ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เรามาทำความรู้จักกับกองทุนรวม ltf และ rmf กันบ้างดีกว่า

สำหรับใครก็ตามที่อยากลงทุนใน กองทุนรวม นั้น เราเชื่อว่าเมื่อทุกคนหาข้อมูลสิ่งที่ได้เห็นเป็นอันดับแรกเลยก็น่าจะเป็น กองทุนรวม ltf และกองทุนรวม rmf ซึ่งกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างก็เป็นที่นิยมนั่นเอง และในการลงทุนเราเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงอยากที่จะได้เป็นเงินเอาไว้สำหรับใช้ในการต่างๆ ด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำเอามา ซื้อบ้าน โปะหนี้ บัตรเครดิต ที่มีค้างอยู่บ้างเล็กน้อย หรืออาจจะนำไปซื้อรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าผลที่ต้องการใช้นั้นคืออะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีก็คือ การลงทุนนั้นเป็นเหมือนการออมอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าวิธีที่เราเลือกออมนั้นอาจจะตามมาด้วยความเสี่ยงที่มีผลแปรโดยตรงกับกำไรที่จะได้จากการลงทุนนั้นนั่นเอง อย่างเช่น ถ้าไม่อยากมีความเสี่ยงมากก็อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ หรือตลาดเงินทุน ที่จะเป็นการนำเงินไปลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นต้น และในวันนี้สำหรับใครที่อยากจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน ltf และ rmf นั้นเราก็มีมาฝากกันด้วย
1.   กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) ซึ่งก็คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้น โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
-   เงินลงทุนสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และต้องไม่เกิน 500,000 บาท
-   กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
แต่ทั้งนี้เราก็จะต้องทำตามเงื่อนไขของการลงทุนใน LTF ดังนี้
-   ต้องถือหน่วยลงทุนของ LTF ไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับตามปีปฏิทิน
-   หากมีการขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด 5 ปี ถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน เราก็จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป
2.   กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF) ซึ่งก็คือ กองทุนรวมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ซึ่งจะคล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังนี้
-   เงินลงทุนสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และเมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้ว จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
-   กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
แต่เราก็ต้องทำตามเงื่อนไขของการลงทุนใน RMF ดังนี้
-   ลงทุนต่อเนื่องทุกปี โดยลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 3% ของรายได้ในแต่ละปีหรือ 5,000 บาท แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะน้อยกว่า
-   สามารถซื้อหน่วยลงทุนปีเว้นปีได้
-   ลงทุนและถือไว้จนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก
-   ผิดเงื่อนไขการลงทุนผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป