การจัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรนำบุตรหลานที่มีอายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น เพราะในวัยเด็กเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า การจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยสร้างโอกาสในการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างแน่นอน
นอกจากจะแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้าด้วย ซึ่งในข้อนี้พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่ทราบ ซึ่งหากพ่อแม่ผู้ปกครองพบความผิดปกติของใบหน้าหรือรูปร่างฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและแก้ไขทันที ไม่ควรละเลยและปล่อยให้ปัญหาลุกลามไปจนถึงตอนโต เนื่องด้วยพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าฟันน้ำนมของเด็กไม่มีความสำคัญ จึงละเลยที่จะสอนเด็กให้รู้จักวิธีการทำความสะอาดของช่องปากและฟันตั้งแต่เด็ก เพราะคิดว่ารอให้โตก่อนค่อยสอนให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี
ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะจะเป็นการปล่อยให้ปัญหาฟันลุกลามได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองหลายคนก็ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการจัดในเด็ก หรืออาจจะยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการพาบุตรหลานของท่านเช้ารับการจัดฟัน จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของความเชื่อที่ผิดๆของการจัดฟันในเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่เข้าใจ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก รวมไปถึงจะได้เข้าใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็กเพิ่มมากขึ้น
หากพูดถึงเรื่องของการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด และสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ หลายคนอาจจะยังมีความเชื่อที่ผิดๆว่า การจัดฟัน มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น มักจะคิดว่า การจัดฟันนั้นมีเพียงเด็กๆ เท่านั้นที่ทำกัน คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปจัดฟันก็ไม่มีประโยชน์อะไร นี่เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะจัดฟัน เพราะเราทุกคนมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันได้ และไม่ว่าจะวัยไหน ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ เพียงแต่ว่า การจัดฟันในเด็กนั้น
จะดีกว่าวัยผู้ใหญ่เพราะสามารภแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า และไม่มีความซับซ้อนเท่ากับการจัดฟันในผู้ใหญ่ จึงไม่แปลกที่พ่อแม่ผู้ปกครองยังมีความคิดที่ผิดๆเกี่ยวกับการจัดฟันในเด็ก นอกจากนี้ยังมีความคิดที่ว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันเสร็จแล้วฟันก็จะอยู่ในสภาพนั้นตลอดไป ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันเสร็จแล้วก็จบกัน ฟันของคุณจะเรียงตัวสวยอยู่สภาพนั้นไปตลอด ไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกเลยตลอดกาล นี่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ไม่เป็นจริง หลังจากที่คุณจัดฟันเสร็จแล้ว ฟันของคุณยังสามารถมีการเคลื่อนที่อยู่ต่อไปได้อีก
ดังนั้นคุณจึงจำเป็นจะต้องใส่ รีเทนเนอร์ ไปอีกตลอดชีวิต เพื่อรักษารูปแบบของฟันให้คงอยู่ดังเดิม และไม่ให้ฟันล้ม จนต้องกลับมาจัดฟันใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่หลายคนมองว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็กแล้ว เมื่อโตไปจะไม่ทำให้เกิดฟันเกี่ยวกับฟันอีก ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็ก และไม่มีวินัยในการสวมใส่รีเทนเนอร์ภายหลังจากการจัดฟันเสร็จแล้ว
อาจจะทำให้เด็กกลับมามีสภาพฟันที่ผิดปกติได้ ดังนั้น ระหว่างการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ควรแนะนำและสอนให้เด็กมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจัดฟันซ้ำเป็นครั้งที่สอง ส่วนในเรื่องของกรรับประทานอาหาร พ่อแม่เกรงว่าลูกจะไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเต็มที่
เนื่องจากมีเครื่องมือกรจัดฟัน อันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น แม้จะมีเครื่องมือในการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากแต่ก็ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้คือความเชื่อที่ผิดๆ ของการจัดฟันในเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวล ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคหรือลดโอกาสในการเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามอย่างแน่นอน
ความเชื่อผิดๆของการจัดฟันเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/