ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ติว TGAT มีกี่พาร์ท จำเป็นต่อการเข้ามหาลัยของเด็กม.6 อย่างไร

 ติว TGAT


การติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ภาษาอังกฤษถือเป็นใบเบิกทางได้หลายด้านทั้งด้านการศึกษา โอกาสในที่ทำงาน ทำให้เรามีทางเลือกหลายทางในอนาคต การสอบวัดระดับพื้นฐานด้านภาษาก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เช่น ติว TGAT, ติวคอร์สออนไลน์, ติว A-Level จึงควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

ในบทความนี้จะพาทุกคนไปวางแผนพร้อมเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนการสอบจริง เรามาทำความรู้จักการสอบ Thai General Aptitude Test ว่าจะมีกี่พาร์ท ติวเข้ม TGAT ต่างจากคอร์สติวเข้ามหาลัยอย่างไร เพื่อช่วยไม่ให้ตื่นเต้นก่อนวันสอบ รู้ข้อบกพร่อง ก่อนลงสนามจริงไปดูกันเลย

การติว TGAT เกี่ยวกับอะไร?
ติว TGAT หรือ Thai General Aptitude Test เป็นการสอบเกี่ยวกับความรู้ ความถนัดทั่วไปรูปแบบใหม่ที่ถูกต่อยอดมาจากข้อสอบ GAT หรือ General Aptitude Test เนื่องจากต้องการลดความซ้ำซ้อนของการสอบแต่ละสนามและเน้นใช้ความรู้ในการสอบแบบไม่ต้องท่องจำ TGAT จึงเป็นข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ทาง ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย) พัฒนาขึ้น

สำหรับคอร์ส TGAT จะเป็นคอร์สที่ออกแบบให้ผลคะแนนออกมาดี ซึ่งเป็นการติว TGAT 66 จากข้อสอบย้อนหลังปีล่าสุด เพราะการสอบนี้มีคะแนนเต็ม 300 คะแนน ผลคะแนนที่ใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย TCAS จะมีอายุเพียงหนึ่งปีเท่านั้น จึงต้องเน้นการพัฒนาตั้งแต่พื้นฐานทั้งการฟัง, พูด, อ่าน, เขียนและแกรมมาร์ เพื่อให้นำไปใช้งานในการสอบได้จริง


การติวสอบ TGAT มีกี่พาร์ท?
การติว TGAT จะเป็นการเน้นข้อสอบทั้ง 3 พาร์ท คะแนนเต็ม 300 คะแนน ได้แก่ Part 1 English Communication, Part 2 Critical and Logical Thinking, Part 3 Future Workforce Competencies เพื่อให้ได้ผลคะแนนออกมาเป็นที่น่าพอใจมากที่สุด ซึ่งจำนวนข้อของแต่ละพาร์ทและแนวข้อสอบที่ควรเน้นติวอังกฤษเข้ามหาลัยเป็นพิเศษ ได้แก่

การสื่อสารภาษาอังกฤษ
ข้อสอบการสื่อสารภาษาอังกฤษ English Communication จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 60 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที โดยข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 หมวด หมวดละ 30 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ ทักษะการพูด Question-Response, Short conversations. Long conversations และทักษะการอ่าน Text completion, Reading  comprehension โดยความยาก-ง่ายจะถูกแบ่งกันไปในแต่ละหมวด สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในคอร์ส TGAT

การคิดอย่างมีเหตุผล
ข้อสอบการคิดอย่างมีเหตุผล Critical & Logical Thinking จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 80 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที เป็นการติวอังกฤษ เข้ามหาลัยเพื่อวัดความสามารถด้านต่าง ๆ  โดยแบ่งออกเป็น 4 หมวดย่อย หมวดละ 20 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ ความสามารถทางภาษา, ความสามารถทางตัวเลข, ความสามารถทางมิติสัมพันธ์, ความสามารถทางเหตุผล

สมรรถนะการทำงาน
ข้อสอบสมรรถนะการทำงาน Future Workforce Competency จะเป็นข้อสอบปรนัยจำนวน 60 ข้อ ระยะเวลาในการสอบ 60 นาที การสอบนี้เป็นการติว TGAT เพื่อวัดทัศนคติ 4 หมวด หมวดละ 15 ข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ได้แก่ การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม, การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน, การบริหารจัดการอารมณ์, การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

ใครสามารถเข้ารับการติว TGAT ได้บ้าง?

 เรียนอังกฤษที่ไหนดี สอบเข้ามหาลัย


การติว TGAT เป็นการสอบในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งคะแนนที่ได้ในการสอบจะสำคัญในรอบ TCAS เพื่อติวเตอร์เข้ามหาลัยที่ใฝ่ฝัน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้คะแนน TGAT ในการคัดเลือกเพิ่มเติม ทำให้เราสามารถนำคะแนนในส่วนนี้ไปยื่นเข้าคณะต่าง ๆ ที่อยากเรียนได้ โดยตามแต่ละคณะจะใช้สัดส่วนคะแนนแตกต่างกันไปทั้งรอบ Portfolio โควตา และแอดมินชัน เราจึงควรเริ่มหาคอร์สเรียน TGAT หรืออ่านทบทวนบทเรียนจากในอินเทอร์เน็ตไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ


การติวสอบ TGAT ต่างจากการสอบแบบอื่นยังไง?
การติว TGAT, TPAT และ ติว A-Level คะแนนในการสอบเหล่านี้จำเป็นมากต่อการยื่นศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งแต่ละการสอบจะแตกต่างกันไป เช่น รายวิชาภาษาอังกฤษ, ความถนัดในสายอาชีพ, วิชาสามัญอื่น ๆ เราจึงต้องเลือกการสอบที่จำเป็นต้องใช้คะแนนต่อการเข้าคณะหรือสาขาที่ใฝ่ฝันอยากเรียนต่อในอนาคต โดยการสอบรูปแบบต่าง ๆ จะมีส่วนที่แตกต่างกันดังนี้

TGAT ถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท คือ English Communication, Critical and Logical Thinking, Future Workforce Competencies ผลการสอบติว TGAT ภาษาอังกฤษสามารถนำไปยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาที่จำเป็นต้องใช้คะแนนด้านภาษาอังกฤษและหลักสูตรนานาชาติได้

TPAT ถูกแบ่งออกเป็น 5 วิชา คือ ความถนัดแพทย์, ความถนัดวิศวกรรม, ความถนัดทางสถาปัตย์, ความถนัดวิชาชีพครู, ความถนัดทางศิลปกรรม ในกลุ่มการสอบ TPAT นี้สามารถเลือกสอบในรายวิชาที่จำเป็นต่อการยื่นผลสอบเข้าคณะในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เป็นการวัดความถนัดทางด้านวิชาชีพ

A-Level ถูกแบ่งออกเป็น 8 วิชา คือ ภาษาไทย, สังคม, คณิตศาสตร์ (คณิตศาสตร์พื้นฐานและ
คณิตศาสตร์เพิ่มเติม) สามารถเลือกสอบเฉพาะพื้นฐานหรือทั้งสองวิชาก็ได้, วิทยาศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยาและภาษาต่างประเทศ (มีให้เลือกหลายภาษา) ในการสอบนี้ จำเป็นต้องดูว่าผลคะแนนวิชาไหน ใช้ยื่นในคณะของมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนต่อ โดยเฉพาะวิชาแยกย่อยอย่างคณิตศาสตร์ที่มี 2 ส่วนทั้งพื้นฐานและเพิ่มเติม หรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ

สรุป ติว TGAT สำคัญกับการติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไร
ด้วยรูปแบบการสอบในปัจจุบันเกิดการแข่งขันสูงขึ้นทุกปี ทำให้การติว TGAT สำคัญต่อการติวเข้ามหาลัยมาก เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถทบทวนบทเรียนได้ด้วยตนเองหรือหาคอร์สเรียน TGAT มาเป็นตัวช่วยก็ได้ เพื่อฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษ ที่นอกจากจะช่วยต่อผลการสอบเข้าคณะที่ใฝ่ฝันแล้ว ยังใช้เป็นพื้นฐานต่อยอดในการทำงานหรือประยุกต์ใช้เป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้