ในช่วงที่ผ่านมานี้ หลายคนคงน่าจะมีโอกาสได้เห็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของ RS Group ที่ได้ข้ามผ่านจากธุรกิจเดิมมาสู่ธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่การเป็นเพียงแค่ค่ายเพลงอีกต่อไป และก็ตามมาติด ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงโลโก้ที่ได้ฉีกจากภาพลักษณ์เดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท และนอกจากการเปลี่ยนแปลงทั้งสองสิ่งนี้ RS ยังได้เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเอาเครื่อง okr เข้ามาพัฒนาองค์กรให้ก้าวไกลอีกด้วย
เมื่อพูดถึง Objective and Key Results หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูและคงจะยังไม่เข้าใจว่า okr คืออะไร โดยเราสามารถอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่านี่คือเครื่องมือวัดผลชนิดหนึ่งที่ได้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 และได้เริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งองค์กรในไทยและองค์กรระดับโลกที่ได้นำเอาเครื่องมือนี้เข้ามาใช้พัฒนาบุคลากรและองค์กร ซึ่งทำหน้าที่คล้าย KPI แต่ว่าจะมีความแตกต่างกันตรงที่เครื่องมือชนิดนี้ไม่สามารถเชื่อมโยงผลตอบแทนพนักงาน และยังมีการประกาศชัดเจนให้พนักงานทุกคนรับทราบ ที่สำคัญยังสามารถทบทวนและประเมินผลตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นกว่า KPI เนื่องจาก KPI นิยมประเมินผลรูปแบบรายปี
สำหรับจุดเด่นของเครื่องมือวัดผลแบบ okr คือ การเป็นตัวช่วยในการผลักดันให้ทุกคนในองค์กรนั้นกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง อันนำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายใหญ่ขององค์กร เนื่องจากไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็จะมีเป้าหมายของตัวเอง ดังนั้น เมื่อทุกคนนั้นเห็นเป้าหมายสูงสุดเดียวกันย่อมจะช่วยทำให้ทุกคนทำงานกันอย่างเชื่อมโยงกัน และทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
นอกจากนี้ หลักของการตั้งเป้าหมายในแบบ okr คือ ตั้งเป้าหมายจากพื้นฐานตามความเป็นจริง ไม่ตั้งเป้าหมายที่ง่ายจนเกินไป เพราะว่าจะส่งผลทำให้พนักงานรู้สึกไม่ท้าทาย โดยการตั้งเป้าหมายที่ยากเข้าไว้จะช่วยทำให้พนักงานเกิดความอยากเอาชนะ เกิดแรงฮึกเหิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่แนะนำให้ตั้งเป้าหมายให้ยากเกินไปหรือตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินจริง เพราะก็อาจจะทำให้พนักงานรู้สึกท้อแท้แทนที่จะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ในการตั้งเป้าหมายนั้นจะถูกแบ่งตามตำแหน่งหรือบทบาทหน้าที่ โดยทุกคนในองค์กรนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีเป้าหมายแบบเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งการตั้งเป้าหมายนั้นจะเน้นไปที่การกระตุ้นเพื่อให้พนักงานทำงานบรรลุเป้าหมายมากกว่าการวัดผลสำเร็จ
ไม่เพียงเท่านั้น ความสำคัญของเครื่องมือชนิดนี้ก็คือการประเมินผลได้ด้วยตัวเลขและจะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งการวัดผลด้วยตัวเลขทุกเดือน ทุกไตรมาส หรือทุก ๆ 6 เดือนนั้น ย่อมทำให้พนักงานเล็งเห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนในการทำงาน และทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ในการทำงานใหม่ได้อย่างทันท่วงที โดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอการประเมินผลช่วงปลายปีแบบ KPI
เมื่อ
okr นั้นเต็มไปด้วยข้อดีที่จะช่วยพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าและพร้อมที่รับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการแข่งขันในโลกธุรกิจ นั่นจึงทำให้
บริษัท RS Group นั้นเลือกที่จะใช้เครื่องมือนีเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
หากอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรชั้นนำ สมัครงาน RS ได้ที่นี่
https://www.rs.co.th/th/career/