ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ถังพ่นยาแบบสะพายหลังทำงานยังไง ก่อนใช้ต้องดูปัจจัยภายนอกอะไรบ้าง



ถือว่าเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ก่อนที่จะใช้งานถังพ่นยาสะพายหลังได้ อย่างการศึกษาถึงวิธีการทำงานที่ถูกต้อง เหมาะสม รวมถึงสิ่งที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกก่อนใช้งาน เพื่อให้เข้าใจและใช้งานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งรายละเอียดจะเป็นเช่นไร ท่านไหนอยากรู้ก็ตามเรามาทางนี้ด่วน

การใช้งานถังพ่นยาสะพายหลังอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ก่อนอื่นเลยอยากให้รู้จักถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีของถังพ่นนี้ ซึ่งปกติแล้วได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายมาก ๆ โดยจะมีเป็นความดัน, วาล์วทางออก, กระบอกลม, วาล์วทางเข้า, วาล์วระบายความดัน, ก้านปั๊ม รวมถึงรูปแบบหัวฉีดที่มีให้เราเลือกหลากหลาย แต่ละรูปแบบก็จะพ่นออกมาแตกต่างกัน

แนะนำว่าให้อ่านรหัสเครื่องก่อนว่าใช้กับหัวฉีดไหน เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งานได้เหมาะสม ทั้งนี้ การใช้คันโยกจะเหมาะกับถังที่มีขนาด 15 – 20 ลิตร และต้องตั้งตรงบนพื้น และทุกอย่างก็ต้องพอดีกับหลังของผู้ใช้งานด้วย ปัจจุบันก็มีเป็นเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่สะพายหลังให้ใช้งานด้วยก็ไม่ต้องมาโยกคันเอง
แต่ถ้าใครถนัดแบบพ่นเอง โยกคันโยกเอง ก็สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม โดยการทำงานนั้นเมื่อของเหลวผ่านวาล์วทางเข้าก็จะเข้าไปที่ห้องปั๊มในจังหวะที่ถูกยกขึ้น และในจังหวะที่ยกลงของเหลวก็จะปั๊มโดยบังคับผ่านวาล์วทางออกไปในห้องแรงดัน

ปัจจัยภายนอกที่เราต้องพิจารณาก่อนใช้งาน
ปัจจัยภายนอกที่สัมพันธ์กับการใช้งานถังฉีดพ่นยาก็คือเรื่องของสภาพอากาศ อุณหภูมิ และพื้นที่ในการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น
- อุณหภูมิของวัน ที่ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่ร้อนที่สุด ทั้งนี้เพราะละอองเล็กจะระเหยไปเร็วมาก และพ่นไปไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการ เสียเงินและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
- แรงลม ที่ไม่ควรฉีดพ่นในวันที่มีลมแรงมาก เหตุเพราะละอองจะลอยไปในทิศทางต่าง ๆ ไปไม่ถึงเป้าหมาย หากใช้เป็นหัวพ่นใหญ่ก็จะทนลมได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ในช่วงที่ลมเร็วมากกว่า 6 กม. / ชั่วโมง
- พื้นที่ในการฉีดพ่น ที่หากเป็นระยะการเพาะปลูก ความหนาแน่นของพืช ก็จะมีผลต่อการเลือกอัตราปริมาตรที่ใช้ด้วย โดยถ้าเป็นพืชใหญ่เท่าไหร่อัตราหน่วยปริมาณสเปรย์โดยมีค่าเทียบเท่าหน่วยลิตร / เฮกแตร์ก็จะสูงมากเท่านั้น เป็นการฉีดให้ครอบคลุมพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ (ปริมาณสเปรย์ที่ควรใช้จะถูกระบุบนภาชนะของสารเคมี)

รู้ทั้งการใช้งาน และปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนใช้งานถังพ่นยาแบบสะพายหลังกันไปแล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะใช้งานฉีดพ่นน้ำยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดการศัตรูพืชวายร้ายทำลายผลผลิตได้แบบถูกใจ ไม่เสียสตางค์ เสียแรงเปล่า

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0208