ใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ ชอบถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ อยากได้ Action Camera อยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี ระหว่าง GoPro 10 ที่มีจอแสดงผลข้างหน้า ถ่ายวิดีโอได้คมชัดกับ Insta360 GO 2 ที่หน้าจอพร้อมกับ remote control สามารถชาร์จไป ถ่ายไปได้ เอาละมาดูกันดีกว่าว่าระหว่าง GoPro 10 vs Insta360 GO 2 กล้องตัวไหนจะเป็นกล้องคู่ใจของคุณ!!
ความแตกต่างระหว่าง GoPro 10 และ Insta360 GO 2
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ถ้าให้เปรียบเทียบกัน ในเรื่องของดีไซน์บอดี้ ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย GoPro 10 จะเป็นสีดำ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โลโก้ด้านหน้าจะเป็นสีฟ้า มีปุ่มเปิด - ปิด และกดถ่ายแยกกันอย่างชัดเจน ส่วน
Insta360 GO 2 นับแค่ตัวกล้องก่อนนะ
ตัวกล้องจะมีขนาดที่เล็กมากเรียกว่าเบาที่สุดในโลก มีตัว Charging Case ที่ใช้คู่กับกล้องได้ สามารถเป็นขาตั้ง ใครที่อยากจะพกพาง่ายๆ เบากระเป๋าแนะนำ Insta360 GO 2 แต่ถ้าใครไม่ได้กังวลความหนักนิดหน่อยของตัวเครื่อง แล้ว
ไปในสถานที่ต้องลุย เผื่อตัวเครื่องต้องรับแรงกระแทกก็หยิบ GoPro 10 ไปใช้ แบตเตอรี่
ถ้าพูดถึงแบตเตอรี่ของ GoPro 10 สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ แต่ถ้าเป็น Insta360 GO 2 แบตเตอรี่ในตัว ไม่สามารถถอดออกหรือเปลี่ยนได้ แบตเตอรี่ของ GoPro 10 จะมากกว่ามาพร้อมแบตเตอรี่ 1,729 mAh ส่วนInsta360 GO 2 แบตเตอรี่แค่ 210 mAh แต่ก็จะมี Charging Case ที่มี แบตเตอรี่ 1,100 mAh ชาร์จได้ประมาณ 3 รอบ
GoPro มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากกว่า Insta360 เหมาะในการใช้ถ่ายคอนเทนต์ในระยะเวลาที่ยาวหน่อย แต่ถ้าใครเน้นทางระยะเวลาสั้นๆ ก็แนะนำ Insta360 GO 2
การเชื่อมต่ออุปกรณ์
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของในเรื่องของ
การถ่ายโอนข้อมูลตัว GoPro 10 จะรวดเร็วกว่าด้วยชิป GP2 Processor ตรงที่โกโปรสามารถเชื่อมสายผ่าน USB เร็วขึ้น 40-50 % ถ้าผ่านแอปพลิเคชัน GoPro จะเร็วขึ้น 30% แต่ Insta360 go 2 จะมีแค่ เชื่อมสายผ่าน USB และแอปพลิเคชัน Insta360 ตัว GoPro 10 มีโหมดการ Livestream ที่ใช้งานง่ายตอบโจทย์คนไลฟ์ ส่วน Insta360 เหมาะสำหรับการถ่ายไปเช็กไฟล์ไป
การ Preview ภาพและวิดีโอ คือไวมาก
ความละเอียดของวิดีโอ
คุณภาพความละเอียดของวิดีโอ ระหว่าง GoPro 10 กับ Insta360 GO 2 บอกได้เลยว่าGoPro 10 กินขาดด้วยความละเอียดสูงสุดถึง
5K 60FPS / 4K 120FPS ภาพชัดแบบตาแตกกันเลยทีเดียว แต่Insta360 GO 2 จะมีความละเอียดที่น้อยกว่า อยู่ที่
3K/Full HD ได้ 50 30 25 24 FPS ตัว GoPro 10 ให้ความละเอียดได้ถึง 5K เหมาะสำหรับโปรดักชั่น หรือกับคนที่ชอบถ่ายให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนสมจริง แต่กับบางคนก็อาจจะไม่ได้เน้นว่าคุณภาพต้องออกมาชัดมากขนาดนั้นแค่พอชัดเจน มีสีสันที่แม่นยำ เน้นถ่ายหันกล้องแบบเข้าหาตัวเหมือน Vlog แบบนี้ก็เหมาะกับ Insta360 GO 2
ความละเอียดของภาพ
คุณภาพของภาพถ่ายตัวกล้องGoPro 10 ให้ความละเอียดถึง
23 ล้านพิกเซล สามารถปรับถ่ายภาพได้ถึง 4 ระยะ แถมยังมี HDR และ Super Photo สามารถถ่ายภาพนิ่งได้สวย แต่Insta360 GO 2 ให้ความละเอียดของภาพแค่
3 ล้านพิกเซล มีโหมด HDR เหมือนกัน กล้องทั้ง 2 ตัวนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานด้วยว่า หากเน้นใช้ถ่ายภาพด้วย อยากได้ภาพแบบคมชัด ถ่ายภาพเก็บแสง เก็บเงาต่าง ๆ ได้สวยมาก ถ่ายพวกวิวย้อนแสงแบบสบายๆ เลย แนะนำ GoPro 10 แต่ถ้าไม่ได้เน้นว่าภาพถ่ายต้องคมชัด แค่พอชัด สีภาพสวย สดใสก็แนะนำ Insta360 GO 2
ฟีเจอร์ ในการใช้งาน
ฟีเจอร์หลักๆ ที่ทั้ง 2 ตัวนี้จะมีคล้ายกัน อย่างGoPro 10 กับ Insta360 GO 2 ก็จะมีพวก Slow Motion, Timelapse, Hyperlapse และอื่น ๆ แต่ถ้าพูดถึงฟีเจอร์ที่เด่นเลยคือ ตัว GoPro 10 ถ้าเราจะวิ่ง หรือกระโดดก็นิ่งสนิทไม่สั่นด้วยระบบ HyperSmooth 4.0 และยังมีระบบ
Live Stream ที่เราสามารถจะสั่งให้ไลฟ์ได้เลยแค่จับคู่กับแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือว่าจะเป็น
Scheduled Capture เป็นการตั้งเวลาให้กล้องเริ่มถ่าย สำหรับใครที่อาจจะไปเที่ยวอยากเก็บบรรยากาศดี ๆ อย่างพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็กังวลว่าจะตื่นมาไม่ทันเก็บภาพก็สามารถใช้โหมดนี้ได้ แต่ถ้าหากใครไม่อยากพลาดช็อตเด็ดก็มีโหมด HindSight มันตั้งได้เลยว่าจะให้กล้องบันทึกวิดีโอล่วงหน้าก่อนกดถ่ายล่วงหน้า 15 หรือ 30 วินาที ส่วน
Insta360 GO 2 ก็มีฟีเจอร์ที่เหมาะกับใครที่เป็นสายโซเชียลมีเดีย ภายในแอปพลิเคชันเราสามารถ ปรับขนาดภาพได้หลังจากที่ถ่ายภาพ หรือวิดีโอ ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการทั้ง 9:16, 16:9 และ 1:1 โดยที่ภาพจะไม่เพี้ยน แบบถูกบีบเลย
อุปกรณ์เสริม
ใครเป็นสายที่ชอบลูกเล่นของอุปกรณ์เสริมแนะนำ GoPro 10 เพราะมันมีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายหาซื้อได้ง่าย อย่าง ไม้เซลฟี่, สายรัด อก หัว ข้อมือ, เคสกันน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยให้เราทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดทำให้เรามีอิสระในการถ่ายภาพถ่ายวิดีโอได้สะดวกง่ายมากยิ่งขึ้น
ใครที่เป็นมือใหม่ หมดห่วงเรื่องอุปกรณ์เสริมให้ยุ่งยากแนะนำ Insta360 GO 2 จะมีอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับตัวกล้องด้วยกันหลักๆ คือ Madnet Pendant, Pivot Stand และEasy Clip แต่ละตัวก็จะมีวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องที่แตกต่างกันออกไป
การรับประกัน
การรับประกันระหว่างGoPro 10 และ Insta360 GO 2 จะรับประกัน 1 ปี เป็นประกันจากศูนย์ จะต้องเกิดจากความผิดพลาดในการผลิต ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือ ความเสียหายที่มาจากการใช้งานผิดวิธี ความสึกหรอระหว่างการใช้งาน และสำหรับ Insta360 GO 2 จะมีตลับชาร์จ ถ้าหากโดนน้ำจะไม่ได้รับการรับประกัน เพราะมันไม่สามารถโดนน้ำได้อยู่แล้ว
กล้องตัวไหนเหมาะกับใคร???
สุดท้ายนี้คงไม่พ้นแน่ๆ กับคำถามที่ว่า GoPro 10 vs Insta360 GO 2 จะซื้ออะไรดี เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่ามันคนละตำแหน่งกัน ที่มีความแตกต่างกันทั้งขนาด, ราคา, ฟังก์ชันการใช้งาน, สีสันของภาพและวิดีโอ
GoPro 10 จะราคาสูงกว่า Insta360 GO 2 ที่มีชิปเซนเซอร์ตัวใหม่ และสเปคเทพ ฟีเจอร์หลากหลาย ให้คุณถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอได้สนุกไม่มีสะดุด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการภาพที่คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี หรือถึงขั้นที่เป็นงานระดับโปรดักชั่น
Insta360 GO 2 เหมาะสำหรับใครที่กำลังเป็นมือใหม่ป้ายแดง อยากได้กล้องแอ็กชัน ราคาน่ารัก พกพาง่าย ขนาดเล็กไม่เป็นที่แตะตาคน และไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมให้ยุ่งยาก
สนใจ Action camera และ อุปกรณ์อื่นๆ ต้องที่ Aquapro
ใครที่กำลังหากล้องกล้องโกโปร และ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ กับร้าน Aquapro ร้านตัวแทนจำหน่ายกล้องโกโปรแท้ที่มาพร้อมกับ GoPro 10 โปรโมชั่น สุดคุ้ม ของแถมจุกๆ โปรส่งฟรี พร้อมโปรผ่อนชำระ 0%* (ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร้านกำหนด) นอกจากจะจำหน่ายโกโปรแล้ว เรายังมีกลุ่มสำหรับแนะนำข่าวสาร และ เทคนิคการใช้งานเกี่ยวกับโกโปรเพิ่มเติมที่สาวกโกโปรควรจะรู้ อย่าพลาดข่าวสารดีๆนะ!!!
ติดตามและสั่งซื้อสินค้า
AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ทั้งกล้อง GoPro และอุปกรณ์เสริม GoPro ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook :
AquaproThailandLine :
@aquaproShopee :
AquaprothailandGoPro Group :
GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro