ฟองนมเป็นท็อปปิ้งตกแต่งเมนูเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ด้วยความนุ่มรสชาติละมุน โดยการตีฟองให้ฟูฟ่องมีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เหล่าบรรดาบาริสต้าหรือคอกาแฟที่ชอบการทำทานเองที่บ้านจะต้องใส่ใจเรียนรู้ เพื่อให้คุณภาพเครื่องดื่มที่คุณโปรดปรานมีรสชาติที่กลมกล่อมที่สุด ไปดูกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
1. วิธีทำฟองนม ให้ฟูพร้อมชูรสหวานแบบธรรมชาติ
อันดับแรกอุณหภูมินมมีผลต่อความฟูของฟองอย่างมาก นมจะต้องเย็นจัดหรือนำไปแช่ในช่องฟรีซ อุณหภูมิเริ่มต้นที่ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส เมื่อทราบแล้วก็ใช้ เครื่องตีฟองนม หรือที่ตีฟองนมของ
เครื่องทํากาแฟแคปซูล ของ Nespresso ให้ได้ในอุณหภูมิ 65-67 องศาเซลเซียส จะได้รสหวานของนมแบบธรรมชาติ เป็นเทคนิคสำหรับแบบร้อน
2. ตีฟองนมขึ้นง่ายด้วยการไล่น้ำที่ค้างในก้านเครื่องสตีมออกให้หมด
หากอยากให้ตัวฟองนมมีความฟูคือการไล่น้ำค้างที่ก้านเครื่องสตีมออกก่อน เพราะน้ำที่ยังคงหลงเหลือจะไปผสมกับนมทำให้เจือจาง ยากที่จะตีฟองนมให้ฟู
3. เพื่อให้ฟองนมฟู เติมลงในฟิชเชอร์ในสัดส่วนที่พอดีคือ 1/3
วิธีตีฟองนม ใช่ว่าจะใส่ในปริมาณที่มากเพื่อประหยัดเวลาหรือเอาความเร็ว แต่ถ้าทำเช่นนั้นจะทำให้ไม่มีพื้นที่ให้นมที่กำลังสตีมได้ขยายตัวอย่างเต็มที่ หากเทจนเต็มไปหมดฟองนมก็จะไม่ฟูตัว
4. เพิ่มอรรถรสในการดื่มด้วยการทำเนื้อฟองนมละเอียดไม่หยาบ
เริ่มต้นจากการใส่นมลงไปในพิชเชอร์ เมื่อสตีมด้วย
เครื่องตีฟองนม ของ Nespresso เสร็จแล้วให้เคาะกับโต๊ะเพื่อให้เนื้อนมแตกตัว ถ้าสังเกตจะเห็นว่าด้านบนมีฟองให้ตักออกไม่ต้องเสียดาย เพราะโฟมตรงนี้มีความหยาบทำลายอรรถรสในการดื่มอย่างมาก
5. ออนท็อปฟองนมฟูอยู่ทรง
วิธีทำฟองนม ให้อยู่ทรงคือการใช้ฟองนมเย็นคู่กับเครื่องดื่มแบบเย็น เท่านี้ก็จะช่วยให้ฟองนมอยู่ทรงนานแบบไม่ยุบตัว ที่สำคัญคือการเลือกนมสูตรปกติ หรือถ้าให้ดีก็เลือกใช้นมสูตรสำหรับตีฟองโดยเฉพาะ จะส่งเสริมให้ตัวเนื้อฟองคงตัวนานขึ้นไปอีก
โดยวิธีเก็บรักษาฟองนมให้เก็บในอุณหภูมิที่เย็นจัดหรือแช่ถังน้ำแข็ง และสำหรับใครที่สตีมนมแล้วหากเหลือก็ไม่ควรเก็บไว้ เพราะฟองนมที่ทิ้งไว้นานจะตีให้กลับมาอยู่ทรงแบบตอนแรกได้ยาก อีกทั้งรสชาติเปลี่ยนไปด้วย ฉะนั้นหากจะใช้ก็ควรคำนวณเป็นครั้ง ๆ ไป เพื่อคงคุณภาพของเครื่องดื่มที่สดใหม่ ได้รสชาติถูกใจ