ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้ก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก

รู้ก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก
« เมื่อ: มกราคม 12, 2020, 02:16:01 PM »
ในปัจจุบัน เพศหญิงทั้งโลกโดยยิ่งไปกว่านั้นช่วงวัยตั้งแต่ 30-65 ปี จะต้องพบเจอกับ “โรคมะเร็งปากมดลูก” ซึ่งมีลักษณะท่าทางมากขึ้นกว่าปีละ 466,000 คน รวมทั้งเสียชีวิตกว่าปีละ 231,000 คน ในประเทศไทยพบว่ามีผู้เจ็บป่วยจากโรคมะเร็งปากมดลูกสูงเป็นอันดับสอง รองจากโรคมะเร็งเต้านม โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยข้อมูลว่ามีผู้ตายจากมะเร็งปากมดลูกราวๆ 4,500 รายต่อปี อีกทั้งเจอคนเจ็บรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี อย่างไรก็แล้วแต่ เนื่องจากเพศหญิงผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ซึ่งอาจส่งผลให้ละเลยอาการไม่ดีเหมือนปกติเล็กๆน้อยๆอันเป็นสัญญาณที่ก่อเกิดโรคร้ายในอนาคต เนื่องจากว่าจริงๆแล้ว มะเร็งปากมดลูก นอกเหนือจากการที่จะสามารถป้องกันได้แล้ว ยังสามารถตรวจวินิจฉัยความเปลี่ยนไปจากปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น รวมทั้งรักษาให้หายสนิทได้ก่อนเป็นมะเร็งระยะขยาย

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คืออะไร?
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คือ การตรวจหาความเคลื่อนไหวของเซลล์เนื้อเยื่อรอบๆปากมดลูกก่อนที่จะมีลักษณะ หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นการตรวจค้นร่องรอยก่อนเป็นมะเร็ง การตรวจคัดกรองนี้จะมีผลให้หญิงสามารถป้องกันและรักษาอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ความแตกต่างจากปกติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นพัฒนาเปลี่ยนเป็นมะเร็งปากมดลูก รวมถึงถ้าเกิดพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะแรก ก็จะสามารถกระทำรักษาได้ทันการ

คนใดกันบ้างที่ควรตรวจมะเร็งปากมดลูก?

  • โรคมะเร็งปากมดลูก มีการศึกษาและก็ผลการันตีด้านการแพทย์อย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า ต้นเหตุสำคัญของโรคนี้มีเหตุมาจากเชื้อฮิวแมนแป๊ปปิโลม่าไวรัส (Human Papilloma Virus) หรือที่ชินหูกันว่า เชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นเชื้อซึ่งสามารถติดได้ทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งการสัมผัส ด้วยเหตุดังกล่าว สตรีทุกคนที่เคยมีเซ็กส์ควรจะเข้ารับการตรวจทุก 1-2 ปี เพื่อหามะเร็งในระยะเริ่มต้น และตรวจด้านใน เพื่อค้นหารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็ง (Precancerous Lesion) อย่างน้อยทุกๆ3 ปี


  • เพศหญิงที่มีปัจจัยหรือความประพฤติดังนี้ ควรจะเข้ารับการตรวจ เหตุเพราะจัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง
  • ผู้หญิงที่มีเซ็กส์ตั้งแต่ยังอายุยังน้อย หรือหลังจากมีรอบเดือนได้ไม่นาน จากสถิติ พบว่า ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ได้โอกาสติดเชื้อโรค HPV 80-90% (อาจเป็นเชื้อที่ก่อมะเร็งหรือเปล่าก่อมะเร็งก็ได้)
  • หญิงที่มีความประพฤติดูดบุหรี่ หรืออยู่สนิทสนมกับคนดูดบุหรี่ เนื่องจากว่าการสูบบุหรี่ทำให้ลักษณะการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันลดน้อยลง ซึ่งมีผลต่อการต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชพีวี
  • หญิงที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือติดเชื้อโรคเอชไอวี (Human immunodeficiency virus - HIV) ด้วยเหตุว่าระบบภูมิต้านทานคือระบบที่มีความจำเป็นในการช่วยต้านเซลล์มะเร็งเซลล์ของโรคมะเร็งเซลล์ของมะเร็งเพื่อไม่ให้เติบโตหรือแพร่ไป
  • ผู้หญิงที่มีประวัติเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน ดังเช่นว่า โรคหนองใน ซิฟิลิส หรือเริม เพราะเหตุว่าโรคดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วนี้ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน
  • สตรีที่มีประวัติการตั้งครรภ์มากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป นับว่าเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
  • สตรีที่มีความประพฤติเปลี่ยนคู่รักผู้คนจำนวนมาก

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีแบบไหนบ้าง?

การเกิดมะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันรวมทั้งรักษาอย่างเห็นผล ถ้าเกิดได้รับการดำเนินงานตรวจอย่างมีระบบ โดยใช้แนวทางการตรวจคัดกรองที่มีคุณภาพ ซึ่งในขณะนี้สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย 2 แนวทางสำคัญๆดังนี้


  • การตรวจทางเซลล์วิทยาของปากมดลูก (Cervical cytology) เป็นการตรวจค้นความเปลี่ยนไปจากปกติของเซลล์ บริเวณปากมดลูกโดยการเก็บเซลล์จากบริเวณปากมดลูก สามารถแบ่งได้ 2 วิธี คือ
  • การตรวจค้นเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA testing) เป็น การตรวจทางชีวโมเลกุล เพื่อตรวจค้นดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวี ด้วยการตรวจค้นตัวเชื้อโดยตรงบริเวณปากมดลูกรวมทั้งผนังช่องคลอด ซึ่งแนวทางลักษณะนี้มักจะใช้ร่วมกับการตรวจทางเซลล์วิทยาหรือการตรวจแป็ป ทำให้การตรวจรูปแบบนี้มีความแม่นยำเยอะที่สุด ทั้งยังสามารถตรวจหาความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ แม้ว่าเซลล์ในปากมดลูกจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม แต่ว่าข้อบกพร่องของการตรวจแนวทางแบบนี้คือจะมีค่าใช้จ่ายที่ออกจะสูง



  • วิธีการตรวจแปปสเมียร์แบบดั้งเดิม (Conventional Pap smear) การตรวจแนวทางแบบนี้ หมอจะเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยไม้พาย ต่อจากนั้นจะเอามาป้ายลงสไลด์แก้ว และก็นำส่งห้องทดลองเพื่อย้อมสีรวมทั้งตรวจตราด้วยกล้องจุลทรรศน์ แต่ว่าเนื่องจากว่าการเซลล์ที่อยู่บนไม้พายอาจมีการผสมปนเปของมูกเลือด ซึ่งจะทำให้เกิดการบังผลที่จริงจริง แล้วก็ส่งผลโดยตรงต่อความแม่นยำ อย่างไรก็ดี จุดเด่นของการตรวจด้วยแนวทางลักษณะนี้ เป็น ราคาไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับแบบอื่นๆ
  • วิธีการตรวจแบบลิควิดเบส (Liquid-based cytology) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ตินเพร็พ (ThinPrep Pap test) ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการรับรองจากอย.ของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่าสามารถใช้แทนการตรวจแบบดั้งเดิมได้และมีคุณภาพมากยิ่งกว่า โดยแพทย์จะเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ แล้วต่อจากนั้นจะนำไปใส่ขวดน้ำยา รวมทั้งนำส่งห้องทดลอง การตรวจด้วยวิธีนี้มีจุดแข็งคือสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างไม่พอ ลดอัตราการเกิดผลลบลวง รวมทั้งทุ่นเวลาในการวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกระยะก่อนขยาย ซึ่งมีความเที่ยงตรงโดยประมาณ 90-95%




    ตรวจมะเร็งปากมดลูกถึงที่กะไว้ไหน?
    การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจได้ตามโรงพยาบาลทั่วไป ทั้งยังโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน โดยค่าใช้จ่ายสำหรับในการตรวจของแต่ละวิธีจะแตกต่างกันได้ ดังต่อไปนี้


  • กรรมวิธีการตรวจแปปแบบเริ่มแรก (Conventional Pap smear) หรือแปปเสมียร์ จะมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 200-500 บาท
  • กรรมวิธีตรวจแบบลิควิดเบส (Liquid-based cytology) หรือ ตำหนินเพร็พ (ThinPrep Pap test) จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 700-2000 บาท
  • การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA testing) จะมีค่าใช้จ่ายราว 1,500-3,000 บาท

ทั้งนี้ ถ้าเกิดเข้ารับบริการในโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมหรือประกันสุขภาพ (บัตรทองคำ) และก็ได้รับการพินิจความเหมาะสมจากแพทย์ จะไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจ

การจัดเตรียมก่อนเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
หลักการจัดแจงเพื่อตรวจมะเร็งปากมดลูก มีดังนี้


  • งดเว้นเข้ารับการตรวจสำหรับสตรีที่กำลังเริ่มจะมีรอบเดือน หรือสามารถตรวจได้หลังมีเมนส์ 10-20 วัน
  • งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ข้างใน 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
  • งดเว้นการใช้ยาใส่ในช่องคลอดหรือการสวนล้างช่องคลอดข้างใน 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
  • งดการใช้ผ้าอนามัยแบบใส่ หรือยาที่ใช้สำหรับช่องคลอดทุกจำพวก ภายใน 48 ชั่วโมง


ผู้หญิงทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ แล้วก็ยิ่งไปกว่านั้นโรคร้ายนี้มักจะแสดงอาการอีกทีในระยะที่ขยายแล้ว ด้วยเหตุนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยป้องกันและก็รักษามะเร็งปากมดลูกได้อย่างทันการและก็มีประสิทธิภาพ

https://www.honestdocs.co/cervical-cancer-complete-guide

Tags : ตรวจมะเร็งปากมดลูก