ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ยาคุมฉุกเฉิน กินอย่างไรให้ปลอดภัย ได้ผลจริง!

ยาคุมฉุกเฉิน

พามาทำความรู้จักกับยาคุมฉุกเฉิน หนึ่งในตัวช่วยเรื่องการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ หลายคนคงสงสัยว่าวิธีกินยาคุมฉุกเฉินทานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงอะไรไหม อันตรายหรือไม่ อ่านได้ในบทความนี้เลย!

ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร

ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือเมื่อเกิดความล้มเหลวของการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัยขาดหรือการลืมกินยาคุมกำเนิดแบบปกติ โดยทั่วไปยาคุมฉุกเฉินมีสองประเภทหลัก

1. ยาคุมฉุกเฉินที่มีส่วนประกอบของ Levonorgestrel:

  • มีชื่อทางการค้า เช่น Postinor, Plan B
  • ควรใช้ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยประสิทธิภาพจะสูงสุดเมื่อใช้ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์
  • มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

2. ยาคุมฉุกเฉินที่มีส่วนประกอบของ Ulipristal Acetate:

  • มีชื่อทางการค้า เช่น Ella
  • ควรใช้ภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยประสิทธิภาพจะสูงสุดเมื่อใช้ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์
  • มีประสิทธิภาพสูงกว่า Levonorgestrel ในระยะเวลานานกว่า

ข้อดีของยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์นั่นเอง

1. ป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน

  • การทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์หากใช้ภายในเวลาที่กำหนดหลังมีเพศสัมพันธ์ เช่น ภายใน 72 ชั่วโมงสำหรับยาที่มีส่วนประกอบของ Levonorgestrel และภายใน 120 ชั่วโมงสำหรับยาที่มีส่วนประกอบของ Ulipristal Acetate

2. รับประทานง่าย

  • ยาคุมฉุกเฉินมาในรูปแบบเม็ดที่ง่ายต่อการรับประทาน ไม่ต้องมีการเตรียมหรือการใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ

3. มีจำหน่ายทั่วไป

  • ยาคุมฉุกเฉินสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป และบางประเทศสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์

4. ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง

  • ยาคุมฉุกเฉินกินได้กี่ครั้ง? ยาคุมฉุกเฉินใช้เพียงครั้งเดียวเมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่ต้องใช้ต่อเนื่องเหมือนยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน

5. ไม่ส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในอนาคต

  • ยาคุมฉุกเฉินไม่ส่งผลระยะยาวต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในอนาคต สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ตามปกติเมื่อหยุดใช้ยา

6. ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง

  • ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมักจะไม่รุนแรงและหายไปได้เองภายในระยะเวลาสั้น เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ประจำเดือนผิดปกติ


ยาคุมฉุกเฉิน ออกฤทธิ์อย่างไร

อาการหลังกินยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินออกฤทธิ์โดยการป้องกันหรือชะลอการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือเมื่อเกิดความล้มเหลวของวิธีคุมกำเนิดหลัก ยาคุมฉุกเฉินมีหลักการทำงานดังนี้

หลักการทำงานของยาคุมฉุกเฉิน

1. ยับยั้งการตกไข่

  • ยาคุมฉุกเฉินสามารถยับยั้งการตกไข่ (การปล่อยไข่จากรังไข่) ซึ่งหมายความว่าไม่มีไข่ที่สามารถถูกปฏิสนธิโดยอสุจิได้
  • ยานี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากใช้หลังการมีเพศสัมพันธ์ทันที

2. ส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก

  • ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ยากต่อการฝังตัวของไข่ที่ถูกปฏิสนธิแล้ว

3. ยับยั้งการปฏิสนธิ

  • ยาคุมฉุกเฉินสามารถทำให้อสุจิเคลื่อนที่ไปถึงไข่ได้ยากขึ้น ลดโอกาสการปฏิสนธิในรังไข่

วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง

การใช้ยาคุมฉุกเฉินให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดมีขั้นตอนดังนี้

ยาคุมฉุกเฉินที่มี Levonorgestrel

จำนวนเม็ดและวิธีใช้

  • ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดเดียว (1.5 มก.) หรือสองเม็ด (0.75 มก. ต่อเม็ด)
  • วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด (1.5 มก.) ให้รับประทานเม็ดเดียวทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือมีความล้มเหลวในการคุมกำเนิด
  • หากเป็นสองเม็ด (0.75 มก.) ให้รับประทานเม็ดแรกทันที และเม็ดที่สองหลังจากนั้น 12 ชั่วโมง

ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งรับประทานเร็ว ประสิทธิภาพจะยิ่งสูง

ยาคุมฉุกเฉินที่มี Ulipristal Acetate

จำนวนเม็ดและวิธีใช้

  • เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียว (30 มก.)
  • วิธีการกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ให้รับประทานเม็ดเดียวทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือมีความล้มเหลวในการคุมกำเนิด

ควรรับประทานภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ ประสิทธิภาพจะคงที่ในช่วงเวลานี้

ใครบ้างที่ควรกินยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินเหมาะสำหรับผู้ที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจและต้องการการป้องกันอย่างเร่งด่วน ผู้ที่ควรกินยาคุมฉุกเฉินมีดังนี้

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
  • ผู้ที่มีในเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถุงยางอนามัยขาด รั่ว หรือหลุด, ห่วงอนามัยหลุดหรือเลื่อนตำแหน่ง, ลืมกินยาคุมกำเนิดแบบรายวันต่อเนื่องหลายวัน, แผ่นแปะคุมกำเนิดหรือวงแหวนคุมกำเนิดหลุดออก
  • ผู้ที่ถูกข่มขืนหรือถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์

ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินอาจพบอาการหลังกินยาคุมฉุกเฉินทั่วๆ ไปคือ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดท้อง ประจำเดือนผิดปกติ และความเหนื่อยล้า

ข้อควรระวัง

  • ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก
  • หากมีข้อสงสัยหรือพบผลข้างเคียงที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

สรุปยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่ควรใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหลักในระยะยาว เนื่องจากมีประสิทธิภาพน้อยกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติ และประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ไม่สามารถทำลายการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยาคุมฉุกเฉินนั้นไม่มีผลในการทำลายการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นแล้วหรือการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิในมดลูกได้ ดังนั้นควรใช้ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น