ถ้าประจำเดือนมาในช่วงนั้นเราไม่อยากให้ประจำเดือนมาล่ะ!!! เช่น การออกกำลังกาย หรือ เดินทาง ท่องเที่ยว ว่ายน้ำ ยิ่งใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้ว แบบนี้เราจะต้องทำอย่างไร? ยาเลื่อนประจำเดือน นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่จะช่วยในการเลื่อนประจำเดือนออกไป มีผลข้างเคียงกันหรือไม่ ถ้าไม่มียาเลื่อนใช้ยาคุมแทนได้หรือไม่? อยากรู้ห้ามพลาดบทความนี้เลย!!!
มาทำความรู้จัก ยาเลื่อนประจำเดือน คืออะไรกันดีกว่า ?
ยาเลื่อนประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนมาช้า หรือ มาเร็วกว่าปกติ เมื่อเข้าสู่ช่วงมีประจำเดือน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายของเราจะลดต่ำลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนแต่ถ้าทานยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าไป ก็จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมไม่หลุดออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเอง
ยาเลื่อนประจำเดือนต้องกินอย่างไร ?
- การเลื่อนเข้า หรือ เลื่อนประจำเดือนให้มาเร็วขึ้น ให้เริ่มกินยาก่อนที่จะถึงรอบเดือนประมาณ 10 - 14 วัน โดยให้กินต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นให้หยุดยาแล้วประจำเดือนจะมาในช่วง 2 - 3 วัน
ตัวอย่างเช่น ประจำเดือนจะมาในช่วงวันที่ 15 ของเดือน ให้ทำการกินยาตั้งแต่วันที่ 1 โดยกินต่อกันเป็นเวลา 5 วันแล้วหยุดกิน พอถึงวันที่ 5 ที่เป็นวันหยุดยาประมาณ 2 - 3 วันประจำเดือนก็จะมา นั่นก็คือพอวันที่ 7 - 8 ประจำเดือนก็จะมา ซึ่งจะมาเร็วกว่ารอบเดือนปกติประมาณ 7 วันนั่นเอง
- การเลื่อนออก หรือ เลื่อนประจำเดือนให้มาช้าลง ให้เริ่มกินก่อนที่จะถึงรอบเดือนประมาณ 3 - 7 วัน โดยจะทานต่อเนื่องไม่เกิน 2 สัปดาห์ และ เมื่อหยุดกินยาประจำเดือนจะมาในช่วง 2 - 3 วัน
ตัวอย่างเช่น ถ้าประจำเดือนมาในช่วงวันที่ 15 ของเดือน ให้เริ่มกินยาได้ตั้งแต่วันที่ 12 เมื่อรับประทานไปแล้วไม่ควรทานติดต่อกันนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ และ เมื่อหยุดกินยาประจำเดือนจะมาภายใน 2 - 3 วัน ถ้าเลื่อนประจำเดือนไป 1 สัปดาห์แล้วหยุดยา ประจำเดือนก็จะมาประมาณวันที่ 20 - 21 แต่ในบางคนประจำเดือนจะมาหลังหยุดกินยาประมาณ 7 วัน
อาการข้างเคียงของการทานยาเลื่อนประจำเดือน
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยจะเป็นการปวดหัว อาเจียน เวียนหัว คัดตึงเต้านม ตัวบวมขึ้น ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงปกติของยา
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ และ ให้นมบุตร - หากไม่รู้ว่าตั้งครรภ์อยู่แล้วไปทานอาจส่งผลต่ออวัยวะของทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งคุณแม่ที่ให้นมลูกด้วย
- ผู้ที่เป็นลิ่มเลือดอุดตัน หรือ มีความเสี่ยง เพราะเลื่อนประจำเดือนอาจจะไปเพิ่มโอกาสในการเป็นได้มากขึ้น
- ผู้ที่เป็นโรคตับ หรือ มะเร็งเต้านม เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค และ ทำให้ตับทำงานหนักขึ้นได้
ไม่มียาเลื่อนสามารถใช้วิธีไหนแทนได้บ้าง ?
หากมันฉุกเฉินจริงๆ หายาเลื่อนไม่ได้แล้ว จะมีวิธีไหนที่สามารถนำมาใช้แทนได้บ้างไหม? ยาคุมกำเนิด สามารถใช้แทนได้ทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ยาคุมจะไปช่วยพยุงเยื่อบุโพรงมดลูกไม่ให้หลุดออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปนั่นเอง หากเป็นยาเลื่อนปกติก็มีข้อกำจัดในการทานนั่นก็คือ ไม่ควรเลื่อนนานเกินกว่า 21 วัน แต่กลับยาคุมสามารถทำได้ 1 รอบ หรือ 1 เดือน ทำให้สามารถเลื่อนได้ดีกว่า ทานได้ต่อเนื่องมากกว่า
ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด
ยาแบบ 21 เม็ด จะมีปริมาณในยาเท่ากันทุกเม็ด
- เมื่อทานยาแผงเก่าหมดแล้วให้เริ่มยาแผงใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องหยุดยา 7 วัน
- ให้ทานยาวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง และ ทำการหยุดยา 7 วันหลังจากทานครบแผงแล้ว (ประจำเดือนจะมาในช่วงหลังจากกินยาเม็ดสุดท้ายที่เราตั้งใจหยุดประมาณ 3 - 4 วัน)
ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด
ยาคุมแบบ 28 เม็ด จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ 21 + 7 และ 24 + 4
แบบ 21 + 7 (21 เม็ดเป็นเม็ดยา และ 7 เม็ดเป็นเม็ดแป้ง)
- เมื่อทานยาคุมกำเนิดแผงเดิมจนถึงเม็ดที่ 21 แล้วอีก 7 เม็ดที่เหลือไม่ต้องทาน (ไม่กินเม็ดที่เป็นแป้ง)
- ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ได้เลย โดยทานจนหมดแผงทั้ง 28 เม็ด (ประจำเดือนจะมาในช่วงหลังจากกินยาเม็ดสุดท้ายที่เราตั้งใจหยุดประมาณ 3 - 4 วัน)
แบบ 24 + 4 (24เม็ดเป็นเม็ดยา และ 4 เม็ดเป็นเม็ดแป้ง)
- เมื่อทานยาคุมกำเนิดแผงเดิมจนถึงเม็ดที่ 24 แล้วอีก 4 เม็ดที่เหลือไม่ต้องทาน (ไม่กินเม็ดที่เป็นแป้ง)
- ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ได้เลย โดยทานจนหมดแผงทั้ง 28 เม็ด (ประจำเดือนจะมาในช่วงหลังจากกินยาเม็ดสุดท้ายที่เราตั้งใจหยุดประมาณ 3 - 4 วัน)
ยาคุมกำเนิดมีประโยชน์ด้านอื่นๆ การช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ช่วยเรื่องของสิว หน้ามัน ขนดก และ ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ตรงเวลามากขึ้นอีกด้วย ยิ่งถ้ายาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนอยู่ในเกณฑ์ ยาคุมนับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สาวๆ อย่างเราควรมีพกติดตัวเอาไว้เลย โดยเฉพาะในช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะมา!!!!
อ่านบทความเกี่ยวกับประจำเดือนที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในช่วงวันแดงเดือดให้คุณ!!!
นอกจากบทความนี้แล้วสาวๆ ยังสามารถอ่านบทความ
รู้หรือไม่ประโยชน์ของยาคุมที่มากกว่าแค่คุมกำเนิด ,
ไขข้อสงสัยยาคุมลดอาการ PMS ได้หรือไม่ ,
ผลข้างเคียงยาคุม รวมทั้งบทความเกี่ยวกับ
ยาคุมกำเนิดอื่นๆ ได้ที่ Sistalk
Sistalk เว็บไซต์สำหรับสาวๆ ที่รักสุขภาพ
เรื่องของสาวๆ ก็ต้องให้สาวๆ คุยกันสิคะ หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหา มีข้อสงสัยไม่ว่าจะเรื่องของ สุขภาพ , การดูแลรูปร่าง , เรื่องลับๆ ของสาวๆ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความรัก และ เทรนด์อื่นๆ ไม่อยากพลาด ต้องเข้ามาอ่าน มาติดตามบทความที่เรา Sistalk ได้รวบรวมมาให้ รับรองได้ว่าคุณจะได้ทั้งประโยชน์ สาระความรู้ และ อัปเดตเทรนด์ก่อนใคร เพราะเราเข้าใจผู้หญิงดี!!!
ใครไม่ Talk Sistalk นะคะซิส!!!!
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล
Sistalk ตามช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook :
sistalk.in.thInstagram :
sistalk.in.thTwitter :
@SistalkTH ข้อมูลอ้างอิงยาเลื่อนประจำเดือนจาก-https://yoppie.com/blog/the-yoppie-lowdown-how-safe-are-period-delay-tablets
-https://www.nhs.uk/common-health-questions/travel-health/how-can-i-delay-my-period/#:~:text=monophasic%2021%2Dday%20pills%2C%20such,out%20the%207%2Dday%20break.
-https://www.simpleonlinedoctor.com.au/period-delay/
-https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0002937802000091