ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แชร์ 6 ขั้นตอนอย่างง่าย เพื่อต่ออายุ ยาง Bridgestone ให้ยาวนาน

ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ควรดูแลรักษาให้มีสภาพดีไม่ใช่แค่เพื่อให้ยืดอายุการใช้งานยาวนานที่สุด แต่สภาพของยางรถยนต์ยังส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้ คนใช้รถหลายคนปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเช็กสภาพยางรถยนต์สม่ำเสมอ ทำให้เกิดผลเสียยางรถสึกหรอเร็วกว่าปกติ ต้องเปลี่ยนยางทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนด ทำให้สิ้นเปลืองเงินและเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ เคล็ดลับการดูแล ยาง Bridgestone ยืดอายุให้ใช้งานไปนาน ๆ มี 6 ขั้นตอนต่อไปนี้
 1.การรักษาระดับความดันลมยาง
ก่อนใช้งานรถยนต์ โดยเฉพาะการขับระยะทางไกล ควรตรวจเช็กลมยางว่าตรงตามสเปกหรือไม่ การเติมลมยางที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ จำเป็นต้องรักษาระดับความดันลมยางให้เหมาะสมกับยางแต่ละประเภทเสมอ ถ้าลมยางอ่อนหรือแข็งเกินไปจะมีผลต่อการบังคับรถยนต์ เช่น พวงมาลัยหนักควบคุมยาก เร่งเครื่องไม่ขึ้น สิ้นเปลืองน้ำมัน รวมทั้งตรวจเช็กความดันลมยางของยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งานด้วย
2.ตรวจสอบความดันลมยางเป็นประจำ
หมั่นตรวจเช็กความดันลมยางเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ถ้าขับรถทุกวันหรือเดินทางไกลบ่อยอย่างน้อยเช็กลมยางสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าจะเดินทางอย่างราบรื่นปลอดภัย ใช้อุปกรณ์วัดค่าความดันลมยางที่ได้มาตรฐานในช่วงที่ยางรถเย็นตัวลงแล้ว การสังเกตด้วยตาอาจไม่ตรงกับมาตรฐานความปลอดภัย ถ้าใช้ที่วัดค่าความดันลมยางจะให้ค่าแม่นยำ เช็กได้ค่าที่แน่นอนและเติมลมยางให้เหมาะสมต่อไป
3.สลับยางรถยนต์
โดยปกติการเติมลมยางตามเกณฑ์มาตรฐานยางรถยนต์จะมีการสึกหรอเท่ากันทุกเส้น หมั่นตรวจสภาพดอกยางเป็นประจำ ถ้ายางรถเกิดการสึกหรอไม่สม่ำเสมอแสดงถึงความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าลมยางแข็งเกินไปจะเกิดสึกหรอมากบริเวณตรงกลางของยางรถ หรือลมยางอ่อนเกินไปจะสึกหรอบริเวณแก้มยางมากเป็นพิเศษ การสลับยางรถยนต์เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จากนั้นควรปรับระดับความดันลมยางล้อหน้าและล้อหลังให้ถูกต้องต่อไป
4.สังเกตความผิดปกติหรือรอยแตกบนยาง
หมั่นตรวจสอบใส่ใจดูแลยางรถอยู่เสมอ ถ้ามีรอยแตก รอยฉีกขาด บ่งบอกว่ายางรถเริ่มเสื่อมสภาพ แนะนำให้เปลี่ยนใช้ยางอะไหล่ไปก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุระหว่างเดินทาง รอยแตกบนแก้มยางเกิดจากการเติมลมยางอ่อนเกินไป ขับใช้งานบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ถูกหินแหลมคมบาด หรือเสียดสีกระแทกเข้ากับขอบถนน รวมถึงการจอดรถกลางแสงแดดเป็นประจำมีส่วนทำให้ยางมีการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะจะมีรอยแตกเกิดบนเนื้อยาง ส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว ถ้าตรวจสอบสภาพยางอยู่เสมอจะสังเกตเห็นได้และเปลี่ยนยางใหม่เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อต้องการ เปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี และอาจมีคำถามอีกว่าแล้ว ยาง Bridgestone ดีไหม คำตอบคือ โครงสร้างและเนื้อยางของยาง Bridgestone มีความแข็งแรงทนทาน มีหลายรุ่นให้เลือกเหมาะกับประเภทของรถยนต์และลักษณะการใช้งาน
5.ไม่บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป
การบรรทุกของหนักมีผลต่อยางรถมากกว่าที่คิด ถ้ายางรถต้องแบกรับน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยวและเบรกลดลงและล้อยางสึกหรออย่างรวดเร็ว ควรเติมความดันลมยางเพื่อให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น เพราะการบรรทุกเกินอัตราทำให้เกิดความร้อนสูง แก้มยางชำรุดและอายุยางน้อยลง หากต้องการให้ยางรถมีความทนทานสูง แนะนำให้ดูแลรักษาสภาพยางอย่างถูกต้อง  จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
6.ใช้งานยางรถยนต์ให้ถูกประเภท
ยางรถยนต์ bridgestone มีให้เลือกหลายรุ่น ทั้งยางนุ่มเงียบ ยางออฟโรด ยางรถกระบะ หรือยางรถตู้ ควรเลือกประเภทยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมกับดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้ขับรถปลอดภัย ลดการสึกหรอของหน้ายาง และยืดอายุการใช้งานอีกด้วย
สำหรับคนที่กำลังมองหายางยี่ห้อไหนนุ่มเงียบที่เหมาะกับการใช้งาน แนะนำให้เลือก ยาง Bridgestone ประเภทยางนุ่มเงียบที่เหมาะกับการใช้งานบนถนนแห้งและถนนเปียก เกาะถนนได้ดี การเลือกประเภทยางให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่จะช่วยยืดอายุของยางให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น