บัตรเครดิต และบัตรผ่อนสินค้าเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว บัตรเหล่านี้จะมีวงเงินในบัตร ซึ่งเรียกว่า
วงเงินบัตรเครดิต ซึ่งจะสามารถใช้ซื้อสินค้า หรือผ่อนสินค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
บัตรเครดิตไม่มีค่าธรรมเนียมหรือมีค่าธรรมเนียมก็ตาม
วิธีทำบัตรเครดิตไม่ยากเย็นสามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์ และเคาเตอร์ของบริษัท เพียงท่านมีหลักฐานครบ เช่น สลิปเงินเดือน รายได้ขึ้นต่ำตามที่กำหนด ท่านก็จะสามารถ
สมัครบัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรเครดิตได้แล้วซึ่งก็หมายความว่าท่านจะมีวงเงินบัตรเครดิตไว้ใช้จ่ายเมื่อจำเป็น ซึ่งหมายความว่าท่านจะสามารถ
วางแผนการเงินไปด้วยในตัว
วงเงินบัตรเครดิต คือ เงินสูงสุดที่เราจะสามารถรูดเพื่อการใช้จ่ายจากบัตรเครดิตได้นั่นเอง วงเงินบัตรเครดิตของแต่ละบัตรก็สามารถถูกอนุมัติได้ ประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน ขึ้นอยู่กับวิธีทำบัตรเครดิตและเงื่อนไข ซึ่งธนาคารก็จะไม่ให้เรารูดบัตรเกินวงเงินที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหากว่ามีผ่อนชำระขั้นต่ำอยู่ จะมีดอกเบี้ยอีกส่วนมารวมกับวงเงินที่เราใช้ไป
วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นสมัครบัตรเครดิต บัตรเครดิต คือ บัตรที่ผู้ถือ สามารถที่จะนำไปชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ใช้แทนเงินสดได้ ซึ่งทางธนาคารจะส่งใบรวมยอดเงินมาให้แต่ละเดือน ให้เราชำระเงิน ซึ่งถ้าว่ามีการชำระเงินผิดเวลาหรือช้า ก็จะต้องเสียดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อปี คุณสมบัติของผู้ที่จะขอทำบัตรเครดิตได้นั้นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 บริบูรณ์ขึ้นไป รวมทั้งมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท ขึ้นไป วงเงินบัตรเครดิตที่จะได้รับก็จะอยู่ที่ 2-5 เท่าของเงินเดือนซึ่งนั่นก็แล้วแต่เงื่อนไขและรูปแบบของแต่ละธนาคาร เรามีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับวงเงินบัตรเครดิตมาฝาก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจและสงสัยอยู่ว่า วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร การรู้เท่าทันและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจะยิ่งทำให้คุณสามารถที่จะใช้บัตรเครดิตได้อย่างดีไม่มีปัญหานั่นเอง
วงเงินบัตรเครดิต คือเงินสูงสุดที่เราสามารถจะใช้ได้ หรือที่เราสามารถรูดบัตรเครดิตได้นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ตามที่ธนาคารกำหนด วงเงินบัตรเครดิตสามารถอนุมัติได้ ประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบ เงื่อนไข และความสามารถในการวางแผนการเงินของเราต่อเดือนด้วย ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะให้เรารูดบัตรหรือใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เกินวงเงินที่เขากำหนดไว้ แต่ถ้าหากลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินแล้วมีแต่การผ่อนชำระขั้นต่ำอยู่ จะมีดอกเบี้ยอีกส่วนหนึ่งมาบวกรวมวงเงินที่เราได้ใช้ไปแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเราใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินและบวกดอกเบี้ยเข้าไปด้วย บัตรเครดิตใบนั้นก็จะกลายเป็นบัตรที่มีสถานะเกินวงเงินนั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้ผู้ถือบัตรก็จะทำเรื่องขอเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตหรือยื่นขอสินเชื่อใหม่ได้
ซึ่งในกรณีที่วงเงินเต็มนั้นไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติหรือร้ายแรงอะไร เราสามารถที่แก้ไขและคุยกับทางธนาคารได้ เราอาจต้องหยุดรอและวางแผนการเงินใหม่อีก ชำระเงินรายเดือนค่าบัตรเครดิตให้มากหรือสูงกว่าปกติยอดขั้นต่ำ และหยุดการใช้บัตรเครดิตไว้สักพัก ประมาณสัก 2 เดือน เพื่อที่จะได้ให้ข้อมูลในการเรียกเก็บเงิน ตัดบัญชี การส่งข้อมูลและการชำระเงินต่าง ๆ ผ่านไปด้วยดี และเมื่อเรายื่นขอเอกสารจะได้แสดงถึงบัญชีที่ปกติและไม่มีปัญหา ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารด้วยว่ามีรูปแบบในเรื่องเงื่อนไขเกี่ยวกับวงเงินอย่างไร