การเลือกซื้อเพชร
การเลือกซื้อเพชรเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาหลายอย่าง เพราะเพชรแต่ละเม็ดมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนซื้อเพชร คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเพชรก่อน เพื่อให้สามารถเลือกซื้อเพชรที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
หลักการ 4Cs
หลักการ 4Cs คือ หลักการที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของเพชร ประกอบด้วย
Carat (กะรัต) : น้ำหนักของเพชร เพชรที่มีกะรัตมากจะมีราคาแพงกว่า
Color (สี) : สีของเพชร เพชรที่ไม่มีสี (D) จะมีราคาแพงที่สุด รองลงมาคือเพชรเกือบไม่มีสี (E, F, G) เพชรสีเหลือง (H, I, J, K, L, M) จะมีราคาถูกกว่า
Clarity (ความสะอาด) : ระดับความบริสุทธิ์ของเพชร เพชรที่ไม่มีตำหนิ (FL) จะมีราคาแพงที่สุด รองลงมาคือเพชรที่มีตำหนิภายในเล็กน้อย (VVS1, VVS2, VS1, VS2) เพชรที่มีตำหนิภายในที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (SI1, SI2, I1, I2, I3) จะมีราคาถูกกว่า
Cut (การเจียระไน) : การเจียระไนเพชร เพชรที่เจียระไนได้ดี เหลี่ยมมุมสมมาตร จะเล่นแสงไฟได้ดี และมีราคาแพงกว่า
นอกจากหลักการ 4Cs แล้ว คุณยังควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น
ใบรับรองเพชร: ใบรับรองเพชรจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น GIA (Gemological Institute of America) HRD (Hoge Raad voor Diamant) EGL (European Gemological Laboratory) ใบรับรองเพชรจะระบุคุณสมบัติของเพชร เช่น กะรัต สี ความสะอาด การเจียระไน และอื่นๆ
แหล่งที่มาของเพชร: เพชรจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ เช่น แอฟริกาใต้ บอตสวานา รัสเซีย ออสเตรเลีย เพชรจากแหล่งที่มาเหล่านี้ มักมีคุณภาพดี และมีราคาแพงกว่า
ดีไซน์: ดีไซน์ของเครื่องประดับเพชร เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู ดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย จะช่วยเพิ่มมูลค่าของเพชร
ราคา: ราคาของเพชรขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น หลักการ 4Cs ใบรับรองเพชร แหล่งที่มาของเพชร ดีไซน์ คุณควรตั้งงบประมาณก่อนซื้อเพชร และเปรียบเทียบราคาจากร้านค้าหลายแห่ง
ร้านเพชร ที่น่าเชื่อถือ เปิดมายาวนาน คือ
https://www.lsjewelrygroup.com/