พามาทำความรู้จักกับยาคุมฉุกเฉิน หนึ่งในตัวช่วยเรื่องการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ หลายคนคงสงสัยว่าวิธีกินยาคุมฉุกเฉินทานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงอะไรไหม อันตรายหรือไม่ อ่านได้ในบทความนี้เลย!
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไรยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือเมื่อเกิดความล้มเหลวของการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัยขาดหรือการลืมกินยาคุมกำเนิดแบบปกติ โดยทั่วไปยาคุมฉุกเฉินมีสองประเภทหลัก
1. ยาคุมฉุกเฉินที่มีส่วนประกอบของ Levonorgestrel:- มีชื่อทางการค้า เช่น Postinor, Plan B
- ควรใช้ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยประสิทธิภาพจะสูงสุดเมื่อใช้ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์
- มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
2. ยาคุมฉุกเฉินที่มีส่วนประกอบของ Ulipristal Acetate:- มีชื่อทางการค้า เช่น Ella
- ควรใช้ภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยประสิทธิภาพจะสูงสุดเมื่อใช้ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์
- มีประสิทธิภาพสูงกว่า Levonorgestrel ในระยะเวลานานกว่า
ข้อดีของยาคุมฉุกเฉินยาคุมฉุกเฉินมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์นั่นเอง
1. ป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน- การทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์หากใช้ภายในเวลาที่กำหนดหลังมีเพศสัมพันธ์ เช่น ภายใน 72 ชั่วโมงสำหรับยาที่มีส่วนประกอบของ Levonorgestrel และภายใน 120 ชั่วโมงสำหรับยาที่มีส่วนประกอบของ Ulipristal Acetate
2. รับประทานง่าย- ยาคุมฉุกเฉินมาในรูปแบบเม็ดที่ง่ายต่อการรับประทาน ไม่ต้องมีการเตรียมหรือการใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ
3. มีจำหน่ายทั่วไป- ยาคุมฉุกเฉินสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป และบางประเทศสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์
4. ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง- ยาคุมฉุกเฉินกินได้กี่ครั้ง? ยาคุมฉุกเฉินใช้เพียงครั้งเดียวเมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่ต้องใช้ต่อเนื่องเหมือนยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน
5. ไม่ส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในอนาคต- ยาคุมฉุกเฉินไม่ส่งผลระยะยาวต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในอนาคต สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ตามปกติเมื่อหยุดใช้ยา
6. ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง- ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมักจะไม่รุนแรงและหายไปได้เองภายในระยะเวลาสั้น เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ประจำเดือนผิดปกติ
ยาคุมฉุกเฉิน ออกฤทธิ์อย่างไรยาคุมฉุกเฉินออกฤทธิ์โดยการป้องกันหรือชะลอการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือเมื่อเกิดความล้มเหลวของวิธีคุมกำเนิดหลัก ยาคุมฉุกเฉินมีหลักการทำงานดังนี้
หลักการทำงานของยาคุมฉุกเฉิน1. ยับยั้งการตกไข่- ยาคุมฉุกเฉินสามารถยับยั้งการตกไข่ (การปล่อยไข่จากรังไข่) ซึ่งหมายความว่าไม่มีไข่ที่สามารถถูกปฏิสนธิโดยอสุจิได้
- ยานี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากใช้หลังการมีเพศสัมพันธ์ทันที
2. ส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก- ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ยากต่อการฝังตัวของไข่ที่ถูกปฏิสนธิแล้ว
3. ยับยั้งการปฏิสนธิ- ยาคุมฉุกเฉินสามารถทำให้อสุจิเคลื่อนที่ไปถึงไข่ได้ยากขึ้น ลดโอกาสการปฏิสนธิในรังไข่
วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องการใช้ยาคุมฉุกเฉินให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดมีขั้นตอนดังนี้
ยาคุมฉุกเฉินที่มี Levonorgestrelจำนวนเม็ดและวิธีใช้
- ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดเดียว (1.5 มก.) หรือสองเม็ด (0.75 มก. ต่อเม็ด)
- วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด (1.5 มก.) ให้รับประทานเม็ดเดียวทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือมีความล้มเหลวในการคุมกำเนิด
- หากเป็นสองเม็ด (0.75 มก.) ให้รับประทานเม็ดแรกทันที และเม็ดที่สองหลังจากนั้น 12 ชั่วโมง
ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งรับประทานเร็ว ประสิทธิภาพจะยิ่งสูง
ยาคุมฉุกเฉินที่มี Ulipristal Acetateจำนวนเม็ดและวิธีใช้
- เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียว (30 มก.)
- วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ให้รับประทานเม็ดเดียวทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือมีความล้มเหลวในการคุมกำเนิด
ควรรับประทานภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ ประสิทธิภาพจะคงที่ในช่วงเวลานี้
ใครบ้างที่ควรกินยาคุมฉุกเฉินยาคุมฉุกเฉินเหมาะสำหรับผู้ที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจและต้องการการป้องกันอย่างเร่งด่วน ผู้ที่ควรกินยาคุมฉุกเฉินมีดังนี้
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผู้ที่มีในเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถุงยางอนามัยขาด รั่ว หรือหลุด, ห่วงอนามัยหลุดหรือเลื่อนตำแหน่ง, ลืมกินยาคุมกำเนิดแบบรายวันต่อเนื่องหลายวัน, แผ่นแปะคุมกำเนิดหรือวงแหวนคุมกำเนิดหลุดออก
- ผู้ที่ถูกข่มขืนหรือถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์
ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงอะไรบ้างผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินอาจพบอาการหลังกินยาคุมฉุกเฉินทั่วๆ ไปคือ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดท้อง ประจำเดือนผิดปกติ และความเหนื่อยล้า
ข้อควรระวัง- ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก
- หากมีข้อสงสัยหรือพบผลข้างเคียงที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
สรุปยาคุมฉุกเฉินยาคุมฉุกเฉินเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่ควรใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหลักในระยะยาว เนื่องจากมีประสิทธิภาพน้อยกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติ และประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ไม่สามารถทำลายการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยาคุมฉุกเฉินนั้นไม่มีผลในการทำลายการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นแล้วหรือการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิในมดลูกได้ ดังนั้นควรใช้ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น