ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


10 เทคนิคแก้บ้านร้อน อากาศอบอ้าว ทำอะไรก็ไม่เย็นสบาย

บ้านร้อน

อากาศร้อนจัดของประเทศไทย ส่งผลทำให้บ้านร้อนอบอ้าว สาเหตุหลักๆ มาจากตำแหน่งที่ตั้งประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น แสงแดดจ้าส่องตลอดทั้งปี อุณหภูมิของประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่ 25-35 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ทำให้ความร้อนจากภายนอกจะเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลทำให้อุณหภูมิภายในบ้านร้อนมากขึ้น เช่น ผนังและหลังคาบ้านที่เก่าหรือไม่มีฉนวนกันความร้อน หน้าต่างที่ทำจากกระจก วัสดุก่อสร้างบางชนิด เช่น อิฐมอญ คอนกรีต ดูดซับความร้อนได้ดี ที่เป็นสาเหตุทำให้บ้านร้อนอบอ้าว ลองมาหาวิธีแก้บ้านร้อนให้บ้านเย็นขึ้นได้ง่ายๆ ในบทความนี้กันเลย



สาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนขึ้น

บ้านร้อนอบอ้าว

สาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนขึ้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1. ความร้อนจากภายนอกบ้าน
แสงแดด: แสงแดดที่ส่องผ่านหลังคา ผนัง และหน้าต่าง ทำให้บ้านร้อน โดยเฉพาะบ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะได้รับแสงแดดโดยตรงมากกว่าทิศอื่น

- อุณหภูมิ: อุณหภูมิภายนอกที่ร้อนจัด โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน อุณหภูมิที่สูงจะถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย
- ทิศทาง: บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะได้รับแสงแดดโดยตรงมากกว่าทิศอื่น
- ต้นไม้: พื้นที่รอบบ้านไม่มีต้นไม้ใหญ่หรือพืชพรรณที่ช่วยบังแดด
- หลังคา: หลังคาที่เก่าหรือไม่มีฉนวนกันความร้อน จะดูดซับความร้อนจากแสงแดด ทำให้ความร้อนถ่ายเทลงสู่ตัวบ้าน
- ผนัง: ผนังที่บางหรือไม่มีฉนวนกันความร้อน จะดูดซับความร้อนจากแสงแดดและอุณหภูมิภายนอก ทำให้บ้านร้อน
- หน้าต่าง: หน้าต่างกระจกใส จะรับแสงแดดและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง

2. ความร้อนจากภายในบ้าน
การใช้วัสดุก่อสร้างที่นำความร้อน: วัสดุก่อสร้างบางชนิด เช่น โลหะ อิฐมอญ คอนกรีต ที่ดูดซับความร้อนได้ดี อาจทำให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามาในบ้านได้มาก

- ฉนวนกันความร้อน: บ้านที่ไม่มีฉนวนกันความร้อน หรือฉนวนกันความร้อนเสื่อมสภาพ ความร้อนจากภายนอกจะเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย
- การระบายอากาศ: การออกแบบบ้านที่ไม่มีการคำนึงถึงการระบายความร้อน ทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกภายในบ้านจนบ้านร้อนขึ้น เช่น ไม่มีหน้าต่างหรือช่องลมที่เปิดได้ หรือไม่มีพัดลมระบายอากาศ ทำให้ความร้อนสะสม
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เครื่องปรับอากาศ เตาอบ หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า เครื่องอบผ้า หรือคอมพิวเตอร์ ปล่อยความร้อนออกมาเพิ่ม
- พฤติกรรม: การทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนภายในบ้าน เช่น การทำอาหารในช่วงกลางวัน



10 วิธีการแก้ปัญหาบ้านร้อน ให้อุณหภูมิเปลี่ยนมาเย็นขึ้น

วิธีแก้บ้านร้อน

อากาศร้อนอบอ้าว เป็นปัญหาใหญ่สำหรับบ้านในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน มีหลายวิธี ที่ช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายขึ้น 10 วิธีลดบ้านร้อนมีดังนี้

1. ปรับปรุงการระบายอากาศ
เปิดหน้าต่างในตอนเช้าและตอนเย็น  เพื่อให้ลมไหลเวียน แถมช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือใช้พัดลมเพื่อช่วยกระจายอากาศ  ควรเปิดหน้าต่างสองบาน ตรงข้ามกัน ช่วยสร้างกระแสลม อีกวิธีนึงคือการติดตั้งมุ้งลวด ป้องกันยุง แมลง และสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งช่วยถ่ายเทอากาศร้อนออกจากบ้านได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

2. ติดตั้งฉนวนกันความร้อน
เพิ่มฉนวนกันความร้อนในผนัง ฝ้าเพดาน และหลังคาเพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้าน วิธีแก้ปัญหาหลังคาร้อนโดยเลือกใช้หลังคาที่มีฉนวนกันความร้อน หรือทาสีสะท้อนความร้อน

3. ใช้ผ้าม่านกันแดด
ติดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่ที่สามารถกันแสงแดดและความร้อนได้ดี เช่น ผ้าม่านสีเข้ม หรือผ้าม่านที่มีสารกันความร้อน โดยติดตั้งม่านกันแสง หรือม่านฟอยล์ ช่วยสะท้อนความร้อน หรือกันสาดบริเวณหน้าต่าง ประตู และชายคา ช่วยบังแดด ลดบ้านร้อนได้เช่นเดียวกัน

4. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน
ต้นไม้สามารถให้ร่มเงาและช่วยลดความร้อนในบ้านได้ ควรปลูกต้นไม้ที่มีใบหนาและสูง การปลูกต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน ช่วยบังแดดและดูดซับความร้อนที่ได้ประสิทธิภาพ ทำให้แสงแดดและอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก และควรตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ไม่ให้บังทิศทางของลมที่จะเข้าบ้านจนเกินไป รวมไปถึงการปลูกต้นไม้ในร่มบางชนิด เช่น เฟิร์น ว่านหางจระเข้ ที่ช่วยดูดซับความร้อนและฟอกอากาศ

5. ใช้เครื่องปรับอากาศ
การติดตั้งเครื่องปรับอากาศสามารถช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรทำความสะอาดแอร์และพัดลมแอร์เป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน/ครั้ง

6. ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สร้างความร้อน
ปิดหรือถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานเพื่อลดการปล่อยความร้อนในบ้าน และควรเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงาน และหลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน รวมไปถึงปรับปรุงระบบไฟฟ้า ตั้งแต่การเดินสายไฟให้ถูกต้องตามมาตรฐาน การติดตั้งเบรกเกอร์เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนภายในบ้าน เช่น การเปิดเตาแก๊สทำอาหารในช่วงกลางวัน

7. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ
การติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องครัวหรือห้องน้ำสามารถช่วยระบายความร้อนออกไปจากบ้าน รวมไปถึงการติดตั้งพัดลมเพดาน หรือพัดลมตั้งพื้น และช่องลมบริเวณผนังบ้าน ที่จะช่วยกระจายความร้อนภายในบ้าน ลดปัญหาบ้านร้อนได้

8. เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่สะท้อนความร้อน
การใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ลดการดูดซับความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น  ประหยัดพลังงาน โดยมีตัวอย่างดังนี้

- กระเบื้องหลังคา: เลือกกระเบื้องหลังคาที่มีสีอ่อน สะท้อนความร้อนได้ดี เช่น สีขาว สีครีม สีเทาอ่อน
- แผ่นเมทัลชีท: เลือกแผ่นเมทัลชีทที่มีสีอ่อน หรือเคลือบสารสะท้อนความร้อน
- หลังคาไฟเบอร์กลาส: หลังคาไฟเบอร์กลาส สะท้อนความร้อนได้ดี น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
- กระเบื้องเซรามิก: เลือกกระเบื้องเซรามิกที่มีสีอ่อน สะท้อนความร้อนได้ดี
- ไม้: เลือกไม้เนื้อแข็ง ทาสีด้วยสีที่สะท้อนความร้อน
- ใยแก้ว: ฉนวนใยแก้ว มีประสิทธิภาพสูง กันความร้อนได้ดี
- โฟม: ฉนวนโฟม มีหลายประเภท เช่น โฟม EPS โฟม XPS โฟม PU
- ใยสังเคราะห์: ฉนวนใยสังเคราะห์ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่า

9. ทำหลังคาระบายความร้อน
หลักการทำงานของหลังคาระบายความร้อน คือ การออกแบบหลังคาให้มีช่องว่างเพื่อระบายความร้อนออกจากใต้หลังคา วิธีลดความร้อนใต้หลังคาอาจเลือกจากหลังคาที่มีวัสดุเป็นเมทัลชีทที่มีช่องลม สามารถช่วยให้หลังคาบ้านร้อนน้อยลงได้ และควรหมั่นทำความสะอาดช่องลม ป้องกันช่องลมอุดตัน ที่เป็นสาเหตุทำให้การระบายอากาศภายในบ้านไม่สะดวก

10. ใช้สีอ่อนทาภายนอกบ้าน
ทาสีอ่อนภายนอกบ้าน ช่วยลดความร้อนได้จริงหรือไม่? การทาสีอ่อนบนภายนอกบ้าน เป็นหนึ่งในวิธีช่วยลดความร้อนได้จริง โดยสีอ่อนมีคุณสมบัติดังนี้

- สะท้อนแสงความร้อน: สีอ่อนสะท้อนแสงความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ดีกว่าสีเข้ม ช่วยลดการดูดซับความร้อน ทำให้ผนังบ้านร้อนนั้นอุณหภูมิลดลงได้
- ลดอุณหภูมิภายในบ้าน: ผนังบ้านที่เย็นลง ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้
- ประหยัดพลังงาน: บ้านที่เย็น ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศมาก ประหยัดค่าไฟฟ้า

ตัวอย่างสีอ่อนที่นิยมใช้ทาภายนอกบ้าน
- สีขาว: สีขาวสะท้อนแสงความร้อนได้ดีที่สุด
- สีครีม: สีครีมให้ความรู้สึกอบอุ่น เข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์
- สีฟ้าอ่อน: สีฟ้าอ่อนให้ความรู้สึกสดใส สบายตา
- สีเขียวอ่อน: สีเขียวอ่อนให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ

ก่อนตัดสินใจเลือกสี ควรทดลองทาสีบนพื้นที่เล็กๆ ดูก่อน เพื่อดูว่าสีนั้นเหมาะกับบ้านของคุณหรือไม่ การทาสีอ่อนภายนอกบ้านเป็นวิธีง่ายๆ ที่ประหยัด แถมยังช่วยลดความร้อนในบ้านอีกด้วย

บ้านร้อนอาจส่งผลต่อสุขภาพและความสบายของผู้อยู่อาศัยได้ เช่น เหงื่อออกมากเกินไปแม้ในขณะที่ไม่ทำกิจกรรมหนัก แถมความร้อนอาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียได้ง่ายขึ้น และนอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่สนิท จนอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัว ปวดหัว ที่เกิดจากการสูญเสียเหงื่อและน้ำในร่างกายมากเกินไป ขั้นร้ายแรงสุดอาจมีความรู้สึกหายใจไม่ออกหรือหายใจลำบาก จนขาดอากาศได้

วิธีการป้องกันความร้อนตั้งแต่เนิ่นๆ คือ หาสถาปนิกออกแบบบ้าน โดยเลือกทิศทางบ้านที่เหมาะสม ปลูกต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน ติดตั้งกันสาด ช่องลม และระบบระบายอากาศ และเลือกใช้วัสดุที่มีฉนวนกันความร้อน เช่น แผ่นยิปซั่ม อิฐบล็อก ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคา ผนัง และฝ้าเพดาน เลือกใช้หน้าต่างกระจกสองชั้น หรือติดฟิล์มกันความร้อน พร้อมทั้งควรหมั่นดูแลรักษาบ้านอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทาสีทำหลังคาให้เย็นและผนังด้วยสีสะท้อนความร้อน ทำความสะอาดแอร์และพัดลมเป็นประจำนั่นเอง