของอาการปวด
3. การนวดผ่อนคลายอาการปวดศีรษะการนวดผ่อนคลายที่คอ ไหล่ และขมับ ประมาณ 2-3 นาทีสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณลำคอ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อเกร็ง หรือปวดหัวจากความเครียดได้
4. ฝังเข็มรักษาอาการปวดหัวจากการวิจัยกว่า 22 ชิ้น ซึ่งมีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 4,400 คนพบว่า การฝังเข็มสามารถรักษาอาการปวดไมเกรนได้ดีเทียบเท่ากับการกินยา ทั้งยังได้ผลดีและปลอดภัยกว่ายากันชัก (Anticonvulsants) ที่ใช้รักษาอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรังด้วย อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยการฝังเข็ม ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
5. ฉีดโบท็อกแก้ปวดศีรษะเนื่องจากโบท็อกสามารถเข้าไปยับยั้งปลายประสาท Acetyl Choline ตัวกลางในการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองที่ต่อกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่คลายตัวลง จึงช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะให้น้อยลงได้ครับ และยังช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะได้อีกด้วย
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวโดยวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว นอกจากการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว เช่น
- ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- นอนหลับให้เพียงพอ
- งดอาหารที่มีฮีสตามีนสูง
- กินอาหารเสริมโคเอ็นไซม์ คิวเท็น
- จิบเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างพอเหมาะ
- ผ่อนคลายด้วยโยคะ
- ออกกำลังกาย
ข้อสรุปการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว อาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะก็จริง แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เนื่องจากเครื่องดื่มแก้ปวดหัวหลายชนิดเป็นพืชสมุนไพร ซึ่งยังคงมีข้อจำกัดหรือผลการวิจัยที่ไม่มากพอที่จะรับรองความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จำเป็นจะต้องระมัดระวังในการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวเหล่านี้ เนื่องจากสารประกอบบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ได้
ซึ่งหากอาการยังไม่ดีขึ้น ติดต่อกันหลายวันหรือเป็นระยะเวลานาน ควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม