รสชาติและความหอมของกาแฟนั้นนอกจากการคั่วบดและกรรมวิธีการชงแล้ว สายพันธุ์กาแฟ ก็มีผลด้วย กาแฟต่างสายพันธุ์ก็จะมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกันไป วันนี้เรามีสายพันธุ์กาแฟชนิดต่าง ๆ กัน มาให้ทำความรู้จัก เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและค้นหารสชาติกาแฟจากสายพันธุ์ที่ใช่ สั่งกาแฟครั้งต่อไปจะได้ตรงใจเวลาดื่ม
อราบิก้า (Arabica)
จุดเด่นของกาแฟพันธุ์นี้ก็คือมีปริมาณคาเฟอีนที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับกาแฟสายพันธุ์อื่น ๆ ดื่มง่าย ทำให้กลายเป็นกาแฟที่คนทั่วโลกนิยมดื่มกันมากถึง 80% เลยทีเดียว ลักษณะของเมล็ดกาแฟอราบิก้าจะค่อนข้างเรียวและส่วนขีดผ่าตรงกลางจะเป็นเหมือนรูปตัว S ต้นกำเนิดของกาแฟสายพันธุ์นี้มาจากประเทศเอธิโอเปีย กลิ่นจะมีเอกลักษณ์คล้ายช็อกโกแลต ซึ่งในประเทศไทยเองก็นิยมปลูกกาแฟสายพันธุ์นี้กันมากในภาคเหนือ เพราะจะเติบโตได้ดีเมื่อปลูกสูงจากระดับน้ำทะเล 800 – 1,000 เมตร
ลิเบอริก้า (Liberica)
กาแฟสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในไลบีเรียและไอวอรีโคสต์ เอกลักษณ์ก็คือลักษณะของเมล็ดกาแฟ มีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่น ๆ รสชาติคล้ายกับกาแฟอราบิก้าแต่มีรสเปรี้ยวอมหวานของผลเบอร์รี่ ด้วยเอกลักษณ์ข้อนี้จึงนิยมนำเอากาแฟลิเบอริก้าไปเบลนผสมกับกาแฟสายพันธุ์อื่นเพื่อเพิ่มมิติและรสชาติใหม่ ๆ ให้ซับซ้อนขึ้น
โรบัสต้า (Robusta)
กาแฟโรบัสต้า ได้รับความนิยมรองลงมาจากกาแฟอราบิก้า ลักษณะของเมล็ดจะอวบและส่วนขีดผ่าตรงกลางนั้นจะเป็นเส้นตรง มีปริมาณคาเฟอีนสูงถึง 2% เอกลักษณ์ของ กาแฟโรบัสต้า ก็คือมีความฝาด เพราะมีค่าระดับน้ำตาลและระดับกรดที่ต่ำ เจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นและพื้นที่ต่ำที่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 500 – 600 เมตร เท่านั้น จึงนิยมปลูกกันในภาคใต้ในแถบจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง กาแฟสายพันธุ์นี้นิยมไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูปและ
กาแฟแคปซูล ของ Nespresso เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa)
ชื่อไม่ค่อยคุ้นหูนัก มีต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา ลักษณะของเมล็ดคล้ายกับกาแฟโรบัสต้า แต่กาแฟสายพันธุ์นี้ทนโรค ทนต่อความแห้งแล้ง ปลูกง่าย ส่วนรสชาตินั้นจะเข้มข้นจนขมพร่า จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ ชาวแอฟริกันจะนิยมชงดื่มเป็นกาแฟดำดื่มกันได้ตลอดวัน
นี่คือ 4 สายพันธุ์กาแฟ ที่นิยมดื่มกันในระดับสากล รู้อย่างนี้แล้วต่อไปเวลาไปเลือกซื้อเมล็ดกาแฟหรือ
แคปซูลกาแฟ ของ Nespresso มาชงดื่มจะได้เลือกสายพันธุ์ที่ใช่ได้ตรงใจ เมื่อชงกาแฟออกมาแล้วรสชาติและกลิ่นของกาแฟจะได้ถูกปากถูกใจเวลาดื่ม