การติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ภาษาอังกฤษถือเป็นใบเบิกทางได้หลายด้านทั้งด้านการศึกษา โอกาสในที่ทำงาน ทำให้เรามีทางเลือกหลายทางในอนาคต การสอบวัดระดับพื้นฐานด้านภาษาก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เช่น
ติว TGAT, ติวคอร์สออนไลน์, ติว A-Level จึงควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ในบทความนี้จะพาทุกคนไปวางแผนพร้อมเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนการสอบจริง เรามาทำความรู้จักการสอบ Thai General Aptitude Test ว่าจะมีกี่พาร์ท ติวเข้ม TGAT ต่างจากคอร์สติวเข้ามหาลัยอย่างไร เพื่อช่วยไม่ให้ตื่นเต้นก่อนวันสอบ รู้ข้อบกพร่อง ก่อนลงสนามจริงไปดูกันเลย
การติว TGAT เกี่ยวกับอะไร?ติว TGAT หรือ Thai General Aptitude Test เป็นการสอบเกี่ยวกับความรู้ ความถนัดทั่วไปรูปแบบใหม่ที่ถูกต่อยอดมาจากข้อสอบ GAT หรือ General Aptitude Test เนื่องจากต้องการลดความซ้ำซ้อนของการสอบแต่ละสนามและเน้นใช้ความรู้ในการสอบแบบไม่ต้องท่องจำ TGAT จึงเป็นข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ทาง ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย) พัฒนาขึ้น
สำหรับคอร์ส TGAT จะเป็นคอร์สที่ออกแบบให้ผลคะแนนออกมาดี ซึ่งเป็นการติว TGAT 66 จากข้อสอบย้อนหลังปีล่าสุด เพราะการสอบนี้มีคะแนนเต็ม 300 คะแนน ผลคะแนนที่ใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย TCAS จะมีอายุเพียงหนึ่งปีเท่านั้น จึงต้องเน้นการพัฒนาตั้งแต่พื้นฐานทั้งการฟัง, พูด, อ่าน, เขียนและแกรมมาร์ เพื่อให้นำไปใช้งานในการสอบได้จริง
การติวสอบ TGAT มีกี่พาร์ท?การติว TGAT จะเป็นการเน้นข้อสอบทั้ง 3 พาร์ท คะแนนเต็ม 300 คะแนน ได้แก่ Part 1 English Communication, Part 2 Critical and Logical Thinking, Part 3 Future Workforce Competencies เพื่อให้ได้ผลคะแนนออกมาเป็นที่น่าพอใจมากที่สุด ซึ่งจำนวนข้อของแต่ละพาร์ทและแนวข้อสอบที่ควรเน้นติวอังกฤษเข้ามหาลัยเป็นพิเศษ ได้แก่
การสื่อสารภาษาอังกฤษข้อสอบการสื่อสารภาษาอังกฤษ English Communication จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 60 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที โดยข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 หมวด หมวดละ 30 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ ทักษะการพูด Question-Response, Short conversations. Long conversations และทักษะการอ่าน Text completion, Reading comprehension โดยความยาก-ง่ายจะถูกแบ่งกันไปในแต่ละหมวด สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในคอร์ส TGAT
การคิดอย่างมีเหตุผลข้อสอบการคิดอย่างมีเหตุผล Critical & Logical Thinking จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 80 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที เป็นการติวอังกฤษ เข้ามหาลัยเพื่อวัดความสามารถด้านต่าง ๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 หมวดย่อย หมวดละ 20 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ ความสามารถทางภาษา, ความสามารถทางตัวเลข, ความสามารถทางมิติสัมพันธ์, ความสามารถทางเหตุผล
สมรรถนะการทำงานข้อสอบสมรรถนะการทำงาน Future Workforce Competency จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 60 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที การสอบนี้เป็นการติว TGAT เพื่อวัดทัศนคติ 4 หมวด หมวดละ 15 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม, การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน, การบริหารจัดการอารมณ์, การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม
ใครสามารถเข้ารับการติว TGAT ได้บ้าง? การติว TGAT เป็นการสอบในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งคะแนนที่ได้ในการสอบจะสำคัญในรอบ TCAS เพื่อติวเตอร์เข้ามหาลัยที่ใฝ่ฝัน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนน TGAT ในการคัดเลือกเพิ่มเติม ทำให้เราสามารถนำคะแนนในส่วนนี้ไปยื่นเข้าคณะต่าง ๆ ที่อยากเรียนได้ โดยตามแต่ละคณะจะใช้สัดส่วนคะแนนแตกต่างกันไปทั้งรอบ Portfolio โควตา และแอดมินชัน เราจึงควรเริ่มหาคอร์สเรียน TGAT หรืออ่านทบทวนบทเรียนจากในอินเทอร์เน็ตไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
การติวสอบ TGAT ต่างจากการสอบแบบอื่นยังไง?การติว TGAT, TPAT และ ติว A-Level คะแนนในการสอบเหล่านี้จำเป็นมากต่อการยื่นศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งแต่ละการสอบจะแตกต่างกันไป เช่น รายวิชาภาษาอังกฤษ, ความถนัดในสายอาชีพ, วิชาสามัญอื่น ๆ เราจึงต้องเลือกการสอบที่จำเป็นต้องใช้คะแนนต่อการเข้าคณะหรือสาขาที่ใฝ่ฝันอยากเรียนต่อในอนาคต โดยการสอบรูปแบบต่าง ๆ จะมีส่วนที่แตกต่างกันดังนี้
TGAT ถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท คือ English Communication, Critical and Logical Thinking, Future Workforce Competencies ผลการสอบติว TGAT ภาษาอังกฤษสามารถนำไปยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาที่จำเป็นต้องใช้คะแนนด้านภาษาอังกฤษและหลักสูตรนานาชาติได้
TPAT ถูกแบ่งออกเป็น 5 วิชา คือ ความถนัดแพทย์, ความถนัดวิศวกรรม, ความถนัดทางสถาปัตย์, ความถนัดวิชาชีพครู, ความถนัดทางศิลปกรรม ในกลุ่มการสอบ TPAT นี้สามารถเลือกสอบในรายวิชาที่จำเป็นต่อการยื่นผลสอบเข้าคณะในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เป็นการวัดความถนัดทางด้านวิชาชีพ
A-Level ถูกแบ่งออกเป็น 8 วิชา คือ ภาษาไทย, สังคม, คณิตศาสตร์ (คณิตศาสตร์พื้นฐานและ
คณิตศาสตร์เพิ่มเติม) สามารถเลือกสอบเฉพาะพื้นฐานหรือทั้งสองวิชาก็ได้, วิทยาศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยาและภาษาต่างประเทศ (มีให้เลือกหลายภาษา) ในการสอบนี้ จำเป็นต้องดูว่าผลคะแนนวิชาไหน ใช้ยื่นในคณะของมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนต่อ โดยเฉพาะวิชาแยกย่อยอย่างคณิตศาสตร์ที่มี 2 ส่วนทั้งพื้นฐานและเพิ่มเติม หรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ
สรุป ติว TGAT สำคัญกับการติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไรด้วยรูปแบบการสอบในปัจจุบันเกิดการแข่งขันสูงขึ้นทุกปี ทำให้การติว TGAT สำคัญต่อการติวเข้ามหาลัยมาก เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถทบทวนบทเรียนได้ด้วยตนเองหรือหาคอร์สเรียน TGAT มาเป็นตัวช่วยก็ได้ เพื่อฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษ ที่นอกจากจะช่วยต่อผลการสอบเข้าคณะที่ใฝ่ฝันแล้ว ยังใช้เป็นพื้นฐานต่อยอดในการทำงานหรือประยุกต์ใช้เป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้