ขึ้นปีใหม่แล้ว อยากจะเป็นคนใหม่ที่มั่นใจกว่าเดิม แต่จะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนตในช่วงนี้ก็กลัวโควิดใช่ไหมล่ะคะ? ถ้าอย่างนั้นเรามาเปลี่ยนบ้านให้เป็นโฮมฟิตเนตกันดีกว่าค่ะ ทั้งปลอดภัยจากการใช้ของร่วมกับคนอื่น และยังสะดวกเพราะไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อไปฟิตเนตด้วยค่ะ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10
อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน ที่จะเป็นตัวช่วยให้การออกกำลังกายของเราหลากหลายขึ้นด้วยค่ะ
ประโยชน์ของการออกกำลังกายที่บ้าน1. ประหยัดเวลา อยากจะออกกำลังกายตอนไหนก็ได้เพราะเรามีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านเป็นของตัวเอง ดังนั้นนึกอยากจะออกกำลังกายเช้าหรือดึกแค่ไหน จะเล่นนานแค่ไหนก็ไม่มีีใครมาว่าค่ะ ก็ของเราเองนี่เนอะ
2. ไม่ต้องกลัวคนรอใช้เครื่องต่อก็เพราะอปกรณ์ออกกำลังเป็นของเราเอง แล้วยังเล่นเองอยู่ที่บ้านด้วย อยากจะครองอุปกรณ์นานแค่ไหนก็ได้ค่ะ ไหน ๆ ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ!
3. ปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่นในช่วงนี้โรคระบาดอย่างโควิดทำให้เราเป็นโรคระแวงในการพบเจอผู้คน และการใช้อุปกรณ์ร่วมกันใช่ไหมคะ ดังนั้น การออกกำลังกายที่บ้านจึงตอบโจทย์สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันเลยค่ะ
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการจ่ายค่าสมาชิกฟิตเนตจะออกกำลังกายที ต้องไปจ่ายเงินค่าสมาชิกฟิตเนตที แถมราคาก็ไม่ใช่ว่าถูกด้วย แต่จะมีสักกี่คนที่เล่นอุปกรณ์ออกกำลังกายในฟิตเนตจนคุ้มกับค่าสมาชิกที่จ่ายไป ไหนจะความไม่สะดวกทั้งเวลาที่จำกัด ดังนั้นการซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านเฉพาะที่ต้องการใช้ ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียว แล้วสามารถใช้ได้อีกยาว ถือว่าคุ้มกว่าการจ่ายค่าสมาชิกแน่นอนค่ะ
ออกกำลังกายที่บ้าน Vs ออกกำลังกายที่ฟิตเนสหากถามว่าการออกกำลังกายที่บ้านกับการออกกำลังกายที่ฟิตเนสอย่างไหนดีกว่ากัน คงให้คำตอบแบบชัด ๆ ได้ยากค่ะ เพราะทั้งสองอย่างต่างมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคลค่ะ แต่เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างของการออกกำลังกายที่บ้านกับการออกกำลังกายที่ฟิตเนสให้เห็นกันค่ะ
ออกกำลังกายที่บ้านข้อดีและประโยชน์อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในเรื่องความสะดวกทั้งเวลา ความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่น แต่ข้อเสียเปรียบของการออกกำลังกายที่บ้านที่อาจสู้การออกกำลังกายที่ฟิตเนตไม่ได้เลยคืออุปกรณ์ที่ครบครันกว่า เป็นไปได้ยากที่เราจะซื้ออุปกรณ์ทุกชนิดที่อยากเล่นมาไว้ในบ้านตัวเอง ไหนจะเรื่องของราคาบางเครื่องที่แพง และข้อจำกัดของพื้นที่ในบ้าน เพราะอุปกรณ์บางชนิดมีขนาดใหญ่ด้วยค่ะ ถ้าอยู่คอนโดยิ่งเป็นไปได้ยากมากที่เราจะซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดมาไว้ในห้องเลยค่ะ
ออกกำลังกายที่ฟิตเนสข้อดีหลัก ๆ ของการออกกำลังกายที่ฟิตเนตเลยคือความครบครันของอุปกรณ์ออกกำลังกายค่ะ เราสามารถเลือกอุปกรณ์ที่เขากับโปรแกรมออกกำลังกายของเราได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นในฟิตเนตจะมีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำเรื่องอุปกรณ์ออกกำลังกาย และการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้เราได้ด้วยค่ะ แต่ในความเป็นจริง หลาย ๆ คนมีความไม่แน่นอนเรื่องเวลา ทำให้การมาออกกำลังกายที่ฟิตเนตทำได้ไม่ต่อเนื่อง แถมยังต้องเสียค่าสมาชิกอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญในสถานการณ์โควิดที่เรื้อรังมานาน การจะไปพบเจอผู้คนในช่วงนี้ก็คงจะไม่เหมาะใช่ไหมคะ
แนะนำ 10 อันดับ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ควรมีติดบ้าน
1. เสื่อโยคะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่นับว่าเป็นพื้นฐานเลยค่ะ นอกจากจะไว้ใช้สำหรับเล่นโยคะแล้ว ยังใช้ซัพพอร์ตจากการเล่นบอดี้เวทได้อีกด้วยค่ะ การเลือกเสื่อโยคะที่ดีนั้นสำคัญมาก ๆ หากคุณภาพของเสื่อโยคะไม่ดี อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ค่ะ แถมถ้าเสื่อมสภาพเร็ว นั่นหมายความว่าเราต้องเสียเงินเพิ่มในการซื้อใหม่ เป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
สำหรับเสื่อโยคะที่อยากจะแนะนำเลยคือ Bebe Fit Routine Yoga Mat วัสดุทำจากยางพาราธรรมชาติ จึงมีความยืดหยุ่นสูง พื้นผิวนิ่ม คงสภาพ ทนทาน พร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อปู สามารถรองรับแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บได้ดี ราคาเพียง 1790 บาทเท่านั้น
2. ลูกบอลโยคะ หรือบางคนเรียกลูกบอลพิลาทิส เจ้าลูกบอลโยคะเนี่ย ไม่ได้มีไว้สำหรับเล่นโยคะ หรือเอามานั่งเด้งเล่นเฉย ๆ ประโยชน์ของลูกบอลโยคะคือเป็นตัวช่วยฝึกความยืดหยุ่นและการทรงตัว หรือใช้บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
ลูกบอลโยคะ Bebe Fit Routine Pilates Ball วัสดุทำจากพลาสติก PVC แข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่นได้ดี ใช้เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย ราคาเบา ๆ 290 บาทเท่านั้นค่ะ
3. เชือกกระโดดอุปกรณ์ออกกำลังกายยอดฮิตที่หลาย ๆ คนมีติดบ้าน เนื่องจากใช้งานง่าย อุปกรณ์มีขนาดเล็กเก็บง่าย พกพาง่าย การออกกำลังกายด้วยเชือกกระโดดนั้นนอกจากยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่แล้ว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงแก่กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อแขนอีกด้วยค่ะ
การกระโดดเชือกดูเหมือนจะง่าย แต่หลายคนพบปัญหากับการกระโดดเชือกไม่ได้ ด้วยความไม่ได้มาตรฐานของอุปกรณ์ค่ะ Bebe Fit Routine Speed Rope ด้วยคุณสมบัติที่สามารถปรับความยาวเชือกได้ให้เหมาะกับเรา สายเชือกทำจากลวดเหล็กหุ้มด้วยพีวีซี ละด้ามจับทำจากอลูมิเนียมผสมอัลลอย ทำให้อุปกรณ์มีความทนทาน เหมาะสมกับการใช้กระโดดค่ะ ราคาเพียง 790 เท่านั้น ไปตำกันด่วนค่ะ
4. ฮูล่าฮูป ฮูล่าฮูปเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านยอดฮิตไม่แพ้กับเชือกกระโดดเลยค่ะ โดยจุดเด่นของฮูล่าฮูปคือการเผาผลาญพลังงาน และยังช่วยลดไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกด้วยค่ะ ฮูล่าฮูปเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านง่าย ๆ แต่เราควรคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ ควรจะมีมาตรฐานเพื่อให้การออกกำลังกายของเรามีประสิทธิภาพค่ะ อย่างแบรนด์ที่แนะนำคร่าว ๆ เช่น FBT, S sport, JASON เป็นต้นค่ะ
5. ดัมเบล บาร์เบลดัมเบล และบาร์เบลเป็นเบสิคของอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านค่ะ ใช้งานง่าย จุดเด่นคือไว้เพิ่มแรงต้าน เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อค่ะ
แต่ด้วยความไม่สะดวกของดัมเบล และบาร์เบลที่อาจใช้เพียงแค่ยกน้ำหนักอย่างเดียว อยากจะลองออกกำลังกายท่าอื่น ๆ ไปด้วยคงทำได้ยาก Bebe Fit Routine Freeform Wrist Weights ตัวนี้สามารถใช้แทนดัมเบล และบาร์เบลได้เลยค่ะ ด้วยความสามารถพิเศษคือการปรับรูปร่างได้อิสระ เราจึงนำมาพันไว้ที่ร่างกายเราเพื่อเพิ่มแรงต้าน ในขณะที่ฝึกท่าอื่น ๆ ได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังทำด้วยวัสดุชั้นดี กันน้ำ กันเหงื่อ ทำความสะอาดง่าย คุณภาพขนาดนี้กับราคา 990 บาทนับว่าคุ้มมากค่ะ
6. บาร์โหนติดประตูหากต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อช่วงบน ไหล่ หลัง แขน หน้าท้อง บาร์โหนติดประตูเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่น่าสนใจเลยดีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยในการปรับสรีระให้หลังตรง บุคลิกดียิ่งขึ้นค่ะ
Bebe Fit Routine Pull Up Bar ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะ วัสดุแกนทำด้วยเหล็กแท้ และด้ามจับแบบบุฟองน้ำหนาคุณภาพดี พร้อมวัสดุยางยึดเกาะป้องกันการลื่นไถลที่ปลายทั้งสองด้าน และรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้มากถึง 136 กิโลกรัม ราคาเพียง 1,100 บาทเท่านั้นค่ะ
7. ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้องอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านที่น่าสนใจอีกตัวคือลูกกลิ้งบริหารหน้าท้องค่ะ ด้วยจุดเด่นของเขาคือเสริมสร้างกล้ามเนื้อช่วงลำตัว สร้างซิกแพค ลดหน้าท้องค่ะ
สำหรับ Bebe Fit Routine 2in1 Roller x Handles มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษที่ใช้ได้ถึง 2 วัตถุประสงค์คือ ใช้เป็นลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง และใช้เป็นบาร์จับได้ด้วยค่ะ วัสดุทำจาก PP + TPE + NBR ออกแบบมาเพื่อให้สามารถรับแรงกระแทกและน้ำหนักได้สูง แถมยังพับเก็บ พกพาสะดวกด้วยค่ะ ราคา 890 บาทเท่านั้น
8. ลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้าการออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายและนิยมมาก ๆ คือการวิ่งค่ะ แต่ในเมื่อจะให้ไปวิ่งนอกบ้านก็ไม่สะดวกหลาย ๆ อย่าง ลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ แต่ข้อจำกัดคือขนาดเครื่องที่ใหญ่ และราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนเลยค่ะ แต่ไหน ๆ จะซื้อแล้วก็ต้องเลือกลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้าที่มีคุณภาพด้วย ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมคือ SOLE, HORIZON, JASON
9. เครื่องออกกำลังกาย Air Walkerเครื่องออกกำลังกายที่บ้านชิ้นใหญ่อีกตัวคือ Air Walker หรือเครื่องเดินบนอากาศ จุดเด่นคือการเดินบนแท่นเหยียบที่เครื่อง เท้าของเราจะไม่ติดพื้นค่ะ ช่วยลดแรงกระแทกจากการเดินได้เล็กน้อย แต่ก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้เหมือนกัน และยังเป็นการบริหารช่วงอก เอว สะโพก ต้นขาได้อีกด้วยค่ะ ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมเช่น FIT HORIZON เป็นต้น
10. จักรยานออกกำลังกายที่บ้านเครื่องออกกำลังกายที่บ้านชิ้นสุดท้ายที่แนะนำคือจักรยานออกกำลังกายที่บ้านค่ะ จุดเด่นคือทำให้การออกกำลังกายนั้นง่ายและสนุกมากขึ้น สามารถดูหนังไปปั่นจักรยานไปได้เพลิน ๆ เลย แถมยังได้เผาผลาญพลังงานอีกด้วย
BEBE FIT ROUTINE SPINNING BIKE เขามาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่มากมาย เช่นมีการวัดชีพจรแบบมือสัมผัส แฮนด์และเบาะนั่งปรับระดับได้ตามสรีระของผู้ใช้ มีหน้าจอ LCD แสดงผลระยะทาง ความเร็ว แคลอรี่ และอัตราการเต้นของหัวใจ และตัวเครื่องทำด้วยวัสดุคุณภาพ เหมาะสำหรับสายฟิต ราคา 29,900 บาทค่ะ
ข้อควรระวังในการออกกำลังกายที่บ้าน- อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านควรได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแข็งแรงของอุปกรณ์ก่อนใช้งานทุกครั้ง
- ควรมีการวอร์มอัพก่อนเริ่มออกกำลังกายทุกครั้งเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- ไม่ควรหักโหมในการออกกำลังกาย ทำแต่พอดี
- หากอยู่คนเดียวควรพกมือถือติดตัว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นสามารถแจ้งคนรอบตัวได้ทันที
ข้อสรุป ‘อุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้าน’การออกกำลังกายที่บ้านสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่มีความรู้ และมีความตั้งใจ ก็สามารถเปลี่ยนบ้านของเราเป็นโฮมฟิตเนตได้ค่ะ ทั้งสะดวกและส่วนตัว และยังสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่เริ่มสนใจการออกกำลังกายและหาอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านนะคะ