นึกว่ารังแคธรรมดาที่ไหนได้ดันเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะซะได้!!! ปัญหารังแคอาจจะเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ธรรมดาสำหรับผู้หญิง เฮ้อ...แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีละ!!! สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องของเชื้อราบนหนังศีรษะไม่ต้องอายไปนะคะ เพราะสามารถรักษาให้หายได้ แต่ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลยไปนานๆ นะวันนี้ Sistalk เลยจะมาแนะนำ วิธีรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ ที่จะช่วยให้สาวๆ เตรียมโบกมือลาปัญหาเชื้อรา และ รังแคไปได้เลย จะมีวิธีไหนบ้างต้องไปอ่านแล้วนะคะซิส!!!!
ต้นเหตุของเชื้อรามาจากไหน ทำไมถึงมีเชื้อราอยู่บนหนังศีรษะได้ ?
การที่เป็นเชื้อราบนหนังศีรษะ ยังไม่สามารถบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้ เพราะแต่ละคนก็อาจจะมีสาเหตุที่ต่างกันออกไป การเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเกิดจาการที่ถูกกระตุ้นภายนอก และ ภายใน รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ ก็ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อรา
การเจริญของเชื้อรา Malassezia ซึ่งเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่บนร่างกายตามผิวหนังต่างๆ ปกติเชื้อตัวนี้จะไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีรังแค จะทำให้มีเชื้อตัวนี้เยอะ และ ทำให้เกิดเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะได้
ความมัน และ ความอับชื้นบนหนังศีรษะ ความมัน ความอับ เป็นสิ่งที่พวกเชื้อราชื่นชอบ เมื่อมีมากๆ จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
สภาพอากาศ อุณหภูมิที่ไม่ดี หากอากาศหนาวจะเพิ่มโอกาสที่จะเป็นเชื้อราได้ง่ายแถมรวดเร็ว รวมทั้งในสภาพอาการที่แห้งก็ทำให้เกิดรังแคได้ง่าย และ กลายเป็นรังแคในที่สุด
ฮอร์โมนเพศ อย่างฮอร์โมนเพศชายจะผลิตไขมันออกมาในช่วงวัยรุ่น และ จะผลิตได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ความมันที่ฮอร์โมนผลิตออกมาทำให้เกิดเป็นรังแค ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และ โรคทางระบบประสาท โรคทางพันธุกรรม จะทำให้เกิดการอักเสบ เชื้อราได้ง่าย เช่น โรคเอดส์ โรคพาร์คินสัน
ความเครียด การขาดสารอาหาร และ การดื่มแอลกอฮอล์ วิธีรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ ให้หนังศีรษะกลับมาเหมือนเดิม
หากเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะต้องรีบรักษา!!! เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่สามารถขยายตัว และ เติบโตได้ ดังนั้นจึงต้องรีบรักษาก่อนที่เชื้อราจะลามไปทั่วทั้งหนังศีรษะ เราจะมาแนะนำเพื่อทำการรักษา จริงๆ แล้วสามารถทำได้หลายวิธี โดยแต่ละวิธีที่เราจะมาแนะนำก็ง่ายมากๆ ถ้าไม่อยากมีเชื้อราบนหนังศีรษะต้องทำด่วนๆ !!!
ทำความสะอาดของที่ต้องสัมผัสหนังศีรษะเป็นประจำ
ของที่ใกล้ตัวนี่แหละเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนมองข้าม บางทีสาเหตุของเชื้อราอาจจะมาจากข้าวของเครื่องใช้ที่สกปรก แม้ว่าของจะยังดูสะอาดแต่ก็อาจจะมีเชื้อรา และ สิ่งแปลกปลอมปะปนอยู่ เช่น หวีที่เราต้องหวีอยู่เป็นประจำ ให้ล้างหวีบ่อยๆ หรือ อาจจะเปลี่ยนเป็นหวีซี่ใหญ่แทนเพื่อเลี่ยงการสะสมของสิ่งสกปรกนอกจากหวีแล้ว หมวก ผ้าเช็ดผม ปลอกหมอน และ ผ้าปูที่นอนก็สำคัญ ต้องหมั่นเอาไปซัก และ ตากแดดเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละ 1 - 2 ครั้งได้จะดีมาก (อย่าปล่อยให้เน่าแล้วถึงเอาไปซักนะคะซิส!!!)
สระผมด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะ
ใครที่เป็นรังแค หรือ เชื้อราไม่ควรใช้ยาสระผมทั่วไป เพราะยาสระผมทั่วไปบางประเภทมีส่วนผสมของสารปรุงแต่งทั้งสี ทั้งกลิ่น นอกจากจะไม่ช่วยทำให้หายแล้ว ยังจะทำให้เชื้อราเกิดลามไปใหญ่โต ควรจะใช้แชมพูยาที่รักษาเชื้อราโดยเฉพาะ แชมพูยาที่แนะนำควรจะเลือกที่มี
2% Ketoconazole อย่าง Fungazol Shampoo ที่เป็นแชมพูสำหรับลดรังแค และ เชื้อราบนหนังศีรษะที่มีประสิทธิภาพในการรักษารังแคที่ดี และ เร็วกว่าแชมพูแบบปกติ ช่วยในการลดความมันของหนังศีรษะได้ดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการกลับมาเป็นรังแค และ เชื้อราซ้ำเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทุก 1 - 2 สัปดาห์ แม้จะเป็นแชมพูยาแต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างที่คิดเลย ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคือง นอกจากนั้นหากคุณเป็นคนที่ทำสีผม ก็ไม่ทำให้สีผมเปลี่ยนเหมือนแชมพูบางชนิดไม่มีส่วมผสมที่ระคายเคืองจึงเหมาะกับคนที่เป็นรังแค และ เชื้อรามากกว่า!!!
ประโยชน์ของ 2% Ketoconazole ที่ช่วยรักษาเชื้อรา และ รังแค-เข้าไปฆ่าเชื้อรา โดยการยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของเชื้อราบนหนังศีรษะ
-ช่วยลดการอักเสบบนหนังศีรษะที่มาจากการคัน และ เชื้อรา
-ช่วยลดการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผม และ ทำให้รากผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
-ช่วยลดการสร้าง Sebum ทำให้หนังศีรษะมันน้อยลง ใครที่หนังศีรษะมันควรใช้
วิธีการสระผมที่ถูกต้องสำหรับคนเป็นเชื้อรา และ รังแคบนหนังศีรษะ
1.ทำการผสมน้ำแล้วชโลมให้ทั่วหัว
2.จากนั้นให้หมักทิ้งเอาไว้ประมาณ 3 - 5 นาที เพื่อให้แชมพูยาได้ออกฤทธิ์ เมื่อครบเวลาแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3.แล้วทำการล้างผม และ เช็ดผมให้แห้งก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับใครที่อยากจะรักษารังแค และ เชื้อราให้ใช้ 2% Ketoconazole สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และ ใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 - 4 สัปดาห์ ส่วนใครที่มีปัญหาโรคเกลื้อนร่วมด้วยให้ใช้วันละครั้ง ใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 5 วัน และ สำหรับใครที่ไม่อยากกลับมาเป็นเชื้อราซ้ำ ให้ใช้แชมพูสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้ต่อเนื่องทุกๆ 1 - 2 สัปดาห์ เพียงเท่านี้ปัญหารังแค และ เชื้อราก็จะไม่มาให้กวนใจอีก
เป่าผมให้แห้งอย่าให้ผมชื้น
บางคนละเลยเรื่องการเป่าผม เพราะคิดว่าสระผมเสร็จแล้วสะอาดแล้ว ถึงแม้จะสระผมเสร็จแล้วก็ต้องเป่าผมให้แห้ง อย่าให้ผมชื้น บางคนเห็นว่าผมหมาดๆ ก็ไปนอนเลยแบบนี้ไม่ได้นะคะซิส (ยื่นมือมาโดนตีเดี๋ยวนี้!!!) ผมไม่แห้งห้ามนอนเด็ดขาด ควรจะเป่าผมให้แห้งแต่การเป่าผมก็ไม่ควรใช้ลมร้อน หรือ เป่าด้วยพัดลมแทนก็ได้ แต่ขอร้องนะคะอย่าปล่อยให้ผมชื้นแล้วไปนอน ขอแค่นี้จริง!!!
หมักผมฆ่าเชื้อราด้วยสมุนไพร
สมุนไพรพื้นบ้านก็นับว่ามีประโยชน์มากๆ หากใครที่มีเชื้อราบนหนังศีรษะนอกจากที่จะต้องเลือกแชมพูสำหรับรักษาเชื้อราโดยเฉพาะแล้ว ก็อาจจะใช้การหมักผมด้วยสมุนไพรไทยเพื่อช่วยรักษาเชื้อราได้ อย่างเช่นการหมักด้วยมะกรูด มะนาว ว่านหางจระเข้ มาหมักผม ซึ่งจะมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกำจัดรังแคได้ดี อาจจะทำสัปดาห์ละครั้งแต่ไม่ต้องทำบ่อยเกินไป โดยเฉพาะพวกสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างมะกรูด และ มะนาว (เดี๋ยวแสบหัวเอานะคะซิส!!! ทางที่ดีก่อนใช้ให้ลองเทสเบาๆ ก่อนว่ารับไหวมั้ย)
อุณหภูมิมีผลต่อหนังศีรษะ
อย่างที่เราได้บอกไปว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราอาจจะมาจากอุณหภูมิที่ไม่ดี ไม่ว่าจะอากาศร้อน หรือ เย็นก็ส่งผลต่อเชื้อราบนหนังศีรษะด้วยกันทั้งสิ้น หากใครที่ต้องทำงานในห้องแอร์ให้ปรับอุณหภูมิประมาณ 25 องศาก็พอ เพราะว่าเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ทำให้หนังศีรษะแห้ง และ ทำให้เกิดรังแค หากอากาศแห้งจัดๆ อาจจะใช้เครื่องทำความชื้น หรือ ทำการระบายอากาศก็ได้
เห็นมั้ยละคะว่าถ้าอยากหายจากเชื้อราง่ายนิดเดียว แค่ทำไม่กี่วิธีก็ช่วยขจัดรังแค และ รักษาเชื้อราบนหนังศีรษะได้แล้ว แค่เรารักษาความสะอาดของหนังศีรษะ ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ปัญหาเชื้อราบนหนังศีรษะหมดไปอย่างง่ายได้ และ ต้องอย่าลืมที่จะ
-ดูแลรักษาความสะอาดของหนังศีรษะให้ดี
-หมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำ
-หลีกเลี่ยงการทำให้หนังศีรษะมัน และ แห้ง ทั้งจากสภาพอากาศ การใช้ชีวิตประจำวัน
-หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะไปกระตุ้นให้เกิดรังแค และ เชื้อรา เช่น แชมพูที่ใช้ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งผมต่างๆ
-หลีกเลี่ยงการทำให้หนังศีรษะชื้นแฉะ เพราะความชื้นเป็นจุดเริ่มต้นของเชื้อราที่ดี และ ทำให้ลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ทางที่ดีหากสระผมแล้วควรรีบเป่าผมให้แห้ง และ ห้ามนอนตอนผมเปียกเด็ดขาด!!!
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถหายจากเชื้อราบนหนังศีรษะได้แล้ว แต่หากใครที่เชื้อราลุกลามใหญ่โต หรือ ทำแล้วไม่ดีขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อรีบรักษา เพราะคุณอาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย แต่ไม่ใช่ปล่อยให้เชื้อราลุกลามใหญ่แล้วจึงค่อยรักษานะคะ เพราะเชื้อราอาจจะมีผลรุนแรงได้หากลุกลามไปมาก ทางที่ดีควรรีบแก้ก่อนจะสายไป เพียงเท่านี้คุณก็กลับมามีหนังศีรษะสวยดังเดิมได้แล้ว อยากโบกมือลาจากเชื้อราลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะค ถ้าดีอย่าลืมแชร์ต่อเพื่อนด้วยนะคะซิส!!!
อย่าให้ปัญหาผู้หญิงๆ มากวนใจเพราะแก้ไขได้ที่ Sistalk !!!
นอกจากวิธีรักษารังแคที่เราเอามาฝากแล้ว ก็ยังมี
แชมพูรักษารังแคปังๆ ที่รวบรวมมาให้อีกด้วยใครเป็นรังแคไม่ควรพลาด นอกจากเรื่องของรังแคแล้วหากใครที่ปัญหาเรื่องของ
วิธีแก้ปวดประจำเดือน อาการPMSก่อนมีประจำเดือน
การลดน้ำหนัก และ เรื่องอื่นๆ พบกับบทความเรื่องความรัก สุขภาพ เรื่องลับๆ ของผู้หญิงที่ควรรู้เอาไว้ได้ที่ Sistalk แล้วคุณจะไม่ตกเทรนด์ใหม่ๆ แถมยังได้ความรู้ สาระต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาเรื่องของผู้หญิงๆ อย่างเราได้ดีมากยิ่งขึ้น แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะสาวๆ
Sistalk เพราะเราเข้าใจผู้หญิงดี
สามารถติดต่อสอบถาม
Sistalk ช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook :
sistalk.in.thInstagram :
sistalk.in.thTwitter :
@SistalkTH