ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


การคิดเชิงออกแบบ หรือ Design Thinking คืออะไร สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

Design Thinking คือ

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้อง คิดต่าง ทำต่าง และสร้างสรรค์ โดย Design Thinking หรือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจต่าง ๆ นำมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างนวัตกรรม ดังนั้น Design Thinking จึงไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่เป็นวิธีคิดที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน แล้ว Design Thinking คืออะไร Design Thinking มีกี่ขั้นตอน บทความนี้ มีคำตอบ



Design Thinking คืออะไร?

กระบวนการคิดเชิงออกแบบ หรือ Design Thinking คือ กระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายหลัก คือ การหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เน้นมุมมองของผู้ใช้ และมีสร้างผลลัพธ์ในอนาคตที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ได้แนวทางหรือนวัตกรรมหรือเครื่องมือที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้ในแต่ละสถานการณ์

กระบวนการ Design Thinking ต่างจากวิธีการคิดแบบเดิม ๆ เป็นการพัฒนาให้เกิด Growth Mindset ตรงที่เน้นการเข้าใจผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นไปที่ความต้องการและปัญหาของผู้ใช้จริง ๆ โดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การระดมสมอง และการทดลอง ทั้งนี้ Design Thinking ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นกระบวนการคิดที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับปัญหาที่หลากหลาย ไม่จำกัดแค่การออกแบบผลิตภัณฑ์


Design Thinking Process (ขั้นตอนกระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ)

Design Thinking Process

การทำความเข้าใจในขั้นตอนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process) จะช่วยให้สามารถลำดับวิธีคิดและกระบวนการในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ เริ่มตั้งแต่การเข้าใจปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย (Human Centered) นำมาผ่านกระบวนการคิดและแก้ไขปัญหา (Ideation & Brainstorming) ก่อนจะลงมือทำและทดสอบ (Prototype and Implement) ตามโมเดล D.School, Stanford university โดยกระบวนการของ Design Thinking คือ

1. Empathize
ขั้นตอนแรกของ Design Thinking คือ Empathize หรือ การเข้าใจ เป็นการสร้างมุมมองที่ชัดเจน เกี่ยวกับ ผู้ใช้ ปัญหา และบริบทที่พวกเขาใช้งาน โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น สัมภาษณ์, สังเกต, สำรวจ, วิเคราะห์ข้อมูล, ทดสอบการใช้งาน เป็นต้น โดยผลลัพธ์ของ Empathize คือ Persona หรือ ตัวแทนผู้ใช้ ซึ่งเป็นข้อมูลสรุปเกี่ยวกับผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย

Empathize ของ Design Thinking ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาแอปพลิเคชันสังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้ในขณะที่ใช้งานแอปพลิเคชัน, นักออกแบบผลิตภัณฑ์ทำการสำรวจเพื่อหาความต้องการของลูกค้า เป็นต้น ทั้งนี้ Empathize เป็นขั้นตอนสำคัญใน Design Thinking Process ที่ช่วยให้เข้าใจผู้ใช้และปัญหาได้อย่างแท้จริง นำไปสู่แนวทางแก้ไขที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้และสร้างผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ

2. Define

Design Thinking Process ขั้นที่ 2 คือ Define หรือ การนิยาม เป็นการหาคำตอบ สำหรับคำถามต่อไปนี้

- ปัญหาคืออะไร?
- สาเหตุของปัญหาคืออะไร?
- ใครคือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหา?
- ผลกระทบของปัญหาคืออะไร?
- ขอบเขตของปัญหาคืออะไร?

โดยอาจจะใช้เทคนิคระดมความคิดด้วยทีมเวิร์ค, วิเคราะห์ข้อมูล, สร้างแผนที่ความคิด หรือเขียนคำถามที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ไข โดยคำนิยามปัญหาที่ดีของ Design Thinking คือ ต้องชัดเจน เจาะจง วัดผลได้ เกี่ยวข้อง และเป็นไปได้ เพื่อให้เกิดกระบวนการ Digital Transformation ที่แท้จริง

3. Ideate
ขั้นตอนที่ 3 ของ Design Thinking คือ Ideate หรือ การคิดสร้างสรรค์ เป็นการสร้างแนวทางแก้ไข ให้ได้มากที่สุด โดยไม่ต้องกังวลว่าแนวทางนั้น ๆ จะเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้ จำเป็นต้องใช้ทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Digital Disruption, Team Building, lean หรือ Kanban ที่ดี เพื่ออบรมพนักงาน ให้มีความคิดนอกกรอบ สามารถสร้างสรรค์ความคิดใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น

เพราะสิ่งสำคัญใน Ideate ของ Design Thinking คือ การเปิดกว้าง และ การคิดนอกกรอบ เพราะฉะนั้น พนักงานในทีมจึงต้องได้รับการปลูกฝัง และได้รับอิสระในการคิดสิ่งใหม่ ๆ โดยที่หัวหน้าจะต้องมีภาวะผู้นำ รับฟังทุกความคิดเห็นของคนในทีม มีทักษะการสื่อสารที่ดี เพื่อให้ทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็น และได้แนวทางแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย

4. Prototype
Prototype หรือ การสร้างต้นแบบ ของ Design Thinking คือ ขั้นตอนที่ 4 เป็นการทดสอบแนวคิดกับผู้ใช้จริง เพื่อดูว่าแนวคิดนั้น ๆ สามารถเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ Prototype ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่มุ่งเน้นไปที่การทดสอบฟังก์ชันการใช้งาน ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น วาดภาพแนวคิดของผลิตภัณฑ์ บริการ หรือระบบ, สร้างโมเดล, เขียนโค้ด หรือใช้เครื่องมือสร้างต้นแบบ

โดยสิ่งสำคัญใน Prototype ของ Design Thinking Process คือ การทดสอบกับผู้ใช้จริง และการรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อต้องการข้อมูล เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแนวทางแก้ไขนั้น นำมาปรับปรุงแนวทางแก้ไขใหม่ให้ดีขึ้น

5. Test

ขั้นตอนสุดท้ายของ Design Thinking คือ Test หรือ การทดสอบ เป็นการหาข้อผิดพลาด ปัญหา และจุดอ่อนของแนวทางแก้ไข เพื่อนำข้อมูลที่ได้จาก Test ไปใช้ปรับปรุงแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้น โดยทำได้หลายวิธี เช่น

- การทดสอบการใช้งาน โดยให้ผู้ใช้ทดสอบต้นแบบ และสังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้
- การสัมภาษณ์ผู้ใช้หลังจากทดสอบ ต้นแบบ เพื่อรับฟัง ข้อเสนอแนะ
- การเก็บข้อมูลการใช้งาน ต้นแบบ เช่น เวลาที่ใช้ในการทำงานผิดพลาด ฯลฯ
- การวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเพื่อหา ข้อผิดพลาด ปัญหา และ จุดอ่อน



ประโยชน์ของ Design Thinking คือ ?

กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบ

กระบวนการของการคิดเชิงออกแบบนั้น มีประโยชน์ในการทำงานหรือในแง่ของธุรกิจหลายประการ โดยสามารถสรุปข้อดีของ Design Thinking คือ

- ช่วยให้เข้าใจผู้ใช้ ปัญหา และบริบทต่าง ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะ Design Thinking มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจผู้ใช้เป็นอันดับแรก เพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ไขที่ตรงจุด ตอบโจทย์ผู้ใช้ และสร้าง นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และนำไปสู่แนวทางแก้ไขที่หลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลว่าแนวทางนั้น ๆ จะเป็นไปได้หรือไม่ Design Thinking Process จะช่วยให้ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และมองหาโอกาสใหม่ ๆ
- แนวคิดเชิงออกแบบช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าแนวทางแก้ไขไหนสามารถทำได้ และแนวทางแก้ไขไหนต้องปรับปรุง
- Design Thinking เป็นกระบวนการที่ทุกคนมีส่วนร่วม ช่วยให้สมาชิกในทีมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งปันไอเดีย และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
- ช่วยให้นำไปประยุกต์ใช้ได้กับงานหลากหลายประเภท เพราะ Design Thinking ไม่ได้จำกัดแค่การออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่สามารถนำไปพัฒนาบริการ แก้ปัญหา คิดกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย



บทสรุป Design Thinking คือ บันไดสู่ความสำเร็จ

Design Thinking คือ กระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการแก้ปัญหา การพัฒนา และการสร้างสรรค์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกสาขาอาชีพ และทุกสถานการณ์