นั้นจะมีส่วนประกอบดังนี้ครับ แผงท่อความเย็น,คอมเพรสเซอร์,หน้ากากเครื่องที่มีแผ่นเกร็ดกระจายความเย็น,แผงท่อระบายความร้อน,วัสดุอุปกรณ์สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง,พัดลมส่งความเย็น,พัดลมถ่ายเทความร้อน,อุปกรณ์ป้อนสารทำความเย็น,แผ่นกรองอากาศ โดยทุกอย่างจะทำงานประสม และสร้างอากาศที่เย็นขึ้นให้กับเพื่อนๆ ได้ หากสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสียหรือพัง มันก็จะทำให้แอร์คอนดิชันของเราไม่เย็นครับ โดยต่อไปเราจะมาพูดถึงชนิดของแอร์ที่เราเคยเห็นกัน ว่ามีทั้งหมดกี่แบบกี่ประเภทนะครับ เครื่องปรับอากาศ
[youtube]youtube.com/watch?v=aLKLHztPEWg[/youtube]
ประเภทที่ 1. แบบตั้งหรือแขวน โดยแอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการอยากได้แอร์ตั้งพื้นหรือแขวนห้อยลงมาจากเพดาน จะเหมาะสำหรับสถานที่ ที่ค่อนข้างจะกว้างอยู่พอประมาณ แต่ห้องเล็กก็สามารถติดตั้งได้ ตัวอย่างเช่นห้องนอน ร้านอาหาร สำนักงานต่าง ๆ ฯลฯแต่ถ้าสำหรับตัวผมแล้ว ผมมองว่า เหมาะกับร้านอาหารใหญ่ ๆ หรือสนง.มากกว่าครับ เครื่องปรับอากาศ
ประเภทที่ 2. แบบติดฝาผนัง แอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่มีห้องขนาดเล็ก พื้นที่น้อยเช่นพวกห้องนอน ห้องรับแขก หรือว่าห้องนั่งเล่น ซะมากกว่าครับ เนื่องจากด้วยขนาดที่กะทัดรัด จึงไม่ทำให้ดูกีดขวางพื้นที่ภายในห้อ
เครื่องปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศ
ในทุกวันนี้ ลมฟ้าอากาศบ้านเรา เมืองของเราออกจะร้อนมากและยิ่งในเดือนเมษายนนี้ ยิ่งร้อนมากมายๆ กว่าทุกปี โดยที่อุณหภูมิทะยานโด่งแตะที่ 40 องศา เลยทีเดียว แค่สภาพอากาศในตอนเช้าก็ถือได้ว่าร้อนมากมายแล้ว และสิ่งที่จะมาช่วยผ่อนอากาศที่ร้อนจัดได้นั้นก็คือ เครื่องปรับอากาศ
มักจะเปิดกันได้แทบจะทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายในบ้านอย่างหนึ่ง ที่กินไฟมาก โดยปัจจุบัน ก็มีการพัฒนาให้กินไฟน้อยลง และคุณสมบัติต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นจากแต่แรกมากยิ่งขึ้น โดยที่ส่วนประกอบของแอร์นั้น จะมีหลัก ๆ ที่เราดูๆ กันก็จะมี 2 ส่วนด้วย คือ 1.ตัวเครื่องแอร์ที่ให้ความเย็นฉ่ำอยู่ข้างในห้อง และ 2.จะมีตัวคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่นอกบ้านนะครับ โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะทำหน้าที่ ที่สำคัญมาก และเราจะสังเกตได้ว่า ถ้าหากคอมไม่มีลมร้อนออกมา หรือคอมเพรสเซอร์ไม่ทำหน้าที่ จะทำให้ตัวเครื่องด้านใน ไม่เกิดความเย็นฉ่ำด้วย เช่นกัน โดยสิ่งที่เราสมควรรู้ก็คือ ขนาดของแอร์ที่เราจะซื้อนะครับ เพราะแอร์นั้น มีหลายขนาดให้เลือกสรรซึ่งขึ้นอยู่กับความกว้างของห้องที่จะติดตั้งด้วย หน่วยของมันคือ BTU มันคือหน่วยของ เครื่องปรับอากาศ
ด้วยเหตุว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้ภูมิอากาศของบ้านเรือนเรามีอากาศที่หนาวขึ้น และก็คงไม่แปลกที่หลาย ๆ บุคคลจะเลือกคัดที่จะติดตั้งแอร์คอนดิชันไว้ในที่อยู่อาศัยเพราะช่วยปรับอุณหภูมิให้เย็นสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของข้าพเจ้าพูดได้เลยว่า ขาดแอร์ไม่ไหว เพราะอากาศมันร้อนมากวัน ๆ หนึ่ง ทำความสะอาดร่างกายไป ออกมาสักพักเดียว ก็ตัวชุ่มเหงื่ออีกแล้ว เรียกได้ว่า กลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนเลยที เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักไอเจ้า เครื่องปรับอากาศ
ให้เข้ากันเพิ่มขึ้นกันครับ เพื่อที่เพื่อนพ้องๆ จะได้เห็นถึงจุดสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ครับและจะได้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างสมควรกับเพื่อน ๆ ครับ เครื่องปรับอากาศ
เรื่องของกาทำความเย็นนั้น ยังไงก็หนีไม่พ้นแอร์ เพราะว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีกันมาอย่างยาวนาน ในสมัยก่อนนั้นอาจจะมีเฉพาะบ้านของคนที่มีฐานะ แต่ในช่วงปัจจุบันนั้น ทุกบ้านสามารถมีได้ เพราะราคานั้นไม่ได้แพงมากนัก ซึ่งในสมัยนี้ สามารถชำระหรือผ่อนจ่ายได้อีกด้วย จึงทำให้ เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เรามาทำความรู้จักมักคุ้นกันครับ เครื่องปรับอากาศ
ที่ตั้งขึ้นไว้ เช่น 8,000 BTU พอเหมาะสำหรับห้องขนาด 14 ตารางเมตร หรือว่า12,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร ฯลฯซึ่งมันคือหน่วยวัดการดึงความร้อนออกจากห้องต่อชั่วโมง (อันนี้เข้าใจง่ายดี ไม่ต้องลึกมาก) โดยที่เราต้องพิจารณาด้วยว่า ห้องของเรานั้นมีความใหญ่โตมากแค่ไหน หากห้องเราไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ก็ไม่จำเป็นจะต้องเอา BTU เยอะ ๆ นะครับ เนื่องจากเปลืองเงินโดยใช้เหตุ เราควรคำนึงถึงความเหมาะสมต่าง ๆ ด้วยครับ โดยส่วนประกอบอุปกรณ์เครื่องแอร์หรือ เครื่องปรับอากาศ
คืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะทำให้ที่พักอาศัยหรือห้องของคุณมีอุณหภูมิลดน้อยลงหรือเย็นลงนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ครัว ก็สามารถติดได้ เพื่อช่วยทำให้อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน และยิ่งในปัจจุบันนี้ ได้มีการก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกมาก ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ให้เหมาะสมกับยุคนี้ ที่ผู้คนหันมาป้องกันตัวเองกันมากขึ้น คือ จะมีการกรองอากาศ ให้อากาศปราศจากฝุ่นละออง หรือ เชื้อโรค เชื้อรา ต่าง ๆ หรือว่าจะมีการพัฒนา ให้มีการประหยัดกระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแอร์หรือ เครื่องปรับอากาศ