ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ดอกเบี้ยบ้าน คืออะไร ทำไมหลายคนจึงต้องให้ความสนใจ

ดอกเบี้ยบ้าน

การซื้อบ้าน เปรียบเสมือนการก้าวเข้าสู่บทใหม่ของชีวิต การเดินทางบนเส้นทางนี้ มักเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความหวัง และความกังวล ว่า จะสามารถประสบความสำเร็จหรือไม่ โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความราบรื่นของเส้นทางนี้ คือ ดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ไขประตูสู่การเป็นเจ้าของบ้าน บทความนี้ จะพาไปรู้จักว่า อัตราดอกเบี้ยบ้านคืออะไร แบ่งออกเป็นกี่ประเภท พร้อมทั้งแสดงตารางอัตราดอกเบี้ยบ้านในปี 2567 จากทุกธนาคาร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอีกด้วย

ดอกเบี้ยบ้าน คือ อะไร?

ดอกเบี้ยกู้บ้าน คือ

ดอกเบี้ยบ้าน คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเรียกเก็บจากผู้กู้เงินที่กู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน โดยดอกเบี้ยนี้ จะเป็นค่าตอบแทนสำหรับเงินที่ธนาคารปล่อยกู้ให้ผู้กู้ โดยสามารถแบ่งดอกเบี้ยกู้บ้านได้หลายประเภท แต่ประเภทที่พบบ่อย ได้แก่
1. ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยบ้านเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง หากอยู่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำ ผู้กู้จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยบ้านที่ต่ำ แต่ก็ทำให้ผู้กู้ไม่สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระล่วงหน้าได้
2. ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยบ้านที่จะคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ทำให้ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น และคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระล่วงหน้าได้ แต่ผู้กู้จะไม่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีกทั้งยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงแรก
3. ดอกเบี้ยปรับคงที่ตามรอบ (Step-Up Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยบ้านที่จะคงที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นจะปรับขึ้นตามรอบที่กำหนดไว้ในสัญญา ช่วยให้ผู้กู้สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระล่วงหน้าได้ในช่วงแรก โดยอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านในช่วงแรกมักจะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ ส่งผลให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยกู้ยืมบ้านที่สูงขึ้นในช่วงหลัง
4. ดอกเบี้ยผสม (Hybrid Rate) เป็นการผสมผสานระหว่างดอกเบี้ยลอยตัวและดอกเบี้ยคงที่ โดยผู้กู้สามารถเลือกระยะเวลาที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านคงที่ ลดโอกาสของความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ทำให้อัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่แน่นอนเท่าสินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่

เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยบ้านของแต่ละธนาคาร

สำหรับใครที่กำลังมองหาว่า แต่ละธนาคารกำหนดดอกเบี้ยบ้านไว้เท่าใด ก็จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล พร้อมทั้งเปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยบ้านในปี 2567 จากทุกธนาคาร ได้แก่

- ธนาคารกรุงเทพ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.72% วงเงินกู้สูงสุด 100% ประเภทสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย
- ธนาคารออมสิน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.70% วงเงินกู้สูงสุด 100% ประเภทสินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย
- ธนาคารกสิกรไทย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.45% วงเงินกู้สูงสุด 100% ประเภทสินเชื่อบ้านกสิกรไทยเพื่อที่อยู่อาศัย
- ธนาคารไทยพาณิชย์ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.37% วงเงินกู้สูงสุด 100% ประเภทสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย
- ธนาคารกรุงไทย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.70% วงเงินกู้สูงสุด 95% ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนไทย
- ธนาคารทหารไทยธนชาต อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.45% วงเงินกู้สูงสุด 90% ประเภทสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 3.99% วงเงินกู้สูงสุด 90% ประเภทสินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัย

วิธีคำนวณดอกเบี้ยบ้านด้วยตนเอง

อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2567

อย่างที่ทราบดีว่า อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2567 ของแต่ละธนาคารนั้นมีความแตกต่างกัน อีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือ การคำนวณดอกเบี้ยบ้านก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่า จะเลือกดอกเบี้ยกู้บ้านอย่างไรดี
1. สินเชื่อบ้านแบบดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
สูตร คือ ดอกเบี้ยต่องวด = (ยอดเงินคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี) / 12
ยกตัวอย่าง ผู้กู้กู้เงินซื้อบ้าน 10 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยบ้านคงที่ 3% ต่อปี ดังนั้น ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านต่องวด = (10,000,000 x 3%) / 12 = 25,000 บาท
2. สินเชื่อบ้านแบบดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) เปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง
สูตร คือ ดอกเบี้ยต่องวด = (ยอดเงินคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี) / 365
ยกตัวอย่าง ผู้กู้กู้เงินซื้อบ้าน 10 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยบ้านลอยตัว 3% ต่อปี (ปีแรก) ดังนั้น ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านต่องวด = (10,000,000 x 3%) / 365 = 82,191.78 บาท
3.สินเชื่อบ้านแบบดอกเบี้ยผสม (Hybrid Rate)  เป็นการผสมผสานระหว่างสินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่และสินเชื่อแบบดอกเบี้ยลอยตัว
สูตร คือ การพิจารณาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสินเชื่อแต่ละประเภท
ยกตัวอย่าง ผู้กู้กู้เงินซื้อบ้าน 10 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยบ้านผสม 3% ต่อปี (2 ปีแรก) ดังนั้น ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านต่องวด = (10,000,000 x 3%) / 365 = 82,191.78 บาท

ก่อนจะขอสินเชื่อบ้านควรเตรียมตัวให้พร้อมอย่างไร

การซื้อบ้าน เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ดังนั้น การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยผู้กู้ควรเตรียมตัวดังนี้
1. ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบด้าน
ประเภทของสินเชื่อบ้าน เช่น แบบดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านคงที่, แบบดอกเบี้ยลอยตัว, สินเชื่อบ้านเพื่อคนมีอาชีพอิสระ ฯลฯ
ศึกษาเงื่อนไขและคุณสมบัติของสินเชื่อแต่ละประเภท เช่น อัตราดอกเบี้ยบ้าน, ระยะเวลาผ่อนชำระ, วงเงินกู้, เอกสารประกอบ ฯลฯ
เปรียบเทียบเงื่อนไข โปรโมชั่น และอัตราดอกเบี้ยบ้านในปี 2567 จากทุกธนาคาร
ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อบ้าน เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2524
2. ตรวจสอบสถานะการเงินของตนเอง
ตรวจสอบรายได้ของตัวเองและคนร่วมกู้ว่าเพียงพอต่อการผ่อนชำระหรือไม่
ตรวจสอบภาระหนี้สินที่มีอยู่ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ ว่ามีจำนวนมากเกินไปหรือไม่
ตรวจสอบประวัติเครดิตของตัวเองว่าเป็นอย่างไร
3. จัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน
เอกสารประจำตัว: บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงรายได้: สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองการจ่ายภาษี ใบแจ้งยอดบัญชี ฯลฯ
เอกสารแสดงสถานะการเงิน: หนังสือรับรองยอดเงินฝาก สมุดบัญชี ฯลฯ
เอกสารเกี่ยวกับหลักประกัน: โฉนดที่ดิน สัญญาซื้อขาย ฯลฯ
4. วางแผนการผ่อนชำระ โดยคำนวณยอดผ่อนชำระคร่าว ๆ ว่าไหวหรือไม่ พร้อมทั้งเตรียมเงินสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือตัวแทนสินเชื่อบ้าน เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติม

สรุปเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน

ดอกเบี้ยบ้านเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้กู้ต้องจ่ายให้กับธนาคารสำหรับเงินกู้ที่ใช้ซื้อบ้าน โดยอัตราดอกเบี้ยบ้านมีผลต่อยอดผ่อนชำระรวมของผู้กู้ ทั้งนี้ ผู้กู้ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยบ้านในปี 2567 จากทุกธนาคาร รวมถึงรายละเอียดของสินเชื่อแต่ละประเภทอย่างละเอียด แล้วเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง หรือจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมก็เป็นได้