กาแฟคือเครื่องดื่มยอดนิยมไปทั่วโลก ทำให้เกิดการรังสรรค์เมนูใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ ซึ่งวันนี้เรามีกาแฟ cold brew หรือ กาแฟสกัดเย็น เมนูใหม่สำหรับสายรักสุขภาพ ที่ชงเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
ทำความรู้จักกับ cold brew
Coldbrew คือ กาแฟที่มีกรรมวิธีการชงด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ ด้วยการนำกาแฟที่บดหยาบแล้วมาแช่ในน้ำเย็น จากนั้นแช่ทิ้งไว้เป็นเวลา 12-24 ชั่วโมง แล้วกรองเอากากกาแฟทิ้งไป วิธีนี้จะได้ช็อตกาแฟที่ไม่ขม ไม่เปรี้ยวหรือฝาด มีรสหวานเล็กน้อย รสชาติจะมุนลิ้น ที่สำคัญสามารถเก็บเอาไว้ได้นานโดยที่รสชาติไม่เปลี่ยน
วิธีการชงกาแฟ cold brew
การชง
กาแฟแบบสกัดเย็น นั้นไม่ได้ยุ่งยาก แค่ต้องมี 3 สิ่งนี้ ซึ่งก็คือ กาแฟบดหยาบ , น้ำเปล่า , ภาชนะสำหรับใส่ เมื่อพร้อมแล้วก็ทำตามขั้นตอนได้เลย
1. นำเมล็ดกาแฟมาบดแบบหยาบ หรือจะใช้ผงกาแฟบดหยาบที่มีขายแบบสำเร็จก็ได้
2. นำกาแฟที่บดหยาบแล้วใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ ด้วยอัตราส่วน กาแฟ 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน
3. เทน้ำเย็นลงไป จากนั้นแช่ทิ้งไว้ราว 12-24 ชั่วโมง
4. เมื่อครบกำหนดตามเวลาที่ต้องการ ให้ทำการกรองกากกาแฟออกจนเหลือแต่น้ำ เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟที่พร้อมดื่ม อาจจะทำการใส่น้ำแข็งลงไปหรือผสมนม น้ำตาล เพื่อรสชาติที่ดีก็ได้เช่นกัน
ข้อดีของการแฟ cold brew
1. รสชาติไม่ขม ไม่ฝาด เหมือนกาแฟที่สกัดด้วยความร้อน มีรสหวาน ทำให้ดื่มง่ายกว่า
2. เก็บรักษาได้นานโดยที่รสชาติไม่เปลี่ยน ด้วยการเก็บรักษาไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท แล้วแช่ไว้ในตู้เย็น โดยเก็บไว้ได้นานถึง 2 สัปดาห์ ทำให้พร้อมดื่มได้ตลดเวลาไม่ต้องชงใหม่
3. คุณสมบัติที่สำคัญของกาแฟ cold brew คือ ไม่ทำให้ปวดท้องสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน ไม่ทำให้ปวดท้อง ทำให้สามารถดื่มได้ง่ายกว่ากาแฟทั่วไป เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ
4. เหมาะสำหรับควบคุมน้ำหนัก กาแฟแบบสกัดเย็นนั้น สามารถดื่มได้โดยที่ไม่ต้องใส่นมหรือน้ำตาล เพราะมีรสชาติไม่ขมจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
หรือหากใครที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ก็ยังสามารถหาซื้อ กาแฟแคปซูล มาดื่มแทนก็ได้ โดย กาแฟแคปซูล cold brew จะช่วยลดขั้นตอนของการชง ทำให้สะดวกดื่มได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ก็ถือเป็นทางเลือกของคอกาแฟได้เป็นอย่างดี