ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


วิธีการทานยาคุมฉุกเฉิน ทานอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง

วิธีการทานยาคุมฉุกเฉิน

ในระหว่างที่คุณกำลังมีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดถุงยางอนามัยฉีกขาด หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้คุณมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ โดยที่คุณยังไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูบุตรนั้น คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่คุณสามารถป้องกันได้ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการทานยาคุมฉุกเฉิน

สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจวิธีการทานยาคุมฉุกเฉินมีวิธีทานอย่างไร หากคุณกำลังสงสัยว่ายาคุมฉุกเฉินมีกี่แบบ รวมถึงมีข้อควรระวังในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน เพื่อเป็นแนวทางให้คุณทานยาคุมฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงตามมาในภายหลัง


ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ใช้สำหรับป้องกันโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ที่คุณยังไม่พร้อม โดยในตัวยาจะมีฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจน (estrogens) ผสมกับฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสติน (progestins) ซึ่งสามารถป้องกันการตั้งท้องไม่พึ่งประสงค์ได้ประมาณ 80-90 %


ยาคุมฉุกเฉินทำงานอย่างไร

ยาคุมฉุกเฉินทำงานอย่างไร

การทำงานของยาคุมฉุกเฉินจะไปยับยั้งให้การตกไข่ช้าออกไป ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะที่จะทำการฝังตัว


ประเภทของยาคุมฉุกเฉิน

1. ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด

ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด

ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด จะมีปริมาณยาลีโวนอร์เจสเตรลกับโปรเจสโตรเจน 1.5 มิลลิกรัม คุณควรรับประทานยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หรือควรทานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างช้าสุดภายใน 72 ชั่วโมง  หรือ 3 วัน หลังการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน

2. ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด

ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด

ยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด จะมีปริมาณยาลีโวนอร์เจสเตรลกับโปรเจสโตรเจนเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม  2 เม็ด คุณควรรับประทาน 1 เม็ดทันที หลังจากภายไป 12 ชั่วโมงถัดมาค่อยทานอีก 1 เม็ด


ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
คุณสามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้หากมีเหตุการณ์ตามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ถูกข่มขืน
  • ยาฝังหลุด
  • ห่วงคุมกำเนิดหลุด
  • ถุงยางอนามัยแตก หรือหลุดออก
  • การใส่ถุงยางอนามัยที่ไม่ถูกต้อง
  • คำนวณวันเว้น มีเพศสัมพันธ์ผิด


ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉิน
สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และคนที่สูบบุหรี่จัด คุณไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉิน และนอกจากนี้ผู้ที่มีโรคดังต่อไปนี้ ก็ไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินด้วยเช่นกัน ได้แก่

  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่เคยหรือเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคลมชัก
  • โรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • โรคมะเร็งเต้านม
  • โรคมะเร็งของอวัยวะภายในของผู้หญิง
  • โรคมะเร็งตับ
  • โรคตับเฉียบพลัน
  • โรคตับแข็ง
  • โรคเบาหวาน


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินกินแล้วไม่ท้องแน่นอน
บางคนอาจคิดว่าการทานยาคุมฉุกเฉินกินแล้วจะไม่ท้อง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมาก เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้เพียง 80-90 % นอกจากนี้ประสิทธิภาพของยายังขึ้นอยู่กับผู้ใช้ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันตามระยะเวลาที่กำหนด

ยาคุมฉุกเฉินสามารถใช้คุมกำเนิดก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ได้
การทานยาคุมฉุกเฉินเป็นเพียงการป้องกันไม่ให้มีโอกาสท้องเท่านั้น ไม่รวมถึงโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ และคุณควรให้สวมถุงยางอนามัยก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

ยาคุมฉุกเฉินสามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้
หากคุณไม่พร้อมที่จะมีลูก การทานยาคุมฉุกเฉินในระยะยาวไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ในระยะยาวได้ อีกทั้งคุณไม่ควรทานติดต่อเป็นระยะเวลานานๆ เพราะจะมีอาการข้างเคียงตามมาได้แก่ การปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกกะปริดกะปรอย และยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติการณ์การตั้งครรภ์นอกมดลูกเพิ่มขึ้น

ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาทำแท้ง
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาทำแท้ง แต่เป็นเพียงการป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น โดยตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก สำหรับในกรณีที่ไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว การทานยาคุมฉุกเฉินก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ หากต้องเข้ารับการทำแท้งคุณอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ยาคุมฉุกเฉินกินแล้วทำให้เกิดภาวะท้องยาก
สำหรับใครที่กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย คุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงตามมา ไม่ว่าจะเป็น การปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เกิดภาวะไข่ตกผิดปกติ และยังส่งผลให้คุณมีลูกยากในอนาคต ดังนั้นยาคุมฉุกเฉินไม่ได้กินแล้วท้องยากทันที แต่มีผลมาจากการใช้เป็นระยะเวลานานนั้นเอง


ยาคุมฉุกเฉิน ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

ยาคุมฉุกเฉิน ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด
หลังจากที่คุณพบกับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์โดยไม่พึ่งประสงค์ คุณควรทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือภายใน 72 ชั่วโมง

วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด
การทานยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด คุณควรทาน 1 เม็ดแรกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากผ่านเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมงให้คุณทานเม็ด 2 หรือคุณจะทานทั้ง 2 เม็ดพร้อมกันครั้งก็ได้


ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี

1. ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna)

ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna)

madonna ยาคุมสามารถยับยั้งการตกไข่ไม่ให้เซลล์ไข่ทำการปฏิสนธิที่โพรงมดลูก โดยในตัวยามีลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel, LNG) อยู่เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม ในแผงจะมีจำนวน 2 เม็ด คุณสามารถหาซื้อได้จากร้านยาหรือ ในเซเว่น ยาคุมฉุกเฉิน ราคากล่องละ 40 บาท

2. ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple Forte)

ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple Forte)

ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ลตัวยาประกอบด้วยเลโวนอร์เจสเทรล (levonorgestrel) 1.5 มิลลิกรัม ช่วยยืดระยะเวลาของการตกไข่ให้ช้ากว่ากำหนด ทำให้สเปิร์มไม่ได้รับการปฏิสนธิกับไข่ได้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา  ยาคุมฉุกเฉิน ราคากล่องละ 65 บาท

3. ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ (Postinor)

ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ (Postinor)

ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่มเอกซ์ (Pregnancy Category X) ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์และไม่มีผลทำให้เกิดการแท้ง มีขายตามร้านยาและเซเว่นมา ราคากล่องละ 60 บาท


ข้อควรระวังในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
ข้อควรระวังที่คุณต้องรู้ก่อนรับประทานยาคุมฉุกเฉิน คือตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อเยื่อบุโพรงมดลูก และยังมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย และใครที่ทานมาเป็นระยะเวลานานก็ส่งผลเสียต่อร่างกายตามมาได้เช่นกัน
ได้แก่

  • การคลื่นไส้
  • อาเจียนได้
  • อาการปวดท้อง
  • เจ็บคัดเต้านม
  • ประจำเเดือนมาไม่ปกติ
  • มีเลือดออกกะปริดกะปรอย
  • เลือดออกมากในระหว่างเดือน

นอกจากจะส่งผลในด้านร่างกายแล้วยังส่งผลให้คุณมีบุตรยากในอนาคต ดังนั้นคุณควรระวังในการใช้ยาคุมฉุกเฉินในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

อาการแพ้ยาคุมฉุกเฉิน เช่น อาการไอ คัดจมูก

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินมีได้ทั้งอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ อาการปวดท้อง เจ็บคัดเต้า และในบางคนอาจที่มีอาการแพ้ยาคุมฉุกเฉินก็จะมีผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

  • อาการไอ คัดจมูก
  • เป็นไข้ตัวร้อน
  • ลมพิษ
  • ผื่นคันตามร่างกาย
  • หายใจลำบาก


ยาคุมฉุกเฉินราคาเท่าไหร่
ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะอยู่ในราคา 40-60 บาท ยี่ห้อที่นิยมทานกันในปัจจุบันได้แก่ ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่าราคากล่องละ 40 บาท,ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ทราคากล่องละ 65 บาท และ ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ราคากล่องละ 60 บาท 

โดยคุณสามารถหาซื้อยาคุมฉุกเฉินดังกล่าวได้ตามร้านขายทั่วไป ร้านขายยาตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ และช่องทางออนไลน์


คำถามที่พบบ่อย

ยาคุมฉุกเฉินต้องกินภายในกี่ชั่วโมง
คุณควรทานยาคุมฉุกเฉินต้องกินภายในหลังเสร็จกิจกรรมทันที หรือทานภายใน 72 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยภายใน 3 วัน หากคุณทานช้ากว่านี้ตัวยาอาจจะไม่สามารถยับยั้งการปฏิสนธิได้ทันเวลา

ยาคุมฉุกเฉินคุมได้นานกี่วัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการทานยาคุมฉุกเฉินคุมได้นานกี่วัน โดยยาคุมสามารถลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ภายในระยะเวลา 2 – 3 วัน แต่คุณจะต้องทานยาคุมฉุกเฉินภายในหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือใน 72 ชั่วโมง

หากล่าช้ากว่านี้อาจจะไม่ได้ผล รวมทั้งในกรณีที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินผิดวิธี เช่น การทานก่อนเพศสัมพันธ์ หรือในกรณีที่ไข่กับอสุจิได้รับการปฏิสนธิกันแล้วก็จะไม่ได้ผลเช่นกัน

กินยาคุมฉุกเฉินขณะให้นมบุตรได้ไหม
ไม่แนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงที่ต้องให้นมบุตร เนื่องจากในตัวยาจะมีมีทั้งโปรเจสตินและเอสโตรเจนแล้วตัวยานั้นจะส่งผลไปลดการผลิตน้ำนม แต่คุณสามารถทานได้หลังจากที่บุตรนั้นหย่านมแล้ว


ข้อสรุป
ถึงแม้ว่าการทานยาคุมฉุกเฉินจะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ถ้ารับประทานติดต่อเป็นเวลานานก็มีผลเสียตามมามากมาย ฉะนั้นเราแนะนำให้คุณใช้ยาก็ต่อเมื่อถึงคราวจำเป็นเท่านั้น

นอกจากนี้การป้องกันการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีคือ การสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นการป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2022, 09:51:16 AM โดย พรสัก ส่องแสง »