กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีคนนิยมเล่นมากที่สุดในโลก เพราะเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทักษะและพละกำลัง ทั้งวิ่ง เลี้ยงบอล ความแม่นยำในการส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม ไหวพริบหลบหลอกคู่แข่ง จำเป็นที่จะต้องฝึกฝน วิธีเตะบอล วิธีเดาะบอลจากไมโลให้เร็ว แรง มีความแม่นยำสูง โดยวันนี้ทางเราได้ทำการรวบรวม วิธีเตะบอล มาฝากน้อง ๆ ใครที่สนใจ วิธีเตะบอลให้แรง ได้ไปฝึกฝนกัน
1. การวางเท้า
การวางเท้าเป็นพื้นฐานของการ
สอนให้เตะบอล เพื่อให้ฝึกฝนได้ชำนาญไปจนถึงมืออาชีพ สอนให้เตะบอลอย่างชำนาญเป็นการเตะลูกบอลได้โดยไม่ต้องใช้ตามอง เพราะการยิงประตู ผู้เล่นจะมีโอกาสได้มองลูกบอลเพียงเสี้ยววินาที เราจึงต้องฝนให้ยิงลูกได้เเม่นยำ ประโยชน์ของการเล่นฟุตบอล จะช่วยให้กะระยะหรือขนาดของลูกบอลได้ โดยจะต้องวางเท้าให้ห่างลูกบอลประมาณ 1.5-2.0 ลูกฟุตบอลและใช้หลังเท้าในการยิง นอกจากนี้ในการวางตำแหน่งเท้าที่ยิงควรวางหลังเท้าที่สัมผัสบอลให้ขนานกับพื้น
2. เกร็งและงอเข่าช่วยดีด
ประโยชน์ของฟุตบอล วิธีเตะบอล ให้แรงแบบนักฟุตบอลทีมชาติ นั่นคือ จังหวะการเข้าเตะลูกฟุตบอล จะต้องเล็งบริเวณจุดกึ่งกลางของลูกฟุตบอล พร้อมกับงอเข่าและดีดออก ขาต้องเหยียดตึง ซึ่งจะทำให้ลูกตรงและแรง ถ้าเตะแรงพอจะทำให้ผู้รักษาประตูไม่สามารถจับได้ ในขณะที่
วิธีเดาะบอลจากไมโล สอนให้ใช้ร่างกายส่วนต่างๆ คือ หลังเท้า เข่า หน้าขา ศีรษะ ข้างเท้าด้านนอก ข้างเท้าด้านใน หน้าอกและไหล่ รวมถึงสายตาในการรับลูกเดาะบอล เดาะลูกบอลจะเน้นความแม่นยำในการรับ-ดีดลูก ไม่เน้นความเร็วนั่นเอง เดาะลูกบอลยังสามารถใช้เป็นเกมที่เล่นเเข่งกับเพื่อนๆ ว่าใครสามารถเดาะลูกบอลได้มากกว่ากันอีกด้วย
3. การบิดข้อเท้าและเอว
การบิดข้อเท้าเป็นเทคนิคเตะลูกฟุตบอลให้แรง โดยบิดเพื่อช่วยให้เอวบิดตัวได้มากยิ่งขึ้น เสมือนการถ่ายแรงทั้งตัวไปที่ขาข้างที่จะเตะ เทคนิคนี้คล้ายกับคนเล่นเทนนิสหรือชกมวย ที่ต้องบิดข้อมือช่วยให้มีแรงส่ง เพิ่มความรุนแรงของลูกที่ตีหรือกำปั้นที่ชกออกไป
จากประโยชน์ของการเล่นฟุตบอล เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง รู้จักการผ่อนแรงวิ่งทำให้วิ่งได้เร็วและอึดแล้ว จะต้องฝึกฝนทางด้านกายภาพเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อีกประโยชน์ของกีฬาฟุตบอล อีกหนึ่งข้อคือการฝึกทักษะการทรงตัว เช่น การ
เดาะลูกบอล เพื่อสร้างความคุ้นเคยของเท้ากับลูกบอล ช่วยให้เท้าเกี่ยวบอลและเลี้ยงบอลประหนึ่งเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย