กาแฟคาปูชิโน่ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยรสชาติและเอกลักษณ์ซึ่งสามารถสัมผัสด้วยการจิบกาแฟไปพร้อมกับฟองนมที่ออนท็อปด้านบน เพื่อเวลาดื่มน้ำกาแฟจะไหลผ่านฟองละเอียด แต่ทั้งสองจะไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ต้องเหลือฟองนมที่ก้นแก้วสามารถใช้ช้อนตักเข้าปากตบท้าย นี่คือสิ่งที่บอกว่าบาริสต้าปรุงแต่งอย่างใส่ใจ แต่หากชงกาแฟแบบไร้ซึ่งคุณภาพฟองนมจะเหลวผสมกันไปหมดนั้นเอง ดังนั้น เพื่อให้ได้ กาแฟคาปูชิโน่ คุณภาพระดับพรีเมียม ลองมาดูสูตรเหล่านี้
สูตรที่ 1 คาปูชิโน่สูตรคลาสสิก
ใครอยากสัมผัสรสชาติกาแฟ คาปูชิโน่ แบบคลาสสิกออริจินอล วันนี้ต้องลองชงจากสูตรที่เรากำลังจะกล่าวถึง ซึ่งวัตถุดิบไม่ยุ่งยาก มีไม่กี่อย่าง ผสมในสัดส่วนที่ลงตัว จะได้รสชาติหอมละมุนตามฉบับที่ควรเป็น รสชาติไม่แพ้คาเฟ่หรือร้านไหนแน่นอน
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
• เตรียมกาแฟแคปซูลเอสเปรสโซ่ (40 มล. /1.5 ออนซ์ )
• นมเย็น 50-70 มล. / 2 -2.5 ออนซ์
• น้ำตาลทราย
• ผงโกโก้
วิธีการชง
• กาแฟแคปซูลใส่ในสัดส่วนที่เราบอกไปแล้วลงในแก้ว
• ในการตีฟองนมจะต้องใช้หัวฉีดไอน้ำจากเครื่องชงกาแฟหรือเครื่องทำฟองนมก็ได้
• เทฟองนมลง
ถ้วยกาแฟ ของ Nespresso ตามด้วยเติมน้ำตาล พร้อมกับออนท็อปด้วยการโรยผงโกโก้
สูตรที่ 2 เฮเซลนัท คาปูชิโน่ (HAZELNUT
cappuccino ของ Nespresso )
กาแฟสีน้ำตาลนวลรสชาตินุ่ม ถือเป็นเมนูแนะนำสำหรับคนที่ชอบความละมุนละมัย ด้วยเบสเป็นเอสเปรสโซ่ บวกนมและฟองนม เพิ่มความตราตรึงด้วยเฮเซลนัทเคลือบคาราเมล กลิ่นอ่อน ๆ จากถั่วชนิดนี้ทำให้เมนูมีความหอมกลุ่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ ส่งเสริมให้รสชาติกลมกล่อมจนมิอาจวางได้
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
• กาแฟแคปซูล Livanto หรือ Volluto
• น้ำเชื่อมเฮเซลนัท 3 ซล. / 1 ออนซ์
• ผงเฮเซลนัทปริมาณเล็กน้อย
• นม 10 ซล. / 3.5 ออนซ์
• น้ำตาล
วิธีการชง
• นำเฮเซลนัทและน้ำตาลเข้าเตาอบรอจนได้สีน้ำตาลทอง
• ในการทำฟองนมจะต้องเทน้ำเชื่อมและนมลงใน
เครื่องตีฟองนม ของ Nespresso เพื่อให้มีรสชาติ
• จากนั้นนำกาแฟใส่ในแคปซูล Livanto หรือ Volluto ขนาด (40 มล. / 15 ออนซ์)
• สุดท้ายเทเอสเปรสโซในถ้วยคาปูชิโน่ ตามด้วยฟองนม ออนท็อปด้วยผงเฮเซลนัทเคลือบคาราเมล
สูตรที่ 3 คาปูชิโน่ร้อน ช็อกโกแลต
คาปูชิโน่ ผสมช็อกโกแลตเป็นเมนูเครื่องดื่มที่มีความเข้มข้นของรสชาติระหว่างกาแฟและช็อกโกแลต มีทั้งรสขมจากกาแฟ ตามด้วยความหวานของช็อกโกแลต เพิ่มความมันจากนม ทั้งสองมีกลิ่นที่เข้ากันสุด ๆ จึงทำให้ได้รสชาติที่ลงตัว
สูตรการชงและสัดส่วนวัตถุดิบ
• ผงช็อกโกแลต 2 ช้อนชา
• นม 20 มล.
วิธีการชง
• ชงช็อกโกแลตด้วยน้ำร้อนประมาณครึ่งแก้ว (แก้วคาปูชิโน่) ตามด้วยนมร้อนและโรยด้วยผงช็อกโกแลต
• ในการทำน้ำกาแฟจะใช้แคปซูล BARISTA Scuro ในปริมาณ 40 มล. ลงไปผสมกับช็อกโกแลตร้อนที่เตรียมเอาไว้ในตอนแรก สุดท้ายตกแต่งเมนูด้วยการใส่วิปครีมทำให้รสชาติละมุนมากขึ้น
สูตรเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยน สูตรคาปูชิโน่เย็น และสามารถเพิ่มความหวานได้ตามชอบ แต่ถ้าอยากสัมผัสรสชาติที่แท้จริงก็ต้องลองชงตามสูตรที่เราแนะนำไว้ รับรองรสชาติถูกปากไม่แพ้การไปดื่มที่คาเฟ่