บัตรเครดิตกดเงินสดเหมือนบัตรกดเงินสดได้หรือไม่ อัปเดตข้อมูลปี 2024

[พรสัก ส่องแสง]

บัตรเครดิตกดเงินสดเป็นบัตรเครดิตที่สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้ ไม่ต่างจากบัตรกดเงินสด หากแต่มีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่ต่างกัน ก่อนสมัครจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี

หลาย ๆ ครั้ง ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน แล้วบัตรเดบิตในกระเป๋าเงินดันเหลือเงินไม่พอ รวมถึงเงินในบัญชีเงินฝากก็โอนไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบัน บัตรเครดิตก็สามารถกดเงินสดออกมาได้เช่นกัน ดังนั้น การสมัครบัตรเครดิตกดเงินสดเผื่อไว้ ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกดเงินสดออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน แล้วบัตรเครดิตกดเงินสดคืออะไร มีวิธีคิดดอกเบี้ยกดเงินสดจากบัตรเครดิตอย่างไร ไปหาคำตอบกัน
บัตรเครดิตกดเงินสดได้ไหม? มีจำกัดวงเงินหรือไม่?

บัตรเครดิตสามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เหมือนกับบัตรเดบิต แต่จะมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป โดยมีการกำหนดวงเงินของบัตรเครดิตกดเงินสดไว้ ดังนี้

• วงเงินบัตรเครดิตกดเงินสดมักจะต่ำกว่าวงเงินสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป ธนาคารจะกำหนดวงเงินกดเงินสดให้กับแต่ละบัตร ซึ่งมักจะเป็นเปอร์เซ็นต์ของวงเงินเครดิตทั้งหมด เช่น 30% หรือ 50%
• มีการจำกัดวงเงินกดเงินสดต่อครั้งและต่อวัน เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินตัว ธนาคารจะกำหนดวงเงินสูงสุดที่สามารถกดเงินสดได้ในแต่ละครั้งและแต่ละวัน

บัตรเครดิตกดเงินสดมีข้อดี คือ สะดวก รวดเร็ว สามารถกดเงินสดได้ทันทีจากตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ของบัตรเครดิต เหมาะสำหรับใช้บัตรเครดิตกดเงินสดในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เงินสดก้อนโตอย่างเร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตาม ควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
บัตรเครดิตกดเงินสดคิดดอกเบี้ยอย่างไร

สำหรับการใช้บัตรเครดิตกดเงินสด ทางธนาคารจะคิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่กดเงิน ไม่เหมือนกับการรูดซื้อสินค้าทั่วไปที่อาจมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย โดยดอกเบี้ยบัตรเครดิตกดเงินสดจะสูงกว่า เนื่องจาก

• ธนาคารมองว่า การกดเงินสดจากบัตรเครดิตมีความเสี่ยงสูงกว่าการรูดซื้อสินค้าทั่วไป เพราะเงินสดสามารถนำไปใช้จ่ายได้อย่างอิสระและอาจไม่ถูกนำมาชำระหนี้ทันที
• นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ มีวิธีคิดดอกเบี้ยเงินสดบัตรเครดิต ยกตัวอย่าง คือ มีการกดเงินสดจากบัตรเครดิตจำนวน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตอยู่ที่ 16% ต่อปี และกดเงินสดมาเป็นเวลา 30 วัน จะมียอดที่ต้องชำระ 3 ส่วน ได้แก่ จำนวนเงินที่กด, ค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ย คำนวณ ดังนี้

สมมติว่า ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดอยู่ที่ 3% ของจำนวนเงินที่กด ก็จะเท่ากับ 10,000 บาท x 3% = 300 บาท
ดอกเบี้ยบัตรเครดิตกดเงินสดต่อวัน = (10,000 บาท x 16%) / 365 วัน ≈ 4.38 บาท/วัน
ดอกเบี้ยทั้งหมดใน 30 วัน = 4.38 บาท/วัน x 30 วัน ≈ 131.40 บาท
ดังนั้น ยอดที่ต้องชำระทั้งหมด 10,000 บาท (เงินที่กด) + 300 บาท (ค่าธรรมเนียม) + 131.40 บาท (ดอกเบี้ย) = 10,431.40 บาท
สรุปได้ว่า แม้จะจ่ายคืนเงินก้อนนี้ ภายใน 1 เดือน ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมถึง 431.40 บาท

หากมีการกดเงินสดจากบัตรเครดิตในจำนวนที่มากขึ้น ยิ่งกดเงินสดมากเท่าไหร่ ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยบัตรเครดิตกดเงินสดก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย หากใช้เวลานานในการชำระหนี้ ยอดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ทางที่ดี ควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
บัตรเครดิตกดเงินสดต่างจากบัตรกดเงินสดอย่างไร

บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด ถึงแม้จะสามารถนำมาใช้กดเงินสดได้เหมือนกัน แต่ก็มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

1. บัตรเครดิตกดเงินสด

• เป็นบัตรที่สามารถซื้อสินค้าหรือบริการก่อน แล้วค่อยมาชำระเงินทีหลังในรอบบิล
• สามารถกดเงินสดได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดที่สูง และดอกเบี้ยบัตรเครดิตกดเงินสดจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กดเงินทันที
• มีวงเงินการกดเงินสดจากบัตรเครดิตสูงกว่าบัตรกดเงินสด
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้จ่าย
• สะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ มีโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมาย
• หากไม่ชำระยอดหนี้เต็มจำนวนตามกำหนด จะมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น และการกดเงินสดจะทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นเร็วมาก

2. บัตรกดเงินสด

• เป็นบัตรที่ให้กดเงินสดออกมาใช้ได้เลยทันที เหมือนกับการกู้เงินระยะสั้น
• ออกแบบมาเพื่อการกดเงินสดโดยเฉพาะ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด (แต่จะมีดอกเบี้ยแทน)
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดฉุกเฉิน
• สะดวกในการกดเงินสดฉุกเฉิน แต่อาจจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก และมักจะมีวงเงินที่จำกัด

จะเห็นได้ว่า บัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตมีความแตกต่างกัน โดยบัตรเครดิตกดเงินสด เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนการเงินได้ดี มีวินัยในการชำระหนี้ และต้องการความสะดวกสบายในการใช้จ่าย ส่วนบัตรกดเงินสด เหมาะสำหรับกรณีฉุกเฉินที่ต้องการเงินสดด่วน ๆ แต่ควรชำระหนี้คืนโดยเร็วที่สุด เพราะดอกเบี้ยสูงมาก ดังนั้น จึงควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
ขั้นตอนในการกดเงินสดจากบัตรเครดิต

การกดเงินสดด้วยบัตรเครดิตเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่สูงกว่าการรูดบัตรจ่ายสินค้าทั่วไป ก่อนตัดสินใจกดเงินสด ควรทำความเข้าใจขั้นตอนและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจน โดยมีขั้นตอนการกดเงินสดบัตรเครดิต ดังนี้

• เลือกตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ของบัตรเครดิตกดเงินสด เช่น Visa, Mastercard หรือ JCB
• ใส่บัตรเครดิตเงินสดเข้าไปในช่องรับบัตร
• กรอกรหัส PIN ของบัตรเครดิต
• เลือกเมนู กดเงินสด หรือ Cash Advance บนหน้าจอของตู้ ATM
• ป้อนจำนวนเงินที่ต้องการกด โดยต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
• ตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนเงินอีกครั้ง แล้วกดยืนยัน
• รับเงินสดและใบเสร็จรับเงินจากช่องจ่ายเงิน

การกดเงินสดด้วยบัตรเครดิตเป็นตัวเลือกที่สะดวก แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
สรุปเกี่ยวกับบัตรเครดิตกดเงินสด

บัตรเครดิตกดเงินสด คือ การนำบัตรเครดิตไปเบิกถอนเงินสดออกมาจากตู้ ATM เหมือนกับบัตรเดบิตทั่วไป แต่มีเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยจะมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเงินสดบัตรเครดิตที่ค่อนข้างสูง แม้ว่า การกดเงินสดจากบัตรเครดิตเป็นตัวเลือกที่สะดวก เหมาะสำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี