บทเริ่มต้นการเดินทางสู่ความยั่งยืนของเนสเพรสโซ่

[อัญณา]

วิสัยทัศน์เนสเพรสโซ ได้แก่การเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในฐานะกาแฟ แคปซูลที่เป็นที่สุดแห่งประสบการณ์ทางกาแฟสำหรับเรา นั่นหมายถึงการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศอย่างไม่ย่อท้อในทุก ๆ เรื่องที่เราได้ทำขึ้นมา และการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อการสร้างช่วงเวลาแห่งความพึงพอใจให้กับสมาชิกของเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของเราในเรื่องความยั่งยืนเพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นที่หนึ่งแห่งบริษัทกาแฟแบ่งบรรจุที่มีคุณภาพสูงที่สุดและยั่งยืนที่สุดในโลก และผู้ถือผลประโยชน์ยอมรับพันธกิจเพื่อการเป็นผู้นำที่ยั่งยืน
ความท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยผลกระทบเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ประจักษ์ชัดในการทำไร่กาแฟ และความต้องการให้แน่ใจว่ากาแฟเป็นธุรกิจที่สามารถดึงดูดสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต และเป็นทางออของความยากจน ยิ่งเวลาผ่านไปเราต้องใช้วัตถุดิบอันล้ำค่าอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น โดยการลดปริมาณขยะและการสร้างวิธีรีไซเคิลเมื่อภาชนะหมดอายุการใช้งาน
การทำงานร่วมกับหุ้นส่วนชาวไร่ NGOs และผู้บริโภคของเรา
เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับหุ้นส่วน ชาวไร่ NGOs และผู้บริโภคเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งหลาย เพื่อความยั่งยืนคือเรื่องที่ต้องทำในธุรกิจสำหรับ เนสเพรสโซ่ และเป็นสาระสำคัญในกลยุทย์ของเรา
ความสำเร็จของเรานับแต่เปิดตัวเครื่องชงกาแฟสดใช้ในบ้านเครื่องแรกเมื่อปี 2529 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของเรา ซึ่งเป็นความสำเร็จที่จะช่วยในการสร้างความยั่งยืนเช่นเดียวกันที่ประสความสำเร็จในด้านอื่นของธุรกิจ
ความยั่งยืนและนวัตกรรม ความยั่งยืนและนวัตกรรมที่ต้องนำมาเข้าด้วยกันนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อปี 2533 เราได้เปิดตัวระบบรีไซเคิลเป็นระบบแรกสำหรับแคปซูลกาแฟที่ใช้แล้วของเราในประเทศสิวตเซอร์แลนด์เมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว ซึ่งเราได้เริ่มโครงการ AAA Sustainable QualityTM ร่วมกับ Rainforest Alliance ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างมาตรฐานแรกที่รวมเอาหลักการในเรื่องคุณภาพและนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเราได้มีการกำหนดพันธกิจการสร้างความยั่งยืนในวงกว้างขึ้นเป็นแห่งแรกในปร 2552 ซึ่งเป็นการช่วยให้เราบรรลุเป้นหมายเร็วกว่าที่เราได้วางแผนไว้เป็นเวลาถึง 1 ปี ในปี 2557 และเราได้เปิดเผยก้าวต่อไปสู่ความยั่งยืนของเรา นั่นคือ The Positive Cup
ในการวางแผนอนาคตสำหรับปี 2563 ของเรานั้น มีปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอยู่ 3 ประการ ได้แก่
1.   ผลกระทบในเชิงบวก
2.   พันธกิจ
3.   ความยั่งยืน
ทุกสิ่งที่เราทำได้ถูกขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะต้องผลักดัน และพิสูจน์ผลกระทบในเชิงบวกที่มีต่อธุรกิจ และผู้ถือผลผลประโยชน์ร่วมกับเรา ซึ่งเราได้เปิดให้องค์กรภายนอก เช่น Bureau Veritas ที่เป็นผู้ประเมินและรับรองมาตรฐานขั้นนำของโลก Quantis ที่เป็นทีปรึกษาเฉพาะทางในด้านสิ่งแวดล้อม Suatainable Agriculture Network และ Crece ซึ่งเป็นสถาบันการวิจัยของประเทศโคลอมเบียได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโครงการจากภายนอก เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราได้บรรลุเป้าหมายตามพันธกิจของเราได้อย่างไร เครื่องมือติดตามตรวจสอบและประเมินผลจนกลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานทางด้านความยั่งยืนมากกว่าที่ผ่านมา