« เมื่อ: มิถุนายน 22, 2021, 10:29:18 AM »
เมื่อครั้งเรายังเด็ก เราอาจจะตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆว่า ทำไมเราต้องมาเรียนและเราจะได้ความรู้อะไรจากการเรียนเหล่านี้ การได้ลงมือทำและทดลองทำในสิ่งต่างๆที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เราสามารถตอบปัญหาที่ค้างคาใจได้ไม่มากก็น้อย ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราล้มเหลวจากสิ่งที่เราทำ แน่นอนว่าความรู้สึกแรกที่ประดังเข้ามาเลยคือ ความเสียใจ ความผิดหวัง และความท้อแท้ที่ไม่อยากจะทำอะไรต่อไป แต่เมื่อเราพิจารณาว่า เราสามารถนำประสบการณ์เหล่านั้นมาวิเคราะห์ถึงจุดเด่นและข้อบกพร่องที่เรามี จากนั้นก็นำมาปรับปรุงทำให้ดีขึ้น
การที่จะเป็นคนที่มีคุณภาพทั้งด้านความสามารถและทัศนคตินั้น ต้องเกิดจากการปลูกฝังที่ดีจากครอบครัว รวมไปถึงการได้คลุกคลีกับคนรอบข้างที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การที่เราไม่หยุดเพิ่มทักษะต่างๆ ทั้งการอ่านและการลงมือปฏิบัติ การได้เลือกเรียนในสถานศึกษาที่ตอบโจทย์ของตัวเราเองก็มีส่วนทำให้เรานั้นมีคุณภาพ แต่ไม่ใช่ว่าจะสถานศึกษาที่อื่นไม่ดี ซึ่งไม่ใช่ตรรกะที่ถูกต้องนัก ไม่ว่าเราจะจบมาจาก Top International school Bangkok ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ หรือจะมาจากระดับตำบล ถ้าพื้นฐานเราเป็นคนไม่หยุดนิ่งและพร้อมจะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่าเรื่องใด อุปสรรคใดก็สามารถแก้ปัญหาข้ามผ่านไปได้ ซึ่งในเว็บไซต์แมนพาวเวอร์ได้แชร์บทความเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะไว้ว่า ในยุคปัจจุบันการพัฒนาทักษะในการทำงานถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่พนักงานและนายจ้างไม่ควรมองข้ามและสมควรที่จะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เราสามารถแบ่งการพัฒนาทักษะการทำงานออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือการพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ (EQ) และ ประเภทที่สองคือการพัฒนาทักษะทางด้านความสามารถที่เป็นสิ่งที่จับต้องและวัดได้เช่นเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษ (English skill) เพิ่มทักษะในด้านการบริหารจักการ (management skill) ทักษะในการเป็นผู้นำ (leadership skill) และทักษะด้านการสื่อสาร (communication skill) เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาทักษะการทำงานควรจะต้องพัฒนาทั้งสองประเภทควบคู่กันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงสุด การที่พนักงานจะมีพร้อมทั้งสองทักษะก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะพัฒนาไม่ได้ เทคนิคการพัฒนาทักษะการทำงานก็มีอยู่มากมายแล้วแต่มุมมองและความเหมาะสมของแต่ละบุคคลหรือองค์กรที่จะนำมาใช้เพื่อให้เข้ากับสภาพการทำงานและให้เข้ากับพนักงานให้มากที่สุด การพัฒนาทักษะการทำงานไม่ใช่เรื่องยาก แต่การปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความสำเร็จต่างหากที่เป็นสิ่งที่ยาก ถ้าเรารู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติ และไม่เห็นความสำคัญ เช่น คิดว่าทำไปก็เท่านั้น ทำไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น เราอาจจะกำลังทำร้ายตัวเองทางความคิด เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นหนึ่งในบุคคลที่กำลังทำร้ายตัวเองทางความคิด เราควรปรับความคิดใหม่ให้คิดบวก สุดท้ายนี้เราทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนาทักษะการทำงานของตนเองและคิดว่าทุกๆคนมีความรู้สึกและอยากที่จะให้ตัวเองมีความพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพียงแต่จะมีใครที่จะดึงความตั้งใจและความพยายามเหล่านั้นมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่ากันท่านั้น