ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


บอกต่อความต่างของ ประกันชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 เป็นอย่างไร

   ในยุคที่ผู้คนนิยมความสะดวกสบายด้านการดำรงชีวิตเป็นหลัก อย่างเช่นการสั่งอาหาร Delivery หรือการช้อปปิ้งออนไลน์ รวมไปถึงเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็นิยมใช้รถยนต์ส่วนตัวกันทั้งนั้น ถึงได้ทำให้รถราบนถนนทุกวันนี้มีมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คืออุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจคาดไม่ถึง ถึงแม้เราจะระมัดระวัง แต่อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นจากคนอื่น ดังนันคนที่มีรถยนต์ส่วนใหญ่จึงต้องมีการทำประกันภัยรถยนต์ควบคู่ไปด้วยซึ่งประกันรถยนต์แต่ละชั้นไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 หรือ ประกันรถชั้น 3 ก็ให้ความคุ้มครองที่ต่างกันไป ดังนั้นวันนี้เราจะมาบอกต่อว่าประกันรถยนต์แต่ละชั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

   หลายคนยังคงลังเลว่ารถยนต์ที่เราใช้อยู่นั้นควรทำประกันรถยนต์ชั้นไหนดีที่จะให้ความคุ้มครองในการขับขี่อย่างรอบด้าน ต่อไปนี้คือความแตกต่างของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2 ประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่เราจะมาพูดถึงกัน

1.   ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของคู่กรณีด้วยการชดใช้ค่าสินไหมตามจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน ให้ความคุ้มครองเจ้าของรถหากรถยนต์เกิดสูญหายหรือไฟไหม้จะได้รับการชดเชยค่าสินไหมตามที่ระบุไว้ในสัญญา รวมไปถึงเมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายก็สามารถเคลมประกันได้อย่างครอบคลุม โดยทางบริษัทประกันจะซ่อมรถให้ทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับ ประกันชั้น 1 จะรับประกันให้สำหรับรถใหม่ไปจนถึงรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี เหมาะกับรถยนต์ป้ายแดงเพราะต้องการการคุ้มครองให้รถเหมือนใหม่และครอบคลุมทุกด้าน รวมไปถึงคนที่อาจจะยังขับขี่ไม่ชำนาญ ใช้รถบ่อย ๆ หรือต้องขับทางไกล เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ตลอดเวลา
2.   ประกันรถยนต์ชั้น 2 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 มากที่สุดโดยให้ความคุ้มครองต่อคู่กรณีด้านความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินด้วยการชดใช้ค่าสินไหมตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา รวมทั้งคุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ด้วยเหมือนกัน แต่หากเกิดอุบัติเหตุจนรถยนต์เกิดความเสียหายและเราเป็นฝ่ายผิด ทางประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคู่กรณี แต่รถของเราจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเอง สำหรับ ประกันชั้น 2 จะเหมาะกับคนที่ขับรถยนต์คล่องแล้ว ขับขี่เป็นประจำและมีทักษะในการขับขี่ที่ปลอดภัยไปจนถึงปลายทาง
3.   ประกันรถยนต์ชั้น 3 คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถให้เฉพาะคู่กรณี แต่ก็ยังคุ้มครองชีวิต ร่างกาย การรักษาพยาบาลให้กับทั้งสองฝ่าย แต่ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถคันที่เอาประกัน และกรณีสูญหายหรือไฟไหม้เช่นกัน สำหรับ ประกันรถชั้น 3 จะเหมาะกับคนที่มีทักษะในการขับขี่เหมือนข้อ 2

นอกจากนี้ ยังมีประกันภัยรถยนต์แบบ 2+ และ 3+ ซึ่งจะเพิ่มเติมความคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ให้กับคันที่เอาประกันด้วย มีค่าเบี้ยเพิ่มเติมมาอีกไม่มาก ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าและตอบโจทย์บางคนมากกว่า คุ้มค่าเพราะไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมรถยนต์เอง ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่คนมีรถยนต์ส่วนตัวจำเป็นต้องทราบ จะเห็นได้ว่าเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินการทำ ประกันชั้น 1 คือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องและคุ้มครองทั้งตัวเราและคู่กรณีได้ดีที่สุด แต่ถ้ารถยนต์มีอายุเกิน 7 ปี ก็มีทางเลือกอื่นเพิ่มเติม ซึ่งการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจไว้นั้น อย่างไรก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ก็มีกรมธรรม์ความคุ้มครองที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

ชมรายละเอียดเพิ่มเติม
https://online.scbprotect.co.th/motor/type-2-plus