เคล็ดลับการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู วิธีเลือกให้ใช้งานได้คุ้ม ทน ใช้งานได้ยาวนาน ราคาตู้เย็น 2 ประตูแต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร รวมข้อมูลไว้ในบทความนี้
สำหรับใครที่กำลังหาตู้เย็นเครื่องใหม่เข้าบ้านหรือคอนโด พลาดไม่ได้กับบทความนี้ที่จะแบ่งปันเคล็ดลับในการช่วยคุณเลือกตู้เย็นตัวเก่งให้กับบ้าน เราควรเลือกตู้เย็นแบบไหน? ระหว่างตู้เย็นประตูเดียวกับ
ตู้เย็น 2 ประตู แบบไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณมากกว่ากัน เลือกตู้เย็น 2 ประตูยังไงให้คุ้มค่า ประหยัดไฟ ตอบโจทย์การใช้งาน รับรองว่าคราวนี้ไม่มีพลาดได้ตู้เย็นดีๆ กลับบ้านไปแน่นอน
ตู้เย็น 1 ประตู กับ 2 ประตู แตกต่างกันยังไงแบบไหนดีกว่ากัน ?“ขอบคุณรูปภาพจาก Beko”
ความแตกต่างของตู้เย็นประตูเดียว และตู้เย็น 2 ประตู แบ่งได้เป็น
- ขนาด : ตู้เย็นขนาด 2 ประตูจะมีขนาดรวมถึงความจุที่มากกว่า โดยตู้เย็นประตูเดียวจะมีความจุที่ประมาณ 3 - 5 คิว ส่วนตู้เย็น 2 ประตูจะมีความจุอยู่ที่ 6 - 20 คิว
- ฟังก์ชันการใช้งาน : ตู้เย็น 2 ประตูจะีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายกว่า อาทิ ระบบทำน้ำแข็งพร้อมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ระบบควบคุมความชื้นของตู้เย็น ระบบขจัดกลิ่นอับและแบคทีเรีย เป็นต้น
- ความประหยัดพลังงาน :ตู้เย็น 2 ประตูจะมีการแบ่งช่องเป็นช่องแช่เย็นควบคุมอุณหภูมิกับช่องแช่แข็ง ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดี นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ และคอมเพรสเซอร์ที่ช่วยให้ทำความเย็นได้เร็ว เงียบ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าตู้เย็นแบบอื่น
ตู้เย็น 2 ประตูกินไฟเท่าไร เลือกแบบไหนให้ได้ตู้เย็นประหยัดไฟ คำถามที่ทุกคนต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนคือตู้เย็น 2 ประตูกินไฟเท่าไร ? แล้วมีวิธีการเลือกตู้เย็นอย่างไรให้ประหยัดไฟ เรานำข้อมูลมาฝาก
ตู้เย็น 2 ประตูใช้พลังงานไฟฟ้าดังนี้
- ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 6 - 10 คิว มีการใช้ไฟอยู่ที่ 70 - 175 วัตต์ คิดเป็นจำนวนเงิน 118 - 294 บาทต่อเดือน
- ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 12 คิว มีการใช้ไฟอยู่ที่ 240 วัตต์ คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 403 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้เพื่อความประหยัดที่มากขึ้น คุณสามารถเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูที่มีระบบเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เลือกรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รวมถึงมีการจัดวางตู้เย็นในบริเวณที่ไม่โดดแดด วางตู้เย็นห่างจากผนังอย่างน้อย 10 ซม. เพื่อลดภาระงานของตู้เย็นเท่านี้ค่าไฟตู้เย็นต่อเดือนก็จะลดลงได้มากขึ้นแล้ว
ตู้เย็น 2 ประตู เหมาะกับการใช้งานแบบไหนเตรียมเช็กลิสต์ก่อนจะเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ?
- บ้านหลังใหญ่คนอยู่เยอะ ตู้เย็น 2 ประตู เหมาะกับบ้านที่มีคน 4 คนขึ้นไป เนื่องจากมีความจุเยอะมีการใช้งานที่หลากหลาย
- ครัวที่มีพื้นที่จำกัด แต่ยังต้องการตู้เย็นที่เก็บอาหารได้เยอะ ตู้เย็น 2 ประตูมีทั้งแบบประตูบนล่าง และประตูซ้ายขวา ผู้ใช้งานสามารถเลือกรูปแบบตู้เย็นตามขนาดพื้นที่ได้
- ชอบทำอาหารทานเอง หรือทำอาหารขายภายในบ้าน หากคุณเป็นคนที่ชอบทำอาหารเอง หรือทำอาชีพเสริมขายอาหารภายในบ้าน ตู้เย็น 2 ประตูเหมาะสำหรับการเก็บวัตถุดิบที่หลากหลาย หยิบใช้งานสะดวก
เคล็ดไม่ลับเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู เคล็ดไม่ลับเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูยังไงให้ตรงใจที่สุด
- เลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือมีระบบ Energy-Saving Models ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
- ตรวจสอบพื้นที่ในการติดตั้งตู้เย็น การวางตู้เย็นควรวางในพื้นที่ที่ไม่โดนแดดจัด ไม่อับชื้น ไม่โดนน้ำ และที่สำคัญคือควรห่างจากผนังอย่างน้อย 10 ซม.
- ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าทุกครั้งควรอ่านข้อมูลอย่างละเอียด เช่น คุณสมบัติฟังก์ชันการใช้งาน ระบบทำความเย็น ระบบประหยัดพลังงงาน รวมถึงการดูแลรักษา ประกันการซ่อมบำรุงต่าง ๆ
- เลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ที่มีรูปแบบการใช้งาน และราคาที่เหมาะสม ตู้เย็นที่ดีควรมีฟังก์ชันการใช้งานตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ อาทิระบบช่วยยับยั้งเชื้อโรค ระบบปรับอุณหภูมิเพื่อรักษาความสดของอาหาร นอกจากนี้ยังต้องดูสินค้าที่มีราคาดี ไม่แพงจนเกินไป คุ้มค่าคุ้มราคา
- ทำความสะอาดได้ง่าย สามารถถอดล้าง เช็ดทำความสะอาดได้สะดวก
- ดีไซน์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความสวยงามของบ้าน ดีไซน์ของตู้เย็น 2 ประตูต้องเข้ากับการตกแต่งภายในครัว สีสันสวยงาม โดดเด่นแต่ไม่โดดออกจากตัวบ้าน
สรุปข้อดีตู้เย็น 2 ประตูตู้เย็น 2 ประตูเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยความจุที่เยอะ สามารถแยกประเภทของอาหารได้หลากหลาย มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ สะดวกสบายใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน แต่ทั้งนี้ราคาตู้เย็น 2 ประตู ก็มีหลายราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน การเลือกตู้เย็น 2 ประตูควรคำนึงถึงคุณภาพ ฟังก์ชันการทำงาน และบริการรับรองดูแลรักษาตู้เย็นตลอดช่วงอายุการใช้งาน