การลงทุน และการวางแผนทางการเงินถือเป็นเรื่องที่ดีของการจัดการเรื่องการเงิน เป็นการจัดเงินออกเป็นสัดส่วน โดยส่วนหนึ่งนั้นเราใช้เพื่อการดำรงชีวิตประจำวันของพวกเรา แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นก็ใช่เพื่อการออม การลงทุน เพื่อให้เกิดความงอกเงยต่อไป การลงทุนและการวางแผนทางการเงินที่ดีนั้น เราจะเห็นประโยชน์ในแง่ที่ว่าเป็นการสร้างการออม สร้างเงินเก็บนะครับ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น มันยังมีประโยชน์แอบแฝงอีกหลายแง่มุม ที่เราอาจจะลืมไปก็ได้ ดังนี้
ทำให้เป็นอิสระทางการเงิน เพราะโดยพื้นฐานของการลงทุนคือการออม และการบริหารรายรับ รายจ่าย ถ้าเรารู้จักออม รู้จักลงทุน การไปสู่อิสรภาพทางการเงินก็คือไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ทำให้รู้จักการวางแผนและบริหารความเสี่ยง เมื่อเริ่มออมและคิดจะลงทุนทำให้เรารู้จักวางแผนเป็นองค์รวม ทั้งการใช้ การออม การแบ่งเงินเพื่อเป้าหมายต่างๆ การป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน การลงทุน รู้จักจัดสรรเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างถูกต้อง นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมในแต่ละช่วงชีวิต ทั้งช่วงเริ่มทำงาน สร้างครอบครัว และการเกษียณ
ทำให้ได้รู้จักธุรกิจต่างๆ และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพราะการศึกษาการลงทุนทำให้เราต้องทำความรู้จักผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะหุ้น ตราสารหนี้ กองทุน อนุพันธ์ และประกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นเหมาะสมกับแต่ละเป้าหมายในการลงทุน การที่เรารู้จักจะทำให้เลือกใช้ได้เหมาะสม เราจะเข้าใจธรรมชาติและข้อจำกัดของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เราสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย
ทำให้เราได้เรียนรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยรู้ ถ้าเราเป็นนักลงทุนเราอาจจะรู้ด้วยว่าสินค้านั้นเป็นของบริษัทอะไร และบริษัทนั้นยังทำธุรกิจอะไรอีก รายได้หลักของบริษัทมาจากไหนและส่งผ่านไปที่กำไรเท่าไหร่ หรือว่าถ้าหุ้นขึ้นหรือหุ้นลง คนทั่วไปอาจจะบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่สำหรับนักลงทุนอาจจะมองภาพออกว่าอาจเกิดจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มขายหุ้นออก ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะเราต้องทำการศึกษาข้อมูล
ฝึกทักษะในการคิดวิเคราะห์ นักลงทุนต้องทำการศึกษาข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละส่วนเข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์ว่าจากปัจจัยที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อบริษัทที่เราลงทุนอยู่
ทำให้เรากลายเป็นคนมองภาพใหญ่กว่าที่เคย และรู้จักการวางแผนระยะยาว การลงทุนเหมือนการวิ่งมารธอนที่ต้องการความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ มากกว่าการเร่งเข้าสู่เส้นชัยเหมือนการวิ่งระยะสั้น ดังนั้นนักลงทุนจะมองภาพระยะยาวเป็น 5-10 ปีมากกว่าจะสนใจแค่ราคาที่เปลี่ยนแปลงวันต่อวัน และวิเคราะห์ปัจจัยที่มากระทบว่าส่งผลกับบริษัทในลักษณะเป็นผลกระทบชั่วคราวที่จะผ่านไป การมองภาพใหญ่ทำให้นักลงทุนมุ่งความสนใจศึกษาในตัวธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของผลประกอบการมากกว่า ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจที่ดีขึ้นด้วย
การลงทุนในเรื่องต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีให้การเก็บออมเงินของเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นกับความเสี่ยงด้วยที่เราต้องทำการศึกษาข้อมูลดีๆ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนออมเงินในเรื่องของอัตราการ
แลกเงิน Currency Exchange ที่ก็ได้รับความนิยมในการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง