เรื่องของ Big Data ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนต่างๆ เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2023 ภาพรวมของข้อมูลขนาดใหญ่ก็พร้อมสำหรับวิวัฒนาการต่อไป ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ในบทความนี้ เราจะสำรวจแนวโน้มและผลที่ตามมาของข้อมูลขนาดใหญ่ในปี 2023 โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่าองค์กรใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างไรเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันและรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อน
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการเพิ่มขึ้นของการละเมิดข้อมูลและข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลยังคงเป็นจุดโฟกัสที่สำคัญในปี 2566 องค์กรต่าง ๆ กำลังนำมาตรการปกป้องข้อมูลที่แข็งแกร่งมาใช้มากขึ้น โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด เช่น ระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) และการใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูงและ แนวทางการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
การใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรมเนื่องจากความสำคัญของหลักปฏิบัติด้านข้อมูลอย่างมีจริยธรรมเริ่มเด่นชัดขึ้น องค์กรต่างๆ จึงให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลอย่างรับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงการรับประกันความโปร่งใสในการรวบรวมและประมวลผลข้อมูล การได้รับความยินยอมจากบุคคล และการจัดการกับอคติและความยุติธรรมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึม การพิจารณาด้านจริยธรรมกลายเป็นพื้นฐานในการรักษาความไว้วางใจของสาธารณะและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านชื่อเสียงที่อาจเกิดขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML)การบรรจบกันของข้อมูลขนาดใหญ่และ AI/ML ยังคงสร้างภูมิทัศน์ต่อไป ในปี 2023 เราคาดว่าจะเห็นองค์กรจำนวนมากขึ้นใช้เทคโนโลยี AI และ ML เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ การสร้างแบบจำลองเชิงคาดการณ์ และคำแนะนำส่วนบุคคล ปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ สำหรับนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับการปรับปรุง
Edge Computing และการวิเคราะห์ตามเวลาจริงการเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) และความจำเป็นในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ได้ก่อให้เกิดการประมวลผลที่ขอบและการวิเคราะห์ตามเวลาจริง ในปี 2023 เราคาดว่าองค์กรต่างๆ จะใช้ประโยชน์จากความสามารถในการประมวลผลที่ขอบ ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้ใกล้เคียงกับแหล่งข้อมูลมากขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ เวลาตอบสนองเร็วขึ้น และลดเวลาแฝงของเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การผลิต และการขนส่ง
การกำกับดูแลข้อมูลและการจัดการข้อมูลในขณะที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่าง ๆ ก็ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลข้อมูลและแนวปฏิบัติด้านการจัดการที่แข็งแกร่ง ในปี 2566 ธุรกิจต่างๆ จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างกรอบการกำกับดูแลข้อมูลที่ครอบคลุม ดำเนินการควบคุมคุณภาพข้อมูล และใช้ประโยชน์จากแคตตาล็อกข้อมูลและเครื่องมือการจัดการข้อมูลเมตาเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และสามารถเข้าถึงได้
การวิเคราะห์เพิ่มเติมการวิเคราะห์เพิ่มเติมที่ขับเคลื่อนโดยอัลกอริทึม AI และ ML กำลังได้รับแรงผลักดันในปี 2566 เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลในระดับต่างๆ สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การประมวลผลด้วยภาษาธรรมชาติ การสร้างข้อมูลเชิงลึกอัตโนมัติ และการแสดงภาพข้อมูลอัจฉริยะช่วยให้ผู้ใช้ทางธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จากชุดข้อมูลที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากมาย
การทำให้เป็นประชาธิปไตยของข้อมูลการทำให้เป็นประชาธิปไตยของข้อมูลยังคงเป็นแนวโน้มที่โดดเด่นในปี 2023 องค์กรต่าง ๆ กำลังทลายไซโลข้อมูลและเสริมศักยภาพให้พนักงานทุกระดับสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างอิสระ เครื่องมือวิเคราะห์แบบบริการตนเอง แดชบอร์ดที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และโปรแกรมการฝึกอบรมส่งเสริมวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ส่งเสริมการตัดสินใจอย่างรอบรู้ทั่วทั้งองค์กร
การรวมข้อมูลที่ปรับปรุงแล้วเมื่อแหล่งข้อมูลมีความหลากหลายและกระจายมากขึ้น องค์กรต่างๆ จึงลงทุนในเทคนิคการรวมข้อมูลขั้นสูง ในปี 2023 เราคาดว่าจะเห็นการนำแพลตฟอร์มการรวมข้อมูลมาใช้ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูล การแปลง และการรวมข้อมูลได้อย่างราบรื่นจากแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์แบบองค์รวมได้อย่างครอบคลุม ทำให้องค์กรสามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ประสบการณ์ของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในปี 2566 องค์กรต่าง ๆ จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ส่วนบุคคลและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรม ความชอบ และความรู้สึกของลูกค้า ธุรกิจสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และแคมเปญการตลาดที่ปรับแต่งได้ วิธีการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางนี้ช่วยส่งเสริมความภักดีของลูกค้า ความพึงพอใจ และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในท้ายที่สุด
บริการ eKYC จาก SCB TechX
สำหรับผู้ประกอบการที่พอจะทราบแล้วว่า Face recognition คืออะไร และกำลังสนใจในการนำ Face Recognition eKYC เข้ามาใช้งานกับธุรกิจ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความสะดวกในการดำเนินการ ทาง
SCB TechX มีบริการ eKYC ที่ครอบคลุมและชาญฉลาด พร้อมมีบริการให้คำปรึกษาและแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจ โดยแบ่ง eKYC ที่แบ่งออกได้เป็น 4 ฟีเจอร์เด่น ดังนี้
1.Liveness & Optical Character Recognition (OCR)
บริการตรวจสอบผู้ใช้บริการกับบุคคลในบัตรประชาชนว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริงหรือไม่ พร้อมเปลี่ยนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้ทันที เพื่อลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลของผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่
2.Liveness & Face Recognition
บริการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการกับบุคคลในภาพถ่ายเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยใช้ภาพถ่ายและระบบ Face Recognition เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปในบัตรประชาชน
3.DOPA Gateway
ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการว่าตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือไม่
4.NDID Proxy
เชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดีเพื่อยืนยันตัวตนแบบ Cross platform ช่วยให้ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ NDID โดยตรง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อและดูแลระบบ
สำหรับใครที่สงสัยในเรื่องระบบ
Authenticator คืออะไร? เพราะเรื่องของ
digital ID คือสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ห้ามละเลยในปี 2023 หากสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Email:
contact@scbtechx.ioดูรายละเอียดบริการยืนยันตัวตน
บริการ Online ekyc ประเทศไทย (
e-KYC Thailand)
คลิกติดตาม SCB TechX เพื่อข่าวสารและอัปเดตใหม่ๆ ก่อนใคร
Facebook:
SCB TechXMedium:
medium.com/scb-techx LinkedIn:
www.linkedin.com/company/scb-tech-x/YouTube:
SCB TechX