อาการบางอย่างของรถบอกว่ามีความผิดปกติของเครื่องยนต์แล้ว เราไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจนำไปสู่การความเสียหายเครื่องยนต์ที่มากขึ้น หรืออาจทำให้เครื่องยนต์ดับระหว่างเดินทางได้ อาการกระตุกของรถเหมือนจะดับ บางครั้งกระตุกตอนออกรถบ้าง หรือวิ่งไปอยู่ดีพอชะลอรถรถก็กระตุก เกิดจากอะไร วันนี้มีข้อมูลมาแนะนำกันดังนี้
ปัญหาที่รถพบอาการรถกระตุกเมื่อสตาร์ทหรือขณะขับรถ อาจเกิดจากสาเหตุดังนี้
1. เกิดจากไส้กรองอากาศสกปรก
เครื่องยนต์กระตุกอาจเกิดจากไส้กรองอากาศ ที่มีสิ่งสกปรกอยู่มากเกินไป หรือมีฝุ่นจับตัวกันอย่างหนาแน่น ทำให้อากาศไม่สามารถข้าไปที่ห้องเผาไหม้ได้ ส่งผลทำให้ เครื่องยนต์กระตุก และเครื่องยนต์สั่นได้เช่นกัน
วิธีแก้ไข คือ เป่าไล่ฝุ่นออกสำหรับไส้กรองอากาศ ที่มีความสกปรกน้อย แต่ถ้าสกปรกมากแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ดีที่สุด
การปล่อยให้ไส้กรองอากาศ จนฝุ่นเข้าจับตัวกันอย่างหนาแน่น ก็จะส่งผลทำให้เกิด เครื่องยนต์กระตุก ท่อไอเสียเป็นสีดำ แถมยังกินน้ำมันได้ อีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปอายุการใช้งานของ ไส้กรองอากาศ ควรจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
2. เกิดจากบริเวณจุดหัวเทียนหลวม
ทำให้เกิดกระแสไฟไม่สม่ำเสมอได้ จนหัวเทียนไม่มีไฟไปจุดระเบิดในแต่ละรอบของลูกสูบนั่นเอง แก้ไขโดยการถอด-เสียบต่อใหม่, ขยับปลั๊กให้แน่น จานจ่ายไฟเช็คเหมือนกับตรงจุดหัวเทียน แต่ถ้าลองแล้วรู้สึกไม่แน่นและปลายสายเป็นโลหะให้ใช้คีมบีบเพื่อให้ตัวโลหะล็อคแน่นขึ้น
3. เกิดจากหัวเทียนบอด
ควรเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ หากเช็คเรื่องสายไฟที่หัวเทียนแล้วยังมีอาการอยู่อาจจะเกิดจากหัวเทียนบอดหรือเสียก็ได้ วิธีสังเกตหัวเทียนว่าทำงานหรือไม่ ให้ใช้มืออังใกล้ๆ หัวเทียนหลังจากดับเครื่อง หากรู้สึกอุ่นหรือร้อนแสดงว่าหัวเทียนยังทำงานอยู่ ถ้าเย็น หัวเทียน อาจจะบอดหรือเสียแล้ว ควรเปลี่ยน หรือจะใช้วิธีตรวจการทำงานหัวเทียนด้วยการสัมผัสแรงสั่นสะเทือนจากสายไฟใกล้กับหัวเทียนแต่ละอันก็ได้ แต่ควรจะใช้อุปกรณ์แตะเพื่อรับแรงสั่นเช่น ไขควง หรือแท่งที่สามารถยื่นไปแตะได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
4. เกิดจากวาล์ว ลิ้นปี่ล่าง สกปรก
ควรทำการล้างปีกผีเสื้อ ว่าอาการกระตุกจะหายหรือไม่
5. เกิดจากน้ำมันไม่ได้คุณภาพ
น้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพจากน้ำมันผสมน้ำ หรือมีตะกอนอยู่ ลองปล่อยให้น้ำมันของเก่าหมดถังค่อยเติมใหม่ ให้ทดลองเปลี่ยนปั๊มน้ำมัน ว่าอาการกระตุกจะหายไหม
6. เกิดจากเครื่องยนต์ทำงานขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่ว
ทำให้มีอากาศเข้าไปในตัวถังจนเกิดการเผาไหม้ไม่สม่ำเสมอ ควรนำรถไปตรวจสอบสภาพทันที
กรณีประสบปัญหาเพลิงไหม้รถยนต์
ผู้ขับขี่ควรตั้งสติ แล้วรีบนำรถจอดข้างทางทันทีและดับเครื่องยนต์ เพื่อตัดระบบไฟฟ้าทันที แต่หากเป็นรถที่ใช้ระบบก๊าซ ต้องรีบปิดวาล์วถังทันที แต่หากเกิดเพลิงไหม้เพียงเล็กน้อย ให้เจ้าของรถยนต์นำผ้าแห้งหรือผ้าที่เปียกน้ำหรือทรายมาโปะ หรือตบบริเวณที่เกิดไฟไหม้ หรือเจาะปากขวดน้ำที่มีน้ำเป็นรูเล็กๆ แล้วฉีดบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ และหากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ให้รีบหนีออกห่างจากรถที่ เกิดเพลิงไหม้โดยเร็วที่สุด แต่หากเป็นรถที่ใช้ระบบก๊าซควรรีบปิดวาล์วถังก๊าซ หากเป็นวาล์วอัตโนมัติให้เปิดฝากระโปรงแบบแง้มไว้พร้อมดับไฟ
เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถยนต์ของท่าน จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เลือกสินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..วางใจทำประกันรถยนต์กับเรา ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง พร้อมบริการที่สะดวก รวดเร็ว สนใจคลิก
ประกันรถยนต์