ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เก็บเงินซื้อบ้าน บอกเคล็ดลับที่ทำให้หลายคนมีบ้านของตัวเองก่อนอายุ 30 แน่นอน!

เก็บเงินซื้อบ้าน

หลายคนคงมีความฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แต่โตมาได้ทำงานถึงรู้ว่าการเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังนั้นยากมาก เพราะอสังหาฯ ในปัจจุบันแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าแรงสวนทางกับเหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างมาก จะเก็บตังซื้อบ้านทั้งทีก็ต้องมีวิธีการเก็บเงินอย่างชาญฉลาด รอบคอบ และมีวินัยในตนเองอยู่เสมอ บทความนี้จะมาบอกเคล็ดลับในการเก็บเงินซื้อบ้าน

1. กำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน

หลายคนพูดว่าอยากจะมีบ้านของตัวเอง แต่ไม่เริ่มเก็บหอมรอมริบ หรือตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น กำหนดรูปแบบและขนาดของบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไลต์ของคุณ อย่าลืมคำนึงถึงคนในครอบครัวและพื้นที่การใช้งานในบ้านที่คุณต้องการด้วยนะ, ราคาที่พึงพอใจ ราคาที่คุณสามารถจ่ายไหว ไม่เกินกำลังตัวเองมากเกินไปหรือทำให้คนรอบข้างต้องเดือดร้อน, ทำเลที่อยากได้ ย่านที่พักอาศัยเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ เนื่องจากการเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที ต้องใช้เงินจำนวนมากและต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน แนะนำให้คุณเลือกทำเลที่สะดวก ปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ และอย่าลืมเลือกซื้อบ้านที่ใกล้ที่ทำงานของคุณ เพื่อที่จะไม่ได้เสียค่าเดินทางมากและเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางไปทำงานมากจนเกินไป นี่เป็นการตั้งเป้าหมายเบื้องตนที่คุณจำเป็นต้องหาข้อมูลพวกนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อเตรียมเก็บเงินสร้างบ้านในฝันของตัวเอง

2. ลิสต์โครงการบ้านที่คุณชื่นชอบ

จะเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที อย่าลืมไปสำรวจบ้านหรือโครงการที่คุณชื่นชอบ โดยการทำลิสต์รายการบ้านที่คุณพึงพอใจทั้งในเรื่องของราคา ทำเลที่ตั้ง และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบและง่ายต่อการพิจารณาซื้อบ้านสักหลัง สามารถตัดช้อยส์ที่ไม่จำเป็นออกไปได้เลยทันที

3. มองหาบ้านที่สามารถต่อรองราคาได้

อย่าลืมมองหาบ้านที่สามารถคุยกับเจ้าของโครงการได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาการซื้อบ้าน การผ่อนจ่ายหรือมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่พอดี เพื่อที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าลงไปได้อีกนิดหน่อย ยิ่งสถานกาณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจซบเซาลง ทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม สุดคุ้มเพื่อดึงดูดให้คนเก็บเงินซื้อบ้านหรือคอนโดใหม่กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งให้คิดว่าการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน คือ การลงทุนในระยะยาว หากได้ทำเลที่ดียังไงก็ขายได้ราคาสูง แต่ต้องรอบคอบและคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญอย่าลืมดูกำลังผ่อนตัวเองว่าไหวที่เท่าไหร่ด้วย

4. คำนวณรายรับ-รายจ่ายในแต่เดือนของตัวเอง

คำนวณรายรับ-รายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือน โดยคิดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ ก่อน ส่วนเงินที่เหลือนั้นให้แบ่งไว้เพื่อเก็บเงินซื้อบ้านในอนาคต อาจจะทำเป็นสมุดบัญชีขึ้นมาเลยก็ได้ ข้อดีของการทำแบบนี้เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองในแต่ละเดือนว่าหมดเงินไปกับอะไรบ้าง และทราบถึงสถานะทางการเงินของตัวเองในปัจจุบัน เพื่อที่จะสามารถปรับแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม

5. แบ่งเก็บเงิน 20% ของราคาบ้าน

การเก็บเงินซื้อบ้านคุณควรที่จะต้องแบ่งเงินเก็บออกเป็น 20% ของราคาบ้าน ซึ่งก่อนที่จะซื้อคุณควรจะมีเงินก้อนแรกสำหรับดาวน์บ้าน รวมถึงเงินสำรองเพื่อใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่านายหน้า เงินจองบ้าน ค่าทำสัญญา ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง เป็นต้น มาลองคำนวณคร่าวๆ ถ้าจะต้องเก็บเงินซื้อบ้านอย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เช่น หากต้องการซื้อบ้านราคา 4 ล้านบาท จะต้องมีเงินเก็บ 20% ของราคาบ้าน หรือเท่ากับ 800,000 บาท เพื่อใช้ดาวน์บ้านในเดือนแรก เป็นต้น หรือ หากคุณมีเป้าหมายจะผ่อนบ้านในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยที่ราคาบ้านอยู่ที่ 3,000,000 บาท จะต้องมีเงินเก็บเพื่อซื้อบ้าน ( 3,000,000*20% = 600,000 บาท ) เลยทีเดียว

6. สร้างวินัยให้กับตัวเอง เงินเดือนเข้าปุ๊บโอนเก็บไว้อีกบัญชีปั๊บ

จะเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที จะต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองให้คุ้นชินกับการเก็บหอมรอมริบ เพราะจะต้องเก็บเงินก้อนใหญ่ในชีวิต สิ่งที่คุณจะขาดไม่ได้เลยคือ การมีวินัยในตนเองให้เก็บเงินอยู่อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยที่เงินเดือนเข้าปั๊บก็แบ่งเก็บไว้เลยอย่างน้อย 20% ของรายได้ทั้งหมด

7. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก

ตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด ลดความฟุ่มเฟือยลง ระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น จะซื้ออะไรคิดให้ดีอย่างมีสติ ซื้อแต่ของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจริงๆ เท่านั้น คำนึงถึงเป้าหมายหลักในอนาคตที่กำลังรอคุณอยู่

8. เลือกสินเชื่อบ้านที่ดีๆ

การเลือกสินเชื่อบ้านที่ดีๆ เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก อย่าลืมศึกษาอัตราดอกเบี้ยที่ต้องกู้ในปีแรกและปีถัดไปว่ามีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ อย่าเลือกจากการยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุด เช่น ดอกเบี้ยในปีแรกต่ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ควรเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินในปัจจุบันของคุณ การผ่อนชำระเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือกระทบต่อสภาพคล่องในแต่ละเดือนของคุณหรือไม่ เพราะหากคุณเซ็นสัญญาไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทั้งนั้น

9. หาช่องทางการทำเงินหรือสร้างรายได้เสริม

การหารายได้เสริม เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การเก็บเงินซื้อบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ลองหางานพาร์ทไทม์หรืองานฟรีแลนซ์ที่คุณถนัดหรือชื่นชอบอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มช่องทางการทำเงินให้มากขึ้น แถมยังช่วยให้ฝันของคุณใกล้ความจริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

10. ลงทุนและต่อยอดจากเงินออม

การนำเงินเก็บที่มีอยู่บางส่วนมาลงทุนเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคุณ ซึ่งการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น, การลงทุนกองทุนรวม, การลงทุนตราสารหนี้หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น หากคุณมีความรู้และการวางแผนที่ดี ก็จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินซื้อบ้านได้เร็วมากยิ่งขึ้น การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุนเสมอด้วยนะ

เก็บเงินซื้อบ้านกับ Make by KBank ตัวช่วยที่ดีให้กับคุณ

หากคุณกำลังมองหาแอปธนาคารที่จะช่วยให้การเก็บเงินเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน Make by KBank ของธนาคารกสิกรไทย ที่จะเปลี่ยนวิธีเก็บเงินซื้อบ้านแบบเดิมๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้นได้ในชั่วพริบตา

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ดีอย่างไร

1. สามารถวางแผนการเงินของคุณเองได้อย่างง่ายดาย
2. สามารถแบ่งเงินไว้ใช้ในส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน และเป็นไปตามเป้าหมายที่คุณคาดหวังไว้
3. สามารถจ่ายเงินผ่านแอป  MAKE by KBank แทนการใช้แอปฯ ธนาคารได้เลย
4. สามารถติดตามรายจ่ายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์ของแอปเก็บเงิน MAKE by KBank

1. Cloud Pocket
หนึ่งในฟีเจอร์ที่คนนิยมใช้งานของแอปเก็บเงิน MAKE by KBank ตัวช่วยแยกกระเป๋าเงิน เพื่อแสดงค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ช่วยกำหนดปริมาณการใช้จ่ายในแต่ละเดือนอีกด้วย เนื่องจากสามารถระบุได้ว่า เงินแต่ละส่วนจะนำไปใช้ในเรื่องอะไรบ้าง สร้างความเป็นระเบียบให้กับตัวเองอีกด้วย แถมยังสามารถ Shared Cloud Pocket เพื่อใช้กระเป๋าเงินร่วมกับคนอื่นๆ เช่น ครอบครัว แฟน เพื่อนได้เช่นเดียวกัน

2. Expense Summary
ที่จะช่วยสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยจะแบ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ออกเป็น 6 หมวดหมู่ ได้แก่ ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ความบันเทิง, ค่าช้อปปิ้ง, การชำระบิล, และหมวดหมู่อื่นๆ ช่วยให้คุณทราบว่าใช้เงินในแต่ละหมวดหมู่ไปเท่าไหร่บ้าง

3. Pop Pay
ความสามารถของฟีเจอร์นี้คือ สามารถโอนเงินให้คนอื่นได้ในทันที เพียงอยู่ใกล้กันในระยะไม่เกิน 10 เมตร และเปิดบลูทูธเชื่อมต่อ โดยที่อีกคนก็ต้องใช้แอป MAKE by KBank เหมือนกันด้วยนะ เพียงเท่านี้การโอนเงินก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องขอเลขบัญชี  QR Code หรือ PromptPay อีกต่อไป แถมยังสามารถกดเงินสดแบบไม่ใช้บัตรจากตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย หรือชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านแอป MAKE by KBank ได้เลยอีกด้วย

4. Chat Banking
หากมีการโอนเงินเข้าหรือออกจากบัญชี ก็จะโชว์สลิปที่มีลักษณะคล้ายโปรแกรมแชทแยกตามบัญชีที่เราทำธุรกรรม ง่ายต่อการอ่าน ไม่ยุ่งยากหาหมวดหมู่สลิป แถมยังสามารถโน้ตรายละเอียดต่างๆ ภายในแชทได้อีกด้วย

5. Money Request
ฟีเจอร์ที่จะช่วยเรียกเก็บเงินจากเพื่อนๆ ของคุณ เพียงแค่ส่ง Money Request หรือรายการเรียกเก็บไปได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเหนื่อยตามทวงเงินคืนอีกต่อไป

เริ่มเก็บเงินซื้อบ้านได้เลยในตอนนี้

ใครที่อยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง ควรรีบเก็บเงินซื้อบ้านไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากจะมีโอกาสที่ราคาบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่หรือเป็นรางวัลให้กับชีวิตของคุณ สร้างวินัยในการเก็บออม ช่วยให้คุณเป็นคนระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้น การเก็บเงินซื้อบ้านจะเป็นเรื่องง่ายๆ หากคุณสามารถปฏิบัติตามวิธีการเก็บตังซื้อบ้านตามที่เราได้ให้ไปข้างต้น แถมในยุคนี้ยังมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกที่จะทำให้การเก็บเงินไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป